ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 08 ] ตอนที่ 126 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มิถุนายน 27, 2023, 12:41:01 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ช่วงนี้งานยุ่งจริงๆครับ -..-

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง




สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ



★★★★★★★★★★★





ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมมาที่งานเลี้ยงรุ่นพร้อมไอ้คิงครับ พอถึงเวลาก็ต้องแยก

ไปนั่งรวมกับเพื่อนในมุมของตัวเอง ระหว่างนั้นผมกับเพื่อนก็

คุยกันเสียงดังครับ พิธีกรประกาศชื่อผู้มีคุณูปการ ผู้บริจาครายใหญ่

ผมตกใจจนสำลักน้ำเพราะนั่นคือแม่ พี่เจมส์ แล้วตอนนั้นแม่พี่เจมส์ก็เห้นผมพอดี

ท่านก็ถามว่าเจ้าโทนเสียงดังอะไรล่ะ โอยยย ผมนี่ไปไม่เป็นเลยครับ


★★★★★★★★★★★



จึ๊กกึ๋ย !!!  ผมสะดุ้งเลย แล้วแม่พี่เจมส์ก็มองแบบจริงๆจังๆเลยนะ คือสายตาก็ไม่ได้ดุอะไรหรอก แต่ท่านก็มอง แล้วนอกจากนั้นสายตาคนอื่นๆก็มองเพียบเลย จะพูดยังไงดีล่ะ เอาจริงๆชีวิตในช่วงมัธยม ผมก็ไม่ใช่พวกมืดมน หรือ No body แบบไม่มีตัวตนเหมือนพระเอก อนิเมะ ในหลายๆเรื่องนะ


ผมเป็นนักกีฬาโรงเรียน ถูกประกาศชื่อบ่อยๆ แปะบอร์ดบ่อยๆ ยังไงผมก็ต้องมีคนรู้จักนั่นแหละ แต่เพราะรู้ๆกันไงว่าผมเป็นใคร คำว่าลูกชาวสวนมันเลยถูกพูดๆต่อกันไปและจำเอาไว้ว่าอ๋อไอ้นี่คือคนรากหญ้า แต่ผมแค่โชคดีที่เล่นยูโดเก่ง มันก็เลยไม่ใช่คนรากหญ้าที่ไม่มีตัวตน เหมือนผมจะรู้ตัวนะว่าถ้ายังทำตัว No body ล่ะก็ โดนพวกแม่งข่มยับๆแน่ๆ


อย่างน้อยก็ทำให้พวกมันเห็นว่า ถ้ากวนตีนผมบ่อยๆ ผมซัดหน้าพวกมันร่วงได้ง่ายๆเลย แต่เพราะฐานะทางบ้านด้วย ผมก็เลยไม่อยากมีเรื่องเท่าไร แค่พ่อแม่ทำงานก็เหนื่อยพอละจะให้มันเหนื่อยเรื่องของผมอีกทำไม เพราะงั้นในสายตาพวกรุ่นเดียวกันจะมองเห็นผมไม่ค่อยยุ่งกับใคร ยกเว้นพวกชายโฉดที่เรียนลูกเสือและ รักษาดินแดนมาด้วยกันนั่นแหละครับ เพราะงั้นพอมันเห็นว่าผู้อุปการะ อย่างแม่พี่เจมส์รู้จักผมก็คงจะตกใจกันบ้าง



ผมก็ยกมือไหว้แบบ ยกไหว้เหมือนจะบอกขอโทษครับ แต่ไหว้แบบจ๋อยๆ เพื่อนในโต๊ะก็มองๆ กัน แม่พี่เจมส์ก็พูดต่อเกี่ยวกับเรื่องเนื้องาน เพื่อนในโต๊ะก็ถามเฮ้ยๆมึงรู้จักเขาด้วยเหรอวะ ผมก็เอ่อ จะบอกว่าเป็นเพื่อนแม่ มันก็ติดอยู่ที่ปาก ก็เลยพยักหน้าบอกเอ่อ อื้ม พอรู้จักบ้าง แต่เพื่อนผู้หญิงบอกอย่าสะตอ ถ้าแค่พอรู้จักเขาไม่กล้าเรียกชื่อแกโต้งๆแบบนั้นหรอก



