ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 7 ] ตอนที่ 93 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, กรกฎาคม 13, 2022, 12:49:59 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ตอนนี้โควิดเหมือนจะกลับมาแล้วก็ขอให้อย่าเพิ่งลดการ์ดกันนะครับ

ถึงจะมีประกาศปลดล็อคการใส่ Mask แล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้

ก็ขอให้ทุกท่านดูแลตัวเองใส่ Mask ตอนออกจากบ้านด้วยครับ

แล้วขอส่งกำลังใจให้สมาชิกร้านเกะ คุณ Thanee_samsung  หายป่วยไวๆครับ

ว่าแต่ ปู่หมาป่า หายไปไหนครับนี่ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นปู่เลย

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง


สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ




★★★★★★★★★★★



ความเดิมตอนที่แล้ว


แน่นอนว่าผมเองต้องทำงานไปด้วย และต้องรู้สึกหน่วงๆกับความรู้สึก

ที่ได้รุ้ว่าคุณรุกะมีคู่หมั้น คือมันก็มีหน่วงนิดนึงครับ ถ้าบอกว่าไม่มีนี่สิ่แปลก

แต่ว่าผมเองก็ต้องทำงานครับ มันเป็นงานสำคัญ ถึงยังไงงานมันก็คืองาน

ผมได้รับเสียงปรบมือจากเพื่อนๆพี่ๆ ที่ทำงานตอนเดินเข้าบริษัท

มันรู้สึกดีนะ ความเหนื่อย เครียด จิตตก จากตอนไปทำงานเชียงใหม่คือหายเลย

ตอนเย็นเป็นงาน Part สังสรรค์ผมก็ยังต้องทำงานต่อครับ

แต่ว่าตอนนั้นก็มีสาวสวยคนนึงเข้ามาทักทาย พี่พลอยยยยยยยย


★★★★★★★★★★★





ตอนนั้นคือผมสตั๊นนิ่งเลยคิดในใจชิบหายแล้ว คือมันก็ดีใจที่พี่พลอยมาที่งานนี้ แต่อีกใจก็ไม่กล้าจะมองหน้าเธอ เพราะผมไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อชวนพี่พลอยเลย มัวแต่ฝึกซ้อม และอยู่กับสาวๆ พึ่งมานึกถึงพี่พลอยก็ตอนงานเริ่มนี่แหละ พี่พลอยก็พูดอ่ะแฮ่ม หล่อแล้วหยิ่งเหรอคุยด้วยแล้วไม่คุยน่ะ



ผมก็เอ่อะ เอ่อ... สวัสดีครับ พี่พลอยบอกโห แค่เนี่ย ตอนนั้นผมพยายามมองหาตัวช่วยนะ แล้วตอนนั้นจอยก็มาพอดี จอยมองมาทางนี้พอดี จอยมาถึงก็พุ่งมาเลย มาแล้วก็กอดแบบเพื่อนเจอเพื่อน พี่พลอยก็กอดคืนครับ ผมก้าวห่างออกมา 2-3 ก้าวเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดไป



จอยถามว่าแล้วไหนบอกว่าจะไม่มา พี่พลอยก็บอกว่าถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรซ์สิ่ ผมฮึ๊ !!! นี่ตกลงจอยโทรคุยกับพี่พลอยแล้วเหรอ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ว่ะ คิดดูดิ่จอยเองก็มีงานนะ งานเยอะมากด้วย จอยยังโทรหาพี่พลอย ชวนพี่พลอยมาได้ แต่ผมคือไม่ทำอะไรเลย ข้ออ้างที่บอกซ้อมหนักจนลืมโทร มันก็คงใช้ไม่ได้แล้วล่ะครับ


พี่พลอยผมทำงานอยู่นะ พี่พลอยก็ยืนมองๆทำหน้าแบบจริงหรา แล้วเธอก็บอกโอเค๊ ตอนนี้คุยไม่ได้งั้นเลิกงานก็ต้องคุยกันได้สิ่นะ โอเคคุยหลังงานก็ได้ พี่พลอยพูดจบแล้วก็บอกกับจอยว่าเน๊อคุยหลังงานก็ได้ จอยก็อื้มม แล้วก็เดินไปเลย สองคนนี่ยังไงน้อ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยหรือเพราะเรื่องที่เกิดตอนไปทำงานเชียงใหม่กันนะ เลยทำให้สองคนนี้ดูสนิทกันจังเลย




ผมก็ยืนทำงานของผมต่อไปงานเลี้ยงงานสังสรรค์ก็เริ่มต่อไปครับ แล้วดูเหมือนว่าลูกพี่ของผมจะมาด้วย ผมก็หืมมาด้วยเหรอ ซึ่งผมมาสะกิดใจได้ว่าตอนนี้บริษัทของผมก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของคุณท่านแล้วนี่หว่า การที่ลูกพี่ผมจะมาที่นี่ก็ไม่แปลก และที่สำคัญลูกพี่ก็เป็นคนส่งผมเป็นไปตัวแทนด้วย การที่เขาจะถูกเชิญมาที่งานนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย




พอคิดๆ ๆ ๆ ผมก็ เฮ้ยยย ถ้าลูกพี่มาแล้วผมก็จะถูกลดบทบาทเกี่ยวกับการถามเรื่องงานลง นี่แหละโว๊ยที่ต้องการ ไม่อยากจะเด่นไปมากกว่านี้แล้ว....  หัวหน้าผมก็มากับพี่จักรนั่นแหละครับ  พอมาถึงก็อั้ยย๋าพ่อหนุ่มหัวขาว พ่อคาคาชี๊ ผมก็บอกเดี๋ยวๆพี่แซวอะไรกันเนี่ย ลูกพี่ผมก็หัวเราะ 5 5 5 5แล้วบอกเออๆ ทำงานไป พี่จักรก็ตบไหล่ผมปั้ป ๆ ๆ แล้วบอกว่าดีแล้วโทน แล้วเขาก็เดินเข้าไปในงานนั่นแหละครับ คุณรุกะอยู่ใกล้ๆผมก็สอดส่องสายตาอยู่ตลอด




