ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ม็อบสีเสื้อกับ "เด็ก" เรื่องเล็ก ๆ ที่น่าห่วง!/สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ

เริ่มโดย 02766132, มีนาคม 31, 2010, 06:25:03 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

02766132

จากภาพของผู้คนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้าสู่เมืองกรุงตามการนัดหมาย แต่ละคนมาด้วยแววตามุ่งมั่น สวมใส่เสื้อสีเดียวกันบ่งบอกจุดยืนและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวอย่างชัดเจน เป็นภาพที่เราเห็นกันจนชินตา ไม่ว่าจากรายงานข่าว หรือภาพบนท้องถนนที่เราสัญจรไปมา ท่ามกลางผู้คนมากมายที่มาชุมนุมกันนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่น่าจะไม่เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองดีนัก กระนั้น ก็ยังติดสอยห้อยตามคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการชุมนุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า การพาเด็กเล็กเข้าร่วมชุมนุมนั้น จะส่งผลกระทบต่อเด็กๆหรือไม่ อย่างไร ?
       
       กับเรื่องนี้ พญ. รัตโนทัย พลับรู้การ กลุ่มงานจิตเวชเด็กและวัยรุ่น กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ได้ให้คำตอบในประเด็นดังกล่าวว่า "พ่อแม่ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานเข้าร่วมการชุมนุม อาจมีความคิดว่า ในการชุมนุมนั้นก็ไม่ได้มีความรุนแรงอะไร เพียงแค่ไปนั่งฟังการปราศัย การพาเด็ก ๆ ไปเข้าร่วมจึงไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากจะกล่าวกันจริง ๆ ในเรื่องของความรุนแรงนั้น ไม่ได้หมายความถึงการทำร้ายร่างกายเท่านั้น แต่การใช้คำพูดที่รุนแรง น้ำเสียงดุดัน ก็ถือเป็นความรุนแรงได้ ดังนั้น เด็ก ๆ ที่เข้าร่วมการชุมนุม ได้ฟังการปราศัยก็มีโอกาสที่จะซึมซับและเลียนแบบวิธีการพูดดังกล่าวได้"
       
       นอกจากนั้นคุณหมอ ยังบอกอีกว่า ความเครียด ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรจะคำนึงถึงก่อนที่จะพาบุตรหลานเข้าร่วมชุมนุม เพราะด้วยสถานการณ์ การรวมตัวของมวลชนที่ถูกกระตุ้นให้มีความฮึกเหิมอยู่ตลอดเวลา ย่อมทำให้บรรยากาศรอบ ๆ การชุมนุมเกิดความเครียดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเด็ก ๆ เองเมื่อได้สัมผัสกับบรรยากาศดังกล่าว ก็จะทำให้เกิดความวิตกกังวล เครียด
       
       "โดยเฉพาะเด็ก ๆ วัยต่ำกว่า 6 ปี ที่พัฒนาการด้านอารมณ์ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ดังนั้นเด็กจึงไม่สามารถแยกแยะหรือจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้อย่างเหมาะสม ทำให้เด็กได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดนี้โดยตรง จนอาจส่งผลให้เด็ก ๆ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป งอแงมากขึ้น เบื่ออาหาร หรือกระทั่งนอนไม่หลับ ผนวกกับสภาพอากาศที่แปรปรวนของบ้านเรา อากาศร้อน สลับฝนตกก็อาจจะทำให้เด็ก ๆ เป็นไข้หวัด ท้องร่วง และมีอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ เกิดขึ้นได้ง่าย"
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพของการชุมนุมแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสังคมไทยขณะนี้ แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง อาจใช้โอกาสนี้ สอนบุตรหลานในเรื่องการยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง และการจัดการกับความขัดแย้งได้
       
       ทั้งนี้ จิตเวชเด็กและวัยรุ่น แนะพ่อแม่ผู้ปกครองในการสอนลูกว่า "สำหรับเด็กโต พ่อแม่ผู้ปกครองอาจใช้โอกาสนี้ พูดคุยกับลูกในเรื่องรับฟังความคิดเห็นที่ต่าง ชี้ให้ลูกเห็นว่า การมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่องเป็นสิ่งธรรมดาที่เราจะพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน และเมื่อใดก็ตามที่เรามีความคิดเห็นไม่ตรงกับคนอื่น สิ่งที่ต้องทำคือพูดคุยเพื่อหาข้อสรุป และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง"
       
       คุณหมอยังกล่าวทิ้งท้ายไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้พ่อแม่ในการเลี้ยงดูลูก โดยหยิบยกตัวอย่างการเจรจาของผู้นำทั้งสองฝ่ายที่เกิดขึ้นให้ลูกเห็นภาพความคิดเห็นที่แตกต่าง อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรระมัดระวังการเปิดรับสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะรายการข่าว ไม่ควรมากเกินไป เพราะอาจทำให้เด็ก ๆ เกิดความเครียด ทางที่ดีควรใช้เวลาชมรายการข่าวกับลูก และคอยให้คำแนะนำ เมื่อมีภาพข่าวที่ส่อถึงความรุนแรง ทั้งนี้ไม่เฉพาะเรื่องของการชุมนุมแต่รวมถึงความรุนแรงอื่น ๆ อีกด้วย"
       
       คำกล่าวที่ใช้กันมาทุกยุคทุกสมัยว่า เด็ก ๆ เปรียบเสมือน "ผ้าขาว" ยังคงเป็นความจริงอยู่เสมอ เพราะเด็ก ๆ จะเติบโตมาเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการแต่งแต้มสีสันจากผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ นั่นเอง แม้ว่าสังคมของเราจะถูกแบ่งขั้วเป็นสองสีที่ต่างกัน แต่จำเป็นด้วยหรือที่อนาคตของชาติ จะต้องเติบโตขึ้นมาพร้อมกับสีแห่งความขัดแย้งสองสีนี้...หรือเราในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต่างถวิลหาความสามัคคีปรองดอง จะปล่อยให้ผ้าขาวเหล่านี้ เป็นสีขาวไปให้นานที่สุดตามธรรมชาติของพวกเขา ด้วยความหวังว่า สังคมไทยในภายภาคหน้าจะไม่มีสีที่แตกต่าง แต่จะมีเพียงสีของความสามัคคี เพื่อให้ผ้าขาวเหล่านี้เติบโตไปตามวัย ด้วยหัวใจที่เป็นสีเดียวกัน...
เกลียดพวกหมิ่นเบื้องบนและเผาบ้านเผาเมือง