ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มหายุทธสยบรัก ตอนที่ 13: ปราบมารประจิม

เริ่มโดย KaohomLM, เมษายน 28, 2025, 10:52:31 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   หลิวอังลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา หวังปี้ถือโอกาสดึงกางเกงกลับขึ้นผูกเชือกเรียบร้อย
   "แม่นางหลิว" มันร้องเมื่อนางเดินกลับเข้ามา "ขออภัยที่ทำท่านเสียเวลา ข้าคงต้องขอตัว"
   "เดี๋ยวก่อน!" นางร้อง "หากไม่ได้ข้าช่วยเหลือ ท่านจะไปแห่งใดเล่า"
   "ข้าหารู้ไม่ ทว่า....ท่านบอกว่า หากข้าชนะ ท่านจะร่วมเดินทางกับข้า ทว่าข้ากลับเป็นผู้พ่ายแพ้"
   นางแย้มยิ้ม "ข้าบอกหรือไม่ ว่าหากท่านแพ้ ข้าจักไม่ช่วยเหลือ"
   "แม่นางมิได้กล่าวเช่นนั้น"
   "ท่านมาแสวงหาผู้มีฝีมือช่วยเหลือ ย่อมต้องการผู้มีฝีมือเหนือกว่า ข้าท้าประลองเพียงต้องการวัดใจท่านดอก มาเถิด ให้ข้าเก็บสัมภาระสักครู่..........จริง ๆ แล้ว ท่านตามข้ามาเถิด ข้าจักพาไปหอกระบี่"
   นางเดินนำมันไปยังใจกลางสำนัก ระหว่างทางก็คว้าหยิบของเล็กน้อยใส่ย่ามใบเล็ก
   "นี่คือหอกระบี่ของบิดา ท่านเลือกกระบี่ที่ถูกใจท่านไปเล่มหนึ่งเถิด ระหว่างเดินทางด้วยกันข้าจักสอนเพลงกระบี่ให้ท่าน วิชามือเปล่าท่านแข็งแกร่งนัก หากฝึกวิชาอาวุธด้วยย่อมแข็งแกร่งขึ้นอีกสิบเท่า อีกอย่าง........หากไม่จำเป็น ข้าไม่อยากเห็นท่านใช้อาวุธนั้นแล้ว"
   "ขอบคุณแม่นางมากนัก.....แล้ว..............." มันชำเลืองมองกระบี่เก่าซอมซ่อที่นางใช้เทียบกับกระบี่เล่มงามหลายต่อหลายเล่มในหอกระบี่ "แม่นางไม่คิดนำกระบี่เหล่านี้ไปบ้างหรือ"
   "กระบี่เล่มนี้ตกทอดจากบิดามาสู่ข้า ท่านใช้มันยามท่องยุทธจักรในวัยหนุ่ม แม้นเก่าปอนทว่ามันเคยปราบมารร้ายแห่งยุทธจักรมามากหลาย อีกทั้ง............" นางมองไปที่กระบี่เล่มที่งามที่สุดที่ตั้งอยู่ใจกลางหอ "ข้ายังหาคู่ควรใช้กระบี่ที่บิดาใช้เมื่อขึ้นเป็นเทพกระบี่ไม่ หากวันใดข้าคู่ควร ข้าจักรับกระบี่เล่มนั้นไปใช้ แลส่งมอบกระบี่โบราณนี้ให้ผู้สืบทอดของข้า"
   หวังปี้เลือกกระบี่เล่มหนึ่งที่มันรู้สึกว่าถนัดมือนัก แล้วทั้งคู่จึงออกจากสำนัก หลิวอังล่ามโซ่ปิดประตูสำนักแน่นหนา
   "สำนักเทพกระบี่ ปิดลงแล้ว" นางว่า "แลจะเปิดใหม่อีกครั้งเมื่อทุกคนยอมรับตัวข้าเป็นเทพกระบี่ หาใช่เพียงธิดาเทพกระบี่ไม่"
