ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ฟัก อยู่แม้น

แค้นวิปริต จิตสั่งกาม (โทรจิตคุง) ตอนที่ 19

เริ่มโดย ฟัก อยู่แม้น, พฤศจิกายน 01, 2015, 11:43:26 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ฟัก อยู่แม้น







แค้นวิปริต จิตสั่งกาม



ตอนที่ 19 ผู้บุกรุก
.
.
.
บรรยากาศเมืองใหญ่ช่วงหัวค่ำคลาคล่ำด้วยผู้คนที่สัญจรไปมาแสงไฟรถยนต์เมื่อมองจากมุมสูงอันห่างไกลแล้วช่างเหมือนแมลงเรืองแสงนับหมื่นพันชีวิต
.
.
.
หลังจากตัดสินใจออกจากงานแล้วธนิกก็ไม่ต่างจากปุถุชนธรรมดานอกจากเรื่องการฟื้นฟูตระกูลแล้วเขาก็ต้องการเวลาผ่อนคลายยามว่างเช่นเดียวกันค่ำนี้เขานัดพบอดีตเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งนั่งทานข้าวพบปะสังสรรค์หัวข้อสนทนาก็มีแต่เรื่องสัพเพเหระตามประสาผู้ชาย ดนตรีกีฬา สารทุกข์สุขดิบทั่วไปเนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วธนิกเป็นได้มากกว่าพนักงานเอ็นจีโอ
แม้เขาอารมณ์ร้อนแต่มีความยั้งใจไม่ให้ตนเองใช้พลังทำร้ายคนจนคนแตกตื่นสูงพอสมควรหาใช่ด้วยขันติธรรมแต่เป็นเพราะเกรงว่าวันหนึ่งความลับจะเปิดเผยออกมาว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ปกติบางครั้งคราเขายังนึกอิจฉาเต๋อที่สามารถบงการให้คนที่เกลียดพังอนาคตตัวเองได้ง่ายดายแต่สำหรับเขามีแต่ทำร้ายร่างกายเท่านั้นสถานเบาก็ทำให้ของหล่นใส่หัวแตกโมโหปานกลางก็หักแขนหักขาแค้นมากก็ใช้พลังจิตพลักให้ตกจากตึกสูงหรือทำให้รถคว่ำทำนองนี้เรียกว่ายังมีสติที่จะปกป้องความลับของตนอยู่เช่นกันคนธรรมดายังไม่เคยมีใครเห็นธนิกสติแตกถึงขั้นสิบล้อหรือหลังคาบ้านปลิวว่อนเป็นพายุพัดอย่างในภาพยนตร์แม้เขาจะทำได้จริงก็ตาม
.
.
.
"เมียกูโทรตามแล้วว่ะ กูต้องกลับแล้วนะนิกเจอกันใหม่เว้ย" งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเพื่อนของเขาลุกขึ้นพร้อมชนแก้วสุดท้ายกระดกจนหมดแทนคำบอกลาประสาผู้ชาย
.
.
ธนิกนั่งใช้ความคิดอีกสักพักมีแต่เรื่องฟุ้งซ่านทั้งนั้นเขานึกถึงคำพูดที่เต๋อเคยตอกหน้าหงายไว้ว่าอุดมการณ์เปลี่ยนโลกของเขาเป็นเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระหากเขาไม่ต้องแบกรับตำแหน่งผู้นำตระกูลได้ก็คงดีบางครั้งเขาก็นึกอยากเกิดเป็นคนธรรมดาบางทีถ้าเขาไม่มีพลังจิตอาจจะมีความสุขกว่าทุกวันนี้ก็ได้
.
.
เขายกแก้วเบียร์ซดจนเกลี้ยงเป็นแก้วสุดท้ายก่อนเดินออกจากร้านไปเพื่อกลับบ้านวันนี้เขาไม่ขับรถมาเพื่อความคล่องตัวในการเดินทางและจะได้ไม่ต้องดิ้นรนหาที่จอดใช้บริการรถไฟฟ้าแทน
.
.
.
เขายืนต่อแถวรอรถไฟฟ้าอย่างอารมณ์ดีนานทีปีหนได้เจอเพื่อนฝูงที่เป็นมนุษย์ปกติก็ช่วยกล่อมเกลาจิตใจได้บ้างเพราะมันบังคับให้เขาต้องลืมเรื่องเกี่ยวกับภาระหน้าที่ แผนงานของตระกูลชั่วคราวเมื่อไม่คิด ก็ไม่มีอะไรต้องเครียด
.
.
แต่น่าผิดหวัง แม้ธนิกตั้งใจออกมาพักผ่อนหย่อนใจก็เจอกับคนทำให้อารมณ์ชะงักจนได้สาววัยรุ่นแต่งตัวสก๊อยซ์ตัวดำปากแดงเหมือนเพิ่งกินลาบเลือดอายุราวสิบแปดปีเธอทำไม่รู้ไม่ชี้ลัดคิวสถาปนาหัวแถวใหม่เป็นแถวที่สามทั้งที่มีช่องสำหรับต่อแถวเพียงสองช่องต่อหนึ่งประตูรถช่างเป็นเทคนิคการแซงที่เรียกว่าหน้าด้านต่างจากแทรกแถวซึ่งหน้าแค่ปลายก้อยจริงๆแม้จะมีคนตำหนิด้วยสายตา แต่เธอก็หาได้สะทกสะท้านไม่
.
.
