ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

'จตุรงค์' คนขายขำ 'เลี้ยงลูก' ไม่ใช่เรื่องขำๆ

เริ่มโดย 02766132, เมษายน 14, 2010, 06:50:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

02766132

กลายเป็นตลกชาย ที่ขายดีทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง กับตลกลูก 2 "จตุรงค์ มกจ๊ก (พลบูรณ์)" ที่ทุกมุขเรียกเสียงฮาจนขำกลิ้งไปตามๆ กัน แต่สำหรับบทบาทหัวหน้าครอบครัวในบ้านของนักแสดงตลกคนนี้ ดูเหมือนจะไม่ตลก เพราะนอกจากจะเป็นเสาหลักของบ้านแล้ว บทบาทพ่อของลูก เป็นเรื่องที่จะทำเป็นเรื่องเล่นเหมือนเล่นตลกไม่ได้
       
       "นอกบ้านพี่เป็นคนตลกก็จริง แต่เรื่องในบ้าน พี่จะทำเป็นเรื่องตลกไม่ได้ เพราะพี่ถือว่าพี่เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคนรับผิดชอบทุกอย่าง เราต้องทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะงาน ถ้าเราทำได้ดี แสดงว่าเราให้ความอยู่รอดกับครอบครัวได้ แต่ถ้าทำได้ไม่ดี งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มา ครอบครัวก็แย่"
       
       เสียงหนักแน่นของคุณพ่อตลกลูก 2 ที่มองว่า ครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ จะมาทำเล่นๆ ไม่ได้ เพราะการเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องนำพาสมาชิกให้อยู่รอด และมีความสุข
       
       หากเล่าย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน คุณพ่อตลกท่านนี้ ยอมรับว่า เขาเป็นผู้ชายเจ้าชู้ หลังเลิกจากการแสดงตลก จะไปสังสรรค์กับเพื่อนในยามราตรีอยู่ร่ำไป ไม่ค่อยคิดอะไรกับชีวิตมากนัก แต่พอถึงวันหนึ่งที่มีลูก โดยเฉพาะลูกสาว พฤติกรรมเหล่านั้น ได้ค่อยๆ ลดหายไป เพราะชีวิตต่อจากนี้ ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่จะมีคนข้างหลังต้องคอยดูแล และรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น
       
       "พี่เลิกเที่ยวตั้งแต่น้องเฟิร์น (ลูกสาวคนโต) อายุ 10 ขวบ ขยันทำงาน หาเช้ากินค่ำ เก็บเงินจุนเจือครอบครัว เลิกเจ้าชู้ เที่ยวน้อยลง เพราะเริ่มคิดถึงลูกสาวมากขึ้น ถ้าไปเจ้าชู้กับคนนั้น คนนี้ มันดูไม่ดีแน่ แต่ก็ยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง จนลูกสาวโต เราก็เลิกเจ้าชู้ไปเลย เพราะเป็นห่วงลูก" คุณพ่อจตุรงค์กล่าว
       
       เมื่อพูดถึงการเลี้ยงลูก บ้านนี้จะเลี้ยงแบบง่ายๆ เข้าใจกัน ไม่ตึง และไม่หย่อนจนเกินไป โดยเฉพาะกับลูกสาว จะไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของลูก จนลูกรู้สึกอึดอัด และไม่เชื่อใจ ทั้งขอเข้าไปดูในห้อง หรือตรวจสอบรายชื่อในมือถือ
       
       "บางครั้งเข้าไปยุ่ง หรือถามอะไรมากไม่ได้ วัยรุ่นก็คือวัยรุ่น ซึ่งเราเข้าใจ พี่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ให้พี่ไม่ถามเลย พี่ทำไม่ได้ รออย่างเดียวว่าสักวันที่เขาเป็นพ่อแม่คน ลูกจะเข้าใจได้เองว่า ทำไมพ่อแม่ถึงได้ถามเขาตลอดเวลา นั่นเพราะว่า เขาเป็นห่วงเรา แต่ถึงอย่างไรลูกก็เป็นนางฟ้าของเรา ที่ไม่ผิด และไม่มีวันที่เราจะทอดทิ้งไปได้"
แต่กระนั้น คุณพ่อตลกท่านนี้บอกว่า ถ้ามันสุดๆ จนมีปากเสียงกัน เขาจะขอก้าวถอยออกมา และคอยดูอยู่ห่างๆ เพราะลูกคือทุกสิ่งทุกอย่าง คือนางฟ้าที่บินโลดแล่นในชีวิต จึงต้องให้ความรักกับลูกอย่างเต็มที่ และถ้าวันหนึ่งลูกจะเป็นอะไร ขึ้นอยู่กับลูกเป็นคนตัดสินใจ จะไม่คาดหวัง และไม่บังคับ ทุกวันนี้เต็มที่กับลูกที่สุด ทั้งให้ความรัก และอนาคตที่ดีกับลูก
       
       ถึงแม้จะมีงานจนหาตารางวันหยุดแทบไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว "พลบูรณ์" ก็ไม่เคยเหินห่าง โดยคุณพ่อตลก เผยว่า เขาจะพยายามเจียดเวลาทำกิจกรรมร่วมกันให้บ่อยที่สุด อย่างน้อย 1 สัปดาห์จะต้องมีเวลา 1 วัน พาครอบครัวออกไปกินข้าวนอกบ้าน ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียว
       
       อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกสาวโตขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ย่อมมีความห่างกันเป็นธรรมดา แต่สำหรับคุณพ่อตลกท่านนี้ กลับไม่คิดว่าห่างแต่อย่างใด เพราะถือว่าทุกวันนี้ พ่อลูกอยู่บ้านเดียวกัน แม้จะแยกห้องกันนอน แต่ก็ยังเจอหน้ากันทุกวัน คุยกันทุกวัน เว้นแต่ว่าการแสดงความรักกับลูกสาว บางอย่างไม่สามารถทำได้เหมือนวัยเด็ก เช่น กอด หอม แต่จะเป็นเพื่อนคุย และเชื่อมความสนิทด้วยการไปกินข้าวนอกบ้าน หรือออกไปเที่ยวด้วยกันแทน
       
       ท้ายนี้ คุณพ่อตลกนาม "จตุรงค์" ฝากถึงลูกๆ ที่มักน้อยใจเพราะคิดว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันว่า "พ่อแม่จะรักลูกเท่ากันหรือไม่นั้น มันไม่ใช่ประเด็น แต่สิ่งที่พ่อแม่ทำ บางครั้งมันมีเหตุผลกับการให้ความสำคัญกับอีกคน ซึ่งน้องหรือพี่ของเราอาจจะอ่อนแอกว่า จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ ส่วนเราเป็นคนแข็งแรง พ่อแม่จึงหมดห่วง อย่าไปคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก ท่านรักลูกทุกคนแหละครับ"
เกลียดพวกหมิ่นเบื้องบนและเผาบ้านเผาเมือง