ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_midobun001

รอยทรงจำ ตอน Project Mint ep17

เริ่มโดย midobun001, มีนาคม 29, 2022, 09:56:11 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

midobun001

บทที่ 17

เรื่องที่อยากลืม

มิ้นเดินกะปลกกะเปลี้ยกลับมาบ้านพักตอนฟ้ายังไม่สาง ผ้าผ่อนเธอหลุดลุ่ยในสภาพขาดหวิ่นไม่เหลือเค้าชุดสวยที่ใส่ตอนประกวด กลายเป็นเพียงเศษผ้าที่ใช้ปกปิดเรือนร่างอันบอบช้ำ มิ้นย่องผ่านห้องรับแขก แจนนั่งรอเธอจนเผลอหลับอยู่ตรงโซฟา ต้องก้าวให้เบา เงียบที่สุด มองไม่เห็นคนอื่นๆ แต่เชื่อว่าทุกคนคงอยู่ในห้องตัวเอง ถ้ามีคนมาเห็นสภาพนี้คงเป็นเรื่องใหญ่โต ที่จริงมันก็ควรเป็นเรื่องที่รู้กันทั้งหมดแล้วเอาเรื่องคนทำผิด แต่ในเวลานี้มิ้นกลับไม่อยากให้ใครมาเห็นโดยเฉพาะบาดแผลและรอยช้ำที่ร้าวระบมไปทั้งตัว

มิ้นเข้าห้องตัวเองได้สำเร็จโดยแจนไม่ตื่นขึ้นมา เธอพาสารรูปมอมแมมเหมือนไปฟัดกับหมา ทิ้งผ้าพวกนั้นลงถังขยะแล้วหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ เมื่อปลอดภัยลับสายตา น้ำตาก็พรั่งพรูออกมาด้วยหัวใจที่อ่อนล้า หยดน้ำตาผสมกับน้ำจากฝักบัว มิ้นหมดเรี่ยวแรงยืนได้อีก เธอทรุดตัวนั่งกอดเข่า ที่สุดความของร้าวรานก็ทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

ภาพเมื่อคืนว่ายวนอยู่ในหัว ทุกเหตุการณ์ตั้งแต่คำบอกเลิกที่เธอตัดเยื่อใยชัชเพื่อช่วยเขา กระทั่งชัชออกไปจากห้อง ทุกเหตุการณ์ที่พวกชั่วนั่นทำกับเธอ เธอเหมือนกลายเป็นเหยื่อที่ถูกฝูงหมารุมทึ้ง ความรู้สึกรังเกียจ เปื้อนเปรอะ ชวนให้เธอขัดผิวบอบช้ำเป็นดวงเขียวของตัวเอง มันเปื้อนไปหมดแล้ว เปื้อนสิ่งที่มองไม่เห็น เปื้อนมลทินจากคนพวกนั้น ไม่ว่าจะถูครั้งแล้วครั้งเล่าความน่ารังเกียจพวกนั้นก็ไม่ลดน้อยลง รอยฟกช้ำยังตราตรึงเหมือนตราบาป...เธอไม่รู้เลยว่าเธอจะผ่านเรื่องนี้ไปเพียงลำพังได้ยังไง เสียงร้องไห้แว่วดังก้องสะท้อนกับผนัง คละไปกับเสียงน้ำจากฝักบัว

"มิ้น.....ยัยมิ้นแกกลับมาแล้วหรอ...กลับมาเมื่อไหร่" เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมเสียงเคาะประตู แจนถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วง เธอสะดุ้งตื่นหลังจากได้ยินเสียงร้องไห้แว่วออกมาจากในห้อง

แจนลองจับกลอนประตูแล้วเปิดเข้าไป มิ้นไม่ได้ลงกลอนไว้ สภาพด้านในอีกฝ่ายกำลังคุดคู้อยู่บนพื้นด้วยร่างเปลือยเปล่า มีรอยช้ำเป็นจ้ำเขียวอยู่ตามแขน ตามตัว ภาพตรงหน้าทำเธอชะงักนิ่งรีบปิดน้ำแล้วใช้ผ้าคลุมโอบกอดมิ้นเอาไว้ ยิ่งถูกปลอบมิ้นก็ยิ่งร้องไห้หนัก

"แกเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น" ไม่มีคำตอบ คงไว้แต่เสียงร้องไห้ที่ดังขึ้นทุกที มิ้นกอดร่างแจนเอาไว้แน่น

คนที่เคยเข้มแข็งไม่ว่าจะเจออะไรก็ผ่านไปได้เสมอ คนที่กล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย มองเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก สามารถหัวเราะได้แม้ว่าจะเจอเรื่องหนักหนาสาหัส มิ้นคนที่เป็นแบบนั้นกำลังนั่งร้องไห้อย่างทรมาน แจนรู้ได้ทันทีว่ามิ้นกำลังเจอปัญหาที่ผ่านไปไม่ได้ ตอนนี้หัวใจมิ้นคงกำลังแตกสลายจนไม่มีชิ้นดี แจนใช้อ้อมกอดเป็นภาษาสุดท้าย แม้มิ้นจะร้องไห้ไม่หยุด...แต่เธอเชื่อว่าความเจ็บปวดมันจะทุเลาลงไปได้เอง

"ชัชละ" แจนถามใช้มือลูบหลังเธอเบาๆ

"แก เราเลิกกันแล้ว ฮือๆ" คำตอบของมิ้นทำให้แจนสะดุ้ง

"ทำใจดีๆ ไว้แก เลิกอะไร ยังเห็นคุยกันดีๆ ชัชบอกเลิกหรอ ชั้นจะไปด่ามันให้" แจนถามกลับ มิ้นส่ายหน้าแทนคำตอบ

"ชั้นอยากกลับบ้าน....." มิ้นสะอึกสะอื้น

"แกรู้ใช่ไหมว่าชั้น พร้อมรับฟังแกเสมอนะ" แจนมองไปตามตัวมิ้นรอยฟกช้ำที่เธอเห็นคร่าวๆ จากหัวไหล่ แขน ตรงท้อง แค่นี้ก็พอให้รู้ว่า คงไม่ใช่การเลิกกันอย่างปกติ

"เกิดอะไรขึ้น" เก๋ถามเสียงเครียด เธอได้ยินเสียงร้องไห้เลยพากันปลุกทุกคนขึ้นมาหมด แล้วมามุงดูอยู่หน้าห้องน้ำ

"ไม่รู้สิ บอกว่าเลิกกับชัช แล้วก็เอาแต่ร้องไห้" แจนสรุป

"เลิกกับชัช ได้ยังไง ทำไมล่ะ" ครีมถาม แต่เสียงร้องไห้ยิ่งดังหนักขึ้นกว่าเดิม

"โอ๊ย...พวกแกอย่าพึ่งถามอะไรมันมากเลยให้เวลามันหน่อย เดี๋ยวมันก็คงเล่าให้ฟังเองแหละ" จุ๊บแจงสรุป

"ไม่เคยเห็นมิ้นเป็นแบบนี้เลย ไปเจออะไรมา แค่เลิกกับชัชจริงๆ รอยช้ำยังกับโดนซ้อม ชัชเป็นพวกทำร้ายผู้หญิงหรอ" เรนโบว์กระซิบถามครีม แต่ดังพอให้ทุกคนได้ยิน

"พอแล้วพวกแก ปล่อยมันอยู่คนเดียวเถอะ" แจนนำทุกคนออกมาปล่อยให้มิ้นอยู่คนเดียวในนั้น แค่สายตาที่มิ้นมองมาแจนก็รู้ได้ทันทีว่าแค่ไหนควรจะถาม และแค่ไหนควรจะหยุด ทั้งห้าคนกลับมานั่งช่วยกันระดมความคิด เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้คงมีแค่มิ้นกับชัชที่รู้ความจริง แต่เรื่องกิจกรรมที่กำลังจะเริ่มตั้งแต่ช่วงสายวันนี้พวกเธอต้องหาข้ออ้างมากันให้มิ้นได้อยู่ที่นี่ไม่ต้องออกไป สภาพแบบนั้นจะให้ไปผูกข้อมือรับน้องต่อคงเป็นไปไม่ได้หรอก

