ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เธอ ฉัน และ เขา 89

เริ่มโดย ✰✰✰ 𝓢𝓽𝓪𝓡𝓓𝓊𝓼𝓣 ✰✰✰, ธันวาคม 15, 2022, 12:15:50 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

✰✰✰ 𝓢𝓽𝓪𝓡𝓓𝓊𝓼𝓣 ✰✰✰

ต่อจากตอนที่แล้วโทนป่วยอาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่เหรอ แค่ไข้หวัดธรรมดาก็ทรมานจะแย่อยู่แล้ว เรารีบเกาะแขนพี่แมนเลย บอกพี่แมนน้องไปด้วยนะ น้องไม่เมาแล้วน้องอาบน้ำแล้ว เราพูดแล้วจ้องพี่แมนเลย เพราะอยากไปด้วยจริงๆ พี่แมนบอกเออๆๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีๆไป เราก็รีบเดินนะวิ่งไม่ได้ พ่อกับแม่ทำงานอยู่ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ลงมาเลย วิ่งไปหน้าบ้านพี่แมนก็รออยู่ที่รถแล้ว


พอขับรถออกจากบ้าน เราก็อึกๆอักๆอ่ะ กลัวโดนพี่แมนดุมากเลย... ถ้าสารภาพจะโดนน้อยลงไหมนะ. . . .  พี่แมนเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา เราไม่กล้าพูดเลย จนพี่แมนถามว่าเป็นอะไรไอ้หมิว หน้าบูดเป็นตูดลิงเลย เราก็อ้ำๆอึ้งๆ.. จนพี่แมนพูดว่า เอาเถอะไม่ต้องพูดหรอก เปิดแอร์ฉ่ำๆมาตลอดทางใช่ไหมล่ะ... เราเงียบ... ก่อนบอกอือ..  พี่แมนถอนหายใจเห้อ แล้วบอกช่างเถอะ แกขี้ร้อนอยู่แล้ว ไปดื่มมาอีกด้วย มันก็คงไม่แปลกหรอก


แต่ไอ้การกระทำบนห้องนั้นพี่ไม่เห็นด้วยนะ อันนั้นแกแกล้งมันแล้วล่ะ.. เราก็พูดเสียงอ่อยๆบอกน้องไม่ตั้งใจจริงๆนะพี่แมน ถ้ารู้ว่าโทนตัวร้อนแบบนั้นน้องไม่ทำแบบนั้นแน่ๆ พี่แมนใช้มือขยี้หัวเราะเบาๆสองสามทีแล้วบอกว่า ช่างเถอะ ถึงแกจะชอบแกล้งมันยังไง แต่แกก็ไม่ใช่คนอำมหิตที่จะรังแกคนป่วย ถ้าแกรู้พี่ว่าแกคงปิดไวกว่าพี่แน่นอน



และพี่เองก็ผิดด้วยที่ยอมให้มันไปรับแก แล้วทุกคนเคยไหมแบบว่าทุกคนไม่ว่าอะไร ทุกคนให้อภัย ทั้งพี่แมน ทั้งจ๋าพูดเหมือนกันหมดเลย ว่าที่เราเปิดแอร์ในรถเพราะเราร้อนมากจริงๆ แต่เราให้อภัยตัวเองไม่ได้จริงๆ น้ำตามันแบบไหลๆออกมาเองเลย เราบอกพี่แมนนะว่า แต่น้องให้โทนนั่งตากแอร์มาตลอดทางเลยนะพี่แมน คือพูดแล้วรู้สึกแย่มากเลยตอนนั้น น้ำตาก็ไหลทั้งๆที่มั่นใจว่าไม่ได้ร้องสะอื้นอะไร



