ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 38 : คุณหนูผู้น่าสงสาร Part 3

เริ่มโดย nato87, มิถุนายน 18, 2023, 07:22:08 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ความขัดแย้งระหว่าง 'หมอพลอย' กับ 'ลูกขวัญ' คุณอยู่ฝั่งไหน?

หมอพลอย
ลูกขวัญ

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้ว ๆ มาตามคำสัญญานะครับ

สำหรับตอนนี้ และตอนต่อ ๆ ไป ผมจำเป็นต้องบอกว่า เส้นเรื่องของน้องลูกขวัญนั้นค่อนข้างจะ 'ดาร์กและซีเรียส' พอสมควรเลยละครับ ซึ่งมันดูขัด ๆ กับความเป็นนิยายเสียวยังไงชอบกล แต่ผมก็ต้องเขียน เพื่อให้เนื้อเรื่องมัน impact ให้มากที่สุดล่ะครับ

และเช่นเดียวกัน ผมจำเป็นต้องบอกทุกคนว่า 'ในตอนหน้า จะเป็นตอนที่ผมทำจะให้ทุกคนเกลียดหมอพลอย' เธอจะกลายเป็นคนอีกคน ไม่ซิ เธอจะกลายเป็นคนที่เธอเคยเป็นเมื่อครั้นสมัยอดีตชาติ 'พลอยพรรณราย' ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าถ้าถึงตอนหน้า ทุกคนยังจะชอบหมอพลอยหรือเปล่า

ผมเข้าใจนะครับ ว่าหลาย ๆ คนรักและชอบหมอพลอย ในฐานะคนเขียน ผมเองก็รักเธอ และเคยเพ้อถึงตัวละครตัวนี้เหมือนกัน หมอพลอยเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มาก แต่ผมก็ต้องทำให้เธอเป็นตัวร้าย ไม่ใช่เพราะจะผลักดันให้ครูเบสท์และน้องลูกขวัญโดดเด่นขึ้นมาเพื่อสนองอีโก้ตัวเอง แต่เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครหนีกรรมเก่าของตัวเองพ้น ทุกคนในเรื่องนี้ ล้วนมีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของตัวเองครับ

และสุดท้าย การรอคอยก็ใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดละครับ กับ 'ตอนที่ 39 : ปลอบโยนลูกสาวนายหัว' โดยลุงพล คนขายน้ำเต้าหู้ ซึ่งถ้าใครเคยอ่าน Side Story มา ก็น่าจะรู้ละว่าเนื้อเรื่องมันจะเป็นไปในทิศทางใดครับ


**Side story ของน้องลูกขวัญ กับฉากที่เธอยอมเสียพรหมจรรย์ให้ลุงพล ที่คอนโดของเธอเพื่อตอบแทนที่ลุงพลช่วยเหลือเธอจากหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งจะมีพูดถึงเต็ม ๆ ในตอนที่จะถึงนี้ แต่อาจจะไม่เหมือนกันทั้งหมดนะครับ**

https://xonly8.com/index.php?topic=215789.0

ความเดิมตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=272680.0

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ที่ห้องทำงานของพลอยพรรณ

"ครับ ตอนนี้มีรายงานข่าวว่า ทาง ป.ป.ช.ได้แจ้งว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าจำนวนกว่า 800 ไร่ ในจังหวัดชลบุรีและจันทรบุรี และเมื่อทำการตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นการซื้อที่ดิน น.ส.3 ก. ของท่านวิทยา จารุศิริการกุล รองหัวหน้าพรรคบูรพารักษาแผ่นดิน ซึ่งเมื่อตรวจสอบลึกลงไปอีก ก็พบว่า ในพื้นที่ป่า ที่ท่านวิทยาได้ซื้อไปนั้น ได้มีการแอบลักลอบค้าไม้เถื่อน และขนของหนีภาษีจากประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย..."