ผมก็เอ่อ เอ่อออ หิวข้าวว่ะ แล้วก็หยิบตะเกียบคีบเนื้อเป็ดในจานกินต่อ แม่พี่เจมส์ก็พูดเนื้อหาสำคัญ ซึ่งมีแต่เนื้อล้วนๆเลยครับ เรื่องที่แม่พี่เจมส์พูด เข้าใจงาน กระชับ และไม่ต้องถามซ้ำ สมแล้วครับที่เป็นแม่พี่เจมส์ อาจารย์ที่เป็นพิธีกรก็แบบขอบคุณนู่นนี่นั่นบลา ๆ  แล้วผมนี่เห็นกับตาเลยว่าแม่พี่เจมส์ก็มองมาทางผมด้วย แล้วทำท่าชี้ๆแบบ เดี๊ยะเถอะๆ ๆ เหมือนกำลังดุผม ผมก็กึ๋ยยย นั่งนิ่งๆเลยครับ  แล้วพวกเราก็เริ่มมานั่งคุยกันไปตามปกติ



แต่ที่แปลกๆไปคือเพื่อนผมก็เริ่มมองผมแปลกๆละ ผมก็แก้เขินด้วยการคีบนู่นนี่นั่นกิน แต่ไม่ได้กินอะไรจริงจังนะ แหม่ โต๊ะจีนแบบนี้ มันจะไม่ค่อยกล้าคีบเท่าไรแฮะ หรือผมหน้าบางเกินไป ผมคิดถูกแฮะที่กินข้าวจากบ้านมาก่อน เพราะบอกตามตรง การมานั่งรอตัก รอคีบ อาหารโต๊ะจีนเนี่ย มันก็เขินๆนะ ยิ่งเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบ 5 ปีแบบนี้ด้วย แต่หอยจ้ออร่อยดีว่ะ... เป็ดตุ๋นก็อร่อยดี


แม่พี่เจมส์เขาก็คุยกับอาจารย์ คุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่มั้ง ซึ่งไม่ใช่คนเดิมคงสลับสับเปลี่ยนแล้วล่ะ ... เพื่อนมันก็เริ่มคุยกันต่างๆนาๆ บลา ๆ มีแต่เรื่องที่พอเรียนจบแล้ว ก็ไปเที่ยวนู่น เที่ยวนี่ ไปยุโรป ไปเมกา ไปญี่ปุ่น ไปพักผ่อนซักปีค่อยทำงาน.... แต่ผมนี้สิ่ทำงานก่อนชาวบ้านเลย


นั่งฟังพวกมันคุยกันก็ได้แต่คิดนะว่า พวกเงินเอาเงินถุงเงินถังจากไหนไปเที่ยวกันวะ... แค่ลำพังผมจะไปเที่ยวพัทยายังต้อฝวางแผนเลย นี่พวกล่อไปต่างประเทศกันชิลๆเลย ถามว่าผมอิจฉาพวกมันมั้ย... มีบ้างครับ ยิ่งฟังว่าไปโตเกียวแล้วหูผึ่งเลย เพราะที่นั่นมีสำนักโคโดกันยังไงล่ะ ถามว่าอิจฉามั้ย... มันก็มีบ้างครับคุณผู้อ่าน ถ้าจะบอกว่าผมไม่คิดอะไรเลยเรื่องที่พวกมันได้ไปเที่ยวนู่น นี่ นั่น มันก็คงเป็นเรื่องโกหกแน่ๆล่ะ ยิ่งพอพูดถึงเมืองโตเกียวด้วย โอยยย อยากไปโคโดกันสักครั้งในชีวิต สำหรับนักยูโด... ไม่สิ่ต้องบอกว่าอดีตนักยูโดแบบผม หรือจะนักยูโดแทบจะทุกคน ก็อยากจะไปให้ถึงต้นกำเนิดของยูโดสักครั้งแหละครับ


มองหน้าพวกมันแล้วก็ได้แต่คิดในใจ เอออ กุแอบอิจฉาพวกมึงเบาๆอ่ะแหละ ไอ้โจ๊กมันก็นั่งข้างๆผมนะ มันก็ถามผมว่าแล้วมึงเถอะ ทำงานไวแบบนี้ได้ไปเที่ยวไหนบ้างป่ะวะ ผมก็บอกว่าไปบ้าง แต่ไม่เท่าพวกมึงหรอก จะไปก็ได้ไปตามงาน ตามสัมมนาที่บริษัทส่งไป พอผมพูดแบบนั้นพวกเพื่อนๆในห้องมันก็ถามที่ไหนบ้างวะ บริษัทมึงสวัสดิการดีป่ะ


