ชีวิตในต่างแดน

[ชีวิตต่างแดน]

มือใหม่ต้องขออภัยถ้าเขียนไม่เก่ง
คนเราผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย ชีวิตมีทั้งขึ้นมีทั้งลงเรามาเล่าเรื่องตื่นเต้นๆในชีวิตให้ใจสูบฉีดด้วยกัน
เรามาจากครอบครัวบ้านๆอยู่ต่างจังหวัดไม่มีอะไรมาก พอโตขึ้นแม่ก็ส่งเรามาอยู่กับอาที่กรุงเทพ ฮาจัดการให้เราเรียนที่โรงเรียนสตรีแห่งหนึ่ง ชีวิตเราก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนแบบเพื่อนๆ เพราะเลิกเรียนก็กลับบ้านอาช่วยทำงานบ้าน อาส่งให้เราเรียนจนมหาวิทยาลัย พอเรียนจบเราก็สมัครงานได้งานดีมากที่ทุกคนอยากเป็น
งานเราต้องเดินทางต่างประเทศอย่างต่อเนือง อาไม่ชอบแต่เราขอร้องเพราะเราอยากทำมาก จนอายอม
การจะได้เป็น เราผ่านการฝึกฝนเป็นเดือน จนในที่สุดเราก็ได้เป็นพนง.สมใจ
การออกต่างประเทศครั้งแรกของเราตื่นเต้นมาก เพราะต้องไปนอนต่างประเทศ เป็นครั้งแรกที่เรามีอิสรภาพ มีเวลาเป็นของตัวเอง
พอถึงห้องพักด้วยความเหนื่อยและเพลีย ลื้อกระเป๋าจัดแขวนเสร็จ ก็ถอดเสื้อผ้าแขวนเรียบร้อย ก็เดินตรงเข้าห้องนํ้า
หลังจากได้อาบนํ้าอุ่นก็รู้สึกดีขึ้นมาก เดินออกมาจากห้องนํ้าพันผ้าเช็ดตัวที่เอามาด้วย แล้วก็มานั่งหน้ากระจกทาครีมผิวหน้า จากนั้นก็ไปนั่งที่โซฟาเปิดทีวีแล้วก็ทาครีมตามแขนขาและตัว แล้วก็เดินไปต้มนํ้าเพื่อดื่มอะไรร้อนๆ พอเดินไปที่กาต้มนํ้า ตกใจมากเพราะเราไม่ได้ปิดม่านในห้อง ตรงข้ามเป็นตึกออฟฟิศ  เรารีบไปปิดม่านทันทีเพราะความกลัว ตอนนั้นไม่ได้ใส่อะไรเลย แล้วก็เปิดไฟสว่างทั้งห้อง
เราแง้มม่านดูเพื่อจะอยากรู้ว่ามีใครดูเข้ามาในห้องไหม สิ่งที่เราเห็นทำให้ใจเราสั่นรัว เพราะที่ระเบียงมีเงาดำๆยื่นอยู่ มองลงมาที่ห้องเรา มีไฟแดงจากบุหรี่ที่เขากำลังสูบอยู่ เขาคงเป็นม่านที่เราแง้มดู เขาโบกมือมาให้เรา
ตอนนั้นเราขาสั่นใจสั่นหมดเลย โกรธตัวเองที่ไม่ปิดม่านใหเรียบร้อยตอนเขาห้อง เรากลับมานั่งที่โซฟา แล้วภาพที่ผ่านมาตอนเรานั่งมาครีมก็กลับมา เราไม่ได้ใช้อะไรเลย ผ้าที่เราพันออกมาจากห้องนํ้าเราก็ปลดออกตอนนั่งทาครีม เขาคงเห็นหมดแล้ว เพราะตึกก็ไม่ได้อยู่ไกลออกไปมาก
ตอนนั้นใจเราสั่นเลย ตกใจมาก นั่งตั้งสติพักใหญ่ ลูกมาชงชาดื่ม แอบแง้มม่าน ก็ไม่เห็นเขายืนที่ระเลียงแล้ว เพราะเขาเข้าไปในห้องทำงาน เนื่องจากอยู่ชั้นสูงกว่าเรา เราจึงมองไม่เห็น
