ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ฟัก อยู่แม้น

คืนประทับใจ copy

เริ่มโดย ฟัก อยู่แม้น, ตุลาคม 24, 2022, 05:55:02 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ฟัก อยู่แม้น

วันบุหรี่ลอยอ้อยอิ่งไปตามกระแสของลม จากเครื่องปรับอากาศที่พัดมาเอื่อยๆ ตัดกับแสงไฟสีเหลืองสลัวจาก หลอดไฟเพดาน ทำให้บรรยากาศรอบตัวเหมือนกับอยู่ในความฝัน เสียงเพลง Wonderful tonight ของ Eric Clapton กรีดเสียงออกมาจากลำโพงที่ติดอยู่ข้างเสา และแล้วก็เป็นอีกวันที่ชีวิตของผมต้องมาสิ้นสุดวันลงที่นี่ ผับเก่าๆ กับผู้คนบางตา ผมชอบบรรยากาศแบบนี้ มันเข้ากับชีวิตเหงาๆ ของผมดี เบียร์ขวดที่สองเพิ่งจะพร่องลงไปนิดหน่อย แต่ความคิดผม ล่องลอยไปไกลเสียแล้ว แล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่ดึงผมกลับจากภวังค์ สาวชุดดำสูงโปร่งกับผมบ็อบสั้น และใบหน้าคมจนบาดหัวใจ ใครหลายคนในร้าน สังเกตได้จากสายตาหลายคู่จับอยู่ที่เธอ แล้วเธอก็เลือกนั่งโต๊ะด้านในค่อนข้างจะห่างจากผู้คน พร้อมกับ สั่งเบียร์หนึ่งขวด และบังเอิญว่าโต๊ะที่เธอนั่งตรงกับสายตาของผมพอดี สายตาหลายคู่ยังคงจับอยู่ที่เธอ และหลายโต๊ะก็ กำลังพูดถึงเธอเช่นกัน ผมคงเดาไม่ผิด ผมพยายามละความสนใจจากเธอ เพื่อกลับสู่ภวังค์ของผมอีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะไม่ สำเร็จ ทุกครั้งที่เกือบจะสำเร็จผมต้องเหลือบสายตาไปทางเธออีกจนได้ หลายคนคงเป็นเหมือนผม ผมแน่ใจ อะไรกันนะ ที่ทำให้เธอดึงดูดความสนใจผมได้ขนาดนี้ หลายครั้งที่ผมเผลอมองเธอจนเกือบจะเรียกได้ว่าน่าเกลียดไปนิด และดูเหมือน เธอเริ่มรู้ตัว แต่เธอยังคงนั่งปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย พยายามไม่สนใจผมเช่นกัน ตอนนี้สายตาผมเริ่มสำรวจส่วนต่างๆ ของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ เสื้อสายเดี่ยวสีดำเผยให้เห็นไหล่ขาวนวล และกลมกลึงกับกระโปรงยาวผ่าข้างที่ชวนหัวใจหวั่นไหว หลายครั้งที่ผมเผลอมองเธอนานเกินไป จนบางครั้งเธอมองสวนกลับมา ทำเอาหัวใจผมแทบหยุดเต้น แต่ผมก็แก้เขินด้วย การหยิบเบียร์ขึ้นมาจิบ เสมองไปทางอื่นทุกครั้งไป "ทำไมเป็นอย่างงี้หนอเรา" ผมด่าตัวเองในใจ หลายครั้งที่อยู่ใน สถานการณ์เช่นนี้ และก็จบลงที่ต่างคนต่างลุกกลับไป ผมเคยพยายามหลายครั้งที่บอกให้ตัวเอง กล้าเผชิญหน้ากับสายตาที่ ค้นหาคำตอบเหล่านั้น แต่ไม่เคยสำเร็จ "แต่วันนี้ต้องไม่ลงเอยแบบนั้น" ผมรวบรวมสติบอกตัวเอง