พลอยพรรณยืนนิ่งกับภาพรายงานข่าวโทรทัศน์ที่อยู่ตรงหน้า มันคือการรายงานข่าวเปิดโปงการทุจริตของท่านวิทยา คุณพ่อของเธอ ซึ่งไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของนายหัวภูชิต ที่ได้ตอบโต้การกระทำของฝ่ายครอบครัวจารุศิริการกุลอย่างเจ็บแสบ

"คะ ท่านคะ?" แล้วภาพในหน้าจอโทรทัศน์ ก็ตัดมาเป็นภาพของนายหัวภูชิต ที่กำลังถูกนักข่าวสัมภาษณ์ เรื่องประเด็นข่าวการรุกที่ป่าสงวนของท่านวิทยา "ท่านทราบข่าวเรื่องการบุกรุกป่าสงวนของท่านวิทยาหรือยังคะ?"

"ทราบแล้วครับ" นายหัวภูชิตยิ้มกรุ่มกริ่ม เหมือนกับว่าตัวเองไม่สามารถเก็บความรู้สึกสะใจของตัวเองได้ "เฮ้อ!!! ผิดก็ว่าไปตามผิดนั่นแหละครับ"

"ท่านคะ ประชาชนอยากทราบว่า อยู่ดี ๆ ป.ป.ช. ก็ลุกขึ้นมาตรวจสอบการทุจริตของท่านวิทยา ที่กำลังมีประเด็นกับท่านอยู่ในตอนนี้ ไม่ทราบว่านี่คือการสมคบคิดกันเพื่อเอาคืนกันหรือเปล่าคะ?"

"โห!! คิดไปไกลแล้วคุณ!!!" นายหัวจากปักษ์ใต้โวย "คุณเอาอะไรมาพูด ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนั้นเลย ลำพังแค่เรื่องของผม ผมก็ปวดหัวพออยู่แล้ว ก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการตรวจสอบก็แล้วกันครับ ใครผิดก็ว่าไปตามผิด แค่นั้นเอง เดี๋ยวผมต้องไปแล้วนะครับ"

"ท่านคะ!!! ท่านคะ!!!"


"พอแล้วครับ!!! หยุดสัมภาษณ์ได้แล้ว!!!"


นายหัวภูชิตเดินขึ้นรถตู้เพื่อกลับบ้าน ในขณะที่กลุ่มนักข่าวพยายามยื่นไมค์เพื่อขอสัมภาษณ์ แต่ก็ถูกลูกน้องในชุดสูทใส่แว่นดำออกโรงขวางเอาไว้

"ชั้นไม่น่าทำแบบนั้นเลย..." หมอพลอยที่ทราบข่าว ก็ทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ทำงาน พลางถอนหายใจ กับสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินทำ เพียงเพราะไม่อยากแต่งงานกับภูวนาท ลูกชายคนโตของบ้านถิ่นทวีพัฒนา เธอจึงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นยาแรงเกินขนาน จนทำให้สองครอบครัวต้องกลายมาเป็นศัตรูกัน

ไม่ต้องสืบ ก็รู้ว่านี่คือการตอบโต้จากฝ่ายนายหัวภูชิต ถึงเจ้าตัวจะปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น ขณะเดียวกัน ฝ่ายท่านวิทยา คุณพ่อของเธอเองก็มีทั้งเงินทุนและแบ็คอัพแน่น ตามประสานักการเมืองผู้มีอิทธิพลแห่งภาคตะวันออก และเชื่อว่าจะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งนี้ได้ หรือถ้าแย่ที่สุด ก็อาจจะต้องยอมคืนที่ดินป่าที่พ่อของเธอกว้านซื้อโดยมิชอบคืนไป

"ก๊อก ๆ" ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา พร้อมกับการปรากฏตัวของพี่เปิ้ล พยาบาลผู้ช่วยของหมอพลอย "คุณหมอคะ มีนักศึกษาพยาบาลที่ชื่อนาถลดามาขอพบค่ะ"

"เชิญเข้ามาได้เลยค่ะพี่เปิ้ล" หมอพลอยรีบทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อรอพูดคุยกับนาถลดา ที่เธอไหว้วานให้ช่วยสืบข่าวภายในกลุ่มสาว ๆ ของลุงพล

"สวัสดีค่ะ" แล้วนาถลดา ในชุดนักศึกษาก็ปรากฏตัวเข้ามาภายในห้อง "หนูมารบกวนคุณหมอหรือเปล่าคะเนี่ย?"

