ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_err

สามีสุดที่รัก

เริ่มโดย err, พฤษภาคม 24, 2010, 11:57:55 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

err

เรามีอายุแล้วดิฉันก็40กว่าๆแล้วส่วนสามีมากกว่าดิฉันสามสี่ปีค่ะ ดิฉันทำงานในระดับผู้บริหาร ส่วนสามีเพิ่งออกจากงานเมื่อต้นปีนี้เองค่ะ เราอยู่กันสองคนตัวดิฉันเป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้แต่เราก็อญุ่กันอย่างมี ความสุขนะคะ ถึงแม้นว่าสามีไม่ได้ทำงานเราก็ไม่เดือดร้อนตอนนี้สามีก็อยู่บ้านเฝ้าบ้าน ทุกวัน เราอยู่กันด้วยความเข้าใจมีอะไรก็พูดคุยกันตลอด ไม่เคยคิดระแวงซึ่งกันและกันเลย เวลาวันหยุดเราจะไปทานข้าวนอกบ้านไปเที่ยวฟังเพลงดูหนัง ดึกก็กลับบ้านก่อนนอนก็มีเซ็กส์กันแทบทุกครั้งไป ดิฉันชอบให้สามีใช้ลิ้นมากเลยค่ะ โดยปกติเราอาบน้ำเสร็จพอเช็ดตัวให้แห้งดิฉันกับสามีจะเปลือยกายอยู่แบบนั้น ค่ะ ดิฉันจะยืนโดยแยกขาเล็กน้อยแล้วดื่มwineให้น้ำwineล้มออกมาจากริมฝีปากของ ดิฉัน น้ำwineมันค่อยๆไหลผ่านหน้าอกไปยังท้องน้อยเข้าสู่เนินของดิฉันที่ปกคลุมไป ด้วยเส้นขนแต่ไม่มากนัก ส่วนสามีดิฉันจะนั่งคุกเข่าหน้าของเขาจะตรงกับเนินพอดีเลย พอน้ำwineไหลลงร่องจะหยดลงพื้นพรม สามีดิฉันก็ดื่มกินwineที่จะไหลลงพื้นอย่างทันทีทันไดเลย เค้าใช้ลิ้นตวัดไปมารอบๆแคบจนไม่มีน้ำอะไรเหลือ แม้นแต่น้ำจากตัวดิฉันเองที่ออกมาเมื่อลิ้นเค้าไปสัมผัสกับเม็ดละมุดก็ตาม ดิฉันวางแก้วลงแล้วรั้งศรีษะเค้าพร้อมทั้งแอ่นสะโพงของดิฉัน มันสุดแสนจะเสียวค่ะ ทั้งจมูกทั้งลิ้นอัดติดกับโคกดิฉันแน่น ดิฉันก็ส่ายสะโพกทำให้จมูกของเค้าถูไถกับเม็ดละมุดไปมาแล้วลิ้นก็ชอนไชไปใน ร่องนั้น ทนไม่ไหวจริงๆค่ะไม่นานก็เสร็จ สามีดิฉันรู้ใจค่ะ พอดิฉันเสร็จเค้าก็ให้ดิฉันพักสักครู่แล้วเราก็เริ่มใหม่อีกโดยตอนแรกดิฉัน ก็ดูดให้เค้า แล้วเราก็เอากันกันเลย เปลี่ยนท่าโน้นท่านี้ไปเรื่อย จนเสร็จบางทีก็ต่อตอนเช้าก่อนดิฉันไปทำงานอีกรอบนึง ดิฉันก็มีความสุขดีนะถ้าเราเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่จริงๆแล้ว เวลาดิฉันได้พบหรือได้เห็นผู้ชายนิโกรที่ผิวดำๆแล้ว ดิฉันจะมีความรู้สึกมาก ซึ่งสามีก็รู้เพราะเวลาวันหยุดเราไปซื้อของที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้านดิฉัน