ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ดาวประกาย แต่งโดย กระทิงเปลี่ยว by Iczy

เริ่มโดย kitsana372, ตุลาคม 29, 2009, 05:34:50 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

kitsana372

ดาวประกาย  แต่งโดย กระทิงเปลี่ยว  by Iczy
Iczy Posted: May 10 2006, 12:17 AM   

ดาวประกาย
โดย กระทิงเปลี่ยว
ขอขอบคุณคุณจอน บราวน์ผู้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้

   ถนนสุโขทัยซอย 4 อันมีบ้านพักแบบบังกะโลชั้นครึ่ง ขนาดกะทัดรัด แปลนปลูกสร้างเนื้อที่ตลอดจนสิ่งประกอบล้วนอยู่ในแบบโรแมนติกอย่างฉกาจฉกรรจ์ แสดงให้เห็นถึงอารมณ์และศิลปะอันประณีตของผู้เป็นเจ้าของ
   บ้านอันเป็นมุมสงบน่าพิศวงหลังนี้ เป็นของเศรษฐีกำธรผู้มีกิจการค้าใหญ่โตกว้างขวาง มีโรงสี โรงเลื่อยและโรงงานอุตสาหกรรมตั้งหลายแห่ง เป็นเจ้าของเหมืองแร่และสวนยางเป็นหมื่น ๆ ไร่ทางภาคใต้
   ปัจจุบันเศรษฐีกำธรได้เป็นเจ้าของกิจการโรงภาพยนตร์ชั้นหนึ่งอีกสามแห่ง และได้ตั้งบริษัทสร้างภาพยนตร์ไทยอีกบริษัทหนึ่ง

   เศรษฐีกำธรมิใช่เป็นชายแก่หงำเหงอะ แต่ยังเป็นหนุ่มฟ้ออยู่ หล่อเฟี้ยว อายุไม่เกิน 38 ปีเพราะกิจการต่าง ๆ ของเขานั้น ส่วนมากเป็นมรดกตกทอดของบิดาผู้วายปราณแทบทั้งนั้น
ปกติบ้านดังกล่าวหลังนั้นจะมีชายสูงอายุผู้หนึ่งเป็นผู้เฝ้า และชายหนุ่มฉกรรจ์หน้าซื่อตามแบบฉบับของชาวอีสานอีกผู้หนึ่งเป็นคนทำสวน
   เศรษฐีกำธรมักจะหลบมุมเพื่อนฝูงของเขามาหมกตัวอยู่ที่นี่เสมอ บางขณะอาจจะมีเพื่อน ๆ มาด้วย บางขณะอาจจะมีหญิงหน้าแฉล้ม ไม่เคยซ้ำแบบกันเลย ผลัดกันมาเป็นมิตรสนทนาและเครื่องแก้อารมณ์เปลี่ยวอย่างเงียบ ๆ กับเขาที่บ้านหลังนี้ ถ้ามาเช้า ก็อาจจะกลับออกไปในตอนบ่าย ถ้ามาบ่าย อาจจะกลับออกไปในตอนเย็น หรือบ้างก็ค่ำ
   มีบางครั้งเหมือนกันที่เศรษฐีกำธรมาค้างอยู่ตลอดทั้งคืนกับหญิงสาวที่ถูกอกถูกใจบ่อย ๆ อารมณ์หนุ่มของเขาเป็นเช่นนั้นเอง ทั้ง ๆ ที่เขามีคู่หมั้นซึ่งมีคุณสมบัติพร้อมอยู่แล้วในทุกด้าน
เขาเป็นไปตามแบบฉบับของชายหนุ่มผู้มีฐานะมั่งคั่งที่ทะนุถนอมผู้หญิงซึ่งจะมาร่วมชีวิตอยู่กับเขาในอนาคต
   ...แต่เขาก็ยังไม่อยากจะให้การแต่งงานมาเป็นพันธะหยุด "กำไรแห่งชีวิต" ของเขาลงเสียก่อน ขณะเดียวกันก็ใช้ค่าของความหนุ่มและใช้เงินของเขาอย่างเต็มที่

   คืนนี้เขามีดาราภาพยนตร์มาคนหนึ่งเป็นดาราพันธุ์เนื้อ นม ไข่ และเป็นดาวยั่วชื่อก้องฟ้าบางกอก แก่นจิตคือชื่อของหล่อน ซึ่งปรากฏอยู่ตามโปสเตอร์โฆษณาของภาพยนตร์ไทยแทบทุกเรื่อง
   และในคืนเดียวกันนี้ เขาก็นัดดารานำฝ่ายชายมาพบปะเพื่อปรึกษาการสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งของเขาในขณะนี้ ภาพยนตร์เรื่องที่เศรษฐีกำธรดำเนินการสร้างอยู่ขณะนี้ ดาวยั่วแก่นจิตก็ได้ร่วมนำแสดงอยู่ด้วย
   ดารานำฝ่ายชายคือ ธีระพล พระเอกหนุ่มร่างสมาร์ท สมส่วนตามความต้องการของผู้อำนวยการสร้างหนังไทยได้วางคุณสมบัติของร่างกายและลักษณะไว้

   เขาได้มาถึงบ้านดังกล่าวของเศรษฐีกำธรอย่างตรงตามเวลานัดหมาย ร่างอันสมสัดส่วนของพระเอกหนังไทยซ่อนอยู่ในกางเกงสักหลาดสีน้ำตาลไหม้ เสื้อนอกสีเนื้อและโบว์แดง เรือนผมหยักศกดำเป็นมันปลาบ เหนือกรอบหน้าเรียวยาว จมูกโด่งเป็นสันงาม
   ธีระพลก้าวขึ้นบันไดซีเมนต์ของบังกะโลหลังนั้นด้วยทางทางอันสง่าผ่าเผย
   เศรษฐีกำธรก็ปรากฏกายออกมาต้อนรับ ขณะนี้เขาสวมเสื้อคลุมนอน สีสันพราวตา เหมือนพวกเศรษฐีอเมริกัน ใบหน้าผ่องใสและผมหวีเรียบเป็นเงา ดวงตาภายใต้แว่นขาวกรอบทองมองร่างพระเอกหนุ่มอย่างชื่นชมพลางกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจของผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่
"เชิญครับ คุณพล ผมมีธุระจะพูดกับคุณเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องที่คุณกำลังแสดงอยู่ในขณะนี้ด้วย"
"ขอรับ กระผม"
พระเอกหนังกล่าวอย่างนอบน้อม
"ยินดีรับใช้อย่างเต็มสติกำลังความสามารถของกระผม ท่านผู้อำนวยการโปรดสั่งมาเลยครับ"
"ขอบใจมาก เชิญคุณข้างใน"
ท่านเศรษฐีกำธรตอบพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญให้เข้าไปข้างใน

   พระเอกหนุ่มเดินตามผู้อำนวยการสร้าง เจ้าของบ้านบังกะโลหลังงาม ผ่านม่านลูกไม้เข้าไปในห้องรับแขกกว้างซึ่งประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์มีราคา แบ่งออกเป็นสองตอน
พื้นในระดับกลางห้องปูด้วยพรมไนล่อนสีโศกอันเป็นสีเดียวกันกับผนังด้านใน โต๊ะบรรจุหนังสือและแม็กกาซีนเตี้ย ๆ วางเรียงรายเป็นระยะ กระถางเฟิร์นและไม้ประเภทกระบองเพชรต้นเล็ก โคมไฟที่ใช้งอบใบลานแทนโป๊ะ ที่เขี่ยบุหรี่เป็นรูปแปลก ๆ ตู้วิทยุขนาดใหญ่รวมเอาเครื่องโทรภาพและเครื่องเล่นจานเสียงไว้ในเซ็ทเดียวกัน วิวภาพเขียนด้วยสีน้ำมันตลอดจนระฆังเคลือบใบเล็ก ๆ ที่แขวนระย้าอยู่บนเพดานล้วนแสดงให้เห็นว่าเป็นศิลปะการตบแต่งภายในแบบอเมริกัน
   ซึ่งมีพร้อมทั้งความหรูหราและสะดวกสบายในการเป็นอยู่ ดูแล้วเหมือนกับห้องหอวิมานในฝัน ลึกเข้าไปในส่วนของห้องกว้างกั้นเป็นบาร์สำหรับเครื่องดื่ม มีเหล้าต่างประเทศหลายชนิดวางเรียงรายอยู่บนหิ้งแก้ว ผนังสุดของบาร์เป็นระเบียงไม้ระแนงมีกิ่งใบของกระดังงาจีนพันตระหวัดเกี่ยวกอดเข้ามา ทำหน้าที่เป็นฉากอำพรางส่วนเบื้องหลังไว้ในตัว
   ซ้ายสุดของห้องอันยาวเหยียดอันมีบันไดวนเล็ก ๆ ไต่ขึ้นไปสู่เบื้องบน เป็นที่ตั้งของแกรนด์เปียโน มันกำลังกังวานเสียงอันไพเราะอยู่เบา ๆ แต่พระเอกหนุ่มไม่สามารถจะเห็นตัวผู้เล่นเพราะไซด์บอร์ดบังมุมไว้ในสายตาของดวงตาอันใหญ่ใต้คิ้วเข้มที่ชำเลืองมองขณะที่เดินตามการนำของเศรษฐีใหญ่ผู้อำนวยการสร้างเข้ามา เห็นแต่ช่วงขาขาวสะอาดผุดผ่องในแสงไฟนวลข้างหนึ่งวางอยู่ที่ลิ้นเบื้องล่างของเปียโน เป็นช่วงขาและข้อเท้าที่เปลือย สีแดงสดของเล็บ แสงสี ตลอดจนกลิ่นไอของบรรยากาศในที่นั้นชวนให้เพ้อพิกลอยู่
   เศรษฐีกำธรนำพระเอกหนุ่มมายังโต๊ะชุดชนิดเบาอีกชุดหนึ่งหน้าบาร์เครื่องดื่ม สะบัดกล้องยาเส้นและล้วงถุงยาจากกระเป๋าเสื้อคลุมขึ้นมาบรรจุ พร้อมกับเชิญให้พระเอกหนุ่มนั่ง
"ธุระที่ผมจะปรึกษากับคุณนั้น คือฉากการถ่ายทำในวันพรุ่งนี้ อันมีคุณและแก่นจิต พร้อมด้วยตัวประกอบอีกสองคนนั้น ผมได้ปรึกษากับผู้กำกับการแสดงแล้ว อยากจะหาผลพลอยได้จากการถ่ายทำในฉากนั้น จึงอยากขอความร่วมมือจากคุณ"
   เสียงของผู้อำนวยการใหญ่พูดอย่างอ่อนโยน เอาอกเอาใจพระเอกหนุ่มที่เขาจ้างไว้
"ท่านผู้อำนวยการบัญชามาเถิดครับ กระผมรับฟังอยู่แล้วและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจยิ่ง"
"ขอบใจคุณพลอีกครั้ง ฉากการถ่ายทำในวันพรุ่งนี้ คุณได้ดูบทการแสดงไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ"
"ขอรับ กระผม"
"เรื่องที่จะปรึกษาคืออย่างนี้ ลำพังการสร้างภาพยนตร์ไทยตามที่ได้ลงทุนไปนั้น แทบจะขาดทุนทุกเรื่องคุณก็รู้อยู่แล้ว แต่ผมทำด้วยใจรักในด้านธุรกิจบันเทิงจึงได้อุตส่าห์ทำมาโดยไม่ห่วงผลกำไร"

