ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เจาะจุดเด่น 6 ประเทศยอดนิยม! เปิดตัวช่วยส่งลูกไป "ซัมเมอร์"

เริ่มโดย 02766132, เมษายน 09, 2010, 07:56:35 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

02766132

ทุกวันนี้ภาษาต่างประเทศ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมากขึ้น ทำให้พ่อแม่ต่างส่งเสริมให้ลูกได้เรียนภาษากันอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความได้เปรียบในสังคมแห่งโลกอนาคต โดยเฉพาะช่วงนี้ที่คุณหนู ๆ อยู่ในช่วงปิดเทอม ถือเป็นโอกาสที่พ่อแม่จะส่งลูกไป "ซัมเมอร์แคมป์" เพื่อเปิดโลกประสบการณ์ให้เด็กในระยะสั้นสำหรับครอบครัวที่มีกำลัง ดังนั้น เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับพ่อแม่ทุกคน วันนี้ ทีมงาน Life and Family เจาะจุดเด่น 6 ประเทศยอดนิยม เปิดตัวช่วยก่อนส่งลูกไปเรียน "ซัมเมอร์" มาฝากกัน
       
       *** ซึมซับ "ระเบียบ" ในสิงคโปร์
       
       เริ่มกันที่บ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง "สิงคโปร์" ประเทศนี้ "กวิน แก้วกอง" ผู้เชี่ยวชาญด้านการแนะแนวเยาวชนไปศึกษาภาคฤดูร้อนที่ต่างประเทศจากสถาบันชั้นนำกล่าวว่า สาเหตุที่พ่อแม่จำนวนไม่น้อย นิยมส่งลูกไปเรียน เพราะเดินทางสะดวก และเป็นประเทศที่เคารพในกฎระเบียบ และความสะอาด ข้อห้ามต่าง ๆ เข้มงวด ไม่ว่าจะบ้วนน้ำลายบนพื้นถนนหรือทิ้งขยะไม่เป็นที่ก็จะถูกปรับ ทำให้เด็กซึมซับ วินัย และเคารพกฎกติกาไปในตัว อีกทั้งยังมีระบบการศึกษาที่เข้มแข็ง ส่วนใหญ่จะใช้ระบบแบบอังกฤษ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 50,000 บาทต่อเดือน
       
       ที่สำคัญนอกจากเด็กจะได้ภาษาเดิม ภาษาอังกฤษ ยังได้เรียนรู้ภาษาจีน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย อเมริกา หรือประเทศทางยุโรป สำหรับเด็กที่ไปซัมเมอร์ที่นี่ ไม่ต้องทำ Visa แต่ถ้าอยู่เกิน 1 เดือนจะต้องทำเป็น Student Pass จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำด้วย เริ่มต้นที่ 2,000 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถานทูตประเทศสิงคโปร์ โทร. 0-2286-2111
       
       *** "อเมริกา-แคนาดา" เมืองน่าเรียน แต่ใช้ทุนสูง
       
       ข้ามฟากมาอีกฝั่งทวีป ณ โซนลุงแซม "สหรัฐอเมริกา" ดูบ้าง จริง ๆ แล้วแถวนี้ไม่ค่อยมีการจัดเรียนซัมเมอร์มากนัก ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งการเดินทางที่ใช้เวลานาน ลักษณะประเทศที่กว้างใหญ่และเสรี ซึ่ง "กวิน" ได้ให้ภาพรวมว่า ผู้ปกครองที่มีลูกเล็ก ๆ ไม่ค่อยนิยมส่งลูกไปเรียนที่อเมริกา แต่ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่น หรือนักศึกษาก็จะให้ความสนใจไปเรียนมากกว่า ซึ่งจะเป็นการศึกษาต่อในระดับสูง และสามารถทำงาน Part Time ได้ด้วย
       
       ด้านข้อจำกัดที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องคิดสักหน่อย สำหรับการส่งลูกมาเรียนที่นี่ คือค่าเรียนที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับมีแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งชอปปิ้งจำนวนมาก ที่คอยดูดเงิน และยั่วใจให้เด็ก ๆ ใช้เงินเยอะระหว่างอยู่ซัมเมอร์ อีกทั้งความพลุกพล่านทันสมัยที่มีทั้งที่เที่ยวสนุกสนานแทบทุกรูปแบบ ทำให้พ่อแม่ที่อยากให้ลูกไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ จึงไม่นิยมส่งลูกไปเรียนซัมเมอร์ที่อเมริกา แต่ในทางกลับกัน เด็กที่ไปเรียนที่นี่จะได้รับการฝึกความรับผิดชอบ ทั้งกับครอบครัวที่อาศัยอยู่ด้วย และความรับผิดชอบกับตัวเอง ซึ่งบางครั้งอาจคาดหวังให้เด็ก ๆ ช่วยทำงานบ้านบางอย่าง เพื่อแลกเปลี่ยนหรือลดค่าใช้จ่าย
ส่วนดินแดนเมเปิ้ลอย่าง "แคนาดา" มีเมืองที่น่าสนใจอย่าง "แวนคูเวอร์" ที่ติดชายทะเล อากาศไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการแนะแนวการศึกษาของเยาวชนรายนี้แนะนำว่า ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เหมาะกับการไปซัมเมอร์ที่เมืองแวนคูเวอร์อย่างยิ่ง เพราะเป็นฤดูร้อน อากาศกำลังดี อย่างไรก็ดี แคนาดาเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากเด็กญี่ปุ่น และเกาหลีในการไปเรียนซัมเมอร์ เด็กไทยสามารถมีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่น และเกาหลีได้การเรียนรู้ภาษาที่ 3 ไปในตัว สนใจสอบถามได้ที่สถานทูตประเทศสหรัฐอเมริกา โทร. 001-800-13-202-2453 หรือ 0-2205-4000. และสถานทูตประเทศแคนาดา โทร. 0-2636-0540 ต่อ 3399
       
