ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_err

Friend (เพื่อน) ตอน 1 โดยท่าน ช.ชัชวาลย์

เริ่มโดย err, พฤศจิกายน 10, 2010, 12:54:09 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

err

..เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงผ่านการเรียนระดับมหาวิทยาลัยมาแล้วโดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยปิด สมัยก่อนพวกวิทยาลัยเอกชนยังไม่ต้องสอบจากส่วนกลางเหมือนสมัยนี้ รุ่นผมนี่วิทยาลัยกรุงเทพ,วิทยาลัยรังสิตหรือหอการค้ายังเรียกวิทยาลัยอยู่ เลย ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัย...
ตอนที่ผมสอบเข้าได้ก็ตื่นเต้นเหมือนๆคนอื่นเพราะจะได้เรียนในคณะและสาขาที่ ตัวเองอยากเรียน สาขาของผมมีนักศึกษาใหม่ 40 คน เป็นผู้ชาย 15 คนและผู้หญิง 25 คน บอกตรงๆว่าผู้หญิงในสาขาผมโดยเฉลี่ยแล้วไม่ค่อยสวยหรอก แต่ส่วนใหญ่มาจากโรงเรียนดีๆในกรุงเทพทั้งนั้น พวกตระกูลคอนแวนต์กับตระกูลสาธิตนั่นแหล่ะ เด็กต่างจังหวัดไม่ค่อยมีเพราะสาขาผมต้องสอบวิชาเฉพาะด้วย ซึ่งเด็กต่างจังหวัดจะค่อนข้างเสียเปรียบ ช่วงแรกๆไม่ค่อยได้เรียนหรอกเพราะต้องซ้อมเชียร์กันทั้งวัน แล้วต้องมีการแบ่งพี่รหัสน้องรหัส และยังจัดบัดดี้ด้วย ซึ่งบัดดี้ของผมเป็นผู้หญิงมาจากคอนแวนต์ชื่อน้ำ ส่วนผมมาจากโรงเรียนชายล้วน (เคยบอกแล้วว่าเป็นสมาชิกจตุรมิตร) และไอ้การที่เป็นบัดดี้กันนี่มันก็ทำให้เราสนิทกันเร็วมากเพราะต้องช่วย เหลือกันตลอด ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องกิจกรรม และแทบจะต้องรู้เรื่องของอีกฝ่ายนึงเกือบทุกเรื่อง ผมก็เล่าเรื่องของผมให้น้ำฟัง น้ำก็เล่าเรื่องของเธอให้ผมฟัง น้ำไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยอะไรนัก สูงแค่ 150 กว่าๆ ผมยาว ค่อนข้างจะอวบ ใส่แว่น เธอมีดีที่เรียนเก่ง ซึ่งไอ้สิ่งนี้แหล่ะเป็นอะไรที่ผมต้องพึ่งเธอมาโดยตลอด หน้าที่หลักของเธอคือโทรมาตามผมให้ไปเรียนให้ทันในแต่ละวัน และบ่อยครั้งมากที่เธอต้องชวนเพื่อนคนอื่นนั่งแท็กซี่มาตามผมถึงบ้านเพื่อ ให้ไปเรียน อีกอย่างนึง เธอค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะเพราะเธอเรียนเก่งเป็นที่หนึ่งมาตลอด...
มีอะไรอย่างนึงที่อยากบอกเพื่อนๆโดยเฉพาะรุ่นน้องๆ ก็คือผู้หญิงที่จบจากโรงเรียนหญิงล้วนโดยเฉพาะตระกูลโรงเรียนฝรั่งที่พ่อแม่ ไปรับไปส่งที่โรงเรียนแล้วยังเป็นเด็กเรียนอีก มักจะมีปัญหาอย่างนึง คือโลกของเธอจะค่อนข้างแคบโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับผู้ชาย มันไม่เหมือนพวกที่จบจากโรงเรียนที่มีผู้ชายผู้หญิงเรียนรวมกัน ผมได้ความรู้นี้จากน้ำ เธอแทบไม่มีเพื่อนผู้ชายเลย ที่แย่มากๆก็คือพี่น้องอีกสองคนของเธอก็เป็นผู้หญิงหมดเลย ในโลกของเธอ ผู้ชายมีแค่พ่อกับครูแค่นั้นเอง...