นั่งหลับบ้าง กลับไปนอนบ้าง แจนเองก็เคลิ้มหลับระหว่างรอดูท่าทีมิ้น นาฬิกาโทรศัพท์เตือนปลุกตอนเช้า แจนรีบจัดการปิดเสียงแล้วลุกไปล้างหน้าในห้องน้ำ จู่ๆเสียงเคาะประตูดังลั่น ก็อกๆๆ แจนชะโงกหน้ามองจุ๊บแจงที่สะดุ้งตื่นอยุ่ตรงโซฟา ต่างคนต่างมองเลิ่กลัก ก่อนที่จุ๊บแจงจะกลายเป็นตัวแทนเดินออกไปเปิด

"มิ้นอยู่ไหม เป็นยังไงบ้าง" อั้มโถมคำถามใส่ทันทีที่ประตูเปิดออกรับ

"ยะ....อยู่ในห้อง" จุ๊บแจง แจนรีบออกจากห้องน้ำมาดูเหตุการณ์ ทั้งคู่คิดเหมือนกันว่าทำไมอั้มถึงรู้เรื่องมิ้น

"ขอเข้าไปหน่อยนะ" อั้มพูดแล้วก็เดินแทรกเข้าไป เธอเดินไปที่ห้องมิ้นที่ไม่ได้ล็อกเอาไว้ เคาะแค่สองทีก็วิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้อง คนที่นอนหลับถูกปลุก ทุกคนคิดเหมือนกันรีบแอบฟังเสียงข้างในเผื่อจะรู้อะไรบ้าง แต่ภายในห้องกลับเงียบจนน่าอึดอัด

"มิ้นไหวไหม" อั้มนั่งลงบนเตียงแล้วจับมือมิ้นที่กำลังนอนลูบเบาๆ

"อั้ม" มิ้นพยามลุกขึ้น แต่อั้มกดไหล่เธอไว้

"เกิดเรื่องจริงๆ เมื่อคืนมิ้นไม่ได้อยู่แต่ในห้องหรอ" คำถามของอั้มทำให้มิ้นจุกอก รีบบ่ายหน้าหนี

"อั้มรู้เรื่องด้วยหรอถึงได้มาเตือนเรา" มิ้นถามกลับ

"ไม่มากหรอก รู้แค่ว่ามีคนคิดไม่ดีกับมิ้น พวกมันมีกันหลายคน เราหยุดพวกมันไม่ได้แต่เราเตือนมิ้นได้ มิ้นน่าจะเชื่อเรา"

"เรื่องมันซับซ้อนกว่านั้น ไม่ใช่ว่าเราอยากออกไปหรอก แถมเรื่องบนเวที เรื่องจ๋าที่เข้าใจเราผิด ตอนนี้ทุกคนจะคิดกับเรายังไง จะมองว่าเราตั้งใจทำให้จ๋าเป็นแบบนั้นหรือเปล่า มีหลายเรื่องเลยที่..." มิ้นพูดแล้วเสียงก็สั่นเครือจนเหมือนจะร้องไห้ออกมา

"อย่าคิดมาก อย่าคิดมาก ไม่มีใครคิดว่ามิ้นทำหรอก แค่คำพูดชี้นำของส้มที่ตะโกนขึ้นมาแบบนั้น ใครเชื่อก็คงโง่เต็มที่ มิ้นสู้ต่อนะอย่ายอมแพ้พวกมัน เราเอาใจช่วย" อั้มกอดมิ้นเอาไว้จนหน้าอกอวบเบียดกันชิด 

"ใครๆ ก็ต้องเคยผิดหวังมาด้วยกันทั้งนั้น จะเล็กจะใหญ่แต่วันหนึ่งถ้าเราพยายามมากพอเราก็จะผ่านมันไปได้ มิ้นก็ต้องผ่านมันไปเหมือนกัน ตอนนี้พักผ่อนดูแลตัวเองให้ดี แล้วค่อยไปสู้เพื่อตัวเราเอง" คำปลอบโยนที่ทรงพลังทำให้เสียงสะอื้นหยุดลง มิ้นเงยหน้ามองอั้ม ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตาแต่กลับมารอยยิ้มอ่อนตรงมุมแก้ม

"ถ้าไม่ได้มิ้นอั้มก็ตัดสินใจไม่ได้เหมือนกันนะ แต่ตอนนี้เราเองก็ตาสว่างแล้วละ แยกออกว่าอะไรผิดอะไรถูก" อั้มกอดมิ้นอีกรอบแต่กลับเป็นฝ่ายสะอื้นเสียเอง คำพูดนี้เหมือนอั้มพูดกับตัวเองมากกว่าเพราะมิ้นไม่เข้าใจว่ามันสื่ออะไร

"อั้มเป็นอะไรหรือเปล่า.."

