ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ทีเด็ดหมอเสน่ห์ ตอนที่ 1 by Iczy

เริ่มโดย kitsana372, พฤศจิกายน 18, 2009, 08:53:04 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

kitsana372

ทีเด็ดหมอเสน่ห์ ตอนที่ 1  by  Iczy
September 14 2005 at 1:23 AM
No score for this post Iczy  (เข้าสู่ระบบ Iczy)

--------------------------------------------------------------------------------

ทีเด็ดหมอเสน่ห์
โดย กีย์เดอร์มิงค์เยอร์
พิมพ์โดย latepost
พิสูจน์อักษรโดย Iczy

"ผมรักคุณเหลือเกิน" จิมบราว หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำข้าวสารภาพกับสาวคนรักขณะที่โอบประคองไปตามลีลาของจังหวะสโลว์
"ค่ะ เช่นกัน" หล่อนกระซิบและซบหน้าลงไปที่แผ่นอกของเขา
   ท่ามกลางเสียงเพลงรักที่อ้อยอิ่ง บรรยากาศโรแมนติก เขาจูบเธออย่างดูดดื่ม ไฟบนฟลอร์หรี่ลงจนมืดสลัวซึ่งลินดาสาววัยรุ่นก็มิได้ขัดขืนดิ้นรนอะไรเลย เธอจูบปากกับชายคนรักอย่างดื่มด่ำหนำใจ ลืมเพื่อน ๆ ที่มาด้วยกันเสียสิ้น
   เพลงจบลง วงดนตรีเปลี่ยนจังหวะเป็น ช่ะช่ะช่ะ อันเร่าร้อน ลินดากับชายคนรักพากันกลับไปที่โต๊ะ เห็นเพื่อน ๆ พากันทะยานออกเต้น แต่ทันใดนั้น..หล่อนเบิกตากว้าง มีเสียงแผ่ว ๆ หลุดออกมา
"ตายจริง..คุณแม่ลินมา" จิมบราวและแฟรงค์เพื่อนคู่หูหันขวับไปมองตามสายตาหล่อนพร้อม ๆ กัน เห็นสาวใหญ่ร่างสูงสง่ามากับเพื่อนชายวัยอ่อนกว่ามากมายนัก
"คุณนายลอร์เร้น" จิมบราวพึมพำเบา ๆ ขณะที่แฟรงค์เลิกคิ้วสูง
"คนนั้นหรือ คุณแม่คุณ"
"ค่ะ" เด็กสาวตอบด้วยสีหน้าไม่สบายใจ ท่าทางกระสับกระส่ายจนเห็นได้ชัด
"ลิน..ต้องหลบไปก่อนนะคะ..เดี๋ยวคุณแม่เจอเข้าละยุ่งแน่เชียว..ลินปิดว่าไปท่องหนังสือบ้านเพื่อน"
   จิมบราวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เด็กสาวผลุนผลันลุกขึ้นยืน
"ผมจะไปส่ง"
"อุ๊ย..ไม่ต้องค่ะ..ขอบคุณ"
   หล่อนก้าวยาว ๆ รีบร้อนออกไปท่ามกลางเสียงเพลงไพเราะเสนาะโสต
"ไม่น่าเชื่อว่าเป็นแม่ลูกกันเลย"
"ทำไมรึ.." จิมบราวถามยิ้ม ๆ
"ก็ ราวกับพี่น้องกันมากกว่าน่ะซี..เอ..ไอคิดว่าคุ้น ๆ กับกับหน้าตาของคุณนยลอร์เร้นคนนี้ชอบกล"
"คุณนายลอร์เร้นร่ำรวยมหาศาล เป็นข่าวอยู่ในสังคมเสมอ ผัวเป็นนักวิทยาศาสตร์ขั้นหัวกะทิที่ไม่ค่อยจะยุ่งอะไรกับเมีย ทุกอย่างอยู่ที่เมียคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าธุรกิจการงานที่คุณนายแกเป็นหุ้นส่วนอยู่มากมาย ดูเหมือนจะออกทุนให้พวกที่มีโครงการริเริ่มที่ดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้าหรือการอุตสาหกรรม"
"แหม..ยูรู้มากจัง"
"ใช่ซี.." จิมบราวพยักหน้าและพูดต่อ
"คุณพ่อของไอกับคุณนายสนิทกันมาก"
"แต่อะไรก็ไม่น่าสนเท่ากับคุณลินดานั่นหรอก สวยจับใจจริง ๆ" แฟรงค์พึมพำ ยกเหล้าสก๊อทซ์ขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
"ยู..เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ สวยมันทั้งนั้น ไม่ว่าใคร"
แฟรงค์หัวเราะแหะ ๆ
"ก็จริงนี่นา..ลูกกับแม่ตัดสินใจยากว่าใครจะสวยกว่าใคร"

   เสียงกระซิบวิจารณ์ของเขาขาดหายไปเมื่อปรากฎว่ามีร่างของใครคนหนึ่งมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ จิมหันขวับไปมองแล้วเบิกตากว้าง
"คุณนาย..เอ้อ..คุณน้า" กลิ่นน้ำหอมอย่างดีโชยออกมาจากร่างที่ยืนสง่า พลางเอียงคอมองอย่างเก๋
"มาเที่ยวไนท์คลับเชียวหรือจิม น้าจะไปฟ้องพ่อคุณพ่อให้เฆี่ยนเธอเสียเชียวถ้าไม่เลี้ยงวิสกี้สักแก้วนึง.." จิมรีบรินเหล้าส่งให้แต่หล่อนทำตาหวานกล่าวขอบคุณก่อนผละจากไป
"แหม..ยวนหัวใจจริงวะ คนอะไร..เสน่ห์พราวไปหมดทั้งตัว" แฟรงค์รำพึง สองตามองคุณนายลอร์เร้นจนลับกาย

   ขณะขับรถออกจากไนท์คลับสคารเมเนอร์แห่งนิวยอร์คนั้น จิมเต็มไปด้วยความครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ
"น่าเล่น"
"เล่นใคร.." แฟรงค์นั่งเคียงข้างถามอย่างงง ๆ
"ทั้งแม่ทั้งลูก"
"เฮ้ย..แบ่งคนซิ.." จิมหัวเราะเบา ๆ กล่าวขึ้นอีก
"ลูกก็หน้าหวาน นัยน์ตาคมวาว ท่าทางจะร้อน ๆ อยู่เหมือนกันนา"
"จริงซีโว้ย..พับผ่า..ทั้งอวบทั้งเพรียว..ผู้หญิงแบบนี้.." แฟรงค์กระซิบและดูดปากจ๊วบ
"ถึงว่าซี..ลูกสาวก็เยิ้ม..แม่ก็ยังเสน่ห์แรงเป็นบ้า..หูตาชม้าย..เย้ายวนยังกะสาวรุ่น ๆ" แฟรงค์ดูดปากอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมา
"ไม่น่าเชื่อว่าคุณนายจะมีลูกสาวโตอย่างนั้น..แต่พูดก็พูดเถอะแฮะ..ถึงแสองแม่ลูกจะสวยเท่ากัน แต่เสน่ห์ของลูกสู้แม่ไม่ได้เด็ด"
"อ้าว..ก็ที่เขาว่ากระท้อนน่ะแหละ แต่ว่ามีผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่ยังงั้นอาจจะถูกทุบจนชอกช้ำ กระทั่งหายหวานไปแล้วก็เป็นได้"
"ไม่แน่นา..เพื่อนนา" แฟรงค์ทำเสียงขึงขัง
"อาจจะไม่ชอกช้ำอะไรเลย เพราะไม่ได้ถูกทุบสมใจ..ถึงได้ร่อนเร่ออกมาเที่ยวเตร่กลางค่ำกลางคืนยังงี้"
"ก็..เลยหวานสนิทติดใจ" จิมหัวเราะลั่น
"งั้นเรอะวะ..แฟรงค์..ถ้างั้นเพื่อนชอบใครล่ะ.ระหว่างแม่กับลูกคู่นี้"
   เพื่อนหนุ่มได้ฟังก็ทำตาปรอย
"ไอ้เรามันคนตะกละเสียด้วยซี..ตัดสินใจไม่ถูก"
   เขาตบไหล่ฉาดเข้าให้ พลางร้องตะโกนแข่งกับเครื่องยนต์ด้วยเสียงบันเทิง
"ใจเดียวกันโว๊ย..แฟรงค์" แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะก๊าก

   ในเวลาไล่ ๆ กันนั้น คุณนายลอร์เร้นผู้กระทำตัวให้เป็นนางในฝันของเด็กหนุ่มทั้งหลายก็กำลังมุ่งหน้ากลับบ้านเช่นกัน
   ด้วยสมองที่พร่ามึนด้วยฤทธิ์เหล้า คุณนายทอดหลังกับพนักอันอ่อนนุ่ม ปรือตาดูไบรอัน สารถีผู้เป็นโชเฟอร์ซึ่งแกร่วรอหล่อนมาตั้งแต่หัวค่ำด้วยความเห็นอกเห็นใจที่เพิ่งผุดขึ้นมา เมื่อช่วงเวลาแห่งความสนุกผ่านไป
"ช้าหน่อยนะ..ไบรอัน..คืนนี้"
"ไม่เป็นไรครับ"
"เพื่อน ๆ เขาดึงฉันไว้น่ะ ไม่งั้นก็ได้กลับนานแล้ว..ขับไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน..ฉันอยากจะนั่งกินลมเล่นซักหน่อย ถึงบ้านช้าก็ไม่เป็นไร"

   ความคิดของหล่อนขณะนั้นฟุ้งซ่าน ลินดา ลูกสาวคนเดียวของหล่อนกลับมาจากบ้านเพื่อนหรือยัง..สจ๊วดไวเลอร์ สามีผู้คลั่งประดิษฐ์คิดค้นในด้านวิทยาศาสตร์ป่านนี้คงจะง่วนอยู่กับผลงานในห้องทดลอง การงานในความรับผิดชอบที่มากมายจนหล่อนอยากจะลืม..ลืมมันเสียสักระยะหนึ่ง หรือจะลืมไปได้โดยตลอดชีวิตก็ยิ่งดี
   แต่นั่นทั้งหมดของหล่อน..ความหวัง ความฝันที่จะสร้างฐานะตัวเองให้ร่ำรวยมหาศาลโดยไม่มีวันหยุดยั้งหรือเพียงพอ ความหวังนั้นกลายเป็นความจริงขึ้นมา หล่อนกลายเป็นเจ้าของกิจการหลายต่อหลายสิบแห่ง เป็นประธาน เป็นผู้อำนวยการ เป็นกรรมการผู้จัดการกิจการค้าหลากหลาย จนกระทั่งจำไม่ได้เสียแล้วว่ามันมีอะไรบ้าง
   ความร่ำรวยหรือ หล่อนสร้างสมเอาไว้จนเพียงพอที่จะนั่งกินนอนกินไปอีกสักสิบชาติก็ไม่หมด ความภาคภูมิใจหรือ..แน่ล่ะ..หล่อนภูมิใจในความสามารถของตัวเองไว้อย่างเต็มที่ แม้จะมีคนหยามหยันให้เข้าหูว่าหล่อนเป็นคนแข็งกร้าวหยาบคายร้ายกาจต่อลูกน้อง เอาการเอางานยิ่งกว่านักบริหารที่เป็นผู้ชายบางคน

"แต่ฉันก็ให้การตอบแทนอย่างจุใจ" ลอร์เร้นบอกตัวเอง
"งานต้องเป็นงาน แต่คนที่กินเงินเดือนจากฉันต้องยอดเยี่ยมที่สุด ไม่เคยมีใครที่ไร้ความสามรถจะทำงานร่วมกับฉันได้..การประจบประแจงอาจจะช่วยให้คนได้ดิบได้ดีมานับไม่ถ้วน แต่นั่นต้องไม่หมายความถึงคนที่ทำงานกับลอร์เร้น"
   เกียรติยศหรือ..หล่อนไม่จำเป็นต้องอาศัยจากผัวที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกในฐานะคุณนาย..แต่หล่อนไขว่คว้าให้ตัวเองได้อย่างน่าปลื้มใจ ไม่ว่าใคร ๆ ก็ยินดีโค้งให้อย่างสวยงาม สรรเสริญเยินยอได้สุดหวานทั้งนั้น ด้วยเงิน ด้วยความสามารถและด้วยเสน่ห์ที่หอมหวลทวนลมอยู่ในสังคม
   ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นยอดปรารถนาของมนุษย์..หล่อนได้มันมาครอบครองอย่างครบถ้วนแล้ว..ถ้าเช่นนั้นหล่อนควรจะต้องการอะไรต่อไป ความสุข..ลอร์เร้นตอบตัวเองอย่างแน่ใจ ฉันยังไม่แก่จนเกินไปนัก ในเมื่อฉันมีเงินและความเฉลียวฉลาดที่จะบำรุงตัวให้งามพริ้งอยู่เสมอ
"ฉันต้องสะสวย เลอโฉมอยู่ตลอดไป"
   หล่อนรำพึงกับตัวเองอยู่อย่างเคลิบเคลิ้มขณะที่รถแล่นใกล้บ้านเข้าไปทุกขณะ แต่ความสวยนี้มีไว้เพื่ออะไรกัน มีไว้ประดับความงามให้กับโลกหรือมีไว้เพื่อให้ชายเชยชม
แก้มหล่อนอุ่นวาบ นึกถึงชายคู่เต้นรำที่จากกันมาสด ๆ ร้อน ๆ เขาเป็นหนุ่มฝรั่งเศส พูดจาสุภาพเรียบร้อย หุ่นงามเป็นบ้า ใบหน้าเข้มนัยน์ตาคม โดยเฉพาะหนวดเรียวเหนือริมฝีปากนั้น ยามยิ้มช่างทรมานใจสาวเสียเหลือเกิน
"คุณสวย"
"ชั้นสวยเรอะคะ..คนแก่อย่างชั้น..คุณปิแอร์เห็นสวย..ตายแล้ว" ลอร์เร้นทำเสียงตกอกตกใจแต่สีหน้ายิ้มแป้นไปเลย โธ่..ผู้หญิงสาวใหญ่ขนาดเธอลองมีคนหนุ่ม ๆ มาชมว่าสวยแล้ว รายไหนรายนั้นอดดีใจจนออกนอกหน้าไม่ไหวหรอก
   หล่อนเต้นรำกับเขาเพลงแล้วเพลงเล่า มือไม้ของชายหนุ่มอยู่ไม่สุข เริ่มไต่เดี๊ยะไปตามจุดยุทธศาสตร์ซึ่งเธอเองก็แสร้งทำเฉยเสีย เรื่องมันก็เลยลามไปยกใหญ่ เขาเต้นแบบลวดลายกอดรัดเอวเธอแน่น จมูกไซร้ไปตามซอกคอเธอตลอดเวลา เธอก็ไม่ยักออกปากว่ากระไรเหมือนไม่อนาทรร้อนใจ
   จะอนาทรอันใดเล่าในเมื่อหัวใจของลอร์เร้นก็กำลังปรารถนาในเรื่องที่ปิแอร์ต้องการอยู่เช่นกัน พอไนท์คลับเลิก เธอจึงออกปากอำลา
"สวัสดีนะคะ..แล้วค่อยพบกันใหม่ค่ะ..ปิแอร์"
"โธ่..ลอร์เร้น..ผมยังไม่อยากจากคุณเลย" เขารำพันแผ่ว ๆ
   เธอทำเหลียวซ้ายแลขวาล่อกแล่กก่อนจะกระซิบบอกเขาว่า
"ไว้คืนพรุ่งนี้นะคะ..อย่าใจร้อน" ปิแอร์จำใจพยักหน้า
"ครับ..ผมจะมารอคุณที่นี่..อย่าลืมเสียนะครับ"

