ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เปิดสนาม 'สอนบอล' ฟรี ดึงเด็กจากพื้นที่เสี่ยง! หลังเลิกเรียน

เริ่มโดย 02766132, เมษายน 30, 2010, 06:14:27 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

02766132

เขยิบเข้ามาใกล้ทุกที กับช่วงเวลาเปิดเทอม ที่เชื่อว่าเด็กๆ หลายคน จะต้องตื่นเต้นไปตามๆ กัน เพราะนอกจากจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ช่วงปิดเทอมกับเพื่อนๆ ตามประสาเด็กแล้ว ในปีนี้ ถือเป็นการขึ้นชั้นเรียนใหม่ที่จะทำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอีกระดับ แต่ถึงกระนั้น การเปิดภาคเรียน แทนที่พ่อแม่จะหมดห่วง กลับกลายเป็นเรื่องที่น่าห่วงเข้าไปอีก เพราะสังคมหลักเลิกเรียน เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย จะจับกลุ่มรวมตัวกันเข้าร้านเกม หรือร้านอินเทอร์เน็ต
       
       ปัญหาข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า พื้นที่ทางเลือกที่สร้างสรรค์ โดนใจเด็กๆ มีน้อยมากในสังคม เด็กจึงไปหาตัวเลือกที่สนุก และให้ความสุขจากการเข้าร้านเกมแทน
       
       ด้วยเหตุนี้ ทางศูนย์พัฒนากีฬายุวชนทีปังกรรัศมีโชติ โรงเรียนพุทธารักษ์ จ.ปทุมธานี ได้เล็งเห็นปัญหา จึงเปิดสนามฝึกฟุตบอลเป็นพื้นที่ทางเลือกให้กับเด็กวัยประถมที่มีอายุตั้งแต่ 6-12 ขวบ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย เพื่อให้เวลาหลักเลิกเรียน เป็นเวลาสร้างสรรค์สำหรับเด็กที่ชื่นชอบ และรักในกีฬาฟุตบอล รวมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กด้อยโอกาสได้เข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่ดังกล่าวนี้ด้วย
       
       สำหรับศูนย์นี้ "สมบูรณ์ ประภาสะวัต" หรือ "อ.บูรณ์" ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์พัฒนายุวชนทีปังกรรัศมีโชติ เล่าให้ทีมงาน Life and Family ฟังว่า เป็นศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลให้เด็กที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานนาม พร้อมทั้งพระราชอักษรพระนามย่อ "ทป." มาเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งจัดตั้งโดยกลุ่มพ่อแม่ ครูโรงเรียนพุทธารักษ์ ประชาชนในท้องถิ่น และผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาฟุตบอล
       
       หลังจากนั้นได้รับความร่วมมือจากศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จ.ปทุมธานี และสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตกรุงเทพ จัดทำหลักสูตรกีฬาฟุตบอลให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษา โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างเด็กไทยเข้าสู่วงการฟุตบอลอาชีพ โดยเริ่มตั้งแต่เล็ก ถือเป็นพื้นที่ตัวเลือกให้กับเด็กหลังเลิกเรียน แทนการใช้เวลาไปกับร้านเกม อินเทอร์เน็ต หรือตั้งกลุ่มคุยกัน
       
       "ตอนแรกเป็นการฝึกบอลให้เด็กที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนหนึ่งเพื่อดึงเด็กออกจากพื้นที่เสี่ยง เพราะเท่าที่สังเกตเห็น เมื่อเด็กไม่มีอะไรทำหลังเลิกเรียน โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย จะตั้งกลุ่ม หรือไม่ก็เข้าร้านเกม อินเทอร์เน็ต จากนั้นได้เปิดโอกาสให้พ่อแม่ที่มีลูกอยู่นอกพื้นที่ได้เข้ามาฝึกด้วย เนื่องจากเชื่อว่า กีฬาฟุตบอล เป็นกีฬาเด็กให้ความสนใจ และสามารถพัฒนาไปเป็นนักเตะอาชีพได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างน้อยเด็กจะได้ฝึกวินัย ความรับผิดชอบ รวมไปถึงการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการออกกำลังกายกับการเล่นฟุตบอล" อ.สมบูรณ์กล่าว
       
       นอกจากนี้ ทางศูนย์ยังได้ร่วมมือกับทางโรงเรียนพุทธารักษ์ จัดการศึกษาภาคบังคับ ด้านวิชาการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ด้วยหลักสูตรสามัญของกระทรวงศึกษาธิการในช่วงเช้า เพื่อให้ครอบครัวที่อยู่ไกล หรืออยู่ต่างจังหวัดมีความสะดวกต่อการให้ลูกเข้ารับการฝึกฟุตบอลอย่างเต็มที่ ซึ่งทางโรงเรียนมีหอพักให้บริการ โดยไม่เสียค่าเช่า ยกเว้นแต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่จำเป็นเท่านั้น
       
