ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

The Reunion : มิตรภาพ สายสัมพันธ์ ความปรารถนา ตอนที่ 2

เริ่มโดย Joepure~☆, พฤศจิกายน 01, 2022, 06:29:01 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Joepure~☆

คุยก่อนอ่าน:
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ในตอนแรกนะครับ
ดีใจที่หลายคนชอบและรอติดตาม
จึงพยายามเร่งเขียนจนออกมาเป็นตอนนี้
หวังว่าจะถูกใจและติดตามกันต่อไปนะครับ


####################


ความเดิมตอนที่แล้ว:

โจ หวาน จิ๋ว
เพื่อนสนิทสมัยมัธยมได้เจอกันในงานเลี้ยงรุ่น
หลังผลัดกันเล่าเรื่องต่างๆ ช่วงที่ห่างกันไป
ก็มาถึงคิวของหวาน สาวนักเรียนนอกคนสวย
โดยค้างไว้ที่เรื่องความรักกับหนุ่มต่างชาติ


####################


The Reunion : มิตรภาพ สายสัมพันธ์ ความปรารถนา ตอนที่ 2

"ว่าแต่หวานเถอะ อยู่เมืองนอกตั้งหลายปี มีหนุ่มฝรั่งคอยดูแลหัวใจแล้วหรือยังเนี่ย"

หลังถูกตั้งคำถามโดยไม่ทันตั้งตัว สาวหวานนั่งนิ่งพร้อมสังเกตอากัปกิริยาของเพื่อนทั้งสอง ตัวคนถามนั้นดูอยากรู้คำตอบจนออกนอกหน้า ในขณะที่อีกคนแม้พยายามทำเฉยแต่ก็ดูออกว่ามีความอยากรู้ไม่แพ้กัน เมื่อเห็นว่าคงเลี่ยงคำตอบไม่ได้เธอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องส่วนตัวตอนใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศออกไป

"ตอนนี้หวานก็มีคนที่กำลังคบหากันอยู่ เป็นฝรั่งนั่นแหละ แต่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชีย ชื่อว่าเอริค" หวานพยายามตอบให้กระชับที่สุด แต่เพื่อนสาวขี้สงสัยกลับยิงคำถามใส่ไม่หยุดซึ่งเธอก็เลือกที่จะเล่าอย่างไม่ปิดบัง

หวานได้รู้จักกับเอริคตั้งแต่วันแรกของการทำงาน เพราะเขาเป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและคนสอนงานให้เธอ แม้จะมีอายุมากกว่าเกือบ 2 ปีแต่เขาก็ให้ความเป็นเองกับเธอจนสามารถปรับตัวกับชีวิตการทำงานได้อย่างรวดเร็ว เรื่องมาพีคเอาตรงที่หลังทำงานร่วมกันมาเกือบ 2 ปี เอริคก็ถูกโปรโมตขึ้นเป็นฝ่ายบริหารพร้อมมีการเปิดเผยว่าเขาเป็นหลานชาย 1 ในหุ้นส่วนสำคัญของบริษัท พร้อมกับการที่เธอก็ถูกดึงมาเป็นผู้ช่วยของเขาเพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับฝ่ายปฏิบัติการ ดีที่วัฒนธรรมของชาติตะวันตกให้ความสำคัญเรื่องผลงานมากกว่าความอาวุโสเธอจึงไม่มีปัญหาในความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดนี้

แม้ต้องทำงานอย่างใกล้ชิดแต่ความสัมพันธ์ระหว่างหวานกับเอริคก็ยังมีสถานะแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น เนื่องจากข้างกายของเขาจะมีสาวสวยหลายสัญชาติคอยดูแลอยู่เสมอ แม้ส่วนใหญ่แต่ละนางจะมีเวลาดูแลกันไม่ถึงปีก็ตาม แต่เธอก็ดูจะแตกต่างจากลูกน้องคนอื่นตรงที่สามารถโต้แย้งการตัดสินใจของเขาได้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเขาก็ดูจะถูกใจกับบทบาทนี้ของเธออยู่ไม่น้อย จนกระทั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้วเอริคเป็นฝ่ายขอเริ่มคบหาดูใจกับเธอ ซึ่งแน่นอนว่าความเจ้าชู้ที่ผ่านมาทำให้หวานปฏิเสธทันที แต่ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปพร้อมเหตุผลรองรับว่าเขาต้องการคนที่รู้ใจทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำให้หลังจากถูกจีบมาเกือบปีเธอจึงเปิดใจและเริ่มต้นความสัมพันธ์ในแบบคนรักกับเขา

