ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 13 (Copy)

เริ่มโดย bananaa, เมษายน 24, 2010, 03:22:22 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

bananaa

ความเดิมตอนที่แล้ว
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 1 http://xonly.net/main/thread-73194-1-5.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 2 http://xonly.net/main/thread-73467-1-4.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 3 http://xonly.net/main/thread-74734-1-1.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 4 http://xonly.net/main/thread-75011-1-1.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 5 http://xonly.net/main/thread-75218-1-2.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 6 http://xonly.net/main/thread-75683-1-1.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 7 http://xonly.net/main/thread-75684-1-1.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 8 http://xonly.net/main/thread-75690-1-5.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 9 http://xonly.net/main/viewthread.php?tid=77167&extra=
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 10 http://xonly.net/main/viewthread.php?tid=77171&extra=
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 11 http://xonly.net/main/viewthread.php?tid=77174&extra=
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 12 http://xonly.net/main/thread-77175-1-1.html

นับกระทู้ที่โพสต์แล้ว น่าจะได้อีกสักกระทู้นึง ถ้าเกินก็ขออภัยนะครับ แฮ่ ต่อเลยครับ

เชิดยิ้มกริ่มขณะนั่งนับเงินฟ่อนใหญ่ในมือ ปากก็ถามน้องชายที่นำเงินมาส่งให้กับตนเอง ในสถานที่ที่เอเยนต์ค้าย้านรกกำลังมาซุ่มซ่อนอยู่ เพราหลบหนีจากการไล่ล่าของตำรวจ

"ช่วงนี้เป็นไงบ้างวะ...ไอ้ชิด.. ถูกกวนบ่อยไหม...ที่นี่ก็ชักไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ กูอาจจะต้องย้ายที่กบดานอีกครั้ง...พวกชาวบ้านมันชักจะเริ่มมองแปลกๆ แล้ว"

เด็กหนุ่มหัวโจกแก๊งเด็กนรกหัวเราะ ฮิ ฮิ กล่าวอย่างอวดโอ่

"ก็มีบ้าง แต่มืออย่างไอ้ชิดแล้ว สบายมากน่า..."

"เออ อย่าทำกระเร่อกะร่าให้ได้พวกตำรวจมาตามกลิ่นได้แล้วกัน..."

เอเยนต์ค้ายานรกนับเงินเสร็จ ก็ยัดเข้าไปใส่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ก่อนจะถามว่า

"ของใกล้หมดแล้วหรือยังวะ?"

"ก็พออยู่ได้อีกเดือนมั้ง...พี่"

เชิดผงกศีรษะ กล่าวว่า

"เออ แล้วจะให้คนเอาของไปให้"

ชิดหมดธุระกับพี่ชายก็ผุดลุกขึ้น เอเยนต์ค้ายานรกนึกอะไรขึ้นได้รีบเรียก

"เฮ้ย...เดี๋ยว...ไอ้ชิด...วันก่อนกูเจอไอ้มืด...มันเล่าว่าพวกมึงกำลังคั่วเด็กนักศึกษาคนหนึ่งอยู่หรือ?"

ชิดหัวเราะฮิฮิ แลบลิ้นแผล็บๆ เอเยนต์ค้ายานรกตอนนั้นมีสีหน้าเคร่งขึ้น ยกนิ้วชี้หน้า

"ไอ้เหี้ยไม่ต้องทำหน้าหื่น...มึงจะเย็ดใครกูไม่สนใจ...แต่คนนี้กูได้ยินไม่ใช่เป็นแบบอีกะหรี่เด็กพาณิชย์ใจแตกที่มั่วยาจนต้องแบหีให้มึงเย็ด..ทำอะไรระวังหน่อยนะโว้ย...กูขอเตือน...อย่ากระสันให้มากจนเจอตอ...ดูดีๆ เชียวนะมึง...อย่าสักแต่ว่าเอาแค่อร่อยควย..แต่ทำให้เดือดร้อน...พอเรื่องมันบานปลายกูต้องลำบากเชียวนะ"

"น่าพี่เชิด...ผมรู้น่า"

ชิดรับคำอย่างขอไปที แต่ในใจนั้นกระสันซ่านไปกับแผนการณ์ที่ถูกวางเอาไว้ให้สำหรับของเล่นชิ้นใหม่ที่กำลังคอยให้ตนเองกับพวกได้จัดการเป็นอาหารควย....

