ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 35 : โลกนี้หมุนด้วยความรัก

เริ่มโดย nato87, มกราคม 26, 2023, 09:40:13 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้ว ๆ กับเกมรักตอนใหม่นะครับ ช่วงนี้น้องลูกขวัญยังมีบทบาทเด่นอยู่เช่นเคย

คือผมจะบอกว่า ผมอาจจะต้อง Skip เนื้อเรื่องที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างนะครับ เพื่อความรวดเร็ว เพราะไม่งั้นเนื้อเรื่องมันจะไม่ไปไหน โดยเฉพาะ Part ของเหล่าบรรดานักศึกษาพยาบาล ที่ยังวุ่นวายอยู่ เอาไว้ผมจะบรรยายสรุปในทีเดียวในโอกาสต่อ ๆ ไป

ทั้งหมด เพื่อเร่งเวลาให้น้องลูกขวัญ ได้เจอกับลุงพลได้เร็วขึ้นนั่นเองครับ โดยในตอนหน้า ผมจะ Skip เรื่องราวให้เร็วขึ้น ไปถึงตอนที่น้องลูกขวัญเข้าเรียนแพทย์ศาสตร์ชั้นปีที่ 1 และได้เจอกับเหล่าบรรดาพี่ ๆ นักศึกษาพยาบาลอย่าง ใบเฟิร์น โดนัท นาถ อุ๊ หมวย และ อีก รวมไปถึงรุ่นใหญ่อย่างหมอพลอยและครูเบสท์ด้วยครับ


####################

ความเดิมจากตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=266927.0

แม้จะเกิดในตระกูลเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของภาคใต้ แต่ภาสินี กลับหาความสุขไม่เจอ เพราะต้องทนใช้ชีวิตภายใต้กฎเกณฑ์ข้อบังคับต่าง ๆ มากมายจากผู้เป็นพ่ออย่างภูชิต หรือที่ใคร ๆ ก็เรียกว่านายหัวภูชิต พยัคฆ์แดนใต้ผู้น่าหวั่นเกรง

นายหัวภูชิตเป็นนักการเมืองและนักธุรกิจจากจังหวัดภูเก็ต นายเคี้ยง พ่อของเขาเคยเป็นเจ้าสัวโรงงานแร่ดีบุก ที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล นายเคี้ยงได้กว้านซื้อที่ดินติดชายทะเล เพื่อสร้างเป็นรีสอร์ตที่พัก ในช่วงรอยต่อแห่งยุคสมัยของจังหวัดภูเก็ต ที่เคยเป็นแหล่งผลิตแร่ดีบุกสำคัญของประเทศ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเวลาต่อมา

หลังจากที่นายเคี้ยงสิ้นอายุขัย นายภูชิต ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของอาณาจักรถิ่นทวีพัฒนา ณ ภูเก็ต เขาได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผู้เป็นพ่อได้ถ่ายทอดเอาไว้ให้ เพื่อต่อยอดธุรกิจในครอบครัวให้เจริญก้าวหน้าขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสวนยางพารา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการก่อสร้าง และอีกมากมาย เช่นเดียวกับข่าวลือในด้านลบ ที่ว่านายหัวภูชิต เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลของภาคใต้ และมักใช้อำนาจที่มีเพื่อกว้านซื้อบ้านและที่ดินทั้งในจังหวัดภูเก็ตและหลาย ๆ จังหวัดในภาคใต้อย่างเช่นพังงาและกระบี่ เพื่อหวังนำมาปลูกสร้างเป็นอพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า หรืออาจขายต่อเพื่อเก็งกำไรในอนาคต

นายหัวภูชิตแต่งงานกับนางสาวอัญชัญ ลูกสาวเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์อีกคนของจังหวัดภูเก็ต ทั้งคู่มีทายาทด้วยกันสองคน คือภูวนาทและภาสีนี