เสียงห้าว ๆ ปลุกหล่อนให้ตื่นจากภวังค์อันหวานฉ่ำ
"ถึงบ้านแล้วครับ คุณนาย" ลอร์เร้นกระพริบตาถี่ ๆ ผงกศีรษะขึ้นมามองแล้วก็ฝืนยิ้ม ขณะนั้นไบรอั้นลงมาเปิดประตูให้หล่อนเรียบร้อย
"ขอบใจ ไบรอั้น" หล่อนฉวยกระเป๋าก้าวลงจากรถอย่างกระฉับกระเฉง
"เอ้า..เอาไปซื้อกาแฟกิน" หล่อนหยิบธนบัตรออกมาส่งให้ไบรอั้น โชเฟอร์ผู้ซื่อสัตย์โค้งคำนับอย่างนอบน้อม
"ขอบคุณครับ"
"เขาน่าจะพูดว่าขอบพระคุณครับ จะฟังรื่นหูกว่านี้" ลอร์เร้นนึกในใจ

   เย็นวันรุ่งขึ้น สจ๊วดไวเลอร์ สามีของลอร์เร้นเต็มไปด้วยความแปลกใจเมื่อแว่วเสียงเมียครวญเพลงออกมาจากห้องน้ำอย่างเป็นสุข
"เออ..เมียของฉันนี่ยังสวยไม่สร่าง" เขาถอนลมหายใจรำพึงเพราะยังมองไม่เห็นว่าหล่อนจะแก่เฒ่าเหลาเหย่ตรงไหนสักแห่งเดียว ไม่ว่าเรือนร่างอันสูงสง่า ร่างอวบอัดผิวพรรณขาวผ่องไม่ผิดอะไรกับแตงร่มใบ ส่วนอกที่อวบสล้างเต็มไปด้วยเนื้อหนังมังสาที่ผู้ชายถอนใจยาวเกือบทุกคนไปเมื่อได้มองเห็นสะเอวอวบอ่อนที่ยั่วยวน ชวนความรู้สึกดีกว่าสะเอวอันคอดกิ่วปราศจากชีวิตชีวาของหญิงสาวทั่วไป แล้วก็สะโพกของหล่อนเล่า..ให้ดิ้นตายสิ มันแผ่ขยายตึงเครียดน่าหลงใหลเต็มไปด้วยเสน่ห์ลึกลับพึงน่าพิศวาสตามแบบฉบับสาวใหญ่ที่สวยดุเดือดกระไรปานนั้น
   ร่างขาวท้วมพราวไปด้วยเม็ดน้ำ มันเกือบจะเปลือยหากว่าไม่มีผ้าขนหนูผืนนั้นคลุมร่างอยู่อย่างหมิ่นเหม่ หล่อนเอี้ยวร่างสะบัดศีรษะจนผมสีแดงเพลิงกระจาย มือหนึ่งกุมอยู่ที่ปมผ้าขนหนูอีกมือกุมผมที่ต้นคอ ผ้าขนหนูผืนนั้นปิดเพียงทรวงอกกับสะโพกอย่างไม่อินังขังขอบอะไรเลย ต้นขาอวบใหญ่ขาวสล้าง พราวไปด้วยเม็ดน้ำ เป็นช่วงขาที่แข็งแรงไปด้วยหนั่นเนื้อและยวนเสน่ห์ผัวของหล่อนเสียนี่กระไร
   ทรวงอกกระเพื่อมเป็นรูปรอยตามขอบผ้าเช็ดตัว รูปทรงของมันแม้จะไม่เต่งตั้งอย่างสาวรุ่น ๆ แต่ความอวบสล้างที่คล้อยลงมานิดหน่อยก็งามสะพรั่งจนสจ็วดมองอย่างตะลึงงัน ลอร์เร้นหันมามองผัวของหล่อนแว่บหนึ่งแล้วพูดว่า
"มองอะไรคะ.."
"เมีย.." เสียงเขาเหมือนคนละเมอ หล่อนปรอยค้อนผันร่างเยื้องกรายไปอยู่ที่หน้ากระจกเงา ริ้วรอยของผ้าเช็ดตัวที่แหวกไปตามท่าเดินของหล่อนทำให้สจ๊วดร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า ลอร์เร้นยกชายผ้าเช็ดตัวขึ้นซับน้ำตามคอ เนินไหล่และเหนือทรวงอก สะบัดผมให้กระจายไปทางเบื้องหลัง แล้วก็สบตากับผัวของหล่อนในกระจกอย่างบังเอิญ
"อุ๊ย..มองอยู่นั่นแหละ..ไม่รู้จักเบื่อหรือคะ"
"ไม่มีวันหรอก" เขาก้าวเข้ามาหยุดยืนทางเบื้องหลัง ลมหายใจฝืดจนขัดเมื่อเห็นหล่อนปลดปมผ้าขนหนูออกมาพันไว้รอบสะเอว ห้องนั้นราวกับจะสว่างจ้าขึ้นมา ความอวบอัดของก้อนเนื้อทั้งสองดูขาวสล้างเต็มอก มันกระเพื่อมพลิ้วอย่างมีชีวิตชีวา จุดแดง ๆ ทั้งสองตรงปลายยอดนั้นทำให้ผัวมองหล่อนแล้วรู้สึกลำคอแห้งเป็นผุยผงขึ้นมาทันที
   อนิจจา..เขาหลงอยู่ในผลงานของเขาอย่างบ้าคลั่งมิได้เอาใจใส่กับลูกเมียเลย บางวันเขาอยู่ในห้องทดลองทั้งวันทั้งคืน แม้กระทั่งอาหารการกินก็แทบจะไม่แตะต้องเลย
"ลอร์เร้น.." เขาครางเหมือนคนเป็นไข้ ลอร์เร้นค้อนเขาในกระจกอย่างคมคายก่อนจะหยิบโคโลญจ์มาชโลมทรวงอกและซอกขา กลิ่นของมันระเหยหอมอยู่ในห้องอันสวยสดงดงาม หล่อนปลดผ้าขนหนูผืนนั้นเหวี่ยงไปอย่างไม่แยแส
   ร่างของหล่อนก็ราวกับรูปปั้นที่ยืนระทวยอยู่ต่อหน้าต่อตาผัวผู้ลืมเมีย แม้เวลาสมสู่อยู่กินกันมาถึง ๒๐ ปีจะผ่านพ้นไป แต่โอกาสที่จะได้พบเมียในสภาพนี้มันยากเย็นแสนเข็ญเสียนี่กระไร
"เมียจ๋า.." เขาครางพร้อมกับผวาเข้ามากอดสะเอวหล่อนไว้อย่างแน่นหนา ลอร์เร้นเพียงแต่บิดเบือนอย่างยั่วยวน
"อย่าค่ะ..สจ๊วต" เขาซบหน้าอันร้อนผะผ่าวกับต้นคอของเธอเกลือกกลิ้งไปทั่วอย่างหิวกระหาย
"เมียหอมเหลือเกิน"