"ไม่หรอก" พลอยพรรณตอบ "เชิญนั่งก่อน เรามีธุระอะไรกับหมอหรือเปล่า ถึงได้เข้ามาหาในวันนี้น่ะ?"

"มีค่ะ" เมื่อนาถลดาหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ เธอก็คว้าสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋าสะพาย "หนูมีอะไรจะให้คุณหมอดู แต่หนูก็กลัวว่าถ้าคุณหมอดูแล้ว คุณหมอคงต้องโกรธแน่ ๆ"

"โกรธเหรอ?" แล้วหมอพลอยก็ร่นคิ้วด้วยความสงสัย ว่าเด็กพยาบาลสายสืบคนนี้กำลังหมายถึงอะไรกันแน่ "หมายความว่ายังไง ที่ว่าหมอโกรธน่ะ?"

"มันเป็นคลิปที่ลุงพลกับครูเบสท์..." สาวนุ้ยจอมปั่นเสแสร้งแกล้งทำเป็นใสซื่อ "ทั้งคู่กอดกันที่โรงรถค่ะคุณหมอ"

"ห๊า!!!" พอได้ยินแบบนี้ ลูกสาวคนโตของบ้านจารุศิริการกุลก็แทบเก็บทรงไม่อยู่ "นี่นาถไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม!!?? ลุงพลกับครูเบสท์เนี่ยนะ!!??"



"ฟังไม่ผิดหรอกค่ะคุณหมอ" แล้วนาถลดา ก็ใช้มือปลดล็อคพินสมาร์ทโฟน พร้อมกับเปิดคลิปที่ว่าแล้วยื่นให้หมอพลอยได้ดู "นี่คะ..."

พลอยพรรณแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา กับภาพที่ได้เห็นจากคลิปวิดีโอ มันคือภาพของลุงพลที่กำลังกอดครูเบสท์ภายในโรงจอดรถ ที่ไม่มีผู้คนอยู่แถวนั้นเลยแม้แต่คนเดียว และด้วยความหึงหวงหรืออย่างไรไม่ทราบ ใบหน้าขาว ๆ ของคุณหมอสาวก็แดงก่ำด้วยความโกรธ

"นี่ของจริงใช่ไหมนาถ?" หมอพลอยเอ่ยปากถามเด็กสาวอีกรอบเพื่อความแน่ใจ "ไม่ใช่ภาพตัดต่อใช่ไหม?"

"ของจริงแน่นอนค่ะ หนูถ่ายกับมือเลย" นาถลดายืนยันคำเดิม "หมอพลอยคะ ขอหนูแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ"

"ว่ามา..." เจ้าหญิงน้ำแข็งจ้องตาเขม็งใส่หน้าจอสมาร์ทโฟนของนาถลดา ที่กำลังฉายภาพลุงพลและครูเบสท์กอดกัน

"หนูว่าคุณหมอต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละคะ" นาถลดาเริ่มแผนการเสี้ยมให้หมอพลอยและครูเบสท์ยิ่งแตกหักกันมากขึ้น "ยิ่งนานวัน หนูก็ยิ่งรู้สึกว่าครูเบสท์เริ่มเปลี่ยนไป หนูหมายถึง ครูเบสท์ไม่ได้ทำตัวให้น่าเคารพเหมือนก่อนน่ะคะ อยู่ดี ๆ ก็มาทำตัวแบบที่หมอพลอยเห็นในคลิปนั่นแหละค่ะ"

หมอพลอยร่นคิ้วด้วยความหึงและความโกรธ ตอนนี้เรียกได้ว่านาถจะปลุกปั่นอะไรยังไงก็ย่อมทำได้หมด ซึ่งแน่นอนละ ว่าสายนุ้ยจอมปั่นไม่มีทางปล่อยโอกาสทองนี้แน่นอน

