ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Koy restart ep 20 by Ukisa

เริ่มโดย icejet, กรกฎาคม 01, 2014, 12:19:09 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

icejet

 "นี่ไอ้ตัวเล็กหายไปไหน ไม่มาดูห้องหรอ"
                "เห็นอยู่ที่สนามหญ้ากับเจ้าริวค่ะ เห็นบ่นว่าไม่อยากย้าย" ก้อย
                "เดี๋ยวอยากเดี๋ยวไม่อยาก เดี๋ยวนี้ชอบทำตัวมีปัญหา"
                "แทนที่จะเป็นห่วงน้อง ว่าน้องเป็นอะไรกลับไปว่าน้องอีก" ก้อย
                "จะมีอะไร ใกล้เปิดเทอมเริ่มงอแงไม่อยากไปเรียน"
                ก้อยตีแขนผม "ยังจะว่าน้องอีก ไปดูน้องกันดีกว่าว่าทำอะไรอยู่"

                พออกจากตัวบ้านผมก็เห็นแนนนั่งกอดเจ้าริวอยู่ พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ดูเหมือนแนนกำลังคุยกับเจ้าริว

                "คุยอะไรกันอยู่แม่ลูกคู่นี้ ไม่เข้าไปดูห้องหรอว่าถูกใจหรือเปล่า" ก้อย
                "สงสัยจะสอนลูกอยู่มั้งว่าเป็นเด็กต้องขยันเรียน" ผมหัวเราะ
                แนนโดนว่าก็ทำหน้างอใส่ผม แล้วลุกขึ้นมากอดก้อย

                "เราไม่ย้ายไม่ได้หรอ" แนน
                ก้อยหันมามองหน้าผม
                "ทำไมหละ ไม่ชอบบ้านหลังนี้หรอ" ก้อย
                "เปล่า แต่ยิ่งอยู่บ้านใหญ่ขึ้นเท่าไหร่เราก็ยิ่งห่างกัน" แนน
                ก้อยลูบหัวแนน "งั้นก็อยู่ห้องเดียวกันซิ จะได้ไม่เหงา"
                แนนมองหน้าผม แล้วก็หันกลับไป "ถ้าเรากลับไปอยู่ที่คอนโดแบบเดิมคงดี" แนน

                ผมได้แต่ยืนเท้าสะเอวมองไม่รู้จะพูดยังไง ก้อยเลยชวนกันไปกินข้าวเผื่อแนนจะอารมณ์ดีขึ้น หลังๆ มานี้แนนเริ่มมีอาการแปลกๆ บางครั้งชอบคุยกับเจ้าริว แต่เวลาเดินไปใกล้ก็จะหยุดพูดเหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอพูดอะไร หลังจากทานข้าวเที่ยงแนนก็ยังมีอาการเศร้าอยู่ เราก็เลยกลับบ้าน

                คืนนั้นแนนแยกไปนอนกับเจ้าริวแต่หัวค่ำทำให้ก้อยยิ่งเป็นห่วง ผมได้แต่ปลอบว่าไม่เป็นไรไม่มีอะไร พอเราขึ้นมาบนห้องนอนก้อยก็ถามผมอีก

                "ปล่อยไว้แบบนี้ไม่เป็นไรแน่หรอค่ะ"
                "ไม่เป็นไรหรอก พี่ว่าแนนก็คงเกเรไม่อยากไปเรียนนั่นแหละ"
                "แน่ใจนะค่ะว่าไม่ใช่แบบครั้งที่แล้ว" ก้อยหมายถึงเรื่องแอน
                "ไม่หรอก พี่ว่าคงจะขี้เกียจไม่อยากไปเรียนนั่นแหละ"
                "แน่ใจหรอค่ะ"
                "แน่ใจซิ ไม่เชื่อนะพรุ่งนี้ลองถามก็ได้ พี่ว่าต้องไม่อยากไปเรียนแน่ๆ แบบนี้ต้องจับมาตีก้น"
                "น้องโตแล้วนะค่ะไม่ใช่เด็กๆ จะได้จับมาตีก้น"
                "ตีก้นน้องไม่ได้ งั้นก็ตีก้นพี่ก่อนแล้วกัน"
                ผมรวบเอวก้อยมาชิดตัวแล้วแกล้งตีก้นงอนของเธอ
                "ว้าย พี่บีอะ แกล้งก้อยอีกแล้วนะ"

                ระหว่างที่เรากำลังจะเข้าได้เข้าเข็มประตูห้องก็เปิดขึ้น ผมกับก้อยตกใจหันไปมองทางเดียวกัน เราเห็นแนนเปิดประตูเข้ามามือข้างนึงหนีบหมอนมาด้วย เจ้าริวก็แทรกตัวเข้ามาด้านในห้องก่อน แนนบอกให้มันไปนอนที่ตระกร้าส่วนเธอปิดประตูแล้วเดินมาด้านข้างก้อย แนนวางหมอนลงแล้วขึ้นมานอนบนเตียง

