ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 6 ] ตอนที่ 75 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, ธันวาคม 08, 2021, 11:57:05 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

มามามา เข้าร้านเกะแล้วค่อย นอนหลับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง


สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ








★★★★★★★★★★★



ขออนุญาตแนะนำสาวๆ สักหน่อยครับ




★★★★★★★★★★★




คุณรุกะครับ









★★★★★★★★★★★




พี่หมิว / เจ๊หมิว  เวอร์ชั่นหวานๆ








★★★★★★★★★★★




พี่เตยก็ประมาณนี้แหละ ตาแหลมๆ หมวยๆ








★★★★★★★★★★★



ความเดิมตอนที่แล้ว


หลังจากเคลียร์ใจกับพี่หมิวกับพี่เตยแล้ว

ผมรู้สึกว่าทุกอย่างก็ดูผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย

ผมกลับมาที่คอนโดแก้มเพื่อพักผ่อน ตื่นมาก็เจอมิ้นต์

ผมก็บอกมิ้นต์ว่าผมอาจจะต้องนอนที่โรงยิมนะ ผมเหนื่อยมาก

ซึ่งมิ้นต์ก็เห็นด้วยและช่วยเก็บกระเป๋า วันนั้นผมมาโรงยิมเร็วกว่าเดิม

แต่ก็เหมือนจะไม่ได้พักผ่อน เพราะว่าคุณรุกะก็เข้ามาเหมือนกัน

แถมยังพูดคำที่ผมฟังแล้วแทบหยุดหายใจ


" ไปเดทกันค่ะ "




★★★★★★★★★★★



นายโทนไดอารี่ 75





ฮึ๊ !!!?? ไปเดทกัน ผมมองหน้าคุณรุกะอีกครั้ง ผมบอกเดี๋ยวครับ เดี๋ยวๆ แล้วนี่คุณรุกะจะไม่ทำงานก่อนเหรอครับเนี่ย ซึ่งเธอก็บอกนะ ยังไม่ถึงเวลางานนี่คะ จะไม่ให้พักหน่อยเหรอ เมื่อยไปหมดแล้วเนี่ย เธอพูดแล้วก็ทำท่าจับบ่า หมุนคอเหมือนคลายกล้ามเนื้อให้ตัวเธอเอง ผมก็เอ่อ.. แล้วไหงมาก่อนเวลาได้ล่ะครับ เธอก็บอกว่าพอดีจองตั๋วเครื่องบินไว้ค่ะเลยมาได้ อื้อหืม กำหมัดเลยกู ไม่คิดว่านอกจากมิ้นต์แล้ว คุณรุกะยังกวนได้ขนาดนี้




แต่ก่อนอื่นเดี๋ยว ๆ ๆ เธอเข้ามาที่นี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย ผมถามว่าเดี๋ยวครับ ๆ ๆ แล้วคุณรุกะเข้ามาได้ยังไงครับเนี่ย เธอก็ทำหน้าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งนี่แหละมันน่ารักมากๆ แต่ว่าอืมม ชุดพร้อมทำงานแบบนี้สีหน้าดูไม่เหมือนคนที่มีอาการเจทแลค งั้นก็แสดงว่าเธออาจจะไม่ได้มาวันนี้ะสิ่ พอผมเงียบไปแปปนึงรุกะเธอก็ถามว่าเงียบๆแบบนี้คิดอะไรอยู่คะซารุซัง คงไม่ได้คิดอะไรลามกใช่มั้ย  ผมก็ถามว่านี่เห็นผมเป็นคนยังไงครับเนี่ย เธอก็ยืนบิดตัวไปๆมาๆ แล้วบอกว่า



ก็เท่าที่รู้สึกได้จากที่ไปทำงานด้วยกัน... ซารุซังเป็นคนลามกและฉวยโอกาสค่ะ  เอ้า !!! ดูเธอพูดดิ่คร๊าบบบ ผมก็บอกโหยย ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น ผมแค่คิดว่า..



[ รุกะ ]  :  ยืนนานๆ เมื่อยจังค่ะ



อยู่ดีๆเธอก็พูดดักคอผมไว้ครับ ผมก็ขอโทษครับ... ไปนั่งคุยกันก่อนมั้ยครับ เธอยิ้มแล้วบอกว่านั่นแหละค่ะที่รออยู่ เธอพูดแล้วก็เดินนำไปตรงที่นั่งพัก ผมก็เฮ้ออ เดาใจยากแท้ๆ  ผมเดินตามเธอไปนั่งที่โต๊ะข้างๆ



คุณรุกะนั่งแล้วท้าวคางมองหน้าผมแล้วพูดว่า ไหนบอกชั้นหน่อยได้มั้ยคะซารุซังว่าเมื่อกี้คิดอะไรอยู่ ต้องพูดตามตรงนะ ผมก็อืมม แต่เดี๋ยวๆ ผมต้องนั่งตัวตรงๆก่อนเดี๋ยวเสียบุคลิก พอผมขยับตัวนั่งหลังตรง เธอก็ปรบมือเบาๆแล้วบอกว่านั่นแหละค่ะ ดีมาก ผมก็หืมอะไรเหรอครับ รุกะเธอบอกว่าคนที่จะมาดูแลชั้นต้องแบบนี้แหละ




ผมก็อ่ะจ้าาา แล้วเธอถามนะว่าตกลงเมื่อกี้คิดอะไร ผมก็บอกว่า ผมน่ะคิดว่าเธออาจจะมาไทยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เธอถามว่าทำไมคิดแบบนั้นล่ะคะ ผมก็บอกไปว่า... ก็ดูคุณรุกะไม่มีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทางเลยนี่ครับ แล้วการจะเข้ามาที่นี่ได้ต้องใช้คีย์การ์ดนะครับ ไหนจะต้องทำเรื่องขอการ์ด แล้วอืมม ตอนนี้คุณรุกะก็สวยมากๆครับ แบบนี้มีเวลาแต่งตัวแน่ๆล่ะ




เวรละพอพูดออกไปแล้ว ผมเริ่มรู้สึกตัวว่าพูดไม่เข้าท่าไปซะแล้ว ผมก็สะดุ้งแล้วเผลอเอามือปิดปาด รุกะเธอก็หัวเราะแล้วบอกว่าไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ กำลังคิดว่าพูดไม่เข้าท่า ไม่เข้าทางอยู่ใช่มั้ยซารุซัง ผมก็เอ่อ แหะ ๆ ๆ เธอก็บอกว่าไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ ผมก็หืมม ไม่เปลี่ยนเหรอคืออะไรหว่า