ความที่น้ำมีเพื่อนผู้ชายน้อยทำให้เธอไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นมาก นัก พอถูกจัดให้เป็นบัดดี้กับผม ก็กลายเป็นว่ามีอะไรเธอก็เรียกแต่ผมซึ่งเป็นงานค่อนข้างหนักมากเพราะการที่ ต้องอยู่กับผู้หญิงที่ไม่ค่อยจะได้ทำอะไรในชีวิต ได้แต่นั่งกินนอนกิน มีหน้าที่เรียนอย่างเดียวมาตลอดเนี่ย ทำให้งานกิจกรรมทุกอย่างต้องมาลงที่ผมเกือบทั้งหมด ที่จริงผมไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่หรอกเพราะจริงๆแล้วผมแอบชอบเพื่อนต่างสาขาแต่ ในคณะเดียวกันอีกคนนึงต่างหาก แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสเข้าไปคุยด้วยเลยเพราะน้ำจะอยู่ข้างๆตลอด ผมค่อนข้างอึดอัดเพราะกลัวว่าเพื่อนที่ผมชอบจะเข้าใจผิด แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง และดูเหมือนน้ำก็ยังไม่ยอมรับรู้ว่าผมอึดอัด ช่วงๆหลังยิ่งไปกันใหญ่ กินข้าวเที่ยงเธอก็จะมานั่งกินด้วย ซึ่งตามปกติผมจะนั่งกินข้าวกับเพื่อนผู้ชายอีกสองสามคนที่ค่อนข้างจะสนิทกัน ยิ่งแย่ไปกันใหญ่เลยเพราะโรงอาหารเป็นโรงอาหารรวมของคณะ ผมไม่อยากให้ใครเห็นเลยว่าน้ำกับผมสนิทกัน เคยลองเอ่ยปากให้ไปนั่งโต๊ะอื่นดูก็แล้ว แอบย้ายโต๊ะไปนั่งกินที่อื่นก็แล้ว เธอก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินตามมานั่งกินข้าวด้วย ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยเพราะผมไม่ชอบหักคอใคร...
ผมมารู้สึกว่าที่จริงแล้วน้ำนิสัยดีก็ตอนที่ไปงานรับน้องของสาขา ซึ่งผมซวยมากๆเพราะพอไปถึงปรากฏว่าผมเป็นไข้ ไม่สบาย ต้องนอนซมอยู่ในห้องพักในขณะที่คนอื่นเค้าไปเข้าร่วมงานรับน้องกันหมด ผมมารู้จากเพื่อนทีหลังว่าน้ำเข้ามาดูแลผมตลอดเวลาที่ผมเป็นไข้ จัดอาหารมาให้ เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าผากเพราะผมตัวร้อนมาก เธอขอรุ่นพี่ตรงๆว่าเธอไม่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องเพื่อจะอยู่ดูแลผม เธอจะนั่งเก้าอี้ข้างเตียงผมเกือบตลอดเวลาจนได้เวลานอน เธอถึงแยกกลับไปนอนในห้องพักของผู้หญิง เช้าวันรุ่งขึ้นผมรู้สึกดีขึ้น เพื่อนผมเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฟัง ผมพูดไม่ออก พอเธอเข้ามานั่ง ผมก็ถามเธอว่าทำไมไม่ไปร่วมงาน เธอบอกว่าเธออยากอยู่เป็นเพื่อนผมมากกว่า น้ำลองเอามือมาอังหน้าผากผมแล้วบอกว่าไข้หายแล้ว ผมคิดอะไรไม่รู้ ดึงมือเธอมาจูบเบาๆที่หลังมือแล้วเอามือเธอมากอดไว้ที่อก น้ำนั่งม้วนไปม้วนมา ผมขอบคุณเธอที่อยู่เป็นเพื่อน ตั้งแต่นั้นมาผมไม่ว่าอะไรน้ำแล้ว เวลาที่เธอเดินไปไหนมาไหนกับผม เรายิ่งสนิทกันมากขึ้นทุกวัน การจับมือถือแขนกลายเป็นเรื่องปกติของเรา...