พี่แมนก็บอกช่างเถอะพี่เองก็คิดว่าไม่หนักอะไรมาก ตอนแรกแค่ 37 หน่อยๆเอง พี่ก็ผิดเองด้วยนั่นแหละ พี่แมนเขาพยายามพูดปลอบใจเราน่ะ แต่เรารู้สึกแย่กับเรื่องที่เราทำมากๆเลยนะ ทุกคนคิดดูแล้วกันว่าจากที่พี่แมนพูดคือ 37 แต่แค่แปปเดียวไต่ขึ้นไป 39จะ 40 โทนต้องทรมานมากแน่ๆเลย เราทำอะไรไม่ดีอีกแล้ว



ตอนนั้นพี่แมนถามว่าแล้วระหว่างทางมันมีท่าทางพะอืดพะอม จะอ้วกอะไรไหม เราก็บอกว่าไม่มี แต่กลับบ้านมาแล้ววิ่งไปอ้วกหลังบ้านเหมือนที่พี่แจ๋วบอก พี่แมนก็บอกนะว่าลุ้นเอาว่าจะอาหารเป็นพิษหรือไข้หวัดใหญ่ .. เราฟังแล้วยังไงมันก็ไม่ดีทั้งคู่อ่ะบอกตรงๆ.. ห่วงโทนมากเลย


มาถึงโรงพยาบาลพี่แมนก็โทรหาพี่จวบถามอยู่ไหน พี่จวบก็บอกยังอยู่ห้องฉุกเฉิน เราใจเสียเลยนะตอนนั้น คิดว่าผ่านมาตั้งนานแล้วทำไมยังไม่ออกจากห้องฉุกเฉินล่ะ เรารีบเดินตามพี่แมน จนเกือบจะวิ่งแซงแล้ว เพราะเราก็รู้ว่าห้องฉุกเฉินอยู่ตรงไหน พี่จวบนั่งรออยู่บริเวณนั้นน่ะ พอเขามองมาเห็นพวกเรามาถึง พี่จวบก็ลุกขึ้นมาเลย พี่แมนก็ถามหมอว่าไงมั่งพี่จวบ



ตอนนี้หมอยังดูอาการในห้องอยู่ครับคุณแมน ต้องดูแลใกล้ชิด พี่แมนเท้าเอวแล้วพูดว่าเห้อดีนะที่พามาโรงพยาบาลนี้ ถ้าให้มันไปโรงพยาบาลตามใจมันล่ะก็ป่านนี้คงยังต้องรอคิวอยู่เลยมั้ง เราฟังแล้วก็เขย่าๆพี่แมนถามว่าโทนจะเป็นไรไหมพี่แมน พี่แมนบอกไม่ต้องห่วงที่นี่เครื่องมือมีครบ หมอเก่งทุกคน


ถึงอาการจะยังไม่ดีขึ้นแต่ก็คงไม่แย่ไปกว่านี้ พี่แมนถามพี่จวบอีกว่าแล้วเมื่อกี้มีเจ้าหน้าที่ออกมาบ้างไหมพี่จวบ พี่จวบบอกมีออกมาครับ มาสอบถามอาการเบื้องต้น อาจจะตรวจว่าเป็นไข้เลือดออกด้วยไหมน่ะครับคุณแมน คือทุกคนเคยทรุดไหม อยู่ดีๆคือทรุดอ่ะ แค่เสี่ยงอาหารเป็นพิษ แค่เสียงไข้หวัดใหญ่ เราก็ใจไม่ดีแล้ว นี่เสี่ยงเป็นไข้เลือดออกด้วยเหรอ



พี่แมนก็เท้าเอวมองสอดสายตาเข้าไปข้างในห้องอ่ะ แล้วบอกไอ้โทนเอ๊ย มาเป็นแพ็คเกจเลยมึง เรานั่งเก้าอี้แล้วคือใจไม่ดีอ่ะตอนนั้น แปปนึงมีเจ้าหน้าที่ออกมาตากห้องฉุกเฉิน ถามหาญาติคุณ - ชื่อจริงโทน -  พี่แมนก็ลุกไปหาเลย แต่เรายังขาสั่นอยู่เลย ใจไม่ค่อยดี พี่แมนเข้าไปบอกผมครับ แล้วเจ้าหน้าที่คือตกใจนะ ยกมือไหว้สวัสดีค่ะคุณแมน พี่แมนรับไหว้แล้วถามน้องผมเป็นไงบ้างครับ เจ้าหน้าที่บอกให้ยาแล้วแต่ไข้ไม่ลดเลยค่ะ


