ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 40 : ซีวิตฮ่าง ๆ ของนริศรา

เริ่มโดย nato87, กันยายน 13, 2023, 10:10:28 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้วครับ ตามสัญญา อย่างที่ผมได้บอกไปนะครับ ว่าหลังจากที่หมดรูทของน้องลูกขวัญ ผมจะนำทุกคนมาติดตามชีวิตของพริตตี้สาวอย่างน้องแนน นริศรา ซึ่งเธอเป็นตัวละครที่น่าสงสารมาก เพราะกว่าจะมีบทในนิยายของผมแบบจริงจังเนี่ย ก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งเรื่องละ ซึ่งหลังจากนี้ เธอจะมีบทเด่นมากขึ้น

อย่างที่ทราบกัน ผมได้ใช้ภาพสาว AI แทนต้นฉบับไอดอลญี่ปุ่น ซึ่งน้องแนนเนี่ย ผมก็ได้บัฟให้น้องเค้าสวยเก๋มากขึ้นกว่าเดิม ให้สมกับการที่เธอเป็นหนึ่งในพริตตี้เบอร์ทอปของประเทศ

ในตอนนี้ จะเป็นการพักยกด้วยการปูเนื้อเรื่องกันก่อนนะครับ หลังจากที่ผมพาทุกคนติดตามชีวิตรักของไลฟ์โค้ชน้ำเต้าหู้และเด็กหัวไบรท์ ซึ่งผมจะนำทุกคนติดตามชีวิตของน้องแนน ที่ผมจะใช้เป็นตัวดำเนินเนื้อเรื่องหลักหลังจากนี้ไปสักพัก และน้องพิมมี่ เพื่อนรักของน้องแนนก็จะกลับมามีบทแล้วในตอนหน้า

แล้วก็ ในตอนนี้มีการใช้ภาษาถิ่น ภาษาอีสานแบบขอนแก่น (โคตรฝืนตัวเองยังไงไม่ทราบ 5555+) ทั้งหมดเพื่อความสมจริง ผมลงซัพไทยให้ด้วย เฉพาะตรงจุดที่ยาก ๆ จะเข้าใจ และเพื่อขับความเป็นพริตตี้สาวลูกอีสานของแนนนี่ ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าผมเองก็ไม่สันทันภาษาอีสานเวอร์ชั่นขอนแก่นมากนัก แต่เคยได้ยินมาบ้าง และเคยมีเพื่อนเป็นคนขอนแก่นครับ หากผิดพลาดประการใด ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย


ความเดิมตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=276754.0

หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น

แนนนี่ได้นำเงินที่ยืมมาจากลุงพลจำนวน 140,000 บาท โอนไปให้พ่อกับแม่ที่ขอนแก่น เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปใช้หนี้นอกระบบที่ค้างอยู่ ด้วยความแปลกใจ พ่อกับแม่เลยเอยปากถามลูกสาวว่าไปหาเงินก้อนโตมาได้อย่างไร ทำไมถึงได้เร็วขนาดนี้

"หนูก็ทำงานของหนูเนี่ยแหละ" นริศราถอนหายใจ ขณะกำลังพูดคุยกับแม่ทางโทรศัพท์

"งานถ่ายแบบเหรอ?" นงลักษณ์ผู้เป็นแม่ของนริศราเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย "หรือว่าไปขายตัวให้เสี่ย"

"งานถ่ายแบบ งานพริตตี้มอเตอร์โชว์เนี่ยแหละแม่!!!" พริตตี้สาวทำเสียงสูง "แล้วแม่ก็เอาเงินนี้ไปใช้หนี้ซะนะ อย่าไปก่อหนี้ยืมสินใครอีกละ แนนก็เหนื่อยเป็นนะแม่!!!"

"นี่ตกลงใครเป็นแม่เป็นลูกกันแน่เนี่ย!!??" นงลักษณ์ผู้เป็นแม่เริ่มไม่พอใจ "เป็นลูกก็ต้องตอบแทนพ่อแม่ ไม่รู้เหรอไง!!! หน๊อยยย!!! ขอให้ช่วยแค่นี้ทำเป็นบ่น!!! เดี๊ยะ ๆ เดี๊ยะเหอะ!!!"

"แม่ด่าหนูอิ่มยัง!!??" พริตตี้สาวเบื่อหน่ายที่จะต่อล้อต่อเถียงนงลักษณ์ผู้เป็นแม่ "หนูจะทำงานต่อ!!!"