"นี่มันพล็อตซีรี่ย์ชัดๆ" จิ๋วอดแซวเรื่องราวความรักของหวานไม่ได้ โดยที่คนถูกแซวก็รู้สึกไม่ต่างกัน แต่ก่อนจะได้ลงรายละเอียดมากไปกว่านั้น เพื่อนคนอื่นๆ ก็ทะยอยแวะเวียนมาพูดคุยกับพวกเขาทั้ง 3 คน ทำให้หัวข้อการสนทนาส่วนใหญ่เปลี่ยนไปเป็นเรื่องทั่วไปของแต่ละคนแทน จนกระทั้งถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้ายเนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์การทำงาน

"จิ๋วกับหวาน กลับพร้อมโจก็ได้ ทางผ่านพอดี" โจเสนอตัวเป็นสารถีทันทีเมื่อรู้ว่าเพื่อนทั้งคู่จะเดินทางกลับด้วยรถไฟฟ้า แถมคอนโดของทั้งสองสาวยังอยู่ทางเดียวกัน  ทั้งคู่ชั่งใจอยู่ชั่วครู่จึงตัดสินใจตอบตกลง

ระหว่างทางเจ้าของรถเป็นฝ่ายถูกรุมตั้งคำถามต่อเนื่องโดยเฉพาะเรื่องราวความรัก ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับตามตรงว่าเคยใช้ชีวิตโสดอย่างสุดเหวี่ยงมาก่อน แม้ตอนนี้จะเพลาลงมากแล้วแต่ก็ยังไม่คิดจะจริงจังกับใครทั้งที่วัยพ้นหลัก 3 มาแล้วก็ตาม

หลังส่งจิ๋วที่หน้าคอนโด หัวข้อสนทนาจึงเปลี่ยนมาเป็นการระลึกความหลังระหว่างโจกับหวาน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พวกเขารับหน้าที่เป็นตัวแทนของโรงเรียนทั้งตอน ม.5 และ ม.6 จนกระทั้งเมื่อฝ่ายชายนึกอะไรบางอย่างได้จึงตัดสินใจยื่นสมาร์ทโฟนใส่มือฝ่ายหญิง

"แอดไลน์กับเฟสมาเลย" ชายหนุ่มร้องขอให้อีกฝ่ายเพิ่มเพื่อนทางโซเชียลมีเดียร์ ซึ่งเธอก็รับมาจัดการตามสั่งอย่างว่าง่ายก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมากดยอมรับเพื่อนจากทั้ง 2 ช่องทาง

"แล้วได้เฟสโจจากจิ๋ว ทำไมไม่ยอมทักมาละ" โจเอ่ยถึงเรื่องที่ยังค้างใจมาตั้งแต่ภายในงาน

"ก็ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์วันนี้เลยไง" หวานแก้ตัวด้วยความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะยอมรับว่าวันแรกเธอไล่ไถฟีดดูไลฟ์สไตล์ของเขาจนเพลิน แต่หลังจากวันนั้นเธอก็ตั้งใจจะแอบส่องชีวิตเขาอย่างเงียบๆ ต่อไป เพื่อดูว่าเพื่อนคนนี้เปลี่ยนไปจากเมื่อ 10 กว่าปีก่อนขนาดไหน ซึ่งก็ได้พบว่าเขายังคงเป็นคนสนุกสนาน คิดอะไรแง่บวกเสมอ เป็นที่พึ่งให้เพื่อนๆ ได้ แถมก็ยังคงชอบดูฟุตบอลแต่เลือกที่จะเล่นบาสเหมือนเดิม แทบไม่มีอะไรต่างจากที่เธอเคยรู้จักเลย จะมีก็แต่เรื่องผู้หญิงที่ดูเปลี่ยนไปจากเด็กมอปลายที่สนใจแค่เพื่อนกับตำราเรียน

"โถ ไอ้เราก็นึกว่าตั้งใจแอบส่อง เลยไม่กล้าทักซะอีก" โจพูดทีเล่นทีจริงเหมือนอ่านใจเพื่อนเก่าที่เคยสนิทสนมกันออก

"จริงๆ ก็ส่องอยู่บ้างนะ ส่องจนรู้แหละว่าคอนโดของโจไม่ได้กลับทางนี้ ถ้าอยากมาส่งก็บอกกันดีๆ ก็ได้" หวานได้ทีจึงหยิบเรื่องที่สามารถจับคนโกหกไม่เนียนมาข่มใส่