พี่แมนก็มองเข้าไปข้างใน แล้วถามว่าจะมีอันตรายไหมครับ คือหลังจากนั้นเราจำรายละเอียดไม่ได้เลย หูอื้อ ตาเบลอไปหมด แบบรู้สึกแย่ไปหมด แล้วทั้ง 3 โรคที่โทนอาจจะเป็นคือมันร้ายแรงนะ จนพี่แมนมาสะกิด เห้ยไอ้หมิวเป็นไร เห้ยไอ้หมิว คือมันรู้สึกเหมือนเสียงพี่แมนค่อยๆเพิ่มขึ้นเหมือนหมุนปุ่ม volume อ่ะ จนเราหันไปมองพี่แมน พี่แมนถามเห้ยเป็นไร เราส่ายหน้าบอกไม่เป็นไร โทนล่ะพี่แมน พี่แมนบอกไข้ยังไม่ลด ต้องรอดูอาการก่อน


เราเกาะแขนพี่แมนถามโทนจะหายไหมพี่แมน จะหายไหม พี่แมนบอกมันแข็งแรง เดี๋ยวก็หายดี เราก็แบบถึงจะได้ยินแบบนั้นแต่มันก็ยังกังวลน่ะ ทุกคนลองคิดในมุมมองเราอ่ะ โทนเป็นคนที่แข็งแรงมากๆ ออกกำลังหายหนักแค่ไหน ยืนหอบแฮ่กๆ แปปเดียวร่างกายก็เหมือนรีเฟรชมาอ่ะ ขนาดโค้งที่แม่ฮ่องสอนยังทำอะไรโทนไม่ได้เลย แต่โทนตอนนี้เป็นไข้แล้วสภาพมันแย่อ่ะ อีกแปปพยายาลก็ถืออะไรมาไม่รู้นะ



เขาถามญาติคุณโทนนะคะ พี่แมนตอบครับแล้วก็ชิงถามต่อไปอีกว่า นี่ต้องตรวจไข้เลือดออกด้วยเหรอครับ เจ้าหน้าที่บอกค่ะ และตอนนี้คนไข้มีไข้ขึ้นสูงค่ะ ถามตอบอะไรอาจจะได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน เลยอยากมาขอข้อมูลเพิ่ม เราก็หันมองหน้าพี่แมนเลย พี่แมนบอกเรามันเป็นเรื่องปกติแหละไอ้หมิว ไข้จะ 40 อยู่แล้วมันจะเพ้อก็ไม่แปลก ไอ้ที่มันคุยกับพวกเราได้ที่บ้านแบบปกตินั่นแหละที่แปลก



เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าพูดคุยด้วยเหรอคะ พี่แมนบอกครับ แล้วก็ถามว่าตอนนี้น้องผมมีอาการเพ้อไหมครับ เจ้าหน้าที่บอกไม่ถึงขั้นเพ้อค่ะ แค่ตอบช้าตามอาการไข้ปกติค่ะ พี่แมนบอกอื้มครับ แล้วขั้นตอนการรักษาล่ะครับ คุณเจ้าหน้าที่บอกว่าตัวเขาอ่ะไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เพราะยังไม่แน่ใจว่ามีอาการแทรกซ้อนไหม คือเราฟังแล้วหลงๆลืมๆช่วงนี้อ่ะ ใจเรามันกลัวผวาไปหมด



