ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ชุ้ง

เธอเป็นของเขา ตอนที่ 5: การเผชิญหน้าที่ไม่คาดคิด

เริ่มโดย ชุ้ง, มีนาคม 18, 2025, 11:23:40 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชุ้ง

ตอนที่ 5: การเผชิญหน้าที่ไม่คาดคิด

เสี่ยวหยูนั่งนิ่งอยู่บนเตียง มือของเธอกำโทรศัพท์แน่น ข่าวการกลับมาของหลี่เฉิงทำให้เธอรู้สึกทั้งดีใจและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน ภาพของเขาที่ดูสุขุมและแข็งแกร่งกว่าที่เคย และผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างเขา—เธอไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร

เธอพยายามกล่อมตัวเองว่ามันไม่เกี่ยวกับเธออีกต่อไปแล้ว หลี่เฉิงได้เดินจากไป และเธอก็ควรปล่อยเขาไปเสียที แต่ทำไมเพียงแค่ได้เห็นภาพของเขา หัวใจของเธอกลับปวดร้าวจนแทบหายใจไม่ออก

สองวันต่อมา เสี่ยวหยูได้รับคำเชิญไปงานเปิดตัวโครงการใหม่ของตระกูลหลี่ มันเป็นงานใหญ่ที่คนในวงการธุรกิจและสื่อมวลชนให้ความสนใจ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจไป เธออยากรู้ว่าเขายังจำเธอได้ไหม หรือเธอเป็นเพียงอดีตที่เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

คืนวันงาน

เสี่ยวหยูสวมชุดเดรสสีขาวเรียบหรูที่ช่วยขับให้เธอดูสง่างาม เธอเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจ แม้ว่าภายในใจจะสั่นไหวก็ตาม ดวงตาของเธอสอดส่องหาคนที่เธออยากพบแต่ก็กลัวที่จะเห็นเขามากที่สุด

และแล้ว...

เธอก็เห็นหลี่เฉิงยืนอยู่กลางงาน รายล้อมไปด้วยนักธุรกิจและนักข่าว เขาดูสุขุมและมีอำนาจมากขึ้นกว่าเดิม ราวกับเป็นคนละคนจากเมื่อสามเดือนก่อน และที่สำคัญ... หญิงสาวในข่าวยืนอยู่ข้างเขา ไม่ห่างไปไหนเลย

เสี่ยวหยูพยายามควบคุมอารมณ์ เธอเตือนตัวเองว่าเธอไม่มีสิทธิ์ในตัวเขาอีกแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็อยากรู้ว่าหลี่เฉิงรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นเธออีกครั้ง

และทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็สบกับดวงตาของเธอ

เวลาราวกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เสี่ยวหยูไม่อาจละสายตาได้ และเธอก็เห็นประกายบางอย่างในดวงตาของหลี่เฉิง มันเป็นเพียงเสี้ยววินาที แต่เธอรู้ดีว่ามันคืออะไร—ความรู้สึกที่ยังคงหลงเหลืออยู่

แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็จับแขนของหลี่เฉิง แล้วกระซิบอะไรบางอย่างกับเขา หลี่เฉิงหันกลับไปสนใจเธอคนนั้นทันที ราวกับว่าการสบตากับเสี่ยวหยูเมื่อครู่ไม่มีความหมายอะไรเลย

เสี่ยวหยูรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอถูกกรีดเป็นแผลลึก

เสี่ยวหยูสูดลมหายใจลึก สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่หลี่เฉิง แม้ว่าเขาจะหันไปสนใจผู้หญิงข้างกายแล้วก็ตาม แต่หัวใจของเธอยังรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากการสบตากันเมื่อครู่ เธอกำลังจะตัดสินใจเดินออกจากงาน แต่ก่อนที่เธอจะก้าวพ้นออกไป มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

"คุณเสี่ยวหยูใช่ไหมครับ?"

เธอหยุดชะงัก หันไปมองเจ้าของเสียง เขาคือ ชุ้ง—นักธุรกิจหนุ่มผู้ทรงอิทธิพล เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่ร่ำรวยมหาศาล ชายหนุ่มผู้มีข่าวลือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ ใบหน้าของเขาหล่อเหลาคมคาย ดวงตาคมกริบสะท้อนความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม

"ผมชื่อชุ้ง ผมสนใจคุณมานานแล้ว" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยอำนาจ

เสี่ยวหยูเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะมีคนอย่างเขาสนใจเธอ "คุณรู้จักฉันเหรอคะ?"

