ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ดอนป้าไม้re-story 2

เริ่มโดย DEVIL WORLD, มีนาคม 28, 2022, 02:40:37 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

DEVIL WORLD


   เอาตอนที่2ไปอ่านกันก่อนนะ  ตอนนี้ดํท่าแล้วคงเสร็จไม่ทันสิ้นเดือน  น่าจะเลยไปอีกหลายวัน    (บทเสียวมันเขียนยาก ตอน8-9-10 ปิดท้ายเนี้ย ยังต้องเก็บรายระเอียดอีกเยอะเลย )





» 25,เมษายน,2565 เวลา»6:00น.



   คณะเดินทางของพนมได้ตื่นขึ้นมาเก็บข้าวของเตรียมเดินทางเข้าท่องเที่ยวป่าลึก ซึ่งในเช้าวันนี้ทางพนม...มานพและ..ชาตรี ก็ต่างช่วยกันขนของลงจากรถแล้วจัดแจงยัดใส่กระเป๋ากับกล่องเก็บสัมภาระที่จะให้ลูกหาบแบก และในช่วงนี้เองทางกระท่อมของสองสาวบลูและสา บลูนั้นก็ได้ลุกตื่นขึ้นมาและหันไปปลุกสาเพื่อนสาว!

    "ตื่นได้แล้วสา...เช้าแล้ว...รีบไปอาบน้ำกัน...มานพและชาตรีจะได้ไม่ต้องรอเรา..." เสียงเอ่ยกล่าวของบลูที่ร้องบอกให้สารีบลุกไปอาบน้ำด้วยกัน


   "อืออ...หนาวอะแก...ไม่อยากลุกเลย..อือออ..." เสียงอิดออดงัวเงียของสาที่เอ่ยร้องเบาๆเพราะไม่อยากจะลุก

 
  "ตื่นได้แล้วสา...อย่าให้คนอื่นมารอเราสิ...รีบๆอาบ...จะได้ไปรอเดินทางพร้อมคนอื่น...คนอื่นจะไม่ต้องมาคอยพวกเรา..." บลูร้องเรียกสาซ้ำๆให้เธอรีบลุกไปอาบน้ำพร้อมกัน และก็แน่นอนว่าสุดท้าย..สา'ก็ต้องยอมดันตัวลุก แม้ว่าจะหนาวและรู้สึกอยากจะนอนต่อ แต่สาที่ได้ยินเสียงร้องเรียกจากบลูเพืื่อนสาวซ้ำๆ ก็งัวเงียลืมตาขึ้นและดันตัวลุกขึ้นมานั่งขณะที่ผ่าห่มก็ยังคลุมตัวอยู่!


   "ฉันนำไปก่อนแล้วนะสา...ลุกแล้วก็ตามมาละ.." บลูเอ่ยบอกสาเป็นคำสุดท้ายหลังจากที่เห็นสาเพื่อนสาวดันตัวลุกนั่ง ก่อนที่บลูนั้นจะเดินไปเปิดประตูกระท่อมและเดินออกไป!


   พอหลังจากบลูเดินถือของลงจากกระท่อมไปยังสถานที่อาบน้ำ ทางสาที่นั่งคลุมผ้าห่มก็ต้องลุกเตรียมตัวรีบตามบลูไป แต่ทว่าพอสาสลัดผ้าห่มออกพ้นตัว...เธอ!..ก็ต้องรู้สึกแปลกใจกับบางสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อนที่เธอใส่นอนนั้น เม็ดกระดุม4ใน5มันหลุดออกจากกันเหมือนถูกแกะ จนเสื้อของเธอแหวกออกเห็นหน้าอกขาวอวบใหญ่ที่ชุดชั้นในสีขาวโอบอุ้มอยู่..!


    ซึ่งมันก็ทำให้สานั้นรู้สึกแปลกใจอยู่พอควร ว่า..ทำไมกระดุมเสื้อของเธอถึงหลุดแยกจากกัน แต่ถึงกระนั้นสาก็ไม่มีเวลานึกอะไรมากเพราะเธอเองก็ต้องรีบตามบลูไปอาบน้ำและรีบมาเก็บของเตรียมเดินทาง นั้นจึงทำให้สายกมือขึ้นมาติดกระดุมเสื้อกลับเข้าที่ให้เรียบร้อยดังเดิม ก่อนจะลุกยืนแล้วคว้าถืือของเดินตามทางที่บลูเดินนำไปก่อน!   