ขออย่างเดียวอย่าเป็นไข้เลือดออกเลยนะ พี่แมนบอกว่าถ้าอาการไม่ได้ร้ายแรงมากก็ช่วยย้ายไปห้องพักส่วนตัวเลยนะครับ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ถามว่าห้องเดิมหรือเปล่าคะ พี่แมนนิ่งไปแปปนึงแล้วบอกว่าไม่ครับ ขอแค่เป็นห้องพักส่วนตัวก็พอ ไม่ต้องระดับเดียวกับที่ผมเคยมาใช้บริการ



เราสะกิดๆพี่แมนจะถามว่าทำไมล่ะ ทำไมถ้าดีขึ้นแล้วไม่ให้พักแบบพวกเราเลย พี่แมนบอกว่าไอ้หมิวเอ๊ย ถ้าให้มันไปพักห้องแบบที่พี่เคยมาพัก มันนอนพื้นแน่ๆ ไอ้นี่บางทีมันก็ติดเกรงใจจนน่ารำคาญ เมื่อกี้ก็เกือบตวาดมันไปล่ะที่บ้าน พี่แมนหันไปบอกคุณพยาบาลว่า ยังไงซะถ้าน้องผมต้องแยกรักษาก็ ช่วยย้ายจากห้องรวมมาที่ห้องพักส่วนตัวอย่างที่ผมระบุไว้นะครับ


ซึ่งที่พี่แมนระบุเอาไว้เป็นแบบกลางๆอ่ะ เรียกว่าสูงกว่าระดับมาตรฐานนิดนึง แต่ก็ไม่สูงปรี๊ดแบบว่าห้องระดับ VIP อย่างที่พี่แมนบอกนั่นแหละถ้าเลือกห้องแบบนั้น เราก็คิดว่าโทนเองก็คงลำบากใจที่จะอยู่ แต่ถ้าให้ไปอยู่ห้องรวมก็คงไม่ได้ พี่แมนพูดว่าถ้าจำเป็นต้องมีพยาบาลดูแลก็แจ้งมาที่เบอร์ผมได้เลยนะครับ



เจ้าหน้าที่คนนั้นก็จดๆแล้วก็เดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินนั่นแหละ เราก็ไม่รู้นะว่าระเบียบการเป็นยังไงบ้าง เราแค่อยากให้โทนได้พักที่ส่วนตัวแค่นั้นเอง พี่แมนก็มองมาที่เราและมองข้ามมาที่พี่จวบแล้วถามว่า พี่จวบตอนพาไอ้โทนมาโรงพยาบาลมันเป็นไงบ้างครับ พี่จวบส่ายหัวแล้วบอกว่าไม่พูดอะไรเลยครับ จอดติดไฟแดงก็ได้ยินแต่เสียงหอบ พี่แมนถามมีอาการพวกจะอ้วกไหมครับ พี่จวบบอกมีครั้งนึงครับ ต้องจอดข้างทางแล้วให้อ้วกตรงต้นไม้



ยิ่งฟังเราก็ยิ่งรู้สึกแย่อ่ะทุกคน เราก็ไปเกาะประตูห้องฉุกเฉินอ่ะ แต่ไม่เห็นโทนเลย ตอนนั้นพี่จวบก็บอกนะว่า คุณแมนกลับก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมดูตรงนี้เอง พี่แมนก็หันไปบอกว่ายังไงผมก็รบกวนด้วยนะพี่จวบ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมขับรถไปทำงานกับพ่อเองครับ ยังไงก็ฝากจัดการตรงนี้มีอะไรก็โทรมาบอกผมเลย พวกเรื่องการย้ายคนไข้ มีคนคอยดูแลอยู่แล้ว พี่จวบตอบครับ ฝากคุณแมนลางานให้ผมกับคุณผู้ชายด้วยนะครับ