แล้วไอ้การ์ดญี่ปุ่นก็มาพูดโช้งเช้ง ๆ ๆ อะไรไม่รู้ ผมฟังไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่อยากใส่ใจด้วย แต่ฟังจากน้ำเสียงดูเหมือนว่ามันไม่ค่อยพอใจนะ แต่ถามว่าผมสนใจมั้ยก็ไม่เลย ผมทำตามหน้าที่ที่ผมได้รับมา จะมาว่าผมไม่ได้หรอกนะครับ ตอนนั้นอยู่ดีๆบนเวที ที่ผมคิดว่าจะไม่มีอะไร ก็มีพิธีกรท่านนึงเดินขึ้นไป



ก็นะถือไมค์ไปซะแบบนั้นเดาง่ายๆเลยครับ ตอนนั้นตามไลน์บุฟเฟ่ที่ปกติคนจะไปยืน ๆ ๆ ก็ได้ไปรวมตัวตรงนั้น เก้าอี้ก็ถูกยกมาวางหลายๆตัว ซึ่งคนที่นั่งก็เป็น คุณเคย์ คุณรุกะ คุณชิบะ แล้วก็ผู้บริหารระดับสูงเฉยๆ ผมจะเดินเข้าไปนะ แต่พอสังเกตว่ารอบๆนั้นไม่มีการ์ดเลย



แต่การ์ดทุกคนจะอยู่ห่างออกมา ตอนนั้นพี่รุจน์ก็พูดมาในสายว่า ประจำจุดเดิมก่อน ดูเหมือนว่าจะมีพิธีการแทรกเข้ามานิดหน่อย ผมก็งงว่าแทรกอะไรตอนนี้หว่า นี่มันงานเลี้ยงสังสรรค์ไม่ใช่เหรอ แต่ก็นะถ้าพี่รุจน์บอกมาแบบนี้ สิ่งที่ทำได้คือรักษาระยะห่างไว้ ผมลองขยับๆข้อเท้า ขยับๆรองเท้า




ถ้าต้องเข้าประชิดตัวคุณรุกะในระยะนี้ ด้วยสปีดในตอนนี้ที่ทำได้ คงจะใช้ราวๆ 3-4 วินาที พอได้ พอได้ แต่ที่ผมสงสัยว่างานวิชาการมันคืออะไรกันนะ เฮ้ย !!! ชิบหายแล้ว นี่ไงละเขาถึงบอกว่าคนเรามักจะมองข้ามสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าพื้นฐานเสมอ ผมก็พิมพ์แล้วพิมพ์อีกว่า วัฒนธรรมขององค์กรผมนั้นคือ



การได้ฟัง ได้คุยกับคนที่สร้างผลงานนั้นๆแบบใกล้ๆชิด แล้วไอ้พิธีกรนั้นมันก็คนในบริษัทผมนั่นแหละเห็นหน้าเห็นตากันบ่อยๆ แม่จ้าวงานเข้าแล้ว ผมเก็บอาการไว้นะตอนนั้นแล้วก็มองไปที่ข้างบนเวที พิธีกรก็เริ่มพูดว่า ขออนุญาตคั่นเวลาเป็นรายการพิเศษ เนื่องจากว่าช่วงกลางวันเรามีโอกาสได้ฟังคำแนะนำจากแค่ทางคุณแมนเท่านั้น




แต่อย่าลืมว่าพวกเรายังมีตัวแทนจาก 2 สาขา และอีก 1 ผู้ประสานงานด้านภาษาเข้าร่วมในการเจรจาครั้งนี้ด้วย ก่อนอื่นเลย ขอเชิญคุณ ( ชื่อจริงลูกพี่ )  ตัวแทนจากสาขากรุงเทพมหานครค่ะ อยากทราบถึงความสำเร็จที่ได้รับเข้ามาในการส่งตัวแทนไปครั้งนี้



โอ้ยยย โล่งโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย  ขึ้นไปเลยลวกเพี่ย ขึ้นไปเลย เอาหน้าไปเลยโว๊ยยย อย่าเรียกผมขึ้นไปก็พอ หัวหน้าผมก็ขึ้นไปยกมือไหว้ ไหว้ ไหว้ เพราะมันเป็นงานเหมือนไพรเวทครับเลยไม่ค่อยมีพิธีการอะไร หัวหน้าผมก็เอ่ยว่า ดีใจมากที่ผลงานมันออกมาดี



แต่ตนก็ไม่สามารถรับความดีความชอบได้ทั้งหมดเลยจริงๆ พิธีกรถามอีกว่าอะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจส่งตัวแทนคนนี้ไปค่ะ เพราะผลงานมันออกมาดีมากๆจนทางคุณเคย์ถึงกับออกปากชม ชิบหายละ อย่า อย่า อย่ามองมาทางนี้ หัวหน้าผมก็บอกว่า มันเสี่ยงมากครับ ผมก็เอ้าอะไรวะ



หัวหน้าผมบอกว่ามันก็จริงว่างานสำคัญๆแบบนี้ต้องใช้คนที่เก๋าเกมส์และมีความเชี่ยวชาญเข้าร่วม แต่นโยบายของพวกเราอย่างที่พวกท่านทั้งหลายรู้ ส่งเสริมคนเจ็นใหม่ ( เจเนอร์เรชั่น ) และสร้างนิวบลัด ( เลือดใหม่ คนรุ่นใหม่ ) เพื่อขับเคลื่อนบริษัท เพราะงั้นผมจึงคิดว่า ถ้าลองให้โอกาสคนรุ่นใหม่มันน่าจะดีกว่า