   เศรษฐีหนุ่มระบายความในใจ แต่ที่แท้จริงแล้ว การที่เขาดำเนินการก่อตั้งบริษัทภาพยนตร์ไทย แม้จะไม่หวังผลกำไร แต่สิ่งที่เขาได้รับนั้นมากกว่าผลกำไรด้วยเงินตรา
คือเขาได้เคลมดาราสาวพราวเสน่ห์แทบทุกคนที่เข้ามาทำสัญญาจ้างแสดง และหญิงสาวบริสุทธิ์อีกนับไม่ถ้วนที่หวังไต่เต้าขึ้นมาเป็นดาวรุ่ง
   ดังนั้นเขาจึงทุ่มทุนอย่างไม่หวาดหวั่นว่าจะฉิบหายหรือขาดทุนสักเท่าใด เพราะกิจการด้านอื่นของเขามีกำไร และรายรับแต่ละวันไม่น้อยกว่ารายรับของรัฐบาลจากการเก็บภาษีเท่าใดนัก
   ฉะนั้นเขาจะมากลัวเกรงอะไรกับการขาดทุนจากการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งแต่ละเรื่องก็ลงทุนไม่เกินหนึ่งล้านบาท ซึ่งอัตราตัวเลขนี้ แม้จะฉิบหายไปทั้งหมด สำหรับเขาไม่รู้สึกหนักใจเลย
"ใช่ครับ ข้อนี้ผมรู้ และศิลปินอยู่แสดงทุกคนที่อยู่ในเครือผู้แสดงของเราซาบซึ้งในบุญคุณที่ท่านผู้อำนวยการกรุณาสนับสนุนมาตลอดอย่างไม่ทอดทิ้ง"
พระเอกหนุ่มสนองด้วยคำพูดที่นอบน้อมและเอาอกเอาใจท่านเศรษฐีกำธร
"แต่ว่า..." เศรษฐีหนุ่มเว้นระยะการพูด แล้วดูดกล้องควันโขมง
"แต่หนังที่กำลังดำเนินการสร้างอยู่ขณะนี้ ผมได้มองดูแล้วว่าจะมีกำไร แต่พวกคุณต้องให้ความร่วมมือทุกฝ่ายจึงจะได้รับผลสำเร็จ"
"ว่ามาเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ผมยินดีร่วมมือสนองบุญคุณท่านถึงที่สุดเลยครับ"
"คืออย่างนี้..." เศรษฐีกำธรนิ่งตรึกตรองแล้วจึงพูดต่อ
   "ผมมีเพื่อนชาวต่างประเทศผู้หนึ่ง เขาเป็นผู้กว้างขวางในวงการภาพยนตร์ของโลก คือเป็นผู้จัดการภาพยนตร์ทั่วโลก มีสาขาสำนักงานอยู่เกือบจะทุกประเทศ ผมเคยติดต่อกับเขาเพื่อให้เขาช่วยจัดจำหน่ายหนังไทยที่เราสร้าง เขาได้ดูหนังของเราแล้วสั่นหัวเพราะไม่เข้าขั้นมาตรฐานของโลก แต่ได้ให้ข้อแนะนำและกล่าวชมว่า ดาราผู้แสดงของเราทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงล้วนแต่มีรูปร่างสวยงามแทบทั้งนั้น ถ้าสร้างหนังประเภท "อย่างว่า" มาเขาจะช่วยจัดจำหน่ายได้อย่างสบาย และให้ราคาเราอย่างพอใจตามแต่เราจะเรียกร้อง
   ตอนนี้ทั่วโลกกำลังสนใจสาวงามของเมืองไทย เพราะหญิงไทยได้ทำชื่อเสียงเอาไว้ด้วยการคว้าตำแหน่งนางงามจักรวาล จึงทำให้ราคาของภาพยนตร์ "อย่างว่า" ของเรากำลังถีบตัวขึ้นสูง แต่ทุกเรื่องที่ได้ถ่ายทำออกจำหน่ายนั้นล้วนแต่ขนาด 8 ม.ม. ขาวดำ จึงอยากให้เราทำแบบ 16 ม.ม. สีและเสียงในฟิล์ม พอดีฉากการถ่ายทำในวันพรุ่งนี้เป็นฉากที่เราจะได้ผลพลอยได้จากฉากนั้น จึงอยากขอความร่วมมือจากคุณให้แสดงเพิ่มเติมนอกเหนือจากบทที่มีอยู่แล้ว"
"ท่าน...ท่านผู้อำนวยการ!"
พระเอกหนุ่มอุทานออกมา ดวงตาเบิกกว้าง
"หมายความว่าให้ผม...ผมเป็นพระเอกหนังตลาดมืด..."
"ใช่ หวังว่าคุณคงให้ความร่วมมือตามที่ได้รับปากไว้แต่แรก และจะเพิ่มค่าตัวให้อย่างจุใจ"
พระเอกหนุ่มตะลึงงงงันอย่างคาดไม่ถึง นิ่งไปตั้งนานแล้วจึงถามขึ้นว่า
"แล้ว...แล้วถ้าผมยอมให้ความร่วมมือกับท่าน คุณแก่นจิตที่จะเข้าฉากทำร่วมกับผมในวันพรุ่งนี้จะยอมเหมือนอย่างผมหรือครับ"

   เสียงของพระเอกหนุ่มแหบและจังหวะที่พูดขาดกระท่อนกระแท่นไปไม่ฉาดฉานเหมือนกับยามปกติ เพราะข้อเสนออันคาดฝันไม่ถึงของท่านผู้อำนวยการเศรษฐีใหญ่ซึ่งเล็งผลกำไรอย่างมหาศาลจากฉากการถ่ายทำในวันพรุ่งนี้
"ข้อนั้นคุณไม่ต้องกังวล ผมได้ตกลงกับแก่นจิตไว้เรียบร้อยแล้ว และทุกคนที่ร่วมทำงานในฉากนั้นให้ความร่วมมือกับผมทั้งสิ้น เหลือแต่คุณอีกคนเดียวเท่านั้น ผมจึงได้เชิญมาปรึกษากันที่นี่"
เศรษฐีหนุ่มพูดอย่างมั่นใจในผลสำเร็จ พระเอกหนุ่มนิ่งงัน
"คุณพล! ขออภัยในความบกพร่องของผมเถิด เราพูดกันอยู่ตั้งนานโดยที่ผมไม่ได้จัดอะไรให้คุณดื่ม และก็ไม่ได้ให้ผู้ร่วมงานอีกคนหนึ่งร่วมวงสนทนากับเราด้วยทั้ง ๆ ที่เขาคนนั้นเรากำลังกล่าวถึงและก็อยู่ในห้องนี้ด้วย"
   พระเอกหนุ่มมีท่าแสดงความอึดอัดเล็กน้อย เพราะว่าเขากำลังจะถูกปั้นให้เป็นดาราหนังจอเล็กไปเสียแล้ว จะตอบบ่ายเบี่ยงก็ไม่ได้ เพราะยังต้องหวังพึ่งบารมีบุญของเศรษฐีหนุ่มสมองใสผู้นี้อยู่
   ท่านผู้อำนวยการสร้างหนังหันหน้าไปทางไซด์บอร์ดซึ่งบังโต๊ะเปียโนอยู่แล้วออกเสียงเรียก
   "แก่นจิต!"
   เสียงเพลงจากเปียโนค้างจังหวะไปกลางครัน กลายเป็นเสียงที่ไล่กราวจากต่ำไปหาสูง เมื่อมันสุดสิ้นเสียงกังวาน "แก่นจิต" ก็ปรากฏกายให้เห็นในระดับตรงอันเป็นตำแหน่งที่ธีระพล พระเอกหนุ่มนั่งอยู่ หล่อนยืนพิงไซด์บอร์ดในท่าอันราวกับผู้กำกับการแสดงจัดสรรไว้ให้เข้าเฟรม แก่นจิตส่งยิ้มอันไฉไลและกระแสดวงตาอันคมหวานหยาดเยิ้มมายังสองชายผู้นั่งอยู่หน้าบาร์
   หล่อนนวยนาดตรงเข้ามาด้วยท่วงท่าอันคล่องแคล่วว่องไว สง่าและงาม ซึ่งดารายั่วอย่างหล่อนเพียรฝึกฝนในอิริยาบถการเคลื่อนไหวอย่างจัดเจน เพื่อชื่อเสียง เงิน และความสมหวังทุกอย่างในชีวิต

   พอหล่อนมาหยุดยืนอยู่ตรงตัว ราวกับนางพญาอยู่ตรงหน้าของสองชาย พร้อมกับใบหน้าที่เบือนน้อย ๆ มาอยู่ในระหว่างพระเอกหนุ่มและเศรษฐีผู้อำนวยการสร้าง ราวกับเจ้าแม่ประโลมโลกอวตารลงมาสิงสถิตอยู่ในกายของหล่อนเต็มสภาพ รูปสมบัติของหล่อนเป็นขุมทรัพย์อันมหาศาลอย่างที่คนเดินดินไม่มีใครคัดค้านว่าไม่จริง
"สวัสดีค่ะ คุณพล" หล่อนกล่าวทักพระเอกหนุ่มอย่างสนิทสนม พร้อมกับอาการยิ้มที่เผยกว้างออกไปและมองผู้ถูกทักอย่างเต็มตา สายตาไม่สะทกสะท้านเหนียมอาย
"สวัสดีครับคุณแก่นจิต" เขากล่าวตอบอย่างสุภาพพลางลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติแก่หล่อน
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับดิฉันที่ได้ร่วมฉากการแสดงกับคุณในวันพรุ่งนี้"
   แก่นจิตออกเสียงหัวเราะเบา ๆ เสน่ห์อันยียวนอยู่ในน้ำเสียงและอาการแสดงว่าหล่อนรู้แล้วว่าบทการแสดงของพรุ่งนี้ที่นอกเหนือจากบทเดิมที่มีอยู่

   หล่อนช่างกล้าเสียจริง จนพระเอกหนุ่มต้องหลบสายตาของหล่อนซึ่งปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงจากดวงตาของหล่อนทอดระยับวับวาว ก่อนให้เกิดปฏิกิริยากับดวงตาใหญ่ใต้คิ้วเข้มจนแลบช็อตแทบจะเผาผลาญหัวใจของพระเอกหนุ่ม
   ธีระพลก้มหน้าลงเล็กน้อย พลางคิดในใจว่า "เสียงอันใสแหน๋ว เหมือนประกายแชมเปญในแก้วบาง แกมกลั้วหัวเราะเบา ๆ เหมือนจะเย้ยและท้าทายชายชาติอาชาไนยเช่นเรา ถ้าไม่ตอบรับร่วมการแสดงกับหล่อน มิถูกหล่อนหมิ่นเหยียบเชิงชายจนแหลกลาญหรือ" คิดได้ดังนั้นจึงเงยหน้าขึ้นและตอบรับคำท้าของหล่อนในที
"เป็นโชคดีสำหรับผมเหลือเกินครับที่ได้แสดงคู่กับคุณแก่นจิต" เขาเน้นเสียงและสบสายตาสู้กับประกายไฟฟ้าแรงสูงของหล่อนอย่างไม่พรั่นพรึง เผยอยิ้มตอบแก่หล่อน พร้อมกับส่งอุ้งมือสากออกมาสัมผัสกับฝ่ามือนุ่มนิ่มของหล่อน เป็นการรับท้า เหมือนกับนักมวยที่จับมือกันเมื่อตกลงจะขึ้นชกบนเวที
"ผมดีใจอย่างยิ่งที่คุณทั้งสองให้ความร่วมมือกับการสร้างภาพยนตร์ในฉากของวันพรุ่งนี้"
   เศรษฐีหนุ่มกล่าวสอดขึ้นด้วยลิงโลดใจ ซึ่งเห็นผลสำเร็จและเงินที่ได้กำไรอยู่รอมร่อ ดาวยั่วหัวเราะเบา ๆ ด้วยกิริยาเย้ายวนชวนสะดือเต้น พลางพูดขึ้นด้วยเสียงไพเราะจับใจ เหมือนเสียงนกไนติงเกล
"ท่านผู้อำนวยการให้เกียรติแก่ดิฉันและคุณพลเหลือเกิน ดิฉันขอขอบคุณแทนผู้ร่วมงานทุกคนในความเอื้ออารีที่ท่านมีต่อพวกเราตลอดมาอย่างไม่ทอดทิ้ง ดิฉันยินดีร่วมมืออย่างเต็มที่และขออนุญาตให้ดิฉันเป็นผู้จัดเครื่องดื่มสำหรับเราเถิดนะคะ การปรึกษางานของเราจะได้ออกรสเพิ่มขึ้น"
   ดาวยั่วแก่นจิตหรือแม่ผิวพม่านัยน์ตาแขกเบนแววตาแขกที่เข้าตำรับของอิตถีศาสตร์คู่นั้นไปที่เศรษฐีใหญ่ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ไทย ซึ่งกำลังจะเริ่มงานสร้างภาพยนตร์ตลาดมืดอีกแผนกหนึ่ง แล้วชม้ายทิ้งฉับเข้าให้ที่พระเอกหนุ่มธีระพลพร้อมกัน
   หล่อนก็พลิ้วกายเดินสะบัดสะโพกด้วยอาการอันคล่องและเบาหวิวประหนึ่งลีลายุรยาตรของนางระบำ ก้มตัวมุดลอดช่องเคาน์เตอร์เข้าไป จังหวะที่หล่อนผละห่างออกไปนั้นคู่แสดงของหล่อนจึงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าหล่อนซ่อนร่างที่เพียบไปด้วยเนื้อหนังมังสาอยู่ในช็อตแสล็คพื้นเหลืองดอกดำ เหมือนหนังเสือดาว เสื้อทรงเอื้อมไม่มีแขน ปกใหญ่โอบไปเป็นสายผูกไว้ต้นคอเบื้องหลัง ครึ่งหนึ่งของแผ่นหลังว่างเปล่า หลายต่อหลายส่วนส่ายไหวเต้นกระเพื่อม บอกสภาพชีวิตชีวาชนิดที่ใครได้ร่วมกระทำการสังวาสประเวณีกับหล่อนก็นับว่ามีโชคดีอย่างมหาศาลเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น
   พระเอกหนุ่มมองจนต้องขยับกระเดือกในลำคอซึ่งบัดนี้แห้งผากเหมือนกับรอนแรมอยู่กลางทะเลทราย ส่วนเศรษฐีกำธรขณะนี้จ้องสายตาลอดแว่นขาวกรอบทองจนตาไม่กะพริบ อ้าปากค้างมองตามหลังหล่อนไป พอรู้สึกตัวก็หุบปากกลืนน้ำลายเอื๊อก
"เทพธิดาวีนัส หากมีตัวตนจริงก็คงจะต้องอายหล่อน!"
เศรษฐีใหญ่ถอนหายใจเฮือก เหมือนคนเมาสุราจัด และพึมพำออกมาในลำคอ ส่วนพระเอกธีระพลพึมพำไปคนละทาง
"สวยเข้าไส้แบบนี้ ถ้ากูปฏิเสธการแสดงเกินบทกับหล่อน กูก็ควายเต็มทน ได้ทั้งเงิน เย็ดหีอันวิเศษ โอ...สวรรค์โปรดกูแท้ ๆ วิมานลอยมาใกล้กูแค่เอื้อม ถ้ากูปล่อยให้หลุดมือก็ไปลงนรกเถอะ ไป๊"
ความคิดของทั้งสองที่เตลิดเปิดเปิงมาหยุดสะดุดเมื่อหล่อนถามขึ้นว่า
"ดิฉันควรจะรินอะไรดีคะ"
พระเอกหนุ่มสะดุ้งพร้อมกับสบตากับผู้อำนวยการสร้าง เศรษฐีหนุ่มจึงตอบแทนไปว่า
"อะไรก็ได้ที่เธอเห็นว่าเหมาะสมสำหรับเรา"

