ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ภารกิจกามเทพ 1/6

เริ่มโดย katalun, มกราคม 04, 2023, 02:17:37 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

katalun

สวัสดีปีใหม่ครับ

ภารกิจกามเทพ 1/6


   "แต่ตาต้นเค้าพึ่งจะอายุ 18 เองนะดา แล้วแกจะไม่ให้ชั้นโมโหได้ยังไงกัน? " มินตราแผดเสียงเดือดดาล เดินกระฟัดกระเฟียดไปมาอย่างหัวเสียพร้อมกับระบายอารมณ์ให้ดาหวันเพื่อนรักฟังเมื่อรู้ว่า "ต้นกล้า" หายไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนผู้หญิง 2 ต่อ 2 นานเป็นสัปดาห์แล้ว

   "ใจเย็นๆสิยัยมิน เรื่องมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แล้วถึงมันจะมีอะไรๆ ชั้นก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องแปลกอะไรเลยนี้ ตาต้นเองก็โตเป็นหนุ่มซะขนาดนี้แล้ว ตอนแรกชั้นก็นึกว่าเค้าจะเป็นเกย์เสียแล้วด้วยซ้ำ อันที่จริงแล้วเรื่องนี้แกควรจะดีใจมากกว่านะที่ลูกชายคนเดียวของคุณท่านสนใจผู้หญิงน่ะ ท่านเองก็จะได้มีหลานสืบสกุลต่อไปได้ไง แล้วแกจะมาหงุดหงิดเรื่องอะไรไม่ทราบหล่ะยัยมิน" ดาหวันตอบกลับมินตราเพื่อนรักของเธออย่างใจเย็น สายตาก็ยังง่วนอยู่กับการเซ็นเอกสารงานกองใหญ่ตรงหน้า เธอนั่งเซ็นไปพลางแล้วก็พูดปลอบใจมินตราไปพลาง

   "ตะ...แต่...แต่...แต่มันก็เร็วไปหรือเปล่าหล่ะ? ต้นเค้าพึ่งจะอยู่ปี 2 เองนะ ชั้น...ชั้น...ก็แค่อยากจะให้เค้าสนใจเรียนมากกว่าเรื่องอื่น อีกอย่าง...ชะ...ชั้น...ชั้น...ชั้นเป็นห่วงเค้าน่ะ ชั้นกลัวว่าตาต้นเค้าจะได้ผู้หญิงที่ไม่ดีมาเป็นแฟน...ชั้นเป็นห่วงเค้า"

   ดาหวันอมยิ้มฟังเพื่อนสาวที่ออกอาการตะกุกตะกักอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะวางงานบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมาจ้องมินตราเพื่อนรักแล้วเอ่ยปากถามอย่างจริงจัง

   "มันแค่นั้นจริงๆเหรอ?...มินตรา?" ดาหวันถามจี้จุดเพื่อนรักอย่างคาดคั้น

   "อะ...อะไร...?..." มินตราเอียงหน้าหนีหลบสายตาของดาหวัน

   ดาหวันยิ้มอ่อนส่ายหน้า เธอกับมินตรานั้นเป็นเพื่อนรักผูกพันธ์กันมานาน เกิดก็วันเดียวกัน สถานที่เกิดก็โรงพยาบาลเดียวกัน บ้านก็อยู่ติดกัน อนุบาล ประถม มัธยม มหาลัยก็แทบจะอยู่ที่เดียวกันมาตลอด เรียกได้ว่าอยู่ด้วยกันราวกับพี่น้อง กะอีแค่ใจเพื่อนทำไมเธอถึงจะไม่รู้

   "ยัยมิน.....ชั้นกับแกเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิด แค่มองชั้นก็รู้แล้วว่าแกรู้สึกยังไงกับตาต้น แล้วนี่ตาต้นก็เองก็โตขึ้นทุกวันๆ ถ้าแกยังไม่ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวแกเอง ระวังให้ดีเถอะน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า" ดาหวันเตือนสติเพื่อนสาวอย่างจริงจัง  ให้ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเอง

   "ชะ...ชั้น...ชั้น" มินตราออกอาการอ่ำอึ้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาหวันพยายามคาดคั้น ไล่ต้อนเธอในเรื่องนี้ แต่ทุกครั้งมินตราก็เลือกที่จะเลี่ยงไม่พูดถึง หรือพยายามเฉไฉไปเรื่องอื่นเพื่อกลบเกลื่อน ทว่าครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆ แล้ว เพราะต้นกล้าเองก็โตเป็นหนุ่มหล่อและเริ่มที่จะมีความสนอกสนใจต่อเพศตรงข้ามอย่างจริงจัง หนักถึงขั้นยอมทะเลาะกับเธอแล้วหนีหายไปเที่ยวกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้สองต่อสอง

   มินตรารู้ตัวดีและพยายามย้ำเตือนกับตัวเองอยู่เสมอ ว่าต้นกล้าจะต้องเติบโตและออกไปมีครอบครัวเป็นของตัวเองในซักวันนึง แต่กะอีแค่เค้าจะมีแฟนเข้าจริงๆ มินตรากลับทำใจยอมรับมันไม่ได้ 

   "ไร้สาระหน่าดาหวัน...แกก็รู้นี่...ว่าชั้นกับต้นเป็นอะไรกัน" มินตราหน้าเศร้าลงทันที

   "โธ่เอ้ย!!! แกก็แค่แม่เลี้ยง อายุก็ห่างกันก็แค่ 10 ปี แกน่ะมัวทำแต่งาน อยู่แต่กับบ้าน ลองออกไปดูโลกข้างนอกบ้างซิ เค้าไปถึงไหนกันแล้ว"

   "ตะ...แต่ว่า"

   "ไม่ต้องมาตงมาแต่อะไรแล้ว เอายังงี้นะยัยมิน ชั้นถามแกจริงๆ ถ้าตัดเรื่องความสัมพันธ์ของแกกับต้นออกไป เหลือแค่ว่าเค้าเป็นผู้ชายคนนึงแล้วแกเป็นผู้หญิงคนนึง แกคิดยังไงกับเค้ากันแน่" ดาหวันกุมมือมองหน้าพร้อมถามความรู้สึกลึกๆของมินตรา


   มินตรานั่งคิดทบทวนเรื่องราวตามที่เพื่อนรักของเธอบอก ในอดีต เพราะความจำเป็นทางบ้านของมินตรา ทำให้เธอต้องมาแต่งงานตั้งแต่อายุ 14ย่าง15 กับเศรษฐีวัยชราที่เธอมักจะเรียกว่าคุณท่าน ไม่เคยที่จะได้มีความรักอะไรจริงๆจังๆกับใครเค้าหรอก  พอแต่งงานผ่านไปได้ไม่ถึง 1 ปี สามีเศรษฐีที่พึ่งแต่งงานก็มาด่วนจากไป ทิ้งลูกชายคนเดียววัย 5 ขวบไว้ให้เธอดูแล ส่วนทรัพย์สินและกิจการค้าขายที่คุณท่านเหลือทิ้งไว้ให้นั้นก็มากมาย และมั่นคงมากพอที่เธอจะไม่ต้องคิดอะไรมากไปชั่วชีวิต

   มินตรานั้นสำนึกและระลึกถึงบุญคุณของคุณท่านอยู่เสมอ สิ่งเดียวที่เธอพอจะทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านได้ก็มีแต่เพียงฟูมฟักดูแลต้นกล้าให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ แต่เหมือนว่าเธอจะดูแลต้นกล้ามาดีจนเกินไป เพราะว่าเค้าเติบใหญ่ขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ดีพร้อมทั้งรูปร่าง หน้าตา การกีฬา และการเรียน ไปจนถึงมารยาทความเป็นสุภาพบุรุษ เรียกได้ว่าไม่เคยทำให้มินตราผิดหวังเลยสักครั้ง

   ทั้งหมดนั้นทำให้ต้นกล้าเป็นผู้ชายที่น่าหลงใหลต่อเพศตรงข้ามถึงขนาดที่ดาหวันเพื่อนรักสุดเอ็กซ์ของมินตรายังตกหลุมเสน่ห์ต้นกล้า หลงแอบปลื้มเสียจนต้องแอบอ่อยแอบให้ท่าลูกเพื่อนอยู่บ่อยๆ นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นลูกเลี้ยงของมินตรา ดาหวันนั้นคงฉุดไปปล้ำทำผัวแล้ว

   ใช้แล้วปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ มินตราเองก็ไม่รู้ตัวว่าเมื่อไหร่กันนะที่เธอไม่ได้คิดกับเค้าเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว.....