"แน่นอน ธุรกิจของคุณเป็นที่จับตามอง และตัวคุณเอง... ก็ยิ่งน่าสนใจ" ชุ้งกล่าวพลางมองเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก "ดูเหมือนว่าคืนนี้คุณจะมีอะไรให้คิดเยอะนะครับ ผมพอจะช่วยได้ไหม?"

เสี่ยวหยูยังไม่ทันตอบอะไร ก็มีชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามา

"ขอโทษที่ขัดจังหวะ แต่ผมเห็นคุณดูไม่ค่อยสบายใจ" เขาคือ หลินเจี๋ย นักแสดงหนุ่มชื่อดังที่กำลังมาแรง เขามองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน "ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกผมได้นะครับ"

เสี่ยวหยูรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับจ้องจากทุกทิศทาง ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรเพิ่มเติม ชายหนุ่มอีกสามคนก็ก้าวเข้ามา

เซี่ยงหลง – ทายาทตระกูลนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล ผู้มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และท่าทางเยือกเย็น

โจวเหวิน – นักดนตรีชื่อดังที่มีเสน่ห์เหลือล้น เสียงของเขาทำให้ผู้หญิงมากมายหลงใหล

เฉินอวี่ – ซีอีโอหนุ่มแห่งบริษัทแฟชั่นระดับโลก ผู้มีบุคลิกสุขุมและน่าค้นหา

พวกเขาทั้งหมดมองเธอด้วยความสนใจ มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป แต่เป้าหมายเดียวกันคือ—เธอ

เสี่ยวหยูเหลือบมองหลี่เฉิงอีกครั้ง เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ข้างหญิงสาวของเขา ไม่ได้หันกลับมามองเธออีกเลย

เธอรู้สึกได้ว่าตัวเองอยู่ที่ทางแยกของชีวิต เธอจะเลือกเดินออกจากงานนี้ไปอย่างโดดเดี่ยว หรือจะยอมเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รู้จักกับคนใหม่ ๆ ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของเธอไปตลอดกาล?

เสี่ยวหยูสูดลมหายใจลึก สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่หลี่เฉิง แม้ว่าเขาจะหันไปสนใจผู้หญิงข้างกายแล้วก็ตาม แต่หัวใจของเธอยังรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากการสบตากันเมื่อครู่ เธอกำลังจะตัดสินใจเดินออกจากงาน แต่ก่อนที่เธอจะก้าวพ้นออกไป มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

"คุณเสี่ยวหยูใช่ไหมครับ?"

เธอหยุดชะงัก หันไปมองเจ้าของเสียง เขาคือ ชุ้ง—นักธุรกิจหนุ่มผู้ทรงอิทธิพล เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่ร่ำรวยมหาศาล ชายหนุ่มผู้มีข่าวลือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ ใบหน้าของเขาหล่อเหลาคมคาย ดวงตาคมกริบสะท้อนความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม

"ผมชื่อชุ้ง ผมสนใจคุณมานานแล้ว" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยอำนาจ

เสี่ยวหยูเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะมีคนอย่างเขาสนใจเธอ "คุณรู้จักฉันเหรอคะ?"

"แน่นอน ธุรกิจของคุณเป็นที่จับตามอง และตัวคุณเอง... ก็ยิ่งน่าสนใจ" ชุ้งกล่าวพลางมองเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก "ดูเหมือนว่าคืนนี้คุณจะมีอะไรให้คิดเยอะนะครับ ผมพอจะช่วยได้ไหม?"

เสี่ยวหยูยังไม่ทันตอบอะไร ก็มีชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามา

"ขอโทษที่ขัดจังหวะ แต่ผมเห็นคุณดูไม่ค่อยสบายใจ" เขาคือ หลินเจี๋ย นักแสดงหนุ่มชื่อดังที่กำลังมาแรง เขามองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน "ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกผมได้นะครับ"

เสี่ยวหยูรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับจ้องจากทุกทิศทาง ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรเพิ่มเติม ชายหนุ่มอีกสามคนก็ก้าวเข้ามา

เซี่ยงหลง – ทายาทตระกูลนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล ผู้มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และท่าทางเยือกเย็น

โจวเหวิน – นักดนตรีชื่อดังที่มีเสน่ห์เหลือล้น เสียงของเขาทำให้ผู้หญิงมากมายหลงใหล

เฉินอวี่ – ซีอีโอหนุ่มแห่งบริษัทแฟชั่นระดับโลก ผู้มีบุคลิกสุขุมและน่าค้นหา

พวกเขาทั้งหมดมองเธอด้วยความสนใจ มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป แต่เป้าหมายเดียวกันคือ—เธอ