"หมอพลอยคะ" ว่าแล้วก็จัดไป นาถลดาเริ่มยุแยงให้หมอพลอยทำอะไรสักอย่างกับครูเบสท์ "ตอนที่นาถอัดคลิป นาถเห็นกับตาเลยนะคะ ว่าครูเบสท์น่ะ พยายามให้ท่าลุงพลอยู่ตลอด นาถเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ว่าครูเบสท์จะเป็นได้ถึงขนาดนี้"



"ก็เพราะคนอย่างลุงพลนั่นแหละ..." เจ้าหญิงน้ำแข็งยื่นสมาร์ทโฟนคืนให้สาวนุ้ยจอมปั่น "นาถช่วยส่งคลิปทางไลน์ให้หมอหน่อย มีรูปถ่ายไหม? ถ้ามีก็ส่งมาด้วย"

"ได้ค่ะ" จอมปั่นจากปักษ์ใต้ยิ้มกริ่ม ก่อนส่งไฟล์คลิปวิดีโอและไฟล์ภาพให้หมอพลอยที่นั่งรออยู่ตรงหน้า "ยังไงก็อย่าลืมนะคะ ที่นาถ..."

"นี่นาถ..." แล้วหมอพลอยก็แทรกขึ้นมา "ไม่ต้องพูดซ้ำซากเรื่องเดิมได้ไหม? หมอรู้แล้ว เดี๋ยวหมอจัดการเอง"

"ค่ะ..." นาถลดาพยักหน้า "ฝากด้วยนะคะหมอ นาถคิดว่าตอนนี้ มีแค่หมอคนเดียวที่จะจัดการสองคนนี้ได้ค่ะ"

พลอยพรรณไม่ตอบอะไร เธอเปิดไลน์เพื่อรับไฟล์วิดีโอและไฟล์ภาพจากนาถลดา ที่แอบชำเลืองมองเธออยู่เป็นระยะ และคาดหวังว่าหลังจากนี้ จะต้องมีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

.................................

ห้องเรียน English I อาจารย์ภัคจิรา

"See you tomorrow, Ka!!" หลังหมดคาบเรียน ภัคจิราได้เอ่ยปากร่ำลากับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่หนึ่ง และเตรียมพร้อมสำหรับการสอนในคาบต่อไป "สวัสดีค่ะนักศึกษา"

"สวัสดีค่ะครูเบสท์"

"จ้า!!! สวัสดีจ๊ะ" ภัคจิราส่งยิ้มให้กับเหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ก่อนที่เธอจะไปสะดุดกับเด็กสาวคอนแวนต์ที่มานั่งร้องไห้คนเดียวที่วิทยาลัยพยาบาลเมื่อหลายเดือนก่อน

"สวัสดีค่ะครู" ภาสินีพนมมือไหว้อาจารย์ภัคจิราที่ยืนอยู่หน้าห้องเรียน



"สวัสดีจ๊ะ" ภัคจิรายิ้มหวานให้เด็กสาว "ไง? เป็นยังไงบ้างเรา สอบติดแพทย์ซะด้วย แสดงว่าเก่งไม่เบานะเราเนี่ย"

"ก็นิดหน่อยค่ะครู" หมวยน้อยยิ้มหวาน ก่อนหันไปมองศรันย์พรที่ทำหน้าสงสัยว่าทั้งคู่รู้จักกันได้ยังไง

"เราชื่อภาสินีใช่ไหม?" ครูเบสท์จำเธอได้ดี ส่วนหนึ่งเพราะนามสกุลที่เตะตานั่น 'ถิ่นทวีพัฒนา ณ ภูเก็ต' ตระกูลของนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศอย่างท่านภูชิต ผู้กว้างขวางจากดินแดนไข่มุกอันดามัน จังหวัดภูเก็ต

"ค่ะครู" ลูกสาวนายหัวพยักหน้า "เรียกหนูลูกขวัญก็ได้ค่ะ"