พี่แมนบอกไม่ต้องหรอกพี่จวบเรื่องแค่นี้เอง แล้วพี่แมนก็เรียกเราให้กลับบ้าน เราก็ไม่อยากกลับนะ แต่พี่แมนก็บอกว่าอยู่แล้วแกจะไปทำอะไรได้ไอ้หมิว ก็เป็นหมอหรือไง เราก็เถียงไม่ออกเลยอ่ะ ได้แต่บอกพี่จวบว่าถ้ามีอะไรโทรมาบอกด้วยนะ แล้วเรากับพี่แมนก็ออกมานั่นแหละ กลับมาถึงบ้าน



ก็มีแม่ที่รอพวกเราอยู่ เราก็เดินไปกอดแม่อ่ะ เพราะรู้สึกแย่ไปหมดขอกอดแม่ให้รู้สึกดีขึ้นหน่อย เรากับแม่นั่งลงที่โซฟาแม่ก็ถามว่าเจ้าโทนเป็นไงบ้าง พี่แมนก็บอกว่ายังมีไข้สูงครับ ตอนที่ออกมาจากโรงพยาบาลยังไม่ลดเลย แม่ก็บอกเป็นไข้หรือเปล่า เพราะวันสองวันนี้เห็นว่าทำกิจกรรมกับน้องปี1 ไม่ใช่เหรอ


พี่แมนบอกว่าก็มีส่วนครับแต่ไม่แน่ใจอะไรเลยครับแม่ นี่ก็ให้ตรวจหาไข้เลือดออกเผื่อไปด้วย เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน ต้องรีบตรวจจะได้ไม่ใช้เวลานานและถ้าเกิดเป็นไข้เลือดออกจะได้รักษาได้ทันที แม่เราก็บอกอื้มก็น่าห่วง เพราะไม่รู้ว่าตอนอยู่มหาวิทยาลัยไปนั่งให้ยุงกัดไหม



เราก็ฟังแล้วได้แต่กอดแม่นั่นแหละ ทำอะไรไม่ได้เลยตอนนี้ แม่ก็ถามว่าเจ้าหมิวเป็นอะไรหืมลูก เราก็ไม่ตอบได้แต่ส่ายหัว พี่แมนก็บอกว่า ไอ้โทนถึงมือหมอแล้วไอ้หมิว แม่ก็ลูบหัวเราเบาๆแล้วบอกว่าป่ะๆ หนูไปพักผ่อนได้แล้ว แม่ก็จะพักผ่อนเหมือนกัน พรุ่งนี้แม่ต้องเข้าบริษัทกับพ่อ


พอพูดมาตรงนี้พี่แมนก็พูดว่า แม่ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้คนในทีมมาขับรถให้แทนก่อนนะครับ ผมให้พี่จวบเฝ้าดูอาการของไอ้โทนอยู่ แม่เราก็บอกอื้มไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ แล้วแม่ก็แตะแขนเราแล้วบอกลุกไปนอนพักได้แล้วเจ้าหมิว ไปอาบน้ำอีกรอบก็ดีนะลูก เราก็งืมค่ะแม่



แล้วพี่แมนก็เหมือนจะไปจัดการโทรหาใครสักคนในทีมมั้ง แม่ก็ขึ้นห้องไปพัก เราก็เดินกลับไปที่ห้องนอน เราก็ไม่ได้อาบน้ำหรอกมันเหนื่อยจนอาบไม่ไหว พอตื่นเช้ามาเราก็ลงมาข้างล่างอ่ะวันนี้มีเรียนเช้า พอลงมาพ่อ แม่ พี่แมน ก็นั่งกันก่อนแล้ว เราก็รีบมากินข้าวเหมือนกัน เพราะเรามีเรื่องที่ตั้งใจอยากจะคุยกับพ่อ



พอทานข้าวกันหมดแล้ว เราก็บอกว่าพ่อคะหมิวมีเรื่องอยากคุยด้วย พ่อก็มองเรา มองแม่ มองพี่แมน แล้วแม่กับพี่แมนก็บอกว่าเดี๋ยวไปรอที่รถนะ แล้วสองคนก็พอกันออกไป พ่อก็มองมาที่เราแล้วถามว่ามีอะไรจะคุยกับพ่อเจ้าหมิว เราก็บอกว่า.. พ่อคะ เรื่องทำโทษโทนพ่อช่วยเว้นไว้สักครั้งได้ไหมคะ ตอนนี้โทนไม่สบายมากด้วย