   หล่อนชะโงกหน้า ใช้มือทั้งสองท้าวขอบบาร์ อกตระหง่านแทบจะปริเมื่อเบียดอยู่กับขอบบาร์นั้น เอียงคอทำตาเบิกโตและยิ้มนิด ๆ ยั่วเย้าหน่อย ๆ ชวนให้ได้ไอ้หนูคึกคะนอง จนทั้งสองชายกางเกงตุงเอามาก ๆ
   หล่อนส่งประกายสายตาอันหยาดเยิ้มมาที่พระเอกหนุ่มคู่แสดงของหล่อนที่ต้องแสดงบทพิศวาสเกินสคริปต์กับหล่อน จนต้องตัดต่อกลายเป็นหนังสองเรื่อง คือฟิล์มชุดหนึ่งตัดต่อแบบส่งให้กองพิจารณาภาพยนตร์ กรมตำรวจได้ แต่อีกชุดหนึ่งอัดเป็นร้อย ๆ ก๊อปปี้ส่งจำหน่ายแก่วงการภาพยนตร์ตลาดมืดทั่วโลก
   ประกายตาเป็นเชิงตั้งคำถามย้ำไปทางธีระพลอีกอย่างไม่แน่ใจว่าเขาจะดื่มเหล้าชนิดไหน
   พระเอกหนุ่มพยักหน้ากับดาวยั่วแก่นจิตผู้เอียงคอตะแคงหูรอฟังคำสั่งด้วยท่าทางเย้ายวนชวนให้เพศตรงข้ามเกิดอาการกำหนัดเงี่ยนง่าน
"อะไรก็ได้ที่คุณแก่นจิตจะเลือกสำหรับเราทั้งสามคน พอครึกครื้นกันเล็กน้อยเป็นการฉลองเพื่อการร่วมงานครั้งพิเศษของเรา"
"ให้ดิฉันเป็นผู้ตัดสินเองหรือคะ"
   หล่อนยังร้องถามกลั้วหัวเราะมายังสองชายอีก พระเอกหนุ่มค้อมศีรษะลงแทนคำตอบ แก่นจิตตบฝ่ามือทั้งสองลงกับขอบบาร์ โฉบสายตามาที่ร่างสูงตระหง่านของธีระพลอีกวูบหนึ่ง แล้วหมุนตัวไปเลือกเหล้าบนหิ้ง แล้วเบื้องหลังเสียงปากขวดกระทบแก้ว เสียงพุ่งเดือดของคาร์มอนเน็ต เสียงช้อนเล็ก ๆ ที่แกว่งกระทบปากแก้วพลางหล่อนก็ผิวปากไปด้วย
   ครู่เดียว หล่อนก็กลับมาพร้อมถาดเงินเล็ก ๆ ร่อนอยู่ในมืออย่างชำนิชำนาญราวกับการแสดงภาพยนตร์ตอนหนึ่งหล่อนมีบทบาทเป็นพนักงานเสริฟคอนญัคผสมน้ำอัดลมสำหรับเศรษฐีกำธรและพระเอกธีระพล
   ส่วนหล่อนเองประคองแก้วมาร์ตินี่ผสมน้ำหวาน มีไอน้ำกลั่นตัวเป็นหยด เกาะพราวอยู่ยังตัวแก้วด้านนอกพราวระยิบระยับ เดือดปุดขึ้นสู่เบื้องบน
"เพื่อการตกลงครั้งสำคัญของก้าวใหม่ในการสร้างหนังของเรา"
   ผู้อำนวยการสร้างหนุ่มกระทบแก้วกับหล่อนแล้วหันมากระทบแก้วกับพระเอกหนุ่ม
"การดื่มของแก้วนี้ จงถือเสมือนว่าเราได้ลงนามในสัญญากันเรียบร้อยแล้ว"
หนึ่งสาวสองหนุ่มต่างจรดแก้วติดริมฝีปากแล้วดื่มจนเกือบเกลี้ยงแก้วทั้งสามคน

   คืนวันรุ่งขึ้น ณ.โรงถ่ายภาพยนตร์ที่มีอาณาเขตกว้างขวางจำลองฉากของตึกรามบ้านช่องเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ตอนหนึ่งของอาชญนิยายเรื่องหนึ่ง นอกจากฉากที่วาดขึ้นโดยจิตรกรเอกแล้ว ยังมีห้องแถวสองคูหาที่ปลูกสร้างขึ้นอย่างสมจริงสมจัง ตั้งตระหง่านอยู่ริมทางภายในโรงถ่าย
   ผู้แสดงของฉากนี้มีสี่คนคือ ธีระพล แก่นจิต และตัวประกอบชายอีกสองคน

   โดยคำสั่งเด็ดขาดของท่านผู้อำนวยการสร้างคือเศรษฐีกำจร คืนสำคัญคืนนี้ภายในโรงถ่าย นอกจากผู้แสดง ผู้กำกับ ตากล้องและคนงานที่เกี่ยวข้อง นอกนั้นห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวทั้งสิ้น ก่อนการถ่ายทำ เศรษฐีหนุ่มได้ตรวจตราภายในโรงถ่ายด้วยตนเองจนแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดแปลกปลอมเข้ามาจึงได้เริ่มลงมือถ่ายทำ
   พอเดินกล้อง ก็มีรถแท็กซี่ดัทสันคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงตามถนน บนรถมีชายฉกรรจ์สามคน คนหนึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับ คนหนึ่งนอนฟุบ เสื้อกางเกงเปื้อนเลือด คนหนึ่งประคองผู้ที่แสดงเป็นคนบาดเจ็บ
   ฉากนั้นแสดงว่าชายฉกรรจ์บนรถแท็กซี่ทั้งสามคนได้ผ่านการยิงต่อสู้กับเจ้าพนักงานตำรวจมาแล้ว และคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บและได้ขับรถรอดพ้นจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ กำลังจะพาคนเจ็บไปหาคลินิกเพื่อให้หมอรักษา
พอรถขับผ่านห้องแถวสองคูหา ชายฉกรรจ์ที่ประคองคนเจ็บที่แสดงเป็นหัวหน้าได้ตะโกนบอกคนขับขึ้นว่า
"เฮ้ย ดูเหมือนร้านหมอนี่หว่า"
คนขับเหยียบห้ามล้อดังสนั่น ยัดเกียร์เดินถอยหลังอย่างรวดเร็ว แล้วหักท้ายรถเข้าจอดหน้าห้องแถวทันที
   เหตุการณ์ในเรื่องตอนนั้นแสดงว่า เวลานั้นเป็นยามวิกาล คลินิกแห่งนั้นกำลังจะปิดประตูแล้ว ภายในคลินิกมีเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมยาตามใบสั่งแพทย์ ตู้ยายใหญ่กรุชิดผนังประดับด้วยขวดยาสำเร็จรูป ตลอดจนส่วนประกอบต่าง ๆ บอกให้ทราบว่าเป็นคลินิกทันสมัย
   บริเวณนั้นเงียบและเปลี่ยวด้วยกาลเวลา ทุกแห่งมืดแต่แสงสว่างของสถานคลินิกซึ่งส่องผ่านประตูและช่องลมออกมานั้นพอที่จะทำให้มองเห็นอะไรได้ลาง ๆ
สองชายฉกรรจ์ช่วยกันหิ้วผู้ที่แสดงเป็นคนเจ็บเข้าไปในสถานคลินิก คนที่แสดงเป็นหัวหน้าเปิดประตูที่ปิดแง้มอยู่ออก แล้วช่วยคนขับรถประคองคนเจ็บเข้าไปแล้วงับประตูปิดเพื่อป้องกันสายตาเบื้องนอก
คน ๆ เดียวภายในคลินิกอันโอ่โถงเปล่าเปลี่ยว ซึ่งเมื่อขณะอาคันตุกะยามวิกาลทั้งสามถลันเข้าไปอย่างเงียบเชียบแบบจู่โจม
หล่อนกำลังยืนอยู่หน้าแท่นจุลทรรศน์ ภายในห้องแล็ปอันอาบด้วยแสงสีม่วง บัดนี้ หล่อนหันกลับมาอย่างตื่นและฉงน
"ต้องการอะไร"
   ในเสื้อคลุมใสแจ๋วราวกับทอด้วยใยแก้วส่องปรุโปร่งเข้าไปยังสารพัดส่วนของร่างระหงเป็นเงาลาง ๆ จากแสงสีม่วงที่ฉาบอยู่ในห้องนั้น ผู้แสดงฝ่ายหญิงคือแก่นจิตนั่นเอง ตามบทหล่อนถามไปด้วยเสียงเบาแต่ห้วน
"หมอสักคนหนึ่ง" เขาผู้ที่ตอบคือพระเอกธีระพล
"มีอะไรหรือ"
"คนเจ็บ – ถูกยิงสาหัส"
ดาวยั่วแก่นจิตอยู่ในชุดเสื้อคลุมเบา และบางดุจใยแก้วเป็นประกายระยับเล่นกับแสงไฟตัวนั้นแล้ว หล่อนไม่มีแม้แต่บราเซียร์ หรือซับในสำรองอยู่ภายในแม้แต่ชิ้นเดียว!
...เงาอันเจิดจ้าของปลีน่อง โคนขา ทรวงอก และเนินสะโพก โคกสวาท หญ้านิลประดับเหนือสองแคมเนื้อหนีบ แผ่นท้องเรียบ...
   ไฟสีม่วงในห้องนั้นดับผั่บลง ภาพของทุกสิ่งในห้องกลืนหายเข้าไปในความมืด แต่ร่างที่มีสัณฐานราวกับหุ่นจำลองของวีนัสร่างนั้นคงปรากฏขาวโพลนอยู่ในความมืดอันคลุมเครือ
แล้วผู้แสดงก็พูดไปตามบท
"ทำไมไม่ส่งโรงพยาบาลกลาง ทำไมไม่ส่งโรงพยาบาลตำรวจ ในการบาดเจ็บอย่างสาหัสและกะทันหันอย่างนี้"
"ถ้าผมบอกว่า เขาไม่ต้องการให้ตำรวจรู้เห็นเรื่องนี้ หมอจะเข้าใจอะไรบ้างไหม"
บทพูดของหัวหน้าเหล่าร้ายเครียด
"เราเสียใจและต้องขออภัยที่รบกวนเวลาของหมอในเวลานี้ คน ๆ หนึ่งจะเป็นใครก็ตามกำลังเจ็บ กำลังจะตาย มนุษยธรรมเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า หมอควรจะทำอะไรบ้าง"
"เอาเข้าไปนอนที่เตียงในห้องนั้น"

   ครั้นแล้วเงาอันคลุมเครือของปลีน่อง โคนขา เนินโคกสวรรค์ ทรวงอกอันเต่งตึงพุ่งชูชันที่แนบอยู่กับความใสของผ้าก็อันตรธานมิดชิดไปในการคลุมทับของโอเวอร์โค๊ตขาวบริสุทธิ์ของนายแพทย์ซึ่งหล่อนปลดจากขอริมฝาห้องมาสวมอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิปานจะทลายโลกให้ป่นเป็นของเหลวชะงักอยู่เพียงนั้น ผู้แสดงฝ่ายชาย ตากล้อง ตลอดจนผู้กำกับ ท่านเศรษฐีผู้อำนวยการสร้างและคนงานที่เกี่ยวข้องต่างถอนหายใจยาว บ้างก็กระเดือกน้ำลายลงคออันแห้งผาก บางคนกัดริมฝีปากตัวเองแทบห้อเลือดเพราะทรวดทรงอันเย้ยฟ้าท้าดินของดาวยั่วแก่นจิต
   หล่อนรัดร่างคลุมลวก ๆ สลัดเส้นผมดำเป็นมันระยับสยายลงไปกองอยู่บนไหล่ แล้วเดินด้วยรองเท้าส้นเรียวพื้นยางเข้าไปที่เตียงคนเจ็บ ซึ่งร่างของผู้แสดงเป็นคนเจ็บนอนหงายเหยียดยาว พระเอกหนุ่มผู้แสดงเป็นหัวหน้าเหล่าร้าย และคนที่แสดงเป็นคนขับรถสืบเท้ากระชั้นชิดตามมา

หล่อนเข้าไปทำเป็นคนตรวจอาการคนเจ็บ แล้วเงยหน้าขึ้นพูดว่า
"เสียเวลาจริง ๆ ทั้งคุณและดิฉัน คุณแบกเอาศพมาบังคับมนุษย์ธรรมดาจากฉันจะมีประโยชน์อะไรกัน"
"ตาย? หมอหมายความว่าเขาตายแล้ว?"
หล่อนพยักหน้าตอบ
"ยังงั้นศพขอตั้งไว้ที่นี่ และเพื่อป้องกันคุณหมอจะรีบไปแจ้งตำรวจ"
   หัวหน้าเหล่าร้ายพูดพร้อมกับล่าถอยออกมานอกห้องตรวจ ถอดสวิทช์โทรศัพท์บนเคาน์เตอร์ยกทั้งแท่นและหูขึ้น โยนไปให้ผู้แสดงเป็นคนขับรถ หล่อนสาวเท้าเดินกอดอกทอดน่องตามออกมาด้วย มองดูการแสดงการโจรกรรมอันว่องไวของพระเอกในเรื่องด้วยสายตาอันชื่นชม
   ผู้แสดงเป็นคนขับรถ เมื่อรับแท่นโทรศัพท์ที่โยนมาก็พรวดออกไปก่อน ส่วนหัวหน้านั้นหันรีหันขวาง แล้วพูดขึ้นว่า
"หมอครับ อยากจะจำหน้าผมไว้เพื่อแจ้งตำรวจใช่ไหมครับ ผมเห็นจ้องเอาจ้องเอา งั้นจำจูบแบบนี้ไว้ดีกว่า แล้วคิดถึงเค้าหน้าผมไว้ให้แม่นนะครับ"

   ฉับพลัน รวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ ร่างอวบในชุดแพทย์หลวม ๆ ของหล่อน ถูกกระชากเข้าไปรัดอยู่ในวงแขนทั้งสองข้างของพระเอกหนุ่ม ความแรงที่หล่อนปลิวเข้าไปทำให้เสื้อคลุมในท่อนล่างซึ่งไม่ได้กลัดคลุมไว้ก็ปริแยกออก โคนขาเปลือยของเธอแนบขาเขา เนินโคกสวรรค์อันอวบอูมนูนเด่นภายในเสื้อคลุมใยแก้วปะทะกับสิ่งที่ตุงอยู่ในกางเกงของเขา ท้องแนบท้อง อกอันสล้างเต้นกระเพื่อมอย่างอิสระโดยไม่มีสิ่งบังคับทะลักเบียดเบ่งอยู่กับแผ่นอกสามเหลี่ยมของพระเอกหนุ่มธีระพล ซึ่งในขณะนั้นมีเพียงเชิร์ตบาง ๆ ตัวเดียว
   ปลอกแขนข้างหนึ่งของเขารัดเข้าในระดับถันรอบเบื้องหลัง อีกข้างหนึ่งตวัดเข้าในระหว่างรอยคอดของเอวกิ่ว รั้งให้แนบสนิทเข้ามา ระดับของร่างกายที่ไล่เลี่ยสัมพันธ์กันโดยส่วนสัดทำให้ทุกส่วนกระทบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
   การจู่โจมแบบสายฟ้าแลบและหลักการเข้าประชิดในจังหวะอันเหมาะเจาะ หยุดการต่อต้านหรือโอกาสที่จะหลีกหลบบ่ายเบี่ยงใด ๆ โดยสิ้นเชิง เพราะแขนทั้งสองของหล่อนที่เคลื่อนไหวอย่างฉุนเฉียวและตระหนกพาดอยู่บนไหล่ของเขาเลยก้านคอไปแล้ว ขาไม่มีทางจะขยับถอยเพราะท่อนขาอันแข็งแรงเพียบไปด้วยมัดกล้ามของเขาแทรกแนบเข้ามาขัดไว้ สภาพนั้น ลูกกบที่ตกอยู่ในปากของจงอาง!