"อย่าค่ะ..ลอร์เร้นจะแต่งตัว"
"จะไปไหนกัน..อยู่กับผัวเถอะ"
"แต่มันเป็นเรื่องการงานนะ สจ๊วต" เสียงของหล่อนเครือพร่า อดรู้สึกร้อนวูบวาบไปตามหลังไหล่และซอกคอไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ตาม ลมหายใจอันเร่าร้อนของนายสจ๊วตก็ทำให้หัวใจของหล่อนเต้นระทึกระทวยอย่างน่าอัศจรรย์
"ปล่อยค่ะ..สจ๊วต..ลอร์เร้นอาบน้ำแล้วนะ"
"ช่างปะไร.."
"ดื้อจริง" หล่อนเพ้อเสียงอ่อน ๆ มือของสจ๊วตไขว่คว้าไปเบื้องหน้าคลึงเคล้นถันงอนช้อยบนทรวง
"อุ๊ย..สจ๊วตขา.." หล่อนอุ่นซ่านขึ้นมาอย่างฉับพลันจนต้องเอนหลังพิงอกของเขาไว้
"อุ๊ย...เจ็บนะ..สจ๊วต"
"เธอชอบไม่ใช่หรือ.."
"บ้า.."หล่อนค้อนหน้าแดงระเรื่อแต่นัยน์ตาแวววาว
"บ้าใหญ่แล้ว..สจ๊วตนี่..ปล่อยนะ..ลอร์เร้นจะรีบไป"
"เดี๋ยวก่อนไม่ได้หรือ"
"ไม่ได้หรอกคะ..เรื่องงานที่สำคัญมาก" หล่อนว่าพร้อมกับผละร่างออกห่าง ครั้นเห็นหน้าตาเขาแดงก่ำ ทรวงอกสะท้อน ริมฝีปากแห้งผากเช่นนั้นก็ส่ายหน้าก้มลงหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันกายเอาไว้ตามเดิม
   สจ๊วต ไวเลอร์ถอนหายใจเฮือกพร้อมกับเข้าไปหาเมีย แต่หล่อนยันอกเขาไว้
"ใจเย็น ๆ ซีคะ.."
"เย็นไม่ไหวแล้ว" ขาดคำ เขากระตุกผ้าขนหนูผืนนั้นออกไปแล้วโอบประคองลอร์เร้นมายังฟูกอันอ่อนนุ่ม หล่อนนอนระทวยขวางเตียง สะโพกผึ่งผายพาดอยู่เสมอแง่ ให้ตายดับไปซี..โยนีของลอร์เร้นใหญ่ระรานอะไรเช่นนั้น ม่านหมอยสีทองปกคลุมอยู่บนเนินเนื้อที่ขาวผ่อง กลีบแคมแต่ละข้างแย้มเผยอแยกออกจากกันเพราะหล่อนจงใจถ่างท่อนขาทั้งสองข้างเพื่อยั่วยวนนัยน์ตาของสามี
"เห็นไหมคะ..งามไหมคะ" หล่อนกล่าวเมื่อเห็นเขาตลึงจังงัง สจ๊วตผู้ห่างรสสวาทมานานเมื่อมาเห็นหีเมียเช่นนี้เลือดลมของเขาก็ร้อนวูบวาบ ทรุดเข่าลงไปในหว่างขาของหล่อนและก็ในทันใดนั้น ใบหน้าของเขาก็ฟุบลงไปที่โคกสวาท หนวดเครายาวเฟื้อยและผมเผ้ายาวเป็นรากไทรที่ฮิปปี้เอาไปเลียนแบบ ก็คลึงเคล้าลงไปอย่างมิได้รังเกียจเลย
"อูย..สจ๊วต" หล่อนผวาครางออกมาตัวสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกบอกตัวเองว่าให้รู้ว่าสองฝ่ามือของเขา..แหวกแคมสวาทจนเผยออกและใช้ปลายลิ้นละเลงปลายแตด
"เสียวจะตายแล้ว..ซี๊ด..อูย" หล่อนบิดสะโพกยักย้ายพลอยพาให้หนวดยาวเหนือริมฝีปากเสียดสีกับริมแคม
"ลอร์เร้นทนไม่ไหวแล้ว..อูย..ผัวขา..เงี่ยนอะไรอย่างนี้..โอย..เย็ดซีคะ" เขาหัวเราะชอบใจ ดุนลิ้นอันสากสีแดงสดเข้าไปคว้านกลีบสวาทเป็นการใหญ่ มิไยหล่อนจะร้องครางอย่างน่าสงสารและดิ้นรนด้วยความสยิวก็ช่างปะไร

   เขายังคงเลียหีเลียแตดอย่างไม่หยุดยั้ง และก็ในทันทีทันใดนั้น...สมองอันปราดเปรื่องของสจ๊วต นักวิทยาศาสตร์ลือนามก็รายงานด่วนจี๋ให้รู้ว่า รูสวาทของลอร์เร้นผู้เฉิดโฉมมีอุณหภูมิผิดปกติขึ้นแล้ว มันอบอุ่น สลับกับร้อนวูบวาบเป็นบางครั้ง แตดสั่นระริก แคมนอกแคมในกระหมิบยิบ ๆ กลีบแต่ละข้างพองขยายผงาบ ๆ
"สำเร็จแล้ว..สำเร็จแล้ว" เขาแหงนหน้าพึมพำและหัวเราะร่า..ร่างที่คุกเข่าค่อย ๆ ทรงตัวขึ้นยืนเชิดอกนัยน์ตาวาวโรจน์ เดินจากร่างอ่อนระทวยของเมียคนสวยตรงเข้าห้องทดลองอย่างไม่อาลัยใยดี ตลอดทางพูดแต่คำว่า
"สำเร็จ..สำเร็จ..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า.."
"นี่เขาวิกลจริตไปแล้วหรือ" ลอร์เร้นผุดขึ้นนั่งอย่างเดือดดาล
"โธ่..ช่างไม่เห็นหัวอกของเมียเลยนะ..คนบ้า..มาทำให้เค้าเงี่ยน..แล้วก็ผละจากไป..คอยดูฉันบ้างซี..เธอได้แต่พูดว่าสำเร็จ ๆ แต่กับฉันเล่า..สำเร็จบ้างหรือเปล่า"
ลอร์เร้นแค้นใจ สะบัดสะโพกนวยนาดเข้าห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้หล่อนไม่ได้ฮัมเพลงเลย คงได้ยินแต่เสียงน้ำแตกซ่าเพื่อดับอารมณ์กระสันต์ของตัวหล่อนเองกระมัง