เสี่ยวหยูเหลือบมองหลี่เฉิงอีกครั้ง เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ข้างหญิงสาวของเขา ไม่ได้หันกลับมามองเธออีกเลย

เธอรู้สึกได้ว่าตัวเองอยู่ที่ทางแยกของชีวิต เธอจะเลือกเดินออกจากงานนี้ไปอย่างโดดเดี่ยว หรือจะยอมเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รู้จักกับคนใหม่ ๆ ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของเธอไปตลอดกาล? เสี่ยวหยูรู้สึกเหมือนเวลาเคลื่อนไปช้าๆ ท่ามกลางเสียงพูดคุยของชายหนุ่มหลายคนที่ล้อมรอบเธอ ใบหน้าของหลี่เฉิงที่ยังคงยืนอยู่ข้างผู้หญิงคนใหม่ของเขาทำให้หัวใจของเสี่ยวหยูรู้สึกเหมือนโดนทิ่มแทงเบาๆ แต่เธอก็พยายามควบคุมอารมณ์ให้ดี เพราะรู้ดีว่าเวลานี้ไม่เหมาะกับการแสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ

หญิงสาวที่ยืนข้างหลี่เฉิงยิ้มให้กับเขา ขณะเดียวกันก็ส่งสายตาเยาะเย้ยมาที่เสี่ยวหยูอยู่บ้าง ราวกับตั้งใจจะให้รู้ว่าเธอมีตำแหน่งในใจของหลี่เฉิงแล้ว

"ผู้หญิงคนนั้น..." เสี่ยวหยูคิดในใจ

เธอจำได้ดีว่าเธอเห็นหญิงสาวคนนั้นครั้งแรกที่งานเปิดตัวสินค้าแบรนด์ดังที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ผู้หญิงคนนั้นมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ ดึงดูดด้วยการแต่งกายที่โดดเด่นและท่าทางที่มั่นใจ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เธอคาดหวังว่าจะได้รับจากหลี่เฉิง... คนที่เสี่ยวหยูเคยคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในชีวิตของเธอ

แต่การที่เห็นเขายืนข้างผู้หญิงคนนั้นในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ในใจเล็กน้อย

"ไม่เป็นไรหรอก" เสี่ยวหยูบอกกับตัวเองอย่างเงียบๆ ในใจ เธอหันไปมองชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ชุ้ง—นักธุรกิจที่ดูเหมือนจะไม่ได้มีความสนใจในผู้หญิงคนอื่นเลยนอกจากตัวเธอ

"คุณเสี่ยวหยูครับ... ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอไปทานข้าวกับคุณหน่อยได้ไหมครับ?" ชุ้งกล่าวเสียงนุ่ม แต่แฝงไปด้วยความมั่นคง

เสี่ยวหยูหันไปมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้กับชุ้ง แม้ในใจยังคงรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันคงจะดีกว่าที่จะห่างจากสถานการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกท้อแท้เช่นนี้

ทันใดนั้น เสียงของหลินเจี๋ยก็ดังขึ้นอีกครั้ง "ถ้าเสี่ยวหยูไม่รังเกียจ ผมขอนั่งคุยด้วยสักครู่ได้ไหมครับ?"

เสียงของเขานุ่มและแสดงถึงความปรารถนาดี เสี่ยวหยูคิดว่าการคุยกับเขาคงจะไม่เสียหายอะไร และการมีคนคุยที่ดีอาจช่วยให้เธอผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ง่ายขึ้น

ท่ามกลางชายหนุ่มที่ต่างก็พยายามจะสร้างความสนใจให้กับเธอ เสี่ยวหยูรู้สึกว่าหัวใจของเธอเริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ

"พวกคุณทั้งหมดดูจะสนใจผมมากเกินไปนะคะ" เสี่ยวหยูพูดอย่างเรียบเฉย ก่อนจะหันไปมองหลี่เฉิงอีกครั้ง

ผู้หญิงข้างๆ หลี่เฉิงยิ้มอีกครั้ง พร้อมกับมองเสี่ยวหยูด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความท้าทาย ราวกับกำลังแสดงให้เสี่ยวหยูเห็นว่าเธอไม่ได้อยู่ในจุดที่หลี่เฉิงเคยสนใจอีกต่อไป

เสี่ยวหยูไม่สามารถห้ามใจจากการมองหลี่เฉิงได้ และในขณะเดียวกัน ก็สัมผัสได้ถึงความสนใจจากชายหนุ่มคนอื่นๆ ที่ยังคงพยายามเข้ามาใกล้

