ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_GoDeRsOuL

ความสุขของผมคือการแย่งแฟนคนอื่น (EP.8) : "กิจกรรมชมรม"

เริ่มโดย GoDeRsOuL, มกราคม 24, 2023, 11:29:33 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

GoDeRsOuL

ลองมาลง เผื่อจะอยากกลับมาเขียนต่อกับเค้าบ้าง ช่วงนี้มรสุมชีวิตหนักหน่วงจัด ๆ ครับ




อ่านตอนก่อนหน้า หรือผลงานเรื่องอื่นๆ ได้ที่ (ห้องสมุด) ของผมครับ

และสามารถสนับสนุนให้กำลังใจในการเขียนงาน และอ่านตอนใหม่ ๆ ล่วงหน้าได้ตามช่องทางดังนี้ครับ


(Fictionlog)
(ธัญวลัย)
(readAwrite)
(Hongsamut)

อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ

(FACEBOOK PAGE)




เอาเถอะ งั้นมาตอบเธอกัน จะได้รู้ไปเลยว่าเธอต้องการอะไร

[เธอเห็นพวกเราเหรอ?]

ผมพิมพ์ถามไปโดยยังคงจ้องมองไปที่แผ่นหลังของพลอย เธอเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อ และมันคงสั่นเตือนเธอหลังจากได้รับข้อความที่ผมส่งไป ผมจึงได้เห็นอาการสะดุ้งเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายเธอ ดูเป็นอะไรที่น่ารักดีสำหรับผู้หญิงที่จริงจังและขยันแบบนั้น

หัวหน้าห้องหันมองรอบ ๆ ทันทีเพื่อดูว่ามีใครมองเธออยู่หรือไม่ และเมื่อทำเช่นนั้น เธอก็พบเข้ากับสายตาของผม

เมื่อเห็นการจ้องมองและท่าทางที่บอกให้เธอดูโทรศัพท์ของผม พลอยก็พยักหน้ารับเล็กน้อยคล้ายกับรู้อยู่แล้วก่อนที่เธอจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของตนเอง

หืมม... บางที เธออาจจะตั้งค่าให้สั่นเฉพาะแชตที่ผมส่งก็เป็นได้ และดูจากที่เธอเตือนผมตอนที่เราเจอกันก่อนหน้านี้ พลอยอาจจะรอคำตอบของผมมาตั้งแต่ช่วงพักเที่ยงแล้ว

[ใช่]

คำตอบของเธอแสนจะสั้นและให้ความรู้สึกแบบเดียวกันกับกอหญ้า ไม่สิ ออกจะแตกต่างอยู่บ้าง เธอเป็นประเภทที่ชอบพูดตรง ๆ และนี่ก็เป็นพูดคุยกันครั้งแรกของเรา คำตอบของเธอก็เลยดูจะแข็งกระด้างหน่อย ๆ

[อืม]

[ตอบแบบนั้นหมายความว่าไง นายไม่ตกใจเหรอ]

[ทำไมต้องตกใจด้วยล่ะ]

[โอ๊ย! ไม่คิดว่านายจะสมองทึบขนาดนี้ ฉันจับได้ว่านายกับรุ่นพี่กำลังจูบกันอยู่ แต่ก่อนหน้านี้ฉันเห็นว่าเธออยู่กับแฟนของเธอ นายกับเธอเกี่ยวข้องอะไรกัน?]

ดูเธอสิ ช่างตรงประเด็นจริง ๆ

[ก็เห็นแล้วนี่ เธอเดาไม่ออกเหรอ]

[โอ๊ย! รุ่นพี่คนนั้นนอกใจแฟนของเธอกับนายเหรอเนี่ย นี่มันผิดนะ]

[แล้วไง เราชอบรุ่นพี่คนนั้น จูบคนที่ชอบมันผิดด้วยเหรอ?]

[โอ๊ย! ตรรกะอะไรของนายเนี่ย นายไม่ใช่แฟนของเธอซะหน่อย มันไม่ถูกต้อง!]