   "หากท่ามร่วมปราบคนชั่วหวังฟันเจ้า ทั้งยุทธภพย่อมสรรเสริญ" หวังปี้บอก
   นางยิ้ม "เอาหล่ะ หวังปี้ ท่านได้เทพกระบี่มาร่วมในขบวนการแล้ว เป้าหมายต่อไปของท่านคืออย่างไรเล่า"
   "ธิดาบุปผาเซียวเฟยซิง เทพกระบี่หลิวปิง ซานเอ๋อหนิงแห่งเกาะดอกทอง จิวไต้กั๋วแห่งวังน้ำแข็ง ว่านเหนียงองครักษ์ชั้นหนึ่งแห่งวังหลวง มารประจิมกงเหลา ราชสีห์ทองคำอ้าวหลาง ชางป๋อขุนศึกแดนใต้ จอมโจรทมิฬม้าหลิวกง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดฝีมือลือเลื่องทั่วยุทธจักร" หวังปี้ท่อง "มีผู้บอกข้ามาว่า ในยอดฝีมือเหล่านี้ บิดาท่านแลราชสีห์ทองคำอ้าวหลางพึงจะช่วยข้าได้มากที่สุด ขอทานจากพรรคกระยาจกบอกข้าได้ว่าบิดาท่านมีสำนักอยู่ที่นี่ ทว่าแม้แต่มันก็ไม่รู้ว่าอ้าวหลางนั้นอยู่แห่งหนตำบลใด"
   "โชคดีของท่านแล้ว เพราะข้ารู้ว่าจะหาท่านอาอ้าวหลางได้ที่ใด"
   "แม่นางรู้กระนั้นหรือ"
   "ข้ารู้" นางว่า "แลที่ท่านว่าบิดาข้าแลท่านอาอ้าวหลางจักเต็มใจช่วยเหลือท่านนั้นจริงนัก อ้าวหลางสนิทแลนิสัยคลับคล้ายกับบิดาข้า ยามยังหนุ่มบิดาเคยช่วยชีวิตอ้าวหลางตั้งแต่มันยังเป็นเด็กเล็กนัก อ้าวหลางเมื่อโตขึ้นก็มุ่งมั่นฝึกยุทธด้วยประสงค์จะเป็นจอมยุทธพิทักษ์ธรรมเช่นบิดาข้า ทั้งสองเคยร่วมกันสู้กับเหล่ามารยุทธจักรหลายคนนัก ไม่ถึงเดือนก่อน อ้าวหลางมาหาบิดาข้า บอกว่ามารประจิมกงเหลาฝีมือแกร่งกล้าขึ้นทุกวัน หากไม่รีบกำจัดย่อมเป็นภัยต่อยุทธภพ บิดาข้าวัยเก้าสิบเศษแล้ว ทว่าท่านยังคว้ากระบี่จะไปร่วมสู้เคียงข้างท่านอาอ้าวหลาง ทว่าเมื่อก้าวเท้าออกจากสำนักกลับสะดุดธรณีประตูล้มกระดูกสะโพกหัก ท่านอาอ้าวหลางจึงไปสู้กับกงเหลาเพียงผู้เดียว"
   "แปลว่าหากเราอยากพบอ้าวหลาง เราก็ต้องไปหาตัวมารประจิมกงเหลาสินะ" หวังปี้สรุป
   "ถูกต้องแล้ว"
   "แล้วมารประจิมอยู่ที่ใดเล่า"
   "ทิศประจิม" นางชี้ "บนเขากิสาน มันเก็บตัวแลสูบเลือดเนื้อมนุษย์แลสัตว์บนขุนเขามาหลายปีแล้ว ท่านอาอ้าวหลางกลัวว่าเมื่อดูดลมปราณได้มากพอ มันจักลงจากเขามาแลสร้างความปั่นป่วนแก่ยุทธจักรเช่นครั้งเมื่อก่อนมันขึ้นเขาไป"
   "เช่นนั้นเราไปกันเถิด" หวังปี้บอก "หากเราช่วยท่านอ้าวหลางเอาชนะมารประจิม ท่านอาจจะยอมไปช่วยเราปราบหวังฟันเจ้าก็เป็นได้"
   