"เออ ๆ มึง เดี๋ยวถึงบ้านค่อยคุยกันกูยังไม่มีอารมณ์สนุกกลั้นฉี่มานานล่ะ โอเคเนอะ บาย ๆ" สก๊อยซ์สาววางสายมือถือก่อนจะหันไปลาแฟนหนุ่มที่เดินมาส่งและกำลังจะแยกไปขึ้นชานชลาอีกสายหนึ่ง"บาย ๆ ตัวเอง ห้าทุ่มโทรหาด้วยนะ" แฟนสาวกล่าวทิ้งท้าย
.
.
อาจเป็นโชคร้ายของธนิกที่เป็นคนหงุดหงิดกับความไร้ระเบียบความมักง่ายและความไร้การศึกษาบ่อยกว่าคนทั่วไปโดยเฉลี่ยแต่สิ่งที่เขาโชคดีกว่าทุกคนคือมีอำนาจมากพอที่จะจัดการกับความขุ่นเคืองนี้ให้สาแก่ใจอย่างง่ายดายซึ่งคนธรรมดาไม่มีวันทำได้นอกจากต้องสะกดกลั้นสิ่งที่อยากพูดออกไป. . . แน่นอนธนิกไม่ยอมดูดายกับเรื่องตรงหน้านี้
.
.
"น้องครับ เห็นไหมว่าคนอื่นเขาต่อคิวอยู่หางแถวอยู่ทางโน้นนะครับ"ธนิกจัดแจงเข้าไปตักเตือน
.
.
"ก็มันยาวแล้ว ขี้เกียจต่อ" เธอตอบพร้อมยักไหล่แบบฝรั่งทั้งที่เค้าหน้าปราศจากวี่แววคอเคเซี่ยนแม้เพียงเศษยีน
.
.
"ช่วยเคารพกติกาสังคมด้วยนะครับถ้ากลัวไม่มีที่นั่งก็ต่อคิวแล้วยังไม่ต้องขึ้นรอเป็นหัวแถวเที่ยวต่อไปแบบนั้นดีกว่าไหมครับ"
.
.
"แล้วพี่เสือกไรเรื่องหนูล่ะ" เธอชักสีหน้าถามกลับช่างแสบร้อนเหมือนกลิ่นต้มยำหม้อไฟและช่วยเรียกน้ำย่อยเหล่าขามุงเป็นอย่างดีคนที่เข้าแถวอยู่เริ่มหันมามองและแอบเงี่ยหูฟังแม้ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับธนิกอยู่ในใจแต่พวกเขาก็คิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องเปลืองตัวให้เด็กถอนหงอกเล่นเช่นนั้น
.
.
.
". . . .!!" ธนิกชะงักเล็กน้อยไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใดเด็กสมัยนี้จึงได้ปากคอเราะร้ายนักแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับรถบดถนนอย่างเขาอะไรที่คิดว่าขวางหูขวางตาก็ไถกลบให้พ้นตาไปเสีย
.
.
"เฮ้ย! คุยไรกันวะ" แฟนหนุ่มของสาวสก๊อยซ์ที่เดินจากไปเมื่อครู่ปรี่เข้าหาเมื่อเห็นว่าแฟนสาวของตนกำลังคุยกับชายท่าทางไม่น่าไว้วางใจที่พูดเช่นนั้นก็เพราะธนิกดูดีกว่าฝ่ายแฟนหนุ่มจนไม่เกิดอาการไม่ไว้ใจและดูเหมือนว่าฝ่ายหญิงเข้าใจธรรมชาติข้อนี้เป็นอย่างดีจึงใช้ให้เกิดเป็นความได้เปรียบ
.
.
"ตัวเอง พี่คนนี้มาขอเบอร์เค้าก็บอกแล้วว่ามีแฟนแล้ว ๆ ๆยังไม่เลิกตื้ออีก" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงล้วนเห็นได้ชัดว่าใช้จริตปรุงแต่งขึ้นหยาบๆเธอเล่นละครสดได้ไม่สมจริงเอาซะเลยแต่มันย่อมหลอกคนใกล้ตัวที่หลงจนโงหัวไม่ขึ้นได้อยู่แล้ว
.
.
"ไมวะ!" แว๊นซ์หนุ่มร่างแห้งผลักอกธนิกโดยไม่กลัวเกรงความสูงล่ำแม้แต่น้อยดูๆ ไปก็เหมือนแมงป่องชูหางขู่มนุษย์ ทั้งที่ถูกเหยียบทีเดียวก็จมดินแล้ว
.
.
เมื่อเห็นว่าออกแรงสู้ไม่ได้จึงกระชากแว่นตาจากอีกฝ่าย"เมื่อกี้มึงไม่เห็นเรอะว่ากูเดินมาส่งเมีย!เหี้ยแว่น! หยามกันนี่หว่า"เมื่อสภาพการณ์เริ่มบานปลายจึงมีคนที่ทนไม่ไหวออกหน้าแทนธนิก
.
.
"เฮ้ย คืนแว่นพี่เค้าไป แฟนคุณน่ะผิดมาแซงแถวเฉยเลย"
.
.
"เสือก ไม่ใช่เรื่องของมึง!" แว๊นซ์หนุ่มตวาดกลับ
.
.
ธนิกในสภาพไร้แว่นกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรกับสองคนตรงหน้าดีผู้หญิงน่าจะทำให้ป้ายโฆษณาหล่นทับส่วนผู้ชายเมื่อรถไฟมาจับผลักตกรางจะดีไหมหนอแต่หากอุกอาจเช่นนั้นอาจทำให้ผู้คนแตกตื่นได้ซ้ำยังจะได้กลับบ้านช้าด้วยเพราะคงต้องหยุดเดินรถเพื่อเก็บศพเจ้าบ้านี่
.
.