"ไม่เท่ามิ้นหรอกแค่รู้สึกเหมือนตกลงไปในน้ำที่ไหลเชียว แล้วว่ายไปต่อไม่ไหว" คำพูดของอั้มทำให้มิ้นรู้สึกเหมือนกับว่าความรู้สึกหนักอึ้งที่เธอแบกมันถูกส่งต่อผ่านไปถึงอั้มอย่างนั้น

"......"

"เราก็แค่ลอยตามน้ำไปแล้วคว้าอะไรก็ได้ที่คว้าทันไม่ใช่หรอ จะคิดแบบนั้นเดี๋ยวก็จมน้ำพอดี" มิ้นตอบซื่อๆ แค่คำตอนนี้กลับเป็นคำตอบที่เธอควรบอกตัวเองมากที่สุด

"ใช่ นั่นสินะเราจะมัวแต่โทษตัวเองไม่ได้หรอก ขอบคุณนะมิ้น" อ้อมกอดของอั้มรัดแน่นขึ้น น้ำเสียงกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง

"นี่เรามาปลอมมิ้นนะ ทำไมกลายเป็นมิ้นมาปลอบเราซะละ"

"แหมะ...ขอบใจนะที่พยายามปลอบ"

"ไม่กัดลิ้นฆ่าตัวตายก็ดีแล้ว ไม่งั้นเราเองก็คงรู้สึกผิดแน่ๆ" อั้มเช็ดน้ำตาตัวเองออก เธอคิดเสมอว่าการที่เธอไม่หยุดแจ็คเอาไว้นั่นก้คือความผิดที่เธอควรรับผิดชอบด้วย

"อั้ม อุส่ามาเตือน ถึงจะหยุดพวกนั้นไม่ได้อั้มก็ไม่ได้ผิดอะไรซะหน่อย อย่าโทษตัวเองว่าทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ"

"นี่แหละ..มิ้นวายร้าย ที่อั้มชอบ" เธอยิ้มมุมปาก มิ้นยิ้มอ่อนตอบ สองสาวหัวเราะด้วยกัน

"เอาไว้คุยกันอีกนะ อั้มไปก่อนต้องไปจัดการอะไรนิดหน่อย" พูดจบอั้มก็รีบลุกเดินออกจากห้อง แต่ละคนที่แอบฟังรีบวิ่งหนีกระเจิงจากประตูคนละทาง แสร้งตีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่ทำท่าทางพิรุธออกมากันเต็มๆ อั้มมองแต่ละแล้วยิ้มๆ

"ทุกคน.. ไปก่อนนะไว้เจอกัน" เธอเดินออกประตูไปด้วยท่าทางสบายใจ จุ๊บแจงกำลังจะจับลูกบิดประตูห้องมิ้นเสียงประตูลงกลอนดัง กึก!

สาวๆ ทั้งห้าคนมองหน้ากันงงๆ ...

---------------------------------------------------------------------

เลิฟถูกปลุกตั้งแต่ เจ็ดโมงด้วยเสียงโทรเข้าจากวัตร เขารีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวไม่ลืมจะประทับจูบลงที่หน้าผากเมียที่รักที่สุดก่อนจะออกจากห้องไป

จ๋าตื่นขึ้นมาหลังจากเขาออกไปแล้ว เพียงค่ำคืนแห่งความบอบช้ำผ่านไป เธอก็กลายเป็นของของ เขาไปแล้ว เหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งชีวิตเธอใช้ชีวิตอยู่ในภาพความฝันวิ่งไล่ตามสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่จริง แต่ในตอนนี้เมื่อเธอเปลี่ยนความคิดเธอก็กลายเป็นสิ่งที่สมบูรณ์พร้อม

