ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 7 ] ตอนที่ 92 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, กรกฎาคม 03, 2022, 01:12:42 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

เข้าสู่ Part 7 แล้วขอบคุณที่ติดตามเสมอมาคร๊าบบบบ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง


สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ




★★★★★★★★★★★



ความเดิมตอนที่แล้ว


งานคุ้มกันเริ่มแล้วครับ แต่สิ่งที่น่าตกใจมันไม่ใช่ผู้ประสงค์ร้าย

แต่คือการที่ได้รู้ว่าคุณรุกะ มีคู่หมั้นแล้ว คุณรุกะดึงผมมาคุยที่มุมอาคาร

เธอถามว่าไม่คิดจะถามอะไรเธอเหรอ ผมก็ได้แต่ยิ้มและส่ายหัว

ฟู่ววววว มาได้แค่นี้แหละความฝันเลอะเทอะที่จะได้ชิมซาชิมิญี่ปุ่น

ควรกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง



★★★★★★★★★★★



นายโทน ไดอารี่



ผมรีบเดินออกมาจากทางนั้น เพราะว่าคุณชิบะเขาเดินผ่านไปเมื่อกี้คิดดูดิ่แค่ออกมาไม่ทันถึง 1 นาทีเขายังมาตามขนาดนี้แสดงว่าไอ้นี่ขี้หึงแน่นอน ซึ่งบอกตามตรงว่าผมคงไม่อยากหาเรื่องในตัว หาเหาใส่หัวแน่นอนล่ะนะ แต่ว่าไอ้ความรู้สึกอึนๆที่กำลังเกิดขึ้นนี่คืออะไร



นี่ผมอกหักเหรอ ไม่สิ่ผมจะอกหักได้ยังไง... มันไม่ใช่หรอก แล้วทำไมใจผมมันหล่นวู่บๆล่ะ... หรือเพราะผมยังไม่ได้จัดกับคุณรุกะแล้วผมเกิดเสียดายขึ้นมา มันเลยทำให้ผมวู่บๆแบบนี้ ประมาณว่า อดเย อดเสียว



ผมยืนนิ่งที่มุมแปปนึงนะ แล้วต้องดึงสติตัวเองกลับมา บอกตัวเองว่า ทำงานๆ แต่แปลกๆที่แขนขามันหวิวๆไปแว๊ปนึง หรืออาจจะเพราะผมเคยมีประสบการณ์แบบนี้มากันนะ ทำทีเล่นทีจริงเหมือนมีใจ พอเราเริ่มจริงจังก็บอกไม่คิดอะไร



แบบนี้หรือเปล่า ผมเลยเหมือนวนลูปมาเจอความรู้สึกแบบนั้นแต่ตอนนี้ต้องเก็บมันเอาไว้และทำงานให้ลุล่วง ตอนนั้นคุณรุกะเดินผ่านผมไปแล้ว คุณชิบะก็เรียก รุกะ รุกะมัตเตะ  แปลว่า รุกะ รุกะหยุดก่อน  จากที่ผมเห็นคือคุณชิบะเข้ามาใกล้ๆ คุณรุกะแล้วก็พูดด้วยภาษาญี่ปุ่นกับเธอ ด้วยความสบายๆ แต่ลองคิดดูสิ่



ผมต้องพยายามฟัง กว่าจะรู้เรื่องแต่ละความหมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะฟังไม่รู้เรื่อง เคยมีผู้อ่านท่านนึงคอมเมนต์ไว้ในตอนไหนซักตอนไว้ว่า ขนาดกับพี่หมิวก็ว่าต่างกันเรื่องฐานะแล้ว แต่กับคุณรุกะนี่มันยิ่งกว่า ยิ่งกว่า ยิ่งกว่าไม่รู้ตั้งกี่เท่า



เพราะมันไม่ใช่แค่ปัจจัยเรื่องฐานะ แต่รวมทั้งภาษา วัฒนธรรม มันก็ต่างกันมากแล้ว เพราะงั้นที่คิดๆกันไว้ยังไงมันก็ยาก แล้วยิ่งมาบอกว่า คู่หมั้นมาถึงไทยนี้อีก มันยิ่งชัดเจนเลยว่าทางบรรจบที่ผมแอบเพ้อๆ มันไม่มีแน่นอน



หรืออย่างที่ผมบอกว่า ผมอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เธอคลายเครียด อย่างที่ผมเขียนไว้ในเรื่องเล่าเชียงใหม่ ในความคิดผู้ชายคนนึงแค่ได้นัว ได้เกือบอะไรแบบนั้น มันก็มากพอแล้วใช่มั้ยล่ะ มันแปลกป่ะทั้งๆที่ผมกลับบ้านก็เจอสามสาว



