ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 10

เริ่มโดย twintower, กันยายน 20, 2022, 11:59:14 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

เรื่องของอสนีนั้นมีที่มาที่ไปถ้าใครได้อ่านมาตั้งแต่ต้นครับ เนื้อหาจะเชื่อมถึงกัน มาบางอย่างบางเรื่องที่มีข้อสงสัยได้เคยบอกไว้แล้วครับ ถ้าใครสงสัยไปตามอ่านได้ครับ


----------------------------------------------------------------------------------------------------

พอกลับมาถึงบ้านของอินทรายุทธ กิ่งกาญจน์ได้เข้าไปที่ศาลพระภูมิตามปกติ เธอเห็นท่านพระภูมิเจ้าที่นั่งเข้าสมาธิอยู่บนตั่งตัวเดิม เธอจึงไปนั่งบนตั่งอีกตัว พร้อมพนมมือขึ้น

"คุณตาทวดคงทราบเรื่องแล้ว"

อีกฝ่ายลืมตาขึ้นหลังจากที่เธอพูดขึ้นมา พร้อมพยักหน้าก่อนจะตอบ

"ตารู้แล้ว มันร้องโหยหวนออกจะดังขนาดนั้น ได้ยินไปถึง 3โลก"

"เท่ากับตอนนี้คุณหมอก็ปลอดภัยแล้ว"

"ใช่แล้ว แต่ต่อไปใครจะรู้ได้ มันขึ้นอยู่กับกรรมเก่าและตัวเจ้ายุทธเองจะไปทำอะไรล้ำเส้นอีกหรือไม่"

"เจ้าคะคุณตา แต่มันเหมือนกับมวยคนละชั้นเลยนะคะ ถูกคุณลุงรุกขเทวดาหวดเอาฝ่ายเดียว ไม่สมกับที่มันทำตัวน่ากลัวมาตลอด"

"ไอ้ผีร้ายนั้นมันก็เหมือนนักเลงกระจอกที่ทำกร่างไปทั่วซอย พอเจอของจริงหรือคนที่เหนือกว่ามันก็หนี แต่ครั้งนี้มันหนีไม่ได้ มันเทียบกันไม่ติดท่านเทพารักษ์นะเป็นเทพที่จะต้องขึ้นไปอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว แต่ท่านได้รับบัญชาให้มาดูแลปกป้องบุรุษผู้นั้น ท่านนะปรียบเสมือนกับคนที่จบปริญญาเอกมาหลายใบ ส่วนไอ้ผีร้ายนั่นเท่ากับเด็กที่พึ่งจบอนุบาลเข้าเรียน ป.1ได้ไม่กี่วัน การจัดการมันเลยดูง่ายดายกว่าที่เจ้าคิด อีกอย่างเจ้าจงรู้ไว้ว่าที่มันอยู่รอดมาถึงวันนี้ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลาของมัน มันยังมีกรรมที่ต้องชดใช้นั่นคือจิตใจที่ไม่สงบของมัน ยิ่งมันแค้นมันอาฆาตมากขนาดไหนจิตใจมันยิ่งไม่สงบมากขึ้น ใครจะไปจัดการมันก่อนหน้าก็ไม่ได้เพราะยังไม่ถึงเวลาของมัน จะทำให้คนที่ไปทำอะไรมันจะเกิดบาปหรือบารมีที่มีนั่นเสื่อมถอยลงไป เพราะไปละเมิดกับสิ่งที่ลิขิตมา เจ้าที่หลายๆท่านที่เจ้าเคยเจอมาทุกท่านก็รู้อย่างที่ตารู้ เลยต้องปล่อยมันไป เว้นแต่ว่าถ้ามันล้ำเส้นเข้ามาก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งตัวมันก็รู้ว่ามันสู้ไม่ได้มันเลยหลบ แต่วันนี้มันหนีไม่พ้น เพราะถึงเวลาของมันแล้วอีกทั้งท่านรุกขเทวดานั่นก็ได้รับบัญชาจากท่านท้าวยมราชให้เป็นคนพามันรับโทษที่นรก"

"เพราะอะไรทำให้หนีไม่ได้คะคุณตา ทุกทีหนูเห็นมันหายตัวได้อย่างรวดเร็ว"

"บาปกรรมของมันนะสิที่ตรึงร่างมันไว้กับที่ อีกทั้งบริเวณนั้นเป็นบริเวณที่สำคัญด้วย มันเลยหนีไม่พ้น เจ้าเลยได้เห็นภาพที่น่ากลัว"

"แล้วลุงอัสนี่สำคัญขนาดไหนคะ ถึงขนาดมีเทพมาคอยพิทักษ์"

ท่านพระภูมิหัวเราะออกมาเบาๆ

"นังหนูเจ้าคงสงสัยอย่างมากสินะ เอาละสักวันหนึ่งถ้าถึงเวลาเจ้าอาจจะได้รู้ หรืออาจจะไม่ได้รู้อะไรตลอดไปก็เป็นได้"