[เราไม่สนหรอกว่ารุ่นพี่จะมีแฟนหรือเปล่า และเราก็ไม่ได้อยากเป็นแฟนกับเธอ เราแค่ชอบก็เลยจูบ ง่ายๆ แค่นั้นเอง]

ไม่จำเป็นต้องตอบตามอะไรที่เธอถาม เพราะถึงยังไงผมก็ไม่สนใจอยู่ดี ขอเพียงแสดงจุดยืนนี้ซ้ำ ๆ หัวหน้าห้องคนนี้ก็จะเปิดช่องให้ผมเอง

[นายนี่แปลกดีนะกันตภณ]

[รู้อยู่แล้วล่ะ ได้ยินออกจะบ่อย จริงๆ แล้ว เธอเป็นคนที่ร้อยห้าสิบเจ็ดแล้วนะที่บอกเราแบบนี้]

อันที่จริง ผมเลิกนับไปตั้งแต่ครั้งที่สิบแล้วล่ะ ตอนนี้ก็เลยบอกเลขไปมั่ว ๆ

[ทำไมนายยังใจเย็นอยู่อีก ฉันเอารูปนี้ให้ทุกคนดูได้นะ]

[เธอจะทำได้เหรอ? เรารู้ดีว่าเธอเป็นตัวละครประเภทไหน เธอทำแบบนั้นไม่ได้หรอก หรือต่อให้อยากทำเธอก็ทำไม่ได]

[ประเภทตัวละครอะไรของนาย? ช่างเถอะ นายจะไม่สนใจเรื่องนี้แน่นะ?]

[แน่นอน]

[เห้อ... ยอมแพ้ก็ได้ กันตภณ ถูกของนายแล้วล่ะ ฉันไม่ส่งภาพนั้นให้ใครหรอก ฉันทำไม่ได้ ต่อให้สิ่งที่นายทำจะผิดแต่ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยุ่ง]

ใช่แล้ว นั่นคือประเภทตัวละครของเธอ หัวหน้าห้อง เธอจะต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น

[ขอบคุณนะ ว่าแต่... ให้ผมเดาไหมว่าเธอทำไปทำไม]

[ไอ้บ้า!]

[รู้อยู่แล้วล่ะ]

[...]

[อย่าอึกอักสิ แค่ทำตามที่เธอเคยเป็น บอกเรามาตรง ๆ ได้เลย!!]

[โอ๊ย! นายนี่มันจริง ๆ เลยนะ โอเค ๆ ฉันมีเรื่องจะขอร้องหน่อย]

[และนั่นคือ?]

[สอนฉัน]

ห่ะ? อะไรนะ? สอนอะไรเธอ?

[เราไม่ค่อยเก่งนะ]

[ไอ้คนบ้าเอ๊ย! ไม่ใช่สอนแบบนั้น นายช่วยสอนวิธีจูบให้ฉันหน่อย]

อาา... ไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว หัวหน้าห้องคนสวยต้องกำลังคบกับใครอยู่แน่

[ทำไมล่ะ]

[ฉันอยากทำมันได้ดีกว่าตอนนี้ เพื่อเขา...]

โป๊ะเชะ!!!

[งั้นเหรอ แต่เธอดูไม่เหมือนคนที่จะคบกับใครสักคนได้เลยนะ]

[ไอ้คนบ้า! อย่ามาตลก! จะสอนหรือไม่สอน]

[นี่กำลังถามเราอยู่ใช่ไหมเนี่ย... OK เชื่อใจเราได้เลย]

แย่ละ ผมหลุดยิ้มออกมาตอนไหนเนี่ย เกือบไปแล้ว ถ้าผมไม่รู้สึกตัวและระงับอารมณ์ไว้ก่อน ผมคงจะเผลอหัวเราะลั่นออกมาก็ได้

