ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 6 ] ตอนที่ 77 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, ธันวาคม 24, 2021, 12:43:42 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ขอโทษทีครับพึ่งกลับมาถึงบ้าน

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง


สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ








★★★★★★★★★★★



ขออนุญาตแนะนำสาวๆ สักหน่อยครับ




★★★★★★★★★★★


คุณรุกะ






★★★★★★★★★★★


ถ้าพี่หมิวลองลุคแบบนี้ เป็นไงบ้างครับ






★★★★★★★★★★★

::Beggar:: ::Suffocate::

พี่เตยก็ประมาณนี้แหละ ตาแหลมๆ หมวยๆ








★★★★★★★★★★★


ความเดิมตอนที่แล้ว



ผมกลับมาที่ทำงานครับเพื่อมาช่วยงาน

เพราะเมื่อวานตอนจะกลับบ้าน เหมียว

โทรมาบอกว่ามีงานที่ติดปัญหากันอยู่

พอมาเนี่ยก็โอ้โหว !!! งามใส้ไอ้ผู้บริหารวางยาอีกแล้ว

แต่ไม่นานครับทุกอย่างก็แก้ได้ เพราะหัวหน้าผมแม่งก็เก่งจริง

แล้วตอนนั้นครับก็มีปัญหานิดหน่อย

เพราะคนของคุณเคย์เข้าใจผิดว่าผมเป็นคนนอก

จะเข้ามาจับกุมตัวผมนี่แหละ แต่ว่าผมก็ตอบโต้เบาๆไป

แต่ว่าทาเคชิซังนี่ดิ่ แม่งโหดสัดต่อยเปรี้ยงเลย

ผมนี่ฮึ๊ เอางี้เลยเหรอ แล้วระหว่างนั้น ทาเคชิซัง

เขาก็สปีค แจแปนมาเลย ตอนนี้ผมนี่นิ่งเลยครับ แต่ก็

มีคนในดีช่วยแปลให้ฟังนั่นก็คือจอย

แม่ล่ามสาวแว่นนั่นแหละครับ เธอทักมาผมก็ตอบกลับ

คร๊าบบบ คุณจอย




★★★★★★★★★★★


นายโทนไดอารี่ 77






ผมตอบกลับสาวแว่นฝ่ายประสานงานไปแบบนั้นครับ ผมก็ถามอีกนะว่าแล้วพี่พลอยมาด้วยมั้ยครับเนี่ย จอยเธอก็ถามผมว่าแล้วนี่ไม่ได้ติดต่อหาคุณพลอยเลยเหรอคะ ผมบอกว่าไม่เลยครับกลับมาจากเชียงใหม่ งานก็เข้ามาตู้ม ๆ ๆ เอ่ออันที่จริงแล้วไหนจะเรื่องพี่หมิวกับพี่เตย ที่ตอนนั้นผมยังอึนๆอยู่ด้วย



ผมก็บอกว่าพี่พลอยเองก็ไม่ได้ติดต่อมาหาผมเหมือนกันนะ จอยเธอก็บอกว่าแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ แต่ว่าตอนนี้ที่คุณพลอยไม่ได้ติดต่อเพราะดูเหมือนว่าต้องดูแลโปรเจคใหม่ของแผนกมั้งคะ ผมก็อ้ออื้มครับ คือจะบอกแบบนี้นะครับท่านผู้อ่าน ช่วงเวลาที่ผมหยิบยกมาเล่านั้น



มันเป็นช่วงที่ internet ในมือถือเป็นช่วงที่กำลังตั้งไข่ก็ว่าได้ แล้วไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้ internet ในมือถือได้ มีแค่ Hi5  MSN ที่กำลังเปรี้ยง ๆ ๆ  ผมเองไม่มี msn พี่พลอย จะมี Hi5 ก็ไม่ค่อยได้เล่น อีกอย่างถ้าท่านอ่านกันมา ท่านจะรู้เลยว่าตั้งแต่ผมกลับมาจากเชียงใหม่


ผมนี่แทบไม่ได้กระดิกตัวเลย ผมพยายามทำงานหนักๆเพราะจะได้ไม่คิดมากเรื่องพี่สาวทั้งสองคน แทบจะไม่ได้ติดต่อกับพี่พลอยเลย คำว่าติดต่อที่ผมบอกนั้นมีทางเดียวกับโทรศัพท์แต่ก็นะจะว่ามันเป็นข้ออ้างของผมก็ได้แหละมั้งนะ กลับมาต่อมาๆๆ ผมก็ถามว่าโปรเจคใหญ่เหรอ




