ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 1

เริ่มโดย twintower, มีนาคม 17, 2022, 01:12:14 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

"เรียบร้อย เอายาที่ได้ไปที่ห้องแลปเลย ดูแล้วงานนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนอย่างที่คิด เธอคงฆ่าตัวตายจริงๆ "

เสียงภายใต้หน้ากากอนามัยบอกไปที่ผู้ช่วย

"ครับอาจารย์"

อีกฝ่ายตอบก่อนที่หยิบเอาอุปกรณ์ที่ใส่ตัวยาและสารประกอบต่างๆที่ได้จากศพที่ผมพึ่งผ่าเสร็จออกไปจากห้อง ส่วนผมคนที่สั่งนั้นมองไปที่ศพหญิงสาวอีกครั้งแล้วถอนหายใจก่อนจะปิดประตูห้องเย็นที่ใช้บรรจุศพ พอหันมาขนาดผมที่เป็นหมอชันสูตรหรือหมอนิติเวชนั้นสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างของหญิงสาวที่ตนเองพึ่งผ่าศพให้ยืนร้องให้อยู่ข้างเตียงที่ใช้ผ่าศพ

"คุณ ถ้าคุณได้ยินผมคุณอย่าเสียใจอะไรเลย ในเมื่อคุณเลือกเองอย่าไปยึดติด ไปตามทางของคุณเถอะ"

วิญญาณสาวตนนั้นมองมาที่ผมอย่างประหลาดใจ

"หมอนี่หมอเห็นฉันด้วยหรือ"

เสียงที่ตอบกลับมากระทบทางจิตมากกว่าที่จะได้ยินตามปกติเหมือนคนทั่วๆไป

"เห็นครับ ผมถึงบอกคุณไง คุณกิ่ง"

วิญญาณนั้นดูจะเลิกเศร้าไปชั่วขณะเหลือแต่ความประหลาดใจมาแทนที่ ต่างจากผมที่ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของตนเอง

"คุณคือคุณหมออินทรายุทธใช่ไหม"

วิญญาณเป็นฝ่ายถาม หลังจากที่จ้องหน้าผมอยู่ครู่หนึ่ง

"ใช่ครับ"

"ถ้าอย่างนั้นคุณก็เป็นหมอนิติเวชชื่อดังละสิ"

"ดังหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่คุณกิ่งตอนนี้คุณตายแล้ว คุณทำตามที่ผมบอกเถอะไปตามทางของคุณอย่ามีห่วงอีกเลย คุณเลือกเอง การที่คุณมาเศร้าแบบนี้มันไม่ดีต่อวิญาณคุณ"

"เรื่องอื่นค่อยว่ากัน แต่ทำไมคุณหมอถึงเห็นฉันได้"

วิญญาณสาวตนนี้ถามมาที่หมอนิติเวชที่พึ่งผ่าศพเธอด้วยความสงสัย ซึ่งเรื่องนี้ตัวของผมเองก็ยังเคยตกใจเกือบบ้าไปแล้วตอนเรียนปี 2หลังจากเริ่มเรียนผ่าศพอาจารย์ใหญ่ไปไม่กี่ครั้ง วันหนึ่งหลังจากที่ดูศพของคนที่เป็นมะเร็งตายเป็นชายแก่อายุ 70 เศษที่ตายด้วยมะเร็งที่ปอด หลังจากจบคาบผมถูกสั่งให้เก็บของคนเดียวจากอาจารย์ที่สอน จากที่เคยกลัวๆศพตอนนี้เริ่มชินทำให้ไม่กลัว พอเก็บของเสร็จผมหันไปมองที่เก้าอี้ที่วางอยู่ริมห้องเพราะรู้สึกว่าเหมือนมีใครจ้องอยู่ พอหันไป เรียกได้ว่าหัวใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ผมเกือบร้องออกมาเพราะที่ผมเห็นคือชายแก่เจ้าของร่างที่ยังนอนอยู่บนเตียง

"คะคะคะคะคุณตา"

ผมครางด้วยเสียงสั่นๆไม่เป็นภาษา ใจอยากจะวิ่งแต่ขาก้าวไม่ออก อีกฝ่ายมองผมอย่างแปลกใจแล้วยิ้มออกมา