                ผมสะกิดก้อยเพราะอยากจะสานต่ออารมณ์เมื่อกี้ให้จบ แต่ก้อยกลับหยิกแขนผมแล้วกับดุผมไม่ให้ซน คืนนี้ผมเลยอดได้แต่นอนกอดก้อยแก้หนาว กะว่าพรุ่งนี้เช้าไอ้ตัวเล็กน่าจะไปต้องพาเจ้าริวไปวิ่งเล่น ช่วงนั้นแหละผมจะ....ก้อยให้หายคิดถึง แต่พอผมตื่นมาตอนเช้า

                กลายเป็นเหลือผมอยู่บนเตียงแค่คนเดียว อุสาห์วางแผนไว้ซะดิบดีแห้วอีกจนได้ ผมลุกขึ้นออกจากห้องแล้วเดินลงไปชั้นล่าง ผมได้ยินเสียงก๊อกแก๊กในครัว ผมเดาว่าน่าจะเป็นก้อย เพราะเวลานี้แนนน่าจะเอาเจ้าริวออกไปซื้อของกินแล้ว ผมแอบย่องเข้าไปในครัว

                ผมแอบไปด้านหลังก้อยโดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว จากนั้นผมก็กอดเอวเธอไว้ ก้อยร้องว้าย

                "พี่บี มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ก้อยตกใจหมดเลย"
                "โธ่ ขวัญเอ๋ยขวัญมา" ผมปลอบก้อยด้วยการลูบแก้มก้นเธอ
                "อุ้ยอย่าค่ะ เดี๋ยวน้องกลับมาเห็น"
                "แหมเมื่อคืนก็ขัดจังหวะไปทีแล้ว เช้านี้ยังไงพี่ไม่ยอมแล้ว"
                ผมเริ่มปล้ำหอมจับก้นจับนมก้อย
                "ว้าย อย่าค่ะ เดี๋ยวน้องมาเห็น โอ้ยยยย พี่บี"
                จังหวะกำลังเข้าได้เข้าเข็มก็มีเสียงดังขึ้นมา
                "กลับมาแล้ว" แนนตะโกนเสียงดัง

                ก้อยอาศัยจังหวะที่ผมตกใจเสียงแนนดิ้นหนีแล้ววิ่งออกไปหาแนน สรุปแผนรอบเช้าผมก็แห้วอีก ส่วนแนนก็กลับไปเป็นปรกติไม่ดูเศร้าเหมือนตอนไปดูบ้านใหม่ แต่ก็มีเรื่องแปลกๆ เช่น เวลาผมจะเอาไส้กรอกให้เจ้าริวกินแนนกลับบ่น

                "อ้าว ทำไมหละ ปรกติเราเองไม่ใช่หรอชอบเตือนให้พี่ซื้อไส้กรอกให้ไอ้ริวอยู่บ่อยๆ"
                "ก็เดี๋ยวมันเคยตัว" แนน
                "ไม่ทันแล้วหละ มันเคยตัวแล้วพอพี่เดินมาแถวตู้เย็นมันก็รีบวิ่งมานั่งกระดิกหางรอแล้ว"
                "งั้นก็เลิกให้มันกินได้แล้ว ต่อไปไม่มีให้กินมันจะได้อยู่ได้"
                "ทำไมหละ แหมแค่เดือนไม่กี่ร้อย ให้ลูกรักของแนนพี่ซื้อให้ได้"
                "แล้วถ้าไปอยู่ที่ที่มันไม่มีขายหละ" แนนเถียง
                "อ้าวทำไมจะไม่มีขายหละ ซูปเปอร์แถวนี้ก็มี ถ้าหมดก็ไปหาซื้อที่ห้างก็ได้"
                แนนไม่พูดอะไรต่อ
                "แต่ทำไมเราถึงคิดมันจะไม่มีขายหละ หรือเราจะไปอยู่ที่ไหน"
                "เออ เปล่า ก็แค่เห็นว่ามันเปลือง แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไร"

                แนนยุตติบทสนทนาและหนีไปเกาะอยู่กับก้อย พอผมจะไปซักต่อก้อยก็ปราบผมไม่ให้ซักแนนเรื่องนี้อีก ส่วนผมก็เลิกคิดจะถามเรื่องนี้เพื่อกลับไปคิดว่าจะทำยังไงผมถึงจะได้กอดก้อยให้หายคิดถึง และดูถ้ายังไงคืนนี้แนนคงมานอนที่ห้องผมอีกแน่ๆ