   ใช่...ดาหวันเข้าใจถูกแล้ว...สาเหตุที่มินตราหงุดหงิดหลายครั้งหลายครา และค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องเพื่อนผู้หญิงของต้นกล้า ไม่ใช่เพราะเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่เธอมักจะยกเอามาอ้างกับดาหวันหรอก

   ต่อเมื่อลองสำรวจหัวใจลึกๆของตัวเองดูแล้ว มินตราก็พบว่าเธอแอบหึงลูกเลี้ยงของตัวเองเข้าให้แล้ว  คำถามของดาหวันเพื่อนรักมันช่างจี้เข้าตรงใจมินตราเสียเหลือเกิน เพราะถ้าให้ลองตัดความคิดเรื่องความสัมพันธ์ออกไปแล้ว มันก็จะเหลือแต่ความรักที่ผู้หญิงมีให้ผู้ชายคนนึงก็เท่านั้นเอง

   "แต่ชั้นกลัวน่ะดา ชั้นกลัวเค้ารับไม่ได้" มินตราเสียงอ่อย จนใจในความรู้สึกของตัวเอง จนต้องยอมสารภาพกับดาหวันกลายๆ พร้อมเผยสิ่งที่เธอหวาดหวั่นใจให้เพื่อนรู้

   "ก็แค่เนี๊ยะ ปากแข็งอยู่ได้ตั้งหลายปีนะมินตรา "ดาหวันยิ้มกว้างที่มินตราเพื่อนรักยอมรับกับเธอได้ซักทีว่าแอบหลงรักต้นกล้า

   "แล้วชั้นควรจะทำยังไงดี" มินตราเสียงอ่อยถามเพื่อนสาวที่ดูจะเจนจัดในเรื่องรักๆใคร่ๆมากกว่าเธอ

   "เอาอย่างนี้ซิ...แกก็หยั่งเชิงเบา ๆ ดูก่อน แล้วค่อยๆมองดูท่าทีของตาต้นเป็นไง"ดาหวันเสนอความเห็น แต่มินตราเองยังไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่

   "หยั่งเชิง? ยังไงหล่ะยัยดา?"

   "แกมานี่เลย" ดาหวันลากมินตราเข้าไปในห้องแต่งตัวของเธอ แล้วมุดเข้าไปในตู้เสื้อผ้าที่แสนจะมากมายมหาศาลอยู่นานสองนานแล้วหอบเอาเสื้อผ้าที่เธอเลือกไว้ออกมาวางกองอยู่ต่อหน้ามินตรา 

   "เอาชุดพวกนี้ไป"

   "โห...ดาหวัน ชุดอะไรของแกเนี่ย ทำไมมันถึงได้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยขาดหน้าขาดหลังขนาดนี้"มินตราหน้าแดงถึงกับต้องอุทานออกมาเพราะแต่ล่ะชุดที่ดาหวันเลือกออกมามันดูค่อนข้างจะโชว์เนื้อหนังมังสาวเอามากๆ

   "หยั่งเชิงไง"ดาหวันยิ้มชั่วร้ายให้กับมินตรา ยิ้มอย่างนี้ทีไรต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ

   "หมายความว่าแกจะให้ชั้นอ่อยตาต้นน่ะเหรอ"มินตราเริ่มเข้าใจความหมายที่ดาหวันพยายามจะสื่อแล้ว

   "แม่นแล้ว!!!  แต่ว่าแกจะทำตรงๆไม่ได้นะ ไม่งั้นไก่ตื่นหมด แกจะต้องทำอย่างไม่โจ่งแจ้งมากจนเกินไปแบบว่า "แอบอ่อย" อะไรอย่างเนี่ย แล้วแกก็ค่อยๆจับสังเกตอาการของตาต้นดูว่าเค้าสนใจเธอในฐานะผู้หญิงบ้างหรือเปล่า"

