ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_err

อุบัติเหตุจริงๆนะ ตอน 3

เริ่มโดย err, พฤษภาคม 26, 2010, 