      ในระหว่างที่เดินตามบลูเพื่อสาวไปนั้น ทางฝั่งของมานพและชาตรีที่ช่วยพนมจัดเตรียมของอยู่ก็เอายทักทั้งบลูและสา เมื่อเห็นว่าทั้งสองสาวนั้นกำลังจะไปอาบน้ำชำระล้างเหงื่อไคล!


     "อื่อ..ตื่นละหรอสองสาว....จะไปอาบน้ำใช่ไหม...ให้นพรึตรีไปเป็นเพื่อนป่าว..." เสียงเอ่ยทักของชาตรีที่ร้องทักสองสาวบลูและสาแฟนสาวของตน เมื่อชาตรีนั้นเห็นว่าทั้งสองกำลังเดินตามกันไปทางลำธาร!


     "ใช่....ไม่เป็นไร...ไม่ต้องไปก็ได้...ช่วยนพกับอาพนมเก็บของเถอะ...." เสียงใสๆของสาที่เอ่ยบอกกับชาตรี ก่อนที่เธอนั้นจะเร่งเดินขึ้นไปเดินตีคู่กับบลู และพากันเดินไปยังลำธารพร้อมกัน!

       เวลา6:20เศษๆ...บลูและสาก็ได้เดินมาถึงยังลำธารท้ายหมู่บ้าน และเตรียมตัวลงอาบน้ำชำระล้างร่างกาย โดยทั้งสองสาวนั้นก็นุ่งผ้ากระโจมอกแล้วถอดเสื้อผ้ากางเกงออก ก่อนจะลงไปแช่น้ำพร้อมกัน!!

      "บรือออ!...หนาวว...น้ำเย็นมากเลยสา..." เสียงของบลูที่เอ่ยพูดกับสาเพื่อนสาวลงหลังย่างกรายเดินลงมาแช่น้ำเย็นๆ!


      "อืออ...ซี๊ดดดดด....เย็นจริงๆแก...บรืออออ..." สาเอ่ยตอบบลูเพื่อนสาว และบรรยายถึงความรู้สึกของความเย็นของน้ำที่ตัวเองนั้นลงอาบแบบเดียวกัน

        ทั้งสองสาว..บลู...สา..นั้นลงแช่น้ำกันอย่างเพลิดเพลิน ทั้งดำผุดดำว่ายเล่นกันไปมาอยู่พักนึงก็ขึ้นมาจากน้ำและจัดแจงเปลียนใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ซึ่งทางบลูนั่นได้ขึ้นมาจากน้ำก่อนสาและจัดแจงเปลียนใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ แต่ในระหว่านั้นทางสาที่พึ่งขึ้นจากน้ำตามหลังบลูก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมาและสาจึงได้เอ่ยบอกบลูขณะที่ทางบลูนั้นจัดแจงใส่เสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว?

        "เออ...บลู..ฉันปวดฉี่อ๊ะ...แกไปก่อนเลยนะ...เดี่ยวฉันตามไป..." สาเอ่ยบอกกับบลูหลังจากที่นุ่งกระโจมอกขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งทางบลูที่ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วพอได้ยินที่สาบอกก็ตอบรับด้วยการถามกลับไป!

      "อือ...ไม่ให้รอแน่นะ..." บลูเอ่ยถามย้ำให้แน่ใจ

      "อือ...แกไปก่อนเลย...." สาเอ่ยบอกบลูอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าให้บลูนั้นไปก่อนได้เลยโดยที่ไม่ต้องรอ ซึ่งพอสายืนยันว่าอย่างนั้น บลู'ก็ออกก้าวเดินกลับไปที่หมู่บ้านทันที ส่วนสาก็เดินหลบเข้าไปหลังพุ่มไม้ด้านหนึ่งเพื่อปลดทุก!