สำหรับภูวนาท นายหัวภูชิตตั้งใจว่าจะให้ลูกชายคนโตคนนี้เป็นผู้สืบทอดอำนาจแทนเขา ในวันที่เขาลาลับโลกไป แต่ถึงกระนั้น ด้วยพฤติกรรมเสเพล รักสนุก หาแก่นสารไม่ได้ เลยทำให้นายหัวภูชิตรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย ว่าจะสามารถฝากฝังอนาคตทุกอย่างไว้กับลูกชายคนโตคนนี้ได้หรือไม่ ในขณะที่ภาสินี ลูกสาวคนเล็ก เธอเป็นเด็กดีของพ่อและแม่มาตลอด มีผลการเรียนที่ดี ไม่เคยทำตัวเหลวไหล เคารพและเชื่อฟังพ่อและแม่มาตลอด แต่เธอยังเด็กเกินไป และนายหัวภูชิตเอง ก็ไม่ได้อยากให้ลูกสาวคนเล็กก้าวขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดด้วยเช่นกัน



ไม่ใช่เพราะภาสินีเป็นผู้หญิง ไม่ใช่เพราะภาสินีไม่มีสติปัญญาและความสามารถ หากแต่เพราะความรักของผู้เป็นพ่อ กับการเป็นเจ้าคนนายคน ใช้อำนาจทั้งในด้านสว่างและด้านมืดเพื่อปกครองลูกน้องนับพันคน นายหัวภูชิตมองว่าลูกสาวคนเล็กคนนี้เปราะบางเกินไป เป็นเด็กดีเกินไป เลยอยากให้ลูกสาวคนนี้ ได้ใช้ชีวิตในมุมสว่างเสียมากกว่า

ด้วยเหตุนี้เอง ชีวิตที่ผ่านมาของภาสินี จึงอยู่ภายใต้กฎระเบียบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มากมายของผู้เป็นพ่อ ที่กำหนดเอาไว้เพราะความรักและความเอาใจใส่ แต่นายหัวภูชิตไม่มีทางรู้เลยว่า กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เขาตั้งไว้ มันกำลังสร้างความกดดันให้ลูกสาวคนเล็กเป็นอย่างมาก

..................

หลายวันต่อมา

"สวัสดีค่ะพี่แบงค์" ภาสินี ในชุดนักเรียนพนมมือไหว้ศาสตรา หนุ่มรุ่นพี่คณะนิติศาสตร์ด้วยท่าทางนอบน้อม "มารอขวัญนานหรือยังคะ?"

"พี่ก็พึ่งมาเหมือนกัน กว่าจะหาที่จอดรถได้แทบแย่" ศาสตรายิ้มหวาน ให้สาวรุ่นน้องคนสวยที่ตัวเองกำลังตั้งหน้าตั้งตาจีบอยู่ "ขวัญกินอะไรหรือยัง? หิวไหม? เดี๋ยวไปหาอะไรกิน แล้วเดินเที่ยวหรือดูหนังกันไหม?"
"ค่ะพี่" ภาสินียิ้มหวาน ก่อนเดินตามศาสตราไปติด ๆ

ศาสตราถือวิสาสะจับมือภาสินี ที่ไม่ได้ทักท้วงอะไร ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก ก่อนหันไปมองเด็กสาวที่ยิ้มด้วยท่าทางเนียมอาย ท่าทางจะไม่ประสีประสาในเรื่องความรักอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ นั่นแหละ อดีตแฟนเก่าของใบเฟิร์นคิด

"ไอ้แบงค์? มึงรู้ไหมว่าน้องลูกขวัญเป็นใคร?" ย้อนกลับไปในเหตุการณ์ก่อนหน้า ตอนที่ศาสตราโชว์รูปในอินสตราแกรมของภาสินี ให้กับเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องเด็กนิติศาสตร์ได้ดูเป็นขวัญตา ก็มีเพื่อนคนหนึ่งที่รูปปูมหลังของน้องลูกขวัญให้เจ้าแบงค์ได้ฟัง "นี่มันลูกสาวนายหัวภูชิตเลยนะเว้ย"

"นายหัวภูชิตเหรอ? เชร็ดดดโด้!!!" ศาสตราถึงกับทำตาถลนด้วยความตกใจ เมื่อได้ทราบปูมหลังของภาสินี ที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา

"ตระกูลถิ่นทวีพัฒนา นี่แม่งตระกูลเจ้าสัวภาคใต้เลยนะโว้ยมึง มึงอ่ะไอ้แบงค์ ถ้าจีบน้องเค้าติด ดูแลน้องเค้าให้ดี ๆ ละ อย่าทำให้น้องเค้าเสียใจ ไม่งั้นกูว่าพ่อน้องเค้าเอามึงตายแน่"