ผมนี่คิดในใจนะ โถ่ววว เอ๊ย !!! แบบนี้พี่เล่นยัดงานให้ผมเลย ถึงตอนนั้นผมจะเต็มใจรับเพราะอยากไปพักใจก็เถอะ หัวหน้าผมก็เริ่มให้สัมภาษณ์เฉพาะกิจไปเรื่อยๆ เอาตรงๆผมไม่รู้สึกเลยว่ากำลังโดนแย่งผลงานหรืออะไรไป เพราะผมอยากอยู่เงียบๆแบบนี้ดีกว่า ซึ่งมันแปลกนะ




เพราะตอนที่ผมกำลังจะเรียนจบ ผมคิดในใจว่าถ้าได้ทำงาน ก็อยากจะเด่น อยากจะดัง จะได้เลื่อนขั้นไวๆ แต่พอมาตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าตอนนี้ทำงานผมขอทำให้เต็มที่เลย ส่วนผลงานจะรับรู้กันแค่ในแผนกอะไรแค่นั้นก็พอไม่อยากเด่นอยากดังอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะว่า คนที่กำลังพูดตรงหน้าเป็นหัวหน้าของผมวะ



ผมเลยไม่ได้รู้สึกว่าโดนแย่งผลงานอะไรไป กลับรู้สึกยินดีด้วยซ้ำ ในทางกลับกันถ้าคนที่อยู่บนเวทีตอนนี้เป็นไอ้พวกระดับสูงๆอย่างไอ้ผู้บริหารหนุ่มขึ้นมารับหน้ารับตา ผมอาจจะหงุดหงิดก็ได้ คนเรานี่มันก็แปลกจริงๆว่ะ วันนี้อีกอย่าง พรุ่งนี้อาจจะเป็นอีกอย่าง




หัวหน้าผมก็พูดถึงผมนะ แต่ใช้คำว่าน้องพนักงาน ซึ่งโอเค๊ โอเคเลยเพราะต่อให้จะไม่เอ่ยชื่อแต่ไอ้การรับดอกไม้ที่หน้าบริษัท และมีคนโบกไม้โบกมือให้ ยังไงพวกเขาก็คงนึกออกอยู่แล้วว่าไอ้น้องคนนั้นที่พี่ผมกล่าวถึงคือใคร พอหัวหน้าพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นมา



ต่อไปพิธีกรก็เชิญหัวหน้าสาขาต่างจังหวัดมา แต่ปรากฏว่าพี่พลอยขึ้นไปแทนครับ คือผมไม่ได้คิดถึงขั้นว่าพี่พลอยเป็นหัวหน้าแผนกนะ เพราะว่าที่หัวหน้าผมบอกคือพี่พลอยเป็นรองหัวหน้า ซึ่งบอกตรงๆโคตรเก่งและการที่เธอขึ้นไปแบบนั้นอาจจะเพราะเป็นตัวแทนก็ได้ครับ




พิธีกรบรรยายว่า คุณ ( ชื่อจริงพี่พลอย ) ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมเฉพาะกิจในการดำเนินการเจรจาครั้งนี้ ผมคิดในใจแว๊ปนึงว่า เฮ้ย ผมไม่ใช่เหรอที่เป็นหัวหน้า.... คือเอาจริงๆผมต้องไม่พอใจใช่มะว่าแบบเฮ้ยกูหัวหน้า กูหัวหน้า แต่อย่างที่ผมบอกว่าอาจจะเพราะว่า ผมไม่ได้เสียหายอะไรกับเรื่องนี้ และอีกอย่างผมก็อยากอยู่แบบเงียบๆเฉยๆ แค่รู้กันในแผนก และทีมที่ไปก็พอ




และอีกอย่างการที่พี่พลอยจะเป็นหัวหน้าทีมแบบนี้มันก็สมเหตุสมผล เพราะถ้าเทียบกันแล้วประสบการณ์ในการทำงาน คุณวุฒิ และเรื่องฝีมือนี่ยอมรับเลยครับว่าตำแหน่งรองหัวหน้าของพี่พลอยนั่น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ พี่พลอยขึ้นไปพร้อมกับอะไรในมือดำๆ



ถ้าให้ผมเดาก็คงเป็นตัวบูลทูธ ที่เอาไว้กดเปลี่ยนสไลด์ พี่พลอยก็ทำหน้างงๆว่าเธอเป็นหัวหน้าเหรอ แต่เธอก็มืออาชีพมากๆ ปรับอารมณ์ไวจริงๆเลย เธอก็แนะนำตัวนู่นนี่นั่น แล้วก็บอกว่ารู้สึกประหลาดใจในตอนแรกที่ได้รับเลือก แต่เมื่อได้รับเลือกแล้วก็พร้อมที่จะทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างสุดกำลังความสามารถ



เธอบอกว่าก็ประหม่าเหมือนกัน เพราะว่าต้องคุยธุรกิจสำคัญระดับ 8 หลักกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ( ชื่อบริษัทของคุณเคย์ ) แต่ว่าด้วยความที่พวกเราทำการบ้านมาอย่างตั้งใจ ประกอบกับทีมงานที่ดี การประสานงานด้านภาษาที่ดี ทำให้กำแพงด้านภาษานั้นแทบจะไม่ใช่ปัญหาเลย ผมนี่เฮ้อในใจเลย