เวลาพบเห็นนิโกรแล้วเกิดรู้สึกทันที แล้วสามีดิฉันก็สังเกตุดูสีหน้าของดิฉันแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับจากซื้อของมาบ้านเราก็คุยกัน ดิฉันเล่าเรื่องนี้ให้สามีฟัง เค้าก็ว่าในส่วนลึกของคนเราพึงชอบไม่เหมือนกัน จะแสดงออกมาให้เห็นก็ต่อเมื่อได้พบหรือสัมผัส ดิฉันก็ว่าอาจจะจริงสามีก็ขาวตัวดิฉันก็อาหมวยดีๆนี่เอง พอเจอคนผิวดำก็เลยนึกชอบเป็นได้ ดิฉันก็บอกสามีว่าเวลาดูหนังโป๊ที่ซื้อมา ถ้าเป็นฝรั่งแสดงดิฉันดูก็เฉย แต่ถ้าเป็นนิโกรแสดง ดูแล้วมันในอารมณ์มากจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำแฉะออกมาเลย สามีดิฉันก็หัวเราะแล้วบอกว่าลองหามาทดสอบดูซี่ว่าซะใจมั้ย ดิฉันก็หัวเราะตามเค้าไปด้วย ดิฉันทำงานในตำแหน่งผู้บริหารย่อมมีสังคมที่มากมายหลายแบบ มีเพื่อนสนิทหลายคน เวลามีลูกค้าจากต่างประเทศก็จะพาไปหาที่เลี้ยงดูแขกันโดยไปกันเป็นทีมก็สนุก ดีนะ ส่วนมากก็สูงวัยกันทั้งนั้น พอดื่มกินกันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้านเพราะกลุ่มดิฉันก็มีครอบครัวแล้วทั้น ั้น จนมีครั้งหนึ่งค่ะ ลูกค้าเป็นผู้หญิงฝรั่งสองคน ก็ถูกมอบหมายให้ดูแลเราทั้งสามคนหมายถึงดิฉันและเพื่อนก็ต้องเป็นธุระ เราทั้งสามคนพอเลิกงานก็รีบกลับบ้านกลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่พร้อมกับแจ้งให้ สามีทราบกันทุกคน แล้วดิฉันก็ขับรถตระเวนรับเพื่อนอีกสามคนแล้วก็ไปรับแขกที่รออยู่ในโรงแรม เราก็พาแขกของเราไปทานอาหารแถวๆสีลมที่มีโชว์รำไทย และโชว์ประเพณีไทย ซึ่งเราจะพาแขกมาทุกครั้งที่นี่เพราะบรรยากาศแบบนี้ฝรั่งชอบมากแต่พวกเรา เฉยๆเพราะมากันบ่อย หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วก็พาไปฟังเพลงฝรั่งเก่าๆแถวๆโรงแรมถนนพระราม9 ซึ่งพวกเราและแขกเราทั้งสองก็อายุอานาม40กว่ากันทุกคน ต่างก็สนุกสนานกันเต็มที่จนลืมวัยเลย wineหมดไปหลายขวดจนคุยกันสนิทสนมกับแขก ดิฉันนั่งติดกับแขกคนหนึ่งเค้าหันมาถามดิฉันว่า ที่เมืองไทยมีไนท์คลับสำหรับผู้หญิงมั้ย ดิฉันก็ตอบว่ามีแต่สำหรับสมาชิกเท่านั้นคนทั่วไปเข้าไม่ได้ แล้วเค้าก็ถามว่าแล้วดิฉันเป็นสมาชิกหรือปล่าว ดิฉันก็บอกว่าไม่ได้เป็นแล้วไม่เคยไปด้วย