"เออ ๆ กูรู้ คนนี้กูรักจริงโว้ย!!!" หนุ่มแบงค์ตอบ

"เดี๋ยวกูจะให้มึงดูอะไร" แล้วเพื่อนคนหนึ่งของศาสตรา ก็เอาข่าวเก่าที่เซิร์จหาในกูเกิ้ลให้ดู

"นายหัวภูชิตเผย ผมไม่ได้เป็นผู้สั่งการฆ่าหนุ่มพม่าหมกถังน้ำมันแล้วโยนทิ้งทะเลอันดามัน!!" ศาสตราอ่านข่าวอาชญากรรมในอดีตด้วยความตกใจ "ชิบหายละกู!!! นี่ถ้ากูทำน้องลูกขวัญเสียใจ!!! กูตายแน่!!!"

"เออดิมึง!! กูเลยเตือนมึงไว้ก่อน ถ้ามึงจริงจังกับน้องเค้าก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ ระวังเถอะมึง พ่อน้องเค้าเล่นมึงแน่เพื่อน!!!"

ศาสตรามองดูภาพข่าวด้วยความกังวลใจ เพราะได้รู้ปูมหลังของภาสินี สาวคอนแวนต์ที่ตนเองกำลังขายขนมจีบอยู่ แต่อย่างที่เขาว่ากันว่า ถ้าอยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ เพราะฉะนั้นงานนี้ไอ้หนุ่มเชียงใหม่ต้องลุย ถึงจะพิชิตใจสาวน้อยแดนใต้ได้

.............

ร้านบุฟเฟต์แห่งหนึ่ง

"กินเยอะ ๆ นะครับน้องขวัญ" ศาสตรานั่งมองภาสินีที่กำลังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับหยิบเอาสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายภาพสาวรุ่นน้องเอาไว้

"มาถ่ายตอนที่ขวัญกำลังกินได้ไงคะ!!" ลูกสาวนายหัวรีบเอามือป้องปาก "หยุดถ่ายเลยนะพี่แบงค์!!!"

"ไม่เห็นต้องอายเลย!!!" ศาสตรายิ้ม "นี่ดูซิ น่ารักออก"

หนุ่มเชียงใหม่ยื่นหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ตนเองพึ่งถ่ายรูปเอาไว้ให้ลูกขวัญดู มันเป็นภาพของเธอที่กำลังใช้ตะเกียบคีบอาหารเข้าปากและเคี้ยวแก้มตุ่ยอย่างเอร็ดอร่อย



"น่าเกลียดอ่ะ!!! ลบทิ้งเลยนะคะพี่แบงค์!!" ลูกขวัญมองค้อนใส่หนุ่มแบงค์

"ทำไมละ? มันน่ารักออก!!" หนุ่มแบงค์เอ่ยปากถาม "ดูแบ๊ว ๆ น่ารักดีออก"

"ไม่เห็นแบ๊วตรงไหนเลย!!" ลูกสาวนายหัวโต้ "ลบเลยนะพี่แบงค์!!! ไม่งั้นเราไม่ต้องมาคุยกัน!!"

"จ๊ะ ๆ ลบก็ได้นะ" เพราะไม่อยากจะขัดใจ เลยทำให้ศาสตราต้องลบภาพถ่ายนั้นทิ้ง ทั้งที่ความจริงมันก็เป็นภาพอิริยาบถน่ารัก ๆ ของภาสินีแท้ ๆ แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่ชอบ ชายหนุ่มก็ไม่ควรจะไปหักหาญน้ำใจอีกต่อไป

"ดีแล้วค่ะ..." ภาสินีจ้องหน้าศาสตรา "ถ้าขวัญไม่ได้บอกให้ถ่ายรูป พี่แบงค์อย่าหาทำโดยเด็ดขาด เข้าใจไหม!!??"

