ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 37 : คุณเชื่อเรื่องอดีตชาติไหม? Part 2

เริ่มโดย nato87, พฤษภาคม 23, 2023, 07:20:39 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้


BBlingT

อยากให้ครูเบสท์ระลึกชาติได้จังเลยครับ
เนื้อเรื่องน่าจะสนุกขึ้นอีกเยอะเลย

tetete

นาถนี่ตัวก่อปัญหาจริงๆ น่าจะได้รับผลกรรมหนักๆหน่อยนะครับ



barney


Thanongsak

 ::YehYeh::
อ้างจาก: nato87 เมื่อ พฤษภาคม 23, 2023, 07:20:39 หลังเที่ยง
พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้ว ๆ มาติดตามกันต่อนะครับ

สำหรับ part 2 ตอนแรกผมจะให้ลูกขวัญมีบทเด่น แต่เขียนไปเขียนมา แอร์ไทม์ไม่พอ เลยต้องเพิ่ม part3 ให้ลูกขวัญ น่ะครับ สำหรับตอนนี้ มีการใช้ภาษาถิ่นอีกแล้ว แต่ไม่ต้องกลัว เราลง Subtitle ให้แล้วครับ

สำหรับตอนหน้า นอกจากน้องลูกขวัญ ก็ยังมีบทของพี่บอย ภูวนาท กับฉากรวมญาติกันของครอบครัวถิ่นทวีพัฒนา ที่หลังจากนี้ จะเป็นขาลงของตระกูลนี้ และส่งผลให้น้องลูกขวัญต้องมาลงเอยกับลุงพลในท้ายที่สุดครับ

ก็ตอนนี้ผมได้คอมใหม่มาละ กำลังทดลองแต่งภาพด้วย AI + Photoshoop ในส่วนของการวาดภาพด้วย AI ผ่านโปรแกรม Stable Diffusion บอกตรง ๆ ว่าผมยังงง ๆ กับมันอยู่ เพิ่งโหลดมาลองใช้ ยังไม่ค่อยคล่องเท่าไร เพราะมันมีการปรับแต่งค่าอะไรเยอะแยะมาก สุดท้ายผมเลยต้องใช้เทคนิคเดิม ๆ ของผม นั่นคือ Photoshop แทน

ตอนนี้ผมลองทำเล่น ๆ สองคน คือโดนัทกับลูกขวัญครับ






ปล.ลูกขวัญหุ่นเธอดูเซ็กซี่ไปหน่อยในความคิดผมครับ รูปร่างไม่สมส่วน แขนยาวไป คือผมยืมภาพเค้ามาใช้ตัดต่อใบหน้าด้วย photoshop อีกทีครับ 5555+

######################

ความเดิมตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=271434.0

"โอ้ยยย!!! ปวดหัว!!!" ภัคจิราเอามือกุมขมับ ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของลุงพล "นี่!!! กล้าดียังไงถึงมากอดเบสท์!!! ปล่อยนะ!!! บอกให้ปล่อย!!! เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า!!! ปล่อย!!! ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง!!?? ห๊ะ!!"

"ไม่ครับ!!!" ลุงพลปฏิเสธ "ผมยอมให้ครูเบสท์ด่าสาดเสียเทเสียขนาดนี้ แต่ครูเบสท์ก็ยังไม่เชื่อผม ทำไมเหรอครับ? ผมมันต้อยต่ำขนาดนั้นเลย ผมมันเลวร้ายมากเลยใช่ไหม? ในสายตาของครูเบสท์?"

"พึ่งรู้เหรอ!!??" ครูเบสท์จิกตาใส่ "นี่!!! ปล่อยเบสท์!!! บอกให้ปล่อยไง!!??"

สุดท้าย ตาเฒ่าจอมเจ้าชู้ก็ไม่อาจฝืนใจอาจารย์สาวพยาบาลได้ จึงจำใจต้องปล่อยมือออก

"บ้าบอที่สุด!!!" หญิงสาวโกรธจนหน้าแดงก่ำ เธอมองตาเฒ่าด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ "อย่ามาถือวิสาสะถูกเนื้อต้องตัวเบสท์อีก!!! ลุงพล!!"

"ครูเบสท์..." ลุงพลทำตาละห้อยด้วยความหมดอาลัยตายอยาก เหตุใดหนอ ภัคจิราจึงไม่ยอมใจอ่อนเสียที "ผมช่วยชีวิตครูเบสท์ แต่ครูเบสท์ไม่คิดที่จะขอบคุณผมสักคำเลยเหรอครับ?"

"เพราะเบสท์ไม่เชื่อเรื่องเพ้อเจ้อของคนอย่างลุงไงละ!!??" ครูพยาบาลตอบกลับโดยไม่ลังเล "เบสท์จะรู้ได้ยังไง!!?? ว่าเครื่องบินที่ตก มันจะเป็นเครื่องบินที่ชั้นโดยสารไปอเมริกา อีกอย่าง มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ ลุงอย่ามามั่วเลยดีกว่า!!!"

