ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 6 ] ตอนที่ 79 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มกราคม 14, 2022, 01:21:36 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ร้านอื่นปิด แต่ร้านเราเปิดดดดดด

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา




★★★★★★★★★★★




ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง


สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ








★★★★★★★★★★★



ขออนุญาตแนะนำสาวๆ สักหน่อยครับ




★★★★★★★★★★★



คุณรุกะ









★★★★★★★★★★★


พี่เตย หรือ นางพญามาร...







★★★★★★★★★★★



พี่หมิว







★★★★★★★★★★★


ความเดิมตอนที่แล้ว



หลังจากที่มิ้นต์และแก้มเอาแซนวิชมาให้

ผมรับมาแล้วก็เดินกลับมาที่ห้องครับ

แต่ว่าจอยก็มาเคาะประตูห้องแล้วบอกมีเรื่องงานจะคุย

แล้วขอเข้ามาในห้องได้มั้ย


★★★★★★★★★★★



นายโทนไดอารี่ตอนที่ 79



ผมก็เปิดประตูให้เข้ามาแล้ว ตัวผมก็อ้อมไปอีกด้านของเตียงแล้วก็นั่งพิงจะนอน ผมบอกว่ามีอะไรก็บอกได้เลยนะคุณจอย เธอก็บอกเดี๋ยวสิ่คะคุณโทนทำไมทำแบบนี้ล่ะ ผมก็บอกว่าผมเหนื่อยมากๆเลยคร๊าบบบบ มีอะไรรีบพูดเลยก่อนผมจะหลับ เธอก็บอกว่าเดี๋ยวค่ะนี่คุณโทนคนเดียวกับที่เชียงใหม่เปล่าคะ



ทำไมดูเอ้อระเหยแบบนี้ล่ะ ผมก็บอกว่าคนเดียวกันนี่แหละครับ แต่ตอนนี้ผมไม่ต้องแบกหน้าที่มูลค่า 8 หลักแล้วผมก็อยากสบายๆบ้างคุณจอยนั่นแหละ ทำแต่งาน ๆ ๆ ๆ เดี๋ยวก็เครียดหรอก เธอบอกว่าก็เธออยากก้าวหน้ามากกว่านี้ มีงานอะไรดีๆเข้ามาก็ต้องรับสิ่ ผมก็เลยตัดบทว่านี่มันชวนผมทะเลาะเหรอ งั้นราตรีสวัสดิ์ครับ



จอยก็บอก โหยยย นี่คุณโทนทำไมพลิกแบบนี้ล่ะ ผมก็ถามอะไรเหรอก๊าบบบ เธอบอกว่าก็ผมที่เชียงใหม่คือพร้อมที่จะฟังเธอทุกอย่างนี่นา ผมก็บอกว่าช่ายยยยยยย ตอนนั้นผมเหมือนเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุด ผมก็ต้องรับฟังคุณจอยนี่ครับ ผมไม่อยากให้คุณจอยต้องกดดันที่ต้องมาทำงานกับคนที่ประสบการณ์น้อยกว่า



อายุงานน้อยกว่า เพราะงั้นการเปิดรับฟังมันคงเป็นวิธีที่ทำให้คุณจอยทำงานได้ง่ายและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่คุณจอยจะต้องฟังหรือมีขั้นที่สูงกว่านี่คร๊าบบ คราวนี้คุณจอยต้องขึ้นตรงกับทางคุณเคย์โดยเฉพาะเลยเพราะงั้น กัมบาเระ หรือ แปลว่า สู้ ๆ ๆ



แต่ผมก็ยังถามนะว่าแล้วข้อมูลที่ผมควรรู้มีอะไรบ้างรบกวนบอกด้วยนะคร๊าบบ จอยก็มานั่งตุ้บข้างๆ แล้วบอกว่า แต่ว่าชั้นต้องทำงานกับคุณนะคะก็คุณต้องใกล้ชิดกับคุณรุกะ ผมก็บอกว่าแต่คุณรุกะพูดไทยได้ ฟังไทยได้ เธอบอกว่าแต่คนรอบข้างเธอพูดญี่ปุ่นนะคะ แล้วถ้าคนรอบๆข้างหันมาพูดกับคุณล่ะจะทำไง



คือเคยมั้ยครับท่านผู้อ่าน คือรู้อ่ะว่ายังไงก็ซวย ถ้าเอาคนพูดคนละภาษามาคุยกับเรา มันจำเป็นต้องรู้นะเรื่องที่จอยจะบอก แต่คือกรูง่วงไง ง่วงมาก ผมก็หันไปถามจอยที่ตอนนี้มองผมแบบเคืองๆ งอนๆ ผมถามสาวแว่นว่าอืมมม คุณล่ามมีเวลาอีกกี่นาทีเหรอครับ ก่อนที่จะต้องไปทำงาน เธอก็บอก 2 ชั่วโมง มีอะไรเหรอคะ