อย่างนึงที่ผมอยากพูดกับเพื่อนๆก็คือการคบผู้หญิงคนนึง มันมีสเตปของมันอยู่ ผมไม่ค่อยเชื่อหรอกว่าผู้ชายคนนึงเดินไปชนไหล่ผู้หญิงซักคนแล้วจะจูงมือเธอ พาเข้าโรงแรมไปเอาได้เลย หรือแม้กระทั่งการบอกว่าคบกันได้วันสองวันแล้วก็ได้เอา มันไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลนะ นี่หมายถึงผู้หญิงดีๆนะครับ ไม่ใช่พวกที่จับได้ตามผับ อย่างนั้นผมไม่นับ ผมหมายถึงผู้หญิงที่ทำงานดี นิสัยดี พฤติกรรมดีและมารยาทดี ถ้าใครสามารถพาผู้หญิงแบบนี้เข้าโรงแรมได้ภายในการเจอกันแค่ครั้งแรก ผมขอคารวะจรดพื้นเลยครับ...
ผมกับน้ำสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีเราอยู่คณะกันจนดึกเพราะต้องทำรายงาน เธอก็จะบอกที่บ้านว่าไม่ต้องมารับ เดี๋ยวเธอจะกลับเอง เรานั่งทำรายงานในห้องเรียน(ห้องเรียนที่สาขาเป็นห้องเล็กๆ ส่วนห้องเรียนรวมซึ่งเป็นห้องใหญ่ เอาไว้สำหรับเรียนรวมทั้งคณะ) มีอยู่ครั้งนึง น้ำนั่งทำรายงานอยู่ ส่วนผมก็นั่งรอเพราะเป็นรายงานภาษาอังกฤษ ไม่มีปัญญาช่วยเธอทำหรอก ผมนึกบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ จู่ๆก็เดินไปยืนข้างๆเธอ น้ำเงยหน้าขึ้นมามอง ผมก้มลงไปจูบแก้มเธอเบาๆแล้วรีบยืนตรง ลุ้นว่าเธอจะด่าหรือเปล่า น้ำนั่งนิ่งตัวแข็ง ไม่คิดว่าผมจะกล้าทำบ้าๆในคณะ ผมยืนรอเสียงด่าแต่ไม่มี เหลือบมองดูก็เห็นเธอนั่งก้มหน้านิ่ง ไม่มีเสียงด่าแฮะ ผมรอจนยืนยันว่าไม่โดนด่าแน่ๆ คราวนี้ก็ค่อยๆก้มลงไปจูบเธอช้าๆอีกครั้ง น้ำเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่เธอยังใช้แป้งเด็กอยู่เลย ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจูบเด็กๆอยู่ ผมจูบเธอจนทั่วใบหน้าแล้วลองจูบเบาๆที่ริมฝีปากเธอ น้ำผงะหน้าหนี ผมว่าจะเลิกแล้วแต่ไหนๆก็มาถึงตรงนี้แล้ว ก็เลยใช้มือซ้ายประคองศีรษะเธอแล้วประกบริมฝีปากเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้น้ำนั่งนิ่งไม่หนีอีก ผมแซะปลายลิ้นที่ริมฝีปากเธอเบาๆเพื่อให้เธอเปิดปาก ต้องใช้เวลาซักพักกว่าเธอจะยอมเปิดปากให้ แต่พอลิ้นผมเข้าไปในปากเธอ ผมแทบหัวเราะก๊ากเพราะในปากเธอยังมีหมากฝรั่งอยู่ กลิ่นหมากฝรั่งหอมฟุ้งเลย ผมล้วงปลายลิ้นเข้าไปจนทั่ว น้ำนั่งนิ่งแต่มือที่จับปากกาเกร็งแน่นจนผมกลัวว่าปากกาจะหัก วูบนึงของความคิด ผมอยากจะใช้มือลูบไล้ให้ทั่วตัวเธอ สารภาพว่าตอนนั้นผมแข็งไปหมดทั้งตัวเลย แต่คิดไปคิดมาแค่นี้พอก่อนดีกว่า อีกอย่างนึง นี่มันในคณะ คงทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ คิดได้อย่างนั้นแล้วผมก็ค่อยๆถอนริมฝีปากออกจากเธอ น้ำนั่งเงยหน้า หลับตานิ่ง ซักพักเธอลืมตาขึ้นมา พอเห็นผมยังยืนมองดูอยู่ ก็หน้าแดง ก้มหน้าลงกับโต๊ะเขียนโน่นเขียนนี่วุ่นวายไปหมด ผมกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิม น้ำไม่พูดอะไรซักคำเลย ผมว่าเธอคงตกใจกับเรื่องเมื่อกี้นี้เพราะไม่คิดว่าผมจะกล้าทำอะไรบ้าๆกับเธอ ผมก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ นั่งรอจนกว่าเธอจะทำรายงานเสร็จ แต่ดูเหมือนวันนั้นเธอจะทำรายงานได้ช้ามาก กว่าจะเสร็จ ผมเลยต้องไปส่งเธอที่หน้าบ้าน ตลอดทางกลับบ้าน น้ำไม่พูดอะไรซักคำเลย แต่ผมเชื่อว่าเธอคงไม่โกรธ เพราะเท่าที่รู้จักกันมา ถ้าเธอโกรธ เธอจะแสดงออกมาทันที ไม่เคยเก็บอารมณ์เลย...