"ผมไม่ได้มั่วนะครับครู!!!" ลุงพลยังไม่ยอมละความพยายาม "ทั้งหมดเป็นลิขิตจากสวรรค์ ในชาติภพนี้ครูเบสท์จะมีอายุขัยที่สั้น ผมเลย..."

"นี่!!! นี่!!! นี่!!!" ในตอนนี้ นางฟ้าของเหล่าบรรดานักศึกษาพยาบาล ได้กลายร่างเป็นนางยักษ์แผดเสียงคำรามใส่คนขายน้ำเต้าหู้ "กล้าดียังไง!!!มาแช่งเบสท์อีก!!! เบสท์ไม่รู้จะด่าลุงยังไงแล้วนะ!!"

"ด่าอะไรผมก็ด่ามาเถอะครับ" อดีตภารโรงเก่าตอบโดยไม่สะทกสะท้าน แล้วทันใดนั้น "ถ้าผมไม่สามารถทำให้ครูเบสท์เชื่อผมได้ ก็ไม่เป็นไรครับ แต่อย่างน้อย ถ้าผมทำให้ครูเบสท์รอดชีวิตได้ ผมก็ยินดี"

"นี่ ๆ ลุงทำบ้าอะไรของลุงเนี่ย!!??" ทันใดนั้น ลุงพลก็คุกเข่าต่อหน้าครูเบสท์ ที่กำลังทำตัวและปรับอารมณ์ไม่ถูก "คิดว่าทำแบบนี้แล้วเบสท์จะใจอ่อนเหรอ!!?? ไม่มีทาง!!"

"ผมยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อครูเบสท์..." มนุษย์ลุงเงยหน้ามองนางฟ้าคนสวย "ผมยอมสยบแทบเท้าครูเบสท์ ยอมเป็นได้ทุกอย่าง เพื่อให้ครูเบสท์อยู่รอดปลอดภัย เพื่อให้ครูเบสท์ได้มีความสุข ผมยอมทุกอย่าง จะต้องให้ครูเบสท์เอาเท้ามากดหัวผมให้จมดิน ผมก็ยอม ถ้ามัน..."

"ลุงพล!!!" ภัคจิราเริ่มสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง จนน้ำตาเริ่มคลอออกมา "ทำไม? ทำไม?"

"ทำไมเหรอครับ?" ลุงพลตอบ "ก็เพราะเหตุผลลิเก ๆ ที่ครูเบสท์ได้ปรามาสผมไว้ไงละครับ"

มาถึงจุดนี้ อาจารย์สาวเริ่มเกิดคำถามในใจ ว่าการที่คนเราสักคนเนี่ย จะต้องทำหรือพูดอะไรให้คนอีกคนเชื่อเนี่ย ต้องลงทุนเกินเบอร์ขนาดนี้ด้วยเหรอ ถึงฟังดูน่าตลก แต่ก็ไม่แน่ว่า บางทีนั่นอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้

และโดยเนื้อแท้ของภัคจิรา เธอเองก็เป็นคนที่มีเหตุผล ในเมื่อลุงพลยอมทำถึงขนาดนี้ เธอเลยคิดว่าจะลองเปิดใจฟังดู ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น ก็อีกเรื่อง

"เอาละ ๆ พอได้แล้ว!!!" ว่าแล้วครูเบสท์ก็สั่งให้ลุงพลลุกขึ้น "ลุกขึ้นมาเถอะ ก็ได้!!! เบสท์จะยอมฟังคำอธิบายของลุงก็ได้ แต่เบสท์ไม่รับปากหรอกนะ ว่าเบสท์จะเชื่อ"

"ขอบคุณครับครูเบสท์!!" แล้วตาเฒ่าจอมหื่นก็ยิ้มออก ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน เพื่ออธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ครูเบสท์ฟัง "ในที่สุด ครูเบสท์ก็ยอมฟังผมสักที!!!"

"พูดมา..." ภัคจิรายืนกอดอกตั้งใจฟัง

"มันเป็นเรื่องของอดีตชาติ เป็นกรรมเก่าของพวกเราทั้งหมดครับครู" ลุงพลอธิบาย "ครูเบสท์ หมอพลอย และนักเรียนพยาบาลบางคนในวิทยาลัยแห่งนี้ เคยเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ และผมเองก็เคยเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์เหมือนกัน"

"อาห๊ะ..." แค่เริ่มต้น ก็ได้กินกาวมาแต่ไกล นางฟ้าพยาบาลหรี่ตามองมนุษย์ลุงตรงหน้า ที่กำลังพล่ามเรื่องอดีตชาติบ้าบอคอแตกอะไรก็ไม่ทราบ "แล้วยังไงต่อ? มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? มันมีเหตุผลอะไร ที่ทำให้ลุงพลต้องมาหลอกลวงเด็กนักเรียนพยาบาล พี่พลอย แล้วก็เบสท์แบบนี้ ว่ามา?"