หล่อนพบกับปิแอร์ที่เก่าก่อนเวลานัดเสียอีก
"ผมดีใจเหลือเกิน" ชายหนุ่มกระซิบบอกหลังจากดื่มยินโทนิคเป็นแก้วที่สามเข้าไปจนร้อนผ่าวในกระเพาะ
"งั้นเดี๋ยวเราไปที่ทอล์คออฟทาวน์เลยได้ไหมคะ"
"ได้ซี..ผมจะไปรอคุณที่นั่น..แต่ไม่เต้นรำกันก่อนหรือครับ"
"ไม่.." หล่อนประสานสายตากับเขา จิตใจเต้นระทึก อารมณ์สวาทที่ผัวจุดให้ยังกรุ่นอยู่ในอกไม่จาง ลอร์เร้นนั่งบูอิกคันใหญ่ของเธอไปก่อนตามลำพัง พอถึงที่นั่นก็สั่งให้คนขับเอารถจอดรอพร้อมกับยื่นให้ร้อยดอลลาร์พลางจ้ำอ้าว ๆ ขึ้นไปตรงบันไดก็พบเขายืนคอยอยู่แล้ว
"ผมมาเร็วไหม..ดาร์ลิ่ง" เขาถามพร้อมกับถือวิสาสะดึงร่างเธอมาสวมกอดเบา ๆ ราวกับรู้จักสนิทสนมกันมานานเน ลอร์เร้นหัวเราะ ใบหน้าหวานซึ้ง มองชายหนุ่มด้วยตาหวานหยาดเยิ้ม
"ยังกับปีศาจแน่ค่ะ..หายตัวได้หรือยังไงคะ" เขาไม่ตอบ แต่ประทับจมูกลงบนริมฝีปากเธอแทน
"จูบคุณเมื่อคืน..ทำให้ผมมาที่นี่เหมือนเหาะ เพราะผมแน่ใจว่าคุณจะต้องให้ผมจูบอีก..ซี๊ด..ชื่นใจบอกไม่ถูก" ว่าแล้วเขาก็ก้มลงซดอีกครั้ง พอดีแสงไฟรถจากถนนผ่านวูบมาเสียก่อน ปิแอร์เลยดึงข้อมือลอร์เร้นหลบลงบันไดไปทางที่จอดรถใต้ถุน
"เราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันให้เป็นสุขนะ"
"อย่าให้ใครเห็นนะคะ..เดี๋ยวเอาไปลงข่าวสังคม..ต๊ายตายเลย"
"โธ่..ไปกะผมอย่ากลัวเลยครับ" เขาพูดเหมือนผู้ยิ่งใหญ่ พอดีเดินถึงรถสปอร์ตคันงาม ปิแอร์ยอดนักรักจากปารีสเปิดประตูให้ลอร์เร้นเข้าไปนั่งก่อนแล้วจึงเลื่อนกายเข้าไปนั่งชิด ก่อนจะสตาร์ทเครื่องเข้าเกียร์นำรถเคลื่อนออกไป เขาไม่ลืมที่จะโอบรั้งเธอมาจุมพิตอย่างดูดดื่มอีกหน มันยิ่งเพิ่มความระอุคุกรุ่นให้กับหล่อนจนหูอื้อนัยน์ตาลาย
   หล่อนยอมแล้ว ไม่ว่าเขาจะพาไปที่ไหน ๆ แม้กระทั่งจะพาไปเริงสวาท หล่อนก็ยอมพลี..เพราะสามีตัวดีนั่นเองที่เป็นต้นเหตุ..ผู้ชายอะไร..หล่อนยังแค้นใจไม่หาย
"ฉันจะชั่วล่ะ..แม้เธอจะประณามว่าฉันเล่นชู้ก็ตามทีเถิด..ฉันทนไม่ไหวแล้ว"
   รถสปอร์ตคันงามตะบึงไปทาง อัลบานี่ นิวยอร์คแล้ววกเข้าสู่ถนนเดลาแวร์ ก่อนจะถึงดัดลี่ย์ปาร์ครถก็เลี้ยวเข้าคูหามืดสลัวแห่งหนึ่ง โดยไม่ต้องพูดพล่ามถามอะไรกันมาก เพราะปิแอร์บอกเธอด้วยจมูกก็พอเพียงแล้ว เมื่อเข้าไปถึงในห้องที่เต็มไปด้วยกระจกเงา เขาอุ้มเธอขึ้นเตียงทันที ลีลารักของคนฝรั่งเศสนี่ไม่เลวเลย เธอนึก
"ผมอยากจะจูบ"
"แล้วใครห้ามหรือเปล่าล่ะคะ.." คราวนี้เขาวางริมฝีปากร้อนผะผ่าวลงบนริมฝีปากอวบอ่อนของหล่อน...ลิ้นต่อลิ้นตวัดพัวพันอย่างเร่าร้อน ลอร์เร้นทำหน้าเหมือนคนสำลักลมหายใจ อ้อมแขนอรชรโอบรัดไปรอบคอเขาแน่น ชั่วครู่ใหญ่ ๆ ปิแอร์จึงถอนริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้า
"เป็นไงบ้างคะ.." หล่อนถามกระซิบ
"ไม่เลว..."
"ต้องการแค่นั้นหรือคะ"
"ใครบอกล่ะ.." เขาทำตาโต
"ผมอยากจะกลืนร่างคุณเสียด้วยซ้ำไป"
"โอ...น่ากลัวจัง" เขาปลุกปล้ำถอดกระโปรงของหล่อนออก ลอร์เร้นขัดขืนพอเป็นพิธี ต่อจากนั้นร่างของเธอก็เปลือย หล่อนหลุบเปลือกตาอย่างอ้อยอิ่ง ริมฝีปากเผยอเหมือนจะท้าทาย ทรวงอกเบ่งตระการไหวกระเพื่อมอาบแสงไฟจนนัยน์ตาของปิแอร์ฉายแววลุ่มหลงอย่างชัดแจ้ง
"เท่านั้นหรือคะ.." หล่อนถามยวนโดยไม่ลืมตา ปิแอร์คำรามเหมือนคนบ้า ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนล่อนจ้อน
"อุ๊ย..ปิแอร์" เสียงของหล่อนตื่นตระหนก และรีบปิดเปลือกตาลงทันที
"ถึงเพียงนี้ทีเดียวหรือคะ..ปิแอร์"
"ครับ.."
"แหม..น่ากลัว.."
"แล้วของคุณล่ะ.."
"วุ๊ย..พูด.." พวงแก้มของหล่อนร้อนวาบ แววสะเทิ้นปรากฏขึ้นในแววตาจนต้องเลื่อนมือมาปิดบังของสงวนเอาไว้ แต่มันช้าไปเสียแล้ว มืออันแข็งแรงของชายหนุ่มยื้อยุดเอาไว้อย่างรวดเร็ว
"ปิแอร์ขา..ลอร์เร้นอายเธอ" เขาไม่ได้พูดกับหล่อนในขณะนั้นแต่จมูกปากและอุ้งมือของเขาเป็นผู้ตอบแทน จากหน้าท้อง สะเอว ส่วนโค้งของตะโพกอันผึ่งผายและก็ถึงเนินนูนอำไพที่เขาวนเวียนเคล้าคลึงอยู่ไม่สร่างซา ปิแอร์ตอบหล่อนด้วยมือ ด้วยปาก ด้วยลิ้น ด้วยความเป็นหนุ่มฉกรรจ์ที่ทำให้หล่อนร้องคราง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"โอย..ปิแอร์ขา..จะแยงเล่นไปถึงไหน..อูย..ซี๊ด"
"หีของคุณน่า..เย็ด"
"แล้วทำไมช้านักล่ะ" หล่อนครางสยิวเมื่อแตดถูกนิ้วเสียดสี

