ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_magna67t

แฟนกู ภาค 4 ตอน 2 ชีวิตใหม่

เริ่มโดย magna67t, มกราคม 05, 2022, 11:03:57 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

magna67t

แฟนกู ภาค 4 ตอน 2 ชีวิตใหม่

แฟนกู ภาค 1  https://xonly8.com/index.php?topic=240071.0
แฟนกู ภาค 2  https://xonly8.com/index.php?topic=242119.0
แฟนกู ภาค 3  https://xonly8.com/index.php?topic=244070.0

...............................................................................

   "เฮ้ย...ทำไรอยู่วะ...โบ๊ต  กูโทรไปหาตั้งนานแล้ว  มาหาแปมเร็ว  ความดันตกมาก"
   "เฮ้ย....จริงดิ  พี่ป้อง  ผมไปเดี๋ยวนี้..."

   ผมวางโทรศัพท์แล้วแทบจะผลุนผลันแต่งตัวจนโมโนนอนงงที่เตียง
   "โมโน   แปม..เอ่อ...ความดันตกมาก  โบ๊ตไปก่อนนะ"
   "โมโนไปด้วย"

   ผมขับรถแบบไม่คิดชีวิต  จากเยาวราชมา รพ.จุฬา แค่เพียง 5 นาทีเท่านั้น  แล้วผมก็วิ่งราวกับไม่มีโมโนมาด้วย  พอถึงห้องเท่านั้น  พี่ป้อง พี่โบนัส พี่เพชรยืนอยู่  และมีพี่หมออองโค (หมอด้านมะเร็ง) อีกคนที่ผมคุ้นๆหน้ายืนอยู่   แม่และพ่อแปมยืนข้างเตียงของแปม  ผมยกมือไหว้ทุกคน  ก่อนเดินเข้ามาหาแปม  เพื่อนรักของผมที่กำลังจากไป....

   "แปม  แปม  เราโบ๊ตนะ  ทำใจดีๆไว้ก่อน  โบ๊ตรู้นะ..แปมได้ยิน  แปมไม่ต้องตอบโบ๊ต  โบ๊ตจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กะแปมนะ  แปมไม่ต้องห่วงเลย  ตอนนี้แค่หายใจลึกๆนะ  ทำใจให้สบายไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น"

   ผมยืนน้ำตาไหล จนมันหยดลงบนมือเพื่อนที่ผมจับอยู่  ผมดูแลแปมมาตลอด 5 ปี  ผมไม่คิดกะแปมเป็นแฟน  แต่ผมรู้สึกห่วงใยเธอเสมอ  ผมพยายามเป็นเพื่อนที่ดีกะแปมหลายครั้งจนโมโนเองบางครั้งก็น้อยใจและงอนผมบ้าง   ผมไม่เคยล่วงเกินแปมอีกเลยนับจากเมื่อครั้งสุดท้ายตอนปีหนึ่ง แต่ผมคิดกะแปมเป็นเพื่อนเสมอ  ชีวิตเธอน่าสงสารมากๆ 

   "หมอโบ๊ต..หักห้ามใจนะ  ตอนนี้เราทำได้ก็แค่...อยู่เป็นเพื่อนแปม...แล้วกัน" พี่โบนัสพูดขึ้นมา  และเดินเข้ามาโอบไหล่
ชีพจรของแปมอ่อนลงมาก  มันเป็นสัญญาณที่ไม่ดีที่สุดแล้วของการจะมีชีวิตต่อไปอีก
   "พี่ป้องครับ เราให้ยากระตุ้นหัวใจเพิ่มได้มั๊ยพี่..."
   "เออ....พี่กะพี่สุเมธทำให้หมดทุกอย่างแล้ว  ทำก่อนที่หมอโบ๊ตบอกแล้วหละ  มันได้แค่นี้จริงๆ  พี่ว่า...พวกเราน่าจะออกนอกห้องนะ  ให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีเวลาคุยกะแปม  เรามาลาแปมกันเถอะ..."
   