"ในอดีตชาติ ผมเคยหลงรักหมอพลอยน่ะครับครู" ลุงพลเล่าความจริงทุกอย่างออกมา ถึงจะรู้ว่าคงโดนอีกฝ่ายด่าว่าบ้า แต่ก็ต้องพูด เพราะนี่คือโอกาสสำคัญ ที่จะทำให้ใครสักคนเชื่อ ถ้าเป็นครูเบสท์ อะไร ๆ หลังจากนี้คงจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ "หมอพลอยในอดีตชาติ เธอมีชื่อว่าพลอยพรรณรายครับ"

"ห๊ะ!!!?? พลอยพรรณราย!!!??" ภัคจิราร่นคิ้วหนักขึ้น แล้วอยู่ดี ๆ อาการปวดหัวก็กำเริบ "โอ้ยยย!!! อะไรกันเนี่ย!!!??"

"ครูเบสท์!!??" ด้วยความเป็นห่วงครูเบสท์ ลุงพลจึงเอ่ยปากถาม และเตรียมก้าวเท้าเพื่อเข้าไปช่วยพยุง "ให้ผมช่วยไหมครับ!!??"

"ไม่ต้องเลย!!!" ครูเบสท์รีบชูมือห้าม "ทำไมเบสท์ต้องมาปวดหัวกับเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วยนะ เอาซิ!!! เล่ามาต่อ!!! เล่ามา!!! ถ้าลุงกล้าเล่า!!! เบสท์ก็จะฟัง!!!"
"ในอดีตชาติ หมอพลอยและครูเบสท์เป็นพี่น้องกันครับ" ลุงพลอธิบายต่อ "หมอพลอยคือพี่คนโต ส่วนครูเบสท์เป็นพี่คนรอง แล้วก็ยังมีน้อง ๆ อีกสิบคน รวมเป็นทั้งหมด 12 คนครับ"

"เห๊อะ!!!" ยิ่งฟัง ครูเบสท์ก็ยิ่งหาเหตุผลที่จะเชื่อคำอธิบายของลุงพลไม่ได้เลย "แล้วยังไงต่อ? พี่พลอยกับเบสท์เป็นพี่น้องกัน แล้วเราสองคนก็ยังมีน้อง ๆ คนอื่นอีก 10 คน รวมเป็น 12 คน ว่างั้น? แล้ว ตกลงนอกจากพี่พลอยแล้วก็เบสท์เนี่ย? ยังมีใครอีกบ้าง ที่มาเกิดในชาตินี้?"

"ที่ผมตอบได้แน่ ๆ นอกจากหมอพลอยกับครูเบสท์" ลุงพลคนอธิบายต่อ "ในวิทยาลัยพยาบาลนี้ก็ยังมี เฟิร์น โดนัท อุ๊ นาถ หมวย อีฟ แล้วก็ยังมีคนอื่น ที่ไม่ได้เรียนที่นี่อีกครับ ซึ่งผมยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใครบ้าง?"

"เหอะ ๆ" ครูเบสท์เค้นหัวเราะ ก่อนปรบมือประชดให้ลุงพล ที่อุตส่าห์เล่าเรื่องเพ้อเจ้อให้ตนเองฟัง "รู้ไหม? ว่ายิ่งลุงเล่าเรื่องอดีตชาติอะไรของลุงเนี่ย? เบสท์ยิ่งหาความเมคเซนต์ไม่เจอ เอาละ!!! เรามาเข้าเรื่องกันดีว่า ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเบสท์ที่เป็นเทพอยู่บนสวรรค์ ต้องลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ แล้วเจอหน้าคนอย่างลุงด้วย?"

"อย่างที่ผมเคยบอกไปน่ะครับครู" ตาเฒ่าจอมเจ้าชู้ร่ายยาว "ในอดีตชาติ ผมคือท้าวชุมพลศักดา เป็นแม่ทัพสวรรค์ ที่คอยนำทัพปราบเปล่าหมู่มารและอสูรกาย และในอดีตชาติ ผมได้รักหมอพลอย แต่หมอพลอยไม่ได้รักผม เธอหลอกให้ผมฝ่าฝืนกฎสวรรค์เพื่อพิสูจน์ความรัก จนทำให้ผม หมอพลอย และครูเบสท์ต้องลงมาเกิดบนโลกมนุษย์เพื่อชดใช้กรรมเนี่ยแหละครับ?"