   ทว่าหนทางสู่เขากิสานที่มารประจิมอาศัยอยู่นั้นว่างเปล่าแลธุรกันดารนัก หวังปี้แลหลิวอังเดินทางด้วยกัน ชมนกชมไม้แลหัวเราะต่อกระซิก พูดจาเล่นหัวกันสนุกสนานนัก เมื่อยามใกล้ค่ำก็ก่อกองไฟ นางพร่ำให้หวังปี้ร่ำเรียนเพลงกระบี่จนดึกค่ำ ก่อนจะลงนอนหลับเคียงกันด้วยความเหนื่อยอ่อน เป็นเช่นนี้อยู่หลายสัปดาห์นัก จนทั้งคู่เดินทางไปถึงเชิงเขากิสาน
   "หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!" เสียงเหี้ยมโหดตวาดก้องดังลั่น ชายในชุดดำราวยี่สิบย่างก้าวออกมาจากที่ซ่อนหลังต้นไม้รอบตัว "มีเงินเท่าไหร่ ส่งมาให้หมด"
   "แลส่งภรรยาของเจ้ามาด้วย แล้วเราจะปล่อยเจ้าไป" ชายอีกคนร้อง
   "คงจะยากนัก เพราะภรรยาของข้าอยู่ไกลถึงชิงไห่นู่น" หวังปี้ตอบ หลิวอังสะอึก
   "เอ่อ....ถ้าอย่างนั้น" ชายชุดดำเกาหัว "ส่งตัวสตรีที่เจ้าอยู่ด้วยมาแล้วกัน"
   "แม่นางหลิว เจ้าอยากไปหาโจรป่าเหล่านี้หรือไม่"
   หลิวอังหันมายิ้ม "ข้าอยากไปอยู่ในมือพวกมันนัก"
   "เช่นนั้น..............ไปเถิด!!!!" หวังปี้จับมือนางข้างหนึ่ง แล้วหมุนตัว เหวี่ยงร่างนางเพียงบุปผาที่หล่นร่วงในสายน้ำวน กระบี่เล่มเก่าโผบินออกจากฝัก โจรป่ายี่สิบคนรอบกายต่างล้มลงกระจัดกระจาย ต่างก็กุมบาดแผลที่หน้าอกแลต้นขา
   "แม่นางฝีมือเลิศล้ำแลมีเมตตานัก" หวังปี้กล่าวพลางมองโจรป่ารอบกาย "แม่นางสังหารพวกมันได้ง่ายเพียงพลิกฝ่ามือ แต่กลับไว้ชีวิตพวกมัน"
   "ท่านพี่โจรป่าทั้งหลาย ข้าหวังยิ่งว่าพวกท่านจะกลับตัวกลับใจ หันกลับไปประกอบสัมมาอาชีพ เลิกจี้ปล้นแลคุกคามผู้อื่นเสีย"
   "โอยยยย" หัวหน้าโจรลุกขึ้นยืน ยกมือคารวะ "ขอบคุณแม่นางที่ยั้งมือไว้ไมตรี คำพูดแม่นาง ข้าจักรับไว้พิจารณา"
   "ก่อนจากกัน ท่านพี่โจรป่าบอกข้าเถิด" หลิวอังกล่าว "มารประจิมกงเหลาอาศัยอยู่บนเขาลูกนี้ใช่หรือไม่"
   โจรป่าครุ่นคิด "ข้าหารู้จักมารประจิมไม่ ทว่าบนเขาอันตรายนัก ผู้ที่ขึ้นไปไม่เคยมีใครรอดตายกลับลงมา แลที่เชิงเขาก็พบศพแห้งตายบ่อยนัก ทั้งซากสัตว์แลร่างมนุษย์ แต่ก่อนที่นี่มีหมู่บ้านแลเรือกสวนไร่นา ทว่าเมื่อราวสิบปีที่แล้ว ชาวบ้านเริ่มหายสาบสูญทีละคนแลปศุสัตว์ถูกสูบเลือดแห้งตายสิ้น สุดท้ายทุกคนต่างก็อพยพย้ายถิ่นหนี พวกข้าเคยเป็นชาวสวน ทว่าไม่มีที่อื่นจะหนีไปได้ จึงจำต้องทนอยู่ ครั้นเมื่อน้ำจากบนเขาเหือดแห้ง ทำต้นไม้แห้งตายหมดสวน เราจึงต้องผันตัวเป็นโจรป่าให้ต้องเสียเกียรติเช่นนี้"