                เวลาผ่านไปจนเย็นผมก็ไม่มีโอกาสได้กอดก้อยเพราะแนนเกาะติดเธอแจจนเย็น แต่ผมก็เล็งไว้ว่าตอนก้อยอาบน้ำนี่แหละผมจะตามเข้าไปกอดให้หายคิดถึง ก้อยเองก็เหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไร ก่อนจะไปอาบน้ำเธอแอบส่งสายตาหวานเหมือนเป็นการเชิญชวนให้ผมตามไป

                พอก้อยเดินพ้นบันไดขึ้นไปชั้นสองผมก็รีบตามไปทันที ผมตามไปทันเห็นก้อยปิดประตูห้องน้ำพอดี แต่ไม่มีเสียงล๊อคประตู แต่จังหวะที่ผมกำลังจะเปิดประตูห้องน้ำตามเข้าไป ไอ้ตัวเล็กที่นุ่งแค่ผ้าขนหนูไม่รู้ว่าวิ่งมาจากทางไหนก็ชิงเข้าต้องน้ำตามก้อยเข้าไป

                "เฮ้ย เดี๋ยวววววว" ร้องห้ามแต่ก็ไม่ทันแล้ว

                เสียงก้อยร้องว้ายดังออกมาก่อนจะมีเสียงแนนหัวเราะคิกคักก่อนที่จะเงียบหายไปแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้นและทำเอาผมตื่นตัวอย่างสุดๆ ผมเอาหูแนบไปที่ประตู หัวใจผมเต้นรัว ผมรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นหลังประตูนั่น ผมอยากจะเข้าไปร่วมด้วยใจจะขาด
              
                ผมค่อยทรุดตัวนั่งลงอย่างหมดหวัง ระหว่างนั้นก็มีลิ้นเปียกๆ มาเลียที่หน้า เจ้าริวนั่นเอง ผมเลยคิดจะใช้มันเรียกให้แนนออกมา แต่เจ้าริวมันไม่ยอมให้ความร่วมมือ

                "ริว เรียกแม่ซิ เร็ว เรียกแม่ให้ออกมาหาสิ"
                ริวมันก็นั่งมองผมเหมือนไม่เข้าใจที่ผมพูด
                "เร็วซิ เห่าเรียกแม่ออกมาหาซิ"

                เจ้ามันก็เห่านะครับแต่มันดันเห่าเหมือนเล่นกับผมแทนที่จะเรียกแนนออกมา สุดท้ายผมก็อดอีกรอบ หลังจากอดมาหลายรอบผมก็เริ่มงอนก้อย พอกินข้าวเสร็จผมก็แกล้งหนีขึ้นมานอน ผมขึ้นมานอนอยู่พักนึงก้อยก็เปิดประตูห้อง ผมรีบแกล้งหลับ ก้อยขึ้นมานอนข้างๆ ผม

                "นอนแล้วหรอค่ะ" ก้อยพูดเสียงหวาน
                "นอนแล้ว" ผมตอบห้วนๆ
                "งอนก้อยหรอ" ก้อยเข้ามากอดผม
                ผมไม่ตอบ
                "ไม่อยากกอดก้อยแล้วหรอค่ะ"
                "ไม่เหนื่อย ง่วงพรุ่งนี้ต้องทำงานแล้ว"
                "งอนก้อยจริงๆ ด้วย"
                ก้อยเลื่อนตัวขึ้นมาคล่อมตัวผมไว้
                "ไม่ทำจริงๆ หรอ"
                "ไม่เหนื่อยนอนดีกว่า"
                ก้อยหัวเราะคิกๆ ก่อนจะพูดเสียงหวาน "งั้นก้อยช่วยให้มีอารมณ์เองนะค่ะ"

                ก้อยโยกร่อนหน้าที่ทาบอยู่บนตัวผมช้าพร้อมกับรูปไรไปตามชุดนอนบางๆ ของเธอ ผมยอมรับว่าเริ่มแข็งขึ้นมาทันที ก้อยยิ้มหวานก่อนจะค่อยๆ ดึงชายชุดนอนขึ้นมาที่เอวพร้อมกับส่งตามหวานเยิ้มให้ผม โอ้ยผมไม่ไหวแล้วครับผมรีบจับมือก้อยเพื่อช่วยเธอถอดมันออกไปเร็วๆ