   ดังนั้น เหมือนจะทนรอคอยเวลาอันทรมานจิตใจต่อไปไม่ไหว เขารีบเบียดกายเข้าไปในหว่างขาหล่อนทันที ท่อนควยอันแข็งโด่หัวบานกระดกหงึก ๆ เมื่อได้กลิ่นพิศวาสจากรูโยนี เขารีบจับขาทั้งสองข้างของหล่อนแยกออกจากกัน และในทันใดนั้น แคมสวาทของหล่อนก็อ้าเผยอแดงแจ๋..มองเห็นเม็ดแตดเต้นระริกแพลมโผล่ออกมายั่วตายั่วใจ สุดที่เขาจะมองต่อไปไหวจึงรีบจับหัวควยจ่อปากรู พอได้ระดับตรงไม่ผิดพลาดก็ออกแรงดันพรวดลงไป
"อุ๊ย..ซี๊ด..ปิแอร์ขา..." หล่อนสะดุ้งผวาเมื่อแคมโยนีถูกควยชำแรก ด้วยหล่อนรู้ดีว่า เจ้าสิ่งที่มันกำลังกระดืบหัวและลำตัวเข้ามาในรูสวาทของหล่อนขณะนี้ ขนาดของมันมิใช่ธรรมดาสามัญเช่นเดียวกับผัวของเธอซึ่งเคยผ่านมาแล้ว แต่มันใหญ่กว่ามากมายนัก ใหญ่จนเธอรู้สึกว่ามันคับตื้อและแน่นไปหมดทั้งหว่างขา
"เบา ๆ ค่ะ..ปิแอร์...อูยยย" หล่อนร้องบอกออกมาอย่างลืมตัว หล่อนไม่สามารถจะทนนิ่งอยู่เฉยได้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ หล่อนจำเป็นจะต้องช่วยตัวเองอย่างสุดความสามารถ คือถ่างขาให้อ้ากว้างออกไปอีก พอหล่อนแหกขาของหล่อนออกเขาก็ถือโอกาสเขาก็ถือโอกาสนั่งโยงโย้โยงหยก ตั้งท่าให้ถนัดกระแทกควยพรวดเข้าไปในรูลื่นอย่างหนักหน่วง
   และครั้งนี้มันเข้าไปจนมิดด้ามติดอยู่เพียงแค่โคน หนอกอันรุงรังไปด้วยเส้นขนของเขาแนบสนิทกับหนอกของหล่อน ลอร์เร้นผวา..สูดปากระรัวขึ้นมาอีก แต่ปิแอร์ไม่สนใจเหมือนเดิม กระชากควยออกมายาว ๆ แล้วกระแทกกระทั้นไม่ขาดระยะท่ามกลางเสียงเสียงครางของหล่อน
"อูยย..ปิแอร์ขา..ใจลอร์เร้นจะขาด...โอย..เสียวเหลือเกิน" อาการดิ้นรนบ่ายเบี่ยงของหล่อนหมดสิ้นไปแล้ว ตรงกันข้าม ลอร์เร้นกลับยกสะโพกส่ายไปมาอย่างลืมตัว ขณะนี้เพลิงพิศวาสกำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดเร่าร้อนและซาบซ่าด้วยกันทั้งสองฝ่าย อยู่ ๆ ปิแอร์ก็ชักควยออกมาจากรูหีเสียเฉย ๆ แล้วเคลื่อนกายลงจากเตียง ลอร์เร้นรีบเผยอเปลือกตาขึ้น อยากจะร้องห้ามออกไปด้วยความเสียดาย แต่แล้วหล่อนก็ต้องหวามหวิวสั่นระริกไปทั่วทั้งตัวเมื่อเหลือบสายตาไปเห็นลำควยแข็งผงาดเป็นมันละเลื่อมที่หว่างขาของคู่สวาทซึ่งขณะนี้เขากำลังยืนจังก้าอยู่ที่หน้าเตียง
"อุ๊ย..ตายแล้ว" หล่อนพึมพำอยู่ในลำคอด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเบิ่งกว้างยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นของลับของชู้อย่างถนัดตา มันเป็นท่อนลึงค์ที่ยาวสง่า..และใหญ่กำยำน่าเสียวสยอง
"มันเข้าไปในรูหีของเราได้อย่างไรกันนี่..เออ..แปลกพิลึก" หล่อนคำนึง
"รูหีของฉันก็ตะกละตะกรามอมมันเข้าไปจนหมดทั้งอัน แหม..คิดแล้วน่าอายนัก" เลือดในกายฉีดแรงจนใบหน้าแดงจัด เขาอุ้มร่างเปลือยของเธอมาที่ขอบเตียง ให้หล่อนเอนกายลงนอนตามขวาง ขาทั้งสองข้างยกชัน เมื่อเป็นที่เรียบร้อย ปิแอร์ก็ไม่รอช้า รีบจับขาเรียวงามแบะถ่างออกจากกัน

   บัดนั้นเอง สายตาของนักรักจากปารีสก็แวววาวขึ้นเมื่อได้เห็นโคกทั้งโคกลอยเด่นตาอย่างโจ่งแจ้ง โคกสวาทอันพิลาศพิไลขาวผ่องโหนกนูนราวกับหลังเต่า ขณะนี้..แคมของมันกำลังแตกปริ มองเห็นภายในได้อย่างเพลิดเพลินนัยน์ตา เขารีบกระเถิบกายเข้าไปในหว่างขาของหล่อน มือซ้ายเอื้อมไปแตะต้องลูบคลำหีสวยด้วยความเสน่หา มือขวาจับลำควยยาวใหญ่ยัดปลายบานเข้าไปในรูหี
   พอหน้าประธานมุดเข้าไปอยู่ในปากช่อง เขาก็ออกแรงดันพรืดเข้าไปทันที ความใหญ่ของหัวบานดันกลีบโยนีให้ปริอ้ายิ่งขึ้น มันเม้มม้วนแคมในและติ่งแตดให้ผลุบหายตามหัวถอกเข้าไปในรูสวาท ลอร์เร้นเริ่มสยิวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อท่อนสวาทกำลังเข้าไปควานหัวชอนไชซอกซอนอยู่ในง่ามหี
"อูย..อร่อยจริง" หล่อนสารภาพกับเขาตามตรงและสูดปากออกมาดัง ๆ อย่างหมดอาย
"ถ้าอร่อย..ผมจะกระเด้าแรงอีกสักนิดนะครับ"
"ค่ะ..อูยยย." สิ้นเสียงรับคำและสูดปากของหล่อนเขาก็เริ่มซอยก้นกระเด้ายิก ๆ อย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น มองเห็นกลีบหีของหล่อนปลิ้นเข้าปลิ้นออกอย่างน่าสยิวสยอง
"โอยยย..ทนไม่ไหวแล้ว..อูย.."
"คุณเสียวมากหรือครับ"
"ค่ะ..เสียวจริง ๆ" หล่อนรับคำและรีบแอ่นก้นขึ้นรับการกระเด้าอย่างรวดเร็ว
"น้ำรักเกือบจะออกหรือยัง..ที่รัก" เขาระล่ำระลักถาม
"ค่ะ..เย็ด..แรง ๆ อีกสักนิดสิคะ..อูย.." หล่อนตอบเสียงกระท่อนกระแท่น รูหีขมิบตอดและดูดควยเขาโดยแรงทำให้ชู้หนุ่มเสียวปลาบที่ปลายเงี่ยง เขาทนต่อไปไม่ไหวก็รีบกระชากลากควยออกมายาวเหยียดจนเกือบหลุดพ้นกระดองโยนีแล้วก็ตะบันพรวดเข้าไปสุดแรง
"อู๊ยยย...ช่างรู้ใจลอร์เร้นเสียจริง ฉันนึกรักเธอแล้ว"
"รักมากไหม"
"มากสุดหัวใจ..ปิแอร์ขา..อูย.." เสียงหล่อนกระหืดกระหอบอย่างเหน็ดเหนื่อยสองแขนที่เต้นร่ายบนผ้าปูที่นอนตวัดขึ้นมารัดเขาแน่น ลมหายใจร้อนผะผ่าวราวกับไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาเพราะเปลวเพลิง
"แล้วปิแอร์เล่าคะ..รักฉันหรือเปล่า"
"ทั้งรักทั้งหลงเหลือเกินแล้ว"
"หลงอะไรฉันล่ะคะ"
"หี.."
"อุ๊ยตาย..ฟังแล้วเสียว" คำพูดของเขาทำให้หล่อนรัญจวนใจยิ่ง ถึงกับยกก้นขยับขึ้นลงรับการกระแทกกระทั้นจนตูดลอยจากที่นอน