"เออดี!!! หาเงินเยอะ ๆ จำใส่หัวไว้นะอีแนน!!! การเป็นลูกกตัญญูต้องเชื่อฟังพ่อแม่!!! ห้ามเถียงพ่อเถียงแม่เด็ดขาด!!! พ่อแม่สั่งหรือขออะไรก็ต้องทำ เข้าใจไหม!!??" นงลักษณ์ผู้เป็นแม่บ่นทิ้งท้ายก่อนกดวางสาย โดยไม่เอ่ยปากขอบคุณลูกสาวอย่างนริศราที่อุตส่าห์หาเงินมาใช้หนี้ให้เลยแม้แต่น้อย

หลังจากกดวางสาย นริศราหยิบบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนเดินไปเปิดประตูกระจกคอนโดมิเนียม เพื่อจุดสูบระบายความเครียดทั้งน้ำตา

พ่อกับแม่ของเธอมีอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้า เปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น พ่อของเธอเวลาไม่เมาก็เป็นผู้ชายที่ดีคนนึง แต่เมื่อไรที่เหล้าเข้าปาก พ่อของเธอก็พร้อมที่จะแปลงร่างเป็นใครสักคนที่นริศราไม่รู้จัก ส่วนนงลักษณ์ผู้เป็นแม่ เธอก็ไม่ต่างจากผู้เป็นสามี จะมาเสียอยู่อย่างเดียวคือเธอเป็นนักพนันตัวยง เป็นพวกประเภทชอบเสี่ยงดวง หวย ไฮโล ไพ่ ป๊อกเด้ง ทุกอย่างเธอจัดหมด

แถมยังเป็นพวกทุ่มหมดหน้าตัก มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ เพราะหวังจะรวยทางลัด แล้วอีกอย่างนงลักษณ์รู้ว่าอาชีพของนริศราลูกสาวนั้นทำเงินได้เยอะ มันก็ยิ่งทำให้นงลักษณ์และสามีย่ามใจ ล้างผลาญเงินแบบไม่คิด เพราะรู้ดีว่ายังไงลูกสาวอย่างนริศราก็ต้องช่วย

ทุก ๆ ครั้งที่นริศราช่วยเหลือเรื่องเงินทอง พ่อกับแม่ของเธอก็มักจะนำเงินก้อนนั้นไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแบบไม่ต้องคิด พ่อของเธอ วันดีคืนดีก็นึกครึ้ม โชว์ป๋าเรียกเพื่อน ๆ มาตั้งวงกินเหล้าที่ร้าน ส่วนแม่ของเธอ ก็ไปเข้าบ่อนไพ่ละลายทรัพย์ พอไม่มีเงิน ก็ไปกู้หนี้นอกระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยสุดโหด พอหมดหนทางก็มาขอให้แนนนี่ช่วย ซึ่งทุกครั้งแนนนี่ก็ช่วย จนครั้งล่าสุด ที่พ่อกับแม่ของเธอเกิดบ้าอะไรก็ไม่ทราบ ไปกูเงินนอกระบบก้อนโตมาเพื่อหวังจะนำมาปรับปรุงร้านอาหารตามสั่ง



ความจริงแล้ว ด้วยความสวยเซ็กซี่ของนริศรา เธอสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากงานพริตตี้มอเตอร์โชว์ งานถ่ายแบบเซ็กซี่ บางทีถ้าหากเธอไม่ต้องมาแบกรับภาระที่เธอไม่ได้ก่อจากพ่อกับแม่ของเธอ ป่านนี้เธอคงจะมีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านสวย ๆ ชานเมืองกรุงเทพสักหลัง รถเกรดพรีเมี่ยมสักคันไปแล้ว

"ฮือ...." แล้วนริศราก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจ เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า มันเป็นเพราะกรรมหรืออย่างไร ที่ทำให้ชีวิตของเธอต้องมาเป็นแบบนี้ แต่อย่างน้อย วิกฤติชีวิตครั้งล่าสุด เธอได้รับความช่วยเหลือจากคุณลุงขายน้ำเต้าหู้ใจดีที่ชื่อว่าลุงพล ที่ทำงานอยู่ที่วิทยาลัยพยาบาล ที่ยอมกวักเงินแสนสี่ให้เธอยืมเพื่อนำไปโปะหนี้ให้พ่อกับแม่ของเธอที่ขอนแก่น

ซึ่งเธอเองก็ได้สัญญากับลุงพลเอาไว้ ว่าถ้าหากเธอสามารถหาเงินมาได้ เธอจะทยอยใช้หนี้ให้ ซึ่งลุงพลเองก็ไม่ได้ว่าอะไร จะบอกเพียงแค่ว่า พร้อมเมื่อไรก็ค่อยคืน

หลังจากสูบบุหรี่และสงบสติอารมณ์เสร็จ นริศราในชุดเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นและกางเกงขาสั้นสีเทา ก็เดินกลับมานั่งที่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ เพื่อเตรียมลงภาพเซ็กซี่ ๆ ของตัวเองเอาไว้ขายในแพลตฟอร์ม Onlyfans ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพเสริมที่ทำรายได้ให้เธอเป็นจำนวนมหาศาล

แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีกลุ่มแฟนคลับของเธออินบ๊อกซ์มาแจ้งว่า มีคนเอาภาพและคลิปเซ็กซี่ของเธอไปปล่อยในเว็บนอก ทำเอาพริตตี้สาวที่กำลังนอยด์กับเรื่องของพ่อแม่ ต้องมานอยด์เพิ่มเพราะมีพวกมือดีแอบดูดคอนเทนต์ที่เธอลงใน Onlyfans ไปปล่อยเว็บนอกอีก

"มีคนเอาภาพของแนนใน Onlyfans ไปโพสต์ที่อื่น รู้ไหมคะว่าแนนเฟลแค่ไหน ถ้าหากเกิดเคสนี้อีกครั้ง แนนจะเลิกทำ Onlyfans แล้วนะคะ เสียความรู้สึกมาก!!!"

นริศรา พริตตี้สาวสู้ชีวิตโพสต์ตัดพ้อใน Onlyfans หลังจากที่มีมือดีแคปภาพและคลิปเซ็กซี่ ๆ ในแพลตฟอร์ม Onlyfans ไปเปิดเผยด้านนอก จนทำให้เธอถึงขั้นต้องโพสต์ขู่ว่า ถ้าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เธอจะไม่ทำ Onlyfans อีกต่อไป

"ฮือ..." หลังจากโพสต์เสร็จ แนนนี่ก็นั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ด้วยความอับอายและเสียใจ ไอ้เรื่องอับอายน่ะ เธอทำใจไว้นานแล้ว ว่าถ้าอยากจะเดินในวงการนี้ ก็ต้องยอมทิ้งศักดิ์ศรีไว้บ้าง ทั้งหมดก็เพื่อเงิน เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและครอบครัว

เพราะเงินที่ได้จากการถ่ายภาพและคลิปเซ็กซี่ใน Onlyfans นั้นมีมูลค่ามหาศาล เลยทำให้เหล่าบรรดาพริตตี้และนางแบบตัวทอปหันมาทำ ถึงแม้ว่าจะต้องยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัว ยอมเปิดเผยเนื้อหนังมังสาในที่ลับของเธอบ้าง แต่มันก็แลกกับค่าตอบแทนในระดับสูงที่น่าพอใจ

ซึ่งครั้งหนึ่ง สุรศักดิ์ เพื่อนรักสาวประเภทสองที่นริศราไว้ใจมากที่สุดก็เคยออกปากเตือน แต่นริศราก็อธิบายว่า เธอจำเป็นต้องทำแบบนี้ เพราะมันได้เงินง่าย ยิ่งโดยเฉพาะกับพวกแฟนคลับต่างชาติที่มีทั้งฝรั่ง แขก จีน กระเป๋าหนาที่พร้อมจะเปย์ให้เธอแบบไม่อั้น แถมบางคนก็เคยพูดถึงขนาดว่าอยากจะบินมาเมืองไทย เพื่อมาหาแนนนี่ มาขอเป็นแฟน หรือบางคนถึงขั้นขอซื้อตัวแนนนี่เป็นเมียเก็บแบบลับ ๆ เลยก็มี



แต่ผู้หญิงอย่างนริศรา ถึงแม้ว่าเธอจะทำงานเปลืองเนื้อเปลืองตัวแบบนี้ แต่เธอก็ยังมีศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง เธอได้แต่ปฏิเสธพวกแฟนคลับต่างชาติสายหื่นพวกนั้นไป เพราะเธอไม่ไว้ใจคนพวกนั้น

"อีแนน!!! ติ๊งโหน่ง กระเทยควายเพื่อนรักของแนนนี่ กำลังนั่งรับฟังปัญหาของเพื่อนรัก ที่กำลังระบายถึงความคับแค้นใจ ที่มีมือดีเอาภาพและคลิปเซ็กซี่ของเธอไปปล่อยในแหล่งต่างประเทศ "กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหม? ว่ามึงทำงานแบบนี้มันเปลืองตัวแค่ไหน!!??"

"แล้วจะให้กูทำยังไงวะมึง!!??" นริศราในชุดนักศึกษานั่งร้องไห้หลังจากสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ "มึงก็รู้นิ ว่ากูต้องใช้เงิน ไหนจะค่าผ่อนคอนโด ผ่อนรถ แล้วต้องช่วยพ่อแม่อีก ลำพังแค่งานถ่ายแบบพริตตี้เอ็มซี มันไม่พอหรอก!!?? ฮือออ!!!"