                แต่ระหว่างนั้นก็มีเสียงเปิดประตูดังปัง ก้อยตกใจกระโดดไปนอนข้างๆ ผม แนนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเจ้าริว คราวนี้เธอไม่ได้เอาหมอนมาด้วย เพราะเธอทิ้งมันไว้ในห้องผมตั้งแต่เมื่อคืน ผมกับก้อยมองหน้ากันเหมือนไม่รู้จะทำยังไง พอแนนขึ้นมานอนบนเตียงผมก็เริ่มรู้สึกน้อยใจเลยนอนหันหน้าไปอีกข้าง ก้อยคงรู้เธอเลยเข้ามากอดผม

                แต่แนนก็ดึงก้อยให้กันกลับไปหาเธอ ผมเลยข่มตานอนจนหลับ พอตอนเช้าผมก็ยังคงงอนก้อยอยู่ จนก่อนออกจากบ้านก้อยถึงมาง้อ

                "ไม่งอนนะค่ะ แหมแค่อาทิตย์เดียวเอง อาทิตย์หน้าก็ได้กอดแล้ว"
                "ไม่อยากให้กอด พี่ไม่กอดก็ได้"
                "หือออ อยากสิค่ะ แต่น้องเค้าอยากนอนด้วย จะให้ก้อยทำยังไงหละค่ะ"
                "งั้นเที่ยงนี้เราไปกินข้าวด้วยกันนะ"
                "วันนี้ก้อยไม่ว่างค่ะ งานเยอะเลย"
                "ไม่ต้องก็ได้ งั้นก็กอดกับงานแทนแล้วกัน"
                "โอ๋ๆ น้อยใจอีกแล้ว พรุ่งแทนได้ไหมค่ะ"
                "กว่าจะพรุ่งนี้คงหายคิดถึงแล้วหละ"
                ก้อยหยิกแขนผม "ลองไม่คิดถึงดูซิ ก้อยจะงอนบ้างแล้ว"
                "โอ้ยยย เจ็บนะ คิดถึงซิ พี่ก็แค่พูดประชด ก็แหมเมียมาอยู่ด้วยสามวันไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย"
                "ก็พรุ่งนี้ไงค่ะ พรุ่งนี้ก้อยจะให้พี่บีกินให้หายคิดถึงเลย"
                "จริงๆ นะ"
                "จริงๆ ค่ะ"
                "สัญญา"
                "สัญญาค่ะ"

                ค่อยยังชั่ว ผมจะได้มีเวลาส่วนตัวกับก้อยแล้ว อดใจอีกแค่วันเดียว ก่อนผมจะออกไปทำงานก็เห็นแนนไปโก้งโค้งทำอะไรอยู่ในรถผม ผมเลยแกล้งย่องเข้าไปใกล้ๆ ไม่ให้แนนรู้ตัวแล้วก็ตีก้นเธอ แนนร้องว้ายยยย

                "ซนอะไรอะ"
                "เปล่า" แนนตอบเสียงสูงก่อนจะรีบออกจากรถแล้วกลับเข้าไปในบ้าน

                ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะแนนขอบมาเล่นเครื่องเสียงในรถผมบ่อยๆ แนนคงรู้อะไรใหม่ๆ เลยมาลองทำดูมั้ง ผมขับรถไปทำงาน วันนี้พวกรุ่นพี่ที่รู้จักกันโทรมาชวนผมไปกินเหล้า ผมไม่ค่อยอยากไป อยากรีบๆ กลับไปนอนเพื่อที่จะได้ถึงพรุ่งนี้ไวๆ แต่ก็ทนพี่ยุทธตื้อไม่ไหวสุดท้ายเลยรับปากไป

                ตกเย็นผมก็ไปเจอกับพี่ยุทธตามที่นัดไว้

                "อ้าวเห้ยมันมาแล้วโว้ย เดี๋ยวนี้ใหญ่โตจนไม่มีเวลามาหาพี่หาเชื้อแล้วหรอวะไอ้บี"
                "เปล่าหนะพี่ คือ เมียผมรออยู่ที่บ้านไม่อยากกลับดึก" ผมเอาแนนมาอ้าง
                "อะไรวะมีเมียแล้วหรอ ไม่เห็นเคยชวนกูไปงานแต่งมึงเลย"
                "เมียแบบยังไม่ได้แต่งพี่"
                "นี่เมียมึงนี่คงสวยมากๆ สิ ทำเอาเสืออย่างมึงหมดลายได้"
                ผมไม่ตอบ ที่จริงผมก็ไม่ได้หมดลาย แค่ตอนนี้ผมคิดถึงแต่ก้อยจนทำให้ไม่สนใจผู้หญิงอื่น

                ผมกินเหล้าอยู่กับพี่ยุทธและพี่คนอื่นๆ จนถึงห้าทุ่มผมก็ขอตัวกลับ

                "อะไรวะ เพิ่งห้าทุ่มเอง"
                "โถพี่เมียผมรออยู่ ป่านนี้บ่นแย่แล้ว"
                ก้อยโทรเข้ามาพอดีผมเลยขอตัวรับโทรศัพท์ก้อยก่อน