ผมถามจริงเหรอ แล้วกระโดดขึ้นเตียงเลยแล้วบอกว่า อีก 1 ช.ม. คอยมาคุยใหม่ เอ้อ เอาไงล่ะบทผมจะขี้เกียจนี่ใครก็ทำไรไม่ได้นะเอาจริงๆ จอยเธอเกาะข้างเตียงแล้วตีแขนบอกคุณโทนอ้ะ !!!  ผมก็ห่มผ้าแล้วโผล่มาแค่คอถึงหัวครับแล้วบอกว่า คุณล่ามนั่นแหละทำงานจนเครียดแล้ว เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนใช่มั้ยดูหน้าดิ่



เธอก็เงียบเลยตอนนั้น ผมบอกว่าพิธีการมันอีก 2-3 วันไม่ใช่เหรอ การเตรียมงานให้ดีมันก็ดีนะ แต่ว่าร่างกายของคุณล่ะคร๊าบ เดี๋ยวก็ปวดหัวอีก พักสายตาซัก 1 ช.ม. แล้วมาคุยกันอีกที ผมก็บอกไปนะว่าถ้าตอนนี้ผมฝืนนั่งฟังยังไงผมก็จำไม่ได้ ล่ามสาวแว่นมองหน้าผมแล้วเหมือนกำลังใช้ความคิด



แล้วผมก็ถามว่าเอ...  ได้เอาชุดเมดมามั้ยครับ เท่านั้นแหละจอยสติหลุดเลยกระโดดขึ้นมาทุบๆๆๆๆ ผมก็บอกโอย ผมเจ็บกล้ามเนื้ออยู่นะครับ เธอก็บอกคนบ้าชอบแซวแล้วก็ทุบๆๆๆๆ ผมบอกโอยจอยครับผมเจ็บจริงๆนะเนี่ย เธอก็ยอมหยุด เอ่อ... ทำไมเหตุการณ์มันเดจาวูจังวะ



ผมบอกว่าให้จอยกลับไปนอนพักผ่อน หรือหาที่พักสายตา เอ้อผมก็ถามว่าจะว่าไปแล้วฝ่ายประสานงานแบบคุณจอยนี่เขาทำงานกันกี่โมงเหรอ จอยเธอขยับแว่นแล้วทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจแล้วบอกว่าปกติก็เข้าออฟฟิศค่ะ แต่งานนี้คือเปิดอิสระให้ เพราะปกติแล้วทางคุณเคย์ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่ต้องมาทำงานก็ไม่ชอบให้ไปวุ่นวาย





ผมก็ฮึ๊ ไม่ใช่ว่าคุณจอยต้องตามประกบคุณเคย์เหรอครับ จอยก็บอกว่าถ้าปกติก็ควรเป็นแบบนั้นค่ะแต่ว่า กรณีคุณเคย์แปลกออกไปนิดหน่อย ตอนนี้เขาต้องการความเป็นส่วนตัวเวลาจะพูดอะไรเล็กๆน้อยๆก็ให้คุณรุกะจัดการให้ ผมก็อ้อออ งั้นตอนนี้ว่างก็พักผ่อนสิ่ครับ กลับที่พักแล้วพักผ่อนซะครับ




จอยเธอก็บอกว่าที่พักของชั้นอยู่ห่างจากที่นี่เกือบ 3 กิโลเมตรค่ะนี่ก็ตั้งใจจะมาคุยกับคุณโทนนะคะ เพราะทางทีมงานเขาแจ้งว่าคุณโทนเข้ามาพักที่นี้แล้ว เอ้าผมผิดเฉยเลย แล้วตอนนั้นจอยเธอก็หาวจริงๆผมก็อ่ะด้วยความใจดี ก็ดึงมือจอยไว้ครับ แล้วถามว่างั้นจะนอนที่นี่มั้ย จอยเธอมองหน้าแล้วไม่ตอบครับ แต่ทิ้งตัวนอนเลย




เอ้อบาทจะพูดยากก็ยากชิหาย บทจะว่าง่ายก็ง่ายดีแฮะ แล้วผมไม่ใช่สุภาพบุรุษด้วยเอ้อ ผมไม่นอนโซฟาหรอก ผมจะนอนเตียงนี่แหละ สิ่งที่ผมทำได้คือแบ่งผ้าห่มให้เธอนั่นแหละ จอยขยับมาใกล้ๆ ใกล้ๆ ใกล้ๆ ผมก็ถามว่าไม่ใส่คอนแทคเลนส์มาเหรอครับ เธอก็บอกว่าอยากพักสายตาบ้างค่ะ อืมม... ผมไม่ยักกะเขินนะหรือเพราะเคยทำที่เชียงใหม่แล้ว