แต่พ่อก็ตอบว่าไม่ได้ สั้นๆคำเดียวเลยทุกคนว่าไม่ได้ เราก็ขยับไปนั่งใกล้ๆพอนะ แล้วถามว่าทำไมล่ะคะพ่อ พ่อก็บอกว่า ป่วย ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่รับโทษนะเจ้าหมิว ไม่งั้นใครที่ทำผิดอะไรมาแค่อ้างว่าป่วยหรือไม่สบายก็รอดพ้นไปหมดน่ะซิ่ แต่เรื่องการลงโทษเจ้าโทนน่ะพ่อจะพักไว้ก่อน ให้หายดีก่อน


เราก็ถามว่าเว้นไปไม่ได้จริงๆเหรอคะพ่อ พ่อย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้ เพราะการลงโทษเจ้าโทนไม่ใช่แค่การลงโทษที่ตัวเจ้าโทน แต่เป็นการทำให้เห็นว่าคนที่ทำผิดไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องได้รับบทลงโทษ เราก็บอกว่าแต่มันไม่ยุติธรรมเลยนะคะพ่อ ทั้งๆที่โทนทำไปเพื่อช่วยผู้หญิงคนนั้นอ่ะ พ่อบอกว่าพ่อรู้ แต่คนอื่นเขาไม่ได้คิดแบบเรา


มันอาจจะขัดใจหนูนะเจ้าหมิว แต่ว่าการที่พ่อต้องบริหารองค์กรมีคนใต้ปกครองเป็นร้อยๆ ถ้าพ่อไม่ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมันก็จะเกิดข้อครหาเกิดขึ้น การเว้นโทษให้เจ้าโทนมันอาจจะทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำได้ แต่ถ้าเราจัดการลงโทษคนที่ทำผิดอย่างเหมาะสมทุกคน สังคมในบริษัทที่รับรู้ว่ามีการลงโทษแล้ว ก็จะตัดสินเองว่าจริงๆแล้วใครที่ควรโดนและใครที่ไม่ควรโดนลงโทษ



ถึงตอนนั้นเสียงส่วนใหญ่นั่นแหละที่จะช่วยคนที่ถูกต้อง การลงโทษจากพ่อนั้นเป็นแค่การยื่นช๊อยส์ให้คนในองค์กรเอาไปคิดกันเองว่าเจ้าโทนสมควรโดนลงโทษไหม และเพราะอะไรพ่อถึงลงโทษ ลงโทษเพราะชกต่อยและทำไมต้องชกต่อย ชกต่อยไปทำไม


เมื่อความคิดของคนในองค์กรตกผลึกโดยไม่มีอคติก็จะรู้เองว่าเจ้าโทนนั้นอาจจะไม่ได้ทำอะไรเกินไปก็ได้ เราฟังเราก็รู้แหละว่าพ่อทำเพื่อโทนด้วย แต่เราก็บอกว่า... แต่ถ้าเราไม่ลงโทษก็ไม่มีใครรู้นี่คะ พ่อลูบหัวเราแล้วบอกว่า เจ้าหมิวการจะบริหารคนได้ ต้องเริ่มจากการบริหารความซื่อสัตย์ในตัวเราเองก่อนนะ



เราพยักหน้าแล้วบอกค่ะพ่อ เราถามนะว่าแล้วจะลงโทษโทนยังไงเหรอคะ พ่อเรามองเราแล้วยกกาแฟจิบ พอวางลงท่านก็พูดว่าตอนนี้พ่อก็ยังไม่รู้นะ เราก็พูดอ้าว. . .  พ่อบอกว่าการช่วยเหลือคนเป็นเรื่องที่ดี เรื่องนี้พ่อเห็นด้วยกับเจ้าโทนที่ ใช้ความสามารถที่ฝึกฝนมาเข้าไปช่วยปกป้องคนที่กำลังจะบาดเจ็บ แต่เพราะมีเรื่องการใช้กำลังทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บนั่น เรื่องมันเลยออกมาเป็นแบบนี้