   จากนั้นพี่ป้องก็เดินนำทุกคนเข้าไปจับมือแปม และพูดอำลาแปมเป็นครั้งสุดท้าย  โมโนมองหน้าผม  ผมไม่มีอะไรปกปิดโมโน  ผมบริสุทธิ์ใจ  ผมร้องไห้จริงๆ  โมโนเอามือมากอดผม  ผมกอดเธอแน่น
   "ทำไมแปมรีบไปจัง"
   "โบ๊ต  ทำใจให้สบายนะ  แปมกำลังจะไปดี  เราอย่าเสียใจมากเกิน  เราต้องหนักแน่นนะหมอโบ๊ต  ลาแปมซะ  แล้วตามเราออกมา"
   
   ผมพยักหน้า จริงอย่างที่โมโนพูด  โมโนเป็นคนเก่งเสมอ  เก่งกว่าผมมานานแล้วเรื่องเหตุผลและสิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำ  ผมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนเดินเข้าไปหาแปม  ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะอยู่ข้างแปมจนวาระสุดท้าย  ซึ่งมันกินเวลาเพียงแค่สิบนาทีหลังจากที่โมโนออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย  หน้าของแปมในเวลานั้นคือยิ้มอย่างมีความสุข  และผมก็ร้องไห้อย่างหนักเมื่อสัญญาณชีพของแปมขาดลงไป  เพื่อนผู้เป็นความหวังของคนทั้งอำเภอได้จากไปแล้ว.....

..........................................................

อาจารย์ช่วยดำเนินการให้รถโรงพยาบาลส่งแปมกลับไปที่สกลนครในช่วงเช้าของวันเสาร์  ผมขับรถตามไปพร้อมกับโมโน และพี่ป้องกะพี่โบนัสก็ติดรถมาด้วยกัน  และได้รดน้ำแปมและฟังสวดเธอในคืนแรก

"หมอค่ะ แม่ขอบคุณมากนะคะ"
คุณแม่ของแปมเดินเข้ามายกมือไหว้ผมอีกครั้ง  พร้อมกับส่งถุงให้ผมถุงนึง
"แม่ขอคืนไอ้นี่ค่ะ  แม่คงไม่มีคนให้โทรไปหาแล้ว.. ขอบคุณหมอมากๆนะคะ ที่เป็นเพื่อนเจ้าแปมมันจนวาระสุดท้าย"

ผมเปิดดู  ในนั้นคือโทรศัพท์มือถือที่ผมเคยให้ไว้ใช้คุยกับแปม  น้ำตาผมคลอเบ้า  โมโนเอามือมาตบหลังผมเบาๆ เพื่อเตือนว่าให้ผมหักห้ามใจ

"แม่ครับ  ผมไม่ลืมสัญญาครับแม่  ผมให้สัญญากะแปมไว้แล้วครับ"
"ขอบคุณนะคะ  ไม่ว่าคุณหมอจะทำอะไร คุณแม่ต้องขอบคุณค่ะ  แค่นี้ก็...เกินกว่าชาวบ้านอย่างเราจะคาดหมายแล้วค่ะ...."

แม่ร้องไห้แล้วก็ลุกไปดูแลญาติที่ต่างเศร้าโศกอย่างเหลือคณานับ   พวกเราค้างคืนที่โรงแรมในอำเภอส่องดาวบ้านเกิดของแปม  โมโนเป็นห่วงผมมาก  เธอจับมือผมตลอดเวลา  โมโนไม่ถามเลยสักคำว่าทำไมผมถึงเศร้าโศกมากมายขนาดนี้

"โบ๊ตสัญญาอะไรกะแปมเหรอ"
"อืมม์  ไม่เป็นความลับหรอก  แต่ขอเราทำให้สำเร็จก่อนนะ  เราจะบอกโมโนเป็นคนแรก"

........................................................

ทางด้านหมอปกป้อง

"ปกป้อง เธอยื่นแล้วยังว่าจะไปใช้ทุนที่ไหน"
"อ้อ  โบนัส...ว่าไง  ยื่นแล้ว ก็ตามที่บอกโบนัสไปนะ  ไม่เปลี่ยนใจ ไม่เล่นมุขนะ  ป้องขอไปอำเภอวังทอง พิษณุโลกบ้านเกิดเรา  ตกลงโบนัสก็อยู่บ้านแหลมหรือเปล่า"
"อืมมม์  ป้องไม่เปลี่ยนใจไปอยู่กะโบนัสจริงๆเหรอ  แล้วป้องจะคิดถึงโบนัสมั๊ยอ่ะ"
"โหย....คิดถึงสิ  เราเห็นกางเกงในก็คิดถึงโบนัสตลอดแหละ  โบนัสรู้เปล่า เธอเป็นคนที่สองในโลกนี้ที่ซื้อกางเกงในให้เรานะ"