จะใช่ล่ามทำม๊ายในเมื่อคุณเคย์เขาฟังไทยออก พูดไทยก็ชัดเป๊ะขนาดนั้น เฮ้อ พี่พลอยพูดแบบนี้ผมก็สบายใจครับ แต่ว่าความสบายใจของผมมันเกิดขึ้นได้แปปเดียว เพราะพี่พลอยเขาพูดว่าทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวพลอยเองอาจจะทำงานนี้ไม่สำเร็จ ถ้าขาดทีมงานทั้ง 3 คน





นั่นไง !!!  พูดจนได้ว่า 3 คน แม่จ้าวไม่อ๊าวววววว พี่พลอยบอกว่าอยากแรกเลยขอบคุณ ใจผมหล่นว่าบเลยตอนนี้ แต่พี่พลอยก็บอกว่าขอบคุณคุณจอยที่ทำงานหนักมากๆ เพราะมีคุณจอยอยู่เลยทำให้งานนี้พวกเราไม่กังวลเรื่องภาษาเลย เรียกได้ว่า เธอสามารถทำให้พวกเราเข้าใจภาษาแบบ Real Time คำต่อคำ ประโยคต่อประโยคและใช้ภาษาที่เข้าใจได้ไงเลย




พวกคุณเคย์หัวเราะเลยครับ เหมือนชอบใจกับที่พี่พลอยพูด คุณรุกะก็ยังมารยาท งดงามเหมือนเดิม เธอปิดปากหัวเราะเหมือนเดิม แล้วเธอก็หันมามองผมครับ แต่ไอ้คุณชิบะนี่แม่งเอ๊ยประสาทชิบเลย พอคุณรุกะหันมามอง ไอ้นี่ก็มองตาม มองพ่อง เอ้ยไม่ใช่ๆ ๆ โทษทีครับ



พิธีกรก็ถามว่าเอ๊ คุณจอยอยู่ในนี้มั้ยคะ ขอเรียนเชิญหน่อยค่ะ แล้วทุกคนก็ปรบมือเลยครับ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจอยอยู่ จอยเธอไม่มีความลังเลเลยครับ เดินขึ้นไปทันที ผมก็ยืนปรบมืออยู่ใกล้ๆ นั่นแหละ พอจอยขึ้นไปนะ เธอกลายเป็นคนละคนที่ประหม่าเมื่อกี้เลยล่ะครับ




พอจอยเริ่มบอกว่าจริงๆ เธอนั้นคิดจะปฏิเสธงานนี้ด้วยซ้ำเพราะคิดว่ามันใหญ่เกินตัว งานยากเกินมือไปมั้ย แต่ว่ามันเป็นโอกาสที่อาจจะหาไม่ได้อีกแล้วสำหรับสายงานแบบเธอ กับงานมูลค่า 8 หลักแบบนี้ ตัดสินใจได้ไม่ยากเลยค่ะไม่ถึง 5 นาทีก็โทรกลับไปบอกยินดีรับงาน เธอพูดแล้วปิดปากขำ คนข้างล่างก็ขำไปด้วย




จอยบอกว่าแต่ที่กดดันคือ ทางคุณเคย์ จอยพูดแล้วผายมือไปทางคุณเคย์ แล้วจอยก็พูดต่อว่า เพราะทางคุณเคย์ให้ความเป็นกันเองกับพนักงานทุกระดับ ตอนแรกบอกเลยดิฉันทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แต่ว่าก็ได้พลังงานบวกจากทีมงานเฉพาะกิจที่ไปทำงานด้วยกันนี่แหละค่ะ



พอพูดปั๊ป พี่พลอยก็เริ่มกดสไลด์ มันเป็นภาพตั้งแต่ที่เริ่มทำงานครับ แน่นอนแหละภาพผมนี่มาเลย แต่ตอนนั้นหัวดำครับเลยยังไม่เท่าไร ยังได้อยู่ ยังนิ่งอยู่ จอยเริ่มบอกว่าจริงๆงานเริ่มตั้งแต่ลงจากสนามบินเลยค่ะ ความท้าทายมันมาเร็วมากๆ แต่มันเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาตัวเองด้วย




ผมก็งงว่าเอ๊ะ เขาไปถ่ายภาพกันตอนไหนวะ ผมไม่เห็นรู้ตัวเลย จอยก็บอกอีกนะว่า อีกทั้งท่านผู้บริหารก็ให้ความรู้ ให้คำแนะนำระหว่างการทำงานตลอด ไม่ถือตนแม้แต่น้อยค่ะ จะเรียกว่าในงานที่มีรายละเอียดมากๆ แต่ก็มีผู้มีประสบการณ์เมตตาก็ว่าได้ค่ะ แล้วภาพก็ผ่านไป ผ่านไป ผ่านไป



แสดงให้เห็นพวกผังตัวเลขต่างๆ ที่เป็นการเขียนมือล้วนๆ เดี๋ยว ๆ ๆ นี่พี่พลอยหรือจอยเป็นคนถ่ายภาพเนี่ย แล้วชื่อผมนี่โอ้โห !!! ชัดเลย ผมนะโน้ตข้อความไว้ว่า " โทน " แล้วก็ตามด้วย ช่วงเวลาวันที่เวลาเขียน เช่น โทนเขียนไว้หลังประชุมช่วงค่ำๆ ประมาณ  เพราะว่ามันจะง่ายต่อการมาทำงานต่อน่ะครับท่านผู้อ่าน จอยก็บอกต่อว่าความสำเร็จมันไม่ได้อยู่ที่พวกเราสามคน




แต่มันเกิดได้เพราะความช่วยเหลือจากทุกแผนก ทุกท่าน และพอกดมาที่ภาพนึงมันเป็นภาพที่ผมนั่งกุมขมับอยู่ แต่สองสาวหันภาพมาชูสองนิ้ว ทุกคนก็หัวเราะเลย ผมมองไปที่คุณรุกะเธอหัวเราะหนักเลย พี่พลอยก็หัวเราะ จอยบอกว่าอันที่จริงพวกเราต้องขอขอบคุณ คุณโทนนะคะ แล้วก็เปลี่ยนไปภาพที่ผมใส่ชุดฮากามะ และ ฮาโอริลายเสือขาว จอยบอกว่า