"บางทีคืนนี้... อาจจะมีอะไรที่เปลี่ยนไป" เสี่ยวหยูคิดในใจ ขณะที่เธอหันไปยิ้มให้กับชุ้งที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน ในขณะที่เสี่ยวหยูหันไปยิ้มให้กับชุ้ง ความรู้สึกของเธอก็ยังคงท่วมท้นด้วยความสับสน เธอรู้ดีว่าในตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะตัดสินใจ แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะให้ตัวเองสนใจชายหนุ่มที่กำลังเข้ามาใกล้

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ชุ้งหรือหลินเจี๋ยเท่านั้นที่สนใจเสี่ยวหยูอยู่ ในมุมมองที่ไม่ได้ถูกมองเห็นทุกครั้งยังมีสายตาของหญิงสาวคนอื่นๆ ที่จับจ้องมาที่เธอ

ซูเหม่ย – สาวสวยจากแวดวงการแสดงที่เป็นเพื่อนสนิทของหลี่เฉิง แม้ว่าเธอจะยิ้มให้เสี่ยวหยูอย่างเป็นมิตร แต่ในสายตาที่เธอมองเสี่ยวหยูกลับแฝงไปด้วยความไม่พอใจที่ดูเหมือนจะซ่อนเร้นอยู่ลึกๆ แม้จะไม่แสดงออก แต่เสี่ยวหยูรู้สึกได้ถึงความท้าทายที่ซูเหม่ยส่งมาให้จากสายตานั้น

หานซี – นักออกแบบแฟชั่นที่สวยงามและเป็นที่รู้จักในวงการสูง เข้ามาทักทายเสี่ยวหยูด้วยรอยยิ้มละมุน ขณะที่สายตาของเธอคอยจ้องมองเสี่ยวหยูอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าเสี่ยวหยูเป็นสิ่งที่เธออยากจะทำความรู้จักมากขึ้น แต่เธอก็ระมัดระวังไม่ให้แสดงออกถึงความสนใจจนเกินไป

เสิ่นหลาน – ผู้หญิงที่ดูเหมือนจะรู้จักเสี่ยวหยูจากที่เคยเจอกันในงานต่างๆ เสิ่นหลานมีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูด แต่สิ่งที่ทำให้เธอน่าสนใจยิ่งกว่าคือท่าทางที่คอยตามติดเสี่ยวหยูอยู่เสมอ ราวกับว่ามีบางสิ่งที่ทำให้เธอแอบรู้สึกสนใจเสี่ยวหยูมากกว่าที่แสดงออก

หยางหยาน – นักร้องสาวผู้มีเสียงอันทรงพลังและมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร หยางหยานคอยมองเสี่ยวหยูอย่างห่างๆ แต่เสี่ยวหยูรู้ดีว่าเธอมีความคิดอะไรบางอย่างในใจ แน่นอนว่า หยางหยานไม่ได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองอย่างชัดเจน แต่เสี่ยวหยูรับรู้ได้ถึงความสนใจที่ซ่อนอยู่

ทั้งสี่สาวล้วนมีสไตล์ที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความสนใจที่พวกเธอมีต่อเสี่ยวหยู ราวกับทุกคนมีแผนหรือความคิดบางอย่างเกี่ยวกับเธอ แต่เสี่ยวหยูเองก็ยังคงไม่สามารถที่จะตีความหรือวิเคราะห์ได้เต็มร้อยว่าความรู้สึกเหล่านั้นคืออะไร

เสี่ยวหยูมองทั้งสี่สาวที่ดูเหมือนจะไม่ยอมให้เธอไปไหนง่ายๆ ทุกสายตาที่จับจ้องมาที่เธอทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของคนที่ต่างมีความสนใจในตัวเธอ

"บางทีคืนนี้อาจจะเป็นคืนที่ต้องตัดสินใจ" เสี่ยวหยูคิดในใจ ขณะที่เธอรู้สึกว่าการหันมาสนใจใครคนหนึ่งในกลุ่มนี้อาจจะเป็นทางออกของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถลืมหลี่เฉิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอได้

ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังขึ้นในงาน เสี่ยวหยูรู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในที่ที่ยากจะเลือกได้ ว่าเธอควรจะเลือกเดินไปทางไหน—ออกจากงานนี้ไปอย่างเงียบๆ หรือจะเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีความสัมพันธ์กับใครบางคนที่มีความสนใจในตัวเธอ?