                "พี่บีอยู่ไหนค่ะ"
                "พี่มากินข้าวกับพี่ยุทธ"
                "แล้วบอกน้องหรือยัง"
                "น้องไหนก้อย"
                "น้องแนนไง ป่านนี้นั่งรอกินข้าวจนหิวแย่แล้ว"
                "ไอ้ตัวเล็กพอเห็นกลับไม่ตรงเวลาคงกินไปแล้วหละ ปรกติก็ไม่เคยรอนี่"
                "พี่ไม่โทรไปถาม แล้วพี่บีรู้ได้ไงค่ะว่าน้องไม่รอ" น้ำเสียงก้อยเหมือนจะเริ่มโกรธ
                "จ้าๆ ที่จริงพี่กำลังจะขอตัวกลับแล้ว ก้อยโทรมาก็ดีแล้วพี่จะได้เป็นข้ออ้างกลับเลย"
                "ค่ะ งั้นก็กลับเลยนะค่ะ"
                "จ้าๆ กลับเลยจร้า"

                ผมบอกพี่ยุทธว่าเมียโทรตามแล้วต้องขอตัวกลับก่อนถึงได้หนีออกมาจากร้านได้ กว่าผมจะถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืน ไฟที่ชั้นล่างยังเปิดอยู่ ผมเตรียมใจโดนแนนบ่นเพราะกลับดึกโดยไม่บอกเธอก่อน ผมค่อยๆ เปิดประตูบ้านเข้าไปเจอแนนยืนรออยู่ แต่เธอกลับไม่พูดอะไร แนนเข้ามาช่วยถือกระเป๋าเอกสารให้ผม

                "จะกินข้าวอีกหรือเปล่า" แนนถาม
                "กินสิยังไม่ได้กินเลย"
                "งั้นก็ไปอาบน้ำ แล้วลงมากินข้าว"

                ผมไปอาบน้ำส่วนแนนเตรียมกับข้าวให้ผมทาน พออาบน้ำเสร็จผมก็ลงมาที่โต๊ะทานข้าว

                "กับข้าวเยอะเลย ช่วยกินหน่อยซิ" ผมถามแนน
                ปรกติแนนจะปฏิเสธแต่ครั้งนี้กลับไม่ปฏิเสธทำให้ผมกลับไปคิดถึงคำพูดของก้อยที่ว่าแนนรอผมกินข้าว และยิ่งเห็นแนนตักข้าวตามปรกติไม่ได้เหมือนแค่กินเป็นเพื่อนผมก็ยิ่งแน่ใจ
                "ริวหละกินอีกไหม"
                เจ้าริวมันก็เห่าตอบเหมือนอยากกินด้วย
                "มันกินอิ่มแล้ว ไม่ต้องกินแล้ว"

                กินข้าวเสร็จแนนก็บอกให้ผมไปนอนเธอจะเก็บโต๊ะล้างจาน ผมสงสารเห็นดึงแล้วก็เลยช่วยแนนเก็บโต๊ะล้างจานจนเสร็จ แต่แนนก็ไล่ผมขึ้นไปนอนก่อนอยู่ดี ผมขึ้นมาที่ห้องนั่งดูเมลใน ipad อยู่แป๊บนึงแนนก็เข้ามาในห้อง


"ยืม ipad หน่อยจิ"

ผมยื่นให้แนน แนนขึ้นมานอนข้างๆ ผม เจ้าริวก็ไปนอนที่ตะกร้าของมัน ผมเองเริ่มง่วงเลยหลับตานอนก่อน แต่ก็ต้องลืมตาดูเพราะเสียงของคู่สนทนาที่แนน Face Time ด้วย ผมรีบยื่นหน้าเจ้าไปดู

"อ้าว เจน หรอ" ผมเห็นเจนยิ้มหวานอยู่ในจอ
"สวัสดีค่ะพี่บี อ้าวพี่บีมาทำอะไรในห้องแนน" เจน
"เปล่าซะหน่อย นี่ห้องพี่ ไอ้ตัวเล็กมาขอยืม ipad พี่เล่นเองต่างหาก"
"แหม ปรกติชอบทะเลาะกันเวลามีคนอื่นอยู่ด้วย พอไม่มีใครอยู่ก็แอบมาสวีทกัน" เจน
แนนได้ยินก็เขินรีบแก้ตัว "ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แค่มายืม Ipad คุยกับเจนจะได้เห็นหน้าชัดๆ เท่านั้นแหละ ก็คุยผ่านโทรศัพท์มันรูปเล็ก"