จริงอยู่ที่ประสบการณ์ทำงานของเขาจะไม่ได้มาก แต่ทั้งเรื่องความเป็นผู้นำ การตัดสินใจ และเรื่องเสียสละ เขาทำได้ดีมากเลยค่ะ ที่สำคัญเพราะความประสบการณ์น้อยของเขานั่นแหละที่ทำให้ทุกอย่างมันออกมาดี ซึ่งทุกคนทุกท่านที่ผ่านงานระดับสูงมาหลายต่อหลายงาน แค่เจอจุดอะไรที่ผิดพลาดนิดหน่อย ยังไงแล้วก็ต้องมีสะดุดกันบ้าง



แต่กลับกันคนที่ประสบการณ์น้อยแบบคุณโทน พอเจอจุดที่มันยาก จุดที่ทำให้ทั้งพลอยและจอยต้องสะดุด คุณโทนเขาจะพูดว่าเหรอ ผมไม่รู้อ่ะมันยากเหรอ แต่ผมว่าไม่ยากนะ พอจอยพูดมาแบบนั้นทุกคนก็หัวเราะเลย นั่นไงพูดถึงกูละครับ งานเข้ามั้ยครับแบบนี้ แล้วจู่ๆจอยก็มองมาทางผม ผมก็รีบโบกมืออย่า ๆ ๆ ๆ  จอยก็มองแล้วเหมือนจะรู้ครับ จอยบอกต่อว่า ที่จอยจะบอกคือ ในทีมของเราอาจจะไม่ได้เพอร์เฟคด้านข้อมูล แต่ทีมที่เรามีคือความบาลานซ์ค่ะ




คนเราเมื่อผ่านงานมาเยอะ ผ่านประสบการณ์ความสำเร็จมาเยอะ เจออุปสรรคมาเยอะ พอเจองานอะไรบางอย่างก็จะเริ่มตั้งกำแพงไว้ก่อนว่ามันต้องจากแนๆ ซึ่งบอกตามตรงจอยกับพลอยติดกับดักนั้นเต็มๆ แต่ก็เพราะคุณโทน พวกเราก็เลยผ่านเรื่องานมาได้ แต่ก็ต้องมาปวดหัวกับคุณโทนแทนนั่นแหละค่ะ ทุกคนหัวเราะหนักเลย โอย อายว่ะ




พอจอยพูดจบเธอก็หันไปหาพี่พลอยแล้วก็ยื่นไมค์ให้ ส่วนตัวของเธอก็ยกมือไหว้และขอตัวลงทันที ส่วนพี่พลอยก็บอกว่าหลักๆก็มีเท่านี้ค่ะ ทุกคนก็ปรบมือ คือถึงมันจะดูสั้นๆแต่ก็เข้าใจได้ครับ เพราะหัวใจหลักของที่นี่คืองานเลี้ยง ก็พูดยังไงดีเหมือนงานแต่งงานน่ะ แขกพวกนี้ถูกเชิญมาให้พูดถึงตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวนิดหน่อย เหมือนกันพี่พลอยกับจอยก็พูดถึงเนื้อหางานนิดหน่อยพอ เพราะสิ่งที่สำคัญคืองานเลี้ยงไงงงง



แต่ว่าอย่างที่จอยพูดไปครับว่าผมไม่ได้มีประสบการณ์อะไร มันก็เลยทำให้หลายคนคงจะข้องใจเรื่องที่ผมได้ไป โดยเฉพาะผู้บริหารหนุ่มครับ ไอ้สัดนี่ไม่หยุดจริงจริ๊งงง  ตอนนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมาถามเลยว่า แล้วทำไมทางคุณ ( ชื่อหัวหน้าผม ) ถึงกล้าเสี่ยงให้เด็กใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์เข้าไปทำงานสำคัญมูลค่า 8 หลักล่ะครับ



ถ้ามันล้มเหลวขึ้นมาเราคงไม่ได้แสดงความยินดีแบบนี้ เอาล่ะเริ่มอึมครึมแล้วตอนนี้ เหี้ยละผมไม่คิดว่าแม่งจะแค้นฝังหุ่นขนาดนี้เลยว่ะ เฮ้ยๆมันชักยังไงๆแล้วนะเนี่ย แล้วพวกมันก็ยังถามว่าแล้วเรื่องความปลอดภัยของคุณเคย์ที่ไปทำงานแบบไพรเวทล่ะครับ การที่ไม่มีใครสักคนจากทีมรักษาความปลอดภัยไปด้วย แบบนี้มันถือว่าสะเพร่าเกินไปหรือเปล่าครับ



เพราะเท่าที่รู้งบประมาณที่จัดแจงไปมันก็พอที่จะให้พนักงานไปอีก 1 ท่านนะครับ พิธีกรก็อึกอักเลยครับ นี่ไง แสดงว่าแม่งด้นสดเลยนี่หว่า ตอนนั้นพ่อผมเดินมาครับ ผมก็เอ้าพระบิดามายังไง พ่อผมก็ถามว่า แหม่ มาทำงานนี่สร้างโจทก์ด้วยเหรอเนี่ยไอ้ลูกหมา ผมก็บอกว่าใครจะไปสร้างล่ะพ่อ มันนั่นแหละที่ทำงานเกือบพัง