   เมื่อสิ่งที่ครองโลกมาแต่บรรพกาลเคลื่อนใกล้เข้ามา ถ้อยคำของหล่อนยิ่งเร่าร้อนเปิดเปลือยจนกระทั่งถามชู้รักอย่างร้อนรนว่า
"ปิแอร์ขา..เธอกำลังทำอะไรกับฉัน"
"เย็ดกัน" เขาตอบให้ต้องใจหล่อน เพราะคำพูดที่โต้ตอบกันนั้นเองร่างของทั้งสองก็สดุ้งเฮือกผวาเข้ากอดกันกลมดิก เนื้อตัวสั่นกระตุกถึงสวรรค์วิมานฉิมพลีด้วยความชื่นฉ่ำประหนึ่งหัวใจจะหยุดเต้น
   นานเท่านาน ลอร์เร้นยังนอนกอดก่ายกับชายชู้ด้วยความสุขล้นเปี่ยมหัวใจ เสียงกระซิบกระซาบบ่งบอกรสสวาทที่ได้รับว่า
"ปิแอร์ขา..แหม..เมื่อกี้ลอร์เร้นแทบจะขาดใจเลยค่ะ..น้ำรักไม่เคยออกมากอย่างนี้เลย..เดี๋ยวเย็ดลอร์เร้นอีกนะคะ..จะเล่นท่าก็ได้ค่ะ" ปิแอร์กอดกระชับร่างงามไว้แนบแน่น กลิ่นกายของหล่อนหอมละมุน
"คุณยังทานไม่อิ่มหรือ"
"ค่ะ..ฉันบอกตรง ๆ ว่ามันอร่อย"
"งั้น..เดี๋ยวผมเล่นอีกนะครับ"
"ไหวหรือคะ.."
"กับคนสวย ๆ ที่เสน่ห์หยาดเยิ้มอย่างคุณ ขอเย็ดทั้งคืนยังไหว"
"อุ๊ย..จริงหรือคะ" เธอว่าแล้วหัวเราะชอบใจ ผุดลุกขึ้นนั่งไขว่ห้างหยิบบุหรี่มาจุดสูบพ่นควันละเอียดทั้ง ๆ ที่เธอยังคงอยู่ในสภาพที่เปลือยล่อนจ้อน
"มาอยู่กับฉันไหมล่ะคะ..ปิแอร์..ฉันรักคุณเหลือเกิน" เขาพลิกร่างขึ้นมากอดหล่อนไว้ สรรพางค์กายเปล่าเปลือยแนบกับสีข้างของหล่อน
"ลอร์เร้น"
"ขา.."
"คุณคิดดีแล้วหรือ"
"ฉันมีเงินสดอยู่ในแบงค์..มีกิจการงานมากมาย จะใช้จ่ายกันชั่วชีวิตก็ไม่มีวันหมด"
"แต่เราทำอย่างนั้นไม่ได้"
"เพราะอะไรคะ.." หล่อนรีบถาม ปิแอร์เหลือบมองดูทรวงอกขาวผ่องของหล่อนแล้วก็ถอนใจ เขาอดจูบหล่อนอีกไม่ได้ ฝ่ามือคลึงเคล้นไปทั่วกายงามจนหญิงสาวอ่อนระทวย ปิแอร์จึงอ่อยด้วยเสียงกระเส่าว่า
"หากเราจะอยู่ด้วยกันจริง ๆ..ผมมิต้องเป็นผัวลับ ๆ ของคุณหรือ"
"ใช่ซิคะ..มาเป็นผัวน้อยของฉัน..เธออายใครหรือ ได้เมียแก่ ๆ แต่ร่ำรวย"
"ผมภูมิใจด้วยซ้ำไป จะควงไปเที่ยวให้รอบโลก"
"งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร" ปิแอร์ฝันหวานอย่างเคลิบเคลิ้ม..เออ..หากจะมีเมียแก่สักคนจะเป็นอย่างไรหนอ
   ถึงจะแก่กว่าแต่ก็ยังอวบอั๋นไปทั้งเนื้อทั้งตัว ยิ่งกว่านั้นยังจะทรัพย์สินเงินทองของหล่อนอีกเล่า เขาหลับตามองเห็นตัวเองเป็นมหาราชาเพราะทรัพย์สมบัติของหล่อน