จากคำตอบนี้เธอได้แต่เก็บความสงสัย มันเป็นปริศนาอย่างยิ่งเกี่ยวกับชายคนนี้ ที่ดูจะมีอะไรพิเศษแตกต่างจากคนทั่วไป อย่างมาก หมออินทรายุทธที่จัดว่ามีความพิเศษเหนือคนทั่วไปที่สามารถติดต่อพูดคุยกับวิญญาณได้ แต่ผู้ชายคนนี้ดูแล้วต้องมีอะไรที่พิเศษและมีความสำคัญมากกว่าหมออินทรายุทธอย่างแน่นอน นอกเหนือจากที่มองเห็นเธอ ตอนขากลับเธอถามหมออินทรายุทธว่าระหว่างที่คุยกับลุงอัสตอนช่วงที่วิญญาณของไอ้ผีร้ายถูกท่านรุกขเทวดาตีด้วยไม้ตะพดลุงอัสมีท่าที่แปลกๆหรือไม่แต่หมอตอบเธอดูปกติทุกอย่าง แต่จากที่เธอเห็นเธอแน่ใจว่า ลุงอสนีต้องรับรู้ได้อย่างแน่นอน

หลังจากนั้นผ่านไป3-4 วัน ผมทำตัวตามปกติแต่ในใจนั้นรู้สึกโล่งอกเพราะไม่มีอะไรมาตามรังควานอีก ถึงจะเสียใจอย่างมากที่มีคนต้องมาตายเพราะผมที่มีส่วนทำให้วิญญาณร้ายนั้นอาฆาตผม ผมทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้คนเหล่านั้นตลอด ส่วนที่อีกหลายๆเรื่องที่มันยังคลุมเครืออยู่ในความสงสัย ผมพยายามไม่ใส่ใจ เพราะคำสอนของลุงอัสที่บอกให้ปล่อยวางในเรื่องพวกนี้ จนช่วงสายของวันนี้มีศพ 2 ศพมาให้ผมชันสูตร ตำรวจกับทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิบอกกับผมว่า มีคนพบศพของชายหญิงคู่นี้นอนตายในลักษณะที่แปลก ศพของผู้หญิงนั้นนอนขวางทับขาผู้ชายที่นอนหงาย ทั้งคู่นอนตายอยู่บนพื้นดิน ผมดูภาพถ่ายที่ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานถ่ายมา

"เมื่อคืนแถวนั้นฝนตกนะครับหมอ ดูจากร่องรอยแล้วมีรอยลื่นตัวผู้ชายคงลื่นจนทำให้หัวกระแทกพื้น"

ตรงกับภาพถ่ายที่ผมกำลังดูที่เห็นมาตรงพื้นใกล้ๆกับหัวของคนตายนั้นมีคราบเลือดติดอยู่ และภาพต่อมาเป็นอย่างที่ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานบอกคือตรงพื้นดินมีรอยเท้าที่ดูว่าเป็นรอยลื่น

"ดูแล้วผู้ชายคงกำลังอุ้มผู้หญิงครับ แต่คงลื่นทำให้เสียหลักล้มหงายหลังหัวไปกระแทกกับก้อนหิน แต่จะอุ้มไปไหนอันนี้เรายังหาคำตอบไม่ได้ครับ แต่ดูจากการตรวจสอบเบื้องต้นสภาพศพของผู้หญิงแล้วไม่ร่องรอยการถูกทำร้ายครับ"

ผมพยักหน้ารับทราบ พร้อมฟังข้อมูลจากตำรวจเพิ่ม คนตายทั้งคู่นั้นมีอาชีพเก็บของเก่าขายอาศัยอยู่เพิงใต้สะพานข้ามคลองที่อยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุเท่าไหร่นักจากที่สอบถามจากชาวบ้านนั้นทำให้รู้ว่าผู้ชายนั้นเป็นใบ้ ผมอ่านรายงานของหมอที่เข้าไปตรวจสอบสภาพศพในที่เกิดประกอบก่อนที่จะลงมือทำการชันสูตร ผมเริ่มจากศพของผู้หญิงก่อนและมันเป็นไปอย่างที่ผมคาดไว้จริงๆเรื่องนี่มันไม่ซับซ้อน แต่ผมได้ยินเสียงของกิ่งกาญจน์เรียก ผมจึงเงยหน้าขึ้นไปดู ผมเห็นภาพของวิญญาณคนตายทั้งคู่มายืนยิ้มให้ผมอยู่

"คุณทั้ง 2 มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ถ้าผมช่วยได้"

วิญญาณของผู้หญิงส่ายหน้าก่อนจะตอบผม

"ไม่มีคะหมอ เราไม่มีอะไรจะให้ช่วย แต่เราดีใจที่หลุดพ้นพร้อมๆกัน เพราะถ้าเราตายไปแค่คนเดียวอีกคนจะลำบากคะ ชีวิตคนจนก็ลำบากแบบนี้ละคะ"

"แต่ดูคุณทั้งคู่จะรักกันมากนะครับ"

"คะหมอ"