จอยก็บอกว่าใช่ค่ะ เพราะว่าหลังจากกลับมาจากเชียงใหม่ คุณพลอยเองก็ถือว่าทำผลงานได้ดีมากๆเลยค่ะถูกดึงตัวไปทำงานใหญ่ๆไม่ยากเลยแบบนี้ ผมก็อื้มพี่พลอยเธอเก่งอยู่แล้วล่ะ ผมก็ถามว่าแล้วจอยล่ะครับ เธอยิ้มแล้วบอกว่าก็กำลังทำงานอยู่นี่ไงคะ ถูกเรียกตัวมาช่วยคุณเคย์โดยเฉพาะค่ะ



ผมก็โห ยอดเลยแต่ว่าคงต้องหยุดคุยกันแค่นี้แหละ เพราะจอยบอกว่าขอตัวก่อนนะคะ ผมก็อื้มๆสู้ๆครับ เธอก็หันมากำหมัดดึงลงแล้วบอกสู้ค่ะ แล้วเธอก็เดินไปเลย แล้วตอนนั้นเพื่อนในแผนกก็เดินมาหาผมเลยถามเฮ้ยเมื่อกี้มีอะไรวะ ผมก็บอกว่า สงสัยว่าการ์ดของคุณเคย์จะเข้าใจผิดน่ะไม่มีอะไรแล้วช่างมันเถอะครับ




คนอื่นๆก็บอกจะช่างได้ไงอีโทนก็พึ่งหักแขนแล้วเตะขาเขานะ ผมก็ถามว่ามันแปลกเหรอนั่น พี่คนนั้นก็บอกเอ้าอีนี่ไม่แปลกมั้งเขาเป็นบอดี้การ์ดแต่แกไปทำเหมือนเขาเป็นเด็กแบบนั้นอ่ะ แกอ่ะยังไงกันแน่เนี่ย หรือเป็นร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา ผมก็บอกว่านี่เจ๊จะบ้าป่ะเนี่ยยยยย ผมก็เป็นผมนี่แหละ !!!  แล้วหัวหน้าผมก็เดินมาหาเว้ยแล้วถามว่า ตกลงมึงเป็นนักยูโดหรืออะไรกันแน่เนี่ย ไอ้ห่าเอาซะกรูเซอร์ไพรซ์เชียว




ผมก็บอกว่านักยูโดก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องทำได้แค่ทุ่มนี่ครับ พี่เขาก็บอกเออๆลืมไปว่ามึงลูกชายผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แล้วพอบอกแบบนั้นทุกคนก็คือหัวเราะลั่นเลยนะ ผมก็บอกพอแล้วๆ รู้จักคนใหญ่คนโตมันไม่ใช่ว่าจะสบายนะพี่ มันกดดันนะเว้ยย เมื่อวานก็กินข้าวไประแวงไป หัวหน้าผมก็.... เฮ้ย กินข้าว กินข้าวอะไร




นั่นไง ผมรู้สึกว่าตัวผมจะปากไวเกินไปแล้วล่ะ พลาดละ ผมก็เลยบอกไม่มีไรพี่แต่ว่า พี่เขากระดึงคอเสื้อขึ้นแล้วพูดว่า มึงจะสารภาพดีๆหรือจะให้กูบังคับ โอยยย ผมนี่เหงื่อตกพลั่กๆๆๆเลย จนผมต้องบอกไปว่าเมื่อวานไปกินข้าวบ้านคุณท่านมา ลูกพี่ผมก็ถามอีกครั้งว่ามึง.... กินข้าวโต๊ะเดียวกับคุณ ( พ่อพี่แมน ) ที่บ้านเขาเนี่ยนะ ผมก็พยักหน้าอือๆ