พลอย ณัฏฐ์นรี หัวหน้าห้องของเราคนนี้ เธอกำลังคบอยู่กับใครสักคน และจากคนมากมาย เธอดันมาขอให้ผมสอนวิธีจูบให้เธอ ผมตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น แน่นอนว่าผมจะสอนวิธีจูบให้เธอ และก็แน่นอนเช่นกันที่ผมจะสอนบทเรียนอื่น ๆ ที่เหนือกว่าการจูบให้เธอด้วย และมันจะทำให้เธอไม่สามารถนึกถึงการจูบกับผู้ชายของเธอได้อีกต่อไป

ด้วยนิสัยที่จริงจังและขยันหมั่นเพียรของพลอย เธอจึงมักจะพยายามทำทุกสิ่งให้ดีที่สุดเสมอ ผมลองกลับมาคิดดูแล้ว พลอยจึงน่าจะเป็นผู้หญิงในคู่รักลับๆ ที่พวกนั้นพูดถึงแน่ เพียงแต่ผมยังนึกไม่ออกว่าใครคือผู้ชายที่โชคร้ายคนนั้น ตอนนี้ผมชักจะสงสารเขาขึ้นมาเสียแล้ว เพราะผมกำลังจะสอนและฝึกผู้หญิงของเขาให้เธอต้องการแค่ผมคนเดียว แต่ไม่ต้องกังวลนะ เธอยังคงเป็นแฟนของนายคนเดียว แต่ผมจะเป็นคนเดียวที่จะทำให้เธอพอใจได้ ไม่ว่าจะเรื่องจิตใจหรือร่างกาย

เราจบการสนทนาในแอปแชตลง หลังจากพลอยบอกผมว่าเธอจะส่งข้อความหาผมอีกครั้งหลังจากเธอตัดสินใจได้ว่าจะเริ่มกันเมื่อไหร่ ผมจึงแค่แนะนำไปว่าให้เธอรีบหาเวลามา ก็ผมค่อนข้างยุ่งนี่นะ...

เมื่อเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น นักเรียนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรีบกลับเท่าใดนัก พวกเขาจะมุ่งไปยังชมรมที่เลือกไว้ไม่ว่าจะไปเพื่อทำกิจกรรมหรือไม่ก็ตาม ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอีกหลายคนที่รีบตรงกลับบ้าน และผมก็เป็นคนหนึ่งในพวกนั้น

นั่นเพราะถ้าไม่ใช่เพื่อพี่เอม ผมจะไม่มีทางไปลองทำกิจกรรมกับชมรมวรรณกรรมแน่นอน และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปที่นั่น แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยผมในเรื่องการเป็นเพื่อนร่วมชั้น ก. เพราะถ้าผมเข้าชมรม 'รีบกลับบ้าน' ผมอาจกลายเป็นพวกจืดจางแทน การสิงอยู่ในชมรมจะสามารถรักษาสถานะของผมไว้ได้ดีกว่า แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม

ถ้าชมรมวรรณกรรมนี้สามารถอยู่ได้แบบเอื่อยเฉื่อยโดยไม่ต้องทำอะไรมาก ผมก็ไม่รังเกียจที่จะสมัครเข้า แถมที่นี่นยังมีพี่เอมกับพี่จ๋าอยู่ด้วย อีกทั้งผมยังไม่รู้เลยว่าสมาชิกคนที่สี่คือใคร เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ผมก็แอบหวังให้เป็นผู้หญิงที่กำลังออกเดตกับใครสักคน

ผมบอกลาพวกเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนที่ต่างคนจะต่างออกไปที่ชมรมของตน

เติ้ลไปเข้าชมรมฟุตบอล ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นนักกีฬา บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงดูเหมือนพวกงี่เง่านัก สมองของเขาคงเต็มไปด้วยฟุตบอลแน่นอน เพราะใครก็ตามที่มีทักษะการสังเกตเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเดาได้อย่างง่ายดายว่าเติ้ลแอบชอบหยกแม้ว่าเขาจะไม่เคยเอ่ยปากก็ตาม