แล้วเค้าก็ถามว่าพวกเรามีใครเป็นสมาชิกบ้าง ดิฉันจึงถามเพื่อนๆดูปรากฏว่าไม่มีใครเป็นสมาชิกกันสักคน ดิฉันก็ถามแขกว่าอยากไปเที่ยวเหรอเค้าก็พยักหน้า ก็พอดีเพื่อนที่ไปด้วยมีเพื่อนที่เป็นสมาชิกอยู่คนหนึ่ง เราเลยโทรติดต่อไปเธอก็ยินดีพาไปเที่ยวเราเลยนัดเจอกันหน้าสถานแห่งนั้น ดิฉันขับไปตามทางที่เพื่อนบอก มมันวกไปวนมาจนจำทางไม่ได้ จึงถึงที่แห่งนั้น ก็เจอเพื่อนของเพื่อนคอยอยู่เธอก็พาเข้าไปข้างใน มันก็เป็นคลับแบบสังคมอีกระดับหนึ่ง คนธรรมดาไม่มีโอกาศเข้ามาได้ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น ข้างในมืดแต่ก็พอมองเห็นอะไรต่ออะไร มีฟลอร์เต็นรำเล็กๆอยู่มุมในสุด มีคนมาเที่ยวก็พอสมควร พวกเราก็หาที่นั่งได้ใกล้ๆฟลอร์ด้านในสุดซึ่งเป็นโซฟาชั้นดีนั่งแสนสบาย เพื่อนของเพื่อนรู้สึกคุ้นเคยกับสถานนี้เป็นอย่างดีก็สั่งwineมาต่อกันอีก แล้วเพื่อนที่พามาก็หันไปคุยกับแขกฝรั่งสักครู่ เค้าก็พาฝรั่งสองคนที่เราพามา เดินไปทางเข้าห้องน้ำ ดิฉันคิดว่าเค้าคงพาไปเข้าห้องน้ำ สักครู่ทั้งสามก็กลับมา แล้วพนักงานก็เอาโซฟามาเพิ่มอีก แล้วดิฉันก็หายสงสัยเพราะได้มีชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนเข้ามานั่งคู่กับแหม่ม ที่เราพามา ช่วยรินwineและเทคแคร์พวกเราทั้งโต๊ะ เพื่อนที่พามาก็กระซิบเล่าให้ฟังว่าจะต้องเช่าชั่วโมงพนักงานชายมาบริการตาม โต๊ะเพราะเป็นกฏของที่นี่ แล้วถ้าดิฉันว่าไม่ลองไปดูซักคนเหรอ ดิฉันยิ้มๆแล้วก็หัวเราะ แล้วดิฉันก็สังเกตุไปรอบๆ ในความมืดแต่งพอมองเห็นทุกโต๊ะมีพนักงานชายกันทุกคนที่มาใช้บริการ ดิฉันลอบสังเกตุฝรั่งที่พามารู้สึกสนุกกับสถานที่นี้ เพราะเห็นจูบกับหนุ่มริการบ่อยๆ สงสัยคงตึงเต็มที่ส่วนพวกเพื่อนๆก็กำลังสนุกกับwineกันเต็มที่ ดิฉันก็ทำตัวเองสนุกไปด้วยเหมือนกัน สักครู่ก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ ทางเข้าไปหน้าห้องน้ำนั้นมีตู้โชวร์เป็นห้องขนาดใหญ่ ซึ่งหันหน้าเข้าด้านใน พอดิฉันเสร็จจากทำธุระในห้องน้ำแล้ว ออกมาล้างมือก็พบพนักงานเป็นผู้หญิงมาบริการเอาผ้าอุ่นๆมาให้เพื่อเช็ดมือ ด้วยความสงสัยในห้องนั้นจึงถามเด็กนั้นไปว่าเป้นห้องอะไร เด็กก็บอกว่าเป็นห้องพนักงานชายนั่งโต๊ะ แล้วถามดิฉันว่าเพิ่งมาเที่ยวเหรอ ดิฉันก็พยักหน้า