   แล้วดาหวันก็กอดอกอธิบายแผนเป็นฉากๆ โดยมีมินตรานั่งฟังแผนชั่วร้ายของเพื่อนสาวอย่างตั้งใจพร้อมๆกับหยิบชุดเหล่านั้นมาพิจารณา

==============================


   วันนั้นหลังจากมินตรากลับมาจากคอนโดของดาหวันในช่วงบ่าย ก็กลับมานั่งชั่งใจเวียนวนคิดถึงแต่เรื่องที่คุยกับดาหวันเมื่อตอนกลางวัน  นอกจากเรื่องเส้นแบ่งความสัมพันธ์แล้วมินตราก็ยังไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวเองด้วยซักเท่าไหร่นัก เพราะอีกไม่กี่เดือนกี่วันเธอเองก็จะเข้า30อยู่แล้ว

   เธอพยายามรวบรวมความกล้าอยู่นานสองนาน จึงลุกขึ้นยืนไปสำรวจตัวเองที่หน้ากระจก  ภาพสะท้อนกระจกตรงหน้า คือ หญิงสาววัยใกล้จะ 30 ที่ยังดูสวยสด และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่   ใบหน้ารูปไข่ ไร้ตีนกาไฝฝ้าราคี ผิวขาวเรียบนวลเนียนละมุนตา  สัดส่วน 36-26-40 นั้น ยังคงหนั่นแน่นทุกตารางมิลลิเมตร เมื่อรวมกับส่วนสูง 172 ซม. มันทำให้ดูสมส่วนมีทรวดทรงองค์เอวสะโอดสะโองหุ่นงามระหงราวกับนางแบบชั้นนำ

   มินตรานึกขอบคุณตัวเองเล็กน้อยที่ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว หมั่นไปออกกำลังกายตามที่ดาหวันเคี่ยวเข็ญ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และบำรุงผิวพรรณด้วยเครื่องประทินผิวอย่างดีทุกวันไม่เคยขาด  ตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจแล้ว ที่จะลองใช่เรือนร่างนี้แอบยั่วลูกเลี้ยงของตัวเองดู 


   คิดได้ดังนั้นจึงรีบเข้าห้องไปอาบน้ำชำระร่างกายอย่างละเอียด พลางสำรวจเช็คความเรียบร้อยของเรือนร่าง ดาหวันเพื่อนรักของมินตรามักจะแซวอยู่เสมอเรื่องความสวยของมินตรา แต่อย่างว่าผู้หญิงสวยแค่ไหนพออยู่ต่อหน้าคนที่ชอบความมั่นใจมักจะหดหายอยู่เสมอ แล้วแฟนของตาต้นก็คงจะต้องสวยมากๆ ถึงขนาดที่ทำให้เด็กดีอย่างเค้าใจแตกได้

    "ตาต้นจะสนใจชั้นบ้างไหมนะ"



==============================

   วันนั้นต้นกล้ากลับมาค่อนข้างดึกกว่าเวลาปกติอยู่พอสมควร คงเป็นเพราะเมื่อคืนก่อนหน้านั้น ทั้งสองคนพึ่งจะปะทะคารมกันไปอย่างหนักหน่วง  ตอนนั้นมินตราสาดอารมณ์ใส่ต้นกล้าอย่างไม่มีเหตุผลเลย  หลักๆแล้วก็คงเป็นเพราะความหึงหวงในตัวชายหนุ่มนั้นแหละ แหม...ก็มีสาวสวยหุ่นสะบึ้มขนาดนี้อยู่ใกล้ๆทั้งคนดันไม่คิดจะมองกันบ้างเลยมันก็น่าน้อยใจอยู่ 

   แต่ก็นั้นแหละ มินตราคิดว่าไม่แปลกเลยที่ชายหนุ่มจะโกรธจนไม่อยากเจอหน้า เหตุเพราะทะเลาะกันไปหนักขนาดนั้น  ดาหวันแนะนำให้มินตราอดทนรออย่างเข้าใจและสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ ก็คือทำให้ลูกเลี้ยงของเธอใจเย็นลงซะก่อน