แต่ผมกลับหวิวๆพอรู้ว่ารุกะมีว่าที่คู่หมั้นแบบนี้ เฮ้ออ ผมนี่มักมากไม่มีหยุดจริงว่ะ เอาล่ะๆ ทำงานๆ วางตัวให้ดีที่ผ่านมาอาจจะแตะเนื้อต้องตัวกัน แต่นั่นมันก็ก่อนที่ผมจะรู้และได้เจอคู่หมั้นตัวเป็นๆของคุณรุกะ ผมต้องไม่ลืมคำพูดที่พระบิดาเคยว่าเอาไว้ เอาล่ะๆ บุญโทนโฟกัสหน้าที่และวางตัวให้ดี อย่าให้เสียชื่อคุณท่าน



พอพวกเขาสองคนเดินเข้าไปแล้ว ผมก็เดินแยกมาอีกทางซึ่งเป็นห้องที่พี่รุจน์ตอยสดส่องภาพรวม และแจกคำสั่งผ่านสายมา ผมเดินเข้าไปนั่งพักในห้องของทีมงานครับ ซึ่ง...



พี่รุจน์ก็อยู่ในนี้พอดี ทันทีที่ผมเข้ามาเขาก็พูดว่าทำถูกแล้วโทนที่ถอยออกมา ผมก็แบบฮึ๊ !!! อะไรครับพี่ พี่รุจน์ก็ชี้ให้ผมดูหน้าจอที่มีเกือบ 30 จอ มันมีมุมที่คุณรุกะดึงผมเข้าไปเมื่อกี้ครับ ผมก็คิดในใจว่าชิบหายแล้วพี่รุจน์ระเบิดลงหัวผมแน่ๆ แต่พี่รุจน์ก็บอกว่า



ความรักมันมีหลากหลายแบบว่ะโทน ในเรื่องธุรกิจมันไม่ใช่แค่ความรักอย่างเดียว แต่มันก็มีเรื่องการเกื้อหนุนกันทางชื่อเสียง การดองของสองบริษัทนั้นมันจะทำให้ความยิ่งใหญ่ของสองบริษัทมันเพิ่มพูนคูณทวีไปอีก




เพราะงั้นดีแล้วล่ะที่เอ็งเลือกเดินออกมา ผมถามว่าพี่รุจร์รู้เหรอครับ พี่รุจน์บอกโอ้ยย พี่ไม่ได้ตาบอดนะเว้ยหรือโง่ขนาดเดาอะไรไม่ออกหรอกนะเว้ย



อยู่ดีๆสวัสดิการที่ได้รับเป็นปกติ อยู่ดีๆพอเอ็งกลับมาก็โถมเข้ามาหามาใส่เยี่ยงโบนัสพิเศษ ผมก็พูดว่าอาจจะมาจากพี่แมนก็ได้แหม แต่พี่รุจน์บอหว่า จากคุณแมนน่ะได้เป็นปกติอยู่แล้ว และถึงเอ็งจะเข้ามา



ยังไงก็คงไม่มีอะไรพิเศษมากขึ้นหรอก แต่ไอ้ที่พิเศษน่ะมันมีปัจจัยอื่น แล้วไหนรัชน์ก็บอกอีกว่า คุณรุกะเขาต่อสายตรงหาเอ็งด้วยตัวเองเลยไม่ใช่เหรอ ผมก็เงียบ พี่รุจน์ก็บอกว่า มันไม่มีเหตุผลยากๆให้คิดเลยเรื่องนี้



นอกจากอีกฝ่ายคิดอะไรพิเศษๆด้วย แล้วยิ่งวันนั้นที่ทาเคชิให้เอ็งเซ็นรับของอะไรด้วยไม่ใช่เหรอ ผมก็ถอนหายใจเฮ้ออ แล้วไปนั่งโซฟาข้างๆแล้วบอกว่า ผมก็เผลอคิดเข้าข้างตัวเองไปช่วงนึงเหมือนกันแหละครับ พี่รุจน์ก็บอกว่า ก็ถ้าลองไม่คิดสิ่พี่จะว่าแปลก



เพราะเขาไปมาหาสู่ตลอด ผมก็เงียบ พี่รุจน์ก็บอกว่าแต่ดีแล้วล่ะที่เอ็งเข้าใจอะไรได้เร็ว ผมถอนหายใจแล้วบอกครับ มันดีกว่าแหละครับ ที่ออกมาแบบนี้พี่รุจน์บอกอื้ม ตั้งใจทำงานซะ ในงานอาจจะไม่มีอะไรปั่นป่วน เพราะมีพวกเราอยู่



แต่ถ้าพวกเราไม่อยู่มันคงมีเรื่องป่วนแน่ๆ ผมก็ตอบครับพี่รุจน์ ซึ่งผมก็เข้าใจดีนะ พวกมาอยู่ที่มันเลยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ลองไม่มีคนคอยสอดส่องสิ่ ปัญหาน่ะมาแน่ๆ แต่ผมคิดนะว่าให้ผมมายืนแค่เนี้ยอ่ะนะ แล้วจะให้ผมฟิตร่างกายทำไม