   "พวกท่านมิเคยปล้นแลทำร้ายใครมาก่อน ข้ามองก็รู้แล้ว" หลิวอังบอก "จึงมิได้ลงมือทำร้ายให้พวกท่านถึงแก่ชีวิต"
   "แล้วเราจะทำอย่างไรได้เล่า" โจรอีกคนถาม "แม่นางบอกให้เราใช้ชีวิตสุจริต เราก็ใช้ชีวิตสุจริตมาตลอด แต่น้ำไม่มีจักปลูกพืชผลได้อย่างไร อยู่ก็มีแต่อดตาย ทว่าเรามิใช่คนมั่งคั่ง แม้นค่าจ้างเกวียนนำลูกแลภรรยาเข้าเมืองยังไม่มี จะให้ไปอยู่ที่ใดเล่า"
   หวังปี้มองหน้าชายผู้นั้นด้วยบังเกิดความสงสารยิ่ง มันหยิบถุงเงินออกมาแลมอบให้ชายเหล่านั้นทั้งถุง "ท่านจงไปที่ชิงไห่เถิด ภรรยาข้าเป็นจ้าวสำนักพรรคป่าวงกต ตั้งรกรากอยู่ที่นั่น นางต้องหางานให้พวกท่านได้เป็นแน่"
   โจรป่าอ้าปากค้าง "ขอบคุณท่านชายมากนัก"
   เหล่าโจรต่างรุมกันขอบคุณหวังปี้แลหลิวอัง ก่อนจะแยกย้ายกันจากไป
   "ได้พิทักษ์คุณธรรม รู้สึกดียิ่งนัก" นางว่า "หากมิใช่เราบังเอิญผ่านมาพอดี ชายเหล่านั้นอาจต้องทำร้ายผู้คนจริง ๆ เข้าสู่วังวนแห่งความชั่วร้ายกลายเป็นมารชั่วจริง ๆ ก็ได้ ข้าดีใจนัก ที่เราช่วยพวกเขาได้"
   "แม่นางช่างเป็นคนดียิ่งนัก" หวังปี้ว่า "ทว่า...แม่นางมีเงินติดตัวบ้างหรือไม่ ข้าให้ท่านพี่ผู้นั้นไปหมดสิ้นแล้ว"
   นางเปิดย่ามเล็กแลคว้าถุงเงินให้ดู ในนั้นมิได้มีเพียงเหรียญอีแปะแต่ยังมีตำลึงเงินตำลึงทองด้วยหลายชิ้นนัก "บิดาข้าหายากจนไม่"
   "แต่หวังปี้..." นางจ้องหน้ามันเขม็ง "ไยท่านมิเคยบอกข้าเล่าว่ามีภรรยาแล้ว"
   "ขออภัย ข้าเพียงเห็นว่าการที่ข้ามีภรรยา หาได้เกี่ยวข้องกับการปราบโจรชั่วหวังฟันเจ้าไม่"
   นางยิ้ม "ท่านทำให้ข้านึกถึงบิดานัก"
   "ไยพูดเช่นนั้นเล่า"
   "บิดาออกท่องยุทธภพปราบปรามเหล่าร้ายคราวใด ต้องได้ภรรยาใหม่กลับบ้านเสียทุกครั้ง ตอนวัยเจ็ดสิบท่านมีภรรยาถึงสิบสองคน"
   "ฮูหยินเหล่านั้นไปไหนหมดแล้วเล่า"
   "บิดาชอบเคล้าคลอสตรีที่แก่กว่าตน เหล่าฮูหยินรวมถึงมารดาข้าล้วนสิ้นอายุแล้วยามบิดาอายุถึงเก้าสิบ" นางยิ้ม "แล้วท่านเล่า นิยมชมชอบสตรีที่แก่กว่าหรือเด็กกว่า"
   "ภรรยาข้าอ่อนอายุกว่าข้าราวสองปี" หวังปี้บอก "ข้าคงชอบสตรีเยาว์วัยกระมัง"
   แลแม่นางเซียวเฟยซิงก็ดูจะอายุน้อยกว่ามันราวปีเศษ แต่หวังปี้เก็บความคิดนี้ไว้กับตนเอง
   "แล้วข้าเล่า ข้าอายุมากกว่าเจ้า"
   "แต่แม่นางยังสาวสดนัก" หวังปี้รีบบอก "แลอายุท่านยังมากกว่าข้าเพียงเดือนเท่านั้น หาถึงปีไม่ หากกล่าวว่าเราอายุเท่ากันจะถูกต้องมากกว่านัก"
   นางหน้าแดงก่ำ หวังปี้เองก็รู้สึกกระดากอายนัก มันจึงหันหน้ามองขึ้นเขาแลเอ่ยปาก "เราขึ้นเขากันเถิด"