   มินตรานั่งรอในความมืดอยู่นานสองนาน ในใจก็ชักจะหวั่นๆ จนกระทั่งเสียงลูกบิดประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน เป็นต้นกล้าที่ค่อยๆแง่มประตูช้าๆย่องก้าวเข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มคิดว่าดึกป่านนี้แล้วแม่เลี้ยงของเค้าคงเข้านอนไปแล้วหล่ะ ไม่รู้ว่าอยากหลบหน้ามินตราหรือกลัวอะไรกันแน่ แต่ทางมินตรานั่นอยากบวกกับต้นกล้าเต็มที่ ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบเปิดไฟในห้องโถงจนสว่างแสดงตัวจนต้นกล้าที่พึ่งก้าวเท้าเข้ามาในบ้านในไม่ทันสองก้าวถึงกับสะดุ้งโหย่ง หันมามองทางมินตราที่ยืนกอดอกอวบๆรออยู่


   สีหน้าต้นกล้าตอนแรกก็มีท่าทีหวาดกลัว แต่ก็แทบจะเปลี่ยนไปในเสี้ยววินาทีที่เห็นมินตราอยู่ในชุดนอนวาบหวิวอยู่ตรงหน้า เนื้อผ้าเรียบลื่นสีขาวไข่มุกมันวาววับ แม้ว่าชุดนี้จะค่อนข้างปกปิดทุกสัดส่วนมิดชิด แต่มันกลับเร้าอารมณ์อย่างที่สุด นั่นก็เพราะว่าชุดมันเรียบลู่แนบสนิทเข้าไปกับเรือนร่าง อวดสรีระส่วนสัดเว้าโค้งของมินตราออกมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะร่องรอยยอดปทุมถันบนเนินนมรางๆนั่นทำเอาต้นกล้าถึงกับเผลอจ้องมองไม่วางตา สายตาที่ชายหนุ่มจ้องมองมา ทำเอามินตราหน้าชาตัวร้อนวูบวาบ

   "กลับดึกเชียวนะเรา" มินตราเอ่ยปากถามเสียงเข้มนิดหน่อย

   "อะ...เอ่อ...ต้นมีซ้อมบอลนิดหน่อยน่ะครับ" ปากชายหนุ่มก็ตอบไป แต่สายตายังคงจ้องเขม็งมาที่มินตราอยู่ แต่หญิงสาวไม่โอเครเลยที่ลูกเลี้ยงของเธอยังโกหกเธออยู่อีก  มินตราไม่รู้หรอกว่าชายหนุ่มไปไหนมาแต่ที่แน่ๆไม่ใช่ไปซ้อมบอลแน่นอน

   "เหรอ...ไม่ใช่ว่าไปกับแฟนเราหรอกนะ" มินตราประชดใจก็นึกโทษตัวเองทันทีว่าไม่น่าปากไวเลย (โอ้ย...นี้ชั้นพูดอะไรออกไปเนี่ย..อยากจะเขกกะโหลกตัวเองจริงๆ บรรยากาศกำลังดีแล้วเชียว แต่มันก็อดโมโหไม่ได้จริงๆนี่หน่า)   

   "อะ...อะ..เอ่อ...ปล่าวครับ ต้นไปซ้อมบอลมาจริงๆ" ยังดีที่ชายหนุ่มมัวแต่ยืนตะลึงในความสวยงามของแม่เลี้ยงสาววัย 30 จนไม่ทันคิดเรื่องอื่น  โชคดีของมินตราที่ยังพอมีโอกาสแก้ตัวและเธอจะไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปอีก

   "เอาเถอะ....."มินตราพูดเสียเบาสูดหายใจเข้าปอดฟอดใหญ่รวบรวมความกล้า แล้วเยื้องกรายนวยนาดเข้าไปหาต้นกล้า คลายสองมือที่กอดอก แล้วเอามาจับแก้มต้นกล้าพร้อมพูดอย่างแผ่วเบา

   "เมื่อวานนี้ แม่ขอโทษนะ แม่เองก็ลืมไปว่าเราเองก็โตเป็นหนุ่มซะขนาดนี้แล้ว..." มินตราเว้นช่วงคำพูดเหลือบไปมองที่ช่วงล่าง แล้วไล่สายตาผ่านท้องน้อย แผงอกกลับมาที่หยุดที่ใบหน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะพูดต่อ