"อยากได้คืนก็ไหว้กูสิ!" นักเลงร่างแห้งกร่างขู่ให้อีกฝ่ายก้มหัวขอโทษอย่างเสียเชิงชายทั้งยังเสียผู้ใหญ่ด้วยแต่มีหรือที่ธนิกต้องทำตาม . . . ไม่เลย . ..สิ่งที่พวกนั้นน่าจะทำมากกว่าหากรู้ว่าธนิกเป็นใครคือการร้องขอชีวิต
.
.
"ไม่ไหวละ เรียกซิเคียวฯ มาเคลียร์เถอะพี่"ชายที่ออกหน้าแทนเมื่อครู่แอบกระซิบข้างหูธนิกก่อนเดินออกจากแถวเพื่อติดต่อรปภ.ธนิกได้แต่ยิ้มรับตาหยีเพราะมองไม่ชัดทัศนียภาพเบื้องหน้าเลือนรางไปหมดกระนั้นอาการสายตาสั้นก็ไม่ได้บั่นทอนอำนาจไซโคไคเนซิสลงแม้แต่น้อยเขายังพร้อมที่จะระเบิดมันออกมาทุกเมื่อ
.
.
.
นาทีนี้ ไม่ทราบว่าสิ่งใดดลบันดาลใจให้จู่ ๆเขานึกถึงเต๋อขึ้นมาการแก้แค้นโดยไม่ต้องเข่นฆ่าแต่ปล่อยให้มีชีวิตอยู่อย่างไร้เกียรติภูมิให้คราใดก็ตามที่มันผู้นั้นนึกถึงเหตุการณ์น่าอับอายแล้วต้องขมขื่นหม่นเศร้าหลั่งน้ำตาแห่งความอัปยศตราตรึงตราบชั่วชีวิต
.
.
.
.
"หึ น่าสนุกดีเหมือนกัน" ธนิกพูดกับตัวเองในใจ
.
.
เขาจ้องเขม็งยังมือแว๊นซ์หนุ่มใช้อำนาจจิตกระชากแว่นกลับมาทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนไม่มีใครสังเกตราวกับเป็นมายากลจนแว๊นซ์หนุ่มถึงกับงงงันที่ชั่วพริบตาแว่นก็ไปกลับคืนสู่มือเจ้าของจากนั้นธนิกจึงใช้อำนาจจิตบดบี้บริเวณปากมดลูกของสก๊อยซ์สาวเขาจำได้คลับคลาว่าเจ้าตัวคุยโทรศัพท์เรื่องอยากรีบกลับบ้านเพราะปวดปัสสาวะ
.
.
"!!!!" สก๊อยซ์สาวบิดตัวกระมิดกระเมี้ยนเธอรู้สึกว่ามีบางสิ่งไหลลื่นแทรกเข้าไปในร่างกายเธอ
.
.
.
"ไอ้สัตว์! มึงเอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่!" แว๊นซ์หนุ่มง้างกำปั้นใส่ธนิกแต่แฟนสาวยั้งมือไว้ก่อน"ตัวเอง ๆ ช่างมันก่อน เค้าปวดท้องโอ๊ยยย"
.
.
แว๊นซ์หนุ่มร่างแห้งสับสนว่าจะทำอย่างไรดีกระนั้นก็เลือกแฟนก่อนตามสัญชาตญาณรักพวกพ้อง"ตัวเอง ไหวไหมเป็นไร เมนซ์เหรอ"
.
.
"ไม่ใช่ เค้าบอกไม่ถูก พาเค้าเข้าห้องน้ำก่อน"ธนิกใช้พลังจิตบี้กระตุ้นอวัยวะเพศของเธอขณะเดียวกันก็แบ่งพลังอีกส่วนไปลูบคลำบริเวณเป้าของฝ่ายชายทั้งหมดนี้คืออำนาจจิตธนิกจึงไม่รู้สึกได้สัมผัสร่างกายของอีกฝ่ายเหมือนการใช้มือกระนั้นการใช้พลังจิตกับร่างกายผู้อื่นโดยปราศจากความรู้สึกสัมผัสก็มิใช่ปัญหาเนื่องจากเขาฝึกใช้พลังไซโคไคเนซิสตั้งแต่เด็กจนชำนาญจนกะความหนักเบาของพลังและกะระยะพื้นที่เป้าหมายได้ดั่งใจนึก
.
.
.
"!!!" แว๊นซ์หนุ่มขนลุกซู่เมื่อรู้สึกเหมือนมีมือล่องหนจับลำควยของเขารูดขึ้นลงเมื่อก้มลงมองก็ไม่เห็นว่าจะมีใครหรือตัวอะไรจับเป้าเขาอยู่สิ่งเร้นลับนี้รุกเร้าจนทำให้ควยของเขาแข็งตัวขึ้นกะทันหันผู้คนมองชายหญิงสองคนนั้นยืนบิดยึกยือไปมาราวกับสุนัขคันเพราะเห็บหมัด
.
.
.
"ตัวเอง! บอกว่าช่วยพาเค้าไปห้องน. . .!!??"สก๊อยซ์สาวสะดุ้งโหยงสายเกินไปแล้วเธอพรั่งพรูสิ่งที่กักเก็บตลอดการเดินทางออกมาเรียวขารู้สึกถึงความอุ่นและเปียกแฉะของเหลวไหลซึมผ่านกางเกงในปละกระโปรงตามง่ามขา
.
.
"เหี้ย! เยี่ยวแตกเรอะ!" แฟนหนุ่มถอยกรูดด้วยความรังเกียจทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้นแสดงให้เห็นธาตุแท้ที่มีต่อหญิงคนรัก
.
.
.