   ยังไม่ถึงยอดเขาทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงต่อสู้ปะทะกันดังลั่นสนั่นไหวราวยอดเขาจะพังถล่ม
   "นั่นต้องเป็นท่านอาอ้าวหลางปะทะกับมารประจิมเป็นแน่" หลิวอังบอก "มาเถิด เราควรเร่งเข้าไปช่วยเหลือ"
   นางใช้วิชาตัวเบาเหาะเหินเดินอากาศ หวังปี้ชักกระบี่แลเหินร่างตามนางไป
   ที่บนยอดเขา ผู้คนต่อสู้กันอยู่ดุเดือดนัก ทว่ากลับมิได้มีเพียงสองดังที่หวังปี้คาด แต่กลับมีถึงสามคน
   มารประจิมคือชายชุดดำที่ถูกล้อมอยู่ใจกลาง เห็นได้ชัดเจนนัก มองครั้งแรกดูเหมือนชายชรา ทว่าเมื่อพินิจแล้วกลับเห็นได้ว่าแม้นใบหน้ามันจักมีรอยย่นมากมายนัก ทว่าริ้วรอยเหล่านั้นเป็นรอยจากวิชามืดทั้งสิ้น หาใช่การแก่อายุตามธรรมชาติไม่ พลังลมปราณของมันรุนแรงแลน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก ราวกับหมักหมมจากซากศพตายเน่านับร้อย แม้นอยู่ไกลเกือบร้อยหลาหวังปี้ยังรู้สึกคลื่นไส้นัก
   อีกคนเล่าเป็นชายวัยสี่สิบเศษ สวมเกราะทองทั้งตัว ผมยาวรวบในรัดเกล้าอันจัดเป็นทรงคล้ายหัวสิงห์ มันไม่มีอาวุธติดกาย ทว่าแต่ละหมัดที่ซัดออกไปรุนแรงจนภูเขาด้านหลังมารประจิมแตกถล่มลง แม้ร่างจะใหญ่โตบึกบึน แต่มันกลับเคลื่อนไหวได้แคล่วคล่องนัก หมัดแล้วหมัดเล่าซัดออกไปปะทะกรงเล็บของมารประจิมรวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน
   คนที่สามเป็นดรุณีแน่งน้อย สวมชุดแพรขาวทั้งกาย กระบี่อ่อนในมือร่ายรำอ่อนช้อยนักคอยสกัดไม่ให้กรงเล็บของมารประจิมกรีดลงบนร่างราชสีห์ทองคำได้
   "ใต้เงาลมปราณพิษของข้า พลังยุทธเจ้าอ่อนแอลงถึงแปดส่วน" มารประจิมอวดโอ้ "เจ้ายังคิดจะต่อกรข้าได้อีกรึ ราชสีห์ทองคำ มิรู้ตัวเลยหรือว่ายมบาลอยู่แค่เอื้อมแล้ว"
   "หุบปากเถิด มารประจิม" อ้าวหลางร้อง พลางก็ซัดอีกหมัดไปแรงนัก มารประจิมลอยหวือไปสี่ห้าก้าว ถ่มเลือดออกจากปากคำหนึ่ง เลือดที่หยดลงพื้นเผาผลาญจนหญ้าไหม้เกรียม
   "อะไรกันนี่ ฝ่ายธรรมะแห่กันมาอีกแล้วหรือ" มารประจิมร้องเมื่อเห็นหลิวอังและหวังปี้ "เช่นนั้นข้าคงอยู่ไม่ได้แล้ว"
   มันตั้งท่าจะใช้วิชาตัวเบาหลบหนี ทว่าดรุณีชุดขาวโผเข้าสกัด นางซัดแพรเส้นหนึ่งจากชุดขาวรัดรอบข้อเท้าแลดึงตัวมันกลับมา มารประจิมกระแทกพื้นดังอึก ทว่าแพรขาวเปลี่ยนเป็นสีดำทันที สตรีชุดขาวทำหน้ารังเกียจนักแลใช้กระบี่อ่อนตัดผ้าชิ้นนั้นออกจากกายก่อนที่พิษร้ายจะแพร่มาถึง
   "ข้าไม่ปล่อยท่านไปไหนดอก มารประจิม" นางว่า "เว้นแต่จะบอกกับข้า.....ท่านให้สิ่งใดหวังฟันเจ้าไป"