เธอยกมือมาสองข้างแล้วใช้นิ้วชี้ไขว้กันแล้วทำเสียงเหมือนเวลาเราตอบคำถามผิดแล้วจะมีเสียงออกมาน่ะครับแบบ ตื้ด ตื้ดด แต่นี่เป็นสำเนียงญี่ปุ่นไงแล้วมาแนว ปื้ดด ปื้ดดด  เธอบอกว่าไม่ใช่ทั้งหมดค่ะ ชั้นมาถึงเมื่อเช้านี่เอง แล้วก็ตอนนี้ง่วงมากๆด้วย แต่ว่าบางทีคนเราก็ต้องฝืนนะคะถ้าเป็นเรื่องงาน



เธอก็บอกว่าแล้วอีกอย่างการจะมาที่นี่สำหรับชั้นแล้วไม่เห็นต้องใช้บัตรหรือทำเรื่องอะไรเลยค่ะ แล้วเธอก็ลุกแล้วจูงมือผมไปที่ประตูที่เข้าโรงยิมแล้วกด ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ  แล้วก็มีเสียง ติ๊ดๆ สองทีประตูก็เปิดเลยครับ เอ้า !!! โห นี่มีรหัสส่วนตัวเลยเหรอ ผมมอง ๆ ๆ  โห.... เส้นใหญ่แท้ รุกะเธอปิดประตูอีกครั้ง แล้วพูดขึ้นมาว่าแล้วเรื่องเดทล่ะคะ




ผมก็หืมเดท เดทเหรอ.... คือไรวะ อ๋อไปเที่ยวกันสองคนเหรอ  เฮ้ยนี่ผมกำลังจะไปเที่ยวกับสาวญี่ปุ่นสองคนโดยที่เธอเป็นคนออกปากชวนเหรอ แม่จ้าวนี่มันยิ่งกว่าฝันแท้ๆ ผมเก๊กตีหน้านิ่แล้วก็ถามว่าแล้วนี่... ต้องทำงานกี่วัน อยู่กี่วัน อยากไปไหนเป็นพิเศษ แล้วจะไปกับใครบ้างครับ คุณรุกะเธอมองแล้วบอกโหเตรียมตัวดีจังเลยค่ะ เรื่องงานจะแจ้งรายละเอียดอีกทีค่ะ ส่วนจะไปเดทก็ต้องไปสองคนสิ่ แล้วคุณรุกะก็เดินมาใกล้ๆแล้วบอกว่าคุณคงยังไม่ลืมนะคะว่าที่เชียงราย คุณทำอะไรกับชั้นไว้บ้าง ซ่าหรุซั๊ง !!!  โอ้โหเสียงคือแบบนี้เลยคือที่ผมเขียนแปลกๆนั้นเพราะอยากให้พวกท่านรับรู้ว่าเธอใช้เสียงยังไงตอนที่พูดออกมา คือซารุซังนั่นแหละ แต่เธอผันเสียงซะชวนสยิวเลย ผมนี่กลืนน้ำลายดังเอื้อกกกกกก  ผมก็ตอบคร๊าบ คร๊าบบบบ




ผมก็บอกเธอนะว่า เดี๋ยวทุกคนคงใกล้จะมาแล้วล่ะครับผมว่าคุณรุกะออกจากที่นี่ก่อนมั้ยครับ รุกะเธอก็ถามว่าทำไมเหรอค่ะ ทำไมถึงไล่ล่ะ คำพูดเธอเหมือนจะน้อยใจนะแต่ว่าไม่เลยครับเพราะเธอทำหน้าเหมือนอ้อนน่ะครับ ผมก็บอกว่าถ้าทุกคนมาเห็นทำไงล่ะครับ รุกะก็ถามอีกนะว่าถ้าเห็นแล้วทำไมเหรอคะ



ผมก็บอกไปว่ากลัวว่าจะไม่มีสมาธิกันน่ะสิ่ครับ นี่รู้ตัวหรือเปล่าเนี่ยว่าคุณรุกะสวยขนาดไหนเนี่ย แล้วเพื่อนร่วมทีมของผมก็มองเหลียวหลังคอหักกันพอดี เธอก็บอกนะว่ามันช่วยไม่ได้นี่คะก็ชั้นสวยเหมือนคุณแม่นี่นา ผมก็อื้อหืมพูดเก่งจริงๆเลยนะเนี่ย แต่ผมก็ยืนยันนะว่าเธอควรจะกลับไปที่บริษัท เพราะยังไงซะตอนนี้ทุกคนก็คงตามหาเธอกันให้วุ่นเลยล่ะ



เธอก็บอกโอเคค่ะก็ได้ๆ แต่ซารุซังต้องไปส่งนะ เอ้า !!! หางานมาให้อีกแล้วไง แล้วตอนนั้นครับพี่หมิวก็โทรมาหาผม ผมก็หือโทรมาทำไม ผมบอกขอตัวแปปนะครับ แต่รุกะก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะนั่งตรงนี้ก็ได้ ผมก็อื้มๆนั่งก็นั่งแล้วผมก็ ฮัลโหลเจ๊หมิวมีอะไรเหรอ ซึ่งคำแรกที่ถามเลยคือ อะไรถ้าไม่มีธุระจะโทรหาไม่ได้เหรอ ผมก็สะดุ้งเลยอิหยังของเธอวะน่ะ ผมก็แถไปว่า ก็ปกติเจ๊ไม่เคยกวนเวลางานไงครับ



ก็เลยอยากรู้ว่ามีธุระอะไรไง อ่าส์ ผมยังแถไปได้แฮะ พี่หมิวก็บอกว่าตามหารุกะอยู่ รุกะอยู่นั่นหรือเปล่าขอคุยด้วยหน่อย ผมก็ฮึ๊ !!!  คือมันทั้งสงสัย มันทั้งงงแหละครับ นี่ตกลงพี่หมิวตั้งใจโทรมาหาผมเพราะคิดว่ารุกะอยู่กับผมเหรอ แล้วก็แม่นเกิ๊น ผมก็เอ่อ อื้มครับๆ แล้วผมก็ยื่นมือถือให้บอกว่าพี่หมิวเขาบอกว่าอยากคุยด้วยครับ