ผมมายืนมองที่หน้าจอกับพี่รุจน์แล้วมองๆ อืม.. นักข่าวก็มาว่ะ อาจจะเพราะบริษัทของคุณเคย์นั้นไม่ใช่ธรรมดาการ และการที่คุณท่านเริ่มเคลื่อนไหวด้วยการซื้อหุ้นบริษัทผม มันก็น่าตามข่าวอยู่หรอก



คุณท่านที่ช่วง ปี40 บริษัมเข้าขั้นวิกฤตแต่สามารถกลับมาผฃาดได้อีกครั้ง ใครๆด็จับตามองเป็นธรรมดาอยู่แล้ว โดยเฉพาะพี่แมนที่เป็นหัวเรือรบที่ลุยจนบริษัทกลับมาได้


เพราะงั้นสำหรับสายธุรกิจแล้ว นี่โคตรเป็นการรวมหุ้นที่น่าจับตามองเลยก็ว่าได้ พี่รุจน์ถามผมว่า เฮ้ยตกใจเปล่าที่อยู่ดีๆก็รู้ว่าพ่อมาเป็นที่ปรึกษาให้คุณแมน พี่รุจน์พูดกับผมนะ แต่ตาพี่เขามองที่หน้าจอกล้องวงจรปิดตลอด



ผมก็บอกว่า ตกใจแหละครับพ่อผมที่ไม่ค่อยสนใจอะไร ไม่ชอบคนเยอะๆ ชอบอยู่กับต้นไม้อยู่กับสวน แต่กลับมาเป็นที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยให้พี่แมน ผมพูดแล้วก็ถอนหายใจเฮ้ออออ  ผมถามว่าแล้วตอนพ่อผมเข้ามา พ่อได้อาละวาดอะไรมั้ยครับ



พอผมถามไปพี่รุจน์ที่ยืนดูหน้าจอด้วยท่าทีสะขุมก็ถึงกับสะดุ้ง เฮ้ยสะดุ้งจริงๆ เขาบอกผมแค่ว่าโดนเละทั้งแผนก พี่เขาบอกว่าเจอกันครั้งแรกที่บ้าน พี่ก็รู้แหละว่าอาทศเขาไม่ธรรมดา ผมถามว่าพี่รู้เรื่องพ่อผมตอนเขาหนุ่มๆเหรอ พี่เขาส่ายหัวแล้วบอกว่า


" คนที่นิ่งๆนั่นแหละ น่ากลัวว่าคนที่โวยวาย "


ผมก็บอกว่า ผมก็นิ่งนะพี่รุจน์ พี่เขาบอกเอ็งออกแนว มึนๆ มากกว่า เอ๊าาา !!! อะไรนั่น พี่รุจน์บอกผมอีกว่าจำที่พี่บอกได้ใช่มั้ย ว่าเอ็งต้องดูแลคุณรุกะจนกว่างานจะจบ ผมก็กึ้ก.. ผมจับที่หัวใจตัวเองนะ มันไม่ได้เต้นผิดจังหวะอะไรมาก ไม่เหมือนกับที่ผ่านๆมา ที่พอนึกถึงบางเรื่องมันก็วู่บบบ แต่คราวนี้ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร  ผมบอกตัวเองไหวอยู่ ไหวอยู่




ตอบตอบพี่รุจน์เข้าใจครับ พี่รุจน์บอกดี จำไว้ว่าเคลื่อนไหวได้อิสระคุณแมนอนุญาต ผมไม่เข้าใจสิ่งที่พี่เขาพูดนะแต่ก็ตอบครับไปก่อน ผมมองที่หน้าจออีกครั้ง มันมีอะไรแปลกๆละ ผมเลยรีบเดินออกมาทันที ผมกดบีบปุ่มเครื่องมือสื่อสารที่ติดตรงปกเสื้อแบ้วบอกว่า ผมกำลังจะกลับเข้าตำแหน่งนะ พี่รุจน์พูดเข้ามาว่ากระจายกันเช็คด้วย โทนรู้ระยะใช่มั้ย ผมตอบทราบครับ แล้วเดินเข้าไปทันที อย่างที่บอกว่าผมต้องดูแลคุณรุกะ




แต่ว่าไอ้การ์ดของคุณชิบะนี่แม่งน่ารำคาญยืนเกะกะชิบ แต่พอคุฯชิบะเดินมา มันก็ขยับหลบผมนะ คุณรุกะก็เดินผ่านจุดตรงหน้าเหมือนกันครับ มีคุณเคย์เดินตามมาด้วย พอท่านเดินผ่านผม ท่านก็หยุดนิดนึงแล้วสายตาคือมองที่ผมคนเดียว บุญโทนในร่างหัวขาวใส่ mask เหมือนคาคาชิใส่ผ้าปิดปากก็ได้แต่ยืนทำหน้าที่เหมือนเดิม ผมมองไปที่คุณเคย์แต่มองแบบผ่านไหล่ไป ไม่รู้สิ่ครับ อยู่ดีๆ ผมก็เกร็งแปลกๆ เหมือนไม่กล้าสู้หน้าเขา