ได้ผล  โบนัสยิ้มและเอามือตีแขนผมทีนึงแก้เขิน
"บ้า ปี 5 แล้วยังบ้าอีก  เอาเราไปเปรียบเทียบกะกางเกงใน...เชอะ เราก็เห็นชุดชั้นในแล้วก็คิดถึงคนซื้อเหมือนกันแหละ"
"โบนัสไม่ต้องห่วงหรอก  เราคิดไว้แล้วหละ  อันแรกนะ ป้องจะโทรไปหาทุกวัน  ไลน์ไปหาเมื่อว่าง  แล้วก็ไปหาเมื่อหยุดหลายวัน"
"ให้จริงๆเหอะ  เดี๋ยวก็ทำไม่ได้  เออเนี่ย  แม่เราบอกว่า อยากใช้เงินคืนแทนใช้ทุนก็ได้นะ"
"โอ๊ย...อย่าเลยโบนัส  เราว่าทำงานให้คนที่จ่ายภาษีให้เราเรียนก่อนเหอะ  เราอดทนกันสักสองปีนะ  มันไกลหน่อย  แต่ป้องคงไม่เปลี่ยนใจหรอก..."
   ...........................................................

   ผม (ปกป้อง) เรียนจบแล้วครับ  พร้อมโบนัสและเพชร  คนนึงเป็นแฟนที่รักมากๆอีกคนเป็นเพื่อนที่รักมากๆ  พี่โบ้จบไปนานแล้วด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง เกรด 4.00  พี่โบ้ใช้ทุนเสร็จแล้วตอนนี้ไปเรียนที่บอสตันด้านศัลยกรรมพลาสติก  ส่วนพี่แหววก็ใช้ทุนที่เชียงราย   ผมได้ไปใช้ทุนที่อำเภอวังทองตามที่ผมเลือกไว้  และโบนัสก็ได้กลับไปบ้านเกิดที่บ้านแหลม  ส่วนเพชรกลายเป็นเพื่อนซี้โบนัส  เธอเลยเลือกใช้ทุนที่อำเภอท่ายางไม่ไกลจากโบนัสเท่าไหร่  การที่มีเพชรไปอยู่ด้วยกลายเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับผม

   "แกนะไอ้ป้อง  แกต้องจ่ายค่าคุ้มครองไอ้โบมาด้วย"
   "แกจะคุ้มครองอะไรวะ..ไอ้เพชร  แกอยู่โน่นท่ายาง  เวลาโบนัสมีไรฉุกเฉิน  แกจะทำไง"
   "เสือกมาถามชั้น  แล้วแกจะทำไง  อยู่พิษณุโลก จะเหาะมาหรือไง  ต้องกูเนี่ยหละ  เอาน่า ไม่ต้องห่วง  เรื่องไอ้พีท ไอ้โบมันยังเก็บหมัดเด็ดที่พี่โบ้ให้ไว้อยู่  ที่ชัวร์คือ ชั้นก็มีก้อปปี้นั้นด้วย  ถ้าไอ้โบพลาดพลั้งทำหายไป  ชั้นช่วยได้"
   "เออ ฝากโบนัสด้วยแล้วกัน  แล้วมาเที่ยวหากูมั่งนะ"
........................................................

   การเริ่มงานเป็นแพทย์จบใหม่ มันแสนจะวุ่นวาย  ผมไม่ห่วงเรื่องความรู้  แต่ห่วงเรื่องประสบการณ์เท่านั้น  พี่โบ้เคยบอกว่า คนที่มาหาหมอนั้นน่ะ เค้าฝากความหวังฝากชีวิตไว้ที่เรา  เราจะพูดอะไรคิดให้ดี  เพราะเค้าจะเชื่อและทำตาม  ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพหรือเรื่องอะไรทุกอย่าง  แต่มันก็ไม่ง่ายนะพี่โบ้....