"หมอเห็นผมด้วยหรือ"

"หะหะหะหะหะเห็นสิครับ"

แกหัวเราะออกมาอย่างอารมรณ์ดีพร้อมยกมือขึ้นเหมือนจะห้าม

"กลัวผมทำไม ทีตอนดูศพผมหมอก็ดูอย่างไม่กลัวแถมจดบันทึกอย่างตั้งใจด้วย   ผมไม่ทำอะไรคุณหมอหรอก ถึงจะทำก็ทำไม่ได้"

แกพูดไปหัวเราะไป เริ่มทำให้ผมคลายความกลัวขึ้นมาบ้าง แล้วคุณตาได้พูดต่อ

"เอ แต่ก็แปลกนะที่จู่ๆหมอเห็นผมได้ หมอเล่นของอะไรหรือเปล่า"

ผมส่ายหน้าทันที

"ถ้าอย่างนั้นดวงเราคงสมพงษ์กัน เอาเป็นว่าสรุปง่ายๆแบบนี้แล้วกัน มันมีจังหวะให้เราได้สื่อถึงกัน"

แกบอกผมอย่างอารมณ์ดี ทำให้ผมหายกลัวแกทันทีจึงถามไปที่แก

"แล้วคุณตามาอยู่ที่นี่นานหรือยังครับ"

"ก็ตั้งแต่วันที่ผมตายนั่นละ ผมก็ล่องลอยอยู่ในโรงพยาบาลนี้ไม่รู้เพราะอะไร จนลูกๆหลานๆจัดงานศพให้ผมเรียบร้อย  ผมก็ไม่ได้ไปไหน วนเวียนอยู่ในนี้ หรือผมจะไปตอนที่ผมถูกเผาจริงแล้วก็ไม่รู้"

ตอนสมัยมีชีวิตฐานะของคุณตานั้นเป็นเศรษฐี และตัวแกเองก็ทำบุญไว้เยอะรวมถึงการบริจาคร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์อีกด้วย และดูจากท่าทีแกตอนนี้แล้วเหมือนกับคนธรรมดาคนหนึ่ง ทำให้ผมมีความกล้าขึ้นมาแทนความกลัวจึงเริ่มคุยกับแก ทำให้รู้ว่าหลังจากที่ตาย วิญญาณแกก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แต่ในโรงพยาบาล ทุกวันแกจะมาดูศพของแกที่มีนักศึกษาแพทย์อย่างพวกผมเข้ามาศึกษาหาความรู้จากร่างของแกและหลังจากนั้นผมได้พบปะกับวิญญาณของคุณตามาตลอดโดยไม่มีความหวาดกลัวซึ่งผมก็แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน และจากวันนั้นเองทำให้ผมเปลี่ยนความคิดในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะเรื่องของสายวิชา ตอนแรกผมตั้งใจจะไปเป็นศัลยแพทย์แต่จากที่ได้คุยกับวิญญาณคุณตาแล้วทำให้ผมเปลี่ยนความตั้งใจจากที่จะเป็นศัลแพทย์ผมเลือกที่จะเรียนทางด้านนิติเวชจนจบแล้วมาทำงานใช้ทุน