   เขาดูดที่ริมฝีปากกระจับอันจิ้มลิ้มพริ้มเพราทั้งคู่ เต็มระยะอึดใจอันยาวนาน แล้วเสือกจมูกเข้าที่เนินหน้าผากอันขาวเกลี้ยง เฟ้นพวงแก้มนิ่มเหมือนกำมะหยี่และมีกลิ่นหอมอันสดชื่นชวนให้เคลิ้มฝัน คลึงปลายคางสาก เคลียอยู่กับซอกคอเปลือยแล้วไซร้มาที่กกหู เรื่อยมาที่ดวงตา แล้วหวนมาดูดริมฝีปากของหล่อนซ้ำอีก ลิ้นเสียดเข้าไปกระทบลิ้น ปล่อยให้ร่างของหล่อนสะบัดเร่า ๆ ไปราวกับกระแสไฟแรงสูงวิ่งผ่านหัวใจ ร้องไม่ออกเท่า ๆ กับดิ้นไม่หลุด ทุกส่วนของร่างกายสนิทแนบเหมือนจะกลืนเข้าไปเป็นเนื้อเดียว
   วินาทีต่อมา หล่อนผงะเหมือนสำลัก เนินเนื้อทรวงอกผุดวาบดันเสื้อคลุมเต็มไปด้วยอาการหละหลวมแต่เดิมให้แหวกไปข้างหนึ่ง หล่อนดิ้นไปเอง
   พระเอกหนุ่มเบี่ยงริมฝีปากลงจากซอกคางฝังเนินสีงานั้น ดื่มลึกเข้าสู่ความนุ่มและความยืดหยุ่นที่มีประสิทธิภาพ หล่อนร้องออกมาในเสียงอุทานฟังไม่ได้ศัพท์ พลิกกายพัลวัน
รองเท้าส้นเรียวที่หล่อนยืนอยู่ไถลลื่น ทำให้กายของหล่อนเอนสี่สิบองศากับระดับพื้น ล้ำส่วนล่างเข้าไปหาเขาผู้ยืนทะมึนอยู่ราวกับเสาเหล็กนั่นยิ่งแล้วใหญ่ทีเดียว
มันเป็นการบอกให้เขารู้แน่ชัดยิ่งขึ้นอีกว่า เท่าที่สายตาครั้งแรก นอกจากเสื้อคลุมใยแก้วบาง ๆ แล้ว หล่อนไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นไนล่อนหรือเจอร์ซี่ย์....
   เขาหมุนพลิกส่วนหลังของหล่อนเข้าแนบประตู ลูบที่เอวคอดเหมือนคอแจกัน ลูบที่ผิวบางหน้าท้อง ไต่เลียดไปยังเนินโคกอันอวบอูมเด่น คลำคลึงที่สะโพกที่เต็มไปด้วยเนื้อหนังอันหนั่นแน่นเพื่อพิสูจน์ความจริงว่า ทุกส่วนในทรวงอกของหล่อนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่หรือเปล่า แต่ก็จริงอีกนั่นแหละ ทรวดทรงอย่างหล่อนไม่ต้องการสเตย์ หรือเครื่องปรุงแต่งเสริมสร้างอย่างใดทั้งสิ้น เนื้อแท้ที่เย็นสนิทยั่วจะให้คลั่งขนาดลืมตาย
   วินาทีต่อมา หล่อนอยู่ในอาการงงงวยเหมือนคนได้กลิ่นอีเธอร์ยาสลบ ก่อนที่จะหลับผล็อยไป แรงต่อต้านขัดขวางเสื่อมลง ดวงตาทั้งสองอันเบิกโพลงเริ่มหรี่ลงเป็นลำดับ ขนตาเต้นระยับเหนื่อยระโหย สิ้นเรี่ยวแรงอยู่ในลักษณะครึ่งหลับครึ่งตื่น
จนในระดับของเขาเต็มไปด้วยรสชาติอย่างเต็มสภาพ ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงและฉับพลันทันควันเหมือนในตอนแรก

   พระเอกหนุ่มอุ้มร่างหล่อนขึ้นทั้ง ๆ ที่ปากต่อปากยังประกบกันแน่น เดินไปที่เก้าอี้นวมยาวแล้ววางหล่อนบนเก้าอี้ตัวนั้น
เสื้อคลุมโอเวอร์โค๊ตขาวบริสุทธิ์ของนายแพทย์และเสื้อคลุมใยแก้วก็ถูกพระเอกหนุ่มปลดเปลื้องออกอย่างง่ายดาย
   ตลอดร่างของหล่อนจึงอยู่ในสภาพเปลือยล่อนจ้อนโชว์ความขาวผ่องของผิวเนื้อ สองเต้าอกอวบอัดเต่งตึงเชิดตระหง่านเต็มที่ อวดเม็ดสีแดงบนยอดปลายทั้งสองประดุจจะท้าทายพระเอกหนุ่มผู้กำลังคลั่งขนาดลืมตัวลืมตาย
   คางและบริเวณใกล้เคียงของปากซึ่งเต็มไปด้วยคราบสีครามของหล่อน เคราที่เพิ่งกระชากทิ้งด้วยมีดโกนฝังลงไปที่หว่างเต้านมอย่างกระหายหิว ความสากของรากหนวดเคราเมื่อไปกระทบเนื้ออันอ่อนนิ่มเช่นนั้นทำให้แก่นจิตเสียวสยิวกายแทบขาดใจ เธอผวาบิดกายครางออกมาไม่ได้ศัพท์
   เสียงครวญครางด้วยความกระสันของดาวยั่วผู้สวมบทของนายแพทย์สาวทำให้พระเอกธีระพลยิ่งเมามันยิ่งขึ้น จมูกโด่งเป็นสันของเขายิ่งทำหน้าที่ไซร้เฟ้นฟอนบริเวณเต้านมและแผ่นอกหนักยิ่งขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ...

   เขาใช้ริมฝีปากอม และเม้มเอายอดสีแดงน้อย ๆ ไว้และใช้ลิ้นดุนและดูดจนแม่ดาวยั่วกระเดื่องนามต้องแอ่นอกและบิดกายสั่นเทิ้ม
   เมื่อพระเอกหนุ่มยุติการโจมตีเรือนร่างท่อนบนแล้ว ก็ลดสายตาลงมาดูเบื้องล่าง พลางสายตาได้ประสบเข้ากับเนินโคกที่อูมอิ่มเป็นกระเปาะระหว่างขาของดาวยั่ว ซึ่งพริ้มเพราด้วยเส้นไหมอันละเอียดอ่อนบางกระหยอมกระแหยมอย่างชัดเจนยิ่งกว่าตอนแรก เพราะเมื่อแรกยังมีเสื้อคลุมใยแก้วมันระยับอำพรางสายตาอยู่บ้าง แต่บัดนี้ เผยให้เห็นอย่างเด่นชัด แคมแต่ละข้างขาวนูนเม้มสนิท เห็นรอยผ่าเป็นร่องสีชมพูน้อย ๆ
   เขาแทบไม่เชื่อสายตาว่า หญิงสาวที่ไต่เต้าขึ้นมาจนได้เป็นดาราชั้นแนวหน้าเช่นหล่อนยังมีโคกหีที่งดงามดุจสาวบริสุทธิ์เช่นที่เห็นอยู่ขณะนี้

   พระเอกหนุ่มตกอยู่ในอาการตะลึงงงงันขนาดหนักเอาทีเดียว นัยน์ตาลุกวาว หายใจดังฟืดฟาดประหนึ่งดังวัวกระทิงที่จะกระโจนเข้าสู้ มือสองข้างจับขาทั้งสองของดาวยั่วขยำลูบคลำอย่างหนักหน่วง
   ทั้งนี้ดาวยั่วแก่นจิตหลับตาพริ้มเพราะกล้องถ่ายภาพยนตร์ไม่ต่ำกว่า 3 กล้องกำลังจับภาพในแง่มุมต่าง ๆ กัน เพื่อนำไปตัดต่อภาพภายหลัง ยังแถมมีผู้กำกับการแสดง และผู้อำนวยการสร้างที่ยืนมองจ้องด้วยสายตาวาววาม ประกายตาแทบลุกโชนเป็นไฟ เพราะเชื้อเพลิงตัณหาราคะได้สุมแน่นอยู่ในอกด้วยภาพที่เห็น ตลอดจนคนงานทุกคนที่เกี่ยวข้องต่างขอบตาแดงก่ำ น้ำใสคลอขังเบ้าตา ทุกคนมีดุ้นฟืนค้ำในกางเกงจนตุง หลังงอไปตาม ๆ กัน
   แม้เหตุการณ์ตอนนี้จะเกินจากบทเดิมที่มีอยู่ แต่ตามคำสั่งของผู้กำกับการแสดงที่ได้ซักซ้อมกันก่อนจะเริ่มลงมือถ่ายทำ ซึ่งพระเอกหนุ่มยังไม่ลืม เขาจึงค่อย ๆ ใช้มือแบะแคมทั้งสองที่เนินโคกสวรรค์ของแม่ดาวยั่วแก่นจิตออก จนกระทั่งมองเห็นสีเนื้อเหมือนหอยแครงสด ๆ ภายในรอยผ่าร่องแคมและเจ้าเนื้อตุ่มซึ่งโผล่อยู่อย่างขะมิดขะเมี้ยนมีอาการกระดุบ ๆ ไหวตัวเล็กน้อย
   ด้วยสุดแสนจะทนทานต่อสิ่งยวนยั่ว ประกอบกับเขาต้องแสดงตามที่ผู้กำกับได้สั่งไว้แต่แรก พระเอกหนุ่มจึงรีบฝังหน้าลงไปที่เนินโคกอันอล่องฉ่อง พลางจูบและไซร้ไปทั่วบริเวณ เล่นเอาดาวยั่วบันลือนามต้องแอ่นกายสูดปากอยู่ไม่ขาดระยะด้วยความเสียวสยิว
   ริมฝีปากของเขาเริ่มเม้มหมับที่ปากร่องซึ่งคอยเผยอรับอยู่แล้ว ลิ้นของเขาก็ไชควานเข้าไปในร่องผ่า เลื้อยอยู่ไปมาตามบริเวณแคม

   จนในที่สุด แม่ดาวยั่วแก่นจิตต้องผวาบิดตัวเร่า ๆ ส่ายสะโพกอันผายผึ่งยิ่งกว่าดาวยั่วของฮอลลีวู๊ดจนสั่นพลิ้วดุจใบไม้ไหว ระคนกับเสียงครางอันกระเส่า กระท่อนกระแท่นไม่เป็นจังหวะเพราะความเสียวกระสันต์อย่างชนิดยากที่จะบรรยายเป็นตัวอักษร ใจหล่อนก็แทบจะขาดเสียให้ได้ สองมือของหล่อนกำแน่นแอ่นก้นโด่งสลับทั้งขึ้นทั้งลงอยู่ไม่ขาดระยะ
   วินาทีต่อมาขาของหล่อนทั้งสองก็ถ่างออกเต็มที่ โดยพระเอกหนุ่มไม่ต้องช่วยถ่างเลย เขายิ่งคึกและขยุกใหญ่ ลิ้นของเขายิ่งกวาดลึกเข้าไปในรูสวรรค์

   ตอนนี้เอง แม่ดาวยั่วกระเดื่องนามต้องผวาร้องหวีด วี๊ด ว๊าย ขึ้นสุดเสียง พร้อมกับแอ่นก้นขึ้นสุดช่วง สองมือของหล่อนกดหน้าพระเอกหนุ่มไว้แนบกับหว่างขา น้ำสวาทของหล่อนล้นเอ่อออกมาจนเยิ้มไปทั่วบริเวณปากและจมูกของพระเอกหนุ่ม
   เมื่อความเสียวกระสันขึ้นถึงจุดสุดยอดของมันแล้ว ดาวยั่วแก่นจิตก็นอนแผ่ด้วยความละเหี่ยใจ หนังตาปิดสนิทด้วยความอิดโรย พลางนึกเปรียบเทียบในใจ หล่อนยอมรับกับตัวเองว่า รสสวาทที่หล่อนได้รับจากพระเอกหนุ่มนี้ คู่นอน เพื่อนนอน หรือแฟนที่เคยผ่านมาในชีวิตของหล่อน ถ้านำมาเปรียบเทียบชั้นเชิงกลกางเล้าโลม ปฏิโลมของพ่อพระเอกหนุ่มซึ่งกำลังแสดงคู่กับหล่อนขณะนี้ มันแพ้กันหลุดลุ่ยชนิดเทียบอันดับกันไม่ติด
   แม้จะเป็นการแสดงเพื่อหวังเงินก้อนมหึมา แต่ดวงจิตของหล่อนนั้นกำลังคุกรุ่นด้วยรสสวาทอันซาบซึ้งตรึงจิต และคิดหวังไว้ว่าต่อไปนี้หล่อนจะต้องพยายามมัดใจของธีระพล เพื่อเป็นคู่สังวาสประโลมสุขบำเรอกามให้แก่เธอตลอดไป