สาวหยกคนสวยของเราสมัครเข้าชมรมบาสเกตบอล เนื่องจากขาที่ยาวของเธอ เธอจึงสูงพอที่จะเป็นเซนเตอร์ในทีมบาสเกตบอลหญิงได้ หากให้ผมเปรียบเทียบส่วนสูงของผมกับเธอ อืม... เธอคงสูงกว่าผมราวสองสามเซนเห็นจะได้

ส่วนกอหญ้าผู้น่ารัก ผมไม่รู้ว่าเธอเข้าชมรมไหน เธอดูเหมือนคนที่หมกมุ่นอยู่แต่กับการอ่านหนังสือ ผมกลัวว่าเธอจะสมัครเข้าชมรมวรรณกรรมเหลือเกิน มันจะยากขึ้นสำหรับผมมากถ้าเธออยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตอนนี้ผมถือว่าตัวเองเป็นเพื่อนกับเธอแล้ว ผมจะช่วยเธอเอง

"นายเข้าชมรมอะไรอ่ะ? " เติ้ลถาม

"ยังไม่รู้เลย แต่วันนี้กำลังจะไปลองทำกิจกรรมกับชมรมวรรณกรรมดูก่อนน่ะ"

"ว้าว! ภูมิ นาย...วรรณกรรมเหรอ จริงดิ? "

อะไรเนี่ย? หยกมาจากไหน เธอยังไม่ไปอีกเหรอ?

"อืม แค่ลองดูน่ะ บอกตรง ๆ นะ เราแค่ต้องการชมรมที่สบาย ๆ น่ะ จะได้มีที่ไว้นอนเล่น"

"ฟังดูขี้เกียจจังนะ"

"จริงๆ ก็ใช่เลยล่ะ"

"ห่ะ! ชิ้ว! ชิ้ว! ห้ามแผ่รัศมีความขี้เกียจของนายมาที่พวกเรานะ!!" หยกปัดมือไล่ผมในเชิงสัพยอก เธอชักจะสนิทกับผมเกินไปแล้ว รอให้ผมฝึกเธอให้เป็นแบบที่ผมชอบก่อนเถอะ เดี๋ยวจะจับมาเล่นบาสกับผมสักรอบ แต่ต้องหลังจากที่เธอคบกับเติ้ลก่อนนะ

"ถ้าอย่างนั้นนายมาเข้าชมรมหนังสือกับเราก็ได้นะ" กอหญ้าพูดขึ้น ผมจึงรู้ว่ามีชมรมหนังสืออยู่ด้วย พวกเขาทำกิจกรรมอะไรกันนะ แค่อ่านหนังสือก็นับเป็นกิจกรรมชมรมแล้วใช่ไหม?

"ได้สิ ถ้าชมรมวรรณกรรมไม่น่าสนใจ ไว้เราจะไปลองชมรมของกอหญ้าดูนะ"

เมื่อผมพูดแบบนั้น เหมือนผมจะเห็นดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังผมหน้าม้าของกอหญ้าเกิดเป็นประกายขึ้นมาเฉย ๆ

"โอเค ไว้เจอกันพรุ่งนี้ เราไปก่อนนะ" เติ้ลที่เปลี่ยนเป็นชุดฟุตบอลเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กล่าวขึ้นก่อนจะเดินจากไป ดูท่าเขาจะพร้อมเต็มแก่แล้ว

"เค เจอกันพรุ่งนี้" หยกตามหลังเติ้ลไปติด ๆ เธอบอกจะรีบไปเปลี่ยนชุดที่ห้องชมรม

"เจอกันพรุ่งนี้นะภูมิ" กอหญ้ายิ้มให้ผม ยิ้มที่หาดูได้ยาก

"อืม เจอกันพรุ่งนี้" ผมยิ้มกลับให้เธอ

หลังจากเก็บของเรียบร้อย ผมก็ตรงไปที่อาคารชมรม เนื่องจากผมไปมาแล้วเมื่อเช้า ผมจึงไม่มีปัญหาเรื่องหลงทางเหมือนบางคน