   "สวัสดีค่ะ หมอปกป้อง หมอจันจิรา  พี่ชื่อเอมอรค่ะ  เรียกว่าพี่เอมนะคะ  ตอนนี้ก็อย่าเรียกเป็น ผอ. เลยนะ  ดูห่างเหิน  อายุเราไม่น่าจะห่างกันมาก  พี่ดูประวัติแล้วก็ห่างจากน้องๆ 5 ปีนะ  หมอป้องเป็นแพทย์นะ  หมอแอมเป็นทันตะ  ทำความรู้จักกันนะ  บ้านพักอยู่ใกล้ๆกัน  เราจะเป็นทีมเดียวกันและช่วยกันไปสองปีเป็นอย่างน้อย  ขาดเหลืออะไรบอกพี่ มีปัญหาอะไรบอกพี่นะ  เราต้องช่วยกันแหละ"

   ผมนั่งฟังพี่เอมบรรยายสภาพทั่วไปของโรงพยาบาล และก็รับทราบรับรู้ รพ นี้มีแพทย์แค่ผมกะพี่เอม  ทุกวันต้องมีแพทย์ประจำคนนึงเสมอ  เป็นหมอที่ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามตาย ห้ามหาย ห้ามลา ห้ามขาด   พี่เอมเล่าว่าขอจำนวนน้องใช้ทุนเพิ่มเป็นสองคนมาสองปีแล้ว  เงียบหาย  แต่พี่เอมเป็นคนที่รักงาน..สู้งานและไม่คิดจะย้ายไปจากวังทอง  ผมนับว่าโชคดีที่พี่เอมใจดี 

   "ป้องงงงง  ไปหรือเปล่า"
หมอจันจิราหรือที่เธอชอบให้ผมเรียกชื่อเล่นว่าแอมตะโกนเรียกผม  วันนี้พี่เอมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับพวกเรา รวมทั้งจะแนะนำให้รู้จักกับทีมงาน รพ วังทองทุกคน 
"หมอแอม  รอแป๊บ  เดี๋ยวๆนะ  เอ้า...รองเท้าอยู่กล่องไหนวะเนี่ย ...."

ผมแต่งกายลำลองลงมา ทีเชิร์ตกางเกงยีนส์  พี่เอมพาไปร้านอาหารที่ดีที่สุดของวังทอง  ผมนั่งติดกับหมอแอม  เราสองคนแทบไม่ได้กิน  ทุกคนเดินมาทำความรู้จักทักทายกัน  ตั้งแต่พี่หัวหน้าพยาบาลจนถึงภารโรง  สิ่งแรกที่ผมรู้สึกคือเป็นทีมที่รักกันมาก และช่วยเหลือเกื้อกูลกันเสมอ 

"อ่ะ เธอสองคนลงนี่นะ  บ้านพี่อยู่อีกฟากนึงของตึกนี่  มีอะไรโทรบ้านเลย 5222 มือถือก็ได้ เมมเบอร์พี่กันแล้วใช่มั๊ย  พรุ่งนี้ก็พักผ่อนจัดของกันนะ  วันจันทร์เราลุยกัน"
เราสองคนร่ำลาพี่เอม  บ้านผมอยู่ติดกับบ้านของหมอแอม มีแค่รั้วพู่ระหงกั้นอยู่นิดเดียวเท่านั้น

"ป้อง...หิวข้าวว่ะ  มีมาม่าหรือเปล่า..."
"ตลกแล้วหมอแอม  เมื่อกี้พี่เค้าเลี้ยง  หมอเอาแต่คุยอ่ะ  เอาๆ...มาดิ  ถ้าไม่รังเกียจก็มาที่บ้านผมได้  ยังไม่ได้จัดของเลยนะ  ลังเยอะแยะ"

หมอแอมเป็นแขกคนแรกของบ้านพักหมอของผม  บ้านผมไม่มีอะไรมากครับ มีสองชั้น ชั้นบนก็มีห้องนอนห้องใหญ่ห้องนึงห้องเล็กห้องนึง มีห้องน้ำ  ข้างล่างมีครัว มีห้องน้ำ แล้วก็ห้องนั่งเล่น  ใหญ่กว่านี้ผมก็ไม่เอาแล้วครับ  ถูบ้านก็ตายแล้ว  ห้องนอนมีแอร์แต่ผมคุ้นเคยกับการไม่เปิดแอร์นานแล้ว  สภาพบ้านยังดีอยู่ทุกอย่าง