แล้วแนนก็ตัดบท "เจ้าริวง่วงแล้ว แค่นี้นะ จะกลับห้องแล้ว" แนน

                แนนตัดสายส่ง Ipad คืนให้ผมแล้วลุกขึ้นผมจับแขนเธอไว้

                "นอนนี่แหละไม่ต้องกลับห้องแล้ว"
                "ไม่เอาอะ เดี๋ยวเจนรู้แซวอีก"
                "ไม่บอกเจนก็ไม่รู้หรอก วันนี้อยากกอดเจ้าริวด้วย" ผมเอาเจ้าริวมาอ้างแนนเลยยอมนอนด้วย

                ผมก็เลยต้องเรียกเจ้าริวให้ขึ้นมาบนเตียง ซึ่งดูเหมือนมันดีใจมากรีบกระโดดขึ้นมาตรงกลางระหว่างผมกับแนน แล้วก็เลียหน้าผม

                "โอ้ยย ไม่เอาริวไม่ต้องมาเลียหน้าเลย ไปเลียแม่เราไป"
                เจ้าริวมันก็หันกลับไปเลียหน้าแนนแทน
                "ว้ายยย ไม่เอา จะนอนแล้วนอน"

                เจ้าริวมันหยุดเลียหน้าแนน แต่มันก็ยังดูตื่นเต้นดีใจจนไม่ยอมนอนนิ่งๆ แนนเลยกอดมันแล้วบอกให้มันนอนนิ่งๆ ผมหันไปกอดเจ้าริวและเลยไปถึงแนน ผมเลยเห็นว่าแนนแอบอมยิ้ม คงดีใจที่ผมยอมให้เจ้าริวขึ้นมานอนบนเตียง เราเองก็ไม่ได้นอนกันแบบนี้บ่อยๆ ด้วย

                ตื่นมาตอนเช้าแนนกับเจ้าริวก็หายไปแล้ว ผมอาบน้ำแต่งตัวลงไปชั้นล่าง เจอแนนเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว แต่ว่าวันนี้แนนไม่ได้ไปซื้อที่ตลาดเหมือนปรกติ แต่เธอทำเอง ตอนผมลงไปเห็นแนนกำลังดุเจ้าริวที่ไม่ยอมกินแฮมกับไส้กรอกที่เธอทอดจนไหม้

                "กินสิริว ทำไมหละ ชอบไม่ใช่หรอไส้กรอกกับแฮมเนี่ย"
                "อ้าวๆ แม่ลูกเสียงดังกันแต่เช้า"
                "เจ้าริวซิ ดื่อ วันนี้แนนอุสาต์เอาไส้กรอกกับแฮมที่มันชอบให้กิน มันกลับไม่ยอมกิน"

                ผมอยากจะบอกว่าก็ไส้กรอกมันดำขนาดนั้น เจ้าริวมันถึงไม่ยอมกินแต่ก็ไม่อยากให้แนนเสียใจ และบนโต๊ะอาหารผมก็เจอของที่ไม่ต่างกับที่เจ้าริวกิน ไสกรอกแฮมไข่ดาวที่ทอดด้วยไฟแรงจนไหม้ ผมนั่งลงแล้วทำเป็นกินปรกติไม่บ่นอะไร

                "อืมก็อร่อยนะริวกินซิ"

                เจ้าริวมันมองผมกิน พอมันเห็นผมกินได้มึงถึงยอมลองกิน แต่ดูๆ มันก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เหมือนกับผมที่ต้องแกล้งทำเป็นว่าของไหม้บนโต๊ะนี้มันรสชาติปรกติ

                "แล้วแนนไม่ทานหรอ"
                แนนส่ายหน้า "ไม่เอาแนนอยากกินหมูปิ้ง เดี๋ยวพี่บีไปทำงานแล้วแนนจะออกไปซื้อ"
                เจ้าริวได้ยินว่าแนนจะไปซื้อหมูปิ้งมันก็เห่าแล้วมันก็ไม่ยอมกินไส้กรอกต่อ
                "ไม่ต้องเลยกินให้หมด ถ้ากินไม่หมดไม่ต้องกินหมูปิ้ง"

                เจ้าริวมันเลยต้องทนกินไส้กรอกใหม้ๆ ของแนนต่อเหมือนกับผม พอกินอาหารเสร็จแนนก็เอากาแฟมาให้ผม ซึ่งเธอไม่เคยทำ ผมรับมาแล้วลองชิม แค่จิบไปนิดเดียวผมก็เกือบจะพ่นออกมา เพราะมันหวานปรี๊ดดดดด ผมมองหน้าแนนที่กำลังรอให้ผมบอกว่ากาแฟอร่อยหรือเปล่าอยู่