แล้วเด็กคนนั้นบอกว่าดี๋ยวจะพาพี่ไปดู จากนั้นเด็กก็นำหน้าดิฉันเข้าไป ให้ตู้โชว์นั้นเป็นห้องขนาดใหญ่มีพนักงานชายนั่งอยู่ประมาณซัก50คนเห็นจะได้ มีลูกค้าเข้ามาดูสี่ห้าคน ดิฉันไม่กล้าไปยืนใกล้ๆหน้าตู้กระจกนั้น เด็กคนนั้นคงเดาออกก็กระซิบบอกว่าคนข้างในไม่สามารถมองเห็นคนข้างนอกได้ไม่ ต้องกลัว ดิฉันจึงใจกล้าเข้ามาหน่อยเดินเข้ามาดูใกล้ แล้วพิจารณาดูแต่ละคน หน้าตาดีๆทั้งนั้นเลย มีทั้งไทยแท้ลูกครึ่งและฝรั่งแท้ๆก็มี เด็กก็บอกว่าสามารถเรียกไปนั่งได้ทุกคนเลย ค่าชั่วโมงละ1000บาทต่อคน แล้วถ้าพี่จะพาไปข้างนอกก็ต้องจ่ายให้ค่าสถานที่5000บาท ค่าตัวพนักงานก็ตกลงกันเอง แล้วเธอก็กระซิบบอกว่าแขกบางคนใช้บริการที่นี่เลย เพราะว่าชั้นบนเป็นห้องเสริมสวยสตรี แบ่งเป็นห้องๆเค้าใช้เอากันได้เลย ไม่ต้องเสียค่าสถานที่จ่ายแค่ค่าชั่วโมงพนักงานแล้วค่าตัวกับอีกค่าห้องไม่ เกิน4000บาทก็จบ แล้วเด็กก็บอกว่าถ้าพี่สนใจบอกได้เลยหนูรู้จักทุกคน ดิฉันไม่ได้พูดอะไรก็ดูไปทั่วๆ ก็สดุดตากับเด็กคนหนึ่งเข้าเป็นเด็กนิโกรนั่งอยู่แถวกลาง ก็ถ้าเด็กไปว่าแล้วนิโกรคนนั้นเป็นไงบ้าง เด็กก็มองตามมือที่ดิฉันชี้ให้ดู เด็กก็บอกว่ารู้จักพูดไทยได้นิดหน่อย มาอยู่ได้ประมาณสองเดือนมาแล้ว แล้วกระซิบบอกว่าไอ้นั่นใหญ่น่าดูเลย ดิฉันก็สงสัยว่ารู้ได้ไงว่าใหญ่ เด็กเค้าก็บอกว่าหนูก็ดูโชว์อยู่ทุกคืน แล้วบอกว่าอีกสักครู่เค้าจะให้พนักงานนั่งโต๊ะทุกคนนุ่งบิกินี่ไปโชว์บน ฟลอร์ ถ้าพี่สนใจคนไหนก็คอยดูก่อนนะแล้วมากระซิบบอกหนู ดิฉันให้เงินเด็กค่าบอกรายละเอียดไป200บาท แล้วก็กลับไปนั่งโต๊ะ ทุกคนยังคงสนุกกันอยู่หลินซึ่งเป็นเพื่อนที่พามา ก็ถามเข้าไปดูในตู้หรือปล่าวล่ะ ดิฉันก็พยักหน้า แล้วเธอก็บอกว่าเธอมาที่นี่ประจำจนคุ้นเคยทุกคน ที่นี่ดีนะสอาดและพนักงานก็เก่งๆทั้งนั้น ดิฉันเลยเดาไปว่าหลินต้องเคยพาพนักงานที่นี่ไปอึ้บแน่ๆเลย สักครู่หนึ่งก็มีพนักงานชายหนุ่มเข้ามานั่งใกล้ๆหลิน พอหลินเห็นหน้าก็ดีใจใหญ่แล้วน่ะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ทั้งสองคุยกันแบบกระซิบได้ยินหลินถามว่าว่างแล้วเหรอไปนั่งโต๊ะไหนมา ดิฉันรู้ได้ทันทีว่าทั้งสองต้องเป็นคู่ขากันแน่นอนแบบไม่ต้องเดาเลย แล้วได้ยินหลินถามว่าเลิกงานแล้วไปด้วยกันมั้ย