   ฝ่ายพระเอกหนุ่มจอมบทบาท เมื่อเห็นดาวยั่วตกอยู่ในสภาพนอนหายใจระรวย ขาแบะปลิ้นอวดของดีอยู่ตำตา แคมทั้งสองข้างและบริเวณเนินสวาทโคกสวรรค์เป็นมันเยิ้มละเลื่อม แสดงการท้าทายอยู่เช่นนั้น เขาจึงรีบถอดเสื้อเชิ้ตและกางเกงนอกกางเกงในออกอย่างรวดเร็ว เหลือแต่กายอันเปลือยล่อนจ้อนดุจรูปปั้นเทพบุตรในนิยายกรีก
   เจ้าดุ้นฟืนซึ่งแข็งโด่ค้ำกางเกงมาเป็นเวลานานตั้งแต่เริ่มการแสดงร่วมกับแม่ดาวยั่ว เมื่อได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระเช่นนั้น มันจึงผงาดขึ้นอย่างผยองลุกพองชี้เด่เต็มสัดส่วน ฟิตจนหน้าเคยมีสีแดงม่วง แต่บัดนี้สีเขียวคล้ำหน้าบูดบึ้ง กระดกด้วยความเกรี้ยวกราด
   พระเอกหนุ่มจอมบทบาทก้มลงจูบที่ริมฝีปากดาวยั่วอีกครั้ง เหมือนจะเตือนหล่อนว่า บทบาทขั้นต่อไปจะหวาดเสียวสยดสยองยิ่งขึ้นอย่างสุดคะเนได้

   หล่อนยังคงหลับตาพริ้มอย่างกำซาบสุข แต่มืออันเรียวงามนิ้วที่ประดุจลำเทียนของเธอ บัดนี้ได้เอื้อมไปลองกำดูเจ้าหนูซึ่งจะร่วมการแสดงกับเธอ แต่ตาของหล่อนไม่กล้าลืมขึ้นมาเพ่งพิศส่วนสัดของดาราหน้าใหม่ เพราะยังรู้สึกกระดากอายเหล่าตากล้องและคนงานตลอดจนผู้กำกับผู้อำนวยการสร้าง สองคนหลังนี้เคยเป็นคู่สังวาสเกมกามกับหล่อนมาแล้วอย่างจำครั้งไม่ได้
พอมืออันนุ่มนิ่มของหล่อนไปสัมผัสถูกความใหญ่โตมหึมาของมันเท่านั้น มันกระดกสู้มือหล่อนทันที มือของหล่อนไม่สามารถจะกำมันรอบ หล่อนลองลูบไล้ดูที่ปลายยักษ์ รู้สึกมันเลี่ยน ๆ ที่ปากรูของมันมีน้ำเหนียวเยิ้มออกมา
   บัดนี้ตลอดลำลึงค์แข็งโด่นั้นรู้สึกว่ามันอุ่น ๆ คล้ายจะเป็นไข้ หล่อนเผลอตัวกระทอกหนังหุ้มเสียดสีกับร่องหยักของหัวถอกเข้า ทำให้พ่อพระเอกหนุ่มเจ้าบทบาทถึงกับสูดปากลั่นด้วยความเงี่ยนง่านและเสียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว น้ำกามแทบจะทะลักฉีดพุ่งออกมา
   ไม่ทราบว่าเพราะทั้งสองชักช้าอืดอาด หรือเหตุอื่นใดก็เหลือเดา ผู้กำกับการแสดงจึงได้ร้องเตือนแม่ดาวยั่วแก่นจิตให้ดำเนินบทต่อไป ซึ่งได้ตกลงซักซ้อมไว้แต่แรกแล้ว

   พระเอกจอมบทบาทจึงผละร่างจากการก้มจูบปากหล่อน แล้วยืนแอ่นโชว์ลำลึงค์อันยาวใหญ่แข็งโด่ไม่สมกับรูปร่างอันสะโอดสะองค์ของเจ้าของ เจ้าชะโดตีแปลง ซึ่งบัดนี้ได้ลอยเชิดหัวถอกอย่างผยองอยู่ตรงใบหน้าของดาราสาวร่างมหาเสน่ห์
   หล่อนหลับหูหลับตาคว้าหัวถอก กำลำโคนแล้วอ้าปากจิ้มลิ้มอมหัวถอกเข้าไว้ ดูคล้าย ๆ กับเด็กกำลังอมกล้วยหอมใบใหญ่ ๆ ไว้ในปาก
   พอหัวถอกอันเบ้อเร่อผลุบเข้าไปในปากของแม่ดาวยั่ว พ่อพระเอกจอมบทบาทก็ประคองหัวของหล่อนไว้แน่น พลางแอ่นก้นเสือกหัวถอกเข้าออกอยู่ในปากของนางเอกด้วยความเงี่ยนจัด เสียงคำรามสูดปากของพระเอกจอมบทบาทครางกระหึ่มในลำคอ
   เมื่อความกระสันต์ขึ้นถึงขีดสุด เขาก็รีบชักหัวถอกออกจากปากของนางเอกในเรื่อง

   พอหัวถอกหลุดจากปากของหล่อน ท่าที่หล่อนนอนตะแคงเวลาดูดอมหัวถอกก็รีบเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนอนหงาย แล้วพระเอกก็ผวาร่างลงไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความหื่นกระหาย เอาหัวถอกถูไถลเถลือกที่เนินเนื้อโคกของนางเอกเป็นพัลวัน พลางก็รั้งร่างนางเอกมาที่ขอบเก้าอี้นวม ให้หล่อนนอนบนขอบเก้าอี้ แบะขาหล่อนถ่างออกเต็มเหยียดจนแคมเนื้อหนีบทั้งคู่ปลิ้นอ้า เผยให้เห็นเนื้อหอยแครงสีแดงสด ๆ ข้างในเหมือนกับจะคอยอ้ารับเจ้าหัวถอกอันนั้น
   พระเอกหนุ่มรีบเอานิ้วมือจิ้มน้ำรักที่แคมหีของนางเองมาป่ายชโลมที่หัวถอกของตนเองเพื่อจะให้มันลื่น เสร็จแล้วก็จรดเจ้าหัวถอกเข้าไปที่ปากแคมทันที พอมันทำท่าจะบุกเบิก นางเอกดาวยั่วถึงกับสะดุ้งวาบทั้งตัว พลางกระดกก้นถอยหนี
   พระเอกควยยักษ์หายอมไม่ สองมือของเขารั้งหัวไหล่ของนางเอกไว้ แล้วออกแรงดันเจ้าหัวควยยักษ์จนตัวโก่ง
"อุ๊ย อุ๊ย โอ๊ะ ว๊าย ตายแล้ว เจ็บ โอ๊ย อูยยย์"
   นางเอกซึ่งหลับตาอยู่ แต่บัดนี้ลืมตาขึ้น ไม่เพียงลืมตา แต่นัยน์ตาแขกอันคมหวานหยาดเยิ้มเบิกโพลงเหลือกลานจนเกือบไม่เหลือความงามอยู่เลย ร้องลั่นสุดเสียงอย่างสิ้นอาย
"ไม่เป็นไรหรอกน่ะ คุณแก่นจิตยอดรักของพล ทนเอาหน่อย ไม่เป็นไรน่า ทนอีกนิด"
   พระเอกกระบองยักษ์ปลอบขวัญนางเอก ความเงี่ยนทำให้ลืมชื่อของนางในเรื่อง เลยเรียกชื่อจริงของหล่อน แล้วพยายามดันอย่างเต็มกำลังจนเจ้าหัวบักกระบองยักษ์ผลุบเข้าไปในช่องสวรรค์ พ้นหยักเงี่ยงของหัวถอก

   ดาวยั่วแก่นจิตผู้สวมบทบาทนายแพทย์สาวในเรื่องเจ็บปวดแสบรูหีจนน้ำตาไหล หล่อนพยายามเสือกตัวขึ้นไปตามความยาวของเก้าอี้นวม จนติดที่เท้าแขนตอนปลายบน หล่อนคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าพระเอกรูปหล่อจะมีควยใหญ่ขนาดนี้ ราวกับกระบองยักษ์วัดแจ้ง
   พระเอกหนุ่มจอมบทบาทขยับรุกตามเรื่อยไป เพราะกำลังหน้ามืดพยายามจะยัดเข้าไปให้มิดโคนจนได้ หูเขาอื้อหมดเสียแล้ว ไม่ได้ยินสรรพสำเนียงใด ๆ ทั้งสิ้น ต่อให้ผู้กำกับการแสดงมาใช้เครื่องหมายสั่งเขาหยุด หรือกระทำบทบาทใด เขาก็คงไม่ได้ยินอย่างแน่แท้
   ดาวยั่วแก่นจิตขณะนี้มิได้มีความอยากเหลืออยู่เลย คงมีแต่ความปวดแสบปวดร้อนในรูหี ผลของความพยายามของพระเอกจอมบทบาท ผู้มีกระบองยักษ์เป็นอาวุธ  รู้สึกชักจะได้ผลพอประมาณเพราะกระบองยักษ์ได้คืบตัวเข้าไปในช่องสวรรค์อีกเล็กน้อย เขาถอนใจเฮือกใหญ่ ปาดเหงื่อที่หน้า
   ส่วนหมอสาวในเรื่องก็ได้แต่หวีดร้องครวญครางด้วยความแสบเสียวทุกระยะที่เจ้ากระบองยักษ์กระดืบหัวเข้าไป
   หล่อนแสนจะเจ็บปวดและคับรูหีอย่างเหลือประมาณทั้ง ๆ ที่รูของหล่อนได้ผ่านการเย็ดมาแล้วอย่างโชกโชน

   พระเอกกระบองยักษ์หยุดการจู่โจมคืบหน้าชั่วขณะ โน้มกายทาบลงกับร่างของหมอสาวเจ้าเสน่ห์ตามในท้องเรื่อง ประทับปากของเขาประกบริมฝีปากของหล่อน จูบอย่างไว้ลายดูดและไซร้ลิ้นของเขาชอนไชดุนเข้าไปในปากของดาวยั่วแก่นจิต เป็นการเบิกทางยุทธศาสตร์เพื่อการจู่โจมในขั้นต่อไป
   หมอสาวเจ้าเสน่ห์ได้รับการผ่อนพักหยุดการโจมตี ภายในช่องสวรรค์ก็ค่อยคลายความเจ็บปวดไปบ้าง แต่ก็ยังคับตื้อไปหมด แทบจะกระดิกกระเดี้ยวตัวไม่ได้
   หล่อนต้องหลับตาปี๋ลงอีกครั้งหนึ่งด้วยการจูบอย่างมีศิลปะของจอมทรชนตามในท้องเรื่อง มือสากของพระเอกกระบองยักษ์ก็กำยำภูเขาเลากาทั้งสองบนอกของนางเอกพันธุ์เนื้อนมไข่อย่างไม่วางมือ
   อึดใจต่อมา พระเอกจอมบทบาทได้ละจากการจูบที่ใบหน้าของนางเอก โดยเปลี่ยนจุดยุทธศาสตร์มาที่บริเวณทรวงอกเนินถันอันอวบสล้าง ฝังปลายจมูกโด่ง ไซร้จูบอย่างดื่มด่ำ แล้วไต่ขึ้นจากเชิงเขาสู่ยอดภูเขาเนื้ออันแข็งปั๋งชูชันเงื้อมตระหง่าน อ้าปากงับมณีแดงอันล้ำค่าบนยอดเขาแล้วดูดอย่างมหาวินาศ แทบจะกลืนกินภูเขาเนื้อเข้าไปทั้งลูก
   มือของเขาไม่ยอมทิ้งให้หยุดว่าง ควานลงไปที่เนินสวรรค์เพื่อสำรวจว่าสองแคมเนื้อหนีบยังคาบหัวบักกระบองยักษ์อยู่หรือเปล่า

   เมื่อรู้ว่ายังคาบอยู่ในสภาพเรียบร้อย นิ้วของเขาก็เริ่มบทบาททันที ด้วยการควานหาจุดกระสันสวาทจนพบจงอยเนื้อแตดที่ปลิ้นเด่โผล่แคมออกมาปุ่มหนึ่ง นิ้วก็เริ่มบี้ที่ปลายเนื้อเงี่ยนทันที
   ทุกจุดยุทธศาสตร์ของหมอสาวซึ่งสวมบทบาทโดยนางเอกเนื้อนมไข่แก่นจิต ถูกการโจมตีอย่างพร้อมเพรียงกันเช่นนั้นทำให้นัยน์ตาแขกที่เข้าตำรับของอิตถีศาสตร์คู่นั้นเบิกโพลงเหลือกลานด้วยความเสียวกระสันอย่างสุดที่จะพรรณนา
   หล่อนกำหนัดเงี่ยนง่านจนลืมตัวนึกถึงความเจ็บปวดเมื่อครู่เสียแล้ว เสียงครวญครางดังลอดออกจากปากรูปกระจับไม่ขาดระยะ สองแขนอันเรียวงามของหล่อนรัดร่างพระเอกกระบองยักษ์ผู้สวมบทบาทของจอมทรชนในท้องเรื่องไว้อย่างแน่น
   บั้นท้ายดินระเบิดของหล่อนเริ่มเคลื่อนไหวขยุกขยิกไปตามลีลาของความเสียวกระสันที่ได้รับ สองขาอวบใหญ่กลมกลึงเกลี้ยงเกลาดุจงาช้างของหล่อนถ่างออกสุดหล้า แบะโคกอูมเนินนูนขึ้นปะทะท่อนกระบองยักษ์
   น้ำทิพย์จากช่องสวรรค์ของหล่อนเริ่มปรี่ออกมาอีกจนชุ่มลำตัวเจ้าหัวบักกระบองยักษ์ รอบ ๆ รูหีซึ่งมีความเจ็บปวดแต่แรก บัดนี้ได้หายไปราวกับปลิดทิ้ง หน้าที่เซียวเพราะความเจ็บปวดเมื่อครู่ก็กลับแดงเข้มขึ้นด้วยความซ่านเสียวที่ได้รับอย่างสุดประมาณ
   เดี๋ยวนี้หล่อนกลับจะเป็นฝ่ายแอ่นก้นขึ้นอมเจ้าหัวบักกระบองยักษ์เสียเองโดยที่พระเอกจอมบทบาทยังไม่ทันจะขยับกระเด้าทิ่มเสือกลงไปเลย