ผมขยับตัวขึ้นนิดนึงแล้วก็ถอดแว่นของจอยออก ผมถอดออกเลยแล้วสาวแว่นก็นอนหง่ายยกแขนไว้ข้างหัวแล้วจ้องผมไม่วางตาเลย ผมบอกว่างานมันหนักเพราะงั้นก็ต้องพักผ่อน นอนซะจอย ผมเรียกจอยเฉยๆเลยนะ แล้วก็เอี้ยวตัวเอาแว่นไปวาง แล้วก็ไม่รู้ว่าจังหวะหรือว่าอะไร ตัวของผมมันไปพาดทับหน้าอกของจอยพอดี จอยก็ขยับขยุกตัวเลย ผมก็เอื้อมไปวางแล้วบอกโทษที แล้วก็ค่อยๆเลื่อนตัวกลับมา จ้องตาอีกซักทีแล้วบอกนอนซะ ผมก็ทิ้งตัวนอนข้างๆครับ แล้วอยู่ดีๆจอยก็ดึงผ้าห่มไปหมดเลย ผมก็หันไปเดี๋ยวเถอะครับ



เดี๋ยวได้ซ้ำรอยที่เชียงใหม่ เดี๋ยวผมปล้ำซะหรอกจอยเธอ ผมพูดแล้วก็... ปล่อยไว้งั้นแหละผ้าห่มไม่จำเป็นก็ได้แอร์มัน 25 องศา แถมผมไม่ได้เปิดสวิงบานแอร์ด้วย ก็คงนอนได้แหละ แล้วผมนอนตะแคงแหละครับ เพราะผมใส่กางเกงขาสั้นนอน และตอนนี้แค่พูดเล่นและคิดถึงเรื่องที่เชียงใหม่ มันก็ตั้งละ




ผมนอนได้ซักพักเตียงมันก็ยวบ ยวบ ยวบ จอยขยับมาแล้วเอาผ้าห่มมาห่มคืนครับ แล้วประเด็นคือเธอก็นอนซุกหลังผมนี่แหละ อ่ะผมปล่อยเธอนอนไป..ครับ แล้วผมก็หลับไปจริงๆนั่นแหละ หลับไปเลยจริงๆง่วงๆๆ ตื่นมาอีกทีเพราะขยับตัวครับจอยยังนอนอยู่ท่าเดิมนั่นแหละ เธอขยับมาตัวจะติดผมเลยแฮะ




พอผมขยับดูเหมือนว่าเธอจะตื่นด้วย เธอแหงนหน้ามามองผมก็บอกโทษทีๆ แล้วก็จะนอนต่อแต่เธอกอดเอวไว้ครับกอดแล้วก็หลับตาอ่ะโอเคนอนก็นอน แต่ไอ้จ้อนผมเริ่มตุ้บๆละนะ ผมคิดว่าไม่น่ามีไรหรอกแค่นอนเฉยๆน่ะ ผมหลับไปแล้วครับตอนนั้น จนได้ยินเสียงนาฬิกาในห้องมันแจ้งเตือนว่าสองชั่วโมงแล้ว ผมตื่นมาจอยก็จังกอดเอวผมอยู่



อืมม ดีขึ้นเยอะเลยได้นอนเนี่ย ผมเห็นจอยขยุกๆก็ถามว่า ตื่นยังจอย จอยก็พยักหน้าอื้อๆ ผมถามว่าตื่นนานยัง เธอบอกแปปนึงแล้ว ผมถามทำไมไม่นอนต่อล่ะเธอบอกนอนไม่หลับ แล้วก็กอดผมเข้าไปอีก ผมก็เบรกเลยครับ เพราะไอ้จ้อนของผมมันผงาดละ จอยบอกมันทิ่ม เอ้าซวยละกู



ผมบอกเอ่อ... เราขยับกันหน่อยดีมั้ย จอยก็ขยับนะแต่ขยับเข้ามาใกล้ๆกลายเป็นซุกอกเลยครับ ผมก็บอกเอ่อ.... จอยเธอเงยหน้ามาครับ เวรละหน้าของเธอทำไมเยิ้มๆเคลิ้มๆแบบนี้ล่ะ ผมก็บอกเอ่อจอยๆเราขยับกันออกดีมั้ย เธอก้มหน้าแล้วกอดครับ ผมก็ลูบหัวแล้วถามว่าเป็นไรหืม เธอส่ายหัวเบาๆ ผมก็ถามว่าเป็นไรเนี่ยคุยกันก่อน เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วบอกว่าผมแกล้งเธอ ผมก็หืมอะไร อ้ออ !!! ผมนึกออกละ