ก่อนจะไปเรียนต่อที่สหรัฐด้วยทุนของตัวเองที่เป็นมรดกของแม่และตากับยาย โดยมีผู้จัดการมรดกที่เป็นเพื่อนเก่าแม่คอยดูแลจนผมเรียนจบ ตอนกลับมาทำงานช่วงแรกๆผมถูกส่งไปอยู่ที่ต่างจังหวัดแต่ด้วยผลงานที่ด้านชันสูตรของผมที่ทำให้คดีต่างๆนั้นคลี่คลายทำให้ผมถูกย้ายมาประจำที่กรุงเทพหลังจากมีผลงานที่ขึ้นชื่อในการพิสูจน์หลักฐานจากศพในหลายคดี  ไม่เคยมีใครรู้ว่าผมนั้นนอกเหนือจากการใช้ฝีมือที่เรียนมาแล้ว ผมยังมีวิญญาณที่ผมติดต่อได้คอยชี้เบาะแสให้อีก หลายรายถูกฆาตกรรมอำพรางคดีว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ถึงหลักฐานที่พบจากศพจะชี้ไปในทางนั้น แต่ถ้าผมได้ไปชันสูตรในที่เกิดเหตุหรือผ่าศพนั้นๆวิญญาณของคนตายจะมาบอกจุดที่หลายๆคนมองข้ามทำให้ผมสามารถหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเอาไปหลักฐานในการดำเนินคดีจนถึงชั้นศาล ตั้งแต่เจอวิญญาณคุณตาในวันนั้นผมได้เจอวิญญาณอีกมากมายจนกลายเป็นความเคยชิน ส่วนใหญ่วิญญาณที่ผมเจอจะเป็นวิญญาณของศพที่ผมทำการชันสูตร จนถึงวันนี้ผมจึงไม่แปลกใจที่เจออีก ก่อนหน้าที่เธอจะตายเธอเป็นไฮโซสาวที่มีชื่อของสังคมได้รับเชิญไปออกงานหรูๆเป็นประจำและจู่ๆเธอได้กินยาฆ่าตัวตายโดยที่ไม่มีใครรู้สาเหตุที่บ้านพักของเธอ ทำให้พ่อแม่ของเธอขอให้ผมผ่าพิสูจน์ศพเธออีกครั้ง ซึ่งหลักฐานที่พบในกระเพราะอาหารคือยานอนหลับในปริมาณที่มาก และร่างกายส่วนอื่นๆไม่มีรอยถูกทำร้ายใดๆทั้งสิ้น

"ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกันว่าทำไมผมถึงเห็นและติดต่อสื่อสารกับวิญญาณของคุณได้ เอาเป็นว่าคุณกับผมสามารถสื่อสารกันได้เพราะมีคลื่นวิทยุที่ตรงกัน"

ผมพยายามอธิบายไปยังวิญญาณที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วทำตัวตามปกติ ถอดถุงมือยางและหน้ากากอนามัยลงถังขยะ ดูเธอจะยัง งงๆกับผมอยู่ ผมจึงเดินไปนั่งบนเตียงผ่าศพอีกเตียงแล้วถามเธอ

"คุณมาที่นี่ได้ยังไง"

เธอส่ายหน้าพร้อมตอบ

"ไม่รู้พอฉันกินยาไป ฉันก็หลับสนิทมันเหมือนมีแสงสีขาว อยู่สักพักแล้วจู่ๆฉันก็อยู่ที่นี่ ทำให้รู้ว่าฉันตายแล้ว"


"เท่ากับคุณพึ่งรู้ตัว"

"ใช่"

"ที่นี้คือประเด็นละ พ่อกับแม่คุณไม่เชื่อว่าคุณฆ่าตัวตาย ทำให้ผมต้องมาผ่าศพคุณอีกครั้ง แต่ผลที่เห็นผมดูแล้วร่างกายคุณไม่รอยถูกทำร้าย มีแต่ยานอนหลับจำนวนมากที่ละลายและยังไม่ละลายในกระเพราะอาหาร มันสรุปได้ว่าคุณกินยาเกินขนาดเพื่อฆ่าตัวตาย"

"นั่นสินะ มันมาจากความคิดสั้นและความโง่ของฉันที่ทำอะไรไม่คิดทำให้พ่อกับแม่ต้องมาเสียใจ"

ผมมองเธออย่างเห็นใจแล้วพูดปลอบใจเธอไป

"เอาละคิดว่าคุณหมดเวรหมดกรรมในโลกนี้แล้ว ผมขอให้คุณไปตามทางของคุณ เราคงพูดคุยกันได้เท่านี้"

"ไปไหนละ ฉันจะไปไหนได้ ฉันไม่รู้"

"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะหลายๆวิญญาณที่ผมเจอ พอสักพักพวกเขาก็จะหายไป ผมเลยเดาว่าไปตามทางของพวกเขาเหมือนกับคุณละ จริงๆถ้าไม่จำเป็นผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากนักคุณลุงเตือนผมไว้หลายครั้ง แล้วผมจะทำบุญไปให้คุณนะคุณกิ่งตอนนี้ผมขอตัวก่อน"