ไม่เพียงแค่นั้นธนิกดำเนินการต่อไปโดยใช้พลังจิตปลดกระดุมเสื้อผ้าของทั้งสองกระดุมเสื้อดีดกระเด็นออกมากางเกงถูกดึงลงอย่างรุนแรงจนเอวถลอกถ้าใครไม่สังเกตจะดูเหมือนหลวมหลุดลงมาเองเขาใช้พลังจิตฉีกให้เสื้อผ้าแยกส่วนออกจากกันเพื่อที่จะไม่รั้งติดตามข้อต่อส่วนต่างๆและผลักมันให้ปลิวพ้นตัวเจ้าของขณะนี้ทั้งสองเหลือเพียงชุดชั้นในด้วยอาการตื่นกลัวเหมือนถูกมนุษย์ล่องหนกลั่นแกล้งแว๊นซ์หนุ่มควยตุงคาบ๊อคเซอร์ขณะที่สาวแสบเหลือเพียงกางเกงในแฉะเหลืองเธอใช้กอดอกบังเต้าไว้อย่างตระหนกผู้คนฮือฮากับเหตุการณ์ตรงหน้าแต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายืนวิจารณ์อยู่ห่าง ๆบ้างก็แสร้งทำเป็นไม่เห็น
.
.
"ปึ๊ด!" ธนิกกระชากบ๊อคเซอร์ลงมาถึงข้อเท้าและสะบัดมันให้พ้นรวมทั้งกางเกงในของฝ่ายหญิง
.
.
"ช่วยด้วย!!" สก๊อยซ์นั่งลงก้มหน้ากรีดลั่นแว๊นซ์หนุ่มตั้งสติได้ก่อนพยายามวิ่งไปเก็บเสื้อผ้าที่ถูกปัดพ้นตัวแต่เมื่อเข้าใกล้ก็จะถูกธนิกใช้พลังจิตปัดให้เลื่อนหนีออกไปอีกเหมือนแมวไล่ตะครุบของเล่นผูกเชือกซึ่งไม่มีทางรู้ว่าพยายามแค่ไหนก็เสียแรงเปล่าส่วนฝ่ายหญิงที่นั่งปกปิดร่างกายอยู่กับที่ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นความสนใจธนิกใช้พลังจิตดึงเธอขึ้นมาจากพื้นจนคล้ายกับอยู่ในท่ายืนเธอพยายามขัดขืนพลังเหนือฟิสิกส์ของธนิกแต่ยิ่งเกร็งยิ่งเจ็บปวดเพราะอำนาจไซโคไคเนซิสเมื่อใช้ควบคุมอิริยาบถก็ไม่ต่างจากขึ้นโครงเหล็กดัดกับร่างมนุษย์นั่นเองการฝืนท่าทางที่ถูกกำหนดไว้รังแต่ยิ่งทรมานในที่สุด หัวนมและหีสีคล้ำ ๆของเธอก็ถูกเผยเต็มสายตาธารกำนัล
.
.
"ยังหรอก ยังไม่จบ" ธนิกยิ้มรำพันในใจเขาใช้พลังจิตดึงแขนฝ่ายชายที่ง่วนอยู่กับการไล่ตะครุบเสื้อผ้ากลับเข้าที่พลังรุนแรงราวกับที่แขนมีเชือกมัดติดกับรถยนต์กำลังแล่นจนเท้าของเจ้าตัวต้องก้าวตามโดยอัตโนมัติมิเช่นนั้นแขนจะขาดเอาได้สิ่งที่ธนิกทำขั้นสุดท้ายคือใช้พลังไซโคไคเนซิสตรึงให้ทั้งสองติดแนบกันโดยมีฝ่ายชายประกบหลังคล้ายกับกำลังร่วมเพศกันโครงเหล็กดัดพลังจิตนี้อาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าการสั่งให้คนสังวาสกันอย่างลืมสติของเต๋อแต่สำหรับธนิกได้แค่นี้ก็นับว่าเยี่ยมแล้วเพราะพลังจิตของทั้งสองเป็นคนละสายงานกัน
.
.
"เนี่ย พี่ เร่งหน่อยครับป่านนี้ต่อยกันรึยังไม่รู้" ชายหนุ่มที่อาสาตามรปภ.เพื่อไกล่เกลี่ยกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาอีกครั้งพร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งซึ่งล่าช้าเพราะเมื่อครู่ติดภาระช่วยเหลือชาวต่างชาติแต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุกลับไม่มีกลิ่นของการวิวาทหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
.
.
.
เนื่องจากตอนนี้ผู้คนให้ความสนใจกับคนโรคจิตสองคนที่แก้ผ้ายืนนาบกันกลางชานชลามากกว่าเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่บ้างก็ใจดีสู้เสื้อเกลี้ยกล่อมให้ใส่เสื้อผ้าเสียฟากตรงกันข้ามมีรถไฟฟ้าของอีกสายจอดเทียบพอดีสุภาพสตรีนางหนึ่งที่เพิ่งออกจากขบวนถึงกับตกใจจนปล่อยถุงช้อปปิ้งร่วงกราวฝรั่งนักเดินทางแบ็คแพ็คคนหนึ่งอุทานร้องถามหาพระผู้เป็นเจ้าเมื่อได้เห็นภาพอุจาดดังกล่าวไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองไม่เต็มใจกระทำเช่นนี้แรงบีบอัดจากพลังจิตของธนิกต่างหากที่ตรึงสองคนนี้ไว้ทันทีที่ขยับตัวจะเจ็บจนทนไม่ไหวสก๊อยซ์สาวได้แต่ร้องไห้สะอื้นและเอื้อนเอ่ยคำว่า"ช่วยด้วย"เบา ๆอย่างสิ้นหวังส่วนแว๊นซ์ผู้เป็นแฟนทำได้เพียงก้มหน้าหลบตามหาชนที่เดินผ่านและจ้องมองด้วยความขยะแขยงเขาไม่รู้ว่าต้องอธิบายอย่างไรจึงจะมีคนเข้าใจว่าภัยที่คุกคามพวกเขาอยู่คืออะไรกันแน่
.