ผมรั้งคอเธอขึ้นมาเธอก็เงยหน้ามามองผมนะ ผมพูดว่าถ้างั้น " ดูดดุ้นให้หน่อยสิ่ " แล้วท่าทีของจอยก็เปลี่ยนแปลงเพิ่มอีก เธอเม้มปากนิดนึงผมเห็นลิ้นของเธอเหมือนเลียริมฝีปากเบาๆ แล้วก็พูดกับผมว่า




" ค่ะ นายท่าน "




แล้วจากนั้นสาวเมดแว่นก็เริ่มบรรเลงเพลงปากให้ผมในชุดเมด แล้วจากนั้นผมก็ตื่น... เอ้าฝันเป็นตุเป็นตะเฉยเลย คือภาพตัดแล้วจำไม่ได้ด้วยว่ามันตัดไปตอนไหน แต่ว่าพอตื่นมาจอยก็นอนอยู่ข้างๆแล้ว ผมมองนาฬิกาบนผนัง เออ มันชั่วโมงนึงเลยนี่หว่า ผมกุมหัวเลยกูว่าแล้ว อยู่ดีๆจะเอาชุดเมดมากจากไหน




คือผมว่าพวกคุณต้องมีประสบการณ์แบบนี้แหละคือหลับไม่รู้ตัว และเสือกฝันแบบต่อเนื่องด้วยนะ เฮ้อออ ผมตื่นมาขยับตัวจอยก็ตื่นมาเหมือนกันครับ เธอสะดุ้งเลย ผมมั่นใจนะว่าเธอคงไม่ได้ทำอะไรให้ผมเหมือนที่ผมเอาไปฝันหรอก ผมมั่นใจมากเพราะกางเกงผมยังอยู่ดี และทรงเดิม




พอตื่นมาจอยก็ไปล้างหน้าแล้วมาพูดเรื่องงาน ผมก็นั่งฟัง ๆ ๆ ๆ โอเครู้เรื่องจนผ่านไปเกือบ 30 นาที จอยก็บอกว่าทั้งหมดมีแค่นี้ค่ะ อ้อ โอเค.... งั้นกลับเลยเพราะว่าถ้าเลิกงานแล้วมีคนมาเห็นจอยอยู่ที่นี่ก็คงไม่ดี ผมถามว่าให้ผมไปส่งมั้ย จอยเธอทัดหู ขยับแว่นแล้วบอกได้ค่ะ



ผมเดินออกมาส่งจอยครับ แต่ว่าผมสังเกตนะว่าจอยเธอดูเดินเว้นระยะจากผมพอควรเลย เหมือนกลัวใครเข้าใจผิดอะไรนี่แหละ แล้วจอยก็ยื่นเอกสารมาให้แล้วบอกว่ารบกวนถือด้วยนะคะ ผมก็คงว่าอะไรหว่านั่น เธอบอกว่าถ้าให้คุณโทนเดินมาตัวเปล่าๆคนอื่นเขาจะคิดไปต่างๆนาๆค่ะ ผมก็.... อิหยังวะคือคิดในใจนะอันนี้ ผมก็เลยบอกจอยไปว่า คราวหลังก็โทรมาคุยก็ได้ครับ ถ้าจะกังวลหรือกลัวเสียหายอะไรขนาดนี้





เอ้อเอาจริงๆนะเว้ย ผมก็งงคือจอยเป็นคนมาคุยกับผมเรื่องงานเอง ผมก็บอกว่าคุยข้างนอก คุยข้างนอก แต่เธอก็บอกว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วนแล้วอยู่ดีๆมาบอกงี้เอ้ากูงง... เธอก็มองหน้าผมแล้วพูดว่าแค่นี้ต้องพูดกันแบบนี้เลยเหรอคะ ผมก็บอกจอยว่าจริงๆแล้วถ้าจอยฟังผม แล้วออกมาคุยกันข้างนอกตั้งแต่แรกให้



มันก็ไม่เป็นแบบนี้มั้ย จอยเอางานอะไรไม่รู้ที่ไม่เกี่ยวมาคุยกับผมเนี่ย แล้วยังมากลัวอะไรสายตาคนอื่นมองอีก ก็นั่นแหละครับท่านผู้อ่านเอ๊ย ก็ผมใส่แค่ชุดวอร์มธรรมดาๆ ส่วนเธอแต่งตัวซะจัดเต็มเลย แล้วก็นะที่นี่บริษัทใหญ่ คนทำงานเขาก็แต่งตัวดูดีกันแหละ ผมก็งงนะเอาตรงๆ งงว่าจอยเป็นห่าอะไร