"เดี๋ยวนะ!!!??" ภัคจิราแย้ง "คือ ในอดีตชาติ ลุงรักพี่พลอย แต่พี่พลอยไม่ได้รักลุง นี่เบสท์เข้าใจถูกไหม? แล้วต่อมา พี่พลอยก็เลยหลอกให้ลุงไปทำเรื่องต้องห้ามบนสวรรค์ คำถามคือ แล้วเบสท์ กับคนอื่น ๆ มันเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง? ก็ในเมื่อฟัง ๆ ดูแล้ว มันเป็นเรื่องของลุงกับพี่พลอยชัด ๆ"

"เพราะคนอื่น ๆ บางคน มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ไงครับครูเบสท์" ลุงพลตอบ "ครูเบสท์เองก็รู้เห็นเรื่องนี้เหมือนกัน"

"ห๊ะ!!" พอได้ยินแบบนี้ ครูเบสท์ถึงกับอ้าปากค้าง "เบสท์เนี่ยนะ!!?? ไม่!!! ไม่มีทาง!!! เบสท์ว่าเบสท์ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่ ๆ"

"มันเป็นเรื่องของอดีตชาติครับครู" ลุงพลตอบ "และครูเบสท์ ก็เป็นคนที่พยายามทักท้วงหมอพลอย ไม่ให้หมอพลอยมาหลอกใช้ผม แต่ไม่สำเร็จ สุดท้าย ผม หมอพลอย ครูเบสท์ เลยถูกลงโทษด้วยการให้มาเกิดบนโลกมนุษย์เพื่อชดใช้กรรมของแต่ละคน จนกว่าจะหมดภพชาติ แล้วจึงจะกลับขึ้นไปเป็นเทวดาบนสวรรค์อีกครั้งครับ"

"งั้นเหรอ!!!??" ครูเบสท์ทำเสียงสูง พร้อมกับเอามือกุมขมับอยู่เป็นระยะ "ทำไมกันนะ? ทำไม่เบสท์ต้องมาปวดหัวกับเรื่องแบบนี้เนี่ย!!! ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเลอะเทอะ!!! ไร้สาระ!!!"

"ครูเบสท์ครับ?" พอเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของครูเบสท์ ลุงพลเลยเอ่ยปากถาม "ยังอยากจะฟังอีกหรือเปล่าครับ?"

"ว่ามา!!!" ภัคจิราพยักหน้า "ไหน ๆ ก็จะบ้าละ!!! ก็บ้าให้สุดไปเลย!!! แล้วยังไงต่อ!!?? ที่ลุงบอกว่า ถ้าพี่พลอย เบสท์ แล้วก็น้อง ๆ อีก 10 คนที่เหลือตายในชาตินี้ ก็หมายความว่าทุกคนจะได้กลับไปอยู่บนสวรรค์ซินะ ถ้าอย่างนั้น ถ้าเบสท์ตาย เบสท์ก็จะได้กลับขึ้นไปบนสวรรค์ มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ? แล้วลุงพลมาขวางทำไม?"

"เพราะผมไม่อยากให้ครูเบสท์ต้องตายยังไงครับ" ลุงพลตอบด้วยสีหน้าจริงจัง "ครูเบสท์อย่าลืมซิครับ ว่าในชาตินี้ ครูเบสท์ยังมีคนที่ครูเบสท์รัก คุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน และลูกศิษย์ทุกคนที่นี่ ทุกคนก็ล้วนรักและเคารพครูเบสท์ด้วยกันทั้งนั้น ครูเบสท์ไม่รู้สึกเสียดายบ้างเหรอครับ ถ้าครูเบสท์จะต้องลาจากคนเหล่านี้ไป"

พอได้ยินคำนี้จากปากคนที่ไม่น่าไว้ใจอย่างลุงพล ก็ทำเอาครูเบสท์ถึงกับเงียบไป

"ครูเบสท์?" ตาเฒ่าจอมเจ้าชู้เอ่ยปากถาม "เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ทำไมถึงเงียบไป?"

"ก็ถือว่าเป็นคำตอบที่พอฟังขึ้น" ครูเบสท์ตอบ "แต่เบสท์ก็จะพูดคำเดิม มันมีวิธีดี ๆ มากมาย ที่ลุงจะช่วยเบสท์ หรือรวมไปถึงคนอื่น ไม่ใช่มาฉวยโอกาสหลอกล่อ ข่มขืน ข่มเหงน้ำใจกันแบบนี้ ลุงไม่กลัวกฎหมายบ้านเมือง ไม่กลัวเวรกรรมบ้างหรือไง?"

"ก็กลัวครับ" มนุษย์ลุงพยักหน้า "แต่ผมต้องทำ เพื่อให้ครูเบสท์ และทุกคนมีชีวิตยืนยาวต่อไป เพื่อทำสะสมบุญ ทำความดีต่อไปในชาติภพนี้ ส่วนผม จะยังไงก็ช่าง"
"เห๊อะ!!! พูดเอาดีเข้าตัวจริง ๆ พ่อพระเอก!!!" ภัคจิราถึงกับส่ายหน้า "เอาละ!!! คำถามสุดท้าย!!! แล้วลุงรู้อนาคตของเบสท์ได้ยังไง? ว่าเบสท์จะต้องตายเพื่อขึ้นเครื่องบิน?"