   มารประจิมหัวร่อ "ถึงข้าฆ่า เจ้าก็ไม่มีวันได้รู้ดอก จนถึงวันที่หวังฟันเจ้าขึ้นเป็นจ้าวยุทธจักรนั่นแล.....ข้าอยากอยู่รอเห็นวันนั้นนัก อยากเห็นนักว่ามันจะข่มขืนเจ้าท่าใดบ้าง"
   "สามหาวนัก!" ดรุณีชุดขาวร้องแลทะยานเข้าหามารประจิม
   "ระวังนะ!!" ราชสีห์ทองคำร้องเตือน ทว่าไม่ทันแล้ว  อาวุธลับสองชิ้นซัดจากใต้เสื้อคุลมมารประจิมพุ่งตรงเข้าหาร่างของนาง
   เคล้ง!!!!!
   นางปัดป้องมีดซัดอาบยาพิษได้เล่มหนึ่ง แลสะบัดร่างจนพ้นวิถีแห่งมีดเล่มที่สอง ทว่าการเคลื่อนไหวนั้นผลักให้ร่างนางลอยห่างจากมารประจิมเกินกว่าจะแทงกระบี่ใส่มันได้ มารประจิมตั้งท่าจะหนีอีกคราแต่หวังปี้แลหลิวอังเข้าขวางสกัดทางของมันเสียก่อน ต่างชักกระบี่ออกหันหลังชนกันเตรียมพร้อมยกแทงได้ถนัดถนี่ดังที่ฝึกซ้อมกันมา อีกด้านหนึ่งอ้าวหลางแลดรุณีชุดขาวก็เดินย่างเข้าหากงเหลา
   มารประจิมรีบกระซวกกรงเล็บใส่หนุ่มสาวหน้าใหม่ที่มาขวางทางมันหวังเปิดทางหลบหนี หวังปี้ตั้งท่าเตรียมปัดป้อง ทว่าหลิวอังร่ายรำกระบวนท่าเดียว ปลายนิ้วสี่นิ้วของมารประจิมก็ขาดออกจากมือ เล็บยาวหงิกงอ เลือดสีคล้ำพวยพุ่ง
   มารประจิมเห็นจวนตัว รีบโคจรลมปราณเต็มที่ ปลดปล่อยพลังที่ไล่สูบจากร่างไร้วิญญาณของคนแลสัตว์มาสิบกว่าปีออกมาสิ้น หลิวอังซวนเซอยู่ข้างกายหวังปี้ กระบี่ร่วงหล่นจากมือ
   "วิชาพิษของมันช่างร้ายกาจนัก" ราชสีห์ทองคำร้องพลางถอยกรูดไปหลายก้าว
   "..." หวังปี้กัดฟัน ตัวมันเองก็รู้สึกราวจะสิ้นสติแล้วด้วยแรงแห่งปราณพิษที่สาดซัดใส่เข้ามา มันรวบรวมพลัง เปิดลมปราณให้น้ำพิสุทธิ์โคจรทั่วร่าง ดูดเอาพลังแห่งพิษลงก่อนจะไปรวมกันที่อวัยวะเบื้องล่างเตรียมตัวคัดหลั่ง
   "ซี๊ดดดดดดดด" หวังปี้ร้อง เมื่อพลังพิษไปรวมอยู่ที่แท่งเนื้อ มันก็รู้สึกร้อนรุ่มนัก ราวกับมังกรน้อยจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ มันรีบแก้กางเกงลง สาวน้องน้อยสามสี่ที ปล่อยเอาน้ำพิสุทธิ์ที่ปนเปื้อนพลังพิษออกไปสิ้น น้ำที่ออกมาเป็นสีดำสนิทหาใช่สีขาวไม่ แต่ก็ยังพุ่งเร็วแรงกระแทกถูกหน้ามารประจิม มันร้องโหยหวนเอามือกุมหน้าที่เริ่มไหม้ด้วยพลังจากพิษของมันเอง
   ฉับ!!!!!!!!
   ดรุณีชุดขาวถือโอกาสที่มารประจิมหยุดปล่อยปราณพิษพุ่งตัวเข้ามา กระบี่อ่อนวาดลวดลายก่อนจะสะบัดลงที่คอของกงเหลา ตัดจนศีรษะขาดกระเด็น เลือดสีดำที่เปี่ยมไปด้วยสารพิษพุ่งสาดกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทาง
   หวังปี้ดึงกางเกงกลับขึ้นสวมใส่ แลจ้องใบหน้างดงามหมดจดของดรุณีชุดขาว นางยิ้มแย้มตอบกลับ ใบหน้างดงามยิ่งกว่าเทพธิดาดูสดใสชวนฝัน
 