กลับมานั่งจิบชาไปคิดไปว่าจะทำอะไรดี หลังจากไปหยิบเสื้อนอนชิ้นเดียวมาใส่ จิบชาไปคิดไปจนใจหายสั่นก็หัวเราะให้ตัวเองว่านี้มันไม่ใช่ที่บ้านไอ้คนที่มองมาก็ไม่ได้รู้จัก ถือว่าทำบุญก็แล้วกัน
พอคิดได้เราก็ลุกไปปิดไฟบางดวงเพื่อจะเข้านอน
พยายามนอนแต่นอนไม่หลับ นึกโมโหตัวเองว่าอายุจนปาดนี้แล้ว ไม่เคยแก้ผ้าให้ใครเห็นกลับต้องมาเป็นนางเอกหนังโป๊ให้ใครไม่รู้ดู คิดไปก็ฟุ้งนึกไปถึงว่าเขาเห็นแล้วเป็นอย่างไร เขาตื่นเต้นไหม เขาเอาเราไปช่วยตัวเองไหม ยิ่งคิดยิ่งนอนไม่หลับ นอนสึกว่าน้องสาวร้อนๆและใจเต้นแรง
จนในที่สุดก็ต้องลุกจากเตียงด้วยความคิดว่าเปิดม่านดูหน่อย มันคงไม่อยู่แล้วเพราะออฟฟิศน่าจะปิดแล้ว ค่อยๆแง้มม่านออกเพื่อมองออกไป มันยังอยู่ในออฟฟิศมันมองออกมาทางหน้าต่างมาที่ห้องเรา เรารับปิดม่านทันที ตอนนี้ใจเต้นแรงมากๆ มันคงเห็นม่านเราแง้มออก เพราะมันนั่งมองอยู่
แต่ไม่รู้อะไรดลใจ เราแง้มม่านดูอีกรอบ ตอนนี้เขาออกมายืนที่ระเบียงสูบบุหรี่ พอเห็นเราแง้มม่านเขาโบกมา ครั้งนี้เราไม่ได้ปิดม่านเหมือนเดิมแต่ยังแง้มไว้แล้วมองดูที่มัน  เป็นคนมีอายุ ลงพุ่งหน่อยๆ ไม่สูง ผิวดำ จากที่เรามองเห็นที่ๆเขายืนมันมึดเรายังเห็นเขาชัดพอประมาณเลย จากที่เขายืนมองเราเข้ามาก่อนหน้านี้ ห้องเราไฟเปิดสว่างด้วย เขาคงเห็นอะไรต่อมิอะไรมากเลย เรานึกแปลกใจตัวเองว่าทำไงเราเริ่มรู้สึกตื่นเต้นแทนที่จะกลัวตื่นเต้นจนรู้สึกว่าน้องเราตื่นตัวตุ๊บๆเลย มันโบกมือทำท่าให้เราเปิดม่านออก เรารับปิดม่านที่แง้มไว้แล้วมายืนใจสั่นอยู่หลังม่าน
เรายอมรับว่าไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความกลัวที่เคยหายไปหมดเกลี้ยงแต่ความตื่นเต้นเขามาครอบนำ ใจเราเต้นรัว ร่างกายเราร้อนผ่าว น้องเรามีความรู้สึกจนรับรู้ถึงความชุ่มตรงหว่างขา แบบแล้วในที่สุดความตื่นเต้นในร่างกายเราก็ควบคุมจิตใจเราโดยสมบูรณ์
เราจัดเสื้อคลุมผ้าซาตินสีนํ้าเงินแล้วผูกเชือกรัดเอวให้กระชับ เราค่อยเปิดผ้าม่านออกนิดหน่อย ใจเราเต้นแรงมากๆ ก้าวไปยืนระหว่างช่องผ้าม่านที่เปิดไว้
เรารู้สึกตื่นตัวมาก ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ตอนอยู่กับอาเรียนเสร็จก็กลับมาทำงานบ้านจนเหนื่อย เคยมีอยู่ครั้งเดียวที่เราตื่นเต้นแต่ไม่ถึงแบบตอนนี้ คือตอนเราอาอุ้มหมาที่โดนรถชนมาบ้าน(เดียวโอกาสหน้าเล่าให้ฟัง)