"ผมมีนิมิตลางบอกเหตุอนาคตข้างหน้าน่ะครับครู" ลุงพลอธิบายเรื่องราวทั้งหมด "ไม่ใช่แค่หมอพลอยหรอกนะครับ แต่รวมถึงทุก ๆ คน ถ้าผมไม่เข้าไปช่วย ทุกคนจะต้องมีอันเป็นไป"

"นี่ ๆ คนอื่นเอาไว้ก่อนเหอะ!!!" ครูเบสท์รีบผายมือห้าม "ตอนนี้เบสท์อยากรู้เรื่องของเบสท์ก่อน!!! ลุงเห็นอะไรในอนาคต เกี่ยวกับเบสท์!!?? แล้วมันมีจุดเชื่อมโยงกับอดีตชาติยังไง!!?? ไหนว่ามาซิ!!!"

"ในอดีตชาติ ครูเบสท์เองก็รู้เรื่องราวทั้งหมด และได้พยายามขัดขวางหมอพลอย เรื่องที่มาปั่นหัวให้ผมรักน่ะครับ" ลุงพลตอบ "แต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้าย องค์ตุลาการสวรรค์ที่เป็นพ่อของหมอพลอย ครูเบสท์ และน้อง ๆ ที่เหลือทั้งหมด เลยตัดสินใจให้ทุกคน รวมทั้งผมลงมาเกิดบนโลกมนุษย์น่ะครับ"

"อะไรนะ?" ยิ่งฟังตาลุงเพี้ยนคนนี้พล่ามเรื่องบ้าบอคอแตกมากเท่าไร ภัคจิราก็ยิ่งมองหาเหตุผลที่จะเชื่อไม่ได้เลย แถมยังมีตัวละครใหม่มาเพิ่มอีก "ใครนะ? ที่ลุงว่าเป็นพ่อของเบสท์ในชาติที่แล้ว?"

"องค์ตุลาการสวรรค์ครับครูเบสท์" ลุงพลตอบอีกครั้ง "องค์ตุลาการสวรรค์เป็นพ่อของหมอพลอย ครูเบสท์ และน้อง ๆ ที่เหลืออีกสิบคน แล้วก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกับผม และองค์ตุลาการสวรรค์เนี่ยแหละ ที่คอยบอกผมล่วงหน้า ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้"

"พอเหอะ พอเถอะลุง!!! เลิกเล่าตำนานแฟร์รี่เทลล์อะไรของลุงเถอะ!!!" ครูเบสท์เริ่มหมดความอดทน "ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเองยังไงไม่รู้!!! พอดีเบสท์ไม่ใช่แฟนคลับหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ ช่องเจ็ดเท่าไร ลุงเก็บจินตนาการของลุงไว้กับตัวเถอะ ไม่ต้องมาบอกเบสท์อีกละ!!!"

"ครูเบสท์!!!??" คนขายน้ำเต้าหู้ร่นคิ้วด้วยความแปลกใจ อุตส่าห์พูดมาซะยาว แต่ครูสาวพยาบาลก็ยังไม่เชื่อ "ผมพูดจริง ๆ นะครับครู!!!"

"เพคะ!!! เสด็จพี่!!!" ภัคจิราประชดประชัน "พอเห้อลุง!!! เบสท์ว่าเบสท์พอสำหรับเรื่องนี้ละ!!! อ้อ!!! เบสท์ว่าเบสท์รู้ละ ว่าทำไมเบสท์ถึงปวดหัว เพราะเบสท์ทนฟังเรื่องปัญญาอ่อนอะไรของลุงอยู่ตั้งนานเนี่ยแหละ!!! อ้อ!!! แล้วอีกอย่างนะ เบสท์แนะนำเลย ด้วยความหวังดี เบสท์ว่าลุงน่ะ เอาเรื่องมโนอดีตชาติอะไรของลุงไปเขียนนิยายเหอะ!!! แนะนำอย่างยิ่ง!!! เบสท์ไปละ!!! และหวังว่าจากนี้ไปเราต่างคนต่างอยู่นะ!!! ถ้ายังมาตอแยกันอีกแบบนี้ เราได้เห็นดีกันแน่ แล้วจะหาว่าเบสท์ไม่เตือน!!!"

"ครูเบสท์!!! เดี๋ยวก่อนซิครับ!!!" เมื่อเห็นว่าอาจารย์สาวกำลังหันหลังเดินกลับ ตาเฒ่าจอมเจ้าชู้เลยคว้าแขนอีกฝ่ายเอาไว้ "ผมไม่ได้บ้านะครับครู!!! ฟังผมก่อน!!! โอ้ยย!!!"