   ธีระพลพระเอกหนุ่มผู้สวมบทบาทของจอมทรชน ผู้นำลูกน้องที่รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่มาให้หมอสาวร่างมหาเสน่ห์รักษา แต่ลูกสมุนของเขาได้สิ้นใจเสียก่อนที่จะได้รับการปฐมพยาบาลจากคุณหมอสาว จนกระทั่งบทบาทการแสดงได้เกินเลยมาจนกลายเป็นภาพยนตร์พิเศษอีกเรื่องหนึ่ง
   จอมทรชนยิ้มเมื่อเห็นอาการของหมอสาวหื่นกระหายขึ้นมาทันใจ แต่ผู้สวมบทบาทมีเล่ห์ชั้นเชิงโลกีย์ชั้นเซียนเหยียบเมฆ แทนที่เขาจะฮวบฮาบโจมตีเมื่อโอกาสงามมาถึง เขากลับค่อย ๆ กระดกตูดกระเด้าเจ้าหัวบักกระบองยักษ์ขยับเข้าไปทีละนิด
   โดยที่นางเอกแก่นจิตแทบจะไม่รู้สึกตัวเลยว่า ขณะนี้เจ้าดุ้นกระบองยักษ์วัดแจ้งมันเข้ามาถึงไหนแล้ว เพราะบางครั้งหล่อนก็แอ่นขึ้นไปรับเสียเองด้วยความลืมตัว จอมทรชนที่สวมบทบาทโดยพระเอกรูปงามค่อย ๆ ชักอาวุธมหาประลัยชักออกทิ่มเข้าในจังหวะสโลว์โมชั่น เพื่อให้น้ำทิพย์ที่หลั่งทะลักจากช่องสวรรค์ชโลมท่อนกระบองให้เปียกชุ่มและเป็นการเร่งเร้าความกำหนัดของตัณหาราคะให้แก่คู่แสดงในตัวเสร็จ
   นายแพทย์สาวโดนเล่ห์เหลี่ยมกลสวาทแบบตำรับฮินดูจนเกิดความเงี่ยนจัดอย่างสุดที่จะทนทานได้ เลยต้องปล่อยให้ทำนบน้ำทิพย์แตกพังไหลพลั่กออกมาเป็นลิ่ม ๆ จนช่องสวรรค์ลื่นปรู๊ดปร๊าด
   ด้วยความเจนจบรู้ซึ้งในมหาตำรับกามสูตรของวัดสมญาณบัณฑิต นักปราชญ์ชั้นปรมาจารย์ชาวฮินดูที่บัญญัติเล่ห์เหลี่ยมโลกีย์รมณ์ ทำให้พระเอกหนุ่มจอมบทบาทพาลำลึงค์มหายักษ์ของเขามุดลอดเข้าไปในช่องสวรรค์ของดาราสาวคู่แสดงได้กว่าครึ่ง
   ตาของผู้สวมบทจอมทรชนจับนิ่งที่ใบหน้าของผู้สวมบทหมอสาวพราวเสน่ห์ เมื่อสังเกตว่านัยน์ตาแขกคู่งามปรือเคลิบเคลิ้มอยู่ในรสกามที่เขาได้งัดสูตรของนักปราชญ์ชั้นปรมาจารย์ออกมาใช้จนเกือบหมดตำรับเล่มนั้น
   เขาจึงค่อย ๆ ถอนลึงค์ออกมาทีละนิดจนถึงที่คอหยัก คู่แสดงของเขาก็แอ่นบั้นท้ายดินระเบิดติดตามขึ้นมาอย่างไม่ลดละ ด้วยความเสียวซ่านสยิวใจอย่างซึ้งทรวง

   พอได้จังหวะเช่นนั้น ผู้สวมบทบาทจอมทรชนก็หาได้รอช้าไม่ เขารีบตะบันกระบองยักษ์ของเขารวดเดียวเข้าไปจนสุดด้ามเลยทีเดียว หัวหนอกของเขาประกบโคกอูมเนินนูนจนสนิทแนบแน่น
   ดาวยั่วแก่นจิตต้องสะดุ้งเฮือกผวาร่างอีกครั้ง เสียวแปลบปลาบเข้าไปในก้นรู เพราะเจ้าหัวถอกกระบองยักษ์แผลงฤทธิ์ดิ้นดุบ ๆ ในรังไข่มดลูกของหล่อน
   ผู้สวมบทบาททรชนค่อย ๆ โหย่งตูดชักกระบองออกมาช้า ๆ จนผู้สวมบทบาทแพทย์สาวต้องสูดปากด้วยความซ่านเสียวแสบสยิวที่หยักเงี่ยงของหัวถอกมันครูดกับเนื้อหอยแครง หล่อนต้องแอ่นบั้นท้ายดินระเบิดตามขึ้นมา
   จอมทรชนชักอาวุธยักษ์ออกมาจนถึงขอบเงี่ยงพลางก้มดูลำลึงค์ของตนซึ่งมันเป็นเลื่อมไปด้วยน้ำทิพย์ที่หลั่งชโลม

   เขามองดูสองแคมเนื้อหนีบของดาราสาวคู่แสดงที่กำลังคาบลำลึงค์ของเขาแล้วรู้สึกมันเขี้ยวอย่างบอกไม่ถูก ถึงกับขบกรามจนเป็นสันนูน สองมือของเขาค่อย ๆ ประคองคู่แสดงให้ลุกขึ้น
"หมอจ๋า ทำไมหลับตาอยู่ได้ ลืมตาขึ้นซิครับ แล้วดูของดีนี่ซิ โอ๊ย เจ็บ"
   พระเอกผู้สวมบทจอมทรชนร้องลั่นเมื่อโดนคมเล็บของแก่นจิตผู้สวมบทหมอสาวพราวเสน่ห์หยิกหมับเข้าให้
"บ้า เธอนี่ นึกว่าฉันไม่รู้สึกหรือ เรียกฉันหมอจ๋า กลับอีกทีก็หมอจ๋อ เดี๋ยวหยิกให้เนื้อขาดเลยนี่ โอ๊ย อูยยย์"
   หล่อนต้องร้องครางออกมาบ้างเพราะอาวุธมหาประลัยของจอมทรชนชักขึ้นแล้วตะบันพรวด
"เธอนี่คิดมากไปได้ เรียกหมอดี ๆ ไม่ชอบ เดี๋ยวเอาให้ฉีกเสียเลยนี่ ฮือม์"
   เขาทำหน้าตาเหี้ยมเกรียมให้สมกับบทบาทที่ได้รับ
   หล่อนไม่กล้าต่อปากต่อคำอีก คาดไม่ถึงว่าร่างหงิม ๆ ที่ปกติเวลาร่วมการแสดงบทธรรมดาที่หล่อนเคยเป็นฝ่ายเย้ายวนกระเซ้าแหย่จะมีพิษสงร้ายกาจขนาดนี้

   หล่อนก้มลงมองดูด้วยความสยิวขนลุกเสียวไส้สยดสยอง ซึ่งไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นไปได้ แต่มันเป็นไปแล้ว หล่อนได้เห็นแคมหีของหล่อนที่ปลิ้นแดงก่ำอมคาบรัดควยอันยาวใหญ่ของพ่อพระเอกรูปงามไว้จนแคมตุ่ย ปลายจงอยเนื้อแตดปุ่มกระสันปลิ้นแดงโผล่ออกมาอย่างหวาดเสียว
   หล่อนมองดูสักครู่นัยน์ตาแขกคู่นั้นก็หลับตาปี๋เพราะความอายที่มีสายตาไม่ต่ำกว่าสิบคู่และแสงไฟไม่ต่ำกว่าห้าพันแรงเทียนที่จับจุดมาที่ร่างของหล่อน

   ผู้สวมบทจอมทรชนเชยคางหล่อนขึ้น หมอสาวพราวเสน่ห์หน้าแดงก่ำด้วยความอาย เท่ากับเป็นการยั่วให้คู่แสดงยิ่งเพิ่มความกำหนัดเงี่ยนง่านขึ้นอีก เขาทำหน้าเหี้ยม ๆ ให้สมบทบาท แล้วผลักอย่างแรงให้ร่างของดาวยั่วนอนหงายลงเช่นเดิม แบะขาทั้งสองออกแล้วโน้มตัวลง
   ฉับพลัน อาวุธยักษ์ของเขาก็สำแดงฤทธิ์ เขากดควยปรูดเข้าไปในรอยผ่าของเนินโคกนูนอวบอีกครั้ง หล่อนสะดุ้งโหยง พระเอกจอมบทบาทเริ่มกระเด้าเย็ด
   หล่อนเริ่มรู้สึกว่าในรูหีคันยิก ๆ เม็ดละมุดสั่นระริก ๆ ทำให้หล่อนมันเขี้ยวฮึดสู้ขึ้นบ้างแล้ว

   เขาเริ่มท่าคู้เข่าคร่อมร่างคู่แสดงไว้อย่างคล่องแคล่ว สองมือสอดเข้ารั้งบั้นท้ายดินระเบิดของหล่อน แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์เข้าเกียร์กระเด้า จากจังหวะสโลว์ แทงโก้ ช่าช่าช่า จนกระทั่งถึงจังหวะการเต้นของอะโกโก้อันร้อนแรง สร้างความเผ็ดมันเอร็ดอร่อยให้แก่คู่แสดง
   สองมือของเขาก็ประคองรั้งบั้นท้ายดินระเบิดของแก่นจิตให้แอ่นขึ้นรับทุกครั้งที่กระเด้าเสือกพุ่งลำลึงค์ตะบันเย็ดยัดลงไป ลูกสูบอันมหึมาทิ่มแทงสวนเข้าสวนออกอยู่ในรูหีที่อ้าแดงอย่างถี่ระรัว ความดุเดือด นองเลือด ราวกับท้องทะเลที่เกิดมรสุมสลาตัน ตูดที่กระเด้าดุจลูกคลื่นในมหาสมุทร สร้างความสุดเสียวสุดซ่านสยิวให้แก่ดาวยั่วแก่นจิต แม้ว่าหล่อนคร่ำโลกีย์ตามมาแล้วก็จริง แต่ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นศึกหนัก ซึ่งหล่อนยังไม่เคยผจญการโจมตีอย่างรุนแรงถึงเพียงนี้ แต่ก็เป็นรสชาติที่ไม่ใช่จะหาได้ง่ายนัก ร่างของหล่อนสั่นระริกทะลวงไถลเถลือกเสือกกายดิ้นราวกับปลายักษ์ที่ติดเบ็ดพราน
   สองมือของหล่อนโอบกอดรัดคอของคู่แสดงไว้แน่น น้ำเงี่ยนปรี่ทะลักอยู่ไม่ขาดสาย เสียงเฉาะแฉะ ๆ ดังออกมาจากช่องสวรรค์ ลูกกระโปกพวงใหญ่แกว่งปะทะบั้นท้ายดินระเบิดของหล่อนเร่งเร้าให้คู่แสดงต้องออกแรงกระเด้าเย็ดจนเหงื่อโทรมกายหน้าแดงก่ำ ตาลุกวาวโรจน์ด้วยความเหี้ยมเกรียม เลยยิ่งสมบทบาทการแสดงเป็นทรชนยิ่งขึ้น
   นาทีสยองขวัญผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเมื่อขีดสุดยอดแห่งความสำเร็จใกล้เข้ามา ดาวยั่วผู้สวมบทแพทย์สาวพราวเสน่ห์ก็ต้องร้องหวีดสุดเสียงอีกครั้งหนึ่งด้วยความสยิวสยองแทบขาดใจ ตวัดขาโอบร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของพระเอกหนุ่มหุ่นงามควยราวกับกระบองยักษ์ไว้แน่น พลางเด้งร่อนโคกหีอลึ่งฉึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย

"โอ๊ย ซี๊ด...ซี๊ด อูยยย์ ซี๊ด พลขา...แรง ๆ หน่อยค่ะ อูย ซีด กดหนัก ๆ เลยค่ะ โอ๊ย ซี๊ด ขยับเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือคะ พลขา โอย ๆ ออก อ...ออก น้ำออกแล้วค่ะ"
   คู่แสดงของหล่อนก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน หูอื้อตาลายไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น ตั้งหน้าตั้งตาตะบันเย็ดประหนึ่งจะให้ร่างของหล่อนแหลกเหลวคากระบองยักษ์ของเขา

   และแล้ว วาระสุดท้ายของพระเอกจอมบทบาทก็มาถึง น้ำกามที่กลั่นกรองจากกระโปกพวงเบ้อเร่อของเขามีเท่าไหร่ก็ฉีดเข้าไปคละเคล้ากับน้ำสวาทของคู่แสดงสาวรูหีมหาเสน่ห์ ผสมผสานเคี่ยวคลุกปะปนจนเอ่อทะลักทะลายออกมานอกรู ไหลเยิ้มลงไปตามง่ามตูดของดาวยั่ว นองเลอะอยู่ที่เก้าอี้นวมตัวนั้นกองเบ้อเร่อเหนียวหนึบ
   หล่อนผู้สวมบทบาทแพทย์สาวที่ถูกจอมทรชนพิชิตสวาทจนสิ้นเชิง ตาแขกที่เคยหยาดเยิ้มยวนยั่วใจชาย นัดนี้หรี่ปรือ กะพริบถี่โชว์ขนตาอันงามงอน
   หล่อนเผยอร่างขึ้น ผวาใบหน้าเชิดปากจิ้มลิ้มพริ้มเพราะเป็นรูปกระจับคู่นั้น จูบทั่วใบหน้าอันงามเก๋ของพระเอกหนุ่มอย่างซาบซ่านหัวใจ