"ถ้าคุณไม่ติดใจอะไร ผมก็ขอให้คุณทั้งคู่ไปสู่สุขคติครับ และขอให้เป็นเนื้อคู่กันตลอดไป"

ทั้งคู่ยกมือไหว้ผมก่อนที่ร่างจะสลายไป

"ตกลงมันยังไงนะคุณหมอ ไม่เห็นคุณถามสาเหตุการตายเลย"

เสียงของกิ่งกาญจน์ถามผมมาทางดวงจิต

"ไม่มีอะไรมากหรอกคุณ ผู้หญิงนะหัวใจวายตาย ผู้ชายอุ้มเธอออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือไม่ก็จะพามาขึ้นรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างที่เขาใช้เก็บของเก่าเพื่อจะมาหาหมอเพราะเขาเป็นใบ้เลยใช้โทรศัพท์โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้ แต่พื้นมันลื่นเพราะฝนที่ตกทำให้ตัวผู้ชายลื่นล้มหัวกระแทกกับก้อนหินตาย ตอนนั้นเขาคงไม่รู้ว่าเมียเขานะตายแล้ว"

"น่าสงสารนะคุณหมอ ฉันอึ้งเลยที่เขาบอกตายพร้อมกันดีที่สุด ไม่อย่างนั้นคนที่อยู่จะเดือดร้อน เขาคงหมายถึงเงินค่าทำศพนะ ชีวิตคนเรา"

ประโยคหลังดูเธอจะรำพึงออกมา ผมตอบกลับเธอไป

"มันเป็นชีวิตของคนนะคุณ เราช่วยอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้ว"

เธอพยักหน้าก่อนจะสลายร่างไปจากสายตา ผมทำรายงานสรุปผลชันสูตรที่ตรวจเจอส่งให้ทางตำรวจ ซึ่งทางตำรวจเองก็สรุปตรงกับที่ผมคาดการณ์ไว้งานนี้มันไม่ซับซ้อนอย่างที่ใครๆคิด ด้วยความที่ผมปลอดโปร่งใจอย่างมาก ทำให้ผมคิดถึงพลอยขึ้นมา ช่วงเวลายุ่งเหยิงในชีวิตที่ผ่านมาทำให้ผมไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น แต่ด้วยความปลอดโปร่งทำให้อารมณ์ส่วนลึกที่ผมเก็บมานานเกิดความต้องการขึ้นมา  ยิ่งมาเห็นข่าวที่เธอให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการศัลยกรรมทำให้ผมอดใจไม่ไหว ช่วงบ่ายๆวันนั้นผมได้ติดต่อไปหาเธอ และเธอเองก็ไม่ปฏิเสธเธอให้ผมไปหาเธอที่คอนโด  จนผมออกเวรผมได้บอกกับกิ่งกาญจน์

"คุณกลับไปก่อนนะ ผมนัดกินข้าวเย็นกับพลอย"

"เหรออออออออออออ"

เธอตอบผมพร้อมด้วยสีหน้าว่ารู้ทัน

"หรือคุณจะไปด้วยจะได้ดูหนังสด"

"ไอ้หมอลามก ฉันไม่ได้เป็นพวกโรคจิตนี่"

เธอตอบผมพร้อมกับแลบลิ้นให้ก่อนจะสลายร่างหายไป ผมส่ายหน้าพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปที่ลานจอดรถ คืนนั้นภายในห้องนอนของพลอยร่างเปลือยของเราต่างคลอเคลียกันอยู่บนเตียง พลอยดึงหน้าของผมให้ลงมาหาเธอ ผมเอาจมูกสีไปมากับจมูกของเธอ ก่อนจะเอาปากไปประกบริมฝีปากของพลอยที่รอรับรสจูบจากผมอยู่ เราแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม จนผมเลื่อนจมูกมาที่แก้มไล่ไปถึงใบหูที่ผมงับไปเบาๆ ก่อนเลื่อนลงมาลำคอของเธอ พลอยครางออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะกดหัวผมลงไปที่ทรวงอกอันอวบอิ่มของเธอ หัวนมสีคล้ำนั้นชูชันและบานขยายออกมารองรับลิ้นกับริมฝีปากของผม ถึงเต้านมคู่นี้ผมจะดูดดื่มมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ผมไม่เคยเบื่อ ผมดูดสลับไปมาทั้งสองเต้าพร้อมกัดไปเบาๆ

"อู่ววว ซี๊ดด ยุทธแบบนั้นละ ดีคะดี"

เสียงครางของเธอดังออกจากปาก ผมดูดดื่มพร้อมฟอนเฟ้นที่เต้าคู่งามจนพอใจ แล้วเลื่อนหน้าขึ้นมาด้านบน เราแลกจูบกันอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะเลื่อนตัวสูงขึ้นจนควยที่แข็งตัวมาจ่อที่ปากเธอ

"อมให้ที"