ผมเคาะประตูห้องชมรมสองสามครั้งก่อนจะมีคนมาเปิด

โอ้... ใบหน้าที่ผมไม่เคยเห็น คงจะเป็นสมาชิกชมรมคนที่สี่ แถมยังเป็นผู้หญิง แม้ว่าเธอจะไม่น่ารักเท่าพี่เอมของผม แต่เธอก็มีเสน่ห์ในตัวเอง ถ้าพี่เอมเป็นคนน่ารักและขี้อาย ผู้หญิงคนนี้ก็คือผู้หญิงประเภทขี้สงสัย แค่ดูจากแววตาก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเธออยากรู้อยากเห็นในตัวผมแค่ไหน แต่ผมเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้น ก. เองนะ ถ้แค่ต้องไม่นับเรื่องความปรารถนาลับของผมรวมเข้าไปด้วย

"สวัสดีค่ะ เธอคือเด็กใหม่ที่จะมาลองทำกิจกรรมของชมรมเราใช่ไหม"

"ครับ ผมกันตภณ หรือเรียกภูมิเฉย ๆ ก็ได้ครับ"

"จ้าาา ยินดีต้อนรับนะน้องภูมิ พี่ชื่อวุ้นเส้น อยู่มอห้าจ้ะ" เธอแนะนำตัวพร้อมกับยื่นมือออกมา ผมจึงส่งมือไปเช่นกันก่อนจะจับมือเธอเขย่าสองสามครั้ง

"อ้าว นั่นภูมินี่ เข้ามาสิ" เสียงของพี่บิ๊กดังออกมาจากด้านใน พี่วุ้นเส้นเลยดึงผมเข้าห้องไปและปิดประตู

ไม่เหมือนช่วงเช้าที่มีแต่ผมกับพี่เอม ตอนนี้มีคนหลายคนที่อยู่ข้างในและทำให้ห้องนี้ดูมีชีวิตชีวาพอสมควร แต่ส่วนตัวแล้วผมกลับชอบความเงียบแบบนั้นมากกว่า และยิ่งถ้าได้อยู่กับพี่เอม เราก็จะได้ทำอะไรสนุก ๆ กันอีกครั้ง

ผมได้รู้แล้วว่าชมรมนี้มีสมาชิกทั้งหมดสี่คน... เดี๋ยวนะ

หนึ่ง สอง สาม สี่ ...ห้า

อาาา.... มีอีกคนที่รุ่นเดียวกันกับผมเพิ่มขึ้นมา ก่อนหน้านี้พวกเขาหาคนเพิ่มได้แล้วงั้นเหรอ?

ผมมองไปที่หญิงสาวที่ไม่คุ้นเคย เธอสวมแว่นแต่ไม่เหมือนกับพลอย ไม่ใช่ในแบบหัวหน้าห้อง แต่ดูแล้วออกจะเป็นพวกเนิร์ดมากกว่า ผู้ที่ได้รับความรู้มากมายจากหนังสือ ทุกวันสำหรับพวกเขามักจะเต็มไปด้วยกองหนังสือ แล้วทำไมคนแบบนี้ถึงไม่ไปอยู่ที่ชมรมหนังสือกันนะ?

"อ๋า! ภูมิยังไม่เคยเจอเธอเลยนี่ เธอเป็นสมาชิกใหม่ที่เรารับมาก่อนหน้านี้น่ะ รุ่นเดียวกับนายเลย"

พี่จ๋าพูดแนะนำเธอให้กับผม แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจผมเท่าไหร่ เธอชายตามองมาที่ผมเพียงเล็กน้อย จากนั้นเธอก็หันกลับไปมองดูกระดาษในมือของเธอต่อ นั่นเป็นกระดาษแบบเดียวกับที่ผมอ่านก่อนหน้านี้ พวกผลงานที่ทำโดยสมาชิกชมรมคนก่อน ๆ

ผมเดาถูกต้องอีกครั้ง เธอเป็นเด็กเนิร์ดที่มักจะไม่พอใจเมื่อมีคนขัดขวางการรับความรู้