.
"ว๊ายยยยยย!!" เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลชานชลาร้องเธอรีบว. เรียกเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ มาสมทบทันทีกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเสียแล้วเหตุการณ์นี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นท่ามกลางสถานีรถไฟฟ้าที่มีการดูแลอย่างเข้มงวดยังไม่ทันจะหาข้อสรุปได้รถไฟฟ้าที่รอมาเนิ่นนานก็ถึงจุดหมายเสียที
.
.
.
"คนโรคจิตน่ะครับผมเห็นตั้งแต่เค้าถอดเสื้อผ้าโชว์ บอกมีของเด็ด ๆจะให้ดู" ธนิกกล่าวกับเจ้าหน้าที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนจะขึ้นรถและปลดปล่อยพลังไซโคไคเนซิสคืนอิสระให้ทั้งสองทางรปภ.หาผ้ามาช่วยคลุมให้และกันตัวทั้งสองเพื่อพาไปห้องเงียบสำหรับกักตัวผู้ก่อความไม่สงบเพื่อรอดำเนินคดีตามกฎหมายฝ่ายชายก้มหน้าสลดส่วนฝ่ายหญิงยังไม่ยอมแพ้
.
.
.
"หนูไม่ได้บ้านะพี่ อร๊ายยยยยยยยยย!!!หนูไม่ได้บ้า!!!!!!!!!!!!!!ฮืออออออ" เธอพยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขน รปภ.จนหลุดมือและวิ่งหนีด้วยอาการคลั่งคล้ายคนขาดสติภาพสุดท้ายที่ธนิกและเหล่าผู้โดยสารที่ร่วมเป็นประจักษ์พยานได้เห็นก่อนประตูรถไฟฟ้าปิดลงก็คือเธอสะดุดล้มกลิ้งไม่เป็นท่าและรปภ.ก็ช้อนตัวเธอขึ้นมารวบได้ดังเดิมในที่สุด
.
.
.
"ได้แว่นคืนแล้วสินะครับ" ชายหนุ่มที่ออกหน้ารับแทนธนิกกล่าวทักเจ้าตัวในขบวนรถ
.
.
.
"ขอบคุณมากนะครับ ดีที่เขาคืนให้ผมเองอย่าถือสาเลยครับใครจะไปรู้ว่าสองคนนั้นสติไม่ดี" ธนิกตอบเปื้อนยิ้ม
.
.
.
"เมื่อกี้ผมเห็น. . . พี่เก่งมากเลย ทำได้ไงครับเหลือเชื่อ"ชายหนุ่มเบิกตาถามอย่างอัศจรรย์ใจรอยยิ้มบนใบหน้าธนิกหุบลงทันทีเมื่อได้ยิน
.
.
.
.
.
.
"ทนอยู่เฉย ๆ ได้ไงอ่ะ โธ่. ..เป็นผมนะชกกันไปแล้ว ขึ้นโรงพักก็เอาเสียเงินแค่ห้าร้อย"
.
.
.
แล้วทั้งสองต่างก็หัวเราะร่วน
"ไม้!"
.
.
"ไม้!"
.
.
"ไม้!!!"
.
.
เต๋อในชุดนักเรียนขบฟันด้วยแรงเคียดแค้นและอุ้มซากลูกหมาเน่าอืดเขาผุดขึ้นมาจากเบื้องธรณีและจ้องมองไม้แต่ไม้หาได้กลัวไม่รีบคว้าแป๊ปเหล็กตรงเข้าไปเพื่อฟาดเต๋อ ภาพมายาที่ตามหลอกหลอน
.
.
"แฮ่!" ซากลูกหมากลับมีชีวิตและงับแป๊ปเหล็กไว้ไม้ออกแรงเพื่อดึงอาวุธกลับแต่ไม่ทันการเต๋ออาศัยช่องโหว่นี้ล้วงมีดขึ้นมาแล้วแทงเจ้าตัวตัดขั้วหัวใจ.. .
.
.
.
"ผมรักนายได้. . .ก็ใช่ว่าจะเกลียดไม่เป็น"เต๋อพูดไว้เช่นนั้นก่อนที่ไม้จะค่อย ๆ หรี่ตาลงสิ้นใจ
.
.
.
"เฮ้ยยยยยยยยย!!" ไม้สะดุ้งตื่นขึ้นมาเขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้.. .เขาลุกลี้ลุกลนคว้าปืนหน้าไม้ข้างตัวแนบกายทันทีและสิ่งแรกที่นึกได้ก็คือโมโหแฟนที่ไม่ปฏิบัติตามที่กำชับไว้
.
.
.
"ดาว!ไม้บอกใช่ไหมว่าให้คอยไขกุญแจเข้ามาเช็คถ้าเห็นไม้หลับให้ปลุกด้วย!จะทุบจะเอาน้ำสาดก็ได้!" เขาตะโกนลั่น
.
.
ไร้วี่แววตอบสนองจากแฟนสาว
.
.
"ดาว!!?"
.
.