พ่อบอกว่าต้องหาบทลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำนั่นแหละ ถ้าลงโทษเบาไปเกินไป เจ้าโทนก็จะไม่เข็ดไม่จำและใช้กำลังอีก แต่ถ้าลงโทษแรงเกินไป ก็อาจจะทำให้เจ้าโทนฝังใจก็ได้ว่าการช่วยเหลือคนมันจะทำให้เจ้าตัวได้รับความเดือดร้อนไปด้วย เพราะงั้นก็คงต้องหาบทลงโทษที่เหมาะสมตามที่พ่อบอกนั่นแหละเจ้าหมิว

 


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

❖SynchroNight❖

#1
ปู่..ปู่มาเยี่ยม!!?!!

marco35

สงสารเจ้าโทนไข้ทีหนักเลย

[email protected]


jeab2504

โทนหายไข้กลับมาเจ้หมิวคงขอโทนแบบจริงๆแล้วละ

eltas007

#5
แหม๋ๆ มีมาขอให้ยกโทษให้ด้วยหน้ารักจังเลยเจ้หมิว

-------------------------------------------------
เอาแล้วปู่มาจัดการเจ้หมิวชอบแกล้งหลานรักโดนดีแน่

winpooh


acropobia899

#7
น่าสงสารมากท่านโทน นานๆป่วยที ก็มักจะหนักหน่อยจริงๆ

หนักใจแทนคุณท่าน หาบทลงโทษที่เหมาะสม ไม่รุนแรงและเบาเกินไปยากมากๆ


ที่เหมือนผู้หญิงมาเฝ้า จะเป็นใครหรืออะไรครับเนี่ย
แล้ว ปู่ ปู่นี่พ่อของพ่อ หรือปู่เจ้าที่เจ้าทาง

Joepure~☆

#8
รอบนี้เจ๊หมิวน่าจะรู้สึกผิดมากนะ
มีน้ำตาหยดเลย

ท่านประธานจะให้บทลงโทษออกมายังไงเนี่ย


Edit: ระดับปู่มาเองเลย!!


bigmut


ศุภกร นอนน้อย

ชอบความคิดคุณพ่อหมิวจัง จะมีกี่คนที่คิดเผื่อลูกน้องแบบนี้

singkanong

เจ๊หมิวเครียดเลยความเก่ายังไม่ได้ขอโทษความใหม่มาอีกแล้วจะทำไงให้เจ้าลิงโทนเห็นว่าขอโทษด้วยใจและยอมให้อภัยโจษยากไหมเจ๊

Ricebird526

เป็นการสอนการบริหารองค์กรที่ดี

Pong Sak

ตอนนี้ห่วงโทนมากกว่าว่าจะเป็นไข้อะไร

guang_k

#14
อาการหนักเลยคุณโทน ถึงมือหมอตั้งนานแล้วยังจัดการไข้ให้ลดลงไม่ได้
บทลงโทษนี้สำคัญจริงๆ ไม่ทำก็ไม่ได้ ทำก็กำหนดระดับยากตามที่คุณท่านบอกเลย

โหคุณหมิวก็เห็นจะๆ ด้วยเหรอนี่ ผมเดาว่าปู่ที่พูดถึงนี่หมายถึงปู่เจ้าที่นะ ไม่น่าจะหมายถึงพ่อของพ่อทศ
ฉากที่มีผู้หญิงมาเฝ้านี่นึกถึงแม่การะเกตุมาเฝ้าริวกะเลย แต่ของคุณโทนเป็นใครกันนะ