"จ๊ะ" อาจารย์สาวเหลือบมองนาฬิกาบนเพดาน "ถ้าในคาบเรียน มีตรงไหนไม่เข้าใจยังไง สองสามถามครูได้เลยนะ แต่ตอนนี้ครูต้องไปสอนเด็กพยาบาลต่อก่อนละ"

"ค่ะ พวกหนูสองคนก็มีเรียนต่อด้วยเหมือนกัน" แล้วสองสาวนักศึกษาแพทย์ ก็เดินออกมาจากห้องเรียน แล้วทันใดนั้น ศรันย์พร ก็เอ่ยปากถามภาสินีด้วยความสงสัย

"นี่ลูกขวัญ?" สาวน้อยจากเมืองจันทบุรีเอ่ยปากถาม "เธอรู้จักกับครูเบสท์เหรอ?"



"ยังไงดีละ?" ลูกสาวนายหัวนึกถึงเหตุการณ์สมัยที่เธอยังเป็นสาวคอนแวนต์ แล้วมานั่งร้องไห้คนเดียว จนครูเบสท์มาถามด้วยความเป็นห่วง แต่จะบอกความจริงให้น้ำปั่นรู้ มันก็ใช่เรื่อง "เคยคุยกันตอนที่เรามาสอบสัมภาษณ์น่ะน้ำปั่น"

"เหรอ?" ศรันย์พรร่นคิ้วด้วยความสงสัย เพราะครูเบสท์เป็นครูพยาบาล จะมาวุ่นวายกับคณะแพทย์ได้ยังไง "คุยตอนสัมภาษณ์เหรอ?"

"ไม่อ่ะ คุยกันเรื่อยเปื่อยเนี่ยแหละ" ภาสินีเองก็ไหวพริบดี ที่สามารถเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น "เราสองคนรีบไปเรียนคาบต่อไปเถอะ เดี๋ยวก็สายหรอก"

"มองดูนาฬิกา อยากโทรหาเธอคุยกันอย่างเคย จะถามคำที่เก็บไว้ โกรธกันแล้วในใจของเธอมีความสุขไหม? โกรธกับฉันจะทำให้เธอดีใจใช่ไหม?"

"แป๊ปนะน้ำปั่น" อยู่ดี ๆ ก็มีสายเรียกเข้าจากทางบ้าน ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นอัญชัน แม่ของเธอนั่นเอง "ฮัลโหล? มีอะไรเหรอคะแม่?"

"ลูกขวัญ? ตอนนี้ลูกขวัญอยู่ที่มหาลัยหรือเปล่าลูก?" อัญชันเอ่ยปากถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"ค่ะแม่" ลูกสาวคนเล็กของบ้านถิ่นทวีพัฒนาตอบ "มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?"

"คือ..." นักธุรกิจสาวใหญ่จากภูเก็ตตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "คุณพ่อของเราน่ะ...คุณพ่อของเรา...พอกลับมาถึงบ้าน..แกก็ลื่นหกล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ...ตอนนี้ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลแล้ว"

"อะไรนะคะ!!??" พอได้ยินแบบนี้ ลูกขวัญก็ตาเบิกโพล่งด้วยความตกใจ "คุณพ่อลื่นในห้องน้ำ!!! แล้วอาการของคุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ!!??"

"แม่ยังตอบไม่ได้ลูก" น้ำเสียงของอัญชันเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก "ตอนนี้แม่โทรให้เจ้าบอยรีบตามไปที่โรงพยาบาล ลูกขวัญ ถ้าลูกเลิกเรียนแล้ว ลูกรีบขับรถมาเยี่ยมคุณพ่อที่โรงพยาบาลด้วยนะ"



"ได้ค่ะคุณแม่" ภาสินีรับคำ ในขณะที่อัญชันผู้เป็นแม่กำลังบอกพิกัดโรงพยาบาลที่นายหัวภูชิตพักรักษาตัว "ไว้เลิกเรียนแล้วขวัญจะขับรถไปเยี่ยมคุณพ่อ"

"พ่อของลูกขวัญเป็นอะไรหรือเปล่า?" ศรันย์พรเอ่ยปากถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

"พ่อเราหกล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ" ภาสินีตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เราไม่สบายใจเลยอ่ะ!!!"