พี่เอมกับพี่บิ๊กอยู่ที่ปลายอีกด้านของโต๊ะ พี่บิ๊กยุ่งอยู่กับการอ่านและเขียนอะไรบางอย่าง ส่วนพี่เอมโบกมืออันน่ารักของเธอมาที่ผม ผมจึงโบกมือกลับและยิ้มให้เธอ

ผมจะหยุดการแสดงออกไว้เพียงแค่นี้ ผมยังจำสายตาที่น่าสงสัยของรุ่นพี่จ๋าได้ดี ถ้าเราทำอะไรที่ประเจิดประเจ้อมากเกินไป เธออาจจะจับเราได้

"สงสัยเธอคงกำลังหมกมุ่นอยู่แน่ ๆ เอาเป็นว่า เธอชื่อแพร อยู่ทับสี่น่ะ" พี่จ๋าบอกยิ้มๆ

อ้อ... ห้องของเธออยู่ไกลจากห้องของผมพอควร นั่นช่วยอธิบายว่าทำไมผมถึงยังไม่เคยเห็นเธอมาก่อน อีกทั้งความเป็นเนิร์ดของเธอคงจะทำให้เธอเอาแต่ฝั่งตัวเองอยู่ในห้องสมุดมากกว่า

"ทำไมวันนี้น้องถึงตัดสินใจมาล่ะ หรือน้องจะแอบเล็งพี่เอมไว้ พี่เห็นนะ ที่ยิ้มให้กันอ่ะ" พี่วุ้นเส้นแทรกขึ้นมาจากด้านหลัง เธอเป็นพวกที่คอยถามคำถามเพื่อสนองความอยากรู้ของตัวเอง สมกับเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นจริงๆ

"เมื่อเช้าเธอไม่ได้อยู่ที่บูธด้วยเลยไม่รู้ เอมเค้าพาน้องมาดูห้องนี้ไปแล้วรอบนึงน่ะ แต่ที่จริงภูมิเขาก็ไม่ได้อยากจะมาหรอก ฉันไปบังคับน้องเขาเองแหละ" พี่จ๋าตอบแทนผม

"โห...นี่พี่คิดว่าหนูจะหาคนมาเพิ่มไม่ได้จนต้องทำอะไรแบบนั้นเลยเหรอเนี่ย"

"อิอิ งั้นพวกเราเก็บเขาไว้เป็นตัวสำรองดีไหม ชมรมของเราจะได้มีสมาชิกมากกว่าที่ขั้นต่ำกำหนดไว้"

ใช่ ผมอ่านในคู่มือแล้ว มีกฎว่าต้องมีสมาชิกอย่างน้อยห้าคนเพื่อให้ชมรมยังคงตั้งอยู่ได้ แต่พี่จ๋าครับ มันหยาบคายไปหน่อยไหมครับที่จะให้ผมเป็นตัวสำรอง พี่ไม่คิดว่าคำพูดของพี่จะทำร้ายจิตใจผมบ้างเหรอครับ?

"อืม แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ ชมรมนี้ทำกิจกรรมกันยังไง"

"อ้าา! พี่รู้ว่าน้องต้องถาม นี่นี่!"

พี่วุ้นเส้นวิ่งมาหยุดอยู่ข้างหน้าผม ในมือเธอถือถ้วยที่เต็มไปด้วยกระดาษซึ่งพับครึ่งไว้

"อะไรน่ะครับ? "

"ไม่ต้องถามน่า เลือกมาสักอันเถอะ"

อืม... ผมชักเดาได้ลาง ๆ แล้วว่ามันคืออะไร ผมจึงล้วงมือเข้าไปในถ้วยนั้นและหยิบมันออกมาหนึ่งแผ่น

"เยี่ยม!" พี่วุ้นเส้นดึงกระดาษแผ่นนั้นออกมือของผมแล้วอ่านมันทันที

"เอาล่ะ ภูมิ เธอต้อง...." เธอพยายามทำเสียงให้ดูตื่นเต้น

"อะไรเนี่ย อ้อ เขียนประโยคสั้น ๆ โดยใช้คำว่า 'สี' เป็นคำหลัก" พี่จ๋าที่เดินมาดูจากทางด้านหลังของพี่วุ้นเส้นแทรกขึ้น ดูเหมือนเธอจะเพิ่งทำลายความสนุกของพี่วุ้นเส้นไปดื้อ ๆ