วันเวลาผ่านไป ตั้งแต่ที่ผมแอบขโมยจูบเธอวันนั้น รู้สึกเหมือนว่าเธอจะแสดงความเป็นเจ้าของมากขึ้น อย่าว่าแต่คนที่ผมแอบชอบเลย แม้แต่เพื่อนในสาขาด้วยกัน ถ้าน้ำเห็นว่าผมนั่งคุยกับเพื่อนผู้หญิงคนไหนแค่สองต่อสอง เธอจะทำไม่รู้ไม่ชี้เดินมานั่งคุยด้วยทันที จนเพื่อนๆหลายคนเริ่มรู้แกว ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนหลังๆมานี่ เวลาทำรายงานด้วยกัน ผมจะแอบหอมแก้ม แอบขโมยจูบเธอจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว จนเย็นวันนึง เราก็นั่งทำรายงานกันเหมือนเดิม ผมก็นั่งข้างๆดูเธอทำรายงาน เวลาเด็กเรียนตั้งใจทำงานเนี่ยมันดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบนึงนะ ผมอดใจไม่ได้ก็เลยเลื่อนเก้าอี้ไปจนติดเธอแล้วจูบเบาๆที่แก้ม น้ำหน้าแดง หันมายิ้มให้ ไม่ว่าอะไรเพราะผมหอมแก้มเธอจนชินแล้ว คราวนี้ผมบ้ากว่าเดิม เลื่อนโต๊ะทำงานที่เธอกำลังเขียนรายงานออกแล้วขยับเก้าอี้ผมมานั่งอยู่ตรง หน้าเธอ น้ำทำหน้างง ถามว่าผมจะทำอะไร ผมไม่ตอบ ขยับตัวจนชิดร่างของเธอ เอื้อมมือไปถอดแว่นของเธอวางบนโต๊ะแล้วประกบปากกับเธอ ตอนนี้เธอจูบเป็นแล้ว ไม่ต้องรอให้ผมใช้ปลายลิ้นแซะเข้าไป เธอเผยอริมฝีปากรอรับปลายลิ้นของผมก่อนเสียอีก เราแลกลิ้นกันอยู่นาน ผมค่อยๆโอบกอดเธอทั้งๆที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ น้ำขืนนิดนึงแต่ก็โอนอ่อนตาม เป็นครั้งแรกที่ผมกอดเธอแบบเต็มแขนอย่างนี้ ผมลูบไล้หลังเธอเบาๆจนทั่ว น้ำจับแขนของผมไว้ ผมตื่นเต้นมากๆเพราะนี่มันในห้องเรียน ถ้าเพื่อนหรืออาจารย์หรือนักการมาเห็น ผมกับน้ำซวยแน่ๆ แต่ความอยากมันมากกว่าความกลัว ผมลูบไล้หลังเธอจนทั่วแล้วก็ค่อยๆเลื่อนมือขวามาด้านหน้า แต่พออุ้งมือผมมาแตะที่ราวนม น้ำรีบตะครุบและพยายามดึงมือผมออก แต่บอกแล้วว่าขนาดเรื่องใหญ่ๆผมยังไม่กลัว แล้วแค่นี้จะไปกังวลอะไร ผมใช้มือซ้ายดึงตัวเธอเข้ามา ทำให้ทรวงอกค่อนข้างใหญ่ของเธอถูกดึงเข้ามาสัมผัสกับมือขวาของผมจนสนิท ผมได้ยินเสียงน้ำกระซิบเบาๆว่าอย่า แต่ห้ามไม่ทันแล้ว มือผมบีบเคล้นเต้าข้างซ้ายของเธอทันที น้ำสะดุ้งทั้งตัว พยายามจะเขยิบตัวออก แต่มือซ้ายผมรัดเธอไว้แน่นจนกลัวว่าเธอจะหายใจไม่ออกเหมือนกัน ปากผมยังประกบติดกับริมฝีปากของเธอแน่น เราดิ้นขลุกขลักๆอย่างนั้นซักพัก น้ำก็ค่อยๆสงบลง ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่เธอมีใจให้กับผมด้วย ผมลองใช้ฝ่ามือเคล้นเต้าของเธอเบาๆ มันแน่นเต็มฝ่ามือ น้ำแอ่นตัวนิดนึง ตอนนี้ผมไม่ต้องดึงตัวเธอเข้ามาอีกแล้ว ก็เลยดันตัวเธอติดพนักเก้าอี้แล้วเลื่อนมือทั้งสองข้างมาคลึงสองเต้านอก เสื้อเบาๆ