ผมก็มองๆพวกมัน ตอนนั้นพยายาม สโคปข้อมูลให้สามารถพูดได้บ้าง ผมก็บอกอื่ม... ไปสัมมนาที่อมรพันธ์ ระยองไง มันถามไปไหนอีกป่ะ ๆ ๆ ผมก็บอกเอ่อ.... แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พวกมันบอกเดี๋ยวๆ มึงไปเยอะจังวะ มึงทำงานปีเดียวจริงป่ะเนี่ย ผมก็บอกเอ้าไอ้ห่า จบปีที่แล้วก็ทำงานเลย มันก็ปีเดียวป่ะวะ เพื่อนบอก โห พี่เดียวมึงได้ไปหลายทีจังวะ



ผมก็เลยบอกฟลุ๊คมั้ง ผมพูดแล้วก็ยกน้ำดื่ม น้ำจริงๆนะ ตอนนี้พวกรุ่นน้องก็ขึ้นมาโชว์ร้องเพลงให้ฟังกันครับ โฟ๊คซองเอย มีเปียโนไฟฟ้าอีก ส่วนผมก็แยกตัวออกมาครับ ออกมาข้างนอกห้องประชุม แล้วก็เดินเล่นอยู่คนเดียว ข้างนอกก็ไม่ใช่ว่าจะเงียบนะ มันก็มีคนบางส่วนที่ไม่ใช่พวกชอบฟังเพลง ออกมาเดินเหมือนกัน ข้างนอกอย่างที่บอกก็มีพวกซุ้มต่างๆที่จัดเอาไว้ให้ครับ



มองไปแล้วก็คิดถึงเรื่องเก่าๆแฮะ เอ้อใช่ ผมยังไม่ได้ไปที่นั่นเลยนี่หว่า ผมก็เดิน ๆ ๆ  ผ่านผู้คนทั้งหลายที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ ผ่านทั้งคนที่รู้จัก และไม่รู้จัก เพราะวันนี้ไม่ได้มีแค่รุ่นผมรุ่นเดียวที่มา พอผมเดินมาแล้วเจอคนๆนึงอยู่ดีๆใจมันก็หล่นไปอยู่ตะตุ่มเลย คือแบบเคยป่ะ แบบเจออะไรที่ไม่คิดว่าจะเจอแต่ก็ได้เจอ ใจมันหล่นวุ๊ปจริงๆนะ ผมมองภาพตรงหน้าแล้วก็ยิ้มนิดนึง คิดในใจว่าอื้มไม่ทักดีกว่า แล้วก็เดินไปเหมือนเดิม หลายอย่างเปลี่ยนไป ต้นไม้ตรงนี้ที่เคยโล่งๆก็ไม่แล้ว มีต้นปาล์มต้นใหญ่มาปลูกแทน ถ้าเป็นตอนกลางวันคงจะร่มรื่นน่าดู


ตรงนี้ก็ดูเหมือนจะทำทางเดินใหม่ด้วยแหละ ม้านั่ง โต๊ะหินอ่อนก็มีเยอะกว่าเดิมด้วย ผมเดินมาจนถึงห้องซ้อมยูโด อื้มมม กลิ่นที่คุ้นเคย กลิ่นเหงื่อจางๆ กลิ่นเค๊าเตอร์เพนจางๆ กลิ่นน้ำมันมวยจางๆ ยังลอยอยู่เลย นี่ก็ใกล้จะแข่งแมตช์ม.สยาม แล้วนี่นะพวกน้องๆ ไอ้พวกที่น้ำหนักเกินก็คงจะลดน้ำหนักแหละท่าทาง



ผมก็มอง ๆ ๆ ๆ เบาะก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว จากที่เบาะสมัยแรกๆเลยจะเป็นเบาะทั่วไปผ้าใบเขียวๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเบาะสีเขียวอ่อนลายเสื่อทาทามิแล้วสิ่นะ เกร็ดเล็กน้อยครับ เบาะสำหรับซ้อมหรือแข่งยูโดจีมีรูปทรงผืนผ้าเหมือนเสื่อทาทามิครับ แต่เป็นวัสดุสังเคราะห์อย่างเช่นยางหรือโฟมครับ ไม่ใช่หญ้าแบบเสื่อทาทามิของแท้ ผมก็มอง ๆ ๆ ๆ พอมองแล้วใจมันก็นึกไปถึงเสื่อทาทามิ ที่ม่อนแจ่มแฮะ