ผมค่อยๆ เสไปมองเธอ อีกครั้งเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไปนัก และแล้วสายตาของเธอก็เหลือบมาทางผมอีกครั้ง "อย่าหลบนะเอ็ง" ผมท่องคาถา ในใจ สิ่งที่ผมได้เห็นก็คือ ปฏิกิริยาแปลกใจเล็กน้อยในแววตาของเธอ และดูเหมือนว่ามีประกายพึงใจอยู่เล็กๆ อยู่ในแววตา แล้วเธอก็ลุกขึ้น หยิบขวดเบียร์และแก้วตรงหน้า เดินตรงมาหาผม "เฮ้ย! เอาแล้วไง" ในใจผมคิดว่าคงเดินเอาเบียร์มา สาดผมเป็นแน่แท้ "ขอนั่งด้วยคนได้มั้ย" เธอถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เสียงหวานแหลมเล็กๆ ของเธอทำเอาผมปากคอสั่น "เชิญครับ" ผมตอบได้แค่นั้น แล้วก็อึ้งไปเหมือนโดนสะกด "รอใครอยู่หรือเปล่า" เธอถามต่อ "เปล่า" แค่นั้นแหละครับ ที่ผมจะนึกออก สมองมันตีบตันไปหมดจนอยากจะกระโดดชนฝาให้รู้แล้วรู้รอด เธอกลับยิ้มขันกับท่าทางของผม เสียง หัวเราะเหมือนระฆังเงิน แบบที่เคยอ่านในหนังสือกำลังภายใน เป็นแบบนี้นี่เอง ช่างสยบหัวใจยิ่งนัก "ท่าทางคุณตลกดี คงจะแปลกใจหล่ะมั้งที่อยู่ๆ ฉันก็มาขอนั่งโต๊ะเดียวกับคุณ" ผมได้แต่นิ่งทำตาแป๋ว พยักหน้าหงึก ไม่เหลือฟอร์มอะไรอีกแล้ว สายตาของหนุ่มในร้านหลายๆ คู่ เริ่มจับมาที่โต๊ะผมด้วยความหมั่นไส้ ผมแน่ใจอีกนั่นแหล่ะ "ฉันแค่เบื่อๆ อยากจะหาคน คุยด้วย ก็มีแต่คุณนี่แหละที่ดูท่าทางพอจะคุยด้วยได้" "หมายความว่ายังไงเหรอครับ?" ผมถามซื่อๆ เธอหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง แหม!ผมชอบจริงๆ ให้ตายเหอะ "คุณน่าจะได้ดูท่าทางของคุณในกระจกนะ" เธออธิบายพร้อมกับรอยยิ้มที่หยุด หัวใจผม "ไม่ต้องเกร็งหรอก ฉันไม่กัดคุณหรอกน่า" ไม่แน่หรอกครับคุณผู้หญิง ผมอาจจะหัวใจวายเพราะคุณก็ได้ ผมสวน กลับแต่ในใจ "มาที่นี่บ่อยเหรอ" เธอยิงคำถามอีกครั้ง "ก็แทบทุกวันล่ะครับ ผมชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ" ผมเริ่มคลาย ความเกร็งลงเล็กน้อย "ก็ดูเข้ากับท่าทางของคุณดี" ท่าทางเธอก็ดูเป็นกันเองขึ้น "ฉันชื่อกิ่งฉัตร จะเรียกกิ่งหรือเรียกฉัตร ก็ได้แล้วแต่คุณ" เธอแนะนำตัว "เอ่อ! ผมธนตครับ เรียกนตเฉยก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" "เช่นกันค่ะ" แล้วผมก็เริ่ม คลายความเกร็งลงได้จนเกือบหมด เธอก็เริ่มชวนผมคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปได้เรื่อยๆ เบียร์ขวดที่หกเหลืออยู่ไม่กี่เซ็นต์ ผมก็เริ่ม จะมึนๆ บ้างแล้ว "ดื่มเก่งไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเนี่ย" ผมรำพึงในใจ ระหว่างที่เธอกำลังเล่าถึงเรื่องเพื่อนที่ทำงานของเธอ ใบหน้าของเธอเริ่มมีสีแดงระเรื่อมากขึ้นตามดีกรีที่เธอดื่มเข้าไป เธอเล่าถึงเรื่องงานที่เธอทำ และสภาพแต่ละวันที่เลิกงานแล้ว เพื่อนร่วมงานต่างแยกย้ายกลับบ้าน เพราะมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว เหลือเธอคนเดียวที่วันๆ ก็วนเวียนหาที่นั่งดื่มแล้ว ปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อยก่อนที่จะกลับบ้าน "ปกติฉันจะชอบนั่งคนเดียวสักพักแล้วก็กลับ แต่วันนี้ไม่รู้นึกอะไรเหมือนกัน ที่ตัดสินใจมาชวนคุณคุย ไม่รู้ว่าจะรบกวนคุณหรือเปล่า" เธอถามกึ่งๆ ขอโทษ "น่ารักชะมัด" ผมเริ่มจิตใจหวั่นไหวอย่าง แรง "ไม่เป็นไรหรอกครับ บอกตามตรงผมเองก็พยายามที่จะรวบรวมสติ กล้าไปขอนั่งคุยกับคนอื่นเหมือนคุณเหมือนกัน แต่ไม่เคยทำได้สักครั้ง ครั้งนี้คุณเป็นฝ่ายเข้ามาเองถือว่าผมโชคดีแล้วหล่ะครับ" "เหรอคะ" เธอแกล้งทำหน้าประหลาดใจ ทำเสียงหวานแหลมใส่ผมอีกครั้ง ตบท้ายด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเอง "หัวใจจะวายก็คราวนี้แหล่ะวะเอ็ง" ผมรำพึง เธอหัน ไปสั่งเบียร์อีกขวด หลังจากแก้วสุดท้ายผ่านลำคอเธอลงไป "พอแล้วมั้งครับ" ผมร้องห้าม "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นานๆ ฉันจะได้นั่งจิบเบียร์คุยกับใครซักที คุยกันต่ออีกนิดนะคะ หรือว่าคุณจะต้องรีบไปไหน "เธอทำเสียงอ้อนเล็กๆ ใครล่ะจะ ใจแข็งปฏิเสธเธอไหว ผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยไหว เลยแทบจะไม่ได้แตะเบียร์ขวดสุดท้ายที่เธอสั่งมาเลยซักหยด ส่วนเธอผมว่า เข้าขั้นเมาเลยก็ว่าได้ แต่ยังคงคุยเสียงเจื้อยแจ้วไปได้เรื่อยๆ มันเพราะกว่าเสียงเพลงเป็นไหนๆ ในความรู้สึกของผม แก้วสุด ท้ายถูกยกขึ้น แล้ววางลงเหลือเพียงแก้วที่ว่างเปล่า เธอทำท่าจะสั่งอีก คราวนี้ผมคงต้องห้ามแล้วหล่ะ เพราะเธอออก อาการเมาอย่างเห็นได้ชัด น่ากลัวว่าจะลุกไม่ไหวเสียด้วยซ้ำ "วันนี้พอก่อนดีกว่ามั้งฉัตร" ผมปราม เธอพยักหน้าอย่างว่าง่าย "กลับเถอะ" ผมเสนอ เธอพยักหน้าอีกครั้ง "คุณกลับยังไงเนี่ยให้ผมไปส่งมั้ย?" "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับแท็กซี่ได้" เธอ พยายามปฏิเสธ "ไม่ดีหรอกมั้งครับ ถ้าคุณไม่เมาขนาดนี้ก็ว่าไปอย่าง เอาเป็นว่าผมไปส่งแล้วกัน" แล้วสุดท้ายเธอก็ยอมรับ ข้อเสนอ เธอพยายามจะลุกขึ้นแต่ดูอาการแล้วเธอคงไปไม่พ้นประตูเป็นแน่ ผมเลยต้องยื่นแขนไปให้เธอเกาะ พร้อมพาเธอไป ที่รถ หลังจากส่งเธอขึ้นไปนั่งบนรถได้ ผมก็วนอ้อมไปที่นั่งคนขับ แล้วผมก็พบว่าเธอหลับไปเสียแล้ว "เอาล่ะซิ ทำไง ดีเนี่ยเรา" ผมพยายามปลุกเธอยังไงเธอก็ไม่ยอมตื่น แถมยังเอียงมาซบลงที่ไหล่ผมอีกต่างหาก เอาล่ะซิ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอทำปฏิกิริยากับผมซะแล้ว ผมจำต้องเสียมารยาทหยิบกระเป๋าของเธอมาเปิดดู เผื่อพบอะไรที่พอจะบอกที่อยู่เธอได้ บ้าง แต่ก็ไม่พบอะไรที่เป็นประโยชน์เลย ที่อยู่ในบัตรบอกว่าเธออยู่ต่างจังหวัด ผมเริ่มสับสนปนกับความมึนจากฤทธิ์เบียร์ เล็กน้อย ตัดสินใจพาเธอกลับไปที่อพาตเม้นท์ หลังจากรถจอดเข้าที่จอดรถ ผมก็อุ้มเธอเข้าลิฟต์ตรงดิ่งไปที่ห้องผม ดีที่ไม่มี ใครเดินสวนหรือเห็นเข้า ไม่งั้นผมคงทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน ผมจัดการวางเธอลงบนเตียง หาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เธอ หวังว่าเธอจะได้สติบ้าง แต่เปล่าเลย..เธอยังคงหลับตาพริ้ม ส่งเสียงครางอืมมในลำคอ เฮ้อ! เอาล่ะซิ ความคิดชั่ววูบของ ผมเริ่มแว้บเข้ามาในหัว สายตาเหลือบไปมองสายเดี่ยวที่หลุดออกจากไหล่ข้างนึงของเธอ ผมเอื้อมมือสั่นเทาไปหวังจะจัด มันกลับเข้าที่ แต่เมื่อได้สัมผัสเนื้ออุ่นที่หัวไหล่เธอ ทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ มันช่างนิ่มและขาวนวลชวนหลงไหลเสีย เหลือเกิน แล้วผมก็เริ่มหน้ามืดตั้งแต่นาทีนั้น "ขอแตะซักนิดคงไม่เป็นไรมั้ง" ผมเอื้อมมือไล้ลงไปที่หน้าอกของเธอ "อา.. ขนาดมันแตกต่างจากที่เห็นเยอะเลย" เสียงครางอืมมดังผ่านลำคอเธอมาอีกครั้ง ผมทนไม่ไหวอีกแล้ว ริมฝีปากบางๆ ของ เธอมันช่างยั่วเย้าผมเหลือเกิน สติมันขาดสะบั้นไปตรงนั้น ผมก้มหน้าลงประกบปากกับเธอ แทรกลิ้นเข้าไประหว่างริมฝีปาก แล้วผมก็ต้องแปลกใจที่เหมือนว่าลิ้นของเธอจะตอบสนองผมเช่นกัน ระหว่างประกบปาก มือก็ล้วงผ่านเข้าไปในเสื้อของเธอ ปลดตะขอบราตัวกระจ้อยของเธอออก ปล่อยให้ถันของเธอเป็นอิสระ พร้อมกับใช้มือโลมเล้าเบาๆ เธอบิดตัวครางอย่างพอใจ ผมจึงเปลี่ยนมาไซ้ซอกคอของเธอ ถอดเสื้อสายเดี่ยวและบราออก ตอนนี้ร่างกายท่อนบนของเธอไร้สิ่งปิดบังอย่างสิ้นเชิง ปลายถันเธอชูชันขึ้นแสดงถึงอารมณ์ที่กำลังได้ที่ ผมเริ่มประกบปากเธออีกครั้ง พร้อมกับไล่ไซ้จากซอกคอลงมาที่ปลายถัน ใช้ริมฝีปากขบเบาๆ ส่วนมือก็จัดการกับกระโปรงด้านล่าง