ผ่านไปหนึ่งนาที ไม้ลองขานเรียกอีกครั้งแต่สิ่งตอบสนองมีเพียงความว่างเปล่าเช่นเดิมเขาสังหรณ์ใจไม่สู้ดีเมื่อมองจอบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆไม่สิ. . .ความไม่ผิดปกตินี่แหละคือความผิดปกติเพราะน่าจะเห็นใครเดินไปมาอยู่ในบ้านบ้างปกติเวลานี้ตาของเขาจะนั่งชมรายการโปรดในห้องนั่งเล่นทว่าทุกห้องกลับปิดไฟมืดมันยังไม่ดึกเกินไปขนาดทุกคนจะปิดไฟเข้านอนไม้ถือหน้าไม้ปลดล็อคกลอนประตูและผลักออกเบา ๆเขาเดินเลี่ยงกับดักสัตว์ที่ตัวเองวางไว้และไล่เช็คความเรียบร้อยทีละห้องเพื่อความสะดวกต้องเริ่มจากชั้นบน. . .
.
.
.
"ไม้. . .ฮือออ" เสียงดาวสะอื้นท่ามกลางความมืดไม้รับรู้ได้แต่ยังไม่ตอบอะไรออกไปเขามั่นใจแล้วว่าภายในบ้านต้องมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาอย่างแน่นอนแต่ไม่ทันที่เขาจะได้คิดหาวิธีตอบรับสถานการณ์คับขัน. . .
.
.
ไฟทางเดินชั้นสองก็ถูกเปิดสว่างแวบโดยเฉียบพลัน
.
.
.
"ไอ้ที่อยู่ในมือน่ะ วางลงซะ"
.
.
.
ชายแปลกหน้าคนหนึ่งใช้ปืนลูกโม่จ่อขมับดาวไว้
.
.
"เร็ว ๆ !ไม่เห็นเหรอว่ากูมีอีนี่เป็นตัวประกัน!"ชายปริศนาขึ้นเสียง
.
.
"ถ้าทำตามที่กูบอกก็จะปล่อยพวกมึงไป อย่าดื้อ"เขาย้ำอีกครั้ง
.
.
ไม้ได้ยินเสียงย่องมาจากทางข้างหลังทันใดนั้นชายปริศนาก็รีบกล่าวปราม "อย่ายิงมันไอ้จ่อย!เก็บมันไว้ก่อน!"
.
.
"โหย นี่แม่งล่อวางกับดักในบ้านเลยเรอะพี่เกรียงดูดิอะไรจะหวงขนาดน้านนน" ชายวัยรุ่นอีกคนหนึ่งปรากฏกายพร้อมปืนพกอีกกระบอกไม้ถูกขนาบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
.
.
ไม้เห็นท่าไม่ดีจึงค่อย ๆ วางหน้าไม้ลงกับพื้น "ดีมากพูดกันง่าย ๆ เรื่องก็จบง่าย" เกรียงชายแปลกหน้ากล่าวอย่างพอใจบัดนี้ไม้จึงนึกออก เกรียง ชายฉกรรจ์ตัวคล้ำดำเถื่อนเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยสักอายุราวสามสิบต้น ๆเป็นอันธพาลประจำตำบลที่เพิ่งออกคุกจากคดีฆ่าคนตายส่วนจ่อยอายุห่างกันไม่กี่ปีจะเรียกว่าเป็นลิ่วล้อรุ่นน้องก็ได้และไม่ต้องเดาการมาเยือนของเหี้ยสองตัวนี้เสียให้ยาก.. .
.
.
.
"มึงรู้รหัสเซฟรึเปล่า" เกรียงถามเสียงด้าน
.
.
ไม้สั่นหัวตอบ
.
.
"อย่าเล่นลิ้น!กูรู้ว่าพ่อมึงขุดเจอพระโบราณ!เค้าลือกันทั้งอำเภอแล้วไอ้เหี้ย!มึงรู้ใช่ไหมว่าพวกกูมาเอาอะไร ให้กูดี ๆ ซะก็จบหรืออยากเป็นผีเฝ้าสมบัติ!"เกรียงบีบร่างดาวตัวประกันให้รัดแน่นยิ่งขึ้น
.
.
.
"พ่อเอาไปขึ้นทะเบียนกับศิลปากรหมดแล้ว. . ."ฝ่ายโจรโต้ทันควัน"ไอ้สัตว์อย่าตอแหล!กูสืบมาว่าเอาไปแค่ตัวอย่าง!อย่าหัวหมอ! กูค้ายามาก่อนแค่นี้อย่านึกว่าตามไม่ทันมึง!"
.
.
.
"ให้. . .เค้า. . .ให้เค้า. . .ไปเถอะลูก. ..ตายไปก็เอาติดตัว. ..ไม่ได้" ตาพยายามเปล่งเสียงขึ้นมาจากชั้นล่าง
.
.
"เห็นมะ ไอ้แก่นี่ฉลาดจะตาย. ..มึงไปเปิดตู้เซฟให้กูเร็ว ๆกูจะหนีไปเอาของไปทำทุนแล้วไม่กลับมาอีกกูไม่ฆ่าคนว่าง่าย ๆ หรอกนะ" เกรียงใช้ไม้อ่อนเข้าเสริมเป็นเงื่อนไขที่น่าฟังก็จริงแต่ไม้ไม่รู้จะตอบสนองความต้องการคนทั้งสองได้อย่างไรในเมื่อพ่อกับแม่ไม่เคยบอกรหัสตู้เซฟเขาเลย
.
.
"ผมไม่รู้. . ." ทันทีที่ไม้ตอบไอ้จ่อยก็เพ่นกบาลด้วยด้ามปืนสั่งสอนจนหัวคว่ำ
.
.