แต่พนักงานชายคนนั้นบอกว่าไม่ว่างแล้วพูดเบาๆว่าเดี๋ยวไปห้องเสริมสวยชั้นบน ก็ได้นี่ครับ ดิฉันเห็นหลินยิ้มแล้วพยักหน้าให้พนักงานชายคนนั้น ก็พอดีมีรายการโชว์ก็เหมือนเดินแบบนั่นหละแต่ทุกคนนุ่งกางเกงในตัวจิ๋วกัน ทุกคน พวกเราตื่นตาตื่นใจกันทุกคนโดยเฉพราะตัวดิฉัน อยากจะเห็นเด็กนิโกรคนนั้น ทุกคนค่อยๆเดินมาทีละคน แบบเกือบจะเปลือยเลยก็ว่าได้ เพราะกางเกงในที่นุ่งก็เป็นแบบสายเดี่ยวแถมข้างหน้าก็เป็นผ้าบางๆเท่านั้น พนักงานคนไหนเล็กคนไหนใหญ่มีขนมากน้อยขนาดไหนเห็นได้แจ่มแจ้งแดงแจ๋ ทำเอาดิฉันซดwineไปหลายแก้วโดยไม่รู้ตัว จนถึงคนที่ดิฉันตั้งตาคอยดู ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ถึงแม้นจะดำแต่ก็เห็นชัดเจน เพราะเค้ามาไม่เหมือนใคร โดยนุ่งผ้าเตียวผืนเดียวแบบบางเฉียบ เวลาเดินมันก็แกว่งไปมาเวลาหยุดมันก็แสดงความใหญ่และยาวให้เห็น ทุกคนในโต๊ะดิฉันจ้องตาไม่กระพริบเลย ขณะที่โชว์กำลังดำเนินอยู่นั้น ดิฉันแอบมองพนักงานที่นั่งกับแหม่มทั้งสอง ปรากฏว่าขาทั้งสองของแหม่มถ่างออกกระโปรงก็ร่นขึ้นมา เห็นมือของชายทั้งสองอยู่ภายให้กระโปรงของแหม่ม ตาของแหม่มทั้งสองมองที่ฟลอร์แต่ขาก็ถ่างให้พนักงานใช้นิ้วให้สุดยอดจริงๆ ส่วนหลินที่นั่งอยู่ข้างๆดิฉันก็ไม่เบา ตาก็มองโชว์ส่วนมือเธอก็อยู่บนเป้ากางเกงของคู่ขา พอโชว์จบลงดิฉันเห็นแหม่มทั้งสองก็กระซิบกับหนุ่มทั้งสองที่นั่งข้างๆ แล้วทั้งสองก็ขอตัวลุกออกไป ส่วนหลินนั้นเห็นกระซิบบอกคู่ขาแล้วเค้าก็ขอตัวไปเช่นกัน ส่วนพวกเราไม่รู้เรื่องเลยก็คุยกันอย่างเดียว มีดิฉันคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เลยนั่งดื่มwineไปเรื่อยๆแบบไม่ให้ใครสงสัย แล้วสักครู่หลินก็ชะโงกหน้าเข้ามาถามแหม่มทั้งสองว่าไปห้องเสริมสวยมั้ย เห็นแหม่มทั้งสองพยักหน้า แล้วทั้งสามก็ลุกไปหลินบอกพวกเราเพียงว่า จะพาแหม่มสองคนไปสระผม หน่อยเดี่ยวมา ดิฉันนั่งใจเต้นอยู่บนโซฟา ตัดสินใจแน่วแน่ก็ลุกไปห้องน้ำ แอบกระซิบให้เด็กที่เคยคุยด้วยช่วยนำไปห้องเสริมสวยหน่อย เด็กก็ถามว่ามีเด็กแล้วเหรอ ดิฉันก็บอกว่ามีแขกที่ต้องดูแลอยู่ข้างบนช่วยพาไปหน่อย แล้วส่งเงินไปให้500บาทค่าพาไป เด็กรับเงินแล้วบอกพี่รอเดี๋ยวนะ ไปดูต้นทางก่อนเข้าตรงๆไม่ได้ทางผู้จัดการเค้าเข็มงวดมาก