"โธ่! พี่จ๋า! มาแย่งน้องอ่านทำไมเนี่ย? หมดกัน...ความตื่นเต้นของฉัน"

"ฟังนะวุ้นเส้น หยุดทำให้รุ่นน้องของเรากลัวได้แล้ว เธอจำได้ใช่ไหม เพราะความอยากรู้อยากเห็นของเธอมากเกินไป ปีที่แล้วสมาชิกของเราถึงได้ขอออกจากชมรมไปตั้งสามคน"

เมื่อได้ยินอย่างนั้น พี่วุ้นเส้นก็ต้องคอตกด้วยความผิดหวัง ดูเหมือนว่าเรื่องที่พี่จ๋าบอกจะเป็นความจริง และเธอก็ยังคงรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

"เรื่องสั้นจากคำว่าสีใช่ไหมครับ โอเคครับ เดี๋ยวผมจะลองดู"

ผมตอบเพื่อให้กำลังใจผู้หญิงขี้สงสัยคนนี้หน่อย ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่ใครสักคนจะมีความอยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง และผมก็รับนิสัยแบบนี้ได้นะ แต่ผมแค่สงสัยว่าเธอกำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เธออาจจะพยายามลองมีเซ็กซ์ไปแล้วด้วยความสงสัยใคร่รู้ของเธอ หรือเป็นไปได้อีกอย่างว่า ความกระหายรู้นั้นจะถูกถ่ายโอนไปยังสิ่งอื่นที่สามารถเติมเต็มความสงสัยอันมากล้นของเธอได้ดีกว่า

"จริงเหรอ? งั้นก็พยายามเข้านะภูมิ ไปนั่งทำตรงนั้นก็ได้" พี่วุ้นเส้นพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใสขี้น ดวงตาของเธอเป็นประกายเล็กน้อย

ผมมองไปตามที่รุ่นพี่สาวบอกและเห็นว่าตำแหน่งนั้นอยู่ข้าง ๆ คู่ของพี่บิ๊กกับพี่เอม เธอคงคิดว่าผมอาจจะพอรู้จักพี่เอมอยู่บ้างแล้วจากการที่เธอพาผมมาดูห้องเมื่อเช้า

"ถ้ามีปัญหาหรือสงสัยอะไรก็ถามได้ทุกคนเลยนะ แต่พี่แนะนำให้ไปถามพี่เอม เธอเก่งที่สุดในนี้แล้ว เธอเป็นที่ปรึกษาให้กับงานทุกชิ้นของพวกเรา แต่บอกไว้ก่อนนะ พี่ผู้ชายคนนั้นค่อนข้างจะหวงพี่เอมอยู่พอควรเลยล่ะ" พี่วุ้นเส้นพูดต่อ

ผมเดินตามเธอไปและนั่งลงข้างๆ พี่เอม แฟนหนุ่มของเธอยังคงง่วนอยู่กับสิ่งที่เขาทำอย่างขะมักเขม้น และผมเองก็ไม่คิดอยากจะถามเขาสักนิดเพราะไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำอะไร ส่วนพี่เอมเธอฟังพวกเราอยู่ตั้งแต่แรกจึงรู้ว่าผมกำลังมา ตอนนี้เธอดูกระสับกระส่ายเล็กน้อย น่าสงสัยจริง ๆ ว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่

เอาเถอะ... มาลองเขียนกันก่อนดีกว่า ผมมาเพื่อดูว่าควรเข้าชมรมนี้หรือไม่ อย่างน้อยผมก็ควรทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แม้ว่าผมจะไม่ค่อยถนัดอะไรแบบนี้นัก แต่กระนั้น เมื่อได้เห็นคำหลักที่หยิบมา สมองของผมก็เต็มไปด้วยไอเดียเด็ด ๆ ที่ผุดขึ้นไม่หยุด ถึงไอเดียพวกนั้นจะไร้ประโยชน์เพราะถ่ายทอดลงบนกระดาษไม่ได้ก็ตาม