ผมถอนริมฝีปากจากริมฝีปากของเธอแล้วจูบจนทั่วใบหน้าก่อนจะมาไซ้บริเวณลำคอ น้ำหลับตานิ่ง มือของเธอตอนนี้มาโอบอยู่หลังผม กลิ่นแป้งเด็กบริเวณลำคอของเธอทำให้ผมแทบคลั่ง ไม่รู้สิ ผมแพ้กลิ่นแป้งเด็กหรือไม่ก็กลิ่นเด็กอย่างแรงเลย มือที่เคล้นเบาๆตรงหน้าอกเลื่อนไปที่สาบเสื้อ ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อออก แต่จะบอกว่ามันปลดออกยากมากเพราะมันเป็นกระดุมเงินเม็ดใหญ่ ในขณะที่รังดุมมันเล็กนิดเดียว ในหูผมได้ยินเสียงน้ำบอกแต่ว่าพอแล้ว พอแล้ว แต่ผมไม่สนใจฟังหรอก ทีแรกตั้งใจจะโชว์ฝีมือใช้มือเดียวปลดออก แต่ก็ต้องยอมแพ้ ขนาดใช้สองมือช่วยยังใช้เวลาพอสมควรกว่าจะปลดกระดุมสองเม็ดบนออกได้ ใจอยากจะซุกหน้าลงไปบนสองเต้าให้หายอยาก แต่จะบ้าตายเพราะเธอใส่เสื้อทับด้วย เบื่อจริงๆ ใส่แค่ยกทรงอย่างเดียวไม่ได้หรือยังไงก็ไม่รู้ ไอ้จะถอดกระดุมออกทุกเม็ดแล้วถอดเสื้อทับเธอออก มันดูจะเป็นเรื่องใหญ่เกินไปหน่อย เพราะเดี๋ยวถ้าเกิดปุ๊บปั๊บมีใครทะเร่อทะร่าเข้ามา มันจะเก็บไม่ทัน ก็เลยตัดสินใจซุกหน้าลงไปกับหน้าอกเธอทั้งๆที่ยังมีเสื้อทับอย่างนั้นแหล่ะ แต่แค่นั้นก็ทำให้เธอสะท้านได้เหมือนกัน ใบหน้าผมแนบสนิทกับเนินหน้าอกขาวผ่องที่อยู่เหนือเสื้อทับ สองมือล้วงเข้าไปเคล้นสองเต้านอกเสื้อทับหนักหน่วงขึ้น น้ำหายใจแรง นั่งนิ่งเงียบ ผมเอื้อมมือลงไปด้านล่างดึงชายเสื้อเธอออกจากกระโปรง พยายามล้วงมือลอดชายเสื้อเธอขึ้นไปเพราะอยากจะสอดมือเข้าไปภายในเสื้อทับ เพื่อเข้าไปจับสองเต้าเนื้อๆ แต่มันทำได้ยากเพราะเสื้อเธอเป็นแบบพอดีตัว ไม่เหลือที่ให้มือผมล้วงเข้าไปได้ เลยเปลี่ยนมาลูบไล้ต้นขาเธอ รู้สึกได้เลยว่าเธอขนลุกไปหมดทั้งตัว ต้นขาของเธอขาวผ่องตัดกับกระโปรงสีดำ ผมอยากจะล้วงมือเข้าไปในกระโปรง แต่ก็ทำไม่ได้อีกเพราะเธอนุ่งกระโปรงสั้นก็จริงแต่เป็นกระโปรงทรงเอ เพื่อนๆคงรู้จัก และคงรู้ว่ามันไม่มีโอกาสล้วงมือเข้าไปได้เลยเพราะมันพอดีช่วงขา ผมว่าจะรั้งกระโปรงขึ้นไป เธอก็นั่งทับอยู่ ก็เลยได้แต่ลูบไล้ไปมาอยู่นอกกระโปรงอย่างนั้น แต่สัมผัสภายนอกก็เพียงพอที่จะรู้ว่าเนินเนื้อตรงนั้นของเธอเป็นโหนกนูนขึ้น มาจนรู้สึกได้