พ่อผมก็อื้ม ก็ไม่พังนี่ ตอนนั้นหัวหน้าผมแม่งก็ขึ้นเลย เขารับไมค์ไปแล้วพร้อมกับรีโมทในมือแล้วบอกว่า อืมม แล้วก็กดแชะไปที่ภาพ ภาพนึง มันเป็นผลประเมินงานการสัมมนาที่ผมเพิ่งจัดมาไม่นานนี้นี่เอง หัวหน้าผมพูดว่าอย่างที่ผมบอกว่าเราควรให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่เติบโต สิ่งที่น่ากังวลในงานนี้




ไม่ใช่งานเกี่ยวกับภาษาแต่เป็นการสร้างบรรยากาศการทำงาน ผมว่าด้วยแผนการงานสัมมนาในนี้ ก็อาจจะเป็นคำตอบได้ว่าทำไมผมถึงเลือกให้คุณโทนเป็นตัวแทนของแผนกทั้งๆที่อายุงานเข้าพึ่งจะครบปีไม่นาน ผมก็ได้เรียนรู้จากเขาเหมือนกันว่า อายุงานไม่สำคัญมันอยู่ที่ว่า ทำอะไรได้บ้าง



และนี่เป็นผลประเมินจากหัวหน้าแผนกๆ ทุกๆท่านที่ส่งมา และคุณ ( ชื่อพี่แมน ) ก็ได้รับฟังและเข้าสรุปด้วย หัวหน้าแผนกหลายท่านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหลังจากสัมมนา พนักงานทุกคนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่องการทำงานและโฟกัส แล้วหัวหน้าผมก็กดจึ้กอีกภาพนึง ซึ่งมันเป็นแผนงานอีกชิ้น




ผมก็แบบเฮ้ย นี่เตรียมมาขนาดนี้เลย พ่อผมก็บอกว่าอื้มมีหัวหน้าที่ดีนะ ผมก็บอกว่ารุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยอ่ะพ่อ แต่น่าจะรุ่นอา รุ่นลุงอ่ะ พ่อบอกอื้ม หัวหน้าผมพูดว่าแล้วที่สำคัญการที่ผมเลือกเขาเพราะ 1 เขามีความรู้เรื่องขนบและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมากพอสมควร การแสดง การวางตัว ทางฝั่งคุณเคย์น่าจะบอกได้ว่าเขาทำได้ดีแค่ไหน




คุณรุกะก็ยืนขึ้นนะ พ่อผมก็บอกว่าโห้ แบ็คหนาปึ้กเลยนี่หว่าไอ้ลูกหมา ผมก็บอกว่าแบ๊กเบิ๊กไรกันพ่อ ก็ไอ้นั่นน่ะมันเกือบทำงานพังแล้วนา คุณรุกะพูดขึ้นว่า ขอขอบคุณทางคุณ ( ชื่อไอ้หน้าหม้อ )  ที่ขอบคุณด้านความปลอดภัยของคณะทำงานของพวกเราค่ะ ท่าทางของคุณรุกะคือ นางพญายังโว๊ยยยยยย




สายตาทุกคนคือจ้องไปทางนั้นอ่ะ เธอพูดว่าทางพวกเราเองได้มีการรักษาความปลอดภัย อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทาง ( ชื่อบริษัทของคุณรุกะ ) ได้เลือกซารุ.... ได้เลือกคุณ ( ชื่อผม ) เขามาร่วมกับงานธุรกิจ เพราะทางเราคิดว่า เขาสามารถปกป้องคุ้มครองคนในทีมได้เป็นอย่างดี



แล้วเธอก็พยักหน้าอะไรไม่รู้ ตอนนั้นทีมงานคุณรุกะก็เอา USB หรืออะไรนี่แหละไปเสียบเข้ากับตัวฉายภาพ เขาบอกว่าพวกเราคุ้มเข้มทุกการเขา เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว แต่สิ่งที่ต้องชื่นชมคือ แล้วคุณรุกะก็กดแว่ป !!!  เวรกรรมมันคือภาพวีดีโอ ที่ทาเคชิซังพยักหน้าให้ผมเดินตามไป




แล้วผมก็ผายมือบังไม่ให้คุณเคย์เดิน แล้วเข้าไปประชิดมุมหอพักแล้วจับคนของเขาทุ่มแบบตัวลอยเลย อิปป้งไปที คุณรุกะบอกว่า ทักษะของเขาดีเยี่ยม  ตอนนี้ไอ้ผู้บริหารหนุ่มหน้าเริ่มเสียละ คุณรุกะพูดอีกว่า พวกเราได้ศึกษาข้อมูลของทั้ง 3 เป็นอย่างดี ทั้งคุณพลอยที่มีคุณวุฒิที่โดดเด่น คุณจอยที่มีประสบการณ์ด้านภาษาที่ยอดเยี่ยม และคุณ ( ชื่อผม ) เคยสังกัดทีมรักษาความปลอดภัยของ ( ชื่อพี่แมน ) ในตอนที่เรียนอยู่แค่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 2




เท่านี้แหละครับเสียงฮือ เสียงฮา มาเลย ผมนี่กุมขมับเลย แต่พ่อผมให้บอกว่ายืดหน้า ยืดอกรับซะ พวกเขาปกป้องเอ็งอยู่ไอ้ลูกหมา ผมก็บอกว่าแต่ผมไม่ได้อยากเด่นเลยนะพ่อนา พ่อผมถาม เรอะ แต่ในวีดีโอนี่เด่นจังนะ โอยยยย ผมปวดหัวกับพระบิดา แล้วอีกคลิปนึงก็เป็นตอนที่คนของทาเคชิมาตามพวกผมไปทานข้าวครับ