    ในเวลาต่อมาหลังจากที่สาปลดทุกจนเสร็จแล้วเธอก็เดินออกมาจากหลังพุ้มไม่และเตรียมจะเปลียนใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ แต่ทว่าพอสาคลายปมผ้าเช็ดตัวที่นุ่งกระโจมออกเพื่อจะใส่ชุดชั้นในชุดใหม่ สาก็ต้องรู้สึกแปลกใจในทันที..เมื่อ!..บนหน้าอกของเธอเกิดมีรอยแดงช้ำห้อเลือดขึ้นมาสามสี่จุดรอบๆฐานจุกนมของเธอ และที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือรอยห้อเลือดพวกนี้มันเกิดขึ้นมาเหมือนกับว่าตัวสานั้นไปโดนไครดูดหน้าอกมา และเมื่อสาเห็นอย่างนั้นก็ทำเอาเธอสงสัยและครุ่นคิดทันทีว่า..รอยห้อเลือดพวกนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง แต่!..ไม่ว่าเธอจะคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก..แม้ว่าเธอนั้นจะคิดจนจัดแจงเปลียนใส่เสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จแล้ว และสุดท้ายสาก็เลือกที่จะเก็บเอาความสงสัยนั้นไว้ในใจลึกๆโดยที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ก่อนที่เธอจะเดินกลับไปยังหมู่บ้านในเวลาถัดมา!

   

     หลังจากสองสาวอาบน้ำกันเสร็จและได้มาเก็บของไปรวมตัวกับทางฝ่ายของผู้ชายที่นำด้วยพนมและผู้ใหญ่สีที่ท้ายหมู่บ้านจนครบ คณะของพนมก็ได้สมาชิกมาเพิ่มจากที่มี7คน ซึ่งมี...พนม...ผู้ใหญ่สี...มานพ..ชาตรี...สา...บลู...และพรานซอลือ ก็ได้เพิ่มมาเป็น9คนเมื่อคณะของพนมได้ลูกหาบเพิ่มเข้ามาอีก2คน ซึ่งลูกหาบคนแรกนั้นก็เป็นคนในหมู่บ้านดอนป่าและมีชื่อว่า...อามู!...ส่วนลูกหาบอีกคนนั้นชื่อ..จามี..เป็นคนพม่าที่ข้ามมาอยู่ฝั่งไทย และได้มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดอนป่าแห่งนี้เกือบจะ10ปีแล้ว โดยคนในหมู่บ้านทุกคนนั้นไม่รู้เลยว่าภูมิหลังที่ผ่านมาของจามีนั้นเป็นคนยังไง ซึ่งที่ชาวบ้านทุกคนรู็ก็แค่ตอนที่จามีย้ายมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแล้วเท่านั้น และตัวจามีเองก็มีนิสัยดีมากพอควรสำหรับคนในหมู่บ้าน นั่นจึงทำให้จามีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดอนป่าไม้นี้ได้!

            เวลา..08:00น. พรานซอลือก็ได้จัดเตรียมขาวของเครื่องเซ่นที่จะจัดทำพิธีไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาและของเซ่นไหว้ที่จะทำพิธีเปิดป่า ซึ่งพนมและคณะรวมถึงลูกหาบก็ได้มารวมตัวกันที่หลังหมู่บ้านตรงที่เป็นแนวทางเดินเข้าไปในป่า และตรงนี้ทางพรานซอลือก็จัดแจงวาง..ไก่ต้ม...ผลไม้...เหล้าต้ม...และบุหรี่ยาเส้นที่จุดไฟแล้วเพื่อเซ่นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา และอีกด้านหนึ่งของทางเดินพรานซอลือก็จัดแจงว่างแบบเดียวกันแต่ฝั่งนี้ทางพรานซือลือนั้นก็ได้เอ่ยกล่าวไหว้ขอเปิดป่า พร้อมกับใช้มีดทิ่มลงไปในดินและพลิกมีดกลับหน้าดินลง!


    "ข้าวของเครื่องเซ่นหล่านี้...ข้าพเจ้าขอเซ่นไหว้ให้กับเจ้าป่า..เจ้าเขา...และขอให้ท่านเปิดเส้นทางให้พวกเราทุกคนเดินทางในป่าของท่าน..โดยมิมีสิ่งใดที่เป็นอันตรายมาแผ้วพาล...และโปรดให้สัตว์ที่เป็นอาหารให้แกกลุ่มของข้าพเจ้าด้วยเถิด..!" เสียงคำเอ่ยกล่าวของพรานซอลือที่เอ่ยทำพิธีขอเปิดป่าและขออนุญาตเจ้าป่าเจ้าเขาก่อนจะพาคนะเดินทางของพนมเข้าป่า..!