เท่านั้นแหละครับลูกพี่ผมก็กวนตีนเลย เขากระชากคอเสื้อผมเข้าไปใกล้ๆแล้วบอกว่า คุณโทนครับถ้าหัวหน้าคนนี้ทำอะไรให้คุณโทนไม่พอใช่ หัวหน้าขออภัยด้วยนะครับ เอ่อคำพูดมันก็ดูน่ารักดีแต่การกระทำนี่สิ่ไม่ใช่เลย ผมก็บอกเฮ้ยพี่คำพูดกับการกระทำ ทำไมมันสวนทางกันจังเนี่ย ลูกพี่ผมก็บอกอีกว่าคุณโทนครับ ถ้าต้องจากนี้มึงยังทำงานชุ่ยๆอีก



หัวหน้าคนนี้จะแดรกหัวมึงนะครับ ผมก็เอ้าเฮ้ยทำไมงั้นอ่ะพี่ ผมก็หันไปมองคนอื่นคือตอนนี้เหวอไปหมดเลยนะ พอผมบอกว่านั่งกินข้าวกับท่านผู้ถือหุ้นใหญ่ ผมก็รีบแก้ตัวว่าเฮ้ยๆ ผมไม่ได้นั่งกินกับคุณท่านสองคนซะหน่อย พี่แมนก็อยู่ พี่หมิวก็อยู่ คุณท่านผู้หญิงก็อยู่ .... คือต้องบอกท่านผู้อ่านก่อนว่า



ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตอนนั้นผมคิดอะไรถึงพูดออกไปแบบนั้น เพราะยิ่งพูดมันก็ยิ่งหนัก หัวหน้าผมบอกว่าเฮ้ย นี่มึงเข้าไปกินข้าวกับทั้งครอบครัวเขาเลยเหรอ.... ผมก็.. เอ่อ อืม ครับ พี่ผมปล่อยคอเสื้อครับแล้วแหงนหน้ามองเพดานแล้วบอก อ่าส์ เส้นใหญ่จริงๆ นี่มันเข้าขั้นเส้นก๋วยจั๊บแล้ว ผมก็ถามอะไรกันพี่แค่กินข้าวเอง พี่ไม่เห็นเหรอว่าผมนี่โดนสวดยับเลยหน้าบริษัทอ่ะ ไม่ใช่เส้นใหญ่หรอก






แล้วตอนนั้นพี่ผู้หญิงเธอก็พูดว่า ชั้นปวดหัวกับแกจริงๆอีโทนแกเข้าใจมั้ยคำว่าสถานภาพน่ะ ผมว่าเอาล่ะงานนี้คุยกันยาวแน่ๆ พี่ผู้หญิงเธอบอกนะว่า แกรู้มั้ยว่าการที่จะได้ทานอาหารกับท่านน่ะบางครั้งต้องนัดล่วงหน้าเลยนะ เพราะคนระดับนั้นเวลาเป็นเงินเป็นทอง ผมก็หืออะไรหว่า ปกติก็กินข้าวกันประจำอ่ะเวลาไปทำงานที่บ้าน




หัวหน้าผมก็แหงนหน้า เอามือกุมหน้าผากแล้วบอกโอ้ !!! คุณพระ ผมถามเลยพี่ๆ นี่พี่จะโบ๊ะบ๊ะไปถึงไหนเนี่ย หัวหน้าก็บอกเอ้าไอ้นี่ตกลงมึงไม่ได้ฟังเรื่องสถานภาพเลยเหรอวะ ผมก็ถามว่าแล้วมันเกี่ยวไรล่ะ ผมก็ไม่ได้เป็นญาติอะไรของคุณท่านนี่หว่า แค่เคยทำงานรับใช้ตอนเรียน ปี.2 เอง ตอนนั้นหัวหน้าผมก็เอาปึกกระดาษเคาะหัวผมเบาๆ แล้ววางบนโต๊ะโดยมีทุกคนจ้องอยู่



โอ้โห ! ภาพผมตอนหัวสีขาวนี่ชัดเลย พี่เขาบอกว่านี่เหรอคนรับใช้ไอ้ห่ามึงไปทำงานเป็นบอดี้การ์ดเลยนี่หว่า แล้วไหนจะภาพที่ผมใส่ชุดนินจาแล้วเอามีดไปจ่อคอเพื่อนคุณท่านอีก ผมก็ฮึ๊ !!! เอารูปผมมาจากไหนอ่ะ พี่ๆในแผนกก็ฮ๊ะ !!! อีโทน คนชุดนินจานั่นแกเหรอ คือคิดตามผมนะ