"เฮ้อ!!!" สุรศักดิ์ได้แต่ถอนหายใจ ก่อนเอื้อมมือลูบหลังเพื่อนสาวด้วยความสงสัย "กูเข้าใจมึงอีแนน ถ้ากูเป็นมึง กูก็คงต้องทำแบบที่มึงทำ"

"กูไม่มีทางเลือกอ่ะมึง!!!" พริตตี้สาวตัดพ้อ "กูก็ไม่ได้อยากจะทำงานแบบนี้หรอกว่ะ!!! นี่กูพูดจริง ๆ นะ ให้สาบานก็เอา!!! แต่กูต้องทำ!!! ฮือออ!!! กูหวังว่าสักวันถ้าเกิดกูได้เข้าวงการบันเทิง ได้เล่นหนังเล่นละคร กูก็จะเลิกทำงานแบบนี้แล้ว!!! แต่แม่งงง!!! ทำไมวะ!!?? ฮือออ!!! มึงบอกกูหน่อยซิอีโหน่ง!!?? ว่ากูต้องทำยังไง!!??"

"เฮ้อ!!!" สาวสองอย่างสุรศักดิ์ได้แต่ถอนหายใจ "มึงทำดีที่สุด เท่าที่มึงจะทำได้แล้วอีแนน ทุกอย่างมันมีราคาต้องจ่าย เนี่ยแหละ ที่มึงทำ มึงก็ต้องได้รับผลลัพธ์แบบนี้ แต่อีแนน ไม่ว่าใครจะมองมึงยังไง กูยังเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย!!!"



"ขอบใจว่ะมึง!!!" แล้วนริศราก็โผล่เข้ากอดสุรศักดิ์เพื่อนรักโดยไม่ถือตัว เพราะรู้ว่ามันจะไม่มีความรู้สึกฉันท์ชู้สาวเกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่ เพราะสุรศักดิ์เป็นกระเทย และมันไม่มีทางชอบผู้หญิง "มึงคือเพื่อนที่ดีที่สุดของกูจริง ๆ อีโหน่ง!!!"

หลังจากสอบไฟนอลในเทอมสุดท้ายเสร็จสิ้น นริศราก็ไม่ได้เดินทางกลับไปที่ขอนแก่นบ้านเกิดแต่อย่างใด เธอยังคงรับงานถ่ายแบบเซ็กซี่ งานเอ็มซีมอเตอร์โชว์ เพื่อหาเงินไปผ่อนค่าคอนโด ค่ารถ และค่าจิปาถะอีกหลายรายการ และล่าสุด มีค่ายดังเสนอให้เธอมาเล่นภาพยนตร์แนวเจ้าพ่อมาเฟีย ซึ่งบทของแนนจะต้องเป็นบทที่เซ็กซี่ และโชว์เนื้อหนังตามบุคลิกของเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"แนน" เอกชัย ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพริตตี้สาว เสนองานที่ค่ายดังหยิบยื่นมา "ค่าย MOMO เสนองานแสดงให้เราน่ะ"

"ชื่อเรื่องอะไรคะพี่เอก?" พริตตี้สาวเอ่ยปากถาม

"เรื่องตี๋โหดขยี้ฟัด" เอกชัยตอบ "เป็นหนังแนวเจ้าพ่อ บทที่แนนได้รับ เป็นบทคุณโส ที่เป็นเด็กเสี่ย ซึ่งอาจจะต้องมีฉากเลิฟซีนบ้าง"

"ฉากเลิฟซีนที่ว่ามันแรงขนาดไหนคะ?" ด้วยความอยากรู้เนื้องาน นริศราจึงเอ่ยปากถามต่อไป

"ก็อาจจะต้องเปลือยทั้งตัว" ผู้จัดการหนุ่มบอกรายละเอียดของงาน "ปิดจุก ปิดสาหร่าย เต็มที่เห็นแค่ก้น แนนพอไหวไหม?"

"อืมม..." กับคนที่ทำ Onlyfans อย่างแนนนี่ ที่เคยยอมเปลือยทั้งร่าง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อสร้างคอนเทนต์ให้เหล่าบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งไทยและเทศยอมเปย์เงินให้เธอ ถือว่างานแค่นี้ไม่หนักเกินกว่าที่เธอจะรับไว้ "ได้อยู่ค่ะ แล้วเอ่อ...ค่าตัวละคะ?"

"เรื่องค่าตัวไม่ต้องเป็นห่วงแนน พี่คุยกับทางผู้ใหญ่ของค่ายอยู่ ผู้ใหญ่เค้าอยากให้แนนรับบทนี้มาก ถึงกับสั่งกำชับพี่เลยว่า แนนอยากได้เท่าไรก็บอกมา" เอกชัยบอกรายละเอียดเรื่องเงิน "เบื้องต้นคือ 50,000  แต่ถ้าแนนตกลงรับงาน ทางค่ายจะมัดจำให้เราก่อน 20,000 โอเคไหม?"

"ตกลงค่ะ" พริตตี้สาวตอบโดยไม่ลังเล "แล้วจะเริ่มเปิดกองถ่ายเมื่อไรคะ?"