"จะไปไหนก็ไปเลยไป๊!!!" ครูเบสท์ไล่ลุงพลเหมือนกับหมูกับหมา "อย่ามายุ่งกับชีวิตเบสท์อีก!!! ไป๊!!!"

แล้วสุดท้าย ลุงพลเลยจำใจต้องปล่อยมือจากครูเบสท์ ที่ไม่ได้เชื่อในคำพูดของตนเองเลยแม้แต่น้อย

"เฮ้อ!!!" ดูเหมือนว่าลุงพลจะปลงตกซะแล้ว ในบรรดาสาว ๆ ที่เป็นทายาทขององค์ตุลาการสวรรค์ ครูเบสท์ดูจะเป็นคนที่เอาชนะใจได้ยากที่สุด และแทบมองไม่เห็นทางที่จะทำให้อีกฝ่ายยอมเชื่อในคำพูดของตนเองได้

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของนาถลดา ที่กำลังแอบบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ก็กำลังวางแผนชั่วร้ายอะไรบางอย่าง

..........................

อีกมุมหนึ่งของวิทยาลัยพยาบาล

หลังเลิกงานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาสินีและศรันย์พร ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน กำลังเดินคู่ออกมาจากหอประชุม เพื่อเดินทางกลับบ้าน

"นี่!!! ลูกขวัญ" น้องน้ำปั่นเอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน "เดี๋ยวไว้เปิดเทอมเจอกันนะ กลับบ้านดี ๆ ละ"

"โชคดีจ๊ะน้ำปั่น" ลูกขวัญโบกมือลาน้ำปั่น เพื่อนใหม่ที่แยกตัวกลับไปที่หอใน "แล้วเจอกันนะ"

ลูกสาวนายหัวเดินสะพายกระเป๋าออกมาหน้าทางออกวิทยาลัยพยาบาล โดยเธอไปยืนรอลุงขับรถตู้ที่หน้าป้ายรถโดยสารประจำทาง สาวน้อยจากภูเก็ตยืนรออยู่ประมาณ 10 นาที รถตู้ของนายหัวภูชิตก็แล่นมาจอดเทียบท่าพอดี

"ว่าพรือออ!!!??" (ว่าไง!!??) เมื่อภาสินีเปิดประตูรถตู้ เธอต้องตกใจเมื่อพบว่าที่นั่งที่ควรจะมีแต่ความว่างเปล่า กลับมีนายหัวภูชิตในชุดสูทสีดำนั่งอยู่ "หลูกขวัญ!!?? รอนานม้ายยหลูกกก!!!??" (ลูกขวัญ!!?? รอนานไหมลูก!!??)

"อ่าว?" ลูกขวัญดูแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นนายหัวภูชิตนั่งอยู่บนรถตู้ "พ่อมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?"

"พ่อไปแหลงกับโกดำที่พรรค เหลื่องเลือกตั้ง อบต พ่อเลยติดรถมารอรับหลูกขวัญหยบบ้าน" (พ่อไปคุยกับลุงดำที่พรรคมา เรื่องเลือกตั้ง อบต พ่อเลยติดรถมารอรับลูกขวัญกลับบ้าน) นายหัวภูชิตตอบด้วยสำเนียงติดทองแดง "มา ๆ แขบ ๆ ขึ้นรถมาต๊ะหลูกเอ้อ!!! ได้หยบบ้านกินข้าวกัน!!! เย็นหนี่มีหมูฮ้องที่หลูกชอบด้วยแระ!!!" (มาเร็ว รีบขึ้นรถมาเถอะลูก จะได้กลับบ้านไปกินข้าว มันนี้มีหมูฮ้องที่ลูกชอบด้วยนะ)

"ค่ะ..." ภาสินีพยักหน้า ก่อนเดินขึ้นรถตู้ของพ่อ เพื่อเดินทางกลับไปที่บ้านพักทันที

..........................

10 นาที ผ่านไป

"หาได้ไหมโกดำเอ้อ!!! ภูเก็ตมันถิ่นใครเอ้า!!! ภูเก็ตมันบ้านผมบ้านของโกดำ ถูกหม้ายยเอ้า!!?? ไม่ใช่ว่าพรรคตนชนะเลือกตั้ง แต่คนภูเก็ตจะเลือกตนทีนิ" (ไม่ได้หรอกลุงดำ ภูเก็ตมันถิ่นใคร ภูเก็ตมันก็บ้านผมบ้านลุงดำ ถูกไหมละ? ไม่ใช่ว่าพรรคของพวกคุณชนะเลือกตั้ง แล้วคนภูเก็ตจะเลือกพวกคุณสักหน่อย) นายหัวภูชิตกำลังแหลงใต้ใส่โกดำ เพื่อนร่วมสมาชิกพรรคของนายหัวภูชิต ที่กำลังลงสมัครเลือกตั้ง อบต ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แข่งกับตัวแทนของพรรคคู่แข่งจากกรุงเทพ ที่กำลังพยายามเจาะพื้นที่ในภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นเขตอิทธิพลของนายหัวภูชิต