   เขาผู้สวมบทบาทจอมทรชนก็มีอาการเข่าอ่อนทรุดฮวบลงไปประกบร่างมหาเสน่ห์ของคู่แสดงสาวแล้วกอดไว้อย่างแนบแน่นโดยไม่ยอมถอนอาวุธมหาประลัยออกจากช่องสวาท คงแช่คาฟุบนิ่งอยู่บนอกภูเขาเนื้อ กว่าจะจบฉากการแสดงครั้งมโหฬารลงได้ ทั้งสองก็สิ้นแรงอ่อนเพลียหมดกำลังที่จะผละออกจากกันได้ เล่นเอาผู้ร่วมงานทุกคนที่อยู่ ณ.ที่นั้นตัวแข็งทื่อ มือที่กำอุปกรณ์การถ่ายทำเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่ออันเหนียวหนืด ลำคอแห้งผากจนรู้สึกเหมือนว่ามีเม็ดทรายอัดแน่นอยู่
สิ่งหนึ่งในกางเกงของผู้ชายทุกคน บัดนี้แข็งตุงจนสุดที่จะกดให้มันยุบหดลงได้

   แม้แต่ผู้กำกับการแสดงที่มีประวัติระงับจิตระงับใจเมื่อกำกับบทอย่างว่าได้อย่างยอดเยี่ยมยังไม่วายขยับกระเดือกในลำคอ เขารีบรินบรั่นดีจนล้นแก้ว แล้วกลืนเข้าไปในลำคอ พลางพึมพำขึ้นมาว่า
"โอ๊ย โล่งอกไปที"
   ส่วนผู้อำนวยการสร้างที่ยืนควบคุมอย่างใกล้ชิดถอนหายใจเฮือกยาว สายตาที่มองนอกแว่นขาวกรอบทองนั้นสาดประกายหื่นกระหายอย่างแรงกล้า เหงื่อผุดซึมขึ้นที่หน้าผากและริมฝีปาก มีความกระสับกระส่ายเห็นได้ชัด
   สิ่งหนึ่งที่ฝังลึกและทรมานอยู่ในจิตสำนึกของเขาขณะนี้คือความเงี่ยนที่สุดแสนจะอดกลั้นได้ ความจริงการถ่ายทำยังต้องดำเนินการต่อไปอีกฉากหนึ่ง
   แต่เขาจะทนไหวหรือ ยิ่งเห็นทั้งสองกอดกันกลมดิก จิตใจยิ่งว้าวุ่นขนาดหนัก
"คืนนี้ยุติแค่นี้ก่อน เก็บเครื่องไม้เครื่องมือให้เรียบร้อยแล้วเลิกกลับบ้านได้"
   เศรษฐีหนุ่มผู้อำนวยการสร้างร้องตะโกนสั่งคนงานทั้งหมด คู่แสดงที่เพลียเหน็ดเหนื่อยด้วยกันเลยต้องรีบผละออกจากกันโดยเร็ว ดาวยั่วแก่นจิตคว้าเสื้อคลุมโอเวอร์โค้ตคลุมร่างอันเปลือยเปล่าขาวโพลนของหล่อน

   พริบตาที่คนงานต่างจ้องนั้น ก็อันตรธานหายไปพร้อมกับการคลุมทับของชุดแพทย์ อุณหภูมิปานจะละลายโลกให้ป่นเป็นของเหลวก็สุดสิ้นลงเพียงเท่านั้น สำหรับคืนนี้
   ส่วนพระเอกนั้นมีคนงานคนหนึ่งโยนผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้ เขารีบห่มคลุมร่างท่อนล่างอันน่าเกลียดน่ากลัวของเขา แล้วต่างแยกย้ายกันเข้าห้องเพื่อชำระร่างกาย
   คนงานทุกคนต่างกุลีกุจอเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอย วางเก็บเข้าที่เดิมอย่างรวดเร็วเพราะต่างอยากกลับบ้านใจจะขาดอยู่แล้ว
   ส่วนพวกที่มีครอบครัวก็จะรีบไปฟัดแม่อีหนูที่บ้าน ที่ไม่มีเมียก็คงไปหาผู้หญิงอย่างว่าแก้เงี่ยนไปตาม ๆ กัน หรือไม่ก็หาที่ลับตาคน ถอกกระดอชักว่าวแก้ขัด
   ส่วนเศรษฐีกำธรนั้น แน่นอนต้องพาแม่ดาวยั่วแก่นจิตไปขึ้นสวรรค์ที่ใดที่หนึ่งอย่างแน่นอน

   ขอย้อนกลับไปกล่าวถึงเหตุการณ์ที่บ้านของเศรษฐีกำธร
   ลัดดาคือสาวใหญ่วัยยี่สิบแปดที่มีรูปร่างอันอาบเยิ้มไปด้วยเสน่ห์อันบาดจิต ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าแม่ดาวยั่วแก่นจิตเท่าใดนัก หล่อนคือเมียเก็บหรือนางบำเรอของเสี่ยกำธรนั่นเอง
อดีตหล่อนเคยเป็นนางเอกภาพยนตร์มาแล้วเหมือนกัน แต่เนื่องจากบทบาทการแสดงของหล่อนไม่ค่อยประทับจิตใจคนดู พักหลัง ๆ นี้หล่อนจึงไม่ค่อยปรากฏบนจอเงิน จะมีบ้างก็แสดงเป็นตัวประกอบที่ไม่สำคัญ แต่หล่อนก็ได้รับเงินค่าเลี้ยงดูจากเศรษฐีกำธรเป็นรายเดือน เพราะหล่อนเป็นเมียลับ ๆ ที่ไม่เปิดเผยของผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์

วันนี้เป็นวันครบกำหนดที่หล่อนต้องมารับเงินเดือนจากเศรษฐีหนุ่ม หล่อนจึงมายังบ้านพักบังกะโลหลังนั้นแต่หัวค่ำ
พอรถจอด หล่อนจ่ายค่าโดยสารแล้วก้าวลงจากรถแท็กซี่คันนั้น เดินไปยังบานประตูใหญ่ กดกริ่งเรียก สักพักก็มีคนมาเปิดประตูให้ ผู้ที่เปิดนั้นคือคนทำสวนชาวภาคอิสานซึ่งรู้จักกับหล่อนดี
"เชิญครับ นายผู้หญิง นายผู้ชายไม่อยู่ครับ เห็นท่านบอกว่าคืนนี้จะกลับดึก หรืออาจจะไม่กลับ เพราะติดงานที่โรงถ่าย"
คำพูดสำเนียงเหน่อ ๆ รีบรายงานตามที่มันรู้
"ขอบใจมาก นายคำ ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะรอนายของแกจนกลับ"

   หล่อนกล่าวพลางสาวเท้าไปยังบังกะโลหลังงามนั้น ซึ่งหล่อนรู้จักดีทุกซอกทุกมุม แล้วหล่อนจึงจัดแจงหาเครื่องดื่มเอาเอง โดยไม่ต้องให้ใครมาปรนนิบัติ
สักครู่ต่อมา หล่อนรู้สึกเมื่อย ๆ หลัง จึงขึ้นไปยังชั้นบนของตัวเรือน แล้วตรงมายังห้องที่หล่อนเคยมานอนเย็ดกับเจ้าของบ้านบ่อย ๆ
หล่อนจัดแจงถอดเสื้อผ้าชุดที่ใส่มาออก แล้วเปลี่ยนเป็นแพรชุดนอนบาง ๆ ซึ่งเจ้าของบ้านได้ซื้อทิ้งไว้ตั้งหลายชุด เพื่อสำหรับผู้หญิงที่เขาพามานอนค้างที่นี่ไว้เปลี่ยน
หล่อนนอนกระสับกระส่ายชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า เขาก็ยังไม่โผล่มาสักที จนกระทั่งตีหนึ่งของวันใหม่ หล่อนจึงหลับไปเองด้วยความง่วง

   ขอกล่าวถึงคนสวนชายฉกรรจ์หน้าซื่อแต่ใจมันไม่ซื่อเหมือนหน้า หลังจากมันเปิดประตูให้สาวใหญ่ลัดดาเมียเของเจ้านายมันแล้ว ก็กลับไปเรือนพักของมัน
แต่ใจมันนั้นเล่า ความคิดกำลังสับสนอลหม่าน เพราะความหนุ่มฉกรรจ์เหมือนควายเปลี่ยวเมื่อมันนึกถึงทรวดทรงองค์เอว แต่ละนางที่นายมันพามาบ่อย ๆ
ความสำราญที่บ้านพักซึ่งมันดูแลอยู่ แม่โฉมแฉล้มเหล่านั้น แต่ละคนมีความงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย ล้วนแต่ขนาด 38-23-38 ทั้งนั้น
   คิดถึงตัวมันเองแล้ว ทำให้กลัดกลุ้มจนปวดขมับ ที่มันเคยเย็ดอย่างดีก็แค่กะหรี่แถวสามยอด เกมละสิบบาทยี่สิบบาทเป็นอย่างสูง เรื่องเชฟเรื่องความสวยไม่ต้องพูดถึง ถ้าเอามาเทียบเหล่านารีที่นายมันพามาราวกับฟ้าและดิน
   และแล้ว ใบหน้าของแม่สาวอกพุ่ง สะโพกอันงามที่มันเปิดประตูให้เมื่อกี้ก็ผุดขึ้นในจิตแห่งตัณหาราคะของมัน พลางคิดในใจ ถ้ามันได้ชมเชยเมียเก็บของนายมันคนนี้แล้ว มันต้องแลกกับการติดคุก มันก็ยอม
เกิดมาทั้งทีชีวิตหนึ่ง หากได้ชิดเชยชมแม่เทพอุมากลับชาติมาเกิด ถึงตายก็ไม่เสียชาติเกิด
คิดได้ดังนั้นมันจึงได้มาด้อม ๆ มอง ๆ แถวเรือนหลังใหญ่ เพราะมันรู้ดีว่าเจ้านายของมันคืนนี้ติดงานที่โรงถ่ายคงมาไม่ได้
   มองไปยังหน้าต่างชั้นบน ไฟก็ยังเปิดสว่างโร่ จะขึ้นไปก็ไม่กล้า มันจึงนั่งจับเจ่าอยู่แถวบันไดหน้าบ้านพักบังกะโลหลังนั้นเพื่อหาโอกาส ถ้าไฟดับเมื่อใดมันจะเสี่ยงเข้าหาแม่สาวใหญ่ทันที
   แต่ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ก็ไม่เห็นหล่อนปิดไฟสักที จิตใจก็ร้อนรุ่มไปด้วยไฟตัณหา ลังเลอยู่จนเที่ยงคืน ความเงี่ยนง่านที่มโนภาพมีแต่ร่างอันสวยงามของเหล่ายอดนารีที่เคยมาใช้บังกะโลหลังนี้เล่นเกมสวาททำให้มันหายความขลาดกลัว จึงเดินขึ้นเรือนอย่างอาจหาญ เพราะเวลานี้ภายในรั้วรอบขอบชิด นอกจากลุงมีที่รับมอบหมายจากนายให้เฝ้าดูแลแล้วก็ไม่มีใครอื่นอีก
แต่มีลุงมีป่านนี้ก็นอนหลับอุตุไปแล้ว พอมาถึงบันไดวนเล็ก ๆ ซึ่งจะขึ้นไปบนบันไดชั้นบน มันก็ย่องด้วยตีนแมว พอขึ้นพ้นบันไดก็ย่องไปยังห้องนอนของนายมันซึ่งบัดนี้มีสาวใหญ่ร่างอาบเสน่ห์เมียเก็บของนายมันอยู่
   ประตูห้องนั้นเป็นสองชั้น ชั้นนอกเป็นไม้ทึบ ไม่ได้ปิด ชั้นในเป็นประตูมุ้งลวดกรอบอะลูมิเนียมซึ่งมีผ้าม่านรูดปิดอีกชั้นหนึ่ง แต่ผ้าม่านนั้นรูดเพียงครึ่งเดียวจึงมองเห็นภายในอย่างชัดเจน
   แต่ร่างงามที่อยู่ในห้องนั้นยังพลิกกระสับกระส่ายเพราะยังนอนไม่หลับ มันจะเข้าไปก็ไม่กล้า ถ้าเกิดหล่อนร้องเอะอะขึ้นมา ลุงมีได้ยินเข้าพิธีจะเสียก่อนที่ได้เชยชม

   มันจึงย้อนกลับลงมาใหม่ ตรงไปยังบาร์เหล้าของเจ้านาย ขโมยกินเหล้าเพื่อย้อมใจ พอเปิดจุกออกก็เทใส่ปากโดยไม่ต้องคำนึงว่าจะเป็นยี่ห้ออะไร ราคาแพงแค่ไหน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เหล้าขวดนั้นก็เหลือเพียงขวดเปล่า ทำให้เจ้าหนุ่มหน้าซื่อแต่ใจไม่ซื่อกล้าหาญชาญชัยอย่างไม่กลัวคุกกลัวตะราง มันย่องกลับขึ้นมาใหม่