ผมบอกเธอ พลอยผงกหัวขึ้นเล็กน้อยพร้อมเอามือมาจับควยผมที่ปากเธอ ลิ้นเธอแตะไปตรงส่วนหัวแล้วเลียไปมาตรงหัวก่อนจะเอาปากครอบ เธอผงกหัวไปมาเพื่อสร้างความเสียวให้กับผมพร้อมกับเหลือบตาขึ้นมามองขณะที่ผมเป็นฝ่ายครวญครางบ้าง จนผมถอนควยออกจากปากเธอเพราะกลัวจะหลั่งออกมาก่อน ผมเลื่อนตัวลงไป พร้อมกับการดันไหล่ของเธอ จนมาถึงกลางลำตัว หมอยที่ดกดำและโคกหีที่ใหญ่นั้นท้าทายสายผมมาก ยิ่งเจ้าของอ้าขาออกเล็กน้อยเหมือนกับเป็นการเชิญชวน ผมไม่รอช้าฝังหน้าลงไปทันที หน้าผมเกือกไปมากับขนหมอยของพลอยก่อนจะเอาริมฝีปากงับไปเบาๆแล้วถึงเอาลิ้นเลียไปที่รูหีที่ชุ่มชื้นจากน้ำเงี่ยนของเธอ  พลอยแอ่นกันรับลิ้นพร้อมกับมือที่บีบบ่าผมแน่น

"ซี๊ดดดดดดด"

เสียงครางของเธอ พร้อมกับการส่ายตัวไปมารองรับลิ้น ยิ่งมือผมเลื่อนขึ้นไปบี้หัวนมเธอ หมอพลอยยิ่งครางออกมาไม่หยุดจนผมเงยหน้าจากโคกหีของเธอ ก่อนจะจับตัวเธอให้พลิกนอนคว่ำ แผ่นหลังที่ขาวโพลนถูกผมไล่จูบไปทั่วแผ่นหลัง พร้อมใช้มือฟอนเฟ้นไปตรงสะโพกที่เนื้อแน่นตามประสาสาวที่รักการออกกำลังกาย ก่อนผมจะเลื่อนหน้าลงมาที่ก้น ผมกัดไปเบาๆบนเนินเนื้อที่ลอนโค้งทั้งสองข้างแล้วไล่จูบลงมาที่น่องจนถึงข้อเท้า ก่อนจะเปลี่ยนมาอีกข้างแล้วไล่ขึ้นมาด้านบนพอถึงก้น ผมกัดไปแรงๆอีกครั้ง

"อู้วยุทธ เบาๆหน่อยสิก้นพลอยเป็นรอยไปหมดแล้วมั้ง"

ผมไม่ตอบแต่จูบไปแรงๆตรงที่กัดก่อนจะจับก้นเธอให้ยกสูงขึ้น พลอยขยับตัวตามเหมือนจะรู้ ผมเลื่อนตัวมาด้านหลังแล้วฝังหน้าลงไปที่โคกหีอีกครั้ง ลิ้นผมแตะเข้าไปในรูหีที่ชุ่มไปด้วยน้ำเงื่อนของเธอและน้ำลายของผม ลิ้นผมกวาดไปทั่วจนเจ้าของโคกหีที่ใหญ่นั้นร้องบอกผม

"ยุทธทำเถอะ พลอยทนไม่ไหวแล้ว"

ผมเลียหีเธอไปอีก2-3ครั้งก่อนจะขยับตัวให้สูงขึ้น มือจับที่เอวอันคอดกิ่วของเธอพร้อมเอาควยไปจ่อที่รูหี

"ไม่ต้องใส่ถุงยางนะ"

ผมถามเธอ ซึ่งเธอพยักหน้าแทนคำตอบ พอเจ้าของโคกหีที่ใหญ่นั้นยืนยันผมจึงค่อยๆดันเข้าไปในช่องทางที่คุ้นเคย ส่วนพลอยนั้นขยับตัวรองรับการเย็ดของผม พอผมเริ่มกระเด้าหมอพลอยเด้งรับด้วยความชำนาญ ผมเลื่อนมือจากเอวไปจับนมเธอพร้อมขยำไปเบาๆ ยิ่งสร้างความเสียวให้กับพลอยอย่างมาก ผมกระเด้าพลอยเด้งรับ เซ็กส์ของเรานั้นประสานกันดี เธอสนองความต้องการของผมได้อย่างดีจนผมเริ่มเร่งจังหวะกระเด้า ทำให้เสียงเนื้อของเรากระทบกันดังขึ้นประสานกับเสียงครางของเราทั้งคู่  เป็นเพราะความอัดอั้นของผมในเรื่องความกังวลที่ผ่านมาทำให้ผมได้ระบายอย่างเต็มที่ ซึ่งพลอยเองก็สนองตอบผมได้อย่างดี ไม่ว่าผมจะเย็ดเธอแรงขนาดไปน พลอยเด้งรับได้ตลอดไม่ร้องว่าเจ็บมีแต่เสียงครวญครางที่บ่งบอกถึงความเสียวที่ได้รับ จนร่างกายส่งสัญญาณว่าผมจวนจะถึงจุดหมาย ผมพยายามจะยืดบทรักนี้ให้นานออกไปแต่พลอยร้องบอกผม