ผมลงจากเตียงที่นั่งแล้วจะเดินไปที่ประตูแต่เธอทักขึ้นมา

"แล้วจะทิ้งฉันไว้แบบนี้หรือไง"

"ก็ผมบอกคุณแล้ว ผมช่วยอะไรไม่ได้ ผมเป็นหมอผ่าศพ ไม่ใช่หมอผีหรือเกจิอาจารย์อะไร"

"ไอ้หมอไม่มีน้ำใจ แกจะต้องโดนดี"

เธอร้องออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ผมจึงเอามือกอดอกแล้วถามเธอ

"อ้าวพูดไม่รู้เรื่องแฮะ  แล้วคุณจะทำอะไรผมได้ ทำมือยืดมือยาวแบบแม่นาคมาบีบคอผมหรือ ถ้าทำได้ก็เชิญเอาสิ ผมรออยู่"

ตาเธอลุกวาวแล้วยกมือขึ้นมาทำท่าแบบที่ผมบอก แต่ผ่านไปชั่วระยะหนึ่ง เธอบอกผมเสียงอ่อยๆ

"ฉันทำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง"

"โธ่คุณนี่ ทำผมเสียเวลา ผมยังมีงานต้องทำอีกเยอะนะ มีเอกสารเกี่ยวกับตัวคุณนะผมขอตัวนะ และผมบอกตรงๆตอนนี้คุณจะไปไหนก็เป็นอิสระของคุณนะ ลองกำหนดจิตให้ดี คุณอาจจะพบกับเส้นทางของคุณ ผมแนะนำได้เท่านี้ผมไปละนะคุณแล้วผมจะทำบุญไปให้"

ผมเดินออกจากห้องชันสูตรโดยไม่สนใจกับวิญญาณของเธอ จนผมทำเอกสารเสร็จเรียบร้อยระหว่างที่เดินไปลานจอดรถ ผมได้ยินเสียงเรียก

"ยุทธจะกลับบ้านแล้วหรือไง"

ผมหันไปที่เสียงเรียก เจ้าของเสียงยืนอยู่ไม่ห่างนัก

"อ้าวพลอยมาทำอะไรที่นี่"

"แฟนเพื่อนมาคลอดลูกที่นี่เลยมาเยี่ยม กำลังจะโทรหายุทธพอดีว่าถ้ายังไม่กลับจะชวนไปกินข้าวเย็นเราไม่เจอกันนานแล้วด้วย"

หมอพลอยคือเพื่อน ไม่ใช่สิจะเรียกว่าแฟนก็ไม่ใช่เอาเป็นว่าเป็นคู่ขาผมแล้วกันสมัยเรียนหมอด้วยกัน ตอนนี้เธอเป็นหมอศัลยกรรมที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

"เอาสิ"

ผมตอบตกลง และให้เธอขับรถตามผมไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เรามาทานด้วยกันเป็นประจำ  เราคุยกันหลายเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทางด้านการแพทย์

"เป็นไงตอนนี้ งานชุกเลยละสิ"

เธอถามผม

"ใช่แล้ว ถึงจะไม่ต้องออกไปชันสูตรบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน แต่งานมันล้นมือจริงๆ"

"จะบอกเล่นๆเหมือนตอนสมัยเรียนว่าไม่ต้องทำแล้วงาน ยุทธรวยอยู่แล้วมรดกที่ได้ก็ใช้ไม่มีวันหมดและที่จะได้จากลุงอีก แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่สำหรับคนอย่างยุทธ"

"ก็บอกแล้วไม่ใช่ลุงแท้ๆ จะได้ได้ยังไง"

"ก็นั่นละ เห็นรักยุทธเหมือนกับลูกเลยนี่ คงได้มั่งละ ยิ่งลุงไม่ได้แต่งงานไม่มีลูกด้วย"