จ๋าลูบไล้เรือนร่างตัวเองผ่านสายน้ำจากฝักบัว มือที่เคลื่อนลูบไปตามลำตัวชวนให้คิดถึงรสสัมผัสที่เร่าร้อนของเขา ความดุดัน และความอ่อนโยนที่เขาแสดงต่อเธอ ความสาวที่แลกมาด้วยความรัก ไออุ่นของเขา และเจ้านั่นอีกหลายร้อยล้านตัวที่คงวิ่งวุ่นกันอยู่ในท้อง พวกมันจะเป็นปัญหากับอนาคตเธอไหมนะ

หลังจากเสร็จธุระเธออาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดใหม่ที่เลิฟไปหยิบเอาจากห้องถ่ายภาพมาเตรียมไว้ให้ เดินแต่ละก้าวมันรู้สึกเจ็บๆ เหมือนยังมีอะไรเสียบคาอยู่ในตัวอย่างนั้น เส้นทางกลับไปที่ห้องทำไมมันถึงไกลจริงๆ

เกร็ก! ประตูห้องเปิดอย่างเบามือ แต่ก็ดังพอที่ส้มซึ่งนั่งหลับอยู่บนโซฟาจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอมองเห็นจ๋าเดินเข้ามาก็แสร้งทำเป็นหลับต่อ จ๋ารีบเดินย่องผ่านไป

"ไปค้างที่ห้องใครมาละ" ส้มถามขึ้นทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าพี่สาวไปอยู่ที่ไหนมา จะห้องใครซะอีกละก็เขานั่นแหละ เขาออกปากซะขนาดนั้น เสื้อผ้าที่เธอสวมมาก็ไม่ใช่ชุดเดียวกับเมื่อวาน ชุดสำหรับประกวดมีแค่เขาเท่านั้นแหละที่หาให้เธอใส่

"พี่ไปนอนห้องเพื่อน พี่ไม่ค่อยได้นอนไปก่อนนะ" จ๋ารีบอ้าง

"เดี๋ยว มั่นใจนะว่าพี่เลิฟไม่ได้พาพี่ไปนอนด้วย" ส้มเข้าเรื่อง

"ส้มพูดเรื่องอะไร" จ๋าถามกลับ หัวใจเต้นโครมครามถึงเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบังแต่เลิฟบอกว่าอย่าพึ่งบอกเรื่องนี้กับใครให้เก็บเป็นความลับเอาไว้ก่อน เธอจึงจำเป็นต้องทำตามที่เขาว่า

"แล้วทำไมกลับมาเช้าละ ถ้าไม่ใช่ไปนอนกับผู้ชายมา"

"คิดเป็นแต่เรื่องแบบนี้หรือไง พี่ไปละ"

"ไอ้เมจมาหาพี่เมื่อคืน วิ่งตามหาให้วุ่น พี่ไปอยู่กับพี่เลิฟมาใช่ไหม ใช่ไหม" ส้มพูดใส่แต่จ๋าเดินหนีแล้วเข้าห้องไปโดยไม่ตอบอะไรสักคำ

ความเงียบกลายเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ทุกอย่างมันชัดเจนแล้ว เขาเลือกจ๋าอย่างที่ปากเขาว่า ตอนนี้เธอคงต้องใช้ผัวร่วมกับพี่สาวอย่างไม่เต็มใจ จะทำยังไง....จะทำยังไงต่อจากนี้.... เขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะหยุดเพียงแค่นี้แน่ๆ ส้มกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่เมื่อเดินกลับเข้าห้องทำนบน้ำก็พังทะลาย เธอเอาแต่ร้องไห้อยู่คนเดียว

----------------------------------------------------------------

"ไอ้ขี้ยาสองตัวนั้น มันเล่นไอ้น้องปีหนึ่งนี่จนแขนหักแน่หรอวะ" เลิฟถามทันทีที่มาถึงโรงพยาบาล ตอนนี้เขาอยู่หน้าห้องไอซียูที่ชัชนอนอยู่ วัตรกับหมิงและชัยยืนอยู่กันพร้อม