โต๊ะกลมๆ แล้วทุกคนคือล้อมวงมา แล้วภาพต่างๆของผมมันวางบนโต๊ะ ผมก็บอกอือผมเอง ตอนนั้นพี่แมนบอกให้ลอบฆ่าเพื่อนคุณท่านอ่ะ พี่ๆก็ฮ๊ะ !!! อีโทน นั่นคุณเคย์ไม่ใช่เหรอ ผมก็มอง... เอ่อว่ะใช้ ฮ๊ะ !!! เดี๋ยวนี่กูทำอัลไลลงไปเนี่ย !!! หัวหน้าผมบอกว่าแล้ว มึงเอามีดไปจ่อคอเขาสองทีเนี่ยนะไอ้ห่า



ผมก็บอกว่าเอ้า !!! ก็บอดี้การ์ดสามคนนั้นมันอ่อนเองอ่ะ  ไฟดับนิดเดียวก็เหวอกันละ หัวหน้าผมก็บอกโอ้ว !!!  ผมก็ถามหัวหน้าก่อนเลยว่า เดี๋ยวก่อนดิ่พี่แล้วพี่ไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหน หัวหน้าผมก็บอกว่าก็คุณแมนส่งมาให้ไง เขาทำเรื่องขอเวลางานมึงมาที่พี่นี่แหละ ผมก็กุมหัวเลยแฮะตอนนั้น



แล้วพูดว่าตกลงนี่ผมรู้เคยเจอคุณเคย์มาก่อนเหรอเนี่ย !!!  พี่จักรก็ถามว่าโทน เอ็งเคยทำงานใกล้เขาแบบนั้นทำไมถึงจำไมได้ล่ะ ผมก็บอกว่าเอาจริงๆป่ะพี่จักร ตอนนั้นผมแทบไม่ได้มองหน้าใครเลยครับ ก้มหน้าทำงานอย่างเดียว ผมโดนปลดจากการแสดงละคร ก็เลยไม่ค่อยอยากคุยกับใครเท่าไร ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว หัวหน้าผมก็บอกอ๊อ เส้นใหญ่ข้ามประเทศ




ผมก็บอกพอเหอะพี่ผมกราบงามๆ เถอะ ผมไม่ได้อยากทำงานนี้ เฮ้ออออ ผมนี่ปวดหัวชิบหายขอหยาบหน่อยเถอะน่า แล้วอีกแปปนึงจอยก็เดินย้อนขึ้นมาครับ แล้วมากับทาเคชิซังด้วย แล้วพอทุกคนเห็นทาเคชิซัง ภาพที่ไอ้โหดนี่ซัดหน้าคนแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยก็คงผุดขึ้นมา ทุกคนย้ำนะว่าทุกคนถอยกรูดกันไปหลายก้าวเลย



ทาเคชิซังเขาเดินมาก็โค้งหัวให้ผมนิดหน่อย ผมก็โค้งคืนสิ่เขาอายุเยอะกว่า แล้วเขาก็โช้งเช้ง โช้งเช้ง โช้งเช้ง อะไรมา ผมก็สบายใจละเพราะมีจอยเดินมาด้วย แล้วแปปเดียวพอทาเคชิพูดจบจอยก็แปลคำพูดออกมาซึ่ง ทาเคชิซังเขาบอกผมว่า..   ต้องขอโทษอีกครั้งที่ลูกทีมของเขาเสียมารยาทกับผม




ผมก็บอกคำไปว่าไม่เป็นอะไรครับเขาทำตามหน้าที่ของ เป็นความผิดของผมเองที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ จอยเองก็แปลไปตามนี้นะ ทาเคชิซังก็อาริกาโตะ แล้วก็เดินไปเลย .... จอยบอกผมอีกทีว่านี่เขาตั้งใจมาขอโทษเลยนะคะคุณคาคาชิ  ผมก็ฮึ๊ !!!  เดี๋ยวไปเอาชื่อนี้มาจากไหน



เธอก็ขยับแว่นนิดนึง ฮู๊ยยย แจ่มสลัด เธอขยับแว่นนิดนึงแล้วบอกว่า ก็ต้องทำการบ้านมาบ้างสิ่คะคุณบอดี้การ์ด แล้วเจอกันค่ะ เธอพูดเสร็จก็เดินไปทำหน้าที่ของเธอครับ ส่วนผมน่ะเหรอหันไปมองอีกที พวกนั้นก็ยืนนิ่งกันเลย ผมถามเอ้าเป็นไรกันเนี่ย คนที่แผนกก็บอกว่า