"เร่งเถอะยุทธ พลอยจวนแล้ว เดี๋ยวเราต่อยกสองกันได้"

ผมจึงเร่งจังหวะให้เหมือนเดิมและกระเด้าไปอีก2-3ครั้ง จนผมสุดจะกลั้นจึงปล่อยน้ำกามเข้าในรูหีเธอ เหมือนกับเธอที่ร้องครางออกมาพร้อมกับการเกร็งตัว ภายในรูหีนั้นตอดรัดควยผม ร่างของพลอยค่อยนอนราบลงไปบนที่นอนทำให้ตัวผมลงมานอนทับบนตัวเธอ พลอยตะแคงหน้าพร้อมหลับตาผมหอมแก้มเธอไปเบาๆ

"อิ่มไหม"

ผมถามเธอก่อนจะงับไปที่ใบหูเธอเบาๆ

"นิดหนึ่ง ขอพักก่อน ครั้งนี้ยุทธทำแรงถึงใจพลอยมาก"

ผมหอมแก้มเธอไปอีกครั้งก่อนจะพลิกตัวลงมานอนบนเตียง พลอยนั้นพลิกตัวมานอนหงายแล้วเบียดเข้ามาชิดเอาหน้ามาซบที่ไหล่ผม เราไม่พูดอะไรกันต่างฝ่ายต่างหายใจแรงๆด้วยความเหนื่อยจากบทรักที่เราผ่านมา ไม่นานนักผมชวนเธอไปล้างตัวที่ห้องน้ำ สายน้ำอุ่นจากฝักบัวที่พรมร่างที่กำลังกอดรัดของเรานั้นช่วยปลุกอารมณ์ของเราทั้งทั้งคู่ให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง จากบทจูบที่เร่าร้อนพลอยค่อยเลื่อนหน้าลงมาที่ทรวงอกผม หัวนมทั้งสองข้างถูกริมฝีปากเธอสัมผัสส่วนมือเธอนั้นกุมไปที่ควยผมแล้วรูดเบาๆจนมันเริ่มจะแข็งตัว เธอจึงทรุดตัวลงนั่ง  ปากเธอจูบไปที่ควยผมเบาๆก่อนจะใช้มือประคองควยผมเข้าปาก

ด้วยลีลาการใช้ปากของเธอทำให้ควยผมแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง เธอใช้ทั้งลิ้นทั้งปากบรรเลงรักให้กับผม จนเห็นว่าอารมณ์นั้นถูกปลุกขึ้นมาจนเต็มที่ พลอยจึงขวนผมออกมาที่ห้องนอน เราช่วยกันเช็ดตัวกันจนตัวแห้ง พลอยดันตัวผมให้ลงไปนอนบนเตียง และเธอลงมานอนทาบบนตัวผม ปากของเราประกบกันสนิทอีกครั้ง เราแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม จนพลอยถอนหน้าออก ผมนึกว่าเธอจะเลื่อนหน้าลงไปที่ควยผม แต่พลอยกลับขยับหันตัวไปทางปลายเตียงแล้วคร่อมมาบนตัวผม ผมรอจนปากเธอครอบไปที่ควยผมอีกครั้งจึงผงกหัวมาลงลิ้นกับโคกหีเธอ เราทั้งคู่ต่างช่วยกันใช้ป่ากปลุกอารมณ์และสร้างความเสียวให้อีกฝ่ายด้วยท่า 69

และเป็นพลอยที่เงยหน้าขึ้นพร้อมพลิกตัวกลับมา เธอเลื่อนตัวให้มาอยู่ตรงกลางลำตัวผมแล้วจับควยที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายของเธอมาจ่อที่รูหีก่อนจะหย่อนตัวเอารูหีเธอครอบควยผมจนมิดด้าม พลอยเริ่มโยกตัวไปมาอย่างช้าๆ มือทั้งสองข้างยันบนที่นอน ทำให้นมที่อวบอิ่มเธอแอ่นมาตรงหน้ามจนผมอดใจไม่ไหวที่จะใช้มือไปเค้นคลึงทั้งสองเต้า ผมเคล้นทั้งแรงทั้งเบาสลับไปมา จนเธอร้องครางออกมาไม่หยุด แถมขย่มแรงขึ้น

"ยุทธบีบแรงๆกว่านี้ก็ได้พลอยเสียวว อู้ววววว

เธอครางบอกผม พร้อมขย่มไม่หยุด ยิ่งผมเด้งรับพลอยยิ่งขย่มถี่ขึ้น บางครั้งเธอก้มหน้าลงมาจูบกัยผมอย่างดูดดื่มไม่ก็ดูดที่หัวนมผม จนเราไปถึงจุดหมายกันอีกครั้ง  คืนนั้นกับพลอยผมยอมรับว่าได้ปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับพลอยที่เธอเองก็ค่อนข้างเครียดกับงานมันทำให้ผมกับเธอนั้นสมองโปร่งขึ้นอย่างมาก