   "แม่จะไม่เจ้ากี้เจ้าการอะไรต้นอีกแล้ว ต้นอยากจะทำอะไร..........ก็ทำเถอะ........แม่จะไม่ว่าอะไรหรอก" มินตราส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้ม ทำเอาต้นกล้าตั้งตัวไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของมินตรา  ต้นกล้ามีส่วนสูงมากกว่ามินตราเล็กน้อย ทำให้สายตาที่มองไปยังมินตราอยู่ในมุมอันตรายที่จะเห็นร่องอกของมหึมาเบียดเสียดกันพอดิบพอดี ซึ่งแน่นอนว่ามินตราก็ต้องการอย่างนั้นอยู่แล้ว


   "อะ...เอ่อ...ม่ะ...ไม่เป็นไรครับ ต้นเองก็ผิด ทะ...ที่ไม่เชื่อฟัง อะ...เอ่อ..." ต้นกล้าเสียทรงอย่างเห็นได้ชัด พูดตะกุกตะกักหน้าแดงแปร๊ด

   "งั้นเราก็ดีกันแล้วนะ" มินตรายิ้มหวานเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ แถมสายตาและอาการของตาต้น ยังทำให้หัวใจของมินตราสูบฉีดเต้นตึกตักราวกับเด็กสาวแรกรุ่น

   "คะ...ครับ.......เอ่อ...ต้น ง่วงแล้วเดียวไปอาบน้ำนอนก่อนนะครับ" ต้นกล้าลุกลี้ลุกลนรีบถ่อยห่างปลีกออกจากตัวของมินตรา แล้วรีบเดินขึ้นบันไดเข้าห้องตัวเองไปเลย ปล่อยให้แม่เลี้ยงยังสาวอย่างมินตรายืนยิ้มมองตามอย่างพอใจที่เห็นอาการกระสับกระส่ายของลูกเลี้ยงสุดหล่อ ใจก็นึกว่าเธอจะเปิดตัวแรงเกินไปหรือเปล่านะ? 

   (ไม่รู้หล่ะ ไม่รู้ว่าตาต้น กับผู้หญิงคนนั้นไปถึงไหนกันแล้ว เราคงต้องเร่งทำคะแนนตามซักหน่อย) มินตราคิดอย่างนั้น

   เพราะอย่างนั้นปฎิบัติการแอบอ่อยลูกเลี้ยงของมินตรา จึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เสื้อผ้าแบบเดิมๆที่เคยเรียบร้อยปกปิดมิดชิดแบบผู้รากมากดี ถูกโล๊ะออกจากตู้เสื้อผ้าเอาไปบริจาคจนหมด ใจก็ตั้งจิตอธิฐานหวังว่าผลบุญจะหนุนนำให้ตัวเองสมหวัง

   สิ่งที่เหลืออยู่ในตู้เสื้อผ้าก็จะมีแต่ประเภทเซ็กซี่ ล่อแหลม วาบหวิว รัดหีรัดนมที่ดาหวันขยันไปสรรหามาให้มินตราสวมใส่เพื่อยั่วเจ้าลูกเลี้ยงตัวดี แล้วแต่ละแบบที่ดาหวันเลือกมา ก็ทำเอามินตราเองยังรู้สึกเสียววาบถึงกับน้ำซึมหว่างขา เพียงแค่คิดว่าต้องใส่ชุดพวกนี้ให้ลูกเลี้ยงเธอดู

   "มันโป๊ไปหรือเปล่ายัยดา เกิดเค้าลุกขึ้นมาปล้ำชั้นหล่ะจะทำยังไง"มินตราโทรถามดาหวัน ว่าจะให้เธอใส่ชุดพวกนี้จริงๆเหรอ

   "เอ๊า  ก็เข้าทางเลยสิแก ไม่ต้องเสียเวลาอ่อย คิกๆ"

   "อุ้ย...พูดบ้าอะไรของแกนะ..ยัยดา" มินตราตอบไป แต่ใจก็คิดอย่างที่ดาหวันพูดนั้นแหละ 