ผมก็หยิบเอกสารดึงมาแล้วถามว่าพอใจหรือยัง ถึงจะหงุดหงิดยังไงผมก็เดินมาส่งนะ ผมอาจจะนิสัยเสียแหละพอมาถึงข้างหน้า ผมวางเอกสารไว้บนโต๊ะแล้วก็บอกงั้นผมกลับละ ถ้าไม่จำเป็นรบกวนอย่ามาที่ห้องพักอีกจะขอบคุณมาก ผมไม่ได้อยากพูดทำร้ายจิตใจอะไรหรอกครับ



แต่พูดให้มันชัดๆเคลียร์ๆไปเลยดีกว่า จอยก็หยิบเอกสารไปแล้วก็หน้าเสียๆนิดนึง ผมไม่ได้โกรธอะไรนะแต่ถ้าเธอกังวลเรื่องคนอื่นมองๆไม่ดีแล้วจะมาที่ห้องเพื่อ ??? จริงมั้ยล่ะ ต่อจากนี้ก็ทำงานร่วมกันตามปกตินั่นแหละเธอทำหน้าที่ของเธอ ส่วนผมก็ต้องทำในส่วนของผมไปนั่นแหละ ผมจะเดินแยกออกมาครับ



แต่ว่าก็เจอพี่คนนึงที่เป็นผู้บริหาร คือ... ไม่รู้เรียกว่าโชคดีหรืออะไรนะที่ได้มาทำงานกับพี่แมนตอนปี 2 เพราะว่าผมต้องไปรู้จักกับพวกผู้บริหารแทบทุกคนครับ บางคนก็ดี บางคนก็คิดว่าเข้ามาด้วยเส้นนั่นแหละ แต่จะว่าไปมันก็เส้นจริงๆนั่นแหละนะบอกเลยว่าตอนนั้นโคตรกดดัน ความรู้เด็กปี2 อ่ะ



แต่ต้องมาเอาตัวรอดในดงยอดมนุษย์ ผมโคตรเครียดบอกตรงๆ ทำงานฝ่ายรักษาความปลอดภัย แต่ต้องมาเรียนรู้งานวิชาการปานฝ่ายบริหาร ปวดหัวเลยผม พี่เขาก็โทน ๆ ๆ  ผมก็ครับพี่ ยกมือไว้ไปทีแล้วรีบเดินเข้าไปหา จอยก็ยกมือไหว้งึกๆ อืม... จอยก็คงต้องรู้จักแหละ



แต่พี่เขายกมือข้างนึกขึ้นมารับไหว้แล้วบอกว่า เฮ้ยว่างป่ะมาช่วยพี่หน่อย ผมก็บอกว่าได้ครับ ทั้งๆที่ในใจผมคิดสัดเอ๊ยเวลานอนกรู แต่อย่างว่าแหละครับตอนนี้ก็เหมือนเป็นพนักงานของที่นี่แล้ว เบี้ยเลี้ยงก็รับมาแล้วถ้าไม่ช่วยอะไรเลยมันก็ไม่ไหวจริงๆ พี่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวมาที่โต๊ะทำงานด้วยกันหน่อยดิ่



ผมแอบมองจอยครับ จอยก็หน้าเหวอนิดหน่อยนะ ผมก็ถามพี่เขาไปว่าจะดีเหรอ ผมไม่ได้เป็นเด็กฝึกงานเหมือนตอน ปี2 แล้วหน่า ตอนนี้ผมทำงานอีกบริษัทด้วยเดี๋ยวมันจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลบริษัทเปล่า พี่เขาก็บอกว่า ถ้าอันไหนมันเป็นความลับเดี๋ยวพี่จะบอก ยังไงซะท่านประธาน ( พ่อพี่หมิว ) ก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่แล้ว



ข้อมูลบางตัวก็ต้องแชร์กันอยู่แล้วแค่รู้ก่อนชาวบ้านเขาเอง ผมก็เอ้า !!! นี่รู้ด้วยเหรอผมทำงานที่ไหนเนี่ย ผู้บริหารท่านนั้นแล้วบอกว่าแหม่ !!! คนที่มีส่วนทำให้บริษัทบรรลุข้อสัญญาการค้า คุณ ( ชื่อจริงผม )  ใครจะไม่รู้จักไปเร็วๆ เขาก็เดินนำผมไปเลย ผมก็เดินตามเข้าไปนะไม่ได้หันมามองจอย