"คนพันนั้นผมไม่อยากแหลงให้เจ็บคอโกดำ!!! ตนคิดว่าตนเป็นใครกันเอ้า!!?? ตนมาจากกรุงเตบ ทำหว๋ามาขออาสาดูแลภูเก็ต เหยดแมม!!! ตนมาทางไหน ตนกลับไปทางนั้นเลยต๊ะ พ่อเด็กกรุงเตบเอ้อ!!!" (คนแบบนั้นผมไม่อยากพูดให้มันเจ็บคอหรอกลุงดำ เค้าคิดว่าเค้าเป็นใคร เค้ามาจากกรุงเทพ มาขออาสาดูแลภูเก็ต ฮี่โถ่!!! เค้ามาจากไหน ก็กลับไปทางนั้นเลยไป พ่อคนกรุงเทพ!!!)

ภาสินีที่นังอยู่ข้าง ๆ กำลังนั่งเล่นยูทูปบนสมาร์ทโฟน พร้อมกับใส่หูฟัง ระหว่างที่พ่อของเธอกำลังคุยกับเพื่อนร่วมสมาชิกพรรคด้วยภาษาถิ่นอย่างออกรส

"ช่าย!!! พันนั้นแระโกดำเอ้อ!!!" (ใช่!!! แบบนั้นแหละลุงดำ ) นายหัวภูชิตนั่งคุยโทรศัพท์อย่างออกรส ยิ่งได้คุยเป็นภาษาใต้ นี่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่แกชอบมาก เพราะมันแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของคนใต้ "เชื่อผมต๊ะโกดำเอ้อ!! คนในทู้ คนถลาง คนในเมือง ก็ชิ้วเราเพ คนกันเอง เดี๋ยวเด็กเตบก็รู้แระ ว่ามาทำก๋าวผิดทีแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไม่โร้หวันไรเลย!! เหยดแมมม!!!" (เชื่อผมเถอะลุงดำ คนในกะทู้ คนในถลาง คนในเมือง ก็คนของพวกเราทั้งนั้น เดี๋ยวเด็กกรุงเทพจะได้รู้แน่ว่ามาซ่าผิดที่ ไม่รู้อะไรซะแล้ว)

.................................................................................

**เชิงอรรถ**

โก = คำสรรพนามเรียกชื่ออีกฝ่ายทางภาคใต้ ที่เป็นผู้ชายที่มีอายุมากกว่า ในภูเก็ตเรียกโก แต่บางพื้นที่ของภายใต้เรียกก้อ ถ้าเป็นผู้หญิงเรียก 'จี้'

หมูฮ้อง = เมนูอาหารประจำถิ่นภูเก็ต เป็นหมูสามชั้นคล้ายพะโล้ แต่น้ำน้อยกว่า คลุกคลิกกว่า

ภูเก็ต = มีสามอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอถลาง อำเภอกะทู้

ชิ้ว = ภาษาถิ่นของภูเก็ต หมายถึง กลุ่ม พรรคพวก

ก๋าว = ภาษาถิ่นของภูเก็ต หมายถึง ห้าว, สด, เปรี้ยว. กล้า

.................................................................................


เด็กหมอปีหนึ่งแอบชำเลืองมองพ่อที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยอาการเบื่อหน่าย

"ด้าย ๆ ๆ แล้วแหลงกันใหม่นะโกดำ!!!" (ได้ ๆ แล้วค่อยคุยกันไหมนะลุงดำ) แล้วนายหัวภูชิตก็กดวางโทรศัพท์ "แหม่!!! กำลังแหลงมันส์ ๆ เลย!!! หลูกขวัญ!!!??" (แหม่ กำลังคุยมันส์ ๆ เลย ลูกขวัญ!!??)

"คะพ่อ?" เมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อเรียก ภาสินีเลยถอดหูฟัง "มีอะไรกับหนูเหรอคะ?"

"วันหนี่ว่าพรือหลูกขวัญ?" (วันนี้เป็นไงบ้างลูก?) นายหัวภูชิตถามลูกสาวคนเล็กด้วยภาษาใต้ "ได้เพื่อนใหม่ไหมหลูก?" (สนุกไหม? เจอเพื่อนใหม่บ้างไหมลูก?)