                "อืมมม อร่อยดีนะ ใครสอนหรอ"
                แนนยิ้ม "เปล่าก็ลองๆ ทำดู ไม่คิดว่าจะอร่อยแบบนี้"
                ผมไม่พูดอะไรต่อ พยายามดื่มกาแฟต่อให้หมด "แนนขอน้ำส้มหน่อยซิ"

                ผมกะจะกินน้ำส้มล้างรสหวานของกาแฟ แนนเอาน้ำส้มมาเสริฟให้ ผมรับมาแล้วรีบดื่มเพื่อล้างรสหวานของกาแฟ แต่พอดื่มเข้าปากผมก็แทบจะพ่นมันออกมาเหมือนตอนกินกาแฟ เพราะมันเปรียวปรี๊ดดดดด

                "เป็นไงบ้าง แนนเติมมะนาวลงไปด้วย เห็นในโทรทัศน์บอกว่ารสจะดีขึ้น"
                "แล้วนี่ใส่ไปเท่าไหร่"
                "สองลูก" แนนยิ้มเหมือนภูมิใจมาก

                ผมคิดในใจสองลูกถึงว่ามันถึงได้เปรี้ยวปรี๊ดดดดขนาดนี้ หลังจากที่ต้องทนกินกาแฟหวานปรี๊ดดดดด ผมก็ต้องมากินน้ำส้มเปรี้ยวปรี๊ดดดดต่อ ผมเลยขอน้ำเปล่ามาล้างคอ

                "แนนขอน้ำเย็นหน่อยสิ"
                "ค่ะ"
                แนนเอาน้ำเย็นมาให้ ผมรับมาแล้วจะดื่มแต่ก็คิดได้ว่า
                "น้ำเปล่าคงไม่มีสูตรพิเศษใช่ไหม" ผมถามแนน
                "ไม่มีพี่บี หรือว่ามี สูตรอะไรหรอแนนจะได้ทำตาม"
                "เปล่าๆ ไม่มี่" ผมตอนเสียงสูง "น้ำเปล่าอย่าผสมอะไรเลย"
                "หรอ ไม่มีหรอ ว้า" แนนตอบเหมือนอยากให้มันมีสูตรพิเศษ

                ผมต้องขอเข้าห้องน้ำก่อนไปทำงานเพราะกินน้ำไปถึงสามแก้ว จากนั้นผมก็ออกไปที่รถแนนก็ตามไปส่ง ผมเข้าไปในรถแนนก็มายืนส่งผมข้างๆ รถพร้อมกับเจ้าริว

                "ขับรถฟังเพลงบ้างเปล่า" แนนถาม
                "ไม่นะ มีแต่คนโทรเข้ามา"
                "อืม" แนนทำหน้าเหมือนผิดหวัง

                ผมขับรถออกจากบ้าน พอออกถนนใหญ่ผมรีบโทรหาก้อย

                "กำลังไปรับนะ"
                "ว้าย พี่บี ก้อยยังไม่ถึงออฟฟิตเลยนะค่ะ"
                "อ้าวไหนว่าวันนี้เราจะเจอกันไง"
                "ก็ก้อยบอกว่าเจอกันตอนทานข้าวเที่ยงไงค่ะ"
                "ก็อยากจะแล้วอะ พี่รอจนเที่ยงไม่ไหวแล้ว"
                "พี่บีนี่ ก้อยต้องทำงานก่อนค่ะ เที่ยงค่อยมานะ"
                "ไม่เอาอะ อยากไปเจอตอนนี้เลย"
                "ไม่ต้องเลย ถ้าดื่อไม่ต้องมาหาก้อยเลยนะ"
                "โถแบบนี้ก็แย่สิ"
                "ว่าแต่เมื่อวานเป็นไงค่ะ น้องรอหรือเปล่า"
                "อ้อ รอ เออ แต่ไม่ได้รอกินข้าว นะ รอพี่กลับเฉยๆ"
                "เห็นไหม ทำน้องลำบากต้องมานั่งรอ"
                "แหม พี่ก็ชดเลยให้แล้วนะ เมื่อคืนก็ให้เจ้าริวมานอนบนเตียง"
                "เมื่อคืนนอนด้วยกันหรอค่ะ"
                ผมเลยเล่าให้ก้อยฟัง รวมถึงอาหารเช้าด้วย ก้อยหัวเราะขำผมใหญ่เลย
                "ยังจะมาหัวเราะอีก"
                "แหมก็น้องเค้าอยากดูแลพี่บีนี่ค่ะ"
                "นึกได้แล้ว ก้อยทำอาหารเก่งทำไมไม่สอนไอ้ตัวเล็กบ้าง ปล่อยให้คิดเองไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาให้พี่กินอีก"
                ก้อยหัวเราะชอบใจ
                "ไม่ต้องหัวเราะเลย"
                "ค่ะ เดี๋ยววันหยุดนี้ก้อยจะสอนน้องแล้วกันนะค่ะ"
                "ดีๆ ไม่ใช่แค่พี่เดือนร้อนนะ เจ้าริวมันก็โดนไปด้วยนะ"
                "แหม น้องเค้าหวังดีทำไมมีแต่คนไม่เข้าใจ"
                "อ้าว ถ้างั้นเย็นนี้ก้อยมากินข้าวเย็นฝีมือแนนดีไหม พี่จะได้รีบโทรไปบอกแนนให้เตรียมแสดงฝีมือเย็นนี้"
                "ว้ายยย ไม่เอานะค่ะ"
                "ที่ตัวเองไม่เอา"
                ก้อยหัวเราะ "แค่นี้ก่อนนะค่ะก้อยถึงออฟิตแล้ว"
                "อ้าวๆ เดี๋ยวสิก้อย"