จนมาถึงข้างบน ผมก็ยกมือไหว้รอบทิศเป็น ภราดรเลยตอนนั้นครับ บางคนรู้จักก็เอ้าโทน !!! ว่างายยย ดังใหญ่เลยนะช่วงนี้ บางคนที่ไม่รู้จักก็คง งงว่าไอ้ห่านี่ใคร ผมเดินผ่านห้องทำงาน ผ่าน ผ่าน ผ่าน จนมาถึงห้องทำงานของพี่เขา ซึ่งตอนนั้นก็มีพนักงานในแผนกเข้ามารับกันหลายคน



พอมายืนหน้าห้องพี่เขาก็หยุดคุยกับพนักงานใต้บังคับบัญชานะ ผมก็ยืนรอตามความคุ้นชินที่หน้าห้อง พี่เขาก็คุย ๆ ๆ หือ !!! สายตาคนพวกนี้ทำไมแปลกๆ แต่ช่างเถอะเขาคุยกับพวกพนักงานของเขาไปสักครู่แล้วก็หันมาบอกผมว่าเฮ้ยโทนเข้าไปเอาเอกสาร A  ให้พี่หน่อย



พอบอกแบบนั้นพนักงานคือหน้าเปลี่ยนเลย ประมาณว่าฮึ๊ !!! จริงเหรอ คือเอกสารของบริษัทพี่แมนจะแบ่งตามระดับความสำคัญตามตำแหน่งงานและความรับผิดชอบ



การที่พวกเขาจะทำหน้าแปลกใจก็คงไม่แปลก เพราะระดับ A นั้นพนักงานทั่วไปหรือไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ใส่ชุดวอร์มเข้ามาเดินเล่น คงไม่สามารถเข้าถึงความลับระดับ A แน่ๆ


แต่ว่าไอ้บ้าใส่ชุดวอร์มคนนี้แหละครับสามารถเข้าถึงได้ พวกเขาก็คงตกใจกันน่ะ มีคนคัดค้านนะถามหัวหน้าครับ หัวหน้าคะ  มันจะดีเหรอ คือผมไม่ได้เคืองหรืออะไรนะที่มีเสียงคัดค้าน ผมเข้าใจเลย



ว่าการที่คนนอก สามารถเข้าถึงเอกสารความลับนะดับนี้ มันก็น่ากังวลจริงๆนั่นแหละ แต่พี่เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเอกสารมันซีลเอาไว้ ผมก็อ่ะโอเค ผมก็ถามว่าอยู่ในตู้เซฟป่ะครับ พี่เขาบอกอืม....


ผมก็คิดละไม่ค่อยงามละแบบนี้ ผมเลยบอกว่าเอ่อ พี่หยิบเองดีกว่า นึกว่าวางไว้ข้างนอก ถ้าในตู้เซฟเดี๋ยวงานหยาบนะ พี่เขาก็มองหน้าแล้ว เอ้อลืม..  ผมถอนหายใจหนักเลย โอยย อะไรเนี่ย พี่เขาเดินเข้าไป ส่วนผมยืนรอข้างนอก แปปเดียวก็ออกมา



เป็นซองซีลพลาสติกจริงๆนั่นแหละครับ เขายื่นให้ผมแล้วบอกเอกสารการร่วมลงนามฉบับเปล่า...  ถึงจะเป็นฉบับเปล่ายังไม่มีการลงนาม แต่มันก็สำคัญนะครับทำเปฺ็นเล่นไป ผมก็ถามว่า... แล้ว....  พี่เขาก็บอกว่า เดี๋ยวฝากให้ท่านประธานด้วยวันนี้ไปบ้านท่านประธานหรือเปล่า ผมส่ายหัวบอกหึ่ ผมพักที่ห้องพักพนักงานไง พึ่งไปเมื่อวานมา  พี่เขาก็หัวเราะแล้วบอกหูชาเลยสิ่



ผมถอนหายใจเฮ้ออออออ  ถ้าคุณท่านผู้หญิงไม่ช่วยไว้สงสัยกินข้าวไม่ได้แน่ๆครับ.....  พอพูดจบบรรยากาศคือเงียบเลย ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดอีกแล้ว พี่ผู้บริหารก็ตบไหล่แปะๆแล้วบอกเอาน่า ๆ ๆ



แล้วประตูห้องทำงานที่เป็นประตูกระจกก็ ก๊อก ๆ ๆ ๆ  ทุกคนหันไปมอง เป็นเลขาของพี่แมนครับ เธอถามแผนกนี้ไม่ทำงานกันเหรอเนี่ย แล้วทุกคนก็แยกย้ายอย่างไว ผมก็จะชิ่งนะ แต่พี่เลขาเขาก็พูดดักคอก่อน แล้วโทนมาทำไรที่นี่ล่ะ นี่เวลาพักผ่อนไม่ใช่เหรอ ถ้ามีเวลาว่างก็มาเรียนรู้งานกับพี่สิ่ ผมก็บอกครับพ้มถ้ามีโอกาสนะครับ งั้นขอตัวก่อนครับ พี่เขาก็บอกว่า โทนพรุ่งนี้ขึ้นไปหาท่านประธานด้วยนะ