หลังจากนั้น เอกชัยก็บอกรายละเอียดต่าง ๆ ของงานภาพยนตร์ที่นริศราต้องไปรับเล่น ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวจะเริ่มถ่ายทำในอีกสามเดือนข้างหน้า โดยพริตตี้สาวตอบรับโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

"เฮ้อ..." หลังจากคุยธุระเรื่องงานกับเอกชัยเสร็จ นริศราก็ลุกขึ้นและหยิบบุหรี่ในลิ้นชัก แล้วเดินออกไปจุดสูบด้านนอกคอนโดของเธอ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ในช่วงกลางดึกของกรุงเทพ มหานครที่ไม่เคยหลับใหล

นริศรา สูบบุหรี่และพ่นควันสีขาว ที่ถูกสายลมพัดจนปลิวหายกลายเป็นความว่างเปล่า ประหนึ่งว่าควันเหล่านั้นคือความทุกข์ที่เธอเก็บสะสมเอาไว้กับตัวเพียงลำพัง

ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวย และรูปร่างที่สะโอดสะองค์ เลยทำให้แนนนี่ถูกชักชวนเข้าสู่วงการนี้ โดยที่เธอเองก็เต็มใจ เพราะเธอวาดฝันว่าสักวันหนึ่ง เธอจะได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงของประเทศ แต่ทุกอย่างย่อมมีราคาต้องจ่าย

ด้วยเนื้อหางานที่ออกไปในทางเซ็กซี่ ปลุกใจเสือป่า เลยทำให้บางครั้ง ครอบครัวและญาติพี่น้องต่างมองเธอด้วยสายตาดูถูกดูแคลน แต่พริตตี้สาวก็น้อมรับมัน เพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่น เนื่องจากภาระด้านการเงินที่หนักอึ้ง



ทั้งค่าผ่อนคอนโด ผ่อนรถ แล้วไหนพ่อกับแม่ที่ขอนแก่น ที่ก่อหนี้นอกระบบก้อนโต จนเธอต้องยอมขายตัวให้กับนายหัวภูชิต แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับเธอ หรืออาจจะช่วยเธอหรืออย่างไรไม่ทราบ เมื่อนายหัวภูชิตดันเป็นพวกขี้งก จนทำให้ดีลนั้นถูกยกเลิก

ก่อนที่พิมมี่ อดีตศัตรูที่กลายมาเป็นเพื่อน ได้แนะนำให้เธอรู้จักกับหนุ่มใหญ่พ่อบุญทุ่มอย่างลุงพล ที่ดูภายนอกแล้วคงไม่มีใครอยากจะเชื่อหรอกว่า พ่อค้าร้านน้ำเต้าหู้คนนี้จะเป็นเศรษฐีเงินถุงเงินถัง มีเงินให้เธอหยิบยืมตั้ง 140,000 บาท โดยแลกกับการที่เธอและพิมมี่ ต้องยอมหลับนอนกับลุงพล

ซึ่งเธอก็ตอบตกลง และการมีเซ็กส์แบบสวิงกิ้งในครั้งนั้น ได้เปิดโลกทัศน์ในเรื่องเซ็กส์เป็นอย่างมาก เธอเพิ่งรู้ว่าเซ็กส์ นอกเหนือจากการช่วยให้เธอมีความสุขทางร่างกายแล้ว มันยังช่วยเยียวยาหัวใจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

จะบอกว่าเธอเริ่มติดใจวัตถุโบราณแบบลุงพลยังงั้นก็ว่าได้ ที่จริง ตอนนี้เธอเองก็เริ่มเก็บเงินได้ก้อนนึงแล้ว และคิดว่าน่าจะเริ่มทยอยคืนให้ลุงพลได้แล้ว แต่ว่า

"So love me like you do, la-la-love me like you do. Love me like you do, la-la-love me like you do.Touch me like you do, ta-ta-touch me like you do. What are you waiting for?"

"ฮัลโหล?" เรียงริงโทนจากสมาร์ทโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะคอมของนริศราดังขึ้น พริตตี้สาวจึงหยิบมันขึ้นมาดู และพบว่ามันปรากฏชื่อเบอร์ของชัยชนะ พ่อของเธอนั่นเอง "มีอะไรรึพ่อ?"