คือตอนนั้นผมสงสัยนะความพี่หมิวกับรุกะนั้นรู้จักกันถึงขั้นไหน คือพวกท่านเข้าใจกันป่ะว่าการทำงานน่ะหรือว่าพูดคุยกับคนที่เป็นคู่ค้า เขาจะโทรหากันโดยตรงไง แต่นี่เหมือนพี่หมิวเธอโทรหาผมแล้วก็จะขอพูดกับรุกะ เฮ้ยคิดแบบผมมั้ยท่านผู้อ่าน ว่ามันเหมือนแบบเพื่อนที่สนิทกันระดับนึงเลยที่จะต่อสายกันแบบนี้ คือผมก็พอรู้แหละว่าคุณท่านกับคุณเคย์เป็นเพื่อนกัน



แต่ก็ไม่คิดว่าพี่หมิวกับคุณรุกะจะสนิทกันถึงขึ้นฝากต่อสายหากันได้ด้วย คุณรุกะก็หยิบมือถือผมไปนะแล้วก็คุยๆๆๆ แล้วบอกโอเคเจอกัน แล้วเธอก็ยื่นมือถือคืนมาให้ผมครับ เธอบอกว่าไปส่งหน่อยได้ไหมคะ หมิวตามหาตัวแล้ว.. เฮ้ยๆๆ เดี๋ยวนี่เรียกชื่อพี่หมิว ว่าหมิวเลยเหรอนี่แสดงว่าไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาแล้วล่ะมั้ง ต้องมีความสนิทกันระดับนึงเลยนะ ผมก็ให้เธอเดินนำหน้าไปก่อน



แต่ว่าคุณรุกะเธอก็บอกว่าทำไมไม่มาเดินด้วยกันล่ะค่ะ เดินตามหลังแบบนี้มันดูไม่ดีเลยนะ ผมก็บอกว่า ไหนบอกว่าผมต้องคอยระวังหลังให้ไงครับคุณรุกะ เธอก็ยิ้มแล้วบอกว่ายังไม่ถึงเวลางานค่ะซารุซัง จำที่เคยคุยกันตอนอาบน้ำไม่ได้เหรอคะว่าเวลาพักก็ควรพักไม่ใช่ โอยยยย จะพูดถึงตอนที่อาบน้ำด้วยกันทำไมล่ะนั่น พูดแล้วก็เขินเลยกู แล้วเธอยังพูดนะว่าหรือต้องอาบน้ำกันอีกครั้งคะ



อ่ะเฮื้อออ ใจสั่นเลยรู้ว่าผิดกับสามสาวนะแต่ถ้าบอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดนี้มันก็ออกแนว ธอร์แหล เกินไปแหละครับ เราเดินอ้อมมาข้างหลังครับ เพราะถ้าเดินไปข้างหน้ารับรองว่าแตกตื่นกันทั้งตำบลแน่นอน ระหว่างทางเราก็คุยกันบ้างนะครับ เธอถามว่าตอนนี้ร่างกายเป็นไงบ้างคะ ผมก็บอกว่าปวดๆนิดหน่อยครับ แต่อีกวัน 2 วันก็น่าจะดีขึ้นล่ะครับ เธอบอกว่า หลังซ้อมเสร็จอย่าลืมแช่น้ำแข็งนะครับ



ผมก็บอกโหย แบบนั้นไม่ไหวหรอกครับแล้วคงไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก เพราะว่ามันเปลืองนะเอาตรงๆแล้วก็ผมเคยได้ยินว่าวิธีนี้ใช้กับพวกนักบอลอาชีพด้วย ผมไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรอกครับ นอนพักหรือทายานวดสูตรเย็นเดี๋ยวก็หาย แต่ว่าคุณรุกะก็หยุดและหันมาพูดว่า ใครบอกว่าไม่สำคัญค่ะ เธอพูดแล้วก็จ้องหน้าผมแบบนั้น คือจ้องเอาจริงเอาจังเลยล่ะ ผมก็เอ่อ.... เรารีบเดินกันดีกว่ามั้ยครับ




คุณรุกะมองหน้าแล้วบอกว่าไม่เจอกันแปปเดียว เริ่มมีความคิด negative เมื่อไรค่ะ ทำไมต้องบอกไม่สำคัญ ทุกคนไม่ว่าใครก็มีความสำคัญในตัวเองกันทั้งนั้นแหละ ผมก็เอ่อทำไมโกรธอยู่เฉยๆก็โมโห ผมก็บอกนะว่าขอโทษผมจะไม่พูดแล้ว คุณรุกะว่านี่ไม่เจอกันแปปเดียวยังเป็นแบบนี้เลยเหรอเนี่ย สงสัยต้องคุยกันยาวๆเลยนะคะซารุซัง


เราสองคนเดินมาจนถึงทางหลังตึก ตอนนั้นพี่หมิวกับพี่รุจน์ก็ยืนรออยู่เลยครับ อ้อแล้วก็ทาเคชิซังด้วย พอเดินมาถึงพี่หมิวก็เดินเข้ามาหาก่อนเลย


แต่เธอไม่ได้มาคุยกับผมนะ เธอเข้ามาบ่นกับรุกะว่า เผลอไม่ได้เลยหายตลอดเลยรุกะ ... หืม พี่หมิวเรียกรุกะเฉยๆ ไม่มีซังเหรอ แล้วไม่เรียก นามสกุล แต่เรียกชื่อต้นห้วนๆเลยด้วย



คุณรุกะก็บอกว่าแค่พักสายตาเอง ทาเคชิไปฟ้องเหรอ พี่หมิวบอกเปล่าค่ะแค่เห็นว่าไม่อยู่เฉยๆ... หืม สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือพี่หมิวดู.. อ่อนลง ไม่ใช่ว่าอ่อนที่หมายถึงอ่อนแอนะ แค่ผมหมายความว่า แนวๆพี่หมิวดูซอฟท์ลงเวลาคุยกับคุณรุกะน่ะสิ่



แล้วคุณรุกะก็พูดภาษาญี่ปุ่นโช้งเช้ง ๆ ๆ ๆ กับทาเคชิ ทาเคชิก็พยักหน้าแล้วเดินหายไปเลย แล้วเธอหันมาคุยกับพี่หมิวว่าเราเข้าไปข้างในกันมั้ย พี่หมิวพยักหน้าอื้มๆตอบทันทีเลยล่ะครับ แล้วคุณรุกะก็หันมาบอกกับผมว่า อย่าลืมเรื่องที่คุยกันนะซารุซัง