   
   

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


Matsudaira777

ฝึกไปอีกสักพักน่าจะฉีดน้ำสารพัดสีได้เลยล่ะมั้ง5555

cd13579

ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

ryg123456

เทพยุทธ สุดยอดวิชาการต่อสู้ น่าจะมีแม่นางมาอีกหลายคนอยู่ในสังกัด


teerawatc

แม่นางหลิวยังมิได้เผด็จศึกเลย

มีดรุณีน้อยมาอีกคนแล้ว จะได้คนไหนก่อนล่ะนี่

แล้วยังมีความลับความแข็งแกร่งระดีบเจ้ายุทธภพของหวังฟันเจ้าอีก

รอติดตามนะครับ




Wolfoxies


pongsap


3hman

โอ้ มิเสียแรงที่อุตส่าห์ฝึกวิทยายุทธพิศดาร เอ็งแน่มากหวังปี้

navy868

#13
จะบ้าตาย มารประจิมตายเพราะน้ำพิสุทธิ์ ::Horror::
ได้เจอเฟยซิงแล้ว นางยังไม่ตายจริงๆด้วย

peddo

#14
สงสัยจอมมารร้ายจะตกใจกับกระบวนท่าพิสดารโชว์ของลับ​ เลยหลบไม่พ้นน้ำพิสุทธิ์​ แม่นางชุดขาวเห็นแล้วน่าจะสบอารมณ์​ สงสัยจะได้เมีเพิ่ม​ จะแก่กว่า​ อ่อนกว่าไม่เกี่ยงจ้า
เจอกันครั้งนี้​ แม่นางเฟยคงจะไม่ได้ซิงแล้ว​ ถ้าไม่เจอราชสีห์ทองเจาะไปก่อน