"ไงละมึง" จ่อยกระแอมหัวเราะด้วยความหมั่นไส้ทั้งสองถูกลากเข้าห้องนอนพ่อกับแม่ไม้ที่มีตู้เซฟอยู่ส่วนคุณตาถูกอุ้มจากรถเข็นให้อยู่มารวมตัวอยู่ในห้องเดียวกันเพื่อสะดวกแก่การควบคุมทุกคนถูกพันธนาการมัดข้อเท้ามัดมือไพล่หลังและใช้เทปกาวปิดปากยกเว้นไม้ที่คู่หูโจรยังต้องการพูดคุยด้วยจึงได้รับการยกเว้นในส่วนปากและข้อเท้า
.
.
"บอกรหัสเซฟมา" เกรียงสั่งห้วน
.
.
"ผมไม่รู้จริง ๆ พ่อกับแม่ไม่เคยบอกผมเลย"ไม้ตอบเสียงนิ่งเขายอมรับว่ากลัวมากแต่จะให้คนอย่างเขาฟูมฟายร้องขอชีวิตเห็นจะยากไม้พยายามวางท่าทีให้นิ่งที่สุดจะด้วยศักดิ์ศรีหรือนิสัยก็สุดแล้วแต่จะคิดส่วนจ่อยนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่เอาจริงเอาจังกับภารกิจเท่าโจรผู้พี่เขาเปิดแอร์เย็นฉ่ำและเดินสำรวจตู้โชว์กระจก ท่าทางจ่อยจะสนใจเหล้านอกเป็นพิเศษ
.
.
"ไอ้จ่อย อย่านอกเรื่อง" เกรียงค้าน"ขอนิดเดียวน่าพี่" จ่อยเปิดตู้คว้าบรั่นดีรินใส่แก้วอย่างไม่เกรงใจที่จริงจะเรียกว่าไม่เกรงใจก็คงไม่เหมาะนักในเมื่อเรื่องใหญ่กว่าคือขณะนี้พวกมันกำลังปล้นทรัพย์
.
.
"มึงลองนึกดูวันเดือนปีเกิดของมึงหรือของพ่อแม่มึงก็ได้เลขสำคัญจำง่าย ๆ น่ะ" เกรียงใช้ปืนตบแก้มไม้เบาๆกระตุ้นให้ใช้ความคิดมากกว่าความกลัว
.
.
จนแล้วจนรอดผ่านไปกว่ายี่สิบนาทีไม้ก็ยังไม่สามารถนึกตัวเลขที่ใช้กับตู้นิรภัยได้สำเร็จจ่อยยื่นแก้วบรั่นดีแสดงน้ำใจให้รุ่นพี่สองโจรหัวเสียร่ำบรั่นดีดีกรีร้อนดื่มฆ่าเวลาเพื่อหวังจะคลายความหงุดหงิดแต่กลับให้ผลตรงกันข้ามฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้พวกมันอารมณ์ร้อนและหงุดหงิดยิ่งขึ้นเมื่อยังไม่มีทีท่าว่าไม้จะบอกรหัสที่ถูกต้องได้เลยกระทั่งวันแต่งงานของพ่อแม่หรือแม้ขุดวันตายวันเผาผีโคตรเหง้าศักราชนับลงไปสองสามรุ่นก็ยังไม่ได้ผลสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือเมื่อต่อสายเพื่อโทรถามรหัสจากพ่อแม่แต่ทั้งคู่กลับติดต่อไม่ได้
.
.
.
ฤทธิ์สุราเริ่มทำหน้าที่ของมันจ่อยเป็นคนแรกที่เริ่มหันเหจากภารกิจหลักเขารู้สึกรุ่มร้อนและคุกรุ่นไปด้วยความอัดอั้นจนยากบรรยายสายตาของเขาจับจ้องไปที่ขาอ่อนของดาวอย่างไม่สำรวมไม่ต้องเดาต่อ. . .จ่อยเอื้อมมือไล้เรียวขาคู่นั้นเธอดิ้นหนีมือปลาหมึกขณะที่คุณตาทำได้เพียงส่ายหัวขอร้องให้เลิกล้มความคิดชาติชั่วเช่นนั้นเสีย
.
.
"เฮ้ย! หยุด!" ไม้ร้องปราม"จะทำไมกู!" จ่อยยกปืนขึ้นเล็งแต่เกรียงหันปืนไปทางจ่อยแทน
.
.
"อย่าทำเสียเรื่อง" เพียงลูกพี่พูดสั้นๆก็ทำให้จ่อยเบาโทสะลงได้กระนั้นก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดเขาอ้อนลูกพี่เหมือนหมาเลียขาเจ้านาย "พี่เกรียงขอผมเถอะอยากมานานแล้ว อยากเด้าหี" มันพูดตรง ๆ อย่างหน้าไม่อาย
.
.
"อย่านะ ให้ผมทำอะไรก็ได้ ปล่อยแฟนผมไป" ไม้แทรกขึ้นสิ่งที่เขากลัวที่สุดคือเกิดการยิงกันขึ้นซ้ำร้ายบ้านไร่ปลีกวิเวกลักษณะนี้ยังทิ้งระยะห่างเหินจากชุมชนหลักพูดง่ายๆก็คือหากมีการพลาดพลั้งฆ่าแกงกันขึ้นมาจะไม่มีคนนอกได้ยินเสียงปืนหรือให้ความช่วยเหลือใดๆเลย
.
.