แล้วพี่หมิวก็บอกจะขอคุยกับผมสักครู่ คุณรุกะก็ยิ้มๆแล้วเดินหันหลังไป พี่หมิวก็เปลี่ยนท่าทีเลยคือถ้าให้พูดเหมือนการ์ตูนคือตอนที่คุณรุกะอยู่ เหมือนพี่หมิวเก็บจิตสังหารไว้มิดเลย แค่พอคุณรุกะไปโอโฮ่  ปล่อยฮาคิราชันมาทันที



[ หมิว ]  :  แหม ๆ ๆ  คลาดสายตาไม่ได้เลยนะ ไอ้ลิงป่า



เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ  ผมถามพี่หมิวเลยว่านี่โกรธอะไรผมเนี่ย คือปกติแล้วพี่หมิวในร่างปกติจะเรียกผมโทน ๆ ๆ นะ แต่ถ้าเป็นร่างร่าเริงหรือเวลาอยู่กับเจ๊จ๋าหรือเจ๊เตยก็จะเรียกอีโทนบ้างบางครั้ง


แต่ถ้าเรียกไอ้ลิงนี่ ออกแนวอารมณ์หงุดหงิด แล้วถ้ามีไอ้ลิงป่านี่ออกแนวหงุดหงิดขึ้นมาอีกขั้น ผมถามโกรธอะไรผมเนี่ย พี่หมิวก็บอกเปล๊าาาา สาวญี่ปุ่นนี่น่ารักดีเนอะ ผมก็บอกเดี๋ยวสิ้ !!! นี่เจ๊เป็นคนหัดประชดเมื่อไรเนี่ย ???



เฮ้ย !!! งามใส้ละปกติพี่หมิวไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นา แล้วพี่หมิวก็บอกว่าเปล่านี่ไม่มีอะไร แล้วกินข้าวยัง ผมบอกอื้อกินแล้ว พี่หมิวถามว่ากินอะไร ผมก็บอกใส้กรอก ไข่ดาว พี่หมิวก็บอกไอ้ลิงป่า กินแบบนั้นไม่ได้ โภชนาการมันไม่พอ พี่หมิวบอกเดี๋ยวให้ เทรนเนอร์จัดตารางอาหารให้



ผมนี่ ฮึ๊ !!?? เอาแบบนั้นเลยเหรอ พี่หมิวบอกว่าก็ตามนี้แหละ แล้วผมก็ถามนะว่าวันนี้ไม่มีเรียนเหรอเจ๊หมิว เจ๊เขาก็บอกมีเดี๋ยวกำลังจะไป ผมก็ถามอ้าวแล้วไม่ใส่ชุดนักศึกษาเหรอวันนี้เจ๊หมิวก็บอกไอ้บ้า ป.โท เขาไม่ได้บังคับให้ใส่ชุดนักศึกษา



บางคนใส่ชุดทำงานไปเรียนก็มี ผมก็อ้าวแล้ววันนั้นอ่ะ เจ๊หมิวก็บอกวันนั้นวิชาบังคับเหอะ อืมม พี่หมิวตอนนี้ก็ใส่ชุดทำงานน่ะนะ แถมยังอ่ะฮื้มมม ชวนคิดลึกเลยเนี่ย เฮ้ยไม่ได้ ๆ ๆ ๆ ๆ ผมจะคิดแบบนั้นไม่ได้ แล้วพี่หมิวก็พูดดักคอไว้ว่า นี่คงไม่ใช่กำลังคิดว่า จะอึ๊บเจ๊ คาชุดใช่มะ



ผมก็เนียนไปว่าใครจะคิดแบบนั้นล่ะ แต่พี่หมิวก็หยิกแก้มผมแล้วบอกว่าก็สีหน้ามันบอกแบบนั้น อย่าคิดว่าเจ๊ไม่รู้นะเวลาคิดอะไรหื่นๆน่ะ นั่น !!! ดูเธอพูด ผมบอกเปล๊าาาา !!! พี่หมิวก็ถามงั้นเสียงสูงทำไม  ผมคิดในใจแน๊ะ !!! ชิบหายละ เถียงไม่ออกเลยวุ๊ย



แล้วอยู่ดีๆพี่หมิวก็ดึงหูผมครับ ผมก็โอ๊ยเจ๊ดึงหูผมทำไมเนี่ย พี่หมิวถามขึ้นมาว่า ตอนไปทำงานที่เหนือ คงไม่ได้ทำอะไรหื่นๆกับรุกะใช่มั้ย...



[ ผม ]  :  อุ้ย !!!



ผมนี่อุ้ยแบบพี่หนุ่ม กรรชัยเลยครับ เหงื่อแตกพลั่ก ๆ ๆ ๆ พี่หมิวก็จับปกเสื้อผมแล้วดึงเข้ามาหาเบาๆ แล้วพูดว่าหน้าแบบนี้ชัดดเลยไอ้ลิงบ้าเอ๊ย นี่ตกลงเศร้าจริงป่ะเนี่ย ไปทำงานถึงที่นู่นยังจะหื่นได้อีก ผมก็บอกไม่ได้ทำอะไรขนาดน๊านนน



พี่หมิวก็พูดขึ้นมาว่า งั้นก็ทำจริงๆสิ่นะ ผมก็เอ่อ เอ่อ .... พี่หมิวก็บอกนะว่า สงสัยเราต้องคุยกันหน่อยแล้วนะ ไม่ได้คุยกันจริงๆจังๆหลายเดือนแล้วนะ ตั้งแต่สามคนนั้นละ สงสัยต้องจัดระเบียบกันแล้วม๊างง



ผมก็บอกว่าเดี๋ยว ๆ ๆ อะไรเจ๊เนี่ย แล้วตกลงจะบอกผมได้ยังว่าทำเจ๊กับคุณรุกะเหมือนจะสนิทกันมากกว่าเพื่อนร่วมงาน ร่วมธุรกิจล่ะ เจ๊หมิวก็ถามว่าแล้วมีปัญหาเหรอไง ก็รู้จักกันมาตั้งหลายปีแล้ว ทะม่ะ มีปัญหาเหรอ



ผมก็บอกว่าไม่มีปัญหาหรอกใครจะกล้ามีปัญหากับเจ๊คนสวยของผมล่ะ พี่หมิวก็บอกมาปากหวานแล้วอย่าคิดว่าจะรอด ผมก็ตัดบทเลยนะตอนนั้นว่า เจ๊หมิวผมกับคุณรุกะเคยเจอกันแล้วจริงเหรอ พอผมถามแบบนั้นไปเว้ย พี่หมิวก็ปล่อยฮาคิออกมาเฉ๊ยยย