"จ๊ะ!!" ว่าไงก็ว่าตามกัน สำหรับศาสตรา กับภารกิจพิชิตใจลูกสาวนายหัว "เอ้อ!! ขวัญ!! พี่ถามอะไรหน่อยซิ"

"ว่า?" ลูกขวัญเอ่ยปากถาม ขณะกำลังตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

"ปิดเทอมแล้ว ขวัญมีโครงการจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง?" ชายหนุ่มถาม

"ก็อาจจะ..." ภาสินีนั่งคิดอยู่สักพัก "ก็อาจจะกลับภูเก็ตน่ะคะพี่ ไปเยี่ยมอากงอาม่าที่ภูเก็ตน่ะคะ"

"อยากไปเที่ยวภูเก็ตจังเลย ตั้งแต่เกิดมา พี่ไม่เคยไปเที่ยวภูเก็ตเลยนะ" ศาสตรายิ้ม "แต่ได้ข่าวมาว่า ภูเก็ตค่าครองชีพแพงไม่ใช่เหรอ? กับข้าวจานนึงของภูเก็ตนี่เกือบร้อยเลยนิ"

"มันก็แล้วแต่ร้านคะพี่" ลูกสาวนายหัวตอบอย่างฉะฉาน "ถ้าพี่จะไปเที่ยวภูเก็ต แบบประหยัด ๆ พี่ต้องมีเพื่อนหรือญาติที่อยู่ที่นั่นเป็นไกด์นำทาง ไม่งั้นพี่จะโดนชาร์ตค่าที่พัก ค่าอาหาร แต่ก็ไม่ใช่ทุกร้านหรอกค่ะ ร้านดี ๆ ก็มี แต่สำคัญที่สุด..."

"อะไรเหรอครับ?" นักศึกษาหนุ่มคณะกฎหมายเอ่ยปากถามด้วยความสนใจ

"พวกแหล่งท่องเที่ยวหน้าหาด อย่างพวกหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน หาดดัง ๆ ของภูเก็ต พี่อย่าไปซื้อของกินย่านนั้นเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่เค้าจะคิดราคานักท่องเที่ยว พี่อาจจะล้มละลายภายในวันเดียวได้ ถ้าไม่ระวัง" ภาสินี สาวน้อยจากภูเก็ตร่ายยาว "ถ้าหิว ให้กินให้เสร็จในเมืองก่อนแล้วค่อยไปเที่ยว หรือจะห่อข้าวไปกินที่โน่นก็ได้"

"สงสัยถ้าพี่ไปเที่ยวภูเก็ต พี่ต้องให้ขวัญเป็นไกด์ให้พี่แล้วซิ" ศาสตรายิ้มหวาน "พอจะเป็นไกด์นำเที่ยวให้พี่ได้ไหมครับ? เอ้อ!! พี่เคยเห็นตึกเก่า ๆ ของภูเก็ตน่ะ ที่มันเป็นทรงแบบจีน ๆ ผสมฝรั่งหน่อย เค้าเรียกว่าอะไรนะ?"

"ตึกทรงชิโน่-โปรตุกีสค่ะ" ภาสินีตอบอย่างฉะฉาน "สมัยก่อนที่ภูเก็ตยังไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยว ภูเก็ตเคยเป็นแหล่งแร่ดีบุก ก็มีคนจีนกับคนฝรั่งมาทำเหมืองแร่ ก็เลยสร้างเมืองเก่าที่เป็นตึกชิโน่-โปรตุกีส อย่างที่พี่เห็นน่ะคะ"

"รู้ลึกสมกับเป็นเด็กภูเก็ตเลยนะครับเนี่ย" ศาสตรายิ้มหวานให้เด็กสาว "แล้วถ้าพี่อยากไปเที่ยวภูเก็ต พวกหาดป่าตอง หรือแหล่งท่องเที่ยวดัง ๆ ขวัญพอจะเป็นไกด์นำเที่ยวให้พี่ได้ไหมครับ?"

"ไม่รับปากนะคะพี่แบงค์" สาวน้อยเมืองภูเก็ตตอบ "เพราะขวัญอยู่ที่นั่นแค่ไม่กี่ปีเอง เลยไม่ค่อยชำนาญเส้นทางเท่าไร"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ" ศาสตรายิ้มหวาน "แค่ให้พี่ได้อยู่ใกล้ ๆ ขวัญ พี่ก็ดีใจแล้ว"

"หึ..." ลูกขวัญยิ้มที่มุมปาก "ปากหวานจังนะคะพี่แบงค์ แล้วถ้าวันนึง ขวัญอยากไปเที่ยวเชียงใหม่ พี่แบงค์จะเป็นไกด์นำเที่ยวให้ขวัญได้ไหมคะ?"