       *** ต้นตำรับสำเนียง "ผู้ดี" ต้องไป "อังกฤษ"
       
       สำหรับ "อังกฤษ" ทีมงานได้รับข้อมูลจาก "กมลพร ชลนิธารักษ์" ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันแนะแนว Profesional Intereducation ว่า เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็น่าส่งลูกไปเรียน เพราะเป็นประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศที่สวยงาม ได้ฝึกภาษาจากเจ้าของภาษาโดยตรง ดังนั้นการฝึกสำเนียงในการใช้ภาษาค่อนข้างไพเราะตามต้นฉบับดั้งเดิม มีแบบแผนที่ดี และมีมาตรฐานการเรียนที่ได้การยอมรับจากสากล
       
       "ในอังกฤษมีทั้งโรงเรียนสอนภาษา และโรงเรียนที่เปิดเรียนซัมเมอร์อื่น ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะลอนดอนทำให้เด็กได้มุมมองของวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างเปิดกว้าง แต่ข้อจำกัดของการไปเรียนที่อังกฤษนั้น เด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 12 ปีหรือไม่เคยเดินทางตามลำพัง อาจจะไม่เหมาะสม เพราะการเดินทางของบางสถาบันแนะแนว ไม่มีเที่ยวบินที่เดินทางสู่เมืองที่ต้องการไปโดยตรง จึงต้องไปต่อเครื่องบินตามเมืองหรือประเทศต่าง ๆ จึงมีความลำบาก และอาจเกิดอันตรายได้" กมลพร อธิบาย
 แต่ทั้งนี้ นักแนะแนวการศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ฝากเตือนพ่อแม่ว่า ปัจจุบันมีสถาบันแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เกิดขึ้นจำนวนมาก ปิด และเปิดกิจการโดยใช้ชื่อของธุรกิจใหม่ก็มี ทั้งนี้เพื่อความแน่ใจ พ่อแม่สามารถตรวจสอบกับสถานทูตก่อนว่า สถานบันแนะแนวดังกล่าวมีจริงหรือไม่ เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ปรึกษาได้ที่สถานทูตประเทศอังกฤษ โทร.0-2305-8333
       
       ***สงบงามนาม "ออสเตรเลีย"-"นิวซีแลนด์"
       
       หากบ้านไหน อยากให้ลูกเรียนซัมเมอร์อย่างเต็มที่ และสัมผัสกับธรรมชาติโดยตรง ขอนำเสนอ "ประเทศออสเตรเลีย" และ "นิวซีแลนด์" เพราะโดดเด่นในเรื่องของการดูแลเด็กเล็ก เพราะที่นี่กิจการโฮมสเตย์ทุกแห่งจะต้องขึ้นทะเบียนเพื่อตรวจสอบประวัติการก่ออาชญากรรมอย่างละเอียด จากนั้นเจ้าของโฮมสเตย์ต้องยื่นใบสมัครไปยังโรงเรียนที่เปิดเรียนซัมเมอร์ ซึ่งเป็นการวัดระดับความ ปลอดภัยไว้สูงมาก
       
       นอกจากนี้ ทุก ๆ วันหยุดพักผ่อน โฮมสเตย์จะพาเด็ก ๆ ออกไปปิกนิกนอกบ้าน เที่ยวชมธรรมชาติ เล่นกีฬา ชมพิพิธภัณฑ์ บางครั้งหลังจากเลิกเรียนผู้ดูแลก็จะมารับเด็กที่โรงเรียนและอาจแวะเที่ยวสวนสาธารณะ เพราะที่ออสเตรเลียเด็ก ๆ ที่รักสัตว์อาจจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะสามารถพบเจอจิงโจ้ได้ตามสวนสาธารณะ
       
       ขณะที่ "นิวซีแลนด์" "เกวลิน เลิศรัศมีวงศ์" ผู้จัดการศูนย์ Education New Zealand ประจำประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า เป็นประเทศที่สอนให้นักเรียนคิดต่าง และสร้างเด็กให้มีความคิด สร้างสรรค์ โดยเน้นการคิดแบบ New Thinking รวมทั้งการตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากในนิวซีแลนด์ อีกทั้งเด็ก ๆ จะต้องกล่าวคำขอบคุณพนักงานขับรถประจำทาง ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เช่นเดียวกับการกล่าว Good Night กับสมาชิกในบ้านเมื่อจะเข้านอน
เกลียดพวกหมิ่นเบื้องบนและเผาบ้านเผาเมือง