                ก้อยแกล้งตัดสายหนีผมไป พอใกล้เที่ยงผมก็ไปรับก้อยที่ออฟฟิตตามที่นัดไว้ ก้อยงอแง้ทำท่าจะไม่ยอมไปกินข้าวกับผมเพราะบอกว่างานเยอะ แต่ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน

                "สัญญาแล้วพี่ไม่ยอมหรอก"
                "แหมวันอื่นก็ได้นี่ค่ะ วันศุกร์ก็ไปหาอยู่แล้ว"
                "ไปหาแต่ก็มีก้างตลอด ไอ้ตัวเล็กช่วงนี้ไม่ปล่อยให้พี่ได้อยู่กับก้อยสองต่อสองเลย"
                "แหมน้องเค้าก็อยากอยู่ด้วย เค้าบอกไม่ใช่หรอค่ะว่าพอย้ายมาอยู่บ้านเราก็ห่างกันไม่เหมือนตอนอยู่คอนโด"
                "มันก็ใช่แต่มันก็ต้องมีช่วงเวลาส่วนตัวกันบ้าง"
                "ถ้าอยากกอดมากขนาดนี้ ทำไมไม่กอดน้องแทนก้อยก่อนหละค่ะ"
                "ขานั้นยอมซะที่ไหน แถมมีไอ้ริวตามติดอยู่ด้วย"
                "แต่ก้อย"
                "ไม่เอา ถ้าแบบนี้นะ พี่จะไปขอก้อยกับคุณพ่อคุณแม่วันนี้เลย คราวนี้จะได้กอดทุกวัน"
                "ไม่เอานะค่ะ ไหนสัญญาว่าจะให้ก้อยทำงานก่อนไง"
                "ทีก้อยยังไม่รักษาสัญญากับพี่เลย"
                "ก็ได้ค่ะ แต่ไม่เกินบ่ายสองนะ ก้อยต้องทำงานอีกนะ แล้วก็อย่าทำเยอะด้วยเดี๋ยวก้อยไม่มีแรงทำงานต่อ"
                "งั้นพี่ไปรับเลยนะ"
                "เดี๋ยวค่ะ เพิ่ง 11 โมงเองนะ"
                "นะๆ แล้วบ่ายสองพี่จะส่งกลับออฟฟิต"
                "พี่บีนี่ ก็ได้ค่ะ อย่าทำเยอะนะก้อยจะทำงานต่อ"
                "จ้าไม่เยอะ ไม่เยอะ"

                ผมไปรับก้อยแล้วพาเธอมาทานอาหารในโรงแรมริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งผมเตรียมจองห้องไปสำหรับสวีทกันต่อหลังทานข้าวเที่ยงเสร็จ หลังจากก้อยขึ้นเป็นผู้จัดการเธอแต่ตัวรัดกุมขึ้นไม่ค่อยเซ็กซี่เหมือนเมื่อก่อน แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนหุ่นดี ชุดทำงานสูทกระโปรงสีม่วงอ่อนเชิ้ตสีขาวก็ทำให้เธอดูสวยสง่าจนหนุ่มๆ ที่เห็นต้องมองเหลียวหลัง

                "มีอะไรหรือเปล่าค่ะ เอาแต่มองหน้าก้อยแล้วก็ยิ้มอยู่นั่นแหละ"
                "ก็วันนี้ก้อยสวยจนพี่ตะลึงทำอะไรไม่ถูกแล้ว"
                "แหม ไม่ต้องมาปากหวานเลยค่ะ แล้ววันอื่นๆ ที่

rongler2524


Kamol