อีโทน นี่แกรู้จักกับคนน่ากลัวแบบนั้นด้วยเหรอ ผมก็บอกว่าอ๋อ ก็น่าจะเป็นหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของฝ่ายญี่ปุ่นล่ะมั้ง แต่เป็นคนสนิทของคุณรุกะน่ะครับ ตอนนั้นผมไม่ได้ยินเสียงไอ้ชาติเลยนะ แม่งแกล้งตายแล้วมั้ง เอ้อว่าแต่เหมียวไปไหนหว่าไม่เห็นเหมียวเลย ... ทำงานมั้ง



ผมก็ถามว่างานที่ติด ที่ชะงักกันไม่มีอะไรแล้วใช่ป่ะ พวกพี่เขาบอกไม่มีอะไรแล้ว แต่เน้นตรงนี้ให้อีกหน่อย ผมก็มองๆ แล้วย้ำ และ อธิบายอีกที หลังจากที่คุยเรื่องงานจนเสร็จแล้วผมก็แบกกระเป๋าจะออกมานั่นแหละ ผมก็บอกคนในแผนกว่าเดี๋ยวเสร็จงานทางนั้นจะรีบกลับมาช่วยงานตรงนี้ต่อ พี่ในแผนกก็บอกว่าแหม งานรัดตัวจริงๆนะอีโทน ผมก็บอกไปว่าจริงๆก็ไม่อยากทำหรอก แต่ทำไงได้ ก็คู่ค้าของเรา



เขาเรียกขอทีมงานเมื่อ 3 ปีก่อนนี่ครับ หัวหน้าก็บอกเออๆๆ รีบไสหัวไป ขืนอยู่ต่อเดี๋ยวก็มีคนชวนคุยอีกไปๆๆ จะทำงาน ผมก็บอกโอ้โห หมดหน้าที่แล้วไล่เลย พี่เขาบอกเออๆ จะไปดีๆหรือจะให้โยนงานให้ ผมก็รีบชิ่งเลยครับแบบนี้ พวกพี่ๆเขาก็บายบายอีโทน พอเดินออกมา.. เอ้าเหมียวอยู่ตรงนี้ได้ไงนิ




ก็ว่าอยู่ว่าหายไปไหนไม่เจอเลย พอเจอกันเหมียวก็ว่าเอ้า บังเอิญจังน๊อ ผมก็บอกจ้ะบังเอิญจริงๆ เหมียวก็ยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆแล้วบอกเราไปส่ง ผมก็อื้มไปสิ่ เราสองคนเดินลงมาข้างล่างแหละครับ เหมียวก็ถามว่าแล้ววันนี้ต้องนอนพักที่นู่นเหรอ ผมก็บอกอื้มใช่ ถ้าให้เทียวไปเทียวมา มันเสียเวลาพักผ่อนน่ะ



แล้วอีกอย่างหลังนี่ก็ใกล้จะถึงวันที่ต้องทำงานแล้ว การประชุมอะไรก็คงมีเยอะขึ้นน่ะ เหมียวถามนะว่าแล้วตอนนี้ยังปวดแขนขาอยู่ป่ะ ผมก็ขยับๆๆ แล้วบอกอื้อยังเจ็บนิดหน่อย แต่ก็คงไม่เป็นอะไรมากหรอก ว่าแต่เหมียวแว๊ปมาแบบนี้เดี๋ยวหัวหน้าก็บ่นอีก เธอยิ้มครับแล้วบอกว่า



เราไม่ค่อยโดนบ่นหรอก ไม่เหมือนโทนคนบ้าอะไรทะเลาะกับหัวหน้าตลอด ผมก็ถามว่าเดี๋ยวก่อนนะนี่เห็นเราเป็นคนยังไงเนี่ย เหมียวก็บอกว่าไม่รู้สิ่น๊าก็พูดตามที่ตาเห็นนี่นา ดูดู๊ดู ดูเธอทำ เหมียวก็บอกว่ายังรอไปกินข้าวอยู่นะ ผมก็... อืมมม รอเหมือนกันแหละ แต่ว่าตอนนี้มันแว๊ปออกมาไม่ได้อ่ะดิ่ เหมียวก็บอกค่าๆ รู้แล้วน่า