"เอาไงไหมลูกขวัญ" ด้วยความสงสารเพื่อน ศรันย์พรเลยยื่นข้อเสนอ "เธอขับรถไปเยี่ยมคุณพ่อที่โรงพยาบาล เดี๋ยวทางนี้เราจัดการให้เอง ไม่ต้องห่วง"

"ขอบคุณมากนะน้ำปั่น!!!" ภาสินีกุมมือศรันย์พรด้วยรอยยิ้ม "ไว้ถ้าเสร็จเรื่องนี้ น้ำปั่นอยากกินอะไรบอกนะ เดี๋ยวเราเลี้ยง!!!"

"นี่ ๆ เราไม่ได้เห็นแก่กินยังงั้นซะหน่อยนะเธอ!!!" น้ำปั่นมองค้อน "รีบไปหาคุณพ่อที่โรงพยาบาลเถอะลูกขวัญ"

และแล้ว ภาสินี ก็ขอตัวกลับไปเยี่ยมคุณพ่อที่ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลทันที โดยหมวยสาวได้ขับรถ Toyota Camry สีดำ ป้ายแดง ที่คุณพ่อของเธอซื้อให้เป็นของขวัญ ที่เธอสามารถสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ได้สำเร็จ

.................................

10 นาทีต่อมา

"เรามาติดตามคดีแบล็คเมลล์ของท่านภูชิตกันต่อนะครับ ทางกรมตำรวจได้ส่งหมายเรียกไปถึงท่านภูชิต ถิ่นทวีพัฒนา ณ ภูเก็ต รองหัวหน้าพรรคและโฆษกพรรคประชาธิปไตยไทย พรรคเก่าแก่ที่มีฐานอำนาจในกรุงเทพมหานครและภาคใต้ เพื่อเข้ามาพูดคุย สอบถามเกี่ยวกับประเด็นการแบล็คเมลล์ท่านวิทยา จารุศิริการกุล รองหัวหน้าพรรคบูรพารักษาแผ่นดิน โดยล่าสุด มีรายงานข่าวว่าท่านภูชิตได้ประสบอุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำหลังจากให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในช่วงเช้า ซึ่งเบื้องต้น ทางครอบครัวถิ่นทวีพัฒนาได้นำตัวท่านภูชิตส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ"

ภาสินีได้รับรู้รายละเอียดจากข่าวสารผ่านสถานีวิทยุ ขณะกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล ที่คุณพ่อของเธอรักษาตัวอยู่ในช่วงบ่าย

"คุณแม่คะ!!! พี่บอย!!! คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง!!??" เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ภาสินีก็รีบเดินเข้าไปถามอาการของคุณพ่อ กับผู้เป็นแม่อย่างอัญชัน และพี่ชายอย่างภูวนาท ที่มีสีหน้าท่าทางไม่ค่อยสู้ดีนัก โดยทั้งสองคนนั่งรออยู่หน้าห้อง ICU ที่นายหัวภูชิต ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวกำลังรักษาตัวอยู่

"ทำใจดี ๆ นะลูก" อัญชันผู้เป็นแม่ พยายามจะเข้มแข็งเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวคนเล็กเสียขวัญ แต่เธอก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ "หมอบอกว่า เส้นเลือดในสมองคุณพ่อแตก ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือยังไง แต่ตอนนี้ อาการของคุณพ่อเป็นตายเท่ากัน"

"เพราะนังผู้หญิงคนนั้นเลย!!! พลอยพรรณ!!!" ภูวนาท ที่แม้จะดูเป็นหนุ่มเจ้าชู้ เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ แต่เนื้อแท้แล้ว เขาเองก็รักผู้เป็นพ่ออยู่ไม่น้อย "คุณพ่อทราบข่าวเรื่องที่ตำรวจเชิญตัวคุณพ่อไปสอบปากคำ คุณพ่อก็เลยโกรธ แล้วก็ไปล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ!!!"