   ลอร์เร้นยกมือโอบไปรอบคอชายหนุ่ม ไก่แก่แม่ปลาช่อนอย่างหล่อนรู้ดีว่าพละกำลังของเขาเป็นอย่างไร เพียงแต่ทรวงอกสล้างที่เสียดสีกับต้นแขนของเขา ปิแอร์ก็หันมากอดตวัดหล่อนแนบแน่น ปากต่อปากประกบกันสนิท ลิ้นต่อลิ้นฉกขยี้กันอย่างเร่าร้อน สัดส่วนที่ผัวของหล่อนหวงแหนถูกขยำขยี้คลึงเคล้น
"นะคะ..ปิแอร์ขา..เป็นผัวพี่..แล้วเราจะมีความสุขด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป"
"ครับ..แต่ขอให้ผมได้คิดให้มากกว่านี้สักหน่อยเถอะ"
"อะไรอีก..ปิแอร์ขา..เธอไม่รักพี่หรือ.."
"ทั้งรักทั้งหลง"
"ถ้างั้นทำไมไม่ตกลงตามพี่บอก" เขายิ้มกับหล่อนจนตาหยี ซุกซอนใบหน้าเข้าฟอนเฟ้นทรวงอกอย่างรุนแรงจนลอร์เร้นผวาร่างหัวเราะเสียงระริกระรัวเหมือนคนร้องไห้
"อุ๊ย..อย่าเพิ่งค่ะ..พูดกันก่อน ปิแอร์นี่..อี๊ยย..ควยลุกอีกแล้วรึนี่" เขาประคองควยให้หล่อนดูก่อนที่จะเริงสวาท
"แหม..หัวแดงเป็นมันเชียว..ขอเล่นมันหน่อยได้ไหมคะ"
"ได้สิ" คุณนายลอร์เร้นรีบคว้าหมับด้วยความพิศวาส หล่อนกำมันไว้เต็มอุ้งมือ มันเกือบไม่รอบทีเดียว ทั้งแข็งทั้งอุ่น เต้นกระดุ๊บ ๆ เหมือนมีชีวิต เธอลูบหัวถอกอันแดงเถือกแล้วก้มหน้าลงไปจูบด้วยความเสน่หา ชายหนุ่มเลยเอื้อมมือไปลูบคลำตะโพกอันผึ่งผายของหล่อนไปมาและเอ่ยปากชมออกมาว่า
"แหม..คุณพี่..ตูดใหญ่ดีเหลือเกิน" เขาพูดพลางลูบตูดของหล่อนไปมา
"ลอร์เร้น" เขาเรียกหล่อนอีก
"อะไรคะ..ปิแอร์.."
"ขอผมเย็ดตูดทีนะ"
"อุ๊ย..ทุเรศ..ไม่ค่ะ" หล่อนปฏิเสธแต่ทรวงอกสะท้อนสะท้านเพราะการสังวาสทางรูทวารนั้น เพื่อน ๆ ของเธอเคยเล่าให้ฟังว่ามันเผ็ดร้อนรุนแรงขนาดไหน
"นะ..ยอดรัก..ตูดงอนออกอย่างนี้..ผมอยากลองจัง" หล่อนนิ่ง ลมหายใจรวยริน เลือดในกายฉีดซ่านจนหน้าแดงก่ำ
"อุ๊ย..ไม่นะ" หล่อนร้องปราม เพราะคราวนี้ชายหนุ่มได้เอานิ้วจี้ไชรูตูด หล่อนต้องรีบขมิบโดยเร็ว
"อะไรก็ไม่รู้..จั๊กกระจี้ค่ะ" ปิแอร์หัวเราะหึ ๆ ในลำคอ เขาจับหล่อนให้นอนคว่ำหน้าลงไป เห็นก้นย้อยผึ่งผายตึงเครียด มันช่างยั่วยวนเสียเหลือเกิน
"คุณคุกเข่าโก้งโค้งซิครับ เย็ดกันท่านี้สนุกกว่าเมื่อกี้หลายสิบเท่า" ลอร็เร้นอายจนหน้าแดงสร้านถึงใบหูแต่หล่อนก็รีบปฏิบัติเพราะความเงี่ยนจนลืมตัว
"เธออย่าเย็ดตูดพี่นะ"
"ครับ..ถ้าพี่ไม่ชอบทางนั้น" เขาจับหล่อนให้ถ่างขาออกไปอีกจนเห็นพวงโยนีปลิ้นออกมาทางด้านหลังได้ชัดเจน ฉับพลัน เขาก็อดรนทนไม่ไหวแล้วจึงจับปลายควยยัดเข้าไปในซอกโยนีซึ่งกำลังอ้าคอยอยู่แล้ว พอหัวบานจมหมดเขาก็เริ่มกระเด้าทันที
"อูย..ปิแอร์คะ..ซี๊ด..เสียวอีกแล้วค่ะ..แรงอีกนิดก็ได้" หล่อนสูดปากร้องบอกเขา ชายหนุ่มกระแทกหนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้นจนลอร์เร้นสะท้านสั่นไปทั้งตัว รูหีรูตูดขมุบขมิบระริกระรี้ ปิแอร์เร่งกระเด้าจนควยมิดแล้วมิดอีก กลุ่มหมอยของเขาถูไถกับง่ามตูดและปากแคมโยนี เพิ่มความคันให้หล่อนเป็นทวีคูณ
"อูยยย...ปิแอร์ขา...เธอจะฆ่าพี่ด้วยเกมเย็ดหรือ..อูย..ซี๊ด..ช่างรู้ใจจริง..ทูนหัว..ทั้งเย็ดทั้งบี้แตด" หล่อนครางพร้อมกับบิดตัว
"คอยโย้ตูดออกมารับนะ" หล่อนพยักหน้า เขาจึงประคองตูดขาวโพลนพร้อมกับชักควยออกมายาวเหยียด สองแคมปลิ้นแบะตามออกมาแดงอร่าม ลำลึงค์ของเขาเยิ้มด้วยเมือกเป็นมันปลาบ รูสวาทถูกแง่เงื่ยงครูดเอาจนหล่อนถึงกับคราง
"เสียวอะไรอย่างนี้..อูย..กระเด้าซิ..เธอ.."
"เสียวที่ไหนหรือครับ"
"แตด...ค่ะ" เขารั้งเอวโหมแรงกระเด้าควยหนักขึ้น มันทะลวงรูสวาทจนมีเสียงดังคลุกเคล้ากับเสียงครางของหล่อน เกมสวาทอันดุเดือดที่ชายชู้ปรนเปรอทำให้เธอหลงใหลเป็นยิ่งนัก ถึงกับโก่งตูดหงายหีให้เขากระแทกเอากระแทกเอาไม่หยุดหย่อน
"อูยยย..แรงอีกหน่อนก็ได้ค่ะ..ของพี่จะออกอีกแล้ว" หล่อนครางละล่ำละลักบอกเขาด้วยสุ้มเสียงอันสั่นพร่าจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง ตูดก็โย้ไปโย้มา แสดงว่าความเงี่ยนกำลังจะทะยานสู่ขีดสูงสุดอีกครั้งหนึ่งแล้ว
   ปิแอร์ก็สุดจะทานต่อไปได้ เขารีบโหย่งตัวขึ้นกระชับบั้นเอวของหล่อนพร้อมกับกระแทกรูสวาทของหล่อนอย่างสุดแรงเงี่ยน
"โอย..ปิแอร์ขา..เธอเย็ดเก่งเหลือเกิน" หล่อนกล่าวขณะที่รูหีขมุบขมิบดูดหัวถอกเป็นจังหวะจุ๊บ ๆ..ทำให้ชู้รักเสียวแปล๊บที่ปลายเงี่ยง เขายิ่งโหมแรงกระแทกควยถี่พุ่งทะลวงสุดรูหี พร้อมทั้งน้ำสวาทที่กลั้นเอาไว้ก็พุ่งออกมา มันร้อนวาบเข้าไปในมดลูกจนหล่อนทนเสียวกระสันต์ไม่ได้ต้องขมิบรูหีหลั่งน้ำรักออกมาเช่นกัน
   คืนนั้น ลอร์เร้นช่างมีความสุขเสียนี่กระไร เธอยิ้มแย้มแจ่มใสฮัมเพลงหงิงกลับมาทีเดียว
"เรามาพบกันที่นี่อีกนะ ลอร์เร้น เสาร์หน้าผมจะมารอคุณที่นี่ตอนทุ่มครึ่ง" เขากระซิบ
        กว่าจะถึงเสาร์หน้า เธอต้องนอนหนาวเปลี่ยวใจไปอีกเจ็ดราตรี เซเว่นโลนลี่ไนท์ เท่ากับหนึ่งสัปดาห์ที่แสนเปลี่ยวใจ ไหวหรือสำหรับผู้หญิงที่หลงในรสโลกีย์อย่างหล่อน