เรายืนอยู่ระหว่างม่านแล้วมองไปที่เขา เขาโบกมือมาให้เรา เราโบกกลับช้าๆ เขาชี้ไปที่ห้องทำงานแล้วจีบมือเปิดปิด เราคิดว่าเขาสื่ออะไร แล้วก็เข้าใจเขาต้องการให้เราเปิดไฟเพิ่ม เนื่องจากตอนเราพยายามนอนเราปิดไฟเกือบหมด เหมือนโดนสะกด เราเดินไปที่หัวเตียงกดเปิดไฟในห้อง ใจเราเต้นตุ๊บๆแรงมากเพราะตอนนี้ในห้องสว่างมาก เรากลับมายืนที่เดิม เขายกนิ้วโป้งให้เป็นการชมเชย เขาจ้องมองแบบไม่ละสายตา  เขาเริ่มทำมือจับที่เอวเขาแล้วดึง เราตกใจมากเขาเห็นชัดขนาดนี้เลยหรือ เขากำลังบอกเราให้ปลดเชือกที่เอวที่นัดเสือคลุมเราออก เรายืนนิ่งช่างใจแต่ความตื่นเต้นมันสะกดตัวเราแล้ว
เราปลดเชือกรัดเอา แล้วปล่อยมันตกลงบนพื้น แล้วยกเท้าวางบนขอบหน้าต่างล่าง ตอนนี้เขาเห็นช่วงขาของเรา แต่ชายผ้าเสื้อคลุมยังปิดส่วนสงวนของเราอยู่
เขาทำท่าให้เราเปิดเสื้อออก
ไม่รู้จะบอกอย่างไรว่าตอนนี้ใจเราสั่นระรัว น้องเราเปียกจนเรารู้สึกถึงนํ้าน้องสาวไหลเยิ้มลงมาที่ต้นขา หัวนมเราตั้งชัน เราค่อยๆใช้มือเราแหวกเสื้อคลุมออกข้างที่ขายกอยู่ส่วนอีกมือยังจับชายเสื้อปิดน้องเราอยู่ เราเปิดเสี้อจนถึงหัวนมแต่ไม่ได้เปิดหัวนมออก มันเสียวมากช่วงที่เสื้อลื่นผ่านหัวนม ส่วนมือที่เราจับน้องสาวรับรู้ถึงความต้องการของน้องที่อยากให้สัมผัส ปลายนิ้วค่อยๆกดลงบนเนินน้องสาว สัมผัสความเปียกชุ่มผ่านเสื้อคลุม พอนิ้วเราโดนเม็ดน้อยของน้องสาว ความคิดอ่านทั้งหมดก็หายไป ขาเราอ่อนระทวย เราถอยออกจากม่านมานอนบนโซฟา ตอนนี้เรานอนหงายเสื้อคลุมเราเปิดออกหมด ขาข้างหนึ่งยกพาดพนักโซฟาส่วนอีกข้างหากบนโซฟาเท้าวางบนพื้น  ขาอ้ากว้างมือวางบนเนินน้องสาว นิ้วเขี่ยปุ่มกระสันของน้อง ส่วนอีกมืออยู่บนนมสองนิ้วขยี้บีบคลึงหัวนมอันตั้งชัน ตาปิดสนิทคิ้วขมวด หายใจแรงและมีเสียงครางรอดออกมา เวลาผ่านไปไม่กี่นาที นางเราก็กระตุกอย่างแรง เผลอตัวร้องเสียงดังจากการถึงอย่างรุนแรง นํ้าเราแตกไหลเยิ้มลงร่องก้นและลงไปบนโซฟา เรานอนนิ่งอยู่พักใหญ่แบบหมดแรง แล้วเราก็นึกขึ้นได้ว่าเขากำลังมองเราอยู่ เราลืมตาแล้วมองไปที่ระเบียง เห็นเขายืนสาวนอนของเขาตัวเกรง จากที่เห็นเขาคงพึ่งเสร็จพร้อมๆเรา
เราขยับตัวลูกขึ้นแล้วเดินไปที่ม่าน เงยหน้ามองไปที่เขา เขายกนิ้วให้เราอีกรอบ ทำท่ามือบอกให้เรากันหลัง เราโปกมือบ้ายบายเขาเนื่องจากเหนื่อยจนขาหมดแรง ค่อยๆปิดม่านแล้วไปล้างตัวแล้วกลับมานอนหลับสบายถึงเช้าเลย