อืมมม มันเป็นความรู้สึกที่แปลกๆนะ แต่แปลกในที่นี้ไม่ใช่ว่ามันแย่อะไร ถ้าใครได้อ่านทะเลในตอนที่ 0 กับ 1  จะรู้เลยว่าผมเนี่ยคนแอบชอบเหมียวมาก่อน ก็ไม่เชิงแอบหรอก คนอื่นรู้หมดเฉ๊ยยยยย แล้วแบบเฟรนด์โซนอ่ะ เฟรนด์โซน แข็งเป๊กยิ่งกว่า วอลล์มาเรียอีก ไททัน 120 เมตรก็เตะไม่แตก



อืมม แล้ววันนี้คนที่ผมชอบเธอดูเหมือนยังไงดีล่ะ ผมก็ไม่กล้าคิดหรอกว่าเธอชอบผมน่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเหมียวเป็นคนที่ฮอตพอตัวเลยนะ แต่แปลกที่แผนกเราไม่มีใครจีบเธอเลยจะมีก็ผมนี่แหละที่แอบชอบเธอ แต่ว่าแผนกอื่นนี่สิ่แม่งขายขนมจีบยิ่งกว่าเซเว่น แล้วตอนนี้เหมียวก็ชวนกินข้าวบ้างอะไรบ้าง



โอเคล่ะมันก็รู้สึกดีในส่วนนึงนะ แต่ที่แปลกใจคืออะไรที่ทำให้เหมียวเปลี่ยนไปมากพอสมควรหลังจากกลับทะเล แต่ช่างเถอะนะ หรือว่าสิ่งที่เราเป็นมันคือ FWB กันนะ คือทุกอย่างที่ทำตอนนี้มันเหมือนปกติมากเลยนะ จบจากทะเลก็แค่เข้าใจกันมากขึ้น แต่แทบไม่พูดถึงเรื่องที่ทะเล



แต่สิ่งที่นึงที่ผมรู้สึกได้เลยคือเหมียวพูดกับผมมากขึ้น หรืออาจจะเป็นเพราะเธอรู้ว่าผมเคยคิดกับเธอยังไงกันแน่นะ หรือว่าพอเธอเข้าใจว่าดาวเป็นแฟนผม เธอเลยไม่กลัวผมจะคิดอะไรกับเธออีกเหมือนเมื่อก่อนและกล้าเข้ามาคุยมากกว่าเดิม เฮ้อ ปวดหัวว่ะ เรื่องรักๆใคร่ๆ และความในใจของมนุษย์นี่มันสุดหยั่งถึงจริงๆว่ามะ



ผมถามว่าแล้วนี่ยังไงเลิกงานแล้วไปไหนล่ะวันนี้ เหมียวบอกว่าก็นัดกับเพื่อนอีกแผนกไปกินข้าว ไปเดินเล่นกันอ่ะแหละ แต่ว่าเสร็จแล้วก็คงกลับห้องเลย อยากพักมากกกก เนี่ยพักเที่ยงงานก็รออีกเยอะเลย เหนื่อยสมองแย่ๆ ผมก็บอกอื้ม ก็กลับบ้านแล้วก็อย่านอนดึก



เหมียวก็บอกว่าโทนนั่นแหละ ผมก็บอกว่านอนดึกไม่ได้หรอก ช่วงนี้ไม่เกิน 5 ทุ่มเราก็น็อคแล้ว เหมียวบอกอื้อๆดีๆ จนมาถึงหน้าบริษัทเหมียวก็ถามว่าจะไปยังไงอ่ะคราวนี้ รถไฟฟ้า หรือ อะไร ผมก็บอกว่าคงต้องยอมเสียเงินนั่งTaxi น่ะ เพราะถ้าไปถึงเร็ว อย่างน้อยก็มีเวลานอนหน่อย



เหมียวก็อื้อโอเค ผมก็บอกนะว่าไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวเราเรียก Taxi เองเหมียวก็บอกโห รอให้รถมาก่อนก็ได้ป่ะ ผมก็บอกอ่ะๆมาละ แล้วรถก็มาพอดี เหมียวก็เดินกลับไปและหันมาโบกมือบ๊ายบายอีกที... อื้ม แบบนี้มันก็ดีพอดูเลยนะ แล้วแปปเดียวเท่านั้นแหละพอผมขึ้นรถ




เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา ชิบหายละพี่หมิวโทรมา ผมนี่รับสายให้ไวเลย กะว่าจะฮัลโหลครับเจ๊ แต่พี่หมิวก็ชิงพูดมาก่อนว่า เดี๋ยวนี้ป๊อปเนอะ ( ย่อมาจาก ป๊อปปุล่า )  มีสาวๆเดินมาส่งขึ้นรถด้วย โหตอนนั้นผมหันซ้ายหันขวาเลยครับตอนนั้น ผมก็ถามว่านี่เจ๊อยู่ในไหนเนี่ย พี่หมิวก็บอกว่าอยู่ตรงไหนก็ได้ของใจป่ะ



ผมก็บอกเปล่าครับ พี่หมิวก็บอกอื้มแค่นี้แหละ ผมก็ถามว่าเอ้าโทรมาแค่เนี้ย พี่หมิวก็บอกนะว่า ใช่ก็แค่นี้แหละหมั่นใส้ก็เลยโทรมา แล้วก็วางไปเลย ผมก็เอ้าอะไรวะ ผมหันมาขอโทษพี่ Taxi อีกทีเพราะว่ายังไม่ได้บอกเลยว่าจะไปที่ไหน หลังจากนั้นราวๆ 20 นาทีนะ ผมก็มาถึงบริษัทพี่แมน




เฮ้อ นี่ถ้าไม่ได้เงินเบี้ยเลี้ยงนะบอกตรงๆ ราคาขนาดนี้ผมปาดเหงื่อแน่นอน ระยะมันก็ไม่ได้ไกลกันมากนะ แต่ปัญหาคือไอ้ไฟแดงนี่แหละ ไม่รู้จะมีเยอะไปไหน มีเยอะก็ไม่เห็นจะช่วยเรื่องปัญหาจราจรเล๊ย พอมาถึงผมก็เดินไปที่โรงยิมเลยนะ ไปถึงก็ติ๊ดบัตรเข้าไปในโรงยิม แล้วก็เลี้ยวไปห้องพักพนักงานเลย



แม่จ้าวก็พูดหยาบหน่อย เย็ดเข้ นะ นี่ห้องพักพนักงานเหรอเนี่ย เฮ้ย ผมจะได้ว่าเมื่อ 3 ปีก่อนไม่ได้ดูดีแบบนี้ คือถามว่าดีมั้ย มันดี เมื่อ 3 ปีก่อนมันก็ดี ไม่ได้แย่เลย แต่ว่าตอนนี้โอ้โห ผมนี่โคตรเศร้ารู้สึกว่าพอผมออกจากทีมนี้ไป ทำไมอะไร ๆ ๆ มันดูเจริญมากเลยเนี่ย แม่จ้าว



แล้วห้องแยกเลยนะ คือใครอยากจะพักก็ได้นะแต่ว่าก็ต้องจ่ายส่วนต่างนิดนึง คือมันเข้าใจได้นะครับเรื่องการจ่ายเนี่ยคือ คนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ส่วนมากก็จะเป็นคนที่มีครอบครัว เพราะแน่นอนว่าที่นี่ไม่อนุญาติให้บุคคลภายนอกเข้ามาพัก แม้แต่คนในครอบครัว ส่วนใครที่อยากได้ที่พักระหว่างหาที่อยู่ ก็ได้มาอยู่ที่นี่แหละครับ ถึงจะบอกว่าเสียค่าใช้จ่าย



แต่ก็เป็นแค่ค่าน้ำ ค่าไฟ นิดๆหน่อยๆแหละครับ เพราะเอาจริงๆมันก็ถูกสร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทีมการ์ดนั่นแหละ แต่ถ้าวันไหนมีภารกิจก็จะไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไร เพราะมันคือช่วงเวลางาน พอผมมาถึง ก็มีใครบางคนโทรมาครับ โหล ทำไรอยู่ โอ้โห เสียงเย็นเจี๊ยบเลยครับ 



ผมก็ตอบไปว่าก็คุยโทรศัพท์อยู่ไง ปลายสายก็ถามว่าเมื่อเช้ากินข้าวยัง ผมก็เลยถามไปว่าแล้วทำไมเมื่อเช้าไม่มาส่งล่ะ ก็นั่นแหละครับ มิ้นต์เป็นคนโทรมาครับ พอผมถามไปแบบนั้นมิ้นต์ก็บอกหลับ ไม่รู้ เหนื่อย ง่วง ผมก็บอกจ้ะ จ้ะ หลับก็หลับ มิ้นต์ก็ถามนะว่า