ผมก็ฮึ๊ ขึ้นไปทำไมอ่ะครับ พี่เขาก็บอกว่าท่านประธานมีเรื่องจะคุยด้วย ผมนี่กุมหน้าผากต่อหน้าพี่เลขาแล้วบอก อ่าส์ งานเข้าอีกแล้ว พี่เขาก็บอกว่าก็ถ้าไม่ผิดอะไรก็ไม่ต้องกลัวยังไงท่านประธานก็ไม่ไล่ออกอยู่แล้วล่ะน่า  ผมก็บอกว่างั้นพี่ลองมานั่งฟังคุณท่านบ่นป่ะล่ะ ยิ่งกว่าเทศน์มหาชาติเลยนะ



พี่เขาก็บอกว่า ก็พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ท่านประธานกับคุณแมนก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมนี่ถอนใจเฮ้ออออ แล้วยกมือไหว้แล้วขอตัวก่อนนะคร๊าบบบบบบบ พอกลับมาห้องพักผมก็นอนเลยครับตอนนั้น ยังพอมีเวลาให้หลับอยู่ ผมนอนหลับตื่นมาอีกทีตอน จะ 5 โมง ผมรีบแต่งตัวเลย เฮ้ยย ต้องไปวิ่งวอร์มก่อน




คือด้วยความที่ผมขาดช่วงไปหลายปีครับ การที่จะตามคนอื่นทัน ก็ต้องถมช่องว่างด้วยความขยันซะก่อน ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงมาที่ห้องฟิตเนสเลยต้องวิ่งซักหน่อย หือ !!! พี่หมิว พี่เตย พี่จ๋า  ในใจผมนี่ร่องเหี้ยหนักมาก ทำไมสามคนนี้ถึงมาด้วยกันได้ล่ะ เฮ้ยๆ ๆ ๆ  ไม่สิ่การที่ 3 คนนี้ตะมาด้วยกันมันก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอ



แล้วมาในรูปแบบ Sport Girl ไงใส่ชุดออกกำลังกายกันมาพร้อมเลย 3 คนวิ่งบนลู่วิ่งครับ เหมือนตั้งใจมาออกกำลังกาย ผมนี่รีบถอยออกมาเลย  ผมยังไม่ได้คิดเลยว่าถ้าเจอเจ๊จ๋า ผมจะพูดยังไง











เอาตรงๆผมยอมรับเลยว่าเคสนี้ผมนี่คือ ขออนุญาตหยาบหน่อย เรียกว่า ผิดเต็มตีนเลยก็ว่าได้ มันเป็นเรื่องที่ผมต้องไปขอโทษพี่จ๋าอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่ต้องทำ แต่ว่าแบบผมจะพูดยังไงดี



ที่ดันไปแอ้มเพื่อนสนิทของเธอทั้งสอฝคนเลยอ่ะ แล้วไหนจะที่ผมไปถับประตู ต่อยพื้น ไปโวยวาย ตะคอก อีกละ


นิสัยเสียมากๆอ่ะอีโทน  #เตยคนสวย
เลว  #แฟนเตย


ผมมองแล้วจะชิ่งเลยนะจังหวะนั้น แต่ว่าเทรนเนอร์ส่วนตัวของพวกพี่หมิวมาครับ แล้วก็ทักผมเลยสวัสดีค่ะคุณโทน... โอยยย จังหวะก็นรกไป๊บางที อย่าแปลกใจว่าทำไมเขารู้จักผมนะ



คือตอนนี้พวกทีมงานของพี่แมน จะมีเทรนด์เนอร์ดูแลเรื่องโภชนาการครับ และผมคือ 1 ในนั้น ที่สำคัญผมโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เพราะระยะเวลา 3 ปีที่ผมไม่ได้ทำงานที่นี่



ผมละเลยการดูแลตัวเองไปเยอะเลยอันนี้ยอมรับ ถึงจะออกกำลังกาย แต่ก็พักน้อย ติดเกมส์หนักช่วงก่อนหน้านี้ กินขอฝตามใจปาก คือไม่อ้วนก็จริง กล้ามยังชัดก็จริง แต่มันแค่ภายนอกครับ