อาจจะเพราะเอ่อ.. เรื่องที่ทำกับคุณรุกะด้วยมั้ง เพราะอย่างที่พวกท่านอาจจะเห็นมาตามหนังตามการ์ตูนบ้าง ว่าที่ญี่ปุนเขาเคร่งครัดจนขนาดมีการดูตัวแบบเป็นพิธีการเลยนะเว้ย ผมทำแบบนั้นกับคุณรุกะไป จริงอยู่ที่ว่าตอนนั้นเราสองคนทำแบบเต็มใจ ไม่มีใครบังคับใคร แต่ตอนนี้เหมือนผมผิดกับคุณเคย์เลยวะเพราะแบบนี้แหละผมเลยรู้สึกไม่ค่อยดีว่ะ ที่รู้ว่าตอนที่ทำกับคุณรุกะนั้นเธอมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว





แม่มเอ๊ยย ตอนนั้นก่อนที่ไม่รู้บอกเลยโคตรตื่นเต้น แต่ตอนนี้มันรู้สึกว่าไม่ควรข้ามเส้นเลยจริงๆว่ะ พอคุณรุกะเดินเข้ามา ก็แน่นอนล่ะสายตาผมก็ต้องมองตามเป็นธรรมดา ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าที่ทำตอนนี้น่ะมันเป็นเพราะหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายหรือว่ามันเป็นอะไรในใจผมกันแน่




แต่แปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกดิ่ง เหมือนตอนที่โดนดาวเบรกความสัมพันธ์ที่ช่องนนทรี หรือตอนที่โดนพี่เตยไล่เหมือนหมูเหมือนหมา หรือตอนที่พี่หมิวบอกว่ามึงไม่ใช่น้องกู ถ้าเทียบกับ 3 เหตุการณ์นั้นกรณีที่รู้ว่าคุณรุกะมีคู่หมั้นอยู่แล้วนั้น ผมแค่รู้สึกจี๊ดๆไม่เท่าไรเอง



ก็อย่างที่บอกแหละครับว่ามันอาจจะเป็นความรู้สึกว่า กูอดเหรอเนี่ย ก็ถ้าให้พูดตามตรงน่ะครับ ผมก็หวังที่จะได้เชยชมคุณรุกะนั่นแหละครับ ซักทีสองทีก็ยังดี ก็นะสาวญี่ปุ่น สวยๆ ขาวๆ บึ้มๆคือลือแบบนั้น ถ้าผมบอกว่าไม่คิดอะไรด้วยมันก็ดูโกหกแหละครับ




แต่อย่างที่บอกว่าผมเองก็คิดไว้ตั้งแต่ตอนทำงานที่เชียงใหม่แล้ว ว่าคนรวยๆ ทำงานเครียดๆแบบเธอนั้น เธอแค่เห็นผมเป็นที่ระบายความกำหนัดหรือเปล่า เอาจริงๆก็ไม่ได้รู้สึกแย่ที่เป็นแบบนั้นจริงๆ เชิญระบาย ปลดเปลื้องความกำหนัดมาได้เลยยยย



ถามว่ารู้สึกว่าโดนหลอกมั้ย ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าเธอโกหก เพราะเธอเองก็ไม่ได้บอกว่าโสด แล้วอีกอย่างคนสวยระดับเธอ รวยระดับเธอการที่จะมีคู่หมั้นคู่หมายมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ จะบอกว่า 3 ปีนั้นรอผู้ชายแค่คนเดียวอย่างผมมันก็ดูนิยายเกินไป นี่ดีนะเนี่ยที่คิดมาก + ระแวงไว้ก่อน เลยไม่ได้รู้สึกว่าดิ่งอะไรมากแต่มันก็มีโหวงๆแหละนะเมื่อกี้น่ะ



เมื่อถึงกำหนดการจบพาร์ททางการแล้ว ตามกำหนดการคือก็เป็นการเลี้ยงสังสรรค์หลัง 6 โมงเย็นครับ แน่นอนว่ามันเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อนเลยครับ คุณท่านและคุณเคย์เลือกที่จะจัดให้มันเป็นไพรเวท แน่นอนแหละครับว่าไม่ใช่โรงแรมหรูหราอะไรมากนัก แต่บอกเลยเรื่องความหรูนี่ไม่เสียชื่อบริษัทแน่นอน พอนักข่าวกลับไปหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเดินทาง กำหนดการเดิมคือผมต้องนั่งรถไปกับคุณรุกะ



ซึ่งผมก็เตรียมทำหน้าที่นั่นแหละครับ เดินนำหน้าไปตามปกติ แต่ที่เพิ่มมาคือการ์ดทีมของคุณชิบะก็ตามมาแบบติดๆด้วย ส่วนคุณชิบะนี่ตามติดเป็นเงาเลยครับ ผมพยายามรักษารูปแบบขบวนการคุ้มกันตามที่ฝึกซ้อมกันมาครับ  แต่กลับกลายเป็นว่าไอ้การ์ดของคุณชิบะนี่มันพยายามแทรกจังเลยว่ะ ลักษณะตัวมันก็สูงกว่าผมหน่อย แต่เรื่องความหนาของตัวนี่ น่าจะพอๆกันมั้งนะ