"ได้ซิครับ!!" หนุ่มนักกฎหมายพยักหน้า "อยากเที่ยวที่ไหนก็บอกได้นะครับ"

"ขวัญอยากไปเที่ยวดอยอินทรนนท์ค่ะ" ภาสินีตอบ "เอาไว้ถ้าขวัญได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ พี่แบงค์พาขวัญไปเที่ยวนะคะ"



"ได้ซิครับ ไม่มีปัญหา!!" เรียกได้ว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี กับการที่หนุ่มเชียงใหม่จะจีบสาวภูเก็ต

หลังจากอิ่มกับบุฟเฟ่ต์และของหวานแสนอร่อยจากทางร้าน ศาสตราก็ตั้งใจจะเปย์ใส่ภาสินีเพื่อหวังมัดใจ แต่กลับโดนเด็กสาวปฏิเสธ

"พี่แบงค์ พอเถอะค่ะ" ลูกขวัญรีบปฏิเสธ "เดี๋ยวขวัญช่วยออกให้คนละครึ่งดีกว่า"

"ไม่เป็นไรหรอกครับขวัญ" ถึงเป็นแบบนั้น แต่ศาสตราก็พยายามดึงดัน "มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง"

"พี่แบงค์ ขวัญบอกว่าไม่ก็ไม่ซิคะพี่" ลูกสาวทำเสียงดุ "คนละครึ่งดีแล้ว แฟร์ ๆ กันทั้งสองฝ่าย"

"ถ้างั้นก็ได้ครับ" พอได้ยินแบบนี้ ศาสตราก็ยินยอมให้ภาสินีช่วยหารค่าอาหาร ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปจองตั๋วภาพยนตร์ และเดินย่อยฆ่าเวลาระหว่างรอหนังฉาย

เรียกได้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ศาสตรา ต้องเร่งทำคะแนนเพื่อหวังพิชิตใจภาสินี ว่าที่นักศึกษาแพทย์คนใหม่ อยากรักก็ต้องลองเสี่ยงดู ไม่ลองก็ไม่รู้ เพียงแต่ เจ้าหนุ่มแบงค์ ศาสตรา ไม่มีทางรู้เลยว่าโชคชะตาของน้องลูกขวัญ ภาสินี ถูกฟ้าเบื้องบนกำหนดไว้แล้ว ว่าจะต้องลงเอยกับใคร

......................................

ตัดมาร้านเซเว่นหน้าปากซอยทางเข้าบ้านไอ้เจ๋ง

"ฮัลโหล!! ไอ้เจ๋ง!!! มึงอยู่ไหนวะ!!!??" เพราะไม่มีที่ไป สุดท้าย ลอยศักดิ์เลยต้องถอยทัพกลับมาที่จุดเริ่มต้น ซึ่งนั่นก็คือหน้าปากซอยทางเข้าบ้านของไอ้เจ๋ง ญาติรุ่นน้องของมัน

"ผมส่งของให้ลูกค้ารายนี้เสร็จเมื่อไร เดี๋ยวผมไปพี่" ไอ้เจ๋งที่ผันตัวมาทำอาชีพสุจริตตอบ "ตอนนี้พี่อยู่ไหนเนี่ย?"

"กูอยู่เซเว่นหน้าปากซอยบ้านมึงอ่ะ" ไอ้ลอยตอบ "เร็ว ๆ นะ กูรออยู่"

หลังจากกดวางสาย ไอ้ลอยก็ล้วงซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋า แล้วจุดสูบเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอไอ้เจ๋งเดินทางมาถึง

เมื่อหลายวันก่อน ไอ้ลอยตั้งใจว่าจะขับรถหนีขึ้นเชียงใหม่ เพื่อหลบหนีการตามล่าจากลูกน้องของนายหัวภูชิตที่ส่งมาตามล่าตัว แต่รถกระบะเจ้ากรรมดันยางแตกกลางทาง ซ้ำร้ายใบขับขี่ที่ตัวเองมียังหมดอายุ แถมตัวเองยังมีประวัติอาชญากรรม สุดท้ายไอ้ลอยเลยต้องยอมทิ้งรถกระบะคันนี้แล้วหนีจากการตามล่าจากนายหัวภูชิตและตำรวจอย่างหัวซุกหัวซุน