ข้างในมันแน่ยังไงก็ไม่รู้อยู่ดี มวลกล้ามเนื้อเอย ไขมันช่องท้องเอย ระบบเผาผลาญเอย พวกนี้เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าไง เพราะงั้นผมเลยโดนเน้นๆเป็นพิเศษ การที่ทีมงานเทรนเนอร์จะรู้จักผมก็ไม่แปลกเลย



เพราะยังไงซะพวกเขาก็ต้องวางแผนกันแน่ๆ ว่าคนนี้จะให้กินอะไร คนนี้ต้องเสริมอะไร และคนนี้ต้องลดอะไร พอเทรนเนอร์ทักผมเท่านั้นแหละ พี่สาวทั้งสองก็หันควั่บเลย ยกเว้นพี่จ๋าที่ยังวิ่งอยู่




แต่พอหันมาได้แปปเดียวพี่เตย กับ พี่หมิวด็หันไปวิ่งต่อ ซักพักเสียงติ๊ด ๆ ๆ ๆ  จากการกดปรับความเร็วก็ดังขึ้น  เมรนเนอร์บอกให้เดินเพื่อคูลดาวน์กล้ามเนื้อนะคะ คือเวลานี้ผมควรตะเดินออกนะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมยังอยู่



หรือผมอยากจะรอขอโทษพี่จ๋ากันนะ จนพวกเธอเดินกันครบเวลา เครื่องก็หมุนช้า ช้า ช้า จนพวกพี่หมิวลงมายืนข้างล่างพื้น เท้าเอวหายใจยาวๆเพื่อปรับจังหวะ แล้วคือ... เคยมั้ยครับ



แบบรู้สึกว่าไม่ควรอยู่ตรงนี้ แต่ต้องอยู่ เพราะอยากพูดขอโทษ อยากพูดอะไรซักอย่างจริงๆ ผมก็คิดในใจว่าอย่างน้อยพี่จ๋าก็ตงคุยง่าย ไม่ฟสดงวง ฟาดงา แบบพี่เตยแน่ๆ แต่มันก็เป็นที่ผมแหละที่ผิด ที่ไปตะคอกพี่จ๋า



คือจริงๆผมไม่ควรคิดแบบนี้นะ คิดว่าพี่จ๋าคุยง่ายไม่เหมือนพี่เตย คือยังไงซะต่อให้จะโดนด่า โดนฟาดงวง ฟาดงาก็ต้องทำใจ เพราะบอกตามตรง ถ้าต้องผิดใจกับพี่สาวคนนี้ผมคงอยู่ไม่สุขแน่ๆ




พี่เตยเดินดูด...น้ำในแก้วมาทางผมแล้วถามว่า ยืนทำไรเนี่ยตั้งนานสองนาน  ยืนก็ไม่พูด ผมก็เอ่อ.. เอ่อ..  ไม่รู้ดิ่ไม่กล้าบอกไปตรงๆ แต่พี่หมิวก็เดินมาบอกไปข้างนอกกันเตย พี่เตยก็หือ อื้อๆๆ แล้วพอสองคนนั้นเดินไป



ผมก็เดินไปหาพี่จ๋าที่กำลังเก็บของใส่ย่ามเล็กๆอยู่ ผมก็เรียก เจ๊จ๋า... ผมมีเรื่องจะคุยด้วย ผมก็คิดแหละว่าพี่จ๋าจะหันมาแล้วบอกคุยรายยยย  แต่ที่พี่จ๋าตอบกลับมาคือ


" ไม่อยากคุย ไปไหนก็ไปเถอะ "





 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

only1A

จองโต๊ะ1 เลย ทันไหม

กับจอยจะเป็นยังไงนะ
แม่เสือดาวมาได้จังหวะจริงๆ



miru_mishi



acropobia899

ขอบคุณมากครับท่านโทน  ได้อ่านก่อนนอนพอดีเลย

เอาละไง เจอเจ๊จ๋าโกรธไปซะละ  จะโกรธจริงหรือแกล้งเล่นๆ


เป็นแกล้งจริงๆสินะ 
แม่เสือดาวมาแบบนี้ จากวันพักผ่อน จะไม่ได้พักแล้วล่ะแบบนี้

puretank

นี่ไง เจอสาวๆแต่ละที จะจับเค้าดูดดุ้นอย่างเดียว ::Waiting::

นางเอกของเรื่องหายไปเลยครับ ผมดีดนิ้วเรียกกลับมาได้มั้ย

usman1963

ก็ไปพูดกับ เจ๊จ๋า แบบนั้นก่อนก็ต้องหาวิธีง้อนะคุณโทน หวังว่าจะง้อได้เร็วๆนะครับ



sunnies

เจ้จ๋าแกแกล้งฟอร์มทำเป็นโกรธอยู่ลูกไม้ของสามเจ้ครับ


wjoe44


jeditay