ผมวนเวียนซุกไซ้อยู่บริเวณเนินหน้าอกเธอจนรู้สึกว่าคงทำอะไรไม่ได้มากกว่า นี้แล้ว ก็เลยค่อยๆเงยหน้าขึ้น น้ำนอนหลับตานิ่ง หน้าแดงกล่ำ บอกตรงๆว่าไอ้ตรงนั้นของผมมันแข็งไปหมดแล้ว แต่คิดว่าคงทำอะไรไม่ได้อีก เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน เพราะถ้าครั้งนี้เธอไม่ได้ต่อว่าอะไรผม ก็แสดงว่าผมยังมีโอกาสทำอย่างนี้อีกแน่ๆ น้ำนั่งหลับตาซักพัก ก็ลืมตาขึ้นมา รีบติดกระดุมและใส่เสื้อไว้ในกระโปรงเหมือนเดิม เธอต่อว่าผมเบาๆว่าผมรังแกเธอ ผมบอกว่าไม่ได้รังแก คนเป็นแฟนกันเค้าก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น น้ำนั่งม้วนอยู่ที่เก้าอี้เพราะไม่คิดว่าผมจะบอกว่าเธอเป็นแฟนผม ที่จริงผมก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นแฟนผมหรอก แต่ไม่รู้จะให้เหตุผลอะไรที่ดีกว่านั้น เชื่อมั๊ยครับ หลังจากนั้นอีกไม่ถึง 5 นาที นักการของคณะก็เดินตรวจสถานที่แล้วมาห้องที่ผมกับน้ำนั่งทำงานอยู่ เขาเข้ามาทักตามปกติแล้วฝากให้ช่วยปิดไฟให้ด้วย ผมเสียววาบเลย ถ้าเมื่อกี้ผมตัดสินใจปลดกระดุมแล้วถอดเสื้อทับเธอออก เหตุการณ์มันคงเลยเถิดไปมากกว่านั้น แล้วถ้านักการเข้ามาเห็น โทษหนักถึงไล่ออกเลยล่ะ...
เหตุการณ์วันนั้นทำให้ผมต้องระวังมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือน้ำแสดงความเป็นเจ้าของในตัวผมอย่างออกหน้าออกตา แต่ผมไม่ว่าอะไรแล้ว และชักอยากจะให้เธออยู่ใกล้ๆเหมือนกัน ยังรู้สึกเหมือนว่าสองเต้าของเธอยังอยู่ในมือผมอยู่เลย ไหนยังจะกลิ่นหอมจากตัวของเธออีก ผมเคยถามเธอตรงๆเหมือนกันว่าเธอไม่โกรธในสิ่งที่ผมทำเหรอ เธอตอบง่ายๆว่าเธอก็อยากรู้มาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้วว่ามันจะเป็นยังไง เพราะเธอเคยแต่ได้ยินได้ฟังอย่างเดียว ผมยังคิดในใจเลยว่าถ้ากูมีลูก กูไม่ส่งไปเรียนโรงเรียนอย่างนี้หรอก เพราะเดี๋ยวมันคิดแบบน้ำแล้วจะยุ่ง แต่ตั้งแต่วันนั้นมา เวลาเราอยู่กันเองสองคนไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ผมจะถือโอกาสกอดเธอจากด้านหลัง จูบไซ้หลังหูและลำคอ มือที่กอดอยู่ข้างหน้าจะลูบไล้เค้นคลึงสองเต้าภายนอกเสื้ออย่างมีความสุข แรกๆน้ำก็ปัดป้อง แต่พอบ่อยๆเข้า เธอก็ปล่อยให้ผมทำอย่างที่อยากทำ กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ผมอยากอยู่กับน้ำแค่สองต่อสองซะแล้ว

pinmonkey


luckkung8


manunited68


artbicon

อยากมีโมเมนแบบนี้บ้างจัง ไอ้เรามันเด็กช่าง มีแต่ ตุ๊ด กระเทย 55

forxonly8