"กูไม่แน่ใจ ไอ้พวกขี้ยาให้การกับตำรวจอีกแบบ มันว่ามันจับจ๋าไปเพราะเห็นจ๋าอยู่คนเดียวแค่นั้น ไม่ได้ต่อสู้กับใครนอกจากจ๋าจนกระทั่งเราเข้าไปเล่นงานมัน" วัตรพูดตามที่ได้ยินมาจากการสอบปากคำของตำรวจ

"งั้นแปลว่า ไอ้น้องปีหนึ่ง....โดน" หมิงพูดไม่ทันจบแต่ชัยแทรกขึ้น

"ไอ้ก้าน...เพราะมันจ้องเล่นงานไอ้นี่อยู่ น้องมันคุยกันให้ขรมว่าไอ้ก้านสั่งไอ้ปีหนึ่งยกน้ำเป็นร้อยแพ็คคนเดียว แถมไอ้นี่ยังมีคดีกับน้องสาวมันอีก" ชัยเสริม

"ซวยมันแท้ๆ ดันไปเข้าตาน้องไอ้ก้าน" หมิงพูดแล้วมองย้อนเข้าไปในห้องคนไข้ที่ชัชกำลังนอนไม่ได้สติ

"เอาเป็นว่า กิจกรรมผู้ข้อมือเริ่มบ่ายนี้ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกันไปก่อนแล้วกัน ให้มันจบงานนี้ไปก่อน แล้วค่อยไปคิดบัญชีกับไอ้ก้าน" เลิฟสรุป

-----------------------------------------------------------------------------------

"มิ้น....มิ้น.....แกเป็นอะไรหรือเปล่า" แจนเคาะประตูเรียกหลังจากได้ยินเสียงร้องของมิ้นดังลั่น มิ้นสะดุ้งตื่นเหงื่อท่วมร่าง  ลืมตาขึ้นอย่างอิดโรย เธอไม่รู้ตัวเลยว่าส่งเสียงร้องโวยวายดังลั่น กรีดร้องเหมือนกำลังจะตายดิ้นทุรนทุรายอยู่บนเตียงจนกระทั่งตื่น

".ฮือ......" มิ้นร้องไห้ละล่ำละลัก เธอพึ่งเห็นภาพความดิบเถื่อนเมื่อค่ำคืนอีกครั้ง ภาพและความรู้สึกติดตามมา มันทิ้งร่องรอยเอาไว้ทั้งตัวและหัวใจ

"แกไม่เป็นอะไรใช่ไหม พี่ๆเค้าเรียกรวมที่ห้องประชุมให้ไปผูกข้อมือแล้ว ชั้นจะมาบอกว่าเราจะไปกันแล้ว อยู่คนเดียวล็อกห้องด้วยนะ" แจนพูดเรื่อยๆ แต่ไม่มีคำตอบจากมิ้น

"แกไม่ต้องมาด้วยนะพวกเราหาข้ออ้างให้แกแล้วว่า มีไข้ เดี๋ยวแกเก็บของได้เลย เสร็จพิธีเมื่อไหร่ จะได้กลับบ้าน" จุ๊บแจงพูด

"อือ" มิ้นขยับลุกขึ้นเดินออกมาเปิดประตู มองดูเพื่อนทุกคนที่มองมาด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่ามิ้นรับรู้พวกเะอก็ทยอยออกจากบ้านพักไปทีละคน มิ้นเดินกลับไปนอนลงที่เตียงอย่างเก่า

แจนเดินออกมาเป็นคนสุดท้าย เธอล็อกประตูลงกลอนทุกบานทั้งหน้าต่างและประตู ไม่ทันจะปิดประตูดีเรนโบว์ก็รีบคว้าจับลูกบิดไว้

"แจนชั้นเปิดน้ำทิ้งไว้ที่อ่างล้างมือแน่ๆ เปิดให้หน่อยสิ" เรนโบว์ที่ติดนิสัยหลงๆ ลืมๆ พูดขึ้น

"นี่ก็บอกให้ปิดแล้วไง ไม่ได้ปิดหรอ เดี๋ยวนี้จะลืมเก่งอะไรขนาดนี้" ครีมบ่นอุ๊บ

"เข้าไปปิดเลย ไปเถอะไม่ต้องรอหรอก เดี๋ยวก็วิ่งตามมาเองนั่นแหละ ยังโบว์อย่าลืมล็อกประตูห้องด้วย" ครีมบ่นๆ ก่อนจะพากันเดินออกมา ขณะที่เรนโบว์รีบวิ่งไปปิดน้ำที่ลืมไว้ ด้วยความที่กลัวถูกทิ้งก็รีบวิ่งไปรวมกับเพื่อนหลังจากประตูปิดลงแล้ว

"มาไวจัง" เก๋ทัก

"ก็รีบวิ่งมาเลยกลัวพวกแกเข้าไปก่อน"

"ได้ล็อกประตูเปล่า" แจนถาม

"ล็อกมั้ง จำไม่ได้" เรนโบว์ตอบ

"คงไม่มีอะไรหรอก ไม่กี่นาทีเอง เราผูกข้อมือเสร็จก็กลับเลย" ครีมพูดต่อแล้วรีบเดินเข้าห้องประชุมไปก่อนใคร แจนที่ยังลังเลอยากกลับไปดูให้แน่ใจก็ต้องตัดใจเพราะทุกคนเข้าไปข้างในหมดแล้ว

--------------------------------------------------------------------------

โอ..โอ้ละเน้อ......น้องเอย...ลา...ลาลาลาลาลา....ล้าลาลาลาลาลา.......

พิธีผูกข้อมือกำลังเริ่มต้นขึ้น หน้าต่างถูกปิดม่านจนทึบ รุ่นพี่แต่ละคนมีเทียนวางอยู่ตรงหน้า และรุ่นน้องตั้งขบวนเข้าแถวเรียงรายกันค่อยๆ คลานไปรับคำอวยพรของแต่ละคน ด้ายสายสิญจน์สีขาวบริสุทธิ์ที่ถูกมัดปั้นเอาไว้เตรียมจะผูกลงขวัญให้น้องแต่ละคนที่เข้าร่วมพิธี

โอ้...เจ้าน้องเอย...พี่นี่ขอชื่นเชย....จะมิเลยแรมไกล..จะรักเจ้า...ดั่งดวงใจ..มิคลายหน่ายนา....ลาลาลาลาลา ล้า ลาลาลาลาลา

หากแต่อีกด้านของรีสอร์ท เลิฟกำลังพากลุ่มเพื่อนบุกไปที่ห้องของก้าน ในเวลานั้นก้านกับพวกก็พากันหนีไปอีกทาง กว่าที่เลิฟกับพวกจะมาเจอรถกระบะก็พาพวกนั้นหนีออกไปหมดแล้ว

"ไอ้เชี้ยก้าน.....เพื่อภาควิชากูต้องจัดการมึงให้ได้...." เลิฟกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ

แจ็คโผล่ออกมาเพราะมัวแต่ไปทำลายหลักฐานเลยมาขึ้นรถหนีไม่ทัน เห็นหมิงถือไม้หน้าสามก็โยนของทิ้งลงไปในพงหญ้า

"เฮ้ย.......ไอ้เลิฟเหลือพวกมันอีกตัว" หมิงร้องลั่น เท่านั้นแจ็คก็วิ่งป่าราบ ขณะที่หมิงนำทีมตามไล่กวด

ดีกรีนักวิ่งเหรียญทองภาควิชาเป็นประกัน แจ็ควิ่งหนีออกมาไกล เขาวิ่งเปิดประตูบ้านพักทุกหลังที่ผ่านเพื่อหาที่ซุกคุ้มหัว

"ฉิบหาย ฉิบหายแล้วกู ไอ้เหี้ย..... กูตายแน่" เขาจำไม่ได้เลยว่าตัวเองวิ่งไปเปิดประตูไหนบ้าง แต่มีอยู่บานหนึ่งที่เปิดออกโดยง่าย เขาวิ่งเข้าไปในห้องแล้วลงกลอน ยืนมองหลังประตูอย่างลังเลจนกระทั่งเสียงของพวกเลิฟวิ่งมาอยู่ใกล้ๆ ห้อง

"ไอ้เชี้ย แม่งหายไปไหนวะ มันมาทางนี้" หมิงถาม

"มันเข้าไปหลบในบ้านหรือเปล่า" เลิฟชี้ไปที่บ้าน

"จะใช่หรอวะ น้องมันต้องล็อกห้องกันก่อนออกไป ลองไปดูทางโน้นดีไหม" หมิงชี้ไปอีกทางเพราะเป็นคนวิ่งนำมาโดยตลอด เขาเดาว่าคงคาดสายตาที่ไหนสักแห่ง

"เออ" วัตรพูด

แจ็คหอบหายใจ ก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆ กลิ่นหอมของน้ำหอม และเครื่องสำอางโชยอยู่ในอากาศ ห้องนี้มันห้องผู้หญิง เขาเดินไปเปิดประตูห้อง ทุกห้องไม่มีคน กระทั่งห้องสุดท้ายเปิดเข้าไปก็เจอผู้หญิงอยู่บนเตียงกำลังนอนหลับอยู่

"อ่าว...มีคนอยู่ซะส่วน ขอพี่นอนด้วยคนนะ" แจ็คพูดแล้วเดินเข้าไปลงกลอนประตูอย่างเบามือ ขยับตัวเข้าซุกใต้ผ้าห่ม ค่อยๆ เอาร่างแอบอิงไปใกล้ร่างของสาวน้อยผู้กำลังตัวสั่นเทาเพราะภาพฝันร้ายยังคงติดตาม

พี่จะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเป็นขวัญจิต จะรักดังชีวิต ใจคิดกรุณา ลาลาลาลาลา ล้า ลาลาลาลาลา
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ติดตามเนื้อเรื่องหลัก และแนว Erotic จาก readawrite นะครับ
ผลงานผม จะเป็นแนว BiSex หน่อยๆนะครับ

ถ้าคอมเม้น ฝากให้คะแนนผลงานด้วยครับ
เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย / ฉาก เซ็กส์ซีน / คำบรรยาย / มุมมองการเล่า
จำนวนหน้ากระดาษ / การใช้คำเปรียบเทียบ / ตอนที่ชอบมากที่สุด

เพื่อใช้ปรับปรุงเนื้อหาในเนื้อเรื่องถัดๆไปครับ

รวมวาป
https://xonly8.com/index.php?topic=252283.msg2330925#msg2330925

phantompain

สภาพแบบนั้น แปลว่า มิ้นโดนจัดหนักมาแน่นอนนนนน  ::Horror::


peddo

สงสารเลยนะครับ มิ้นผู่ผ่านประสบกามโชคโชน เคยโดนรุมแต่คงไม่ใช่แบบป่าเถื่อนแบบนี้
แจ๊คคิดดีแล้วเหรอที่จะเข้าไปหามิ้น ถ้าไม่โดนหวดกลับก็ต้องตกเป็นจำเลยแน่

จรัญ บุญชู

เหตุการณ์แบบนี้คงติดตามหลอกหลอนไปอีกนาน

ones26421


zezebee12


พระพาย

อยากจะลืม แล้วลิมมันได้หรือมิ้น หลังจากประสพกับเรื่องนั้นมาอย่างหนักสุดๆ ยากจะลืม หรือจำติดใจ

Komratouy13


olemantu

แหมมันชุลมุนดีจังเลย แต่ยังไม่ได้เรื่องราวอะไรที่จะตามสักเรื่องเดียว รอดูต่อละกัน

motbonzi

จับมากระทืบเรียงตัวให้เข็ด

testman

ชอบบทระหว่างจ๋ากับเลิฟมาก  อยากให้มีแบบนี้อีก

สงสารมิ้น ขนาดสาวแกร่งอย่างมิ้นยังรู้สึกหวาดผวาขนาดนี้ แปลว่าโดนมาสาหัสจริง ๆ

Lonelyworm

จัดการมันเล้ยยยย





อ่าว ผู้ร้ายหนีได้ตามเคย  ::Touchy::

sommchai


outsider

สงสัมิ้นคงโดนหนักจริงๆ ถึงกับหลอนได้ขนาดนี้