"แนน สำบายดีบ่ลูก?" (แนน สบายดีไหมลูก?) ชัยชนะผู้เป็นพ่อเอ่ยปากทักทายลูกสาว "ทำไมไม่กลับบ้านกลับซ่อง พ่อกับแม่คิดฮอดหลาย" (ทำไมไม่กลับบ้านกลับช่อง พ่อกับแม่คิดถึงมาก)

"แนนต้องเฮ็ดเวียกอยู่กรุงเทพเด้อพ่อ กลับขอนแจ้นบ่ได่" (แนนต้องทำงานอยู่กรุงเทพนะคะพอ กลับขอนแก่นไม่ได้) นริศราตอบเป็นภาษาถิ่น เพราะชัยชนะ พ่อของเธอเป็นคนขอนแก่น สมัยหนุ่ม ๆ เคยไปทำงานโรงงานแถวอยุธยา และไปพบรักกับสาวเจ้าถิ่นอย่างนงลักษณ์ ก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงานและโยกย้ายมาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น เพราะแบบนี้ เลยทำให้เธอกับพ่อสามารถพูดภาษาถิ่นขอนแก่นได้ แต่กับแม่ไม่สามารถทำได้ "พ่อมีอะไรจะเว้ากับแนนบ่?" (พ่อมีอะไรจะคุดกับแนนเหรอคะ?)

"แนน ซอยพ่อแน" (แนน ช่วยพ่อด้วย) แล้วชัยชนะผู้เป็นพ่อก็เปิดประเด็น "รถกระบะที่พ่อขับไปซื้อของกับแม่แอร์มันบ่เย็น ขับไปให้ซ่างที่ตลาดเบิ่ง ซ่างบอกว่าคอมเพรสเซอร์แอร์มันเสีย" (รถกระบะที่พ่อขับไปซื้อของกับแม่มันไม่เย็น ขับไปให้ช่างที่ตลาดดู ช่างบอกว่าคอมเพรสเซอร์แอร์มันเสีย)

"พ่อจะให้แนนซอยเรื่องตังค์ใช่บ่?" (พ่อจะให้แนนช่วยเรื่องเงินใช่ไหม) พริตตี้สาวตอบอย่างรู้ทัน "เท่าใด๋พ่อ?" (เท่าไรคะพ่อ?)

"คือ...เอ่อ" ชัยชนะผู้เป็นพ่อเริ่มพูดติด ๆ ขัด ๆ "คือแนน รถกระบะฮ่าง ๆ ที่พ่อขับตั้งแต่แนนยังเด็กน้อยมันก็หลายปีแล้วเด้ จำได้บ่? พ่อเลยอยากได้รถกระบะคันใหม่ เอาไว้ขับพาแม่ไปซื้อของ..." (แนน รถกระบะคันเก่า ที่พ่อขับตั้งแต่แนนยังเด็กมันก็หลายปีแล้ว จำได้ไหม พ่อเลยอยากได้รถกระบะคันใหม่ เอาไว้ขับพาแม่ไปซื้อของ...)

"นี่ ๆ พ่อ!!!" พอได้ยินแบบนี้ นริศราก็เข้าสู่โหมดหัวร้อนทันที "มื้อก่อนแนนเพิ่งซอยพ่อกับแม่เรื่องหนี้นอกระบบมา แล้วพ่อจะให้แนนซอยออกรถใหม่อีก!!! แม่นบ่!!! กระบะฮ่าง ๆ คันนั้น ขับได้พ่อก็ขับไปก่อนติ!!! เศรษฐกิจสมัยนี้เงินมันฝืดเคือง ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด!!?? อย่าพึ่งคิดเรื่องรถใหม่!!! มันแพง!!!" (คราวก่อนแนนพึ่งช่วยพ่อกับแม่เรื่องหนี้นอกระบบมา แล้วพ่อจะให้แนนช่วยเรื่องรถใหม่อีก ใช่ไหม? กระบะเก่า ๆ คันนั้น ขับได้พ่อก็ขับไปก่อนเถอะ!! เศรษฐกิจสมัยนี้เงินมันฝืดเคือง ประหยัดได้ก็ต้องประหยัดติ อย่าพึ่งคิดเรื่องรถใหม่เลย มันแพง!!!)

"แนน..." เมื่อเห็นว่าลูกสาวเริ่มหัวร้อน ชัยชนะก็แก้ลำด้วยการเข้าสู่โหมดพ่อแม่บังเกิดเกล้านักทวงบุญคุณจากลูก "แนนต้องเข้าใจพ่อกับแม่เด้ ว่ารถกระบะคันเก่ามันฮ้าย แนนบ่ต้องออกเงินซื้อรถใหม่ให้พ่อ กระบะฮ่าง ๆ คันเก่า พ่อจะเอาไปขาย เอาเงินไปดาวน์คันใหม่" (แนนต้องเข้าใจพ่อกับแม่นะ ว่ารถกระบะคันเก่ามันไม่ดีแล้ว แนนไม่ต้องออกเงินซื้อรถใหม่ให้พ่อ กระบะคันเก่าหมดสภาพ พ่อจะเอาไปขาย แล้วเอาเงินไปดาวน์)

"แล้วมันจะได้สักกี่บาทติ๊!!?? จะพอเหรอ? แล้วที่พ่อเว้าทั้งหมดคือ..." (แล้วมันจะได้เงินสักเท่าไร จะพอค่าดาวน์เหรอ? แล้วที่พ่อพูดมาทั้งหมดนี่คือ) พริตตี้สาวถึงกับถอนหายใจมองบน เอาอีกแล้วพ่อแม่บังเกิดเกล้าของชั้น สร้างภาระให้ชั้นอีกแล้ว "จะให้แนนซอยผ่อนแม่นบ่? แล้วท่อใด๋ถึงจะพอ?" (จะให้แนนช่วยผ่อนใช่ไหม? แล้วเท่าไรถึงจะพอ?)