มันเบียด เบียด ผมก็เกร็งไว้จนมันถลาออกไปหน่อย คราวนี้มันก็แทรกเข้ามาอีก ผมก็หยุดจังหวะนึงแล้วกางแขนออก เพื่อกันไม่ให้คุณรุกะ และไอ้คุณชิบะเดินตามมา ให้พรี่การ์ดมันเซถลา แถ่ดๆๆ จนจะล้มเอา แต่มันก็ทรงตัวอยู่ได้นะ เออเก่งดี



คราวนี้พอหยุดเดิน คนก็ถามมีไร มีไร มีไร ไอ้การ์ดคนนี้ก็มองที่คุณชิบะแล้วหลบตาเลยครับ ผมบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี แล้วก็เดินนำไปต่อ จนพอมาถึงรถที่เป็นพาหนะที่จะใช้



ผมก็เดินไปเปิดประตูให้คุณรุกะ แต่กลับกลายเป็นว่าพอเธอเข้าไปแล้ว คุณชิบะก็ขึ้นตามไปด้วย.. อ้าว เดดแอร์สิ่ครับ เพราะคำสั่งของผมคือนั่งรถไปกับคุณรุกะ แล้วพอจะไปนั่งข้างหน้า ไอ้การ์ดคนนั้นก็ขึ้นไปนั่งแล้ว



เดดแอร์ 2 เด้งเลย เอาล่ะคงไปไม่ได้แล้ว แต่ยังไงผมก็ต้องไปที่โรงแรงนั้นอยู่ดีครับ เพราะงานผมยังไม่จบ แล้วตอนนั้นนางพญานางนึงก็เดินเข้ามาหาผมครับ มาถึงก็ยืนกอด อก แล้วบอกว่าไปกับเจ๊ก็ได้นะ



แล้วตอนที่พูดนั้น คนก็ยังอยู่เยอะรวมถึงคุณชิบะที่ยังไม่ปิดประตูด้วย แน่นอนล่ะครับถ้าพูดกับผมว่าเจ๊ก็มีคนเดียว เจ๊หมิวนั่นแหละครับ ถ้าคุณรุกะคือสวยแบบเอเชีย ตอนนี้เจ๊หมิวคือสวยแบบอินเตอร์ฝั่งตะวันตกเลยครับ สวยมาก สวยมากจริงๆ



ผมก็เหวอดิ่ครับ เจ๊ !!!  ผมก็เอียงตัวไปใกล้ๆ แล้วพูดเจ๊หมิว นี่ผมทำงานอยู่นะ เจ๊หมิวก็มองผม แล้วมองไปในรถ แล้วบอกอื้ม. ดีแล้วที่รู้หน้าที่ เจ๊หมิวยีหัวผมเบาๆ แล้วเดินไปครับ ถัดมาก คุณท่าน คุณเคย์ แบะ พระบิดาของผมก็เดินมาด้วยกัน



เดี๋ยวๆ อะไรน่ะตาลุง 3 คนนี้ เดี๋ยว ๆๆ ๆๆ ตบปากตัวเองแปปครับ คือ พ่อผม คุณท่าน และคุณเคย์เดินมาด้วยกันเลยครับ พอทั้ง 3 เดินมา คุณท่านกับพ่อผมน่ะยืนมองเฉยๆ แต่คุณเคย์เดินมาจบไหล่ผม ปั้ป ปั้ป เบาๆ



จังหวะนี้ไอ้คุณชิบะก็ยังไม่ปิดประตูนะ ผมคิดในใจรอเหี้ยไร นี่คือคิดในใจจริงๆนะ สุดท้ายผมก็ต้องปิดประตูให้ ผมโค้งหัวให้คุณเคย์ครั้งนึง คุณเคย์ คุณท่าน และพ่อผมก็เดินไปครับ ตามด้วยการ์ดของคุณท่านอีกสองคน


พี่รุจน์พูดมาในสายว่า เดี๋ยวจะไปรวมตัวกันที่บริษัทย่อยก่อน ( บริษัทผม ) ผมก็เดินไปขึ้นรถตู้ครับ ก็นะโดนแทรกแซงแบบนี้ ผมก็ต้องวางแผนใหม่ ผมยังทิ้งงานไม่ได้ครับ พอกลับขึ้นมาบนรถ ก็ปรากฏว่ามีผมกับพี่รุจน์แค่สองคน ตกลงว่ามีผมคนเดียวที่โดนแทรกแซงงั้นเหรอ ผมก็ถามไปครับ แต่พี่รุจน์บอกโดนทุกคนแหละ  แต่ว่างานมันก็คืองาน รถที่พวกนั้นต้องดูแล ก็มีที่นั่งเหลือ เลยไปต่อได้