"พี่ได้ยินคำหลักของภูมิแล้วล่ะ แต่ไม่ต้องรีบร้อนเขียนหรอกนะ ลองเรียงลำดับความคิดที่คิดว่าดีสุดสักสามลำดับดูก่อนจะได้เห็นภาพง่ายขึ้น" เสียงอันน่ารักของพี่เอมดังขึ้นข้างหูของผม เธอกำลังให้คำแนะนำแก่ผม พี่วุ้นเส้นพูดถูก เธอให้คำแนะนำได้ดีมากจริง ๆ

ผมไม่เคยรู้เลยว่าพี่เอมมีด้านแบบนี้ด้วย สามวันที่ผ่านมาผมเห็นแต่ด้านอันยั่วเย้าของเธอ ทั้งริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ เรียวลิ้นแสนอ่อนนุ่ม ปลายเม็ดบนยอดเนินอกขนาดพอมือ รวมถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในตัวของเธอ

การได้เห็นอีกด้านหนึ่งของหญิงสาวที่ผมขโมยมาเป็นเรื่องใหม่สำหรับผมมาก ผมเริ่มฉุกคิดขึ้นมา ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะพบประสบการณ์แบบเดียวกันนี้ตอนเมื่อครั้งเรียนมัธยมต้น อาจเพราะผมเองที่ไม่สนใจจะเรียนรู้ตัวตนอีกด้านของพวกเธอ ด้านที่เป็นดั่งหน้ากากซึ่งใช้สวมใส่ตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่น ๆ

ก็นะ ถึงผมอาจจะละเลยเรื่องนี้ไปบ้าง แต่ผมก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว จะให้คิดทำอะไรเอาตอนนี้ก็คงคิดไม่ออกแน่

"ขอบคุณครับพี่เอม" ผมตอบเธอสั้น ๆ เราไม่ได้อยู่คนเดียวที่นี่ เราจึงไม่ควรทำอะไรเสี่ยง ๆ อย่างเช่นการเรียกหากันอย่างสนิทสนม

ผมทำตามคำแนะนำของเธอโดยการเขียนความคิดที่ดีที่สุดที่นึกออกลงบนโพสอิทที่ว่างอยู่แถวนั้น ก่อนจะนั่งวิเคราะห์ทั้งสามความคิดนั้นไปทีละอย่าง และเมื่อตัดสินใจได้ว่าจะเขียนอะไร ผมก็ขยำโพสอิททิ้งไปและเริ่มลงมือเขียนสิ่งที่เลือกไว้




meowmeng


ryu

คิดถึงเรื่องนี้จริงๆ รอนานเท่าไหร่ก็รอ
ขอให้มรสุมชีวิตผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ

B522



นิด หน่อย



okai

ใครจะเป็นเหยื่อคนแรกให้กันนะครับ.. อย่างน้อยก็สองคนที่เริ่มจพติดกับดักที่วางไว้แล้ว..

1819

หายไปน๊านนาน   มรสุมชีวิตเข้านี่เอง แสดงว่า ต้อนนี้คงรับมือ หรือ ปล่อยวางมรสุมนั่นได้แล้ว     ขอให่ไรท์ ผ่านมันไปได้ ครับ  
สวนเนื้อเรื่อง  เดาไม่ออกว่าใคร จะเป็นนางเอก หรืออาจไม่มีเลยก็ได้  มีแค่ตัสนำ   ในเรืองที่จะพัดพาไปตามเหตุการณํ
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

artherox

หายไปนานเลยครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ รอดูนายภูมิจะเก็บได้กี่คน

gritkin

หายไปนานเลยครับ เป็นกำลังใจให้นเครับ ผ่าอุปสรรคให้ได้ครับ

onzoul


Oceankings1234


swss2511