ชัยชนะอธิบายรายละเอียดทุกอย่างให้นริศราผู้เป็นลูกฟัง โดยผู้เป็นพ่อจะนำรถกระบะคันเก่าไปขาย แล้วขายได้เท่าไรจะนำเงินก้อนนี้มาเป็นเงินดาวน์รถ แล้วเงินผ่อนก็จะให้แนนช่วยเดือนละ 10,500 บาท เป็นเวลา 7 ปี ซึ่งตัวนริศราก็คัดค้านหัวชนฝา แต่ชัยชนะยังยืนกรานว่าเขาอยากได้รถกระบะคันใหม่จริง ๆ โดยอ้างเหตุผลร้อยแปด เพื่อให้ลูกสาวใจอ่อนยอมช่วยออกค่าผ่อนรถให้ หรือถ้าจะให้ดี ช่วยออกค่าดาวน์รถให้ด้วยก็ได้ ในกรณีที่รถกระบะคันเก่าขายค่าซากไม่ได้ราคาตามที่หวังเอาไว้

"แนนเว้านำแล้วเด้อพ่อ ว่ากระบะฮ่าง ๆ คันเก่ายังพอขับได้ก็ขับไปก่อน เดี๋ยวแนนซอยเรื่องค่าซ่อมให้" (แนนบอกแล้วนะพ่อ ว่ากระบะเก่า ๆ คันนั้นพ่อขับได้ก็ขับไปก่อน) นริศราปฎิเสธคำของร้องจากชัยชนะผู้เป็นพ่อ "เงินทองสมัยนี้หายากนะพอ แนนเฮ็ดเวียกอยู่กรุงเทพ เหนื่อยอีหลี เหนื่อยสายตัวแทบขาด!!! ฮู้บ่!!!" (เงินทองสมัยนี้หายากนะพ่อ แนนทำงานอยู่กรุงเทพ เหนื่อยมาก เหนื่อยสายตัวแทบขาด!!! รู้ไหม!!)

นริศราร่ายยาว พร้อมกับตัดพ้อด้วยความน้อยใจด้วยน้ำเสียงสะอื้น แต่ชัยชนะก็ยังดื้อรั้น เพราะหวังว่าจะได้รถกระบะป้ายแดงคันใหม่ แบบไม่สนอะไรทั้งนั้น เพราะคิดว่าก่อนหน้านี้ ลูกสาวของเขาสามารถหาเงินแสนสี่มาได้ภายในระยะเวลาเพียงไม่นาน เลยเชื่อว่าขอให้ช่วยผ่อนค่ารถให้แค่เดือนละหมื่นต้น ๆ คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

"ซ้อยพ่ออีกจั้กเถื่อได้บ่?" (ช่วยพ่ออีกสักครั้งได้ไหม?) ชัยชนะยังคงอ้อนลูกสาวเรื่องรถกระบะคันใหม่ "บ่สงสารพ่อ ที่ต้องขับกระบะฮ่าง ๆ ไปซื้อของติ เพื่อน ๆ พ่อขับรถเก๋ง รถกระบะ CRV สวย ๆ พ่อก็อยากมีบ้าง จะได้บ่อายไผแน๊ นะแนน ซ้อยพ่ออีกจั้กเถื่อนะ!!!" (ไม่สงสารพ่อ ที่ต้องขับรถกระบะไปซื้อของเหรอ? เพื่อน ๆ พ่อขับรถเก๋ง รถกระบะ CRV สวย ๆ พ่อก็อยากมีบ้าง จะได้ไม่อายใครไง นะแนน ช่วยพ่ออีกสักครั้งนะ)

"เฮ้อ!!! ซอย!! ซอย!!! ซอย!!! ซอย!!! ต้องซอยอีกกี่เถื่อ ซอยบ่ฮู้จักพอ!!! ความวัวบ่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก!!!" (เฮ้อ!!! ต้องช่วยอีกกี่ครั้ง ช่วยไม่รู้จักพอ ความวัวบ่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก!!!) มาถึงจุดนี้แล้ว นริศราก็หมดความอดทน "พ่อ!!! เซ่าก่อน!! เซาแล้วหายใจเข้าออกซ้า ๆ ใจเย็น ๆ ตั้งสติ แล้วฟังแนนเว้านำ!!! แนนจะเว้าให้ซัด ๆ เพราะฉะนั้น พ่อตั้งใจฟัง!!" (พ่อ!! หยุดก่อน!!! หยุดแล้วหายใจเข้าออกช้า ๆ ใจเย็น ๆ ตั้งสติ แล้วฟังแนนพูด แนนจะพูดให้ชัด ๆ เพราะฉะนั้น พ่อต้องตั้งใจฟัง)