"ถ้าเราเป็นแฟนกัน  หลวงก็ประหยัดบ้านไปได้หลังนึงเนอะ"

แอมพูดขึ้นมาหลังจากที่มาม่าคำแรกเข้าปากไป  แต่มันทำให้ผมถึงขั้นต้องหันหน้ามามองคนพูด  แอมยิ้ม  ผมเพิ่งสังเกตว่าแอมมีลักยิ้มน่ารักด้วย 

"เอ่อ...เอาเหอะ  ผมว่าเค้าอยากให้เราสบายในระดับนึงแหละ  เราคงต้องทำงานหนักอ่ะนะ"
"ป้อง  ขอร้องหละ...อย่าเรียกตัวเองว่า ผม เลย  ขนลุกอ่ะ  เรียกป้องก็ได้ กูก็ได้ และขอร้องอย่าเรียกหมอแอมเลย   มันดูเป็นทางการจัง  เรียกชื่อเล่นนี่หละ เรียกมึงก็ได้   นะ..นะ...เราก็รุ่นเดียวกัน  ผม เอาไว้ใช้กะพวกพี่ๆที่นี่แล้วกัน"
"เออ ก็ได้..อ่ะ  อิ่มหรือเปล่าอ่ะ  เอาอีกห่อมั๊ย  หรือออกไปกินบะหมี่กันเลย"
"เฮ้ย  อย่าชวนอย่าท้าเรื่องกินนะ...ขอบอก...สู้ตาย 5555"

แอมเพื่อนใหม่ผม ดูร่าเริงแจ่มใส อัธยาศัยดี  เธอก็ผู้หญิงขนาดมาตรฐาน  หน้าตาก็น่ารักไปอีกแบบ  ผมอยู่กะเธอวันเดียวผมก็รู้สึกสนิทสนม  และผมก็ยอมเธอ  พาเดินออกไปหน้า รพ นั่งกินชายสี่อย่างเป็นเรื่องเป็นราวกะยัยหมอแอม

"นี่จะบอกอะไรให้นะป้อง  เราไม่ชอบนอนคนเดียวอ่ะ  กลัว..."
"เอ๊า  กลัวไรวะ  แล้วจะทำไง..."
"โห... ยิ่งบ้านแบบนี้นะ  มืดทั้งถนน  อย่างกลัวเลยอ่ะ  เราเคยโดนผีหลอกตอนเด็กๆอ่ะ  กลัวมาก  อยู่คนเดียวไม่ได้   ไหว้หละ...ขอนอนห้องเล็กได้มั๊ยอ่ะ"
 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Tosak7483


sammyadong

นอนห้องเล็กแล้วก็ขยับมานอนห้องใหญ่

ylnox xonly

ยอมเสียตัว ไม่ยอมนอนคนเดียวกลัวผี
ว่าแต่หมอแบบไหนนะที่กลัวผี

jukjik


manu111


D4rthvader

หมอป้องงงงงงงงงงงงงงงงง จัดอีกแล้วว

wolfsburg7

มีตัวละครใหม่มาด้วย หมอแอม ภาคนี้จะปวดตับ ม้ามพังมั้ย

phaii

หมอแอมอ่อยแรงมาก ชะตา ห.ขาดแน่นอน

torl31


tatong2222

ปกป้อง​จะโดนหลอกล่อ​รึป่าวเนี่ย​ แต่​มาถึง​ขนาด​นี้​แล้ว​ ก็​ยอมๆไปเหอะนะ​ อย่าลืมคิดถึง​โบนัส​บ้างแล้ว​กัน ::Hmmm::

peddo

#11
ดูท่าไม่น่าไว้วางใจ หมอฟันขะฟันหมอซะแล้ว สงสัยต้องให้เพชรปลอบใจโบนัสไปพลางๆ
มือไวจริงๆ หมอฟันของเรา คว้าทีเดียวผ้าหลุด ป้องไม่รอดแน่

ผู้เฒ่าเซราะกราว

เป็นชีวิตหลังจากเรียนจบแล้วไปชดใช้ทุนสินะ ว่าแต่เจอหมอแอมอ่อยขนาดนี้จะรอดไหมเอ่ย

ones26421


ryg123456

เจอหมอมาอ่อยแบบนี้ หมอป้องท่าจะไม่รอด