เพราะแขกที่มาเที่ยวมีแต่คนมีเงินทั้งนั้น เด็กหายไปสักครู่ก็บอกให้ดิฉันตามมา เค้าพาดิฉันออกจากห้องน้ำผ่านห้องที่พนักงานชายนั่ง แล้วออกไปข้างๆซึ่งเป็นทางขึ้นไปข้างบนทางบันใดหนีไฟ แล้วเคาะที่ประตูเบาๆ ก็มีเสียงกลอนประตูเปิดแบบเงียบกริบ พอประตูเปิดออกดิฉันก็เห็นเด็กผู้หญิงอีกคนรีบบอกให้เข้ามาแล้วเธอก็ปิด ประตู รีบพาดิฉันและเด็กที่พามาเข้าไปห้องที่ว่างอยู่แล้วแบบมือ เด็กคนที่พาดิฉันมาก็กระซิบบอกว่าเอาเงินให้เค้า300บาท ดิฉันก็หยิบให้ แล้วเด็กคนนั้นก็บอกให้ดิฉันรอเดี๋ยว ส่วนเด็กที่พามาก็ขอตัวไปก่อน เดี๋ยวมีคนสงสัยว่าหายไปไหน แล้วบอกดิฉันว่าพอดูเสร็จก็บอกให้คนที่จะพาไปดูไปส่งก็แล้วกัน แล้วก็ออกไปจากห้อง ภายในห้องที่มีแสงไฟสลัวๆดิฉันสังเกตุว่ามันก็เป็นห้องเสริมสวยเล็กๆ มีอ่างล้างหน้าอยู่มุมห้องแล้วก็มีกระจกบานใหญ่รอบๆ ตรงกลางห้องมีโต๊ะสำหรับซอยผมหรือสระผมซึ่งสามารถเอียงนอนได้โดยปรับไฟฟ้า แล้วมีผ้าสะอาดๆอยู่กองหนึ่งเท่านั้น ขณะที่กำลังสำรวจรอบๆห้องอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา เด็กก็เข้ามาถามว่าจะดูห้องไหน ตอนนี้มีแหม่มอยู่สองคนกับคนจีนอีกคน ดิฉันรู้ได้เลยว่าคนจีนก็ต้องเป็นหลินแน่นอน ดิฉันเลยบอกเค้าไปว่าจะแอบดูทั้งหมดเลย เด็กบอกไม่ได้เดี๋ยวเค้ารู้ก็โดนไล่ออก ดิฉันเลยหยิบเงินส่งไปให้อีก1000บาท เด็กก็รับไปแบบงง แล้วบอกว่าดูเงียบๆก็แล้วกันนะ แล้วค่อยๆย่องออกไปนอกห้อง เข้าไปห้องอีกห้องหนึ่งที่ห้องข้างๆเปิดไฟแจ้งอยู่ แล้วเด็กก็เอารูปที่ติดข้างห้องออก พอรูปถูกถอดออกเท่านั้นก็มองเห็นภายในห้องติดกันได้ชัดเจน เพราะว่าแต่ละห้องติดกระจกแบบเห็นได้ด้านเดียวทุกห้อง เด็กบอกแบบนั้นแล้วบอกรีบดูแล้วออกไปเรียกเธอข้างนอกนะแล้วก็ออกไปจากห้อง ดิฉันก็เข้าไปดูที่กระจกนั้นเห็นแหม่มที่เป็นลูกค้า นอนแก้ผ้านอนถ่างขาอยู่บนโต๊ะที่ปรับให้นอน ขาทั้งสองข้างพาดอยู่บนพนักเท้าแขน ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นก็เปลือยกายเช่นกัน ใบหน้าไปซุกอยู่ที่หว่างขาของแหม่ม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเค้ากำลังซดอะไรอยู่เห็นก้นแหม่มเด่งลอยไม่ติดเบาะเลย ดิฉันดูไม่นานก็รีบออกไปอีดห้องหนึ่ง เด็กก็บอกรีบๆหน่อยพี่ ห้องนี้ก็เป็นแหม่มอีกคน