อืมมม พอได้มาอยู่ที่เก่าๆความรู้สึกเก่าๆมันก็กลับมาเหมือนว่าแค่ดีดนิ้ว ผมยังจำได้ดีเลยว่า การใช้โควตานักกีฬาเข้ามาเรียนตอนม.1 มันทำให้ผมกดดันโคตรๆ เด็กอายุ 11ขวบ 12 ขวบ แค่คือเอาโควตานักกีฬาเข้ามาเรียน ยังไงมันก็ถูกคาดหวังและ ทุกคนคาดหวังว่าผมจะทำได้ดีแบบนั้นดีแบบนี้ เว้นแต่ที่บ้าน พ่อกับแม่ แค่บอกว่าถ้าไม่ไหวก็คือไม่ไหวไม่ต้องฝืน ถ้ามันกดดันก็ลาออกแล้วสมัครเรียนใหม่ แค่ค่าเทอมพ่อกับแม่จ่ายได้



แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ครับ โชคดีที่ว่าผมเล่นยูโดมาตั้งแต่ 10 ขวบ ก็เป็นเวลา 2 ปีกว่าจะขึ้น ม.1 เพราะงั้นก็เลยมีพื้นฐานและไปไวกว่าคนอื่นนิดหน่อย ช่างเถอะ ๆ ๆ ๆ แค่ผมทำผลงานในทุกๆปีอย่างน้อย 1-2 เหรียญทอง ก็พอแล้ว แต่บอกตรงๆปีแรกมันยากนะ ได้แค่ทองแดง ได้แค่เงิน พอขึ้นม.2 ผลงานมันถึงเริ่มเป็นชิ้นเป็นอัน ผมชอบนะเวลาแข่งยูโด เพราะนั่นจะหมายถึง ได้เงินเบี้ยเลี้ยงในแต่ละวัน



มีข้าวเลี้ยงด้วย 3 มื้อต่อวัน ที่สำคัญถ้าได้เหรียญก็จะได้เงินรางวัลด้วย ทางโรงเรียนเป็นคนอัดฉีด มันเลยเป็น 1 ในแรงจูงใจที่ทำให้ผมต้องเก่งขึ้นด้วย มอง ๆ ๆ อื้ม เสานั้นที่เอายางในจักรยานมามัดและดึงนี่ มุมนั้นที่วิ่งแตกสลับนี่ อื้มๆ ถึงมันจะมืด แต่มันก็ยังชัดเจนในความทรงจำเหมือนตอนกลางวันไม่มีผิด เลยแฮะ มันน่าแปลกนะ


วันที่มีโอกาสได้ซ้อม ผมก็ยังอู้ ยังแอบชิ่งไปเล่นกับเพื่อน แต่พอตอนนี้กลับมานั่งคิดถึงเรื่องเก่าๆ คิดถึงเรื่องอยากซ้อมยูโดเฉยเลย นี่หรือเปล่านะที่เขาเรียกว่าความเสียใจ แต่.... มันผ่านมาแล้ว แล้วตอนนั้นก็... โด่วเอ๊ยยยยยย  นึกว่าคนแก่ที่ไหนมานั่งเก๊กอยู่ตรงนี้ เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ใบหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคุ้นเคยอยู่ดี แววตาที่ซุกซนเหมือนเดิมราวกับผ่านมาเมื่อวาน แต่ใบหน้าของเธอดู เหนื่อยๆ อิดโรยมากเลย ผมมองซ้ายมองขวา หน้าหลัง แล้วพูด. เอ๊ะ เสียงนก เสียงกาที่ไหนน๊อออ


เท่านั้นแหละโดนทิ้งบอมใส่เลย สาวสวยคนนั้นเดินมานั่งกระแทกไหล่ผม สะดุ้งเลย ใครๆใครเสียงนกเสียงก่า ว่าดรีมเหรอไอ้พี่โทน ผมก็ขำเลยทีนี้ ใช่ครับน้องดรีมนั่นแหละ





ผมก็แปลกใจนะ เพราะตอนแรกบอกมาไม่ได้ไง คือมันเป๋นความรู้สึกที่แปลกใจ ตกใจ ดีใจ ผสมปนเปไปหมด แต่ต้องเก๊กไง ออกอาการไม่ได้