      "ต่อจากนี้เมื่อเข้าป่าไปแล้ว...ให้ทำตามเวลาที่ผมบอก...หยุดคือหยุด...เดินคือเดิน...ห้ามยิงอะไรโดยไม่บอกผมก่อน...เข้าใจกันนะ...!" เสียงเอ่ยกล่าวของพรานซอลือที่หันกลับมาเอ่ยบอกกับทุกคนในคณะเดินของของพนม ซึ่งเป็นข้อกำชับให้ทุกคนในคณะที่คิดจะยิงสัตว์หรือทำอะไรในป่าจะต้องบอกกับพรานซอลือก่อนทุกครั้ง!

    เมื่อทำพิธีเซ่นไหว้ขอทางเปิดป่าและบอกข้อกำชับให้ทุกคนในคณะเดินทางได้เข้าใจเสร็จ...พรานซอลือก็ออกเดินนำคณะของพนมเข้าป่าในทันที แล้วในเวลานี้เองพนมและคณะลูกๆรวมถึงลูกหาบก็ออกก้าวย่างตามพรานซอลือไปเช่นกัน และทั้งหมดในคณะเดินทางครั้งนี้ก็ออกเดินเข้าไปในป่าเรื่อยๆโดยช่วงแรกๆก็เป็นป่าไม้โล่งๆพื้นแห้งๆ และมีร่องรอยของการตัดการถางและร่องรอยของการเดินหาของป่าของชาวบ้านมากมายหลายชั่วอายุคน มันจึงทำให้ป่าช่วงแรกๆรอบบริเวณหมู่บ้านในช่วง1กิโลเมตรเป็นป่าแห้งโล้ง!


   คณะของพนมเดินตามพรานซือลือไปเรื่อยๆผ่านใต้ต้นไม้ต่างๆนาๆสายพันธุ์ที่ล่มรื่นปกคลุมไปทั่วทั้งผืนป่า และพรานซอลือก็เดินนำคณะของพนมลึกเข้าไปในป่ามากขึ้นๆโดยคนในคณะก็เดินเรียงตามกันมาติดๆ ซึ่งพนมและผู้ใหญ่สีเดินต่อกันรองจากพรานซอลือ ส่วนมานพอยู่ลำดับ4 ชาตรีลำดับ5 สาลำดับ6 บลู7 และปิดท้ายด้วย8-9คือ จามีและอามู ซึ่งในระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเดินตามต่อๆกันไปอยู่นี้ ทางท้ายสุดของคณะซึ่งเป็นลูกหาบทั้งสองนั้นอามูและจามี พวกเขาทั้งสองคนก็เดินตามคณะของพนมไปโดยรับหน้าที่แบกเป้ใบใหญ่คนละใบและในช่วงเวลานั้นลูกหาบทั้งสองก็ได้เดินติดๆกันไป..โดยตีคู่บ้าง...สลับกันนำบ้าง แต่ทว่า'ในช่วงเดียวกัน..ลูกหาบทั้งสองก็เดินซุบซิบกันไปเบาๆโดยพวกเขาทั้งสองก็เว้นระห่างจากคนข้างหน้าคือบลูและสาอยู่พอควรในระยะ3-4เมตร พวกเขาทั้งสองเดินซุบซิบคุยกันไปพร้อมกับจ้องมองไปที่สาและบลูที่เดินนำอยู่ด้านหน้า ซึ่งสิ่งที่ทำให้สองลูกหาบทั้งสองเดินซุบซิบกันไปพร้อมกับจ้องมองเป็นตาเดียวนั้นคือ..ก้น!..ของทั้งสองสาว..สา!..และ..บลู!..ที่บิดส่ายไปมาทุกๆการก้าวย่าง!


   "นี่ๆ...จามี...ดูนายหญิงทั้งสองสิ...ทำไม่ถึงได้เดินแบบนั้น...ก้นอวบใหญ่แท้...เดินบิดส่ายทุกก้าวเลย..." อามูเอ่ยกล่าวเปิดประเด็นกับจามีเพื่อนลูกหาบ ขณะที่จ้องมองท่วงท่าการเดินบิดส่ายก้นของทั้งสองสาว!

   "หืออ...มึงก็อามู...นั้นแฟนนายผู้ชายเค้า..." จามีกล่าวด้วยน้ำเสียงออกดุๆอามูที่เอ่ยกล่าวกับเขาอย่างนั้น แต่!..ตัวจามีเองก็อดไม่ได้ที่จะมองก้นของสาและบลูตามที่อามูเอ่ยกล่าวบอก!