ผมก็บอกเดี๋ยวดิ่เจ๊ ทำไมอยู่ดีๆอารมณ์เสียล่ะ  เจ๊หมิวถามกลับมาว่ามีปัญหาป่ะ ไอ้ลิงหน้ามึน



เอ๊าาาา !!! เป็นงั้นไป อาจจะฟังดูเหมือนเวอร์นะ แต่คือด้วยความที่รู้กันมาหลายปีนะ คือพอพี่หมิวมีท่าทีเปลี่ยนไป มันจะรู้ได้ทันที คืออยู่ดีๆก็เหมือนทะเลที่ซึนามิกำลังจะมา แล้วตอนนั้นคุณรุกะเธอก็เข้ามากอดคอพี่หมิวไว้ครับ คือเฮ้ยมาตอนไหนวะนั่นน่ะ คุณรุกะบอกพี่หมิวว่า



ไปกันเลยมั้ยหมิว ผมนี่เฮ้ย ๆ ๆ ๆ เข้ามาหยุดพี่หมิวตอนนี้กำลังเม๊งแตกแบบนี้จะดีเหรอ แต่เฮ้ย !!!?  อยู่ดีๆพี่หมิวก็เหมือนถอนหายใจออกมา ยาว ยาวววว แล้วพูดว่าเธอนี่นะรุกะ แบบนี้ทุกทีเลยสิ่ คุณรุกะก็บอกเอาน่าๆ เขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่นา  ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาเป็น



หืม ?? มันยังไงๆอยู่นะคำพูดนี้ ผมถามว่าหมายความว่าไงเหรอครับคุณรุกะที่บอกว่าเป็นมาตั้งนานแล้ว ซึ่งพี่หมิวก็ตอบกลับมาว่า  ก็ไอ้อาการหน้ามึนแบบนี้ไง ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ทำเหมือนคนอื่นเป็นอากาศเนี่ย



ผมก็คิดในใจอะไรหว่า เมนมาเหรอก็ไม่น่าใช่นะเพราะตอนที่มาขึ้นคร่อมก็ไม่รู้สึกถึงผ้าอนามัยนี่นา แล้วตอนนั้นเว้ยคุณรุกะเธอเปลี่ยนเลย แววตาน่ะเปลี่ยนเลย จากที่เป็นธรรมชาติน่าร๊ากกกก กลับเป็นเป็นการจ้องมองที่เหมือนจะเฉือนให้เราตาย หรืออยู่ในกำมือ



คือผมอธิบายไม่ถูกน่ะครับ แต่เป็นแววตาเดียวกับพี่หมิวเวลาเข้าโหมดจริงจัง คุณรุกะเธอบอกว่าถ้าเขาจำไม่ได้ชั้นจะจัดการเขาเอง นั๊น !!! แล้วแค่แปปเดียวแววตาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมครับ แล้วบอกเราไปกันเถอะหมิว แล้วก็พูดกับผมว่า ตั้งใจซ้อมนะคะซารุซัง ชัันเชื่อใจคุณนะ



แล้วเธอก็ปล่อยคอพี่หมิวครับ แล้วเดินไปด้วยกันแต่พี่ก็หันมานะ แล้วก็ทำท่าชี้ๆ แล้วพูดว่ารอดตัวไปนะ โอยนี่มันเกิดอะไรขึ้น นึกว่าจะมีสงครามนางฟ้าซะแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่โรงยิมนะ แล้วพอกลับมาก็โอ้โห่ !!! เฮ้ยลังอะไรวะน่ะ



คือพวกคนในฝ่ายรักษาความปลอดภัยและทีมการ์ดกำลังช่วยพนักงานจัดส่งยกของเลยครับ แล้วทาเคชิซังก็ยืนถือสมุดอะไรนี่แหละ และนับๆอยู่ พอเห็นผมเดินเข้าไปหาพี่รัช ที่เป็นรองหัวหน้าทีม ขอใช้ชื่อนี้นะครับ 



ผมถามว่ามีอะไรกันเหรอพี่ พี่รัชบอกว่า เหมือนจะเป็นสวัสดิการพิเศษจากฝั่งญี่ปุ่นน่ะสิ่  ผมมองไปที่ลังกระดาษมันมีตัวอักษร คาตากานะ เขียนไว้ว่า เกะโตะเระโต เอ่อ.. อ้อ เกเตอร์เรท นี่หว่า


ผมก็หือเกเตอร์เรทเหรอ พี่รัชก็อืมตามนั้นแหละ คนอื่นๆก็เดินมานะบอกกินได้เป็นเดือนๆเลยแบบนี้ แล้วตอนนั้นคนในทีมคนนึงก็เฮ้ย !!! ผมก็หืมไรวะ อันนี้คิดในใจนะ มันเป็นเวลาเดียวกับที่ไอ้โหดทาเคชิซังเดินมาหาครับ



มาถึงเขาก็ยื่นกระดานที่หนีบกระดาษไว้ ผมก็รับมานะมองๆ ๆ ๆ มันคือจำนวนเครื่องดื่มที่เอามาลง พนักงานขนส่งก็เดินมาหาผมแล้วบอกจำนวนเท่าไรๆ  เดี๋ยว ๆ ๆ  นี่ผมต้องเซ็นรับเหรอ ทำไมเป็นผมล่ะ ผมก็มองหน้าทาเคชิซังอีกที ซึ่งเขาก็พยักหน้า



ผมก็เอาวะเซ็นก็เซ็น แต่ว่าตอนที่กำลังจะเซ็นทาเคชิซังก็ยกมือห้ามแล้วพูดว่า " คั่นจิ "  ผมก็หืมคันจิอะไรวะคันจิ ชื่อจริงผมก็ไม่น่าจะใช้เพราะมันใช้ตัว คาตากะนะ อืมม ลองตัวนี้แล้วกัน


猿飛



ผมเซ็นแล้วส่งให้ทาเคชิซัง เอาวะวัดดวงเอา ทาเคชิซังรับไปมองๆ แล้วเหมือนพึมพำๆ เขายิ้มนิดนึงก่อนจะพูดว่า ชิซึเรชิมัส ซึ่งแปลว่าขอตัวก่อน ผมก็รีบโค้งหัวให้ประมาณนึงแล้วพูด อะริกะโตะ โกไซมัส พอเขาเดินไป คนในทีมก็เข้ามาเขย่าไหล่ผม เฮ้ยโทน ๆ ๆ  ไปรู้จักเขาได้ไงวะ ผมก็หืออะไรพี่ ก็นั่นคนสนิทของคุณรุกะเขาน่ะ บอดี้การ์ดส่วนตัวล่ะมั้ง รู้จักเหรอครับ



