ธุรกิจงานศพ ธุรกิจปล้นคนเป็น

[02766132]

พีเพิลส์เดลี – เทศกาลเช็งเม้ง ซึ่งตรงกับวันจันทร์ ( 5 เม.ย) ในปีนี้ ธุรกิจเกี่ยวกับคนตายในเมืองจีนฟันกำไรกันไม่หวาดไม่ไหว
       
       ที่หมู่บ้านหลิวเตาคั่วในมหานครเทียนจิน (เทียนสิน) บรรดาลูกหลานมังกรยอดกตัญญูยืนเบียดเสียดกันตลอดถนน ซึ่งมีระยะทาง 2 กิโลเมตร เพื่อรอเซ่นไหว้สุสานบรรพบุรุษ ส่วนร้านค้าขายส่งสำหรับเครื่องใช้ในพิธี ซึ่งมีกว่า 100 ร้านเตรียมรับทรัพย์อย่างสบายอุรา
       
       ธุรกิจงานศพเป็นธุรกิจ ที่หาเงินได้ง่ายในเมืองจีน เนื่องจากมีการโก่งราคาสินค้าและบริการแพงลิ่วเกินความจริง เช่นผู้ค้าปลีกอาจขายโกศใบหนึ่ง ซึ่งมีราคาเพียง 200 หยวน (1,000 บาท) ได้ถึง 5,000 หยวน (25,000 บาท) เนื่องจากผู้ซื้อก็ไม่ต้องการของราคาถูกสำหรับบรรพชน จนกระทั่งมีการกล่าวหากันว่า เป็นธุรกิจปล้นคนเป็น เพื่อฝังคนตาย
       
       นักวิจัยของสถาบันรัฐศาสตร์แห่งเทียนจินระบุว่า ในจีนมีคนตายถึงราว 10 ล้านคนแต่ละปี ธุรกิจงานศพจึงเป็นตลาด ที่มีมูลค่าสูงหลายหมื่นล้านหยวน
       
       อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังขาดการควบคุมบริหารจัดการ จึงเป็นช่องทางให้นักธุรกิจ ที่เห็นแก่ได้ ผูกขาดพื้นที่ และฉวยประโยชน์จากความโศกเศร้าของผู้คน
       
       หลุมฝังศพเป็นขุมกำไรใหญ่อีกแหล่งหนึ่ง หลิว ไห่ ลูกยอดกตัญญูยอมจ่ายเงิน 75,000 หยวน (375,000 บาท) สำหรับหลุมศพของมารดา ซึ่งมีขนาด 0.8 ตารางเมตรในชานกรุงปักกิ่ง แม้ราคาต่อตารางเมตรนี้จะสูงกว่าของอพาร์ตเมนต์ชั้นดีในตัวเมืองกรุงปักกิ่งก็ตาม
       
       หลุมฝังศพมีราคาสูงลิ่ว สาเหตุหนึ่งก็เนื่องจากขาดแคลนพื้นที่ โดยทางการต้องจัดสรรที่ดินสำหรับพื้นที่ปลูกบ้านให้กับคนเป็นก่อนเป็นอันดับแรก
       
       รัฐบาลจีนได้ออกร่างนโยบายเกี่ยวกับธุรกิจงานศพเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อทำประชาพิจารณ์ โดยระบุว่า ชาวปักกิ่งจ่ายเงินสำหรับพิธีศพเฉลี่ยครอบครัวละ 3,000 หยวน (15,000 บาท) ซึ่งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่นหลุมศพ แต่ชาวเน็ตต่างบอกว่า ประมาณการณ์ต่ำกว่าความจริง และธุรกิจงานศพมีรายได้มากเกินไปแล้ว
       
       ผู้ทำงานที่บริษัทจัดงานศพในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจรายหนึ่งเปิดเผยค่าใช้จ่ายตั้งแต่การเก็บรักษาศพ,แต่งหน้า, แต่งกาย , ขนส่ง,จัดพิธี และฌาปนกิจ รวมแล้วตกราว 3,000 หยวน (15,000 บาท) – 60,000 หยวน ( 3 แสนบาท)
       
       อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนมีนโยบายให้เงินอุดหนุนสำหรับการจัดงานศพแก่ประชาชน และ ยังมีการบุกเบิกงานศพในเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น ที่เมืองเซินเจิ้น ทางภาคใต้ มีการโปรยเถ้ากระดูกผู้ตายในทะเลมาตั้งแต่ปี 2551 และเริ่มโครงการนำเถ้ากระดูกไปฝังที่ใต้ต้นไทร แทนการเสียเงินซื้อที่ดินสำหรับสุสาน

เครดิต เวปเพื่อนบ้าน