ยามนี้หากเปรียบเปรยว่าอยู่ในชั้นศาลตุลาการผู้มีอำนาจสูงสุดในการพิจารณาก็คงหนีไม่พ้นไอ้เกรียงมันรับฟังอย่างใจเย็นขณะเดียวกันคำพูดของจ่อยก็สะท้อนซ้ำในหัว "อยากมานานแล้ว... อยากมานานแล้ว. . ." เกรียงนึกถึงสมัยติดคุกที่ต้องหาทางระบายกับผู้ชายด้วยกันฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาร้อนกายเช่นกันแต่แทนที่จะมองหาตัวประกันสาวเกรียงกลับจ้องท่อนขาแซมขนหน้าแข้งบางๆมันพยายามมองลอดผ่านกางเกงบอลขาสั้นสีดำตัดกับขาขาว ๆ ของไม้เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงเค้าลางความวิปริตที่กำลังจะเกิดขึ้น.. .แต่เรื่องเช่นนี้ไม่สามารถชิงพูดขึ้นอย่างพลีพลาม
.
.
"ไอ้หนุ่ม. . ." เกรียงใช้ปืนลูบแก้มไม้"มึงยอมให้กูอัดตูดแทนแฟนมึงได้ไหมล่ะ" มันยื่นข้อเสนอการเจรจาทุกถ้อยเบานุ่มดังกว่าเสียงกระซิบเพียงนิด
.
.
ไม้สัมผัสได้ถึงความเย็นของโลหะที่นาบติดหน้าขณะเดียวกันก็เย็นวาบกลางสันหลังเมื่อสิ่งที่ตนคิดกำลังจะกลายเป็นจริง
.
.
ไม่รู้ว่าสิ่งใดดลใจให้ไม้กัดฟันพยักหน้าตอบรับเกรียงตอบสนองทันที"ไอ้จ่อยมึงห้ามแตะผู้หญิงเงี่ยนนักชักว่าวไปแล้วดูกูนี่" ไอ้จ่อยที่มึนๆ งง ๆตามไม่ค่อยทันเพิ่งเข้าใจแล้วเขาเดาได้ทันทีว่าลูกพี่ต้องการรื้อฟื้นความหลังครั้งยังเป็นน.ช.ขาใหญ่ยามนั้นมีเด็กหนุ่มหน้าตาดีมากมายคอยปรนเปรอแลกกับการให้ความคุ้มครองหลายรายให้เทียบกับผู้หญิงขี้เหร่แล้วยังดูน่ากระตุ้นอารมณ์มากกว่าเสียด้วยซ้ำและถ้าจะให้ล้วงลึกไปกว่านั้นแม้แต่ไอ้จ่อยเองก็เคยเสียตูดให้ไอ้เกรียงเปิดซิงเพื่อฝากตัวเป็นเด็กในสังกัดเช่นกันติดเพียงแค่ไอ้จ่อยรู้ใจลูกพี่แต่หน้าตาไม่เอาถ่านไม่นานความสัมพันธ์ทั้งสองจึงกลายเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องโดยปกติอย่างที่เห็นจะว่าหลับตาข้างเดียวทำลืมว่าเป็นวัวเคยขาม้าเคยขี่ก็ได้
.
.
ไอ้จ่อยพิศวาสความเป็นชายน้อยกว่าลูกพี่มันมากนักอาจเพราะไม่ได้ผ่านการทะลวงตูดคนอื่นจนติดใจแต่ลูกพี่มันนั้นเกินขอบเขตที่จะมาแบ่งแยกว่าเป็นผู้ชายเกย์ หรือไบไปแล้วมันเป็นยิ่งกว่านั้น มันกลายเป็นปิศาจหื่นกามเต็มตัวขอให้มีรูให้สอดและถูกใจ ไม่ว่าเพศไหนไอ้เกรียงเอาได้หมดโดยไม่เลือกทั้งเพศและวัย
.
.
ไอ้เกรียงลุกขึ้นปลดกระดุมกางเกงลายทหารลงและถอดเสื้อเหลือกางเกงในขึ้นราสีตุ่นๆเพียงตัวเดียวเป็นธรรมชาติของคนคุกที่สามารถเอาผู้ชายด้วยกันต่อหน้าผู้อื่นได้อย่างหน้าด้านแต่คงไม่เหมาะสำหรับโลกภายนอกกระนั้นมันไอ้เกรียงก็ไม่ใส่ใจดาวที่ดีดตัวไปมาเพื่อแสดงอาการต่อต้านหรือแววตาวิงวอนจากคุณตาที่บัดนี้นึกสาปแช่งตนเองที่ไม่สามารถช่วยลูกหลานได้เลยไอ้จ่อยรินบรั่นดีเพิ่มส่งให้โจรผู้พี่เพิ่มความฮึกเหิมพร้อมเล็งกระบอกปืนยังตัวประกันทั้งสองเพื่อคุมเชิง
.
.
.
"อมควยกูสิ" เกรียงพูดไม้มองหน้าด้วยแววตาเหมือนเด็กประถมเพิ่งได้ยินครูสั่งการบ้านแคลคูลัสขั้นสูง"เร็ว ๆ ไอ้สัตว์!" มันยกแก้วบรั่นดีกระดกอย่างสำราญมืออีกข้างยังถือปืนไว้"เตือนไว้ก่อนว่าอย่าให้กูปืนลั่นแค่นี้มึงน่าจะเข้าใจ"
.
.
.
ไอ้เกรียงใช้มือกดหัวไม้ให้แนบกับเป้ากางเกงในที่ทั้งเก่ามีราขึ้นเป็นจุดๆ และสกปรก กลิ่นฉุนเยี่ยวกลิ่นหมักหมมเหงื่อไคลกลิ่นสาบควยทำเอาไม้ถึงกับเบนหน้าหนี
.
.
"เลียดิ" มันใช้ปืนตบหลังเส
แค่เธอยักคิ้ว ต้นงิ้วก็แค่ถั่วงอก

Mawin Rojanawong


np5077


Mosser12345

ลงไม่หมดหรือเปล่าครับ ตอนจบเหมือนเนื้อหาหาย