พี่คนนั้นก็บอกเฮ้ย ๆ ๆ  ไอ้นั่นมันตัวโหดเลยนะเฮ้ย ผมก็หืออะไรเหรอครับ พี่รัชก็บอกว่าปีก่อนๆ คุณแมนส่งพวกพี่ไปดูงานกับบริษัทที่ญี่ปุ่นไง แล้วไอ้คุณทาเคชินั่นตัวโหดเลยนะนั่นน่ะ  ทำอะไรก็คะแนนสูงไปหมด เข้าขั้นเทพเลย  ผมก็เอ่อ ... ครับ เขาโหดจริง



พี่รัชก็ถามเฮ้ย ไม่ใช่ว่าเอ็งไปลองซัดกับเขามาหรอกนะ ถึงรู้ว่าเขาโหด ผมบอกเปล่าๆ แต่ก็เกือบแหละ พี่เขาถามเฮ้ยยังไงบอกมา ผมก็บอกว่าผมถูกส่งไปคุยงานเจรจากับคุณเคย์ที่เชียงใหม่ไง แล้วผมโดนเขาจับตัวไว้ ผมกำลังจะทุ่มเขาแหละครับ แต่ว่าแว๊ปนึงคือรู้สึกว่าถ้าผมฝืนออกแรงงัด ผมนี่แหละจะโดนซ้อนหลังทุ่มแล้วจะร่วงเอา พี่รัชก็เฮ้อ ดีแล้วที่ยั้งไว้ ไม่งั้นเอ็งเจ็บตัวแน่ๆ ผมก็ถามขนาดนั้นเลยเหรอครับ




พี่รัชก็บอกว่า ไอ้นั่นน่ะมันโหดจริงเอ็งสู้มันไม่ได้หรอก ผมก็เฮ้อคงงั้นแหละ แล้วพี่รัชก็ถามว่าแล้วเมื่อกี้เขียนว่าอะไรไปภาษาญี่ปุ่นน่ะ ผมก็บอกอ๋อ ชื่อน่ะครับ คุณรุกะเขาเรียกชื่อนี้แทนตัวผมน่ะ พวกพี่ๆก็หืมมมมม ยังไงคราวก่อนเขาก็ต่อสายตรงมาหาเอ็ง คราวนี้เรียกชื่ออะไรอีก ผมก็บอกว่าที่เขียนไปมันอ่านว่า " ซารุโทบิ "



พี่รัชก็บอกปั้ดติโธ่ ซารุโทบิ เอ็งจะเป็นโฮะคาเงะเหรอไง ผมก็เอ้านี่พี่อ่านนารูโตะด้วยเหรอ พี่รัชก็บอกว่าเฮ้ยมันก็มีบ้างแหละน่า ผมก็บอกว่าเอาจริงๆชื่อมันแปลตรงๆว่า ลิงกระโดดนะพี่ ผมก็ว่ามันเอ่อแปลกๆน่ะ พี่เขาก็หัวเราะ  5 5 5 5 แล้วบอกอ้อลิงเหรอ คุณหมิวก็เรียกเอ็งว่าไอ้ลิงบ่อยๆนี่หว่า ผมก็บอกพอเลยยยยย 



แล้วอีกแปปนึงหลังจากที่พวกเราเปลี่ยนชุดกันเรียบร้อย พี่แมนกับพี่รุจน์ก็มาครับ แล้วไม่ใช่แค่นั้น เพราะคุณท่านก็มาด้วย พี่แมนมาถึงก็โอโห้ !!! อภินันทนาการจาก แจแพ่น พี่แมนก็เดินมาแล้วเกี่ยวคอผมเหมือนหยอกกันเล่นแล้วพูดใกล้ๆ ว่างายยย คาคาชิคูงงง  บังเอิญเนอะ พอเอ็งเข้ามาปุ๊ปก็มีของมาปั๊ป บังเอิญจังน๊ออ  ผมก็งง อะไรของเขาหว่า



แต่แปปเดียวเท่านั้นแหละ พอพ่อพี่แมนมาถึงทีมงานเกือบๆ 20 คนก็ยืนตรงเชียว มีแต่ผมนี่แหละที่ไปไหนไม่ได้เพราะพี่แมนดึงคอไว้อยู่ พอพ่อพี่แมนเดินมาถึงผมท่านก็พูดด้วยความเมตาว่า



" เจ้าโทน ดันพื้น 30 "



ผมนี่ฮึ๊ !!! อะไรล่ะนั่น ผมมองหน้าพี่แมนเลยครับ เอ้าพี่ !!! พี่แมนก็รีบปล่อยแล้วบอก เอ้อ โทษทีว่ะ  เฮ้อกรรมของกู ผมก็รีบเลยครับ ยืดกล้ามเนื้อฉบับเร่งด่วน อื้ดดดด อื้ดดดด แล้วก็ลงไปวิดขึ้นสุดลงสุด 30 ทีรวดเดียว พอขึ้นมาผมก็รีบไปเข้าแถวเลย กรรมของกูแท้ๆ  ใครว่ารู้จักคนใหญ่คนโตแล้วจะสบาย



พ่อพี่แมนมาถึงก็ถามพี่รุจน์ กับ พี่รัชว่าตอนนี้เป็นยังบ้าง ติดขัดยังไง ตรงไหนอะไรหรือเปล่า พี่รุจน์ก็รายงานผลต่างๆ นู่นนี่นั่น กำลังติดต่อเรื่องโภชนาการ การดูแลร่างกาย และแบ่งกำลังคนเพื่อไปดูแลผู้บริหารท่านอื่นๆ แล้วก็เน้นขึ้นมา


" ส่วนไอ้โทนนั้น "




ผมนี่ฮึ๊เลย เดี๋ยวๆ ทำไมมีของผมคนเดียวล่ะ พี่รุจน์เอาปึกกระดาษขึ้นมา หือมันเป็นอันที่ผมตรวจวันก่อนนี่หว่า พี่รุจน์บอกตอนนี้ให้มันฟื้นฟูมวลกล้ามเนื้อครับ เท่าที่ตรวจ ร่างกายวันก่อน ไม่มีอะไรผิดปกติครับ ผมก็ภาวนาวาธุ สาธุ อย่าเน้นเยอะ อย่าเน้นเยอะ แล้วตอนนั้นคุณท่านก็เรียก " เจ้าโทน "