ตอนนี้ผมล้วงเข้าไปถึงกางเกงชั้นในแล้ว น้ำหล่อลื่นของเธอล้น ออกมาจนแฉะกางเกงใน ผมใช้นิ้วรอดผ่านขอบกางเกงในเข้าไปสำรวจถ้ำก่อน ถ้ำของเธอตอดรัดนิ้วผมอย่างดุดัน ผมจัดการ รูดกางเกงในเธอลงไปที่ปลายขา ปลดตะขอแล้วรูดซิปกระโปรงออก เลิกกระโปรงขึ้นไปขยุกไว้ตรงเอว ทีนี้ส่วนล่างของเธอ ก็ตกเป็นของผมอีกเช่นกัน ผมใช้ลิ้นไซ้ตรงขาอ่อนของเธอ เอวเธอเกร็งด้วยความสยิว จากนั้นจึงไล่ลิ้นเข้าสู่เป้าหมาย ใช้ปลายลิ้นซอกซอนเข้าหลืบสลับกับใช้มือข้างนึงลูบขาอ่อน ส่วนอีกข้างไล้ที่หัวนม ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นใช้นิ้วเข้าไปนำร่อง หนึ่งนิ้ว ขยับเข้าขยับออกสักพัก จนการตอบรับเริ่มจะคลายตัว ผมเพิ่มเป็นสอง และสามตามลำดับ ผมละเลงนิ้วจนเธอ ร่อนเอวตามนิ้วผม พร้อมตอดรัดอย่างหนักหน่วงเป็นสัญญาณว่า พร้อมรับการลงดาบจากผมแล้ว จึงไม่รอช้าจัดการถอด เสื้อผ้าตัวเองออก พร้อมจ่อทวนไว้ปากถ้ำ ค่อยๆ ดันปลายเข้าไปช้าๆ ผมใช้น้ำลายช่วยเพิ่มความหล่อลื่น และกันเธอเจ็บ รอจังหวะคลายตัวของถ้ำ ค่อยๆ สอดเพิ่มความลึกเข้าไปทีละน้อย อา..มันช่างแนบแน่นจนสุดจะกลั้น ผมอดใจค่อยๆ ดัน เข้าไปช้าๆ จะในที่สุดมันก็มิดด้าม ผมก้มลงไซ้ทรวงอกเธออีกครั้ง พร้อมๆ กับขยับออกแล้วขยับเข้า จากระยะสั้นๆ ก็เพิ่มระยะมากขึ้นๆ จนกระทั่งได้ระยะที่เหมาะสม การซอยจึงเริ่มขึ้น เสียงครางของเธอกระเส่า หวานด้วยน้ำเสียง ธรรมชาติของเธอ ผมอยากจะหยุดทุกอย่างไว้ตรงนี้เหลือเกิน และเมื่อการตอบสนองของเธอเริ่มกระชั้นถี่ขึ้น เป็นสัญญาณ โค้งสุดท้าย ผมก็ทุ่มแรงทั้งหมดซอยไม่ยั้ง จนกระทั่งถึงจุดสุดยอด ร่างกายของเราสองคนเกร็งแนบสนิทเหมือนเป็นร่าง เดียวกัน ผมชักทวนออกมาคายพิษที่หน้าท้องของเธอ ก่อนที่ทิ้งตัวลงบนร่างของเธอบนๆ จูบปากของเธออีกครั้ง มือก็โลม เล้าทรวงอกเธอไม่หยุดมือ ผมกระซิบถามเธอเบาๆ ที่ข้างหู "รู้สึกตัวหรือยัง" เสียงครางอืมมตอบรับจากลำคอ "อา..เธอ ไม่ได้โกรธผม" นั่นทำให้ผมโล่งใจเป็นที่สุด แล้วก็หมดแรงผลอยหลับไป ผมตื่นเช้ามาอีกครั้ง ผมพบว่าเธอหายไปเสียแล้ว มีโน้ตแผ่นเล็กๆ ที่หน้าประตู "ขอบคุณสำหรับคืนที่เร้าใจนะจ๊ะพ่อเสือน้อย" ผมยิ้มกับกระดาษ แล้วหันกลับไปฟุบตัว ลงนอนอีกครั้ง กลิ่นตัวของเธอยังคงกรุ่นอยู่บนเตียงของผม "เราจะได้เจอเธออีกมั้ยน้อ?.."
แค่เธอยักคิ้ว ต้นงิ้วก็แค่ถั่วงอก

johnywalker

 ::Sobad:: อ่านไปพร้อมกับฟังเพลง "รักแท่้ในคืนหลอกลวง" ได้อารมณ์มากเลยครับ