"นี่!!! พี่บอย!!??" ภาสินีร่นคิ้วใส่พี่ชายด้วยความไม่พอใจ "จะกล่าวหาใครก็ต้องมีหลักฐานหรือเปล่าคะ!!??"

"นี่เรายังจะเข้าข้างผู้หญิงคนนั้นอีกเหรอลูกขวัญ!!??" ภูวนาท ที่ปกติไม่ค่อยหัวเสียใส่น้องสาวออกอาการเดือดดาล "คุณพ่อของเราเป็นแบบนี้ก็เพราะใครกันละ!!! ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงแพศ..."

"บอย!!! เงียบนะ!!??" อัญชันผู้เป็นแม่ ต้องออกโรงห้ามภูวนาท ที่กำลังโกรธพลอยพรรณขั้นสุด "มีอะไรคับข้องหมองใจ ให้ไปคุยกันที่บ้าน อย่าคุยกันที่นี่เด็ดขาด!!!"

"ขอโทษครับแม่" เมื่อได้สติ ภูวนาทจึงเอ่ยปากขอโทษ "แต่ผมทนไม่ไหวจริง ๆ ผมไม่น่า..."

"บอย!!" นักธุรกิจสาวใหญ่จากภูเก็ตต้องออกโรงปรามลูกชายคนโตที่ไม่ยอมหยุด "แม่เองก็รู้สึกไม่ต่างจากเรานักหรอก!!?? แต่ไม่ใช่ที่นี่!!! ที่นี่มันโรงพยาบาล!!! ก็บอกแล้วไงให้ไปคุยกันที่บ้าน!!"

"ครับแม่..." คาสโนว่าหนุ่มพยักหน้า ก่อนสมาร์ทโฟนในกระเป๋า ที่ถูกตั้งโหมดปิดเสียงจะสั่นขึ้นมา "ใครโทรมาอีกเนี่ย!!??"

ที่แท้ก็เป็นน้องโซเฟีย พริตตี้สาวลูกครึ่งไทย - อเมริกัน ที่โทรเข้ามาหาภูวนาทหลังจากทราบข่าวว่าคุณพ่อของอีกฝ่ายเข้าโรงพยาบาลกระทันหัน

"ใครโทรมาเหรอบอย?" อัญชันเอ่ยปากถามภูวนาทด้วยความสงสัย

"เพื่อนที่บริษัทครับแม่" ภูวนาทตอบ "เดี๋ยวผมขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะครับ"

แล้วภูวนาท ก็ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ขณะเดียวกัน คุณนายอัญชัน และภาสินี ก็ถูกเชิญเข้าไปภายในห้อง ICU เพื่อเยี่ยมนายหัวภูชิตที่กำลังได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์



"แล้วพี่บอยละคะแม่?"

"สงสัยยังคุยธุระไม่เสร็จ เราสองคนเข้าไปดูอาการคุณพ่อกันก่อนเถอะ"

แล้วสองแม่ลูก ก็เดินเข้าไปภายในห้อง ICU ที่มีคุณหมอและทีมพยาบาล กำลังเฝ้าดูอาการของนายหัวภูชิตอย่างใกล้ชิด

"อาการของท่านภูชิตค่อนข้างหนักมากเลยทีเดียวครับ ซึ่งผมจำเป็นต้องรายงานต่อญาติของผู้ป่วยอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ญาติเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"

"ค่ะ ว่ามาเถอะค่ะคุณหมอ ดิชั้นกับลูกเข้าใจ"

นายแพทย์ที่เป็นผู้รับผิดชอบในการรักษานายหัวภูชิต ได้รายงานว่า ผู้ป่วยมีอายุมาก และยังมีพฤติกรรมชอบสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ บวกกับความเครียดจากเรื่องคดีแบล็คเมลล์ จนทำให้เกิดภาวะตึงเครียด ส่งผลให้เส้นเลือดในสมองแตก อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ได้ทำการฉีดยาสลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ตัวยาไปสลายลิ่มเลือดที่ปิดกั้นหลอดเลือดอยู่ออก เพื่อให้เลือดสามารถกลับไปเลี้ยงสมองได้อีกครั้ง

"แล้วสามีดิชั้น จะกลับมาเป็นปกติหรือเปล่าคะ?"