   "แฮะ...นายเขาไม่ได้ยินหรอก...เราเดินอยู่ตั่งห่าง...อามูเห็นนะว่าจามีแอบมองก้นนายหญิงมาตั่งนานแล้ว...อามูเห็นจามีมองตั่งแต่ออกมาจากหมู่บ้านแล้ว.." อามูกระซิบกระซาบกับจามี ซึ่งมันก็ทำให้จามีมองอามูด้วยสีหน้าแปลกใจ ก่อนที่จามีจะฉีกยิ้มที่มุมปากพลางชอบใจที่อามูเพื่อนลูกหาบรู้ทัน!

        "เออว่ะ...มึงเนี้ย...รู้ดีนัก..." จามีเอ่ยกระซิบกับอามูเบาๆ โดยสายตาก็ยังจ้องมองก้นของสาและบลูที่เดินอยู่ข้างหน้าอย่างไม่ละวาง!

       "อืออ...รู้สิ..แต่อามูว่าจามีเลิกคิดเถอะ...เดี๋ยวนายๆเขารู้...จามีอาจะโดนนายเขาเกลียดเอานะ..." อามูเอ่ยกระซิบบอกกับจามี พร้อมทั้งปรามไม่ให้จามีนึกคิดไปไกลกับสิ่งที่กำลังจ้องมอง!

      "เออน่า...กูก็มองไปงั้นและเว้ย...อามู!...ไครจะไปนึกไกลขนาดนั้นวะ...น้ำหน้าอย่างกูนายเค้าไม่แลสายตามองอยู่แล้ว...แต่!..ไหนๆก็ได้เจอคนสวยๆมาเดินในป่าแล้ว...ขอกูมองหน่อยไม่ได้รึไง....หลายปีแล้วเหมือนกันเว้ยที่กูไม่ได้เห็นคนสวยๆแบบนี้..." จามีเอ่ยกระซิบบอกกับอามู ซึ่งสายตาก็ยังจ้องมองที่ก้นของสาและบลูโดยไม่ละวางสายตา!

     "คิดได้ยังงั้นก็ดีแล้ว...แต่อย่าให้นายเค้ารู้ละกันจามี..." อามูเอ่ยกระซิบบอกจามีเพื่อนลูกหาบ ซึ่งเวลานี้จามีก็จ้องมองก้นของสาและบลูอย่างไม่ลดละ โดยแฝงไปด้วยแววตาที่ยากจะหยั่งถึงความคิดข้างในว่าคิดอะไรอยู่!

    หลังจากเดินเข้าป่าจนเวลาผ่านไปร่วม2-3ชั่วโมงที่คณะของพนมเดินตามพรานซอลือเข้ามาในป่า ซึ่่งช่วงนี้คนทั้งหมดในคณะก็เริ่มที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผืนป่าบริเวณรอบๆที่ต่างจากช่วงแรกที่เดินเข้ามา เพราะในช่วงเวลานี้มันได้แปรเปลี่ยนไปเป็นป่ารกครึ้มมีต้นไม้สูงใหญ่และรอบๆก็หนาทึบไปด้วยพุ้มไม้และเถาวัลย์เครือไม้ป่า!


เมื่อเดินกันมาจนเริ่มเข้าช่วงป่าดงดิบที่จริง พรานซอลือก็ได้หยุดให้คณะของพนมได้นั่งพักกันที่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า20คนโอบ และพอทุกคนได้นั่งพักกันที่ใต้ต้นไม้ต้นนี้ทั้งหมดก็ต่างแหงนหน้ามองความสูงใหญ่ของมันอย่างตื่นตากับขนาดที่ใหญ่โตของมัน และในเวลาเดียวกัน..พนม'ก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บภาพของต้นไม้ต้นนี้เอาไว้ รวมถึงสองสาวเองก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายด้วยเช่นกัน!

     "อืออ...โครตใหญ่...อายุกี่ปีว่ะเนี้ย...นพ..." ชาตรีเอ่ยกล่าวขึ้นมาหลังจากที่แหงนหน้ามองต้นไม้ที่สูงใหญ่ตรงหน้า!