ผมก็สะดุ้งยืนขึ้นเลย ผมนี่ขึ้นเลย ผมตอบครับคุณท่าน พ่อพี่แมนก็ถามว่าตอนนี้สภาพร่างกายเป็นไง ตอบตามความจริงมา พ่ออยากรู้จากปากของตัวโทนเอง นั่นไงแทนตัวเองว่าพ่อแบบนี้ผมล่ะเสียวสันหลังจริงๆ ผมก็บอกไปตามตรงว่าตอนนี้ปวดกล้ามเนื้อนิดหน่อยครับคงจะ DOMS อยู่ แต่อีก 2-3 วันก็น่าจะหายครับ



แล้วคุณท่านก็อื้มงั้นใส่นวมเลย ซ้อมซิมูเลชั่นหน่อย นั่น !!! เอาจนได้สิ่น่า ซิมูเลชั่นคืออะไร ถ้าให้แปลตามตรงก็คือการฝึกจำลองครับ ในกรณีผมที่เคยฝึกเมื่อตอนเรียนปี 2 คือการฝึกจำลองการต่อสู้นั่นแหละ พวกทีมเก่าที่ผมเคยทำงานด้วยก็ใส่เครื่องป้องกันมาเลยสองคน ผมก็โอยงามใส้แท้ๆ



ตอนนี้ถ้าโดนกระทบนิดเดียวก็ลั่นแล้วครับกล้ามเนื้อแต่ว่าเหมือนคุณท่านจะไม่ปราณีเลย พี่แมนก็บอกว่าเฮ้ย ๆ ๆ อย่าให้ตัดสายฟ้านะเว้ย คาคาชิคูงงงงงงงง  แล้วพี่รุจน์ก็สั่งเริ่ม พี่รัชนี่เปิดก่อนเลยครับ ต่อยหน้า ต่อยขวา ผมหลบแต่ก็โดนหมัดสวิงเฉียดหน้าไปหน่อย เข้ !!! เกือบมองเห็นดาวแล้ว แต่พอพี่รัชต่อยวืด ผมก็จะเข้าจับทุ่ม แต่ว่าเขาก็ถีบกลับหลังด้วยท่ากวางเหลียวหลังของมวยไทย



ผมเบรกเอี๊ยด แล้วบิดข้อเท้าออกข้างๆเลยครับ แต่มันก็โดนนะ เหมือนผมจะช้าลงนิดหน่อยด้วยมั้ง แต่พอหลบแล้วผมก็ยืดตัวหลอกตาพี่รัชแล้วพุ่งเข้ามุมอับสายตา ตวัดเตะด้วยมาวาชิเกริ หรือเตะขนานด้วยการสแนปขา แต่พี่รัชก็ยกเป้านวมมากันได้ดังปุ้ง แล้วพี่อีกคนก็เข้ามาเตะหลังผมดังอั้ก



อู๊ยยยย สะดุ้งโหยง ผมพุ่งตัวม้วนหน้าด้วยท่า นางลอยของยูโดเพื่อหนีครับ หนีเพื่อตั้งหลักนั่นแหละ พอหมุนตัวมาเห็นก็เป็นพี่อีกคนนั้นแหละ คนนี้เขาใส่สนับนวมที่ขาด้วย โอ้โห ถ้าไม่ใส่แล้วใช้แข้งเพียวๆ หลังผมแอ่นแน่ๆเมื่อกี้ แล้วผมก็เริ่มโดดๆ แล้วพุ่งเข้าใส่ทันที แต่ว่าตอนนั้นพ่อพี่แมนก็บอกพอแล้ว ผมนี่ เอ๊า !!! โดนเตะหลังฟรีเลย



พ่อพี่แมนก็ถามว่ารุจน์ตอนนี้เจ้าโทนเป็นไง พี่รุจน์ก็บอกว่าช้าลงกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อยครับท่านประธาน แต่ไม่เป็นไรครับผมจะนวดมันให้เอง ผมร้องเสียงหลงเลยว่าเดี๋ยวๆ พี่รุจน์แค่นี้นวดไม่พอเหรอ พี่รุจน์บอกเฮ้ย เวลามีจำกัดอย่าบ่นน่าคาคาชิคูง  นั่น !!! เอาเข้าไปแล้วพี่แมนก็หัวเราะลั่นเลยครับ พี่เขาบอกเอ้อ ก็ตามที่รุจน์บอกนั่นแหละ นวดไอ้โทนหนักๆหน่อย



แล้วพี่แมนก็หันมาพูดกับพวกทีมงานเกือบ 20 ชีวิตว่า ยังไงก็อยากให้ทุกคนพัฒนาตัวเองนะ คนเข้ามาใหม่ก็ขอให้พัฒนาตัวเอง คนที่อยุ่มาก่อนก็ขอให้ไม่หยุดเรียนรู้ ยังไงซะความปลอดภัยของผู้บริหารในบริษัทนี้ก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณนั่นล่ะ ที่นี่เราอยู่กันแบบครอบครัวนะ แต่เวลาทำงานผมขอให้คิดว่าทุกครั้งต้องทำเต็มที่ จะได้ไม่เสียใจตอนหลัง ทุกคนก็ตอบครับทันที



มันเกือบจะดีแล้วแท้ๆ ถ้าพี่แมนไม่พูดว่าส่วนเอ็ง เดี๋ยวซ้อมเสร็จไปแช่น้ำเย็นด้วย ผมก็ฮ๊ะ !!! แล้วคนอื่นๆล่ะพี่แมน พี่แมนบอกว่าก็ไปแช่ด้วยกันหมดนี่แหละ แต่เอ็งน่ะพิเศษหน่อย โอ้ว งามใส้แท้ๆ หลังจากนั้นพอพี่แมนกับคุณท่านกลับไปผมก็โดนนวดหนักเลยครับ คนที่เข้ามาใหม่ก็ถามผมว่า ปกติผมโดนแบบนี้ประจำเหรอ



ผมก็โอยย อย่ามาถามกูเถ๊อะ เวลาพักกูมีน้อยให้กูได้หายใจเถ๊อออออออ   แปปเดียวเท่านั้นแหละโดนพี่รุจน์เรียกไปวิ่งแข่งอีกแล้ว พี่รุจน์แม่งปีศาจชัดๆ มีกี่ปอดวะถามจริง วันนั้นเรียกได้ว่าผมนี่หมดแรง แต่สิ่งที่รู้สึกคืออาการเจ็บกล้ามเนื้อมันเริ่มน้อยลงนะ หรือเป็นเพราะว่าไปแช่น้ำเย็นตามที่พี่แมนบอกเขา พอจะกลับผมก็มาเช็คมือถือก็เป็นว่าเหมียวโทรมาครับ