เธอเย้าผมไม่หยุดทำให้ผมหัวเราะออกมา เรื่องนี้ทำไมใครๆก็พูดถึงทั้งๆที่ลุงไม่ใช่ลุงแท้แค่เป็นเพื่อนเก่าแม่เท่านั้น แต่ลุงก็ดูแลผมมาตลอด ตั้งแต่ตากับยายผมเสีย ลุงทำตามคำขอของแม่ผมอย่างไม่บิดพลิ้ว ดูแลผมมาอย่างดี ทรัพย์สินของตากับยายและของแม่ทุกอย่าง ลุงดูแลให้อย่างดีไม่มีตกหล่นและมอบให้ผมทันทีในวันที่ผมเรียนจบทั้งๆที่ไม่ใช่ญาติ บุญคุณของลุงนั้นล้นเหลือจนผมไม่รู้จะตอบแทนยังไง ผมรู้ว่าพลอยนั้นแหย่ผมเล่นก่อนที่เราจะเปลี่ยนเรื่องคุยจนได้เวลากลับ ระหว่างเดินมาที่ลานจอดรถพลอยที่เดินจับแขนผมมาได้ถามผม

"คืนนี้ไปไหนต่อหรือเปล่าหรือกลับบ้านเลย"

"ว่าจะกลับบ้าน"

"งั้นไปห้องพลอยไหมเราห่างกันมานานแล้ว"

ผมเอามือโอบเอวเธอแทนคำตอบ พลอยเองก็ยังไม่แต่งงานผมจึงไม่รู้สึกผิดอะไร เรายังมีความสัมพันธ์สวาทกันอยู่แม้จะนานๆทีตามความต้องการของเรา มันเหมือนการระบายความเครียดจากงานเหมือนตอนสมัยเรียนที่นอนด้วยกันเพราะอยากหาทางระบายจากการเรียนที่หนัก เมื่อคู่ขาเก่าชวนผมยากที่จะปฏิเสธ ผมขับรถตามเธอไปที่คอนหรูกลางใจเมือง พอเข้าไปในห้อง เจ้าของห้องให้ผมจัดการอาบน้ำก่อน เหมือนกับเธอ จนผมมานอนรอเธอที่เตียง ไม่นานนักพลอยที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวได้เดินออกจากห้องน้ำ เธอเดินมาที่เตียงผมยื่นมือไปให้พอเธอยื่นมือมาจับ ผมดึงตัวเธอลงมานอนบนตัว พลอยจูบผมทันที ผมจูบตอบและดึงผ้าเช็ดตัวที่เธอสวมอยู่ให้พ้นตัว ก่อนจะเอามือลูบไปตามแผ่นหลังไปหยุดที่ก้นอันเต่งตึง ผมขยำไปแรงๆ แล้วพลิกตัวให้เธอลงไปนอนบนเตียงแทน

ผมดึงผ้าเช็ดตัวที่สวมอยู่ให้พ้นตัวเช่นกัน แล้วลงไปนอนบนตัวเธอ ตาของเราประสานกันครู่หนึ่งพลอยโน้มคอผมให้ลงมาหา เราแลกจูบกันครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมจะขยับหน้าไปตามแก้มและซอกคอไล่ลงมาถึงทรวงอกขนาดพอดีตัว นมเธอยังเต่งตึงอยู่ตามประสาสาวที่ชอบออกกำลัง ทำให้ร่างกายของเธอนั้นดูดีไปทุกส่วน หัวนมสีเข้มที่ถูกผมดูดดื่มตั้งแต่สมัยเรียน ถึงตอนนี้ผมยังดูดอย่างไม่เบื่อ ผมดูดสลับไปมาแล้วไล่หน้าลงตามหน้าท้องที่ขาวและมีกล้ามท้องของเธอ มาถึงสะดือผมจูบไปเบาๆและลากลิ้นลงไล่ตามไรขนอ่อนมาถึงหมอยที่ดกที่อยู่เหนือโคกหีที่โหนกนูน

หมอพลอยนั้นเป็นคนซ่อนรูปถึงตัวเธอจะไม่สูงมากนักแต่โคกหีเธอนั้นทั้งโหนกนูนทั้งใหญ่ ยิ่งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอยิ่งทำให้รูปร่างของเธอนั้นสะดุดอย่างมาก ผมใช้ปากงับไปที่หมอยเบาๆ ก่อนจะไปที่ร่องหีแล้วเอาลิ้นกวาดเข้าไป ส่วนมืออีกข้างผมเลื่อนไปที่เต้านมแล้วคลึงไปที่หัวนม