แต่ต่อมาอีกไม่กี่คืนผมฝันเห็นวิญญาณของทรงเดชที่ร่างของมันมีโซ่ตรวนผูกมัดอยู่รอบตัว รวมทั้งมือกับเท้าของมันก็ถูกโซ่ตีตรวนอยู่มันมาร้องไห้ร่าง พร้อมคุกเข่าพยายามยกมือไหว้ของร้องให้ผมช่วยทำบุญอุทิศถวายสังฆทานและอโหสิกรรมให้มัน เสียงมันร้องครวญครางโหยหวนอย่างมาก ทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา ผมดูนาฬิกาเป็นเวลาตี 4 เศษๆ ผมนั่งทบทวนถึงความฝันที่ผ่านมามันติดหูติดตามาก ผมจึงตั้งจิตไปถามคุณตาทวด ท่านตอบผมมา

"ตอนนี้วิญญาณมันโดนลงทัณฑ์อย่างหนัก จากกรรมที่มันก่อขึ้นเจ้ากรรมนายเวรมันเยอะ เจ้าเองก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรของมันด้วย มันเลยมาร้องขอความกรุณาจากเจ้า เผื่อจะได้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง ทำไปเถอะเจ้ายุทธ แม้ที่ผ่านมามันจะไม่ยอมรับบุญที่เจ้าอุทิศให้ แต่ครั้งนี้มันมาร้องขอเอง "

"ครับคุณตาทวด"

ผมรับคำก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนจะไปโรงพยาบาล ผมแวะซื้อของและไปทำสังฆทานกับวัดที่อยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลเท่าไหร่ ซึ่งวิญญาณของกิ่งกาญจน์นั้นตามผมไปด้วย ด้วยความที่คุ้นแคยกับท่านเจ้าอาวาส ผมได้ไปถวายสังฆทานกับท่านที่กุฏิจนผมกลับมาถึงโรงพยาบาล กิ่งกาญจน์นั้นเงียบมาตอลดทางตั้งแต่ออกจากวัดซึ่งผมก็ไม่ได้สงสัยอะไร จนเลิกงานกลับบ้าน วิญญาณของกิ่งกาญจน์ได้เล่าเรื่องที่เธอเห็นในวัดให้ท่านพระภูมิเจ้าที่ฟังว่าตอนช่วงที่ออกจากุฏิท่านเจ้าอาวาส

เธอเห็นวิญญาณของทรงเดชนั่งคุกเข่าอยู่ ตัวของมันมีโซ่ล่ามไว้รอบตัว รวมทั้งที่แขนกับขาเหมือนกับคนที่ถูกตีตรวน และมีผู้ชายร่างกำยำผิวคล้ำนุ่งโจงกระเบนสีแดง 2 คน มายืนคุมมันอยู่ พอหมออินทรายุทธเดินออกมา วิญญาณของทรงเดชก้มลงกราบหมออินทรายุทธ ทำให้โซ่ที่พันรอบตัวมันหายไปเหลือแต่โซ่ที่ตีตรวนมันตรงมือและเท้าทั้งสองข้างก่อนที่ร่างของมันและผู้ชายอีก 2คน จะหายไป ท่านพระภูมิฟังเธอเล่าจนจบแล้วถามเธอ

"เจ้ายุทธไม่เห็นวิญญาณทรงเดชใช่ไหมนังหนู"

"คะคุณหมอไม่เห็น เดินผ่านไปเลย หนูเลยไม่กล้าเล่าให้ฟัง"

"ก็ดีแล้ว ที่ไม่เห็นงั้นจะเป็นคำถามของเจ้ายุทธอีก จริงๆคือเจ้ายุทธไม่สามารถมองเห็นได้ ไอ้ผีร้ายตัวนั้นนะมันถูกคุมมาโดยพวกมัจจุราช มันคงมาขอบคุณเจ้ายุทธที่อุทิศส่วนกุศลไปให้มัน"

"หรือว่ามันจะไม่ถูกลงโทษแล้วหรือคะ"

ท่านกาษนติส่ายหน้าแล้วตอบกิ่งกาญจน์

"ยัง มันยังต้องชดใช้เวรกรรมที่มันก่อขึ้นตั้งแต่สมัยมันเป็นคนจนมาเป็นผีร้าย มันสร้างเวรกรรมไว้เยอะมาก เพียงการอุทิศส่วนกุศลของเจ้ายุทธมันช่วยบรรเทาลงไปบ้างเท่านั้น"

"หนูเข้าใจแล้วคะ"