ดรีมนั่งมองหน้าผมแบบหมุ่ยๆ เธอจ้องแล้วถามว่าทำไมเนี่ยไม่ตกใจเลยเหรอดรีมมาอ่ะ ชิบ ชิบหายละดาเมจเกินต้านทาน ผมเบือนหน้าหนีเลย แล้วบอกเปล่านี่ ดรีมก็แอ้ะ !!! พูดอ่ะมองหน้ากันด้วยดิ้ ดรีมพูดแล้วใช้มือนึงจับคาง มือนึงจับหน้า แล้วดึงให้หันไปกลับไป  เธอจ้องๆ ผมก็ทำเป็นกรอกตาหนี ดรีมบอกตาเหล่เหรอ ผมก็หัวเราะเบาๆ ฮู่ววว เก็บอาการประหม่าไว้


ผมมองหน้าแล้วถาม อะไร มีรายยย ดรีมบอกโห่ ไม่ดีใจเลยเหรอเนี่ย ดรีมมาอ่ะ ผมก็บอกว่าก็แปลกใจอยู่ ไหนบอกมาไม่ได้ไง ดรีมก็บอกตอบไม่ตรงคำถามอ่ะพี่โทน ถามว่าดีใจมั้ย มาตอบอะไรก็แปลกใจอยู่ ตอบให้ตรงคำถามดิ้ ผมก็บอกจ้าๆทดีใจที่ได้เจอ ดรีมบอกก็แค่เนี้ยยยย ยากตรงไหนเนี่ย



ผมก็บอกจ้า ๆ ๆ  ดรีมขยับมานั่งท่าปกติครับ ผมถามว่าแล้วลามาได้ยังไงเนี่ย  พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้ามาแล้วเหนื่อยก็ไม่ต้องมา ดรีมก็บอกโหยยยยย บ่นเป็นคนแก่เลยอ่ะ ผมก็บอกเพราะห่วงหรอกถึงบ่นน่ะ ดรีมขยับๆมๆ เธอนั่งกอดเข่าเอี้ยวตัวต่ำมองแหงนขึ้นมาแล้วบอกเป็นห่วงดรีมเหรออออ... แน่ะ ยัง ยังจะกวนอีก ผมเลยบีบจมูกไปทีแล้วบอกกวนประสาทเหรอคุณหมออออ


ดรีมก็ร้องโงยยย ยอมแล้วววว ผมไม่ได้บีบแรงมากนะ พอผมปล่อยมือแล้ว ปมก็กวนตีนด้วยการ ทำท่ามองไปที่นิ้วโป้งนิ้วชี้ที่บีบจมูกแล้วบอกว่า โหห ที่โบ๊ะแป้งมากี่ชั้นเนี่ย ดรีมยังนิ่งแล้วบอกหน้าสดเหอะ สวยอยู่แล้วว อื้อหือ !!! ผมกำหมัดเลย แซวไม่ได้ผลแฮะ แข็งแกร่ง !!!  ผมก็บอก โด่วววววว เอ๊ยยยย  ดรีมก็หัวเราะ 5555


ผมก็พูดนะ เอาดีๆ มาทำไมไหนตอนแรกตกลงกันว่าจะพักผ่อนไม่ใช่เหรอ ดรีมมองผมแล้วบอกก็อยากมานี่นา ดรีมไม่ได้เจอเพื่อนตั้งหลายปีแล้วนี่ ก็อยากมาอ่ะ พี่อ่ะแหละเมื่อกี้เห็นดรีมใช่มะ แล้วไม่เรียกอ่พ เดี๋ยวนี้หยิ่งเหรอ ผมก็บอกเปล่าาา ดรีมมองหน้าแล้วบอกเนี่ย โกหกอีกละ เห็นกันชัดๆเลยไอ้พี่โทน


ผมก็บอกว่า ก็เห็นคุยกับเพื่อนอยู่ไง พอผมบอกไปแบบนี้ดรีมก็บอก น้ะ !!! เห็นมะ พี่เห็นดรีมจริงๆด้วย ในเมื่อโดนจับได้ ผมก็ต้องสารภาพบาปจ้า ๆ ๆ เห็นแล้วว ดรีมก็ทำหน้ามุ่ยๆ แล้วบอกเชอะ !!! เพราะงั้นหายกัน ห้ามบ่นเรื่องดรีมมากรุงเทพฯ ด้วย ผมก็บอกมันคนละอย่างกันมั้ยล่ะนั่น ดรีมบอกไม่รู้ล่ะ ห้ามว่าดรีมด้วย