"ทำไงได้ก็อยากขับรถมาส่งจะได้มีเวลาคุยกันอีกนานๆ นี่ก็ตั้งใจเลือกเส้นที่รถติดเยอะๆ เลยนะ ไม่เจอหวานตั้ง 10 กว่าปี มันก็คิดถึงเป็นธรรมดา" เมื่อเห็นว่าถูกจับได้จำเลยจึงรับสารภาพอย่างหมดเปลือย แต่ประโยคท้ายกลับทำให้หวานแปลกใจเพราะไม่คิดว่าคนที่ปากหนักอย่างเขาจะกล้าบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกมา

"รู้ม่ะตั้งแต่จิ๋วโทรมาบอกว่างานวันนี้หวานจะมาด้วย โจก็เอาแต่นึกถึงเรื่องราวระหว่างเรานะ แม้จะเป็นช่วงเวลาแค่ 2 ปีที่เราได้สนิทกันจริงๆ แต่ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นเยอะแยะเลย จนอดคิดไม่ได้ว่าตอนนี้หวานจะเปลี่ยนไปไหม ยังนิสัยเหมือนเดิมหรือเปล่า แล้วจะสวยขึ้นขนาดไหน" โจยังคงพรั่งพรูความรู้สึกออกมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้หวานได้ข้อสรุปว่าเพื่อนคนนี้นอกจากจะเปลี่ยนไปเรื่องผู้หญิงแล้ว ยังกล้าพูดถึงความรู้สึกของตัวเองกว่าแต่ก่อนมาก

"แล้วพอได้เจอเป็นไงล่ะ" หลังจากร่ายยาวอยู่นานนายโจก็หยุดลงอย่างตั้งใจ ซึ่งจังหวะแบบนี้หวานเห็นโจกับจิ๋วรับส่งมุกกันบ่อยๆ เธอจึงถามออกไปเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงตบมุกกลับมา

"เท่าที่คุยก็นิสัยเหมือนเดิม แต่ก็มีบางอย่างที่เพิ่มขึ้นนะ ทั้งความสวย แล้วก็...ตรงนั้น" เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวชงมุกให้มา โจจึงตัดสินใจตบมุกกลับไปโดยทิ้งจังหวะและใช้สายตาชี้อธิบายว่า 'ตรงนั้น' ที่ว่าก็คือหน้าอกของเธอนั้นเอง



หวานถึงกับอมยิ้มให้กับมุกที่ส่อไปทางทะลึ่งของโจ ถ้าคนนอกได้ยินอาจมองว่านี่เป็นมุกที่ดูคุกคามทางเพศ แต่สำหรับเธอนั้นรู้ดีว่าเพื่อนต้องการจะสื่ออะไร

สมัยเรียนขนาดของหน้าอกเป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจให้กับหวานอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อคนทั้งโรงเรียนรู้จักเธอเพราะความใหญ่ของมัน แทนที่จะเป็นเพราะความสามารถของเธอ หลายครั้งที่หวานมีอาการนอยด์เมื่อบังเอิญไปได้ยินคนอื่นเอาเรื่องหน้าอกของเธอไปพูดลับหลัง แล้วก็เป็นโจนี่แหละที่คอยพูดให้เธอสบายใจและมั่นใจกับสิ่งที่เป็น

ตอนนี้เธอไม่รู้สึกแง่ลบกับขนาดหน้าอกของตัวเองแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการมาใช้ชีวิตต่างแดนซึ่งความใหญ่ของเธอไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมสำหรับที่นั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของโจมีส่วนอย่างมากที่ช่วยให้หวานยอมรับตัวเองในที่สุด

มีคนเคยบอกว่าเมื่อเวลาผ่านไปความทุกข์ในอดีตจะกลายเป็นแค่เรื่องตลกในชีวิตของเรา ก็น่าจะจริง เพราะตอนนี้ทั้งคู่หยิบเอาเรื่องหน้าอกมาคุยกันอย่างสนุกสนาน

 

.......
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

onzoul

เมื่อก่อนแซวกันขำๆ เดี๋ยวนี้แซวกันกันแรงและจริงจังเกิน

txxt30


twchai


ryg123456

ต้องให้เข้ากับเรื่อง มาระลึกความหลังกันดีกว่าไหม


N.Namprasert


kpnttn


Pitor


chanky2007

เพื่อนกัน จะยังไงต่อ
ความหลัง ที่แอบซ่อนไว้คืออะไร

ขอบคุณครับ
คิดว่าดี ก็ทำไป

drblackjack


readder


zero008



mrzoom