ใบหน้าเสี้ยมตอบที่หันเดินออกไปจากสถานที่นั้นแย้มยิ้มอย่างกระหายหื่น เมื่อหวนนึกไปถึงรูปของนักศึกษาที่ฐิติพรรณโชว์ให้ดู

ใบหน้าสวยใสนั้นราวกับนางฟ้า ตัวเล็กๆ บางๆ ในชุดนักศึกษา .....

น้องชายของเอเยนต์ค้ายานรกจินตนาการนึกถึงภาพเวลาที่ตนเองกับพวกได้เคล้นคลึงไปทั่วร่างเล็กๆ ได้กระทุ้งควยเข้าไปในโพรงหีที่คงจะตีบๆ เล็กๆ รับกับร่างกายบางๆ นั้น อย่างกระสันซ่าน ยิ่งคิด ยิ่งจิตนาการ แล้วก็ยิ่งขนลุกด้วยความกระหายหื่น

ท่อนกายของหัวโจกแก๊งนรกในเวลานั้นเต่งตึงตัวขึ้นจนนูนคับเป้า

ส่วนเอเยนต์ค้ายานรก พอน้องชายคล้อยหลังไปไม่ทันไรก็ยกมือถือขึ้นต่อสาย พักหนึ่งพอได้ยินเสียงรับ เชิดก็กรอกเสียงลงไปอย่างนอบน้อม

"พ่อเลี้ยงหรือครับ...เราคงต้องขนสินค้ากันอีกรอบแล้วครับ"

.................

อารมณ์ของฐิติพรรณนั้นกรุ่นด้วยความหงุดหงิดเจ็บแค้นมากพออยู่แล้ว ที่สายตาของเธอมองเห็นเงาหลังไกลๆ ของชายหนุ่มที่เธอหลงใหล กำลังเดินอยู่ข้างๆ เด็กสาวร่างเล็กบาง ที่อาการแสดงออกของชายหนุ่มนั้นไม่ได้ปิดบังความรู้สึกที่มีต่อสตรีข้างกายเลยแม้แต่น้อย

แต่ทว่าความรู้สึกเร่าร้อนนั้นยิ่งปะทุสูงขึ้นราวกับถูกราดด้วยน้ำมันเข้าไปในกองไฟที่ผลาญอยู่ในใจของเธอ เมื่อนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านสวนไปนั้นเปรยเสียงเยาะๆ มา

"คู่นั้นเขาสมกันดีนะ...."

พริตตี้สาวหันไปมองตาขุ่น ก็พบเห็นรุจิราที่ยืนยิ้มเชิดหน้ามองมาอยู่แล้ว ตอนนี้เด็กสาวไม่ต้องอาศัยไม้ช่วยเดินแล้วแต่ก็ยังเดินขัดๆ อยู่ไม่เป็นปกติดี

ในเวลานั้นใบหน้าสวยขาวผ่องนั้นมีร่องรอยแห่งความสะใจ ขณะที่หันไปทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับเพื่อนในกลุ่ม

"รุก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะ...พี่ธนาเขารู้ว่าอะไรคือเพชรแท้และอะไรคือพลอยเทียม ที่อาศัยแค่แต่งตัวยั่วๆ คอยจับผู้ชายรวยๆ"

พรรคพวกร่วมกลุ่มหัวเราะครืน ขณะที่ศจีที่เดินมาข้างๆ เพื่อนสาว ฉุนกึก ฮึ่มๆ ในลำคอ

"ตบซะดีไม๊ นังลูกเจ๊กขาเป๋นี่..."

ประกายตาของฐิติพรรณนั้นพลุ่งพล่านระริกขณะจ้องมองไปยังรุจิรา ความจริงเธอไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ อยู่แล้ว แต่ในบริเวณนั้นมีคนพลุกพล่าน ทั้งนักศึกษารวมไปถึงคณาจารย์ ถ้าทะเลาะเบาะแว้งกันไปจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ เรื่องจะไปกันใหญ่ จึงได้แต่ข่มใจ ดึงมือเพื่อนเอาไว้

"อย่าเลย แอ๋ว...ช่างเถอะ..."