แต่กำลังซอยกันใหญ่เลย เพราะว่าเด็กหนุ่มคนนั้นนอนราบอยู่บนโต๊ะที่ปรับนอนราบให้ต่ำลง เห็นแหม่มคนนั้นนั่งยองๆอยู่ข้างบนกระแทกกันจนดิฉันได้ยิน แล้วก็ออกมาที่ห้องสุดท้าย พอเห็นเท่านั้นก็รู้ได้เลยว่าหลินทำไมถึงติดเด็นหนุ่มคนนี้ ก็ของเค้าทั้งใหญ่ทั้งยาวนี่ แล้วแบบนี้ใครจะไม่ชอบล่ะ เห็นหลินโก้งโค้งให้เจ้าหมอนั่นซอยอยู่ เสียงครางลอดออกมาเลย ดิฉันรีบออกมาจากห้อง เด็กคนนั้นก็พามาส่งถึงห้องน้ำแล้วบอกว่าห้าพูดนะ ก็พอดีเจอกับเด็กคนแรกที่พาไปก็เลยคุยถึงเรื่องเด็กหนุ่มนิโกรคนนั้น เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวหนูจะเรียกออกมาคุยกับพี่นะพี่ก็ตกลงกับเค้าเองก็แล้วกัน เพราะตอนนี้เค้าไปนั่งโต๊ะกับลูกค้าพี่รออยู่ในนี้ก็แล้วกันนะ เดี๋ยวเรียกให้แป๊ปเดียว ดิฉันก็ตกลงแต่ใจก็เต้นแรง สักครู่เด็กนิโกรก็เข้ามาพร้อมกับเด็กคนนั้น แล้วเด็กก็แนะนำดิฉันให้กับเค้าแล้วก็ออกไปนอกห้องน้ำ ทิ้งให้ดิฉันอยู่กันสองต่อสอง ดิฉันเลยบอกเค้าว่าสนใจในตัวเค้า อยากติดต่อด้วย เค้าก็ยิ้มแบบน่ารัก แล้วบอกด้วยความยินดีครับ แล้วก็ขอกระดาษกับปากกาในกระเป๋าถือดิฉัน จดเบอร์โทรมือถือให้แล้วเขียนชื่อให้ดิฉัน ชื่อเอ็ดดี้ ดิฉันก็บอกชื่อดิฉันให้เค้าเหมือนกัน แต่ไม่ได้ให้เบอร์โทร แล้วบอกว่าจะติดต่อไปภายหลัง เอ็ดดี้ก็บอกลาดิฉันกลับไปนั่งกับลูกค้าโดยจูบแก้มดิฉันเบาๆแล้วบอกว่าจะรอ นะ ไปนั่งที่โต๊ะเพื่อนๆไม่เห็นสงสัย ซักพักหลินก็มาพร้อมกับแหม่มทั้งสอง ดูสีหน้าแล้วสดชื่นกันทั้งสามคน เรานั่งจนเกือบตีสามจึงกลับกัน โดยค่าใช้จ่ายดิฉันเบิกได้ตลอด จึงรูดการ์ดสำรองไปก่อนหนักเอาการน่าดูเลยงานนี้ หมดไปเกือบสี่หมื่นบาทแน่ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดนอนตื่นสายได้ค่ะ พอถึงบ้านสามีก็รออยู่ กะว่าอาบน้ำเสร็จจะเล่าเรื่องต่างๆให้สามีฟัง หลับไม่รู้ตัวเลยค่ะ เป้นประสพการณ์ของดิฉันจริงๆ ซึ่งสังคมปัจจุบันนี้ ก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ดิฉันถึงพูดได้ว่าสามีภรรยาต้องเชื่อใจกันแล้วจะอยู่เป็นสุข เรื่องดิฉันยังไม่จบนะค่ะ เขียนไม่ค่อยเป็นเลยยืดยาวหน่อย ยังไม่ได้เล่าเรื่องเด็กหนุ่มที่ชื่อเอ็ดดี้เลย สามีสุดที่รักของดิฉันอนุญาติให้ติดต่อได้ค่ะ จบแค่นี้ก่อนนะค่ะ