ท่านกาษนติยิ้ม แต่ท่านเองก็บอกไม่หมดเพราะมันเป็นสิ่งที่กิ่งกาญจน์รวมถึงอินทรายุทธไม่ควรรู้ โทษของผีร้ายที่หนักหนาอยู่แล้ว แต่การที่มันบุกมาถึงบริเวณบ้านของอสนี ซึ่งเปรียบเสมือนกับเขตพระราชฐาน ทำให้พระอกนิฎ ซึ่งเป็นพระเชษฐาของอสนีนั้นทรงกริ้วอย่างมาก ตัวพระอกนิฎนั้นได้รับบัญชาจากองค์มหาเทพว่าให้คอยดูแลระวังเรื่องการใช้พลังวิเศษของอสนีที่ได้รับมาจากเหตุการณ์ที่พระองค์เองทรงคึกคะนองใช้พลังหยอกล้อน้องชายเมื่อครั้งอสนียังเด็กจนต้องประทานพลังวิเศษช่วยน้องชายไม่ให้ตายหรือพิการไว้ และต่อมาพระอกนิฏได้ทรงบัญชามาให้ท่านรุกขเทวดาคอยดูแลคอยระวังไม่ให้เกิดเรื่องที่จะกระทบกับอสนีที่จุติลงมาเพื่อใช้กรรมเก่า เพราะมันอาจจะเป็นการเพิ่มกรรมให้อสนีโดยไม่รู้ตัวจากเรื่องที่เคยมีหมอผีอาคมสูงปล่อยของมาเพื่อทำร้ายอสนีแต่ของนั้นสะท้อนกลับไปที่ตัวของหมอผีเอง 

การบุกไปถึงบริเวณบ้านของอสนีทำให้โทษของวิญาณผีร้ายทรงเดชนั้นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่ท่านกัสปะที่รับรู้มาตลอด และท่านเองเป็นคนที่มอบพลังป้องกันลงบนจี้รูปสายฟ้ามาให้อสนีเพื่อมอบให้อินทรายุทธใช้ป้องกันตัวนั้น เป็นคนไปทูลขอบรรเทาโทษให้วิญญาณของทรงเดช เรื่องที่วิญาณของทรงเดชติดตามหมออินทรายุทธถึงบริเวณบ้านอสนี พระอกนิฎจึงพระราชทานอภัยโทษเรื่องนี้ให้ ส่วนเรื่องกรรมของทรงเดชที่ก่อขึ้นมานั้นให้รับโทษตามเดิม  ทำให้วิญญาณของทรงเดชได้ไปเข้าฝันอินทรายุทธเพื่อขอส่วนบุญและการขออโหสิกรรม

ซึ่งมันเป็นไปอย่างที่รุกขเทวดาบอกกิ่งกาญจน์ว่าเพราะความอาฆาตแค้นที่ทรงเดชมีต่อหมออินทรายุทธ ทำให้จิตใจนั้นมืดบอด ทรงเดชแอบติดตามมาเพื่อจะหาโอกาสเล่นงานหมออินทรายุทธ จนมาถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่แม้แต่พญามารเองยังไม่กล้ามาแถวนี้เพราะรับรู้ได้ถึงบารมีของโอรสแห่งสวรรค์ที่จุติลงมาแต่กว่าที่มันจะรู้ตัวว่าบารมีนี้สามารถทำลายวิญญาณมันให้สลายไปได้แต่ช้าไปเสียแล้ว ถึงมันจะพยายามหนีเหมือนทุกครั้งแต่ครั้งนี้มันหนีไม่พ้นเพราะนอกเหนือจากบาปของมัน ตัวท่านรุกขเทวดานั้นได้ตรึงมันไว้ด้วยเพื่อสำเร็จโทษก่อนจะพามันไปส่งต่อพระยายมราช พอหมออินทรายุทธไปถวายสังฆทานทำบุญให้ วิญญาณของทรงเดชจึงได้ละเว้นโทษในเรื่องนี้ไป

อีก 2 วันต่อมาในช่วงสายๆผมได้รับแจ้งให้ไปตรวจศพหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกทิ้งไว้ข้างทางในซอยเปลี่ยว สภาพศพที่เห็นนั้นนอนคว่ำหน้าอยู่ในพงหญ้า ตำรวจพิสูจน์หลักฐานบอกกับผมว่าคนกวาดถนนเป็นคนมาเจอศพเมื่อตอนเช้าของวันนี้ สภาพศพที่ผมเห็นร่างนั้นนอกจากที่นอนคว่ำแล้วการแต่งกายนั้นค่อนข้างล่อแหลม เธอสวมกระโปรงสั้นใส่เสื้อเกาะอก รองเท้าที่สวมนั้นหลุดออกมาข้างหนึ่งไม่ห่างจากศพมากนัก ผมเริ่มทำการตรวจสภาพศพ ทำให้ประมาณการได้ว่าเธอน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง สภาพศพเหมือนขาดอากาศหายใจแต่ที่ลำคอไม่พบมีรอยถูกรัดหรือถูกบีบคอ ในตัวไม่พบเอกสารใดๆของเธอ แต่เสียงของกิ่งกาญจน์บอกกับผม

"กระเป๋าถือของเธอถูกทิ้งอยู่ห่างออกไปตรงใกล้ๆกับเสาไฟฟ้าต้นที่ 2จากที่คุณหมอนั่งอยู่"

ผมเงยหน้ามองตามไปยังทิศทางที่เธอบอก เสาไฟฟ้าต้นนั้นอยู่ห่างออกไปเกือบร้อยเมตร ผมพยักหน้ารับรู้ เพราะตอนนี้ผมเองก็มองเห็นวิญญาณของคนตายที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับวิญญาณของกิ่งกาญจน์ จนผมตรวจดูสภาพศพในที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้วตำรวจได้ถามผม