"ก็สนุกดีค่ะพ่อ" ลูกขวัญตอบ "ก็เจอคะ หลายคนเลย แต่ละคนก็ดูนิสัยดีด้วย"

"ดี ๆ ดีหม๋าก!!" (ดี ๆ ดีมาก!!!) นายหัวภูชิตตอบ "เอ้อ!!! หลูกก็โตเป็นสาว เป็นผู้ใหญ่แหลว แต่นี้หลูกต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง หลูกขวัญ หลูกเป็นลูกสาวที่พ่อรักหม๋าก หม๋ากที่สุ้ด รักสุดหัวใจ๋ อย่าทำให้พ่อกับแม๋ผิดหวังนะหลูกนะ" (เอ้อ!! ลูกก็โตเป็นสาว เป็นผู้ใหญ่แล้ว นับจากนี้ลูกต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเองนะลูกนะ ลูกขวัญ ลูกเป็นลูกสาวที่พ่อรักมากที่สุด อย่าทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังนะลูกนะ)

"ค่ะ หนูไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังแน่นอน" ภาสินีตอบ โดยที่นายหัวภูชิตไม่รู้เลยว่า ลูกสาวคนเล็กของตนกำลังแอบคุยกับรุ่นพี่นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ชั้นปีที่ 3 ต่างสถาบันอยู่

"ตั้งใจเรียน จบมาเป็นหมอ เป็นเจ้าคนนายคน ให้คนนับถือ" (ตั้งใจเรียน จบมาเป็นหมอ เป็นเจ้าคนนายคน ให้คนเคารพนับถือ) ผู้เป็นพ่อให้โอกาสลูกสาว ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่ง "เรื่องความหรัก อย่าพึ่งไปคิด ป๊วดหัว เอาเรื่องเรียนก่อน เหมือนค๋ำโบร๋าณที่ท่านหว้า หมี่หหรักในวัยเรียน เหมือนจุ้ดเทียนกลางสายฝ๋น จำไว้นะหลูกขวัญ!!!" (เรื่องความรัก อย่าพึ่งไปคิด มันปวดหัว เอาเรื่องเรียนก่อน เหมือนคำโบราณที่เขาบอก มีรักในวัยเรียน เหมือนจุดเทียนกลายสายฝน)

"ค่ะพ่อ" ลูกขวัญแกล้งสวนกลับไป "แต่หนูว่า มันคงไม่มีใครไปจุดเทียนกลางสายฝนหรอกมั้งค่ะพ่อ"

"มันเป็นคำผังเผย สุภาษิตสอนใจ๋นะหลูก" (มันเป็นคำพังเพย สุภาษิตสอนใจนะลูก) นายหัวภูชิตอธิบาย "อย่าพึ่งมีแฟน อย่าพึ่งมีความหรัก เพราะมันจะเสียการเรียน เชื่อคำที่ผู้หลักผู้ใหญ่สอน แล้วหลูกจะได้ดี" (อย่าพึ่งมีแฟน อย่าพึ่งมีความรัก เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อเรื่องเรียน เชื่อฟังคำที่ผู้ใหญ่สอน แล้วลูกจะได้ดี)

"ค่ะพ่อ หนูจะจดจำคำสอนของพ่อให้ขึ้นใจ" ภาสินีตอบด้วยท่าทางเฉยเมย

"แหลงใต้ซิหลูกขวัญ!!!" (แหลงใต้ซิลูกขวัญ) แล้วทันใดนั้น ผู้เป็นพ่อก็พูดออกมา "หลูก!!! พวกเราเป็นคนภูเก็ต เป็นคนใต้ เราต้องไม่ลืมกำผื๋ดของตัวเอ๋ง แหลงใต้ชัด ๆ ชับ ๆ ให้พ่อฟังหน่อยได้หม้ายย!!??" (ลูก พวกเราเป็นคนภูเก็ต เป็นคนใต้ เราต้องไม่ลืมกำพืดของตัวเอง แหลงใต้ให้ชัด ๆ ให้พ่อฟังหน่อยซิได้ไหมลูก!!!)

โปรดติดตามตอนต่อไป...


xtazy

ลุงพลออกตัวกับครูเบสแรงมาก สงสัยภาคนี้จะไม่เหลือใจให้นางสนมน้อยๆอีกแล้ว

g9898

ลูกคุณหนูจริงๆ เรียนเลิกมีรถมารับเลย  น่าเบื่อแย่เลย ลูกขวัญ::JubuJubu::

1819

 ครูเบส ใจแบบนี้ พอภึงเวลา ปลดความรูเสึกต่อต้านแล้วล่ะก็ หัวปักหัวปรำแน่เลย     
ปล.. Ai น้องโดนัมสเปค ผมเลย
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า


pooloop

รอคอยรูทน้องลูกขวัญมานานเลยครับ อยากให้ถึงฉากนั้นเร็วๆจัง

Hanz3312

ต้องรอเบสระลึกชาติได้แล้วล่ะมั้ง เพีาะเรื่องที่ลุงเล่าฟังๆก็เพ้อเจ้อจริงๆ ::DookDig::