"บ่!!!" แล้วชัยชนะก็เริ่มออกลูกงี่เง่า เพราะอยากได้รถกระบะคันใหม่ "แนนเฮ็ดเวียกอยู่กรุงเทพได้เงินหลาย จะซอยพ่อซอยแม่ให้อยู่ดีเหมือนซาวบ้านซาวซ่องก็บ่ได่!!!" (แนนทำงานอยู่กรุงเทพได้เงินเยอะแยะ จะช่วยพ่อช่วยแม่ให้อยู่ดีเหมืนชาวบ้านชาวช่องก็ไม่ได้)

"ทำไมพ่อเว้ากับแนนจั้งซี้!!?? แล้วแนนต้องกินต้องไซ้บ่? ค่าคอนโดแนน? ค่าผ่อนรถแนน? แนนบ่มีภาระเลยติ?" (ทำไมพ่อพูดกับแนนแบบนี้ แล้วแนนไม่ต้องกินต้องใช้เหรอ? ค่าคอนโดแนน? ค่าผ่อนรถแนน? แนนไม่มีภาระเลยว่างั้น?) พริตตี้สาวเถียงกับผู้เป็นพ่อ "หรือพ่อคิดว่าแนนสังเคราะห์แสงด้วยคลอโรฟิลด์เหมือนดอกหญ้าได้ติ๊?" (พ่อคิดว่าแนนสังเคราะห์แสงด้วยคลอโรฟิลด์เหมือนต้นหญ้าได้งั้นเหรอ?)

"แนน!!! นี่พ่อนะ!!! เว้าจาอีหยังระวังปากโตโดย!!! เรียนหนังสือมีฟามฮู้แล้วเอามาข่มพ่อข่มแม่!!! ระวังทำกินบ่ขึ้น!!!" (แนน!!! นี่พ่อนะ พูดจาอะไรวังปากตัวเองด้วย เรียนหนังสือมีความรู้แล้วเอามาข่มพ่อข่มแม่ ระวังจะทำกินไม่ขึ้น) ไม่ต่างจากนงลักษณ์ผู้เป็นแม่ เมื่อเห็นว่านริศราเริ่มออกลูกงอแง ผู้เป็นพ่อก็ต่อว่าลูกสาวยกใหญ่ "แหม่!!! แม่นักปัญญาชนใหญ๋!!! พ่อแม่เลี้ยงโตตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย บ่มีความหมาย!!?? ห๊า!!! โตเรียน โตเฮ็ดเวียกอยู่กรุงเทพ อยู่คอนโดสูง ๆ ขับรถดี ๆ จะไม่ให้พ่อแม่ได้อยู่ดีมีความสุขเลยแม่นบ่!!! พ่อกับแม่ก็อยากมีซีวิตดี ๆ คือกัน!!!" (แหม่!! แม่นักปัญญาชน!!! พ่อแม่เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ไม่มีความหมายเลยใช่ไหม!!?? แนนเรียนและทำงานอยู่กรุงเทพ อยู่คอนโดสูง ๆ ขับรถดี ๆ จะไม่ให้พ่อแม่ได้อยู่ดีมีความสุขบ้างเลยใช่ไหม!!?? พ่อกับแม่ก็อยากมีชีวิตดี ๆ เหมือนกัน)

 


โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

แมว69


leo_attack

จะว่าไปไม่เห็นฉากเลสสาวๆ ดุๆ แบบจัดเต็มนานแล้วนะครับ ::GiveMe:: ::GiveMe::


therasak

พ่อแม่บางคนก็คือเจ้ากรรมนายเวรของลูกได้เหมือนกัน



เอเค

มีพ่อแม่แบบนี้ถ้าลูกยอมทุกอย่างให้ทุกอย่างขายตัวไปเลยดีกว่าจบ

peddo

สงสัยต้องบ่ายหน้าไปหาลุงอีด ถ้าจะขอออปชั่นพิเศษ​แถมสุรศักดิ์​ให้ด้วยก็ดีนะ เห็นลุงชอบล้างตู้กับข้าว


Juupajups

อีกหนึ่งสาเหตุที่วัยรุ่นสมัยนี้เป็นโรคซึมเศร้ากันเยอะก็เพราะอย่างนี้ล่ะ ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน😓

xtazy


barney

ไม่ต้องรับสายพ่อกับแม่บ้างก็ได้ บั่นทอนชีวิตเปล่าๆ

gai