       ขณะที่การจัดการฝึกฟุตบอลในช่วงบ่าย ยังคงเปิดพื้นที่ให้เด็กทั่วไปได้ฝึกอยู่ โดยจะฝึกร่วมกับเด็กที่เรียนในหลักสูตรสามัญของโรงเรียน ไม่จำกัดเพศแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้น เด็กที่เข้ามาฝึกในช่วงบ่าย เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กข้างนอกได้มาฝึกก็จริง แต่ทั้งนี้ต้องรักษาวินัย และตรงต่อเวลาในการมาฝึกด้วย




สำหรับการฝึก "อาจารย์สมบูรณ์" อธิบายว่า จะฝึกเด็กตั้งแต่พื้นฐาน โดยเริ่มจากการใช้เท้า เช่น เลี้ยงบอลในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงหลักสูตรการฝึกตามที่ผู้จัดทำกำหนด เช่น ตาราง 9 ช่อง ที่จะฝึกการเชื่อมโยงประสาทสมองทั้งซ้าย และขวา เพื่อช่วยในการตัดสินใจ และเกิดความไวในการคิดที่ดี เมื่อเล่นทักษะต่างๆ ตามที่กำหนดได้ดีแล้ว จะปล่อยให้ลงฝึกในสนาม โดยจะให้เด็กเลือกทีม และจัดตำแหน่งกันเอง โดยที่ครูผู้ฝึกจะไม่จัดการ หรือบังคับว่า ใครจะต้องเล่นตำแหน่งใด ทั้งนี้เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ถึงความเหมาะสมของตำแหน่งที่รับผิดชอบ และได้รู้จักตัวเอง โดยจะมีครูผู้ฝึกคอยสังเกตอย่างใกล้ชิด ถ้าเด็กไม่เหมาะสมกับตำแหน่งใด จะมาปรึกษา และจัดตำแหน่งให้เหมาะสมอีกที
       
       "การเล่นฟุตบอล ตัวเด็ก หรือพ่อแม่หลายคนคาดหวังว่า ลูกจะต้องเป็นนักเตะอาชีพอย่างเดียว ซึ่งบางครั้งต้องเข้าใจว่า ลูกอาจด้อยทักษะในการเล่นบางอย่าง แต่มีความสามารถอย่างอื่นได้ดี เช่น วิจารณ์การแข่งบอลได้ดี หรือเก่งในด้านการสอนมากกว่าการเล่น
       
       ดังนั้นวงการฟุตบอลจึงมีให้เด็กเลือกหลายทาง ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเตะอาชีพเสมอไป เช่น ไปเป็นครูฝึก นักวางแผนการเตะ นักเขียน ผู้ประกาศข่าว หรือถ้ามีความรู้ด้านอุปกรณ์กีฬาบอล ก็ไปเปิดเป็นร้านขายได้ เห็นตัวอย่างได้จากเด็ก 10 ขวบ จ.ชลบุรี ที่เล่นไม่เก่งเลย แต่มีความรู้ในเรื่องบอล และรู้จักนักฟุตบอลเยอะมาก เป็นเด็กที่วิจารณ์บอลได้เก่ง จึงถูกเชิญไปสัมภาษณ์บ้าง อ่านข่าวบ้าง" อ.สมบูรณ์ฝาก
       
       คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า "กีฬาฟุตบอล" เป็นกีฬายอดนิยมของเด็กชนิดหนึ่ง ทั้งชาย และหญิง แต่ทั้งนี้ตัวเด็ก และพ่อแม่ต้องเข้าใจด้วยว่า การจะเป็นนักเตะอาชีพนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งถ้าไปไม่ถึง ขอให้คิดอยู่เสมอว่า ยังมีอีกหลายช่องทางให้เลือก แต่อย่างน้อยการเล่นฟุตบอลในวันนี้ช่วยให้ลูกมีร่างกายแข็งแรง ฝึกวินัย และความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน ช่วยดึงเด็กให้ออกจากพื้นที่เสี่ยง หลังเลิกเรียนได้มาก
       
       *** สำหรับพ่อแม่ที่สนใจส่งลูกมาฝึกเล่นฟุตบอล ติดต่อ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์พัฒนากีฬายุวชนทีปังกรรัศมีโชติ โรงเรียนพุทธารักษ์ ถ.เลียบคลอง 11 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โทร. 02-905-9918 หรือ 081-567-2990 รับสมัครไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2553
เกลียดพวกหมิ่นเบื้องบนและเผาบ้านเผาเมือง