     "คงหลายร้อยปีเลยแหละ...น่าจะอยู่มาตั่งแต่ก่อนมึงรึกูเกิดอีก...ไอ้ตรี..." มานพเอ่ยตอบกับชาตรีเพื่อนสนิทพร้อมกับแหงนหน้ามองความสูงใหญ่ของต้นไม้นี้เช่นกัน


   หลังจากที่ทุกคนในคณะหยุดพักเก็บภาพถ่ายและพักกินข้าวในช่วงเที่ยงกันพักใหญ่เรียบร้อย  พรานซอลือก็พาคณะออกเดินทางต่อไปเพื่อไปยังจุดหมายแรกของคณะ คือ!...ช่องหินดินดำและจะไปยังที่ต่อๆไปอย่าง!...เนินภูผาเขียว...และน้ำตกชมจันทร์ที่สุดท้าย ซึ่งจะใช่เวลาในการเดินป่าตั่งแต่เข้าไปและกลับออกมาไม่น่าจะเกิน4-5วันโดยประมาณ และในช่วงบ่ายนี้หลังจากที่คณะของพนมออกเดินตามพรานซอลือไปได้พักใหญ่ๆผ่านแนวสุมทุมพุ่มไม้หนาเตอะบ้าง...โล่งบ้าง...แล้วแต่!..ในแต่ละช่วงของผืนป่า..ที่บางจุดก็รกทึบ...บางจุดก็โล่งแจ้ง!


     ในช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่คณะเดินตามพรานซอลือผ่านแนวป่าโล่งๆสลับกับป่ารกๆที่พรานซอลือใช้มีดตัดถางนำทาง และเมื่อเวลาที่เดินทางมานั้นผ่านไปร่วมหลายชั่วโมงและระยะทางที่เดินฝ่าดงไม้มานับหลายสิบโล ครั้นเมื่อเวลาของวันผ่านเลยมาถึงช่วงบ่าย15:30น. คณะของพนมก็ได้มาหยุดอยู่กลางป่าจุดหนึ่ง เมื่อพรานซอลือผู้นำทางนั้นได้หยุดยืนมองบริเวณรอบๆ ก่อนจะเอ่ยกล่าวบอกให้คณะของพนมนั้นพักกัน..ณ.ที่จุดนี้ในคืนนี้!

     "หยุด!..."เสียงร้องบอกของพรานซอลือที่ร้องบอกให้คณะของพนมหยุดยืน หลังจากที่เดินนำคณะของพนมมาถึงจุดหนึ่งในป่าที่เป็นเนินดินเตี้ยๆไม่สูงมาก และด้านล่างฝั่งนึงก็มีแหล่งน้ำเล็กๆที่ไหลเป็นสายมาตามร่องโขดหิน!

      "วันนี้เราจะพักกันตรงนี้..." คำกล่าวของพรานซอลือนั้นก็ไม่ใช่คำที่มีความหมายที่เข้าใจยากสำหรับพนมและผู้ใหญ่สี!

เจ็บกว่าตัวสำรอง ก็คือตัวสำรองของตัวสำรอง

drof666

เริ่มตอนมาก็ตื่นเต้นเลย

BłäčkMäñ_60

คืนนี้พรานจะแอบย่องมาทำไรอีกมั้ยนะ

ones26421

เริ่มได้ลุ้นได้ตื่นเต้นกันล่ะ

Rutt Non

รอฉบับเต็มเลยครับ
ยังมีอีกหลายเรื่องที่รอท่านเขียนต่อเหมือนกันครับ

gootum4676

รอตอนต่อไปครับ รออ่านเต็มเล่มม่ายยยๆไหวแล้วววครับ

saranchai

ตอนนี้แค่ดูหน้าตอนหน้าได้จับนมดูท่าสาวๆคงเสร็จในไม่ช้านี้

NNGGOO

คืนนี้ บลูอาจจะโดนแบบเดียวกับสามั้ย

kamlk

รอดูตอนสาวๆอาบน้ำนี่แหละครับ

Nasan

ใจจดใจจ่อรอน้องบลูอยุ่คนเดียวเลยครับ

Abigail

ตอนหน้าให้สาวๆโดนลักหลับนะครับ

swss2511

รอยทรงจำทำให้สาเริ่มสงสัย

Kingkong Keang


bmaII

เดินป่าคงเหนื่อย แต่น่าจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศ สนุกให้เต็มที่เพราะไม่มีแบบนี้ในเมือง

sunnie06