============================

   ทุกๆเช้า มินตราจะมายืนเลือกเสื้อผ้าอยู่นานสองนาน เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไร่ที่จะเลือกให้ยั่วยวนแต่ไม่โจ่งแจ้งจนเกินไปนัก ดาหวันก็เหมือนจะคำนวณเรื่องนี้ไว้แล้วจึงจัดเรียงเสื้อผ้าตามระดับความรุนแรงจากน้อยไปมากเอาไว้ให้ แต่ก็นั้นแหละชุดที่ดูเบาที่สุดที่ดาหวันจัดมาให้มันก็ยังดูรุนแรงมากอยู่ดี เมื่ออยู่บนร่างกายของมินตรา

   หลังจากคืนวันนั้น เสื้อผ้าที่มินตราใส่ก็ค่อยๆพัฒนาไปทีละสเต็ปตามที่ดาหวันจัดไว้ให้ ซึ่งเสื้อผ้าที่มินตราใส่มันก็เริ่มที่จะหดสั่นลงไปเรื่อยๆ จากแขนยาวเป็นแขนสั้น จากแขนสั้นเป็นแขนกุด จากขายาวเป็นสามส่วน จากสามส่วนเป็นขาสั้น จนผ่านไปได้หนึ่งเดือนก็เหลือเพียงเสื้อกล้ามคอคว้านลึกเปิดเนินนมกับกางเกงขาสั้นเสมอหูสุดฟิตเท่านั้นที่มินตราใส่เวลาอยู่บ้าน ไม่ต้องพูดถึงเวลากลางคืนที่เสื้อนอนของเธอเริ่มจะเบา เริ่มจะบางลงทุกทีจนบางครั้งก็เหมือนจะมองทะลุไปเห็นเสื้อในแล้วในบางวันที่มินตราในครึ้มอกครึ้มใจ


   แน่นอนว่ามินตราเองก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนของลูกชาย เพราะว่าเค้าเริ่มที่จะอยู่ติดบ้านบ่อยมากขึ้น หากไม่มีเหตุจำเป็น เช่น ต้องซ้อมกีฬาหรือติวหนังสือ ก็จะไม่ออกไปเถลไถลข้างนอกเหมือนเมื่อสองสามเดือนก่อนหน้านี้

   เวลาอยู่ด้วยกันหญิงสาวก็จะสังเกตเห็นว่าต้นกล้านั้นแอบลอบมองบั้นท้าย มองหน้าอกของเธออยู่เป็นประจำ แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรนักหรอก เพราะเป็นความตั้งใจที่จะแอบอ่อยให้ท่าอยู่แล้ว กลับกันเลยต่างหาก เพราะทุกครั้งที่ตาต้นแอบมอง เธอจะรู้สึกซาบซ่านอย่างประหลาด ความคิดลามกนี้เลยเถิดเตลิดไปไกลเสียจนหว่างขามินตราชุ่มช่ำเหนียวลื่นแทบจะทุกนาทีที่อยู่ใกล้ๆกันกับชายหนุ่ม จนบางวันทนไม่ไหวมินตราถึงกับต้องรีบหนีเข้าห้องไปล้วงหีตัวเอง พร้อมกับจินตนาการไปว่าต้นกล้านั้นทนไม่ไหวจับเธอถลกกางเกงกระหน่ำซอยกระเด้าหีไม่มียั้ง จนน้ำกระฉูดพรั้งพรูแทบทุกคืน

   ยิ่งนานวันมินตราก็ยิ่งรู้สึกถึงการมีอารมณ์ร่านร้อนในตัวเองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนพักหลังๆมานี้ หากมินตราพบว่าสบโอกาสและสะดวกเมื่อไหร่เธอก็พร้อมที่จะปลดเปลื้องอารมณ์ของตัวเองอยู่เสมอ ดูเหมือนว่าการสำเร็จความความใคร่ด้วยตัวเองจะเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างนึงที่ขาดไม่ได้ของมินตราไปเสียแล้ว