   คราวนี้หล่อนหลับสนิทแล้ว จากแสงนวลอันเจิดจ้าของไฟนีออน ภายในห้องที่หล่อนไม่ได้ปิดก่อนหลับ เจ้าหนุ่มอีสานถึงกับยืนนิ่งตัวแข็งทื่อคามุ้งลวด เหมือนต้องมนต์สะกด เพราะสายตาที่มองลอดม่านซึ่งรูดไม่มิด เห็นร่างที่นอนหงายแบบแผ่สองสลึง ชุดนอนที่เป็นเสื้อคลุมแพรเลิกขึ้นมาถึงบั้นเอว อวดโคกอันอวบขาวใหญ่ขนาดฝ่ามือปิดไม่มิด มีเส้นหมอยสีดำหงิกงอประดับอยู่กระจุกหนึ่ง ทำให้สายตามันเบิกกว้างแทบถลนออกมานอกเบ้าตา เพราะตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยเห็นหีของผู้หญิงคนใดที่ทั้งใหญ่ทั้งมีสัณฐานกว้างงดงามแบบนี้เลย
   ปากที่อ้าค้างทำให้น้ำลายไหลยืดออกมาอย่างไม่รู้ตัว ความเมาจากเหล้าดีกรีสูงขวดนั้น บวกกับภาพที่เห็นทำให้ใบหน้ามันแดงก่ำ
   มิหนำซ้ำ แม่สาวใหญ่ร่างอวบกำลังฝันหวานถึงวันชื่นคืนสุข หรือว่าหล่อนกำลังฝันว่าถูกของดีของผู้ชายแยงแหย่อยู่ในรูสวรรค์ของหล่อน

   มันสังเกตเห็นใบหน้าอันงดงามหวานซึ้งของหล่อนมีรอยยิ้มอย่างประหลาดพร้อมกับบิดตัว ขาค่อย ๆ ถ่างออกนิดหน่อย สะโพกอันผายกว้างมีอาการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
เจ้าหนุ่มอิสานหน้าซื่อใจคดหายจากตะลึงแล มันหมุนลูกบิดประตูก้าวเข้าไปอย่างอาจหาญเดินไปยืนจ้องโคกหีอล่องฉ่องของเมียเจ้านายอยู่ที่ข้างเตียงด้วยสายตาอันหื่นกระหาย
ร่างอันละลานตาที่นอนฝันหวานอยู่นั้นคล้ายกับว่าได้รับความสุขอย่างเต็มที่ สะโพกค่อย ๆ แอ่นก้นขึ้นจนพ้นที่นอน ขาทั้งสองก็แหกอ้าออก ประเดี๋ยวก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้า อิริยาบถที่มันจ้องมองดูอยู่ คล้ายกับว่าหล่อนกำลังท้าทาย
   พริบตานั้น ความลืมตัวทำให้มันสิ้นความเกรงกลัวภัยซึ่งจะเกิดตามมาภายหลังการเสร็จกิจของมัน เพราะหล่อนอยากเอาของดีมาอวดมัน ความกลัดมันซึ่งมันมีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โลหิตแห่งตัณหาหน้ามืด บวกกับดีกรีอันแรงกล้าของเหล้าขวดนั้น ฉีดซ่านไปทั่วขุมขน มันตัดสินใจทันที
   เสื้อยืดคอกลมและกางเกงขาสั้นที่มันสวมอยู่ถูกถอดออกจากร่างกำยำของมันทันใด แล้วก้าวขึ้นเตียง คุกเข่าก้มหน้าลงจูบที่เนินโคกหีอวบอย่างแผ่วเบา เพื่อไม่อยากให้เจ้าของรู้สึกตัวเสียก่อนที่มันจะได้เย็ด

   เมื่อริมฝีปากของมันประกบลงไป ลิ้นสากก็แลบออกจากปาก เลียไปทั่วสองแคมเนื้อหนีบอันอ่อนนุ่ม คงจะทำความคันให้แก่หล่อนกระมัง หรือว่าในความฝันของหล่อนก็ไม่รู้ เพราะหล่อนครางอี้ย์อยู่ในลำคอพลางบิดตัวส่ายสะโพก ขาของหล่อนเริ่มถ่างออกอีก
   หีของหล่อนแหกปลิ้นจนเห็นจงอยเนื้อแตดเม็ดละมุดสั่นกระดุบกระดิบ ภายในรูหีอันกลวงโบ๋อ้าซ่า นิสัยของชาวภาคอิสานนั้นชอบกินอาหารประเภทดิบ ๆ สด ๆ เช่น ลาบก้อยใส่เลือดวัวสด ๆ เนื้อไม่ต้องลวกสุกใส่ขี้อ่อนนิด ๆ แซบอีหลีเป็นบ้า พอมันเห็นสิ่งโอชารสที่อวดท้ามันชิมลิ้มรส ทำให้น้ำลายมันหกสอออกจากปาก มันรีบเอามือปาดน้ำลายบริเวณริมฝีปาก แลบลิ้นออกมาเลีย
   มันมิรอช้า อ้าปากประกบแนบกับรูหีที่แหกอ้าซ่า คราวนี้มิใช่แผ่วเบาเหมือนคราวแรก แต่ทั้งงับทั้งดูดสอดลิ้นอันสากหนาแลบเลียคว้านลึกเข้าไปอย่างตะกละตะกราม เล่นเอาเจ้าของรูหีที่นอนฝันหวานอย่างดื่มด่ำนั้นครางฮึกออกมาทันที สะโพกอันผายกว้างเด้งขึ้นรับการดมดูดกัดกิน แถมแลบเลียชอนไชอย่างเอร็ดอร่อยแซบอีหลีของนายคำหนุ่มชาวอีสาน
   ทั้งนี้โดยที่หล่อนหารู้สึกตัวไม่ มือเท้าเหยียดเกร็ง ร่างสั่นพลิ้ว ปากสูดจนจู๋แหลมเพราะในฝันของหล่อนกำลังซ่านเสียวถึงพริกถึงขิง

   ความฝันของหล่อนกลายเป็นความจริงเข้ามาแทรก ทำให้หล่อนกำซาบสุขอย่างเหลือประมาณ เมื่อมันถอนปากขึ้นมา น้ำกามขุ่นข้นเหนียวหนืดจึงติดปากของมันออกมาเป็นยางยืด ซึ่งน้ำนั้นหลั่งในตอนที่หล่อนกำลังฝันถึงจุดไคลแม็กซ์พอดี
   นายคำก็เกิดอารมณ์เซ็กส์อย่างบรรลุจุดสุดยอด มันตัดสินใจลุกขึ้นโยงโย่นั่งคร่อมเป็นยอง ๆ เหลาบนร่างเมียเก็บของเศรษฐีกำธรทันที มันจุ่มหัวถอกของมันแถวปากแคมอันกลวงโบ๋ก่อน เพื่อให้หัวถอกได้อาบน้ำมันเครื่องเพื่อหล่อลื่น เครื่องยนต์จะได้ไม่สึกหรอ การคลึงหัวถอกกับปากรูหี เกิดการเสียดสีจนหล่อนต้องแอ่นก้นขึ้นมา เท่ากับเป็นการท้าทายเจ้าเบื๊อกหน้าซื่อใจคด มันจ่อหัวถอกกดหนืดทิ่มพรวดเข้าไปในรูหีของหล่อนทันที
   สาวใหญ่ร่างอาบเสน่ห์สะดุ้งตื่นอย่างงัวเงียเพราะโดนหัวถอกเจ้าบักซีเด๋อ แต่รูหีของหล่อนชาชินกับควยมาแล้วตั้งหลายขนาดจึงไม่รู้สึกตื่นอะไรนัก คงนึกว่าเป็นเศรษฐีกำธรกลับมาแล้ว และพบว่าหล่อนนอนแหกหีอ้าซ่าจึงลักหลับหล่อนด้วยความง่วงที่หล่อนถ่างตารอคอยตั้งครึ่งค่อนคืน
   หล่อนจึงหลับตารับการชำแรกของเจ้าบักหมื่นอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่เลยว่า ร่างที่คร่อมเย็ดหล่อนนั้นหาใช่คนที่หล่อนรอคอยไม่

   หล่อนแหกขาออก สองมือโอบสะเอวเจ้าคนทำสวนโดยนึกว่าเจ้าของร่างคือผู้อุปถัมภ์ของหล่อน ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่มันจนเสือกพุ่งเข้าไปจนมิดโคน เนื่องจากขนาดของลำควยเจ้าบักหนั่นมีขนาดไล่เลี่ยกับเศรษฐีหนุ่ม หล่อนจึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไร ปล่อยให้มันกระเด้าเย็ดอย่างสนุกสนานอิ่มเอมใจ แต่มันก็ไม่กล้าเล่นท่าพลิกแพลงเพราะกลัวหล่อนจะตื่นก่อนที่มันจะเย็ดเสร็จ
   มันก้มหน้าก้มตากระดกตูด กระเด้าลำลึงค์รัวเป็นรังปืนกล ไม่ช้ามันก็บรรลุจุดไคลแม็กซ์ น้ำเงี่ยนพุ่งกระฉูดเข้าไปสุดรูหีของอดีตนางเอกแต่ปัจจุบันตกกระป๋องเป็นเพียงเมียเก็บเมียลับของเศรษฐีหนุ่มผู้อำนวยการสร้าง
   ส่วนหล่อนนั้นเพียงน้ำรักแตกตอนที่มันใช้ปากดูดเท่านั้น มาตอนหลังที่หล่อนโดนของจริงของมันนั้นไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือนเลย เนื่องจากมันมุ่งจะปลดเปลื้องความเงี่ยนของมันเองเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงหล่อนจะได้รับความซ่านเสียวเอร็ดอร่อยกับมันหรือเปล่า
   พอมันชักลำลึงค์ออก หล่อนยังนึกด่าในใจซึ่งด่วนชิงลมเสียก่อนที่จะพาเรือถึงจุดหมายพร้อมกัน น้ำเงี่ยนของมันทะลักจนเอ่อล้นแคมเนื้อหนีบ
   เจ้าคนทำสวนชาวอิสานเมื่อเสร็จจากการปลดเปลื้องอารมณ์ใคร่ มันออกจากห้องนั้นทันทีก่อนที่จะมีภัยต่อสวัสดิภาพของมันเกิดขึ้น

   เนื่องจากการถ่ายทำในฉากต่อไปของภาพยนตร์เรื่องนั้น ไม่มีบทใดที่เหมาะสมจะต่อเติมเป็นภาพยนตร์ชุดพิเศษได้ ดังนั้นท่านเศรษฐีกำธรผู้อำนวยการสร้างจึงได้สร้างภาพยนตร์ชุดพิเศษขึ้นหนึ่งเรื่องโดยใช้ฉากการถ่ายทำที่บ้านบังกะโลชายหาดหัวหินของท่านเป็นสถานที่ถ่ายทำ
   ผู้รับบทพระเอกนางเอกคือ ธีระพลและดาวยั่วแก่นจิต ตามความเดิมผู้แสดงเป็นแม่ม่ายสาวนั้นเขาได้จ้างดาราฟลอร์โชว์ของไนต์คลับ ในราคาค่าตัวที่แพงลิบลิ่ว เขาก็ไม่เสียดายอะไร

   คณะผู้ถ่ายทำชุดพิเศษได้เดินทางถึงหัวหินห้าโมงของวันนั้น และหยุดพักผ่อนกันในบ้านบังกะโลหลังที่จะใช้เป็นฉากถ่ายทำ
แต่คณะทั้งหมดได้รอจนกระทั่งสองทุ่ม มิษมาเรียมสาวเลือดผสมก็ยังไม่มาสักที
   ด้วยความกระวนกระวายของการรอคอย บังเอิญพบกับคุณหญิงนงนุชซึ่งเป็นภรรยาของเพื่อนรักของเขา แต่ได้ตายไปแล้วตั้งสองปี ทิ้งภรรยาสาวและธิดาสุดที่รักให้ว้าเหว่เปลี่ยวเปล่า
ดังนั้นสายตาของผู้อำนวยการสร้างที่มองลอดแว่นฉายประกายกระตือรือร้นขึ้นทันที พลางเอ่ยขึ้นว่า
"คุณหญิงครับ ขอเชิญไปเป็นเกียรติแก่พวกผมซึ่งยกกองมาถ่ายทำภาพยนตร์ที่นี่"
"ไหนล่ะคะ พวกคุณ" คุณหญิงถาม
"พักกันอยู่ที่บ้านบังกะโลของผมครับ"
"คุณอาคะ คงมีดารานำแสดงมาด้วยหลายคนซิ หนูอยากจะเห็นจัง" ธิดาสาวคุณหญิงเอ่ย
   ท่านผู้อำนวยการสร้างได้แนะนำทุกคนให้คุณหญิงม่ายและธิดาสาวของนางรู้จัก
   เศรษฐีหนุ่มได้ขอร้องคุณหญิงม่ายช่วยรับบทแม่ในเรื่อง เล่นเอาหล่อนหน้าแดงก่ำด้วยความอาย รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
   แต่เขาใช้ความพยายามอย่างสุดขีด จนกระทั่งนางยอมรับเชิญเป็นดาราเกียรตินิยม แต่นางมีข้อแม้ว่า ไม่ให้บุตรสาวของนางรู้
   จนกระทั่งการดำเนินการถ่ายทำภาพยนตร์สร้างไปตามบทเรียบร้อยโดยตลอด ขอสรุปภายในโรงถ่ายภาพยนตร์
   ตามบทของเรื่องนั้น เมื่อพระเอกหนุ่มเผด็จสวาทแม่ของคู่รักจบเกมไปแล้ว จึงมารู้สึกตัวว่าไม่ใช่หญิงที่ตนมุ่งมาจึงรีบเผ่นพรวดโดดหน้าต่างไปเพื่อซุ่มคอยจังหวะที่จะเย็ดตัวนางเอกต่อไป
พอกล้องถ่ายหยุดสั่น คุณหญิงนงนุชรีบคว้าผ้าคลุมร่าง วิ่งหาห้องน้ำทันที

   ผู้กำกับการแสดงที่ควบคุมการถ่ายทำเงี่ยนจนแทบคลั่ง รีบวิ่งตามแม่ม่ายกระดังงาลนไฟเข้าไปในห้องน้ำ และวิงวอนขอร้องจนได้ปลดเปลื้องความหน้ามืด โดยเย็ดกันนอกกล้องถ่ายทำ ยืนประจันหน้ากันจนพับคาโอ่งน้ำไปทั้งคู่

ด้วยหน้ากระดาษมีความจำกัดจึงขออวสานลงเพียงเท่านี้
สวัสดี