ผมก็ต้องยอมแพ้ล่ะครับ ไม่รู้ทำไมต้องยอม แต่ดรีมก็มองๆ ๆ แล้วบอก เอ้าาา ไหงย้อมหัวดำแล้วอ่ะ .. ผมบอกว่าก็งานมันเสร็จแล้วนี่  ใครจะกล้าเดินเข้าออฟฟิศหัวขาวๆแบบนั้นบ่ะ ดรีมถามงานไรเนี่ย เล่าให้ฟังได้ป่ะ... ผมกำลังจะบอกว่าไม่ได้ แต่ดรีมก็ดักไว้ว่าเล่าแค่ที่เล่าได้ก็ได้หนิ น๊า ๆ ๆ ถือว่าไถ่โทษที่ไม่ทักดรีมเมื่อกี้ ผมถามเดี๋ยว ๆ ๆ เกี่ยวมั้ย ดรีมบอกเต็มๆเลย เกี่ยวเต็ม ๆ ๆ


ผมก็มอง... แล้วก็เล่าเท่าที่จะเล่าได้ ดรีมก็ตั้งใจฟังมากๆเลยล่ะครับ พอเล่าจบดรีมบอกโหหห เก็บตัวเป็นอาทิตย์ๆ ทำงานวันเดียว ผมบอกก็ปกติธรรมดาป่ะล่ะ ดรีมบอกอื้อออ ดรีมก็เหมือนกันเหนื่อยยย ผมก็มองเธอนะ แล้วบอกว่าก็นี่ไง ถึงบอกว่าไม่ต้องมาก็ได้ ดรีมบอกเชอะบ่นเป็นคนแก่


เนี่ยย ก็เป็นซะแบบเนี้ยยย ผมก็ถอนหายใจเฮ้ออออ เผลอลูบหัวไปเบาๆทีนึง แล้วก็บอกว่า เหนื่อยก็พักบ้าง ดรีมพยักหัวบอกงื้มๆ แล้วมาซบไหล่เลย.. อุ้ยยย เหมือนภาพมัน Flash back เลยล่ะครับ . . . ดรีมบอกว่าโหยยยย ลูบหัวสาวๆบ่อยอ่ะดิ่ เมื่อก่อนไม่เห็นกล้าทำแบบนี้เลย แล้วเหมือนร่างกายมันตอบสนองเอง


ผมดึงมือออกเลย แต่ดรีมมองหน้าบอกโหยยไรเนี่ย แล้วก็จับบมือผมไปลูบหัวอีก ผมก็ลูบๆ ๆ แล้วถาม วันนึงนอนกี่ชั่วโมงเนี่ย ดรีมบอกแล้วแต่วัน.. ปีนี้ว่าหนัก แต่ปีหน้าอ่ะหนักกว่าแน่ๆเลย ผมก็ถามว่าไหวมั้ย ดรีมบอกงื้มๆก็ต้องไหวอ่ะเลือกมาเรียนแล้วนี่ ผมก็มอง ๆ แล้วดรีมเองก็เหมือนจะรู้ เธอแหงนหน้ามามองแล้วถามว่ามองไร



ผมก็... คือเคยมั้ยครับ มันไม่รู้ว่าจะโกหกอะไร มันไม่กล้าจะโกหก ผมก็พูดไปตามตรงว่าพี่เป็นห่วง นอนน้อยแบบนี้จะเสียสุขภาพนะ แต่ดรีมก็แปะหน้าผมสองข้างแล้วบอกว่า พี่โทนอ่ะแหละนอนน้อยเปล่า หน้าดูเหมือนอดหลับอดนอนมาเลย ผมก็เอ่อออ ช่วงนี้หนักน่ะ.... ก็หนักจริงๆนี่หว่า. . ..  ไม่ได้โกหกนี่หว่า


 


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


only1A

อ่านก่อนเลย เดี๋ยวมาอีดิต

โลกกลมมาก จอยเป็นรุ่นพี่ที่รร.

au2000


lnw007

จะมีอะไรต่อไหมหนา ตอนพิมโดนหยอกหูรึป่าว555

โลกกลมจังครับ จักรวาลเทพโทน ขอบคุณครับ

latipk

 ::Oops:: เจอหน้าแล้วไม่กล้าทัก ป๊อดเห็นๆเลยนายโทน  ::HoHo::

พออ่านตอนจบ อื้อหืม นายสอยรุ่นพี่แบบไม่รู้ตัวเหรอเนี่ย

นับถือ นับถือ


piya kanakit


eltas007

หนักทั้งงานราชงานหลวง 555

เอาแล้วรถไฟชนกันในงานแล้ว


Wichana