แล้วอยู่ดีๆคือ ไอ้ชุดดำสองคนวิ่งดุ่ยๆ มาใส่แล้วผมก็ดันจอยกับพี่พลอยออกมา  ฟั่บ ฟั่บ ผมก็หลบ  ๆ  จังหวะนั่นผมกางแขนตบมือเผี๊ยะ !!! กะว่ามันจะกระพริบตา แต่ไม่เลยครบตามันแข็งเป๊ก พอเข้ามา ผมก็หลบ หลบ หลบ แล้วคว้ามั่บตีเข่าเข้าหน้าท้องมัน พ่อผมก็พูดโอ้โห หนูไต่ราวซะด้วยยย ผมก็อึ้กและพ่อแซวแบบนี้



แล้วจังหวะต่ออย่างที่หลายท่านได้อ่านในเชียงใหม่ไดอารี่ จังหวะที่ไอ้พวกนั้นเตะใส่หน้า ผมก็หลบแล้วจังหวะที่จะหวดท่านาคมุดบาดาล ผมกลับโดนดีดกลับหลังใส่หน้าอกดังอึ้ก พ่อผมก็อื้มม เข้าพรวดไปนะ นี่ถ้าโดนไปเต็มๆน่าจะร่วงนะ ผมก็หันไปบอกพ่อ นี่ลูกพ่อไงงงง พ่อบอกว่าอ่อนก็บอกอ่อนไอ้ลูกหมา อ่อนจริงๆ แล้วพอจังหวะต่อมา



ผมตั้งศอกเข้าประชิดตัวแต่โดนบล็อกผมก็กระโดดแทงเข่าขึ้นตรงสั้นๆ พ่อผมก็บ๊ะ กาฉีกรังอีกต่างหาก นี่แม่รู้รึเปล่าว่าเอามาใช้แบบนี้ ผมนี่สะดุ้งเฮือกเลยแล้วบอก พ่อจ๋า อย่าบอกแม่นะ พ่อผมก็บอกคิดดูก่อน นั่น !!! คุณรุกะปิดคลิปนั่นครับแล้วบอกว่า นอกเหนือจากเรื่องด้านข้อมูลธุรกิจและการทำงาน ดิฉันคิดว่าการที่คุณ ( ชื่อผม ) ถูกเลือกให้ไปทำงานด้วย




เรื่องนี้ก็เป็นส่วนสำคัญ ทีมคุ้มกันของทางดิฉันที่พาไปนั่นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่การที่คุณ ( ชื่อผม ) สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที มันคงตอบคำถามที่ว่าทำไมเขาถึงได้รับการรับเลือกค่ะ มีคำถามอื่นอีกมั้ยค่ะ พอคุณรุกะถามแบบนี้ คนอื่นก็ปรบมือเลยครับ เฮ้อออ ผมรอดแล้วโว๊ยยยยยย ไม่มีใครพูดถึงแล้วโว๊ยยยยยย




แล้วตอนนั้นพี่แมนก็ยืนปรบมือแปะ แปะ แปะ ผมก็คิดในใจชิบหายแล้วล่ะครับแบบนี้ คนอื่นก็ทำเช่นกัน แล้วพอเห็นว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี พิธีกรก็บอกว่าวันนี้เป็นวันที่ดีมากจริงๆค่ะ และขอให้ทุกท่านร่วมงานสังสรรค์กันได้เลยคร่า ฮุ้วววว รอดไปว่ะครับโผมมมม แล้วตอนนั้นพ่อผมก็ถามว่าเป็นไงทำงาน



ผมก็ถามว่านี่ถามผมในฐานะพระบิดา หรือ ในฐานะที่ปรึกษาของทีมครับ พ่อผมพูดว่า ถามอะไรก็ตอบ ผมก็แบบฮึ๊ทำไมพ่อผมดุแบบนี้ล่ะ ผมก็เลยบอกว่าไม่ได้กดดันอะไรครับ พ่อผมก็เลยถามว่า รู้แล้วหรือยังว่าทำไมถึงต้องบอกว่าให้คุณหนูอยู่ที่บ้านนานๆไม่ได้




ผมก็เงียบแปปนึงแล้วก็บอกครับ รู้แล้วครับ พ่อผมบอกว่าเรื่องอื่นไม่เคยห้ามนะ แต่เรื่องนี้ต้องพูดกันสักหน่อย ไม่ได้บังคับแต่ต้องพูดให้ฟังให้มันชัดเจน พ่อเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าเรื่องเดียวที่ห้ามคืออะไร ผมก็เลยตอบไปว่า อย่าผิดลูกผิดเมียคนอื่นหรือผู้หญิงที่มีสถานะพันธะต่างๆ....  พ่อผมก็บอกว่าใช่ แล้วก็จิ้มๆมาที่หน้าอกผมแล้วบอกว่า




ให้ยึดมั่นเอาไว้เรื่องนี้เอาไว้ ผมก็ไม่กล้าสู้หน้าพ่อเลย เพราะว่าผมได้ทำผิดเรื่องพี่หมิวกับพี่เตยไปแล้วนี่สิ่ครับ พ่อพูดอีกว่าแล้วก็อย่าหาลูกสะใภ้มาให้ข้าทีละหลายๆคนด้วย ไม่มีเงินไปสู่ขอแต่งเมียให้หรอกนะเว้ย ผมก็บอกเดี๋ยวๆๆ อันนี้ไม่ใช่เรื่องงานแล้วพ่ออันนี้เหมือนเรื่องส่วนตัวแล้ว พ่อผมก็บอกว่าเฮ้ยมันก็รวมๆกันนั่นแหละ แล้วอืมบนเวทีสองคนนั้นไปทำงานด้วยกันที่เชียงใหม่ใช่มั้ย