"อืม ตอนนี้ผมจำเป็นต้องพูดว่า เราต้องลุ้นกันที่ละเฟสกันก่อนน่ะครับ แต่สิ่งที่ผมบอกญาติของผู้ป่วยได้ตอนนี้ก็คือ ถ้าท่านภูชิตฟื้นขึ้นมา ท่านอาจจะไม่เหมือนเดิมนะครับ"

"หมายความว่ายังไงกันคะ? ที่ไม่เหมือนเดิม?"

"อาจจะมีภาวะแทรกซ้อน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือในเคสที่เลวร้ายที่สุด ผู้ป่วยก็อาจกลายเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตตลอดชีวิตก็ได้ครับ"

 


โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

Goodlight NightDark

มาเร็วมากๆ ครับ EP ที่ 3  ::Evil:: เรื่องราวกำลังเข้มข้นเลยทีเดียวแอบอยากรู้เหมือนกันว่าไรท์จะเขียนเรื่องราวแนวไหน ถึงทำให้ชาวๆ รีท เกลียดหมอพลอยได้

Nato87: ความเห็นแก่ตัว ความใจดำคับแคบที่ซ่อนอยู่ในใจลึก ๆ ของเธอ รวมไปถึงความเย็นชาเนี่ยแหละครับ

Nut1951

สงสัยว่าจะเป็นคนโปรดหรือครับ มาเร็วมากๆ

๋Nato87: คนโปรดน่ะใช่แน่นอนครับ แต่ที่มาเร็ว ก็เพราะผมในฐานะคนเขียน ได้แนะนำตัวละครตัวนี้ให้ทุกคนได้รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว มันถึงเวลาที่เด็กสาวจะต้องเติบโตเป็นหญิงสาวได้แล้วครับ

Ops123

เข้มข้น ดราม่าแบบนี้ดีครับ ไม่จำเป็นต้องเอากันอย่างเดียว

Nato87: ดีใจที่ท่านเข้าใจครับ มันเป็นสไตล์ของผม เรื่องเสียวต้องมี ดราม่าต้องเข้ม ไม่งั้นไม่สนุก

Nobita Nobituta


Panya Ans56


xonly-1786

ขอบคุณมากครับ นายหัวอาการแบบนี้แล้วลูกชายยังเสเพลแบบนี้ ลูกขวัญแย่แน่เลยครับ

Nato87: ไอ้บอย ลูกชายคนโตของนายหัวไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าไรครับ นายหัวเลยรักน้องลูกขวัญ ลูกสาวคนเล็กมากกว่า

singkanong



ziggy2

สองตระกูลนี้คงกลับมาดีกันยาก ว่าแต่หมอพลอยจะเอาเรื่องใครลุงหรือครูเบส์

Nato87: ทั้งคู่ครับ และนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ครูเบสท์เริ่มใจอ่อนกับลุงพล

HyenaSW

มาเร็วมากเลยครับ
แต่ผมน่าจะเร็วกว่า ตอนนี้จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้วไม่รู้ ... 555...

Nato87: ลองกดเข้าไปอ่านลิงค์ภาค spin off น้องลูกขวัญดูครับ แนวทางนั้น แต่จะมีรายละเอียดเยอะกว่า เป็นฉากเสียสาวที่หวานมากของน้องลูกขวัญ 555+

Thanatouch MAN

น่าสงสารลูกขวัญ ต้องให้ลุงพลไปปลอบขวัญสัก 3-4 ยกจะได้มีภูมิต้านทาน

makecloud



แมว69

ลุงพลต้องมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง หลายวง เหนื่อยแทนเลย