ตกลงเมื่อเช้ากินเข้ายัง ผมก็บอกว่ายังน่ะตื่นสาย แต่ว่าเมื่อกี้กินแล้ว มิ้นต์บอกอือ แล้วตกลงนี่ต้องไปพักจริงๆใช่ป่ะกลับอีกทีวันไหน ผมก็บอกไปว่าถ้างานเสร็จก็กลับเลย ผมก็ถามนะว่าอืมม กลับไปแล้วมาหาที่หอพักหน่อยดิ่ มิ้นต์ก็บอกไม่ไปหรอก รู้นะว่าชวนไปทำไม ผมก็บอกเอ้าก็อยากให้มาหานี่นา แล้วอยู่ดีๆมิ้นต์ก็ถาม



[ มิ้นต์ ]   :  ถึงยัง


ผมนี่ฮึ๊ !!! เลยนะ ผมถามเดี๋ยวๆๆ อะไรถึงอะไร มิ้นต์ก็บอกว่าก็ถึงที่พักไง คิดอะไรอยู่เนี่ย วันๆคิดแต่เรื่องเดียว ผมก็บอกนะว่าแล้วคนตอบมาเหมือนรู้เนี่ย คิดอะไรอยู่ ถ้ามิ้นต์ไม่คิด มิ้นต์ก็คงไม่พูดจริงป่ะ แล้วมิ้นต์ก็พูดมาคำนึงนะ เป็นคำพูดที่ฟังแล้วชื่นใจจริงๆ มิ้นต์บอกว่า พี่อย่ากวนตีนได้ป่ะ...  เป็นไงล่ะครับ เจ้าหญิงน้ำแข็ง เย็นฉ่ำเลยมั้ยล่ะ










 











เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

pd19811983

กวนเจ้าหญิงก่อนนี่เนาะเลยโดนเลย รอมานานได้อ่านแล้ว ขอบคุณครับที่เอามาลงให้อ่าน จะลงแดงละ

only1A

จองโต๊ะแถวหน้าๆ
คุณรุกะนี่พอจำได้ รุกใหญ่เลยๆ


miru_mishi


zeebraa

จองโต๊ะถัดมาครับ มาไวมาก สมที่รอคอย อยากให้มาไวแบบนี้ตลอด ทุกตอนทุกภาค ครับ

cantonaa


usman1963

ผมว่า ถ้าผมเป็นคุณโทนก็คงงงกับเพื่อนรวมงานนะ คือ เราคิดว่ามันก็ไม่ได้เรื่องใหญ่ ทั้งที่จริงๆคือใหญ่อะ

kingome

เปิดโต๊ะเลยครับบบ สาวๆรายล้อม
แต่แอบคิดถึงรุกะแล้ววว

พูดถึงก็มาเล้ยยยยย  กางโต๊ะรอตอนต่อไปนะครับบบบ

ieaky

จองโต๊ะด้วยคนนรับ นึกว่าไม่เปิดซะละร้านเกะวันนี้ สารวัตรโทนปลอมตัวมา 555
อ่านแล้วแอบอมยิ้ม เจ๊หมิวแกซอฟท์ลงกับท่านโทนเยอะเลย แถมโดนรุกะรุกหนักแบบนี้ชักอยากอ่านภาคเชียงใหม่ต่อไว ๆ แล้วละสิว่าท่านโทน... กับคุณรุกะยังไงต่อถึงทำให้ รุกะเหมือนคลั่งรักท่านโทนซะขนาดนี้
ว่าแต่จะมีแมทรีเทิร์นของพี่พลอยกับคุณล่ามจอยโผล่มาต่อในร้านเกะในตอนข้างหน้ามั้ยนี่ to be continued

meendavid



au2000

เป็นไงละเจ้าหญิงน้ำแข็ง พูดหวานจัง
น้องโทนต้องฟิตร่างกายให้ดี สาวๆเยอะ

❖SynchroNight❖

ได้อ่านแล้ว ดีใจจัง ติดตาม จนติดงอมแงมเลย ขอบคุณน๊าคุณโทนนนน