"อูยยยย ยุทธ ซี๊ดดดดด"

เสียงครางผสมลมหายใจถี่ๆดังออกมา มือของเธอจับที่บ่าผมแน่นพร้อมแอ่นกายรับลิ้นผมเป็นระยะ เธอปล่อยให้ผมใช้ลิ้นจนร่างกายเธอเกร็งก้นนั้นแอ่นขึ้น มืออีกข้างเลื่อนไปจิกที่นอนแน่น ผมมรู้ว่าเธอถึงแล้ว แต่ผมยังลงลิ้นที่โคกหีเธอต่อไป ซึ่งเธอนั้นไม่ร้องบอกให้หยุดปล่อยให้ทำรักด้วยปากต่อไป ก่อนที่ผมจะพลิกตัวเธอให้นอนคว่ำ และพรมจูบไปตามแผ่นหลังที่ขาวของเธอไล่ลงมาถึงก้นที่เนื้อแน่น ผมกัดไปเบาๆก่อนจะยกก้นเธอให้สูงขึ้น พลอยที่ร้องครวญครางไม่หยุดขยับตัวทันที เหมือนรู้ว่าผมจะทำอะไร ผมฝังหน้าลงไปที่ที่โคกหีและหมอยที่ชุ่มฉ่ำจากน้ำเงี่ยนของเธออีกครั้ง ผมเลียจนผมเองนั้นก็ทนไม่ไหว

ผมเงยหน้าขึ้นจากหีของเธอแล้วจับเธอนอนหงาย ผมฝังหน้าไปที่เต้าคู่งามอีกครั้ง แล้วดูดสลับไปมาทั้งสองเต้าก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นไป ผมเอาควยที่แข็งตัวเต็มที่ไปจ่อที่ปากเธอ พลอยมาองหน้าผมด้วยสายตาที่ชุ่มฉ่ำ เธอเอามือรูดควยผมไปมาก่อนจะผงกหัวขึ้นเอาปากมาอม ลีลาการมอมควยของเธอนั้นยังเด็ดเหมือนเดิม ผมปล่อยให้เธอผมควยผมพักใหญ่ก่อนจะดึงควยออกจากปากเธอ แล้วเลื่อนตัวลงมาด้านล่างผมจับควยไปจ่อที่ปากล่างของเธอ แล้วดันควยเข้าไปทันที ช่องทางรักของเธอยังกระชับอยู่พอสมควร พอผมเริ่มกระเด้าพลอยเอามือมาโอบรอบคอผมแล้วเด้งรับตามจังหวะเด้าของผม

"เด้งมันจริงๆพลอย"

"ยุทธก็เอาแซ่บเหมือนเดิม"

เธอตอบผมอย่างร้อนแรงเหมือนทุกครั้ง

"ก็มันใหญ่ดีนี่ต้องเอาให้แซ่บๆ"

ผมตอบพร้อมกระเด้าแรงขึ้น ซึ่งเธอนั้นตอบสนองอย่างดีจนผมร็ว่าจะถึงจุดหมายจึงกระซิบถามเธอ

"ข้างในได้ไหม"

"ได้ พลอยปลอดพอดี"

ผมได้ยินจึงกระเด้าไปอีก 2-3 ครั้งแล้วปล่อยน้ำกามออกมา เหมือนกับเธอที่มีอาการเกร็งตัวอีกครั้ง ผมซบไปบนตัวเธอครู่หนึ่งแล้วพลิกตัวลงมานอนข้างๆตัวเธอ

"ค้างไหม"

เสียงจากหมอสุดสวยที่เอาหน้ามาแนบที่ไหล่ผม

"ไม่ละ วันหลังแล้วกัน ไม่ได้บอก เดี๋ยวป้าเขารอ"

เธอรู้ว่าผมหมายถึงแม่บ้านคนเก่าแก่ที่ดูแลบ้านผมมาตั้งแต่สมัยแม่ผมยังอยู่

"ความจริงถ้ายุทธมาอยู่กับพลอยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ"