   และวันนี้เองก็เช่นกันที่เธอร้องเรียกตาต้นพร้อมเกี่ยวหีตัวเองจนแอ่นเกร็งน้ำพุ่งกระฉูด กระจายเปียกปอนเลอะห้องเลอะที่นอนเต็มไปหมด เธอหอบเหนื่อยนอนแผ่หรายอมรับจากใจเลยว่าความรู้สึกของตัวเองนั้นหลุดไปไกลจากคำว่าแม่ลูกมากแล้ว ทั้งที่ๆตั้งใจจะยั่วชายหนุ่มแท้ๆ แต่พอเห็นสายตาหื่นกระหายส่งกลับมา ก็กลายเป็นเหมือนกับว่าตัวเองโดยยั่วยังไงก็ไม่รู้ ในใจนี้อยากที่จะเข้าไปเปิดประตูห้องลูกเลี้ยง แล้วแก้ผ้าจับปล้ำทำผัวซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะทำอย่างนั้น

   ความรักความผูกพันกับต้นกล้าในฐานะแม่ลูกที่มีมานานดูเผินๆเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี แต่มันกลับเป็นกำแพงสูงใหญ่ที่ทำให้มินตรานั่นเกิดความกลัว ถ้าตาต้นไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้แม้เพียงซักเซี๊ยวน้อยนิดแล้วเกิดรังเกียจเธอขึ้นมา เธอจะทนอยู่ได้อย่างไร  เพราะ1 เดือนที่ผ่านมาถึงต้นกล้าจะให้ความสนอกสนใจก็จริงอยู่ แต่มันก็ไม่ได้เกิดอะไรมากมายเกินไปกว่านั้นเลย

   "ชั้นจะทำยังไงต่อดีดาหวัน เค้าดูสนใจชั้นอยู่แต่ก็ได้แค่มอง แล้วก็ถึงจะอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเค้าจะถอยห่างชั้นมากกว่าแต่ก่อนอีก เมื่อก่อนยังมีกอดมีหอมกันบ้างนะ " มินตราโทรปรึกษาดาหวั่นอย่างร้อนใจที่ไม่มีอะไรคืบหน้ากว่าที่เป็นอยู่

   "ใจเย็นหน่า ชั้นว่าได้ขนาดนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้วนะ ตาต้นเป็นเด็กดีจะตาย ต่อให้คิดอะไรกับเธอจริงๆ มันก็ไม่ง่ายนักหรอกที่เค้าจะกล้าทำอะไร แต่ตอนนี้ชั้นว่าได้เวลาขยับขั้นกันบ้างแล้วหล่ะ" ดาหวันทิ้งท้ายก่อนจะบอกแผนขั้นต่อไปให้มินตราทำตาม


============================


***เริ่มซ่อนข้อความ***
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Anawat Por

แม่เลี้ยงสวยแซ่บขนาดนี้ลูกเลี้ยงจะไปไหนได้

waddafux

ภาพประกอบช่วยเสริมให้ตัวละครและเนื้อหา เด่นชัดมากๆครับ น่าติดตามจริงๆ

laphatsanai1992

ผมชอบเรื่องนี้ครับ สวัสดีปีใหม่ครับ

Au Nanma

คุณแม่เลี้ยงต้องใจเย็นๆยั่วให้หัวปั่นแล้วค่อยเขมือบ

wic

มันต้องค่อยเป็นค่อยไปเดี๋ยวไก่ตื่น

adios2nd

ใครติดใจใคร ลูกเลี้ยงเจอนางยั่วสวาทเข้าแล้ว

asper7352


freedom-more

แผนแอบแซ่บลูกเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว สำเร็จเมื่อไหร่ต้องให้รางวัลเพื่อนสาวด้วยนะ 555+

Thanee_samsung

อยากให้เรื่องนี้ เป็นแบบ แนว ฟินจิกหมอนระหว่าง คุงแม่กับลูกชายจัง

tuaklom

แม่เลี้ยงโครตเด็ดเลย  แซ่บถึงทรวง

n_neng

จะไปไหนรอดเจอแม่เลี้ยงอ่อยทุกวัน

po3026

แม่เลี้ยงสวยแซ่บมีหรือลูกเลี้ยงจะไม่ชอบ

Komratouy13

แม่จะปล้ำลูก หรือ ลูกจะปล้ำแม่ มาลองดูกันครับ

เดช12341

คุณแม่มินตราจัดเต็ม แล้วอย่างนี้นายต้นคงจะรอดยาก