"คิดว่าตายเพราะอะไรครับหมอ"

"เท่าที่ตรวจเบื้องต้นร่างกายไม่พบการถูกทำร้ายครับ ดูแล้วตายเพราะขาดอากาศหายใจนะครับ แต่จากอะไรคงต้องผ่าพิสูจน์ครับ"

"ได้ครับหมอ"

ตำรวจบอกกับผม ส่วนผมสั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมนำศพเธอกลับไปที่โรงพยาบาล แต่เรื่องที่กิ่งกาญจน์บอกผมนั้นไม่ห่วงอะไร เพราะทางตำรวจกับทางนิติเวชเองก็มีการกระจายกำลังกันเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม กระเป๋าของคนตายคงถูกตรวจพบแน่นอน แต่ระหว่างทางที่กลับผมรู้สึกว่ากิ่งกาญจน์นั้นต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอดูกระวนกระวาย แต่เธอไม่เล่าให้ผมฟัง จนกลับมาถึงโรงพยาบาลระหว่างที่กำลังทำการชันสูตรศพ วิญญาณหญิงสาวที่ตายที่รู้จากกิ่งกาญจน์ว่าผมสามารถติดต่อสื่อสารกับวิญญาณได้มาเล่าเรื่องให้ผมฟัง เธอนั้นชื่อเพียงขวัญ ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ของผับแห่งหนึ่งรวมทั้งรับงานเป็นสาวเอนเตอร์เทนด้วย เมื่อคืนเธอกับเพื่อนๆอีก3-4คนได้ถูกเรียกให้ไปเอนเตอร์เทนนักธุรกิจ 4 คน ที่บ้านหลังหนึ่ง เธอบอกผมว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่ดูเหมือนเจ้าของบ้านจะซื้อบ้านหลังนี้มาเพื่อเป็นที่สังสรรค์โดยเฉพาะ

จนช่วงดึกที่ทุกคนเริ่มมึนเมา เธอรู้สึกว่าเธอถูกผสมยาบางอย่างลงในเหล้าที่เธอดื่ม จนตัวเธอเริ่มขาดสติและเหมือนจะเป็นเจ้าของบ้านที่ดูจะเมามากกว่าคนอื่นได้เอาหมอนมาอุดที่หน้าเธอด้วยความคะนอง ทำให้เธอที่อาการไม่ค่อยดีอยู่แล้วนั้นหายใจไม่ออกจนขาดอากาศหายใจทำให้เธอตาย  เพียงขวัญเล่าให้ผมฟังต่อไปว่า พอรู้ว่าเธอตายกลุ่มคนพวกนั้นได้เอาศพเธอใส่รถมาทิ้งไว้ตรงที่เกิดหตุ และโยนกระเป๋าเธอทิ้งไม่ไกลจากศพเธอนัก และได้ข่มขู่พร้อมจ่ายเงินจำนวนมากให้กับบรรดาเพื่อนๆของเธอว่าห้ามเล่าเรื่องพวกนี้ให้ใครฟัง ไม่อย่างนั้นจะชีวิตไม่ปลอดภัย

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

btr12345

หมอยุทธจะละเมิดกฏอะไรอีกนะ แล้วจะมีผลยังไงเกิดขึ้นกัน

phaii

ยิ่งตามยิ่งสนุก เขียนหลายๆภาคนะครับ

au2000

อ่านแล้วบางทีลืมความเดิม ต้องย้อนกลับไป
ถึงจะเข้าใจ

SilentKnight

เสียดายคุณตำรวจอยู่เลย แต่ขอลุ้นตัวละครใหม่ๆละกันนน

po3026


mspeed


crazylex


1819

#8
 จะมีคลิกระหว่างหมอกับ ผีกิ่งไหม นี่ชอบเคมีคู่่นี้  รักระหว่างภพมิติ จะ เป็นไปได้ไหม อะอ แม่ของหมอยัง เลิฟซีนกับผีสาวด้วยกันได่เลย
edit   เอาล่ะซืปริศนา ตัวกิ่ง กำลังจะได้รู้ 
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

akuzho

ทำใจจากคุณตำรวจ ไม่มีซัมติงก่อนจาก รอตัวละครใหม่

singkanong

หมอจะแหกกฎธรรมชาติอีกแล้วจินะสู้ๆมันเป็นกรรมเก่าน่ะๆแห่ะๆ

sunnies

ตอนนี้เอาเนื้อหาข่าวจริงมาดัดแปลง

chapter11

มีคดีใหม่มาอีกแล้วรอบนนี้จะยาวๆแบบทรงเดชมั้ยครับ ติดตามกันต่อ

EvolutionPK


Alan

ในตอนแรก ก็แอบจินคุณหมอกะหมวด แต่ดันตายง่าย ตอนนี้ต้องหาคนมาจิ้นใหม่แล้วครับ เอาคนนะ ไม่ใช่ผี 555