ผมไม่ได้ตอบเธอในเรื่องนี่เพราะรู้ว่าเราทั้งคู่ยังติดอะไรอยู่หลายๆเรื่องที่จะมาใช้ชีวิตด้วยกัน ผมนอนพักร่างกายอยู่พักใหญ่แล้วไปที่ห้องน้ำโดยเจ้าของห้องตามไปด้วย ภายในห้องน้ำผมจะปลุกอารมณ์เธออีกครั้ง นิ้วผมไล่ลงมาที่ร่องหีของเธอ แต่พลอยจับมือผมไว้

"พอก่อนเหอะ พลอยเพลียมาก 2 ครั้งต่อกัน ไว้ยุทธมาค้างแล้วกันทั้งคืนก็ได้ถ้ายุทธมีแรง แต่ตอนนี้พลอยทำให้แล้วกัน"

มือของเธอจับควยผมที่เริ่มจะแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง พลอยทรุดลงไปแล้วจัดการใช้ปากปลุกควยผมให้แข็งตัวเต็มที่ และบรรเลงรักด้วยปากให้ผมต่อ พลอยนั้นเป็นสาวร้อนแรงคนหนึ่งที่สามารถจุดติดได้ง่ายๆ ผมจำได้ว่าหลังจากที่ผมกลับจากเมืองนอกไม่นานนักผมมาเจอพลอยที่งานเลี้ยงรุ่นถึงตอนนั้นเธอจะมีแฟนอยู่ แต่พอถ่านไฟเก่ามันจุดติดทำให้ผมกับเธอปลีกตัวออกมาจากห้องที่จัดเลี้ยงและมาที่รถของเธอ วันนั้นเธอจะไฟแดงแต่เธอใช้ปากพาผมไม่ถึงสวรรค์ได้เหมือนตอนสมัยเรียน ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอจัดการใช้ลิ้นกับปากทำให้น้ำกามผมหลั่งใส่ปากเธออีกครั้ง

หลังจากที่อาบน้ำชำละล้างคราบไคลกันเรียบร้อย ผมจัดการแต่งตัวและลาเจ้าของห้องที่ดูจะหมดแรงจากบทรักที่ผ่านมา ผมบอกเธอไม่ต้องไปส่งผม พอผมกลับมาถึงรถที่จอกหน้าคอนโดพอเข้าไปในก่อนที่จะสตาร์ทเครื่อง ผมแทบร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะวิญญาณของไฮโซกิ่งมานั่งอยู่เบาะข้างๆ

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Himajin



cyborg0011

#3
สงสัยผีเฝ้าจ้องดูบทรณกามกับคู่ขาหมอศัลย์ซะเพลินเลนสินะ

เอะ...ชักคุ้นๆ.. เหมือนนิยายดังที่เคยถูกทำเป็นละครทีวีโทรทัศน์ช่องเลขน้อย ที่วิญญาณ ญ ติดต่อพระเอกได้คนเดียว แล้วมีปริศนาการตายที่ตัวเองนึกไม่ออกอยู่....

แตงมาแลง


[Alt]air

ทั้งหลอนทั้งเสียว บอกไม่ถูก
สงสัยไฮโซกิ่งยังไม่เคยแน่ ตามหมอติดเลย

locklock leck

นานๆจะมี แนวfwb แบบนี้มาที พลอตเรื่องน่าติดตามมากครับ

Nong5670

ได้มีจัดกับผีล่ะงานนี้หมอยุทธคนเก่ง

1819

ไรท์ลงเรื่องใหม่ มาแนวผีกับคน ด้วย แฟนตาซี ดีครับ หลังจาก ติดใจเรื่องสางแค้น         แอคชั่นเดือนมาก เรื่องนี้ น่าจะเป็นอีกเรื่องที่ สนุุก มากๆ
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

dodoza2

ป๊าดยังไงต่อน้อนิชอบมากครับกับความแปลกใหม่นี้

eden2313


bangsan

น่าติดตามไฮโซกิ่งเริ่มมีฤทธิ์แล้วซิถึงตามหมอรุตมาได้

x99


tcm12599

ในที่สุดก็มีคนเขียนแนววิญญาณสักที ::Glad:: อยากรู้จักว่าวิญญาณนี่ทำไรได้บ้าง