ผมก็โทรกลับถามว่าเหมียวมีอะไรเหรอ เหมียวก็ถามว่าทำไรอยู่อ่ะโทนผมก็บอกว่าเพิ่งซ้อมเสร็จมีอะไรเหรอ พูดมาได้เลย เหมียวก็บอกว่าโทษทีนะโทนแต่พรุ่งนี้ช่วยมาที่บริษัทได้มั้ย ตอนนี้งานเดินช้ามากเลย เพราะติดตรงข้อมูลที่โทนไปทำงานกับพวกญี่ปุ่นน่ะ มาไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวเราเข้าไปถามข้อมูลงานกับโทนก็ได้




ผมคิดนะว่าไม่ไหวหรอกถ้าจะมาถามน่ะ จดยังไงก็ไม่หมดรายละเอียดเล็กๆที่มันต้องอธิบายด้วยปากมันก็มี ตอนนี้ถึงจะเหนื่อยก็เถอะ แต่ว่าเหมียวอุตส่าห์โทรมาแบบนี้ผมว่าเธอก็จนปัญญาจริงๆนั่นแหละ ผมก็บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวพรุ่งนี้ช่วงเช้าเราเข้าไปที่ออฟฟิศนะ เหมียวบอกอื้อๆขอบคุณมากมาย แล้วตอนนี้อยู่ไหน ผมก็บอกว่ากำลังจะกลับแหละ เหมียวบอกโห่  ๆ ๆ ๆ ทำไมไม่โทรมาเร็วกว่านี้เนี่ย จะได้รอรับกลับ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก คราวหน้าได้ป่ะล่ะ เหมียวบอกได้ดิ่ ผมบอกอื้มๆพรุ่งนี้เจอกันนะ ฝันดี เหมียวบอกอื้อ ๆ ๆ เหมือนกัน



เฮ้ย !!! เดี๋ยวก่อนดิ่วันนี้ผมต้องนอนที่ห้องพักพนักงานี่หว่า .... โอ้ยยยยย ช่างเถอะยังไงก็ต้องกลับหอพักเพื่อไปเอาเอกสารอยู่แล้วนี่หว่า ผมเดินไปบอกพี่รุจน์ว่า วันนี้ผมขอกลับบ้านก่อนนะพอดีว่าที่ออฟฟิศมันประสานข้อมูลงานไม่ได้ผมจะกลับห้องพักไปเอาข้อมูล เพื่อไปช่วยงานพรุ่งนี้ พี่รุจน์ก็บอกเอ้อไม่เป็นไร เอาใบขอยืมห้องพักมา ผมก็เอาให้พี่รุจน์ไปครับ แล้วก็ลากลับบ้าน โอยยย เมื่อยขาแท้ๆ





ผมนั่งรถมาถึงอนุสาวรีย์ชัยก็ตั้งใจจะหาอะไรกินซักหน่อย ซึ่งบอกจากใจเลยว่าสมัยก่อน ก่อนที่จะมีการจัดระเบียบรถตู้ ของกินตรงอนุสาวรีย์โคตรเยอะแล้วเด็ดๆทั้งน๊านนน อืมม ตอนนั้นแก้มโทรมาหาครับ ผมก็รับสายเลยนะ ผมก็ดีจ้าตัวแสบ ทำไรอยู่หืม แล้วยัยตัวแสบก็พูดขึ้นมาว่า




คุณแฟนอยู่ไหนง่ะ นี่คือเสียงแรกที่ได้ยินเลยครับ ผมถามหืมอะไรล่ะนั่น แก้มบอกวันเค้ามาธุระที่มหาวิทยาลัยแล้วกำลังจะกลับง่ะ ผมก็บอกว่า อ๋อ พี่อยู่อนุสาวรีย์น่ะ แก้มบอกรอก่อน ๆ ๆ ๆ   เค้าอยู่เซ็นเตอร์วันเดี๋ยวจะไปหา ผมก็บอกเดี๋ยวๆ ๆ ไหนบอกติดธุระไง แก้มเลยบอกว่าเง้อออ หนูเสร็จแล้วนี่ซื้อเสื้อผ้าเฉยๆ พี่รอตรงมิสเตอร์บันนะ



คือช่วงนั้นมิสเตอร์บันมันบูมมาก ถ้าให้พูดแบบตรงๆคือ หอมสัด หอมชิบหาย เดินบนสกายวอล์คยังได้กลิ่นเลย อื้อหือแย่ละตั้งใจจะหาอะไรกินให้อิ่มแล้วกลับไปนอน สรุปนี่ต้องมาซื้อมิสเตอร์บันกินก่อนสิ่นะ หอมแบบนี้ใครจะไปทนไหวล่ะคร๊าบ








 




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

deamondear

โต๊ะ31 เช็คอินครับ
เจ๊ครับ งามครับบบบบ
รอฉากเด็ดตอนต่อไป แถมพ่วงเจ๊หมิวววว

GU Koy


locklock leck

ตอนนี้มาไวมาก อ่านกันไปยาวๆ

อยากติตามตอนต่อไปสุด ๆ


Melon

ผมตั้งตารอเลยครับ


นางเอกนัมเบอร์วานนนนน มาแล้วว

Otaza

เดินๆแล้วหาโต๊ะนั่งกันนะครับ นางเอกมาแล้ว ตัวประกอบก็ด้อยๆลงหน่อยเนอะทีมญี่ปุ่นนนนนนน


ton29048

วันนี้พึ่งซื้อ บันมะพร้าว กับ บันวนิลา มากินพอดีเลย เดี๋ยวนี้ชิ้นละ 21 บาทแล้วนะ


lnw007

เจ้หมิวกับรุกะ หึงซะแล้ว

อื้อหือนายโทนน่าจะแห้งยาวๆ ขอบคุณมากครับ



eltas007

นั่งรอเลยครับผม ::Glad::


-----------------------------------

"ไม่อนุมัติให้ย้ายออกจบป่ะ" สมกับนางเอกเบอร์หนึ่ง

ga_mes

 โหย ขอนั่งแถวหน้าได้มั้ยคร้าบ ตอนนี้ใครได้เป็นนางเอกน้อ ..