ผมนี่อึ้กกกกก !!! ได้แต่ตอบแบบเบาๆว่า ใช่ครับพ่อ พ่อบอกอืม 2 คนเลยนะ  ตอนนั้นผมต้องรีบเปลี่ยนเรื่องเลยล่ะ  ผมก็ถามว่านี่แม่เขายอมให้พ่อมาทำงานได้ไงเนี่ย พ่อก็บอกว่าก็มันเป็นงานสุจริต แล้วมันเสียหายตรงไหนล่ะ ผมก็กุมขมับเลย แล้วบอกว่านี่ถ้าผมไม่มาเจอเองเนี่ย พ่อจะบอกผมเปล่าว่าทำงานพิเศษที่นี่น่ะ พ่อผมก็บอกว่าถ้าถามก็บอก แต่เอ็งไม่เคยถามเลยนี่ไอ้ลูกหมา ผมก็อ่าส์จริงว่ะผมเองก็ไม่เคยถามเรื่องนี้เลย ก็แหม ดูสไตล์พ่อผมสิ่ครับ ทำสวน เข้าสวน เลิกงานก็มานั่งอ่านหนังสือมวย ดูหนังสือพระ




เนี่ย แล้วใครจะไปคิดว่าอยู่ดีๆก็จะมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษให้ทีมปีศาจแบบนี้ แล้วปัญหาคือทีมพี่รุจน์เขายอมรับฝีมือพ่อได้ไง ต้องพิสูจน์อะไรกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดูจากการที่พ่อผมเรียกพี่รุจน์ ว่ารุจน์เฉยๆ แล้วจากการที่ทีมรุ่นใหญ่ที่คอยตามดูแลคุณท่านให้ความเคารพพ่อผมแบบนี้




แสดงว่าพ่อผมนี่ก็ไม่ธรรมดาเลย คราวนี้มันเป็นความกดดันนะเอาตรงๆ คือผมคิดไปถึงสมัยตอนเรียนมัธยม เวลารู้ว่าเพื่อนคนนี้แม่งเป็นลูกอาจารย์ในโรงเรียนผมก็จะคิดว่าแม่งสบายๆแน่ๆ เวลาไม่เข้าใจก็เดินไปถามพ่อ ถามแม่ หรือให้สอนนอกเวลาได้ สบายชิบหาย



แต่พอมาตอนนี้ผมโคตรรู้สึกผิดเลยที่คิดแบบนั้น ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าคนพวกนั้นเขากดดันจริงๆนะ ถ้าเกรดดีก็ว่าพ่อแม่ช่วย ถ้าเกรดห่วยก็จะโดนบอกว่ามีพ่อแม่เป็นอาจารย์แท้ๆทำไมอ่อนแบบนี้ ตัวผมเองก็เช่นกันตอนนี้เริ่มจะเกร็งๆนิดหน่อยแล้วล่ะครับ เพราะมีพ่ออยู่ด้วยนี่แหละทำอะไรก็ต้องเกรงใจเขาด้วย




แล้วตอนนั้นพ่อก็ถามผมว่าแล้วคนชื่อเหมียวที่พาไปบ้านน่ะมางานนี้ด้วยหรือเปล่า พ่อว่าพ่อเห็นที่บริษัทนู้นแว๊ปๆนะ ผมที่กำลังกินน้ำนี่ถึงกับพรวดเลย ไม่ใช่แล้วพ่อไม่ใช่แล้ว ผมบอกพ่อแล้วไงว่าเขามาหาผมที่บ้าน เขาเอางานมาให้ผม ผมทำงานนนนนน แต่พ่อก็บอกว่า แต่ค้างคืนน่ะนะ แล้วปิดไฟเงียบเชียว ทำงานกันยังไงปิดไฟมืดเลย โอ้ย พ่อคร๊าบ พ่อ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!



 




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

deamondear

ตอนที่แล้วคุณโทนเท่มากเลยฮะ ตอนนี้จะออกมาแบบไหนน่อ
.
.
.
อ่านถึงตอนที่พระบิดามาบ่นลูกนี่ เดาออกเลย พ่ออออ MVP แน่นอนนนน

jeditay


First10

เฮ้อ ดูแล้วคุณพ่อเริ่มหนักใจความเป็นขุนแผนลูกชาย ว่าล้ำหน้าพ่อตอนหนุ่มละมั้ง

คุณพ่อโชว์เทพ ถล่มญี่ปุ่นเสียเละเลย สะใจมาก


kingome

มาเปิดโต๊ะค้าบบ

มีทีมที่ดีถือเป็นเรื่องที่ดีมากไในการทำงานเลย ซึ่งหายากมากกก

ปล.คุณพ่อมาน้อยแต่เข้าประเด็นตลอดด

kingome

มาเปิดโต๊ะค้าบบ

มีทีมที่ดีถือเป็นเรื่องที่ดีมากไในการทำงานเลย ซึ่งหายากมากกก

ปล.คุณพ่อมาน้อยแต่เข้าประเด็นตลอดด

momoyoyo

ดูท่าพ่อจะรู้ทันท่านโทนไปหมดทุกเรื่องแล้วล่ะครับ ปิดไม่อยู่แน่ๆ

aum691

พ่อมาแบบรู้ทันทุกเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะพ่อ 555.....พ่อทศ MVP มาก หาเรื่องโทนยังแค่เจ็บ เจอพ่อทศนี่ถึงตาย

only1A

จองโต๊ะแถวแรก

ท่านพ่ออ่านเกมออกหมดเลย

cd13579

ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

Daniel Dear

ทุกคนให้ความสำคัญกับโทนมากโชคดีจริงๆ​ ยังมีคุณพ่อที่ประสบการณ์​สูงแถมรู้ทันโทนมาช่วยอยู่ใกล้ๆอีก

zamzam


Rivermoon

เป็นลิงที่มึนจริงๆ คนอื่นรู้แต่โทนไม่รู้ พ่อบอกมาไปไม่เป็นเลย

potaeds