คำตอบยังคงไม่ชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่เสี่ยวหยูแน่ใจคือคืนนี้จะเป็นคืนที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตของเธอไปตลอดกาล.

เสี่ยวหยูเดินออกจากกลุ่มชายหนุ่มที่ยืนอยู่รอบตัวเธอ ชายหนุ่มที่ต่างพยายามดึงดูดความสนใจของเธอ แต่เธอไม่สามารถจะปฏิเสธได้ว่าในใจของเธอกำลังเผชิญกับความสับสนและความรู้สึกที่หลากหลายที่สับสนไม่แพ้กัน

เธอรู้ดีว่าในตอนนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างยังคงไม่ชัดเจน เหมือนเธอกำลังยืนอยู่กลางทางแยกของชีวิต ที่ต้องตัดสินใจว่าจะเดินไปทางไหน

จากมุมมองของเสี่ยวหยูในตอนนี้ ทุกสิ่งรอบตัวเธอเหมือนจะเปลี่ยนไป จากการมองเห็นหลี่เฉิงยืนข้างผู้หญิงคนใหม่ของเขา ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง ความรู้สึกเจ็บปวดที่เคยฝังลึกอยู่ในใจลอยขึ้นมาอีกครั้ง แต่มันก็เป็นแค่ความรู้สึกที่เธอต้องพยายามห้ามตัวเองจากการแสดงออกถึงมัน

เมื่อหันกลับมามองชุ้งที่ยืนอยู่ข้างๆ เสี่ยวหยูก็รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่แค่คนที่พยายามจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น เขาคือคนที่ดูเหมือนจะเห็นเธอในแบบที่เธอต้องการจะเป็น—คนที่ยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่ต้องการให้เธอรู้สึกกดดันหรือถูกคาดหวังอะไรจากเขา เขาแค่ต้องการให้เธอได้มีความสุข และไม่ต้องการให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยว

"คุณเสี่ยวหยูครับ..." เสียงของชุ้งดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้มันดูอ่อนโยนกว่าเดิม "ถ้าไม่รังเกียจ... คุณอยากไปเดินเล่นข้างนอกกันไหมครับ? คืนนี้อากาศดีมาก ผมว่าเราอาจจะหาที่สงบๆ เพื่อคุยกันได้"

เสี่ยวหยูมองใบหน้าของชุ้งในขณะที่เขาพูด นั่นคือใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจ ไม่มีคำพูดที่ห่วงใยเกินไปหรือที่หวังผลอะไรจากเธอ เขาแค่ต้องการให้เธอรู้สึกสบายใจเท่านั้น

เสี่ยวหยูรู้สึกถึงการเปิดโอกาสให้ตัวเอง มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย แต่ในขณะนี้ การเดินทางที่ไม่ต้องกังวลใจในเรื่องของหลี่เฉิงหรือการเปรียบเทียบกับใครคนอื่น มันคงจะช่วยให้เธอได้ค้นพบตัวเองมากขึ้น

"ก็ได้ค่ะ" เสี่ยวหยูตอบในที่สุด เสียงของเธอเบาๆ แต่กลับมีความแน่วแน่อยู่ในนั้น "เรามีเวลาอยู่แล้ว"

ทั้งสองเดินออกจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงดนตรี เสี่ยวหยูไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังเริ่มเปิดใจให้กับความสัมพันธ์ใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เหมือนสิ่งที่เธอเคยรู้จักและคุ้นเคยมา

ระหว่างทางเดินที่เงียบสงบ เสี่ยวหยูรู้สึกว่าหัวใจของเธอเริ่มเบาลงบ้าง ความกังวลที่เคยมีเริ่มหลุดออกไปพร้อมกับการหายใจลึกๆ ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

"บางครั้ง การเดินไปข้างหน้าอาจจะทำให้เราค้นพบสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน..." เสี่ยวหยูคิดในใจ ขณะที่เธอเดินเคียงข้างชุ้ง ที่ดูเหมือนจะไม่แสดงความรีบร้อนหรือความคาดหวังใดๆ จากเธอเลย

คืนนี้อาจจะเป็นคืนที่เธอจะได้พบสิ่งใหม่ๆ หรืออาจจะเป็นแค่การเดินทางที่ทำให้เธอเรียนรู้การปล่อยวางจากสิ่งที่ผ่านมา... แต่สิ่งหนึ่งที่เสี่ยวหยูมั่นใจคือ เธอกำลังเริ่มเปิดโอกาสให้ตัวเองมีความสุขอีกครั้ง.