ความจริงแล้ว ไอ้ลอยไม่จำเป็นต้องกลับมาที่บ้านของไอ้เจ๋งก็ได้ เพราะมันสุ่มเสี่ยงที่จะโดนลูกน้องของนายหัวภูชิตตามมาไล่ล่า แต่เพราะความเป็นห่วงทอมสาวร้านสะดวกซื้ออย่างสุนันทา ที่จากกันโดยไม่ได้ร่ำลาอะไร เลยทำให้ไอ้ลอยยอมเสี่ยงกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพราะยังมีเรื่องที่ยังค้างคาใจ ที่อยากจะพูดกับทอมสาวอีกมากมายนั่นเอง

ลอยศักดิ์ ที่สวมแว่นดำพรางตัวยืนสูบบุหรี่หน้าเซเว่น เหลือบมองนาฬิกา พบว่าตอนนี้เป็นช่วงบ่ายโมง ในใจก็คิดว่ากลับมารอบนี้จะได้เจอน้องนันหรือเปล่า เพราะตัวของมันเองก็ไม่รู้ว่าน้องนันเข้าเวรกะไหน? ระหว่างกะดึกหรือกะเช้า เอาเป็นว่าถ้าตอนบ่ายไม่เจอ ตอนค่ำยังมี

แล้วทันใดนั้นเอง ความตั้งใจของไอ้ลอยก็สมหวังดั่งใจนึก เมื่อไอ้นันกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Fino จอดริมข้างทาง

"นัน!!! น้องนัน!!!" ไอ้ลอยรีบเขวี้ยงบุหรี่ทิ้งลงกับพื้น ก่อนเดินเข้าไปหาทอมสาวร้านสะดวกซื้อ ที่ตนเองได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเมื่อไม่กี่วันก่อน "เป็นยังไงบ้าง? สบายดีไหม?"

"มึง!! มึงจะมาที่นี่อีกทำไม!!" พอได้เห็นไอ้ลอย สุนันทาก็ถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ "มึงไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก!!! ไปให้พ้น!!!"

"ทำไมพูดแบบนี้ละนัน" ลอยศักดิ์ยังคงพยายามง้อทอมสาวร้านสะดวกซื้อ "ทำไมวันนั้นถึงหนีพี่ไปละ ทำไมไม่รอพี่ก่อน พี่อุตส่าห์ลงไปซื้อข้าวมาให้ แล้วตอนนี้นันเป็นยังไงบ้าง?"

"นี่!!! ฟังกูนะไอ้สัตว์!!!" ไอ้นันสวนกลับไป "มึงไม่ต้องมาพูดดีกับกูเลย ตอนที่กูเมา มึงไปพูดอะไรกับแฟนกู มึงรู้ไหม? แฟนกูขอเลิกกับกูเพราะมึง!!!"

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

Jim Lord


waddafux


bangsan

น้องนันก็ลองมาเป็นแฟนกับไอ้ลอยเลยซิใหนๆก็โดนไอ้ลอยล่อไปแล้ว


testman

ลุงพลไม่มีบทเลย

งานนี้ น้องลูกขวัญ ยังแทบไม่ได้เกี่ยวกับลุงเลย ถ้าไรต์ไม่ย่อนี่ ไม่รู้อีกกี่สิบตอนกว่าจะเจอกัน

ปล. เชื่อว่าแฟน ๆ ยังคิดถึงหมอเบสและหมอพลอยแน่ ๆ ครับ

Nu metal


pongphun2397

น้องนันเลิกกับแฟนแล้ว แบบนี้ก็เข้าทางพี่ลอยนะสิ

ones26421



นัทโตะ

ตอนนี้ผมว่าไอ้ลอย กับน้องนันนี่น่าสนใจไม่แพ้เรื่องหลักเลย คือคาแร็คเตอร์น้องนันท์ ดูคล้ายๆหมอพลอยตอนภาคแรกเลย

pipatpee


ryg123456


Nong5670