ศจีขบเคี้ยวฟันอย่างโมโห ขณะที่เดินผละมากับฐิติพรรณ โดยมีเสียงหัวเราะแหลมๆ ของรุจิรากับพวกไล่หลังมา

"นี่ไอซ์...แกจะเฉยอยู่อย่างนี้เหรอ..ฉันน่ะ..หมั่นไส้นังลูกเจ๊กหน้าจืดจนอยากจะเข้าไปตบให้คว่ำ..."

"แล้วแกไปตบมันจะได้อะไรล่ะ...ก็แค่สะใจเท่านั้นเหรอ.."

ฐิติพรรณกล่าวเสียงเรียบๆ เพื่อนได้ฟังแล้วจึงหันมามองอย่างแปลกใจ

"ฉันรู้สึกว่า...กลับจากหัวหินคราวนี้ แกใจเย็นขึ้นเยอะนะ นังไอซ์"

พริตตี้สาวเหยียดยิ้มมุมปากอย่างขมขื่น...ใครเล่าจะรู้....ถ้าจะนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเธอนั้น คำพูดเสียดสีของรุจิรามันคงไม่ต่างอะไรกับสายลมที่พัดมากระทบตัวอย่างเบาบาง...หาความสลักสำคัญอะไรไม่ได้เลย

ตอนนั้นศจีหันไปยังทิศทางที่ธนาเดินอยู่ลิบๆ กับอรนุช แล้วเน้นเสียงกล่าวอย่างแค้นแทนเพื่อน

"อย่าบอกฉันว่าแกจะยอมเป็นเบี้ยล่างให้ยัยชะนีนุชนั่นไปตลอดนะ...นังไอซ์"

พริตตี้สาวกล่าวเสียงเย็นชา

"วางใจเถอะ..แอ๋ว..ถึงทีฉันเอาคืนบ้าง...ใครที่ทำให้ฉันเจ็บ...ฉันจะเอาคืนด้วยวิธีที่แสบสันต์...แสบกว่าตบหน้าเป็นร้อยเป็นพันเท่า..."

ดวงตาของเด็กสาวสวยนั้นเป็นประกายวูบหนึ่ง วูบนั้นที่เพื่อนสาวมองเห็นแล้วอดที่จะขนลุกไม่ได้

.................

อาคารประชุมนานาชาติที่ใหญ่นั้นแคบไปถนัดตา เมื่อมีการตั้ง Booth แสดงเกี่ยวกับงานด้านท่องเที่ยวจนเต็มพื้นที่ และมีผู้คนทั้งคนทั่วไปและนักธุรกิจหลั่งไหลเข้ามาชมงานกันอย่างเนืองแน่น

ในบริเวณงานอันใหญ่โตนั้นยังแบ่งพื้นที่ซอยย่อยเป็นส่วนสัดสำหรับการเจรจาธุรกิจการค้า ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมงานทุกรายจะได้รับพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นล็อกๆ ไม่ปะปนกัน

ภายในห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับจัดสรรของ Booth ในเครือคัทลียา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นเครือโรงแรมชั้นนำอันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่ได้รับการจับตามองอย่างสูงจากความสำเร็จ ภายใต้การนำของประธานกรรมการบริหารผู้เป็นหญิงสาวที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในความโดดเด่นเป็นเอกทั้งในรูปสมบัติและคุณสมบัติอย่างหาตัวจับยากในบรรดานักธุรกิจเพศแม่ด้วยกัน

ในเวลานั้นอรชายิ้มพลางยื่นมือเรียวงามของเธอให้คู่ค้านักธุรกิจด้านการจัดทัวร์ท่องเที่ยวของประเทศออสเตรียจับ กล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงหวานนุ่มภายใต้สำเนียงภาษาอันไพเราะ

"ขอบคุณเป็นอย่างมากค่ะ...ที่ให้ท่านเกียรติเราได้มีโอกาสบริการ"

ซึ่งอีกฝ่ายก็กล่าวชมเชยเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอีกหลายคำก่อนจะพากันกลับไป