แต่ของเอ็งนี่หนักหน่อยนะ ผมก็บอก ขอโทษครับที่ผมทิ้งหน้าที่ แต่พี่รุจน์บอกว่า  ถ้าลำพังการ์ดฝั่งญี่ปุ่นขึ้นมาคนเดียวพี่คงลงโทษเอ็งไปแล้งที่ละทิ้งหน้าที่ แต่ว่านี่มันมีตัวแปลคือคุณชิบะขึ้นไปนั่งแทน ก็คงใช้ระบบสากลเรื่องจำนวนบุคคลบนรถอ้างได้อยู่ ขึ้นไปก็ทำอะไรลำบาก เดี๋ยวกลับบริษัทก่อนค่อยวางแผนกันใหม่





พี่รุจน์บอกคนขับรถตู้ว่าไปเลยครับ แล้วรถก็แล่นออกไป ด้วยความอะไรยังไงไม่รู้ครับ ปรากฏว่ารถตู้ที่ผมนั่งมานั้น มาถึงแทบจะพอๆกับรถของขบวนหลักเลยล่ะครับ ผมลงมาและรีบเดินมากับพี่รุจน์ ด้วยความที่นี่เป็นบริษัทที่ผมทำงานประจำ ก็จะมีคนรู้จักอยู้พอควร แล้วผมเดาว่าแผนกผมคงกระจ่ายข่าวไปแน่ๆ ว่าที่ตัวแทนบริษัทอยู่ทีมดูแล โทน โทน โทน โทน เดินผ่านใคร เขาก็เรียก พี่รุจน์บอกเฮ้ยยย ฮอตไม่เบานี่ ผมก็ถามว่าพวกนั้นรู้ได้ไงว่าเป็นผมเนี่ย...


[ พี่รุจน์ ]  : เอ็งลืมใส่ แมสค์



ผมก็เฮ้ยย ลืมมม แล้วผมก็รีบหยิบแมสค์ในกระเป๋าซับในสูทมาใส่เหมือนเดิม แล้วรีบเดินไปหน้าบริษัท อย่างที่ผมบอกว่าวัฒนธรรมองค์กรของผมคือ จะเปิดโอกาสให้พนักงานมาพูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จ ในโปรเจคนั้นๆ อย่างตอนที่พี่แมนเจรจาธุรกิจกับพวกใต้หวันนั่นแหละครับ ตอนนี้ตรงหน้าบริษัทนี่คือยืนอยู่หลายกลุ่มคนเลยครับ หลายแผนก ผมรีบแทรก ๆ ๆ ยิ่งกว่าอายชีลด์ 21 แหวกจนมาตรงหน้าได้




ปรากฎมีผมกับพี่รุจน์ 2 คน พอรถของพวกคุณท่านลงมาถึง พวกผู้บริหารก็เตรียมช่อดอกไม้เอาไว้แล้ว ผมก็เดินไปเปิดประตูก่อนครับ คนที่ลงมาคือคุณท่านกับอดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ของที่นี่ แล้วก็คุณเคย์


พอลงมาแล้วเสียงปรบมือนี่ดังขึ้นแบบไม่ต้องมีใครบอกใครเตือนเลยครับ ถึงมันจะไม่ได้กระหึ่มแบบในคอนเสิร์ต แต่ถ้าใครมาอยู่ตรงนี้ก็แอบปลื้มอยู่ดีล่ะครับ พวกคุณท่านยืนอยู่ครับ เหมือนรออะไรอยู่



แล้วรถอีก 2 คันก็ตามมา คันแรกเป็นของคุณรุกะครับ การ์ดก็ทำหน้าที่ของเขาเดินไปเปิดประตูครับ พอคุณชิบะเดินลงมา คุณรุกะก็เดินออกมา คนก็ยังปรบมือไม่หยุด การ์ดส่วนใหญ่ตอนนี้ลงมาเกือบครบแล้วครับ เหลือแค่ทีมพี่รัชน์



คุณรุกะก็ยิ้มให้ทุกคนนะ ส่วนคุณชิบะก็โบกมือซะจนนึกว่าแห่มาตอนรับเขาล่ะมั้ง แต่ช่างเถอะครับเขาหล่อ แล้วเอาตรงๆ ถ้าไม่เก่งจริง คงไม่ได้ขึ้นมาดูแลตำแหน่งสูงๆแน่ๆ  พอมองคุณรุกะกับคนๆนี้


ดูยังไงก็เหมาะสมกันจริงๆนั่นแหละครับ แต่ของจริงอ่ะเริ่มจากนี้ว่ะครับ พอพี่แมน พี่หมิว เดินลงมาจากรถ แม่จ้าว ผมนึกว่าคอนเสิร์ตเสียงปรบมือที่แผ่วไปเมื่อกี้ ดังกระหึ่มเลยครับ พี่แมนโคตรหล่ออ่ะบ่องตง พี่หมิวนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย



ผมมองๆหาจอยนะ จอยยืนอยู่ข้างหลังคุณท่านครับ เราสองคนมองกัน เหมือนบอกกันผ่านสายตาว่าเต็มที่นะ พี่แมนเดินมาข้างหน้าแล้วไม่ได้โบกมือนะ ยกมือไหว้ พวกผู้บริหารอายุเยอะๆ เนี่ยทำไมคนจะไม่กรี๊ดถามหน่อย



มีคนเอาดอกไม้มอบให้พี่แมนครับ พี่แมนก็รับมาด้วยความเต็มใจ หน้าบริษัทตอนนี้เหมือนงานมิตติ้งเลยครับ ผมกวาดสายตามองคุณรุกะไปนะ เธอก็เดินไปปกติ แต่คุณชิบะนี่เรียกว่าเบียดเลยล่ะ บางคนมีกล้องถ้ายรูปก็เอามาถ่ายนะ แล้วก็พยายามโอบหลังจังเลย




อืม.. ผมลองจับที่หัวใจตัวเอง... มันวู่บนิดๆนะ แต่ไม่ได้ครึ่งของครึ่ง ๆ ๆ ๆ  ของตอนดาวกับเจ๊เตยเลยครับ ไหวยังไหว ยังทำงานได้สบายมาก พี่แมนก็ถามว่ามีอะไรจะถามกันมั้ย มีคนเริ่มถามว่า คุณแมนคะ การเจรจาครั้งนี้คุณแมนใช้หลักแบบไหนคะ พี่แมนยิ้มแล้วบอกว่า



" อย่าไปยึดติดกับหลักครับ หลักเป็นแค่แนวทางในการเลือกเริ่มต้น แต่สิ่งที่สำคัญคือพอเลือกไปแล้วควรทำยังไง นะหว่างทางเจอปัญหาต้องทำยังไง มันไม่มีงานไหนที่ทางราบเรียบ 100%  อยู่ที่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหน้างาน ปัญหาที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย เราจะทำยังไงให้ปัญหานั่นมันเบาบางลงได้มากที่สุด ที่สำคัญคือการสื่อสารครับ ถ้าสื่อสารกันได้ดี เข้าใจตรงกัน งานทันจะง่ายขึ้น  รับฟัง จำ จด ถ่ายทอดได้ และอย่าลืม to do list ครับ ฝึกพื้นฐานซ้ำๆ จนชำนาญแล้วงานจะออกมาดีเอง "



พอพี่แมนพูดจบเสียงปรบมือก็สนั่นเลย คือดังจนคุณชิบะเขินไม่กล้าโบกมือเลยครับ แต่ว่าตอนนั้นพี่แมนก็ยกมือเหมือนให้เบาเสียง ทุกคนก็เงียบนะ พี่แมนบอกว่า แต่คราวนี้ที่ต้องให้เครดิต คือทีมงานทั้ง 3 คนที่ถูกเลือกไปนะครับ ผมนี่สะดุ้งเลย อย่าพี่แมนอย่า พี่เล่นพูดให้แนวทางไว้ซะเทพเลย แล้วผมจะไปพูดอะไรต่อได้ล่ะ อย่าหาทำเลยย แต่ว่าเจ๊หมิวอ่ะเดินแหวกฝูงชนมาทางผมแล้วมองจ้อง




แล้วคือท่านเข้าใจมั้ยครับท่านผู้อ่าน ว่าคือคนสวยยอมเป็นจุดรวมสาย ตาทุกคนมองที่พี่หมิว แล้วผมก็อยู่ในระยะสายตาด้วย พี่หมิวถามว่าจะนิ่งอีกนานมั้ยล่ะ รู้ตัวใช่มั้ยว่าพี่แมนหมายถึงใคร  ผมก็มองไปที่จอย จอยไงจอยงายยยย



คือทุกคนเข้าใจผมใช่มั้ย ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ของผม แต่ละคนเขาระดับประเทศ คุณท่าน คุณเคย์ พี่แมน มองยังไง๊ยังไงตรงนั้นมันก็ยังไม่ใช่ที่ของผมอ่ะ ผมคิดว่าคงจะลองเถียงกับเจ๊หมิวซักตั้งดู แต่กลับกลายเป็นว่า เจ๊หมิวยอมถอยแล้วบอกว่าเอาเถอะยอมให้วันนึง



ฮู้ววว วันนี้เจ๊ใจดีจัง แต่ว่าตอนนั้น พรืดดด เจ๊หมิวถอดแมสค์ของผมออก เอ้าเฮ้ย !!!  จบเลยครับแบบนี้ ตอนนั้นคุณท่านก็เดินเข้าไปครับ คุณเคย์ กับอดีตผู้ถือหุ่นใหญ่ก็เดินไป คุณรุกะ คุณชิบะก็เดินตามไป ผมก็ต้องเดิมตามพวกเขาสองคนครับ



แต่พอผมเดินมา เสียงปรบมือที่เงียบไปแล้วก็ดังขึ้นอีกครั้ง เย็นไว้ เย็นไว้ เย็นไว้ แล้วอยู่ดีๆจอยที่คอยตามคุณเคย์ก็ถอยมาเดินใกล้ๆผมครับ ผมก็แอบถามว่าเอ้ามาทำไมเนี่ย จอยบอกว่า  ( ชื่อการ์ดของคุณท่าน ) บอกให้มาหาโทน



ผมก็ยิ่ง งง ท่ามกลางเสียงปรบมือผมได้แต่ยืนงง แต่ว่าพอเข้ามาในอาคาร คือทุกคนเข้าใจโครงสร้างใช่มะ อาการมีโถงตรงกลาง มีชั้นสอง ชั้นสาม ชั้นสี เหมือนระเบียง แล้วตอนนั้นเว้ย โอ้โห มีคนก็ตะโกน โทนสู้ๆมาจากชั้นสอง โอ้โห้ !!! แม่ยกจากแผนกผมเอง



แล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอีก แล้วก็มีเพื่อนร่วมแผนกสองคนถือช่อดอกไม้เล็กๆ มายื่นให้ผมกับจอยคนละช่อ ผมก็รับแบบงงๆ ตกลงเสียงปรบมือนี่ให้ผมเหรอ มองไปที่คุณรุกะเธอก็ปรบมือแล้วมองมาที่ผมนะ แต่คุณชิบะนี่มองตาแข็งเลยนะ



คุณท่าน คุณเคย์ พี่แมน พี่หมิวก็ปรบมือให้ผมกับจอย จอยคือน้ำตาคลอแล้ว แต่ผมยังอึนอยู่ ผมก็รับดอกไม้แล้วเดินไปต่อครับ โทน โทน โทน เสียงทักดังมาตลอดทางเลย พอผมแหงนหน้าขึ้นไปมองอีกครั้ง พวกนั้นก็โบกมือให้ครับ... ผมสมควรจะได้รับคำชมจริงๆเหรอ



ผม จอย แล้วก็ต้องพี่พลอยด้วยสิ่ พี่พลอยต้องมาอยู่ตรงนี้ด้วย ผมจะทำใจรับคำชมได้ยังไงกันนะ แต่ว่าตอนนั้นที่ผมแหงนหน้ามองอยู่นั่น ก็มีคนสักคนพูดกับผมว่า พวกเขามาให้กำลังใจ เธอก็ควรที่จะตอบแทนน้ำใจพวกเขานะ ไม่ว่าผลงานที่ได้มา มันจะน้อยนิด หรือ ยิ่งใหญ่ ก็ควรยืดอกอย่างภาคภูมิใจ



อย่าทำให้คนที่มาให้กำลังใจต้องเหนื่อยเปล่า เพราะงั้นเงยหน้าแล้วทักทายพวกเขาซะ คำพูดเล็กๆแค่นี้มันทำให้ความหม่นหมอง ความขุ่นมัวของผมหายไปหมดเลยนะ ผมตั้งใจจะหันไปขอบคุณเขาก็พอหันไปก็ อึ้ก !!! พูดอะไรไม่ออก เพราะคนที่บอกผมนั่นคือ คุณเคย์ !!!  เอ้า !!!  พูดไทยได้ด้วยเหรอ !!!





 



เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

deamondear

P7 มาแล้วเว้ยยย มาดูกันว่าไอ้หนุ่มญี่ปุ่นจะก่อเรื่องอะไรรึป่าวน่อออ
เพิ่มเติม
รู้เลยว่าคืนนี้เป็นของพลอยแน่นอนนนนน



only1A

จองโต๊ะเลย รอตั้งแต่วันอาทิตย์

พี่พลอยมาแล้ว ไม่ต้องดิ่ง

drblackjack

ตามมาเชียร์คุณโทนครับ
การที่มีคนเห็นความสำคัญนี่มันปลื้มจริงๆครับ


momoyoyo

คู่หมั้นคุณรุกะกับทีมงานทำไมมันเหมือนพวกตัวอิจฉาในละครไทยเลย เกะกะขวางหูขวางตาไปหมด55

dodoza2



I2ta3ta3


Paul K

ยืดอก ฮึบฮีบ เข้าไว้โทน ทำดีต้องได้รับคำชม ว่าแต่คุณเคย์นี่ต้องสนใจอะไรในตัวว่าที่ลูกเขยคนนี้บ้างสิน่า ถึงยอมพูดไทยด้วย


sukray ruktum

เอ้าพ่อตามาพูดให้กำลังใจรับไปซิครับ  หยอกๆๆนะคับ  5555

เข้าใจเลยครับแต่คงไม่หนักเหมือนตอนดาวแน่นอน เพราะว่าท่านโทนผ่านมาได้แล้วกับคุณรุกะคงจะไม่้เป็นอะไรมากแต่ก้อสงสารคุณรุกะนะครับ เพราะท่านโทนคือคนพิเศษรุกะเองก้อคงไม่อยากปิดบังท่านโทนหรอกเธอก้อแค่ผู้หญิงคนนึงที่มี❤️ ณ.ตอนนี้เธอน่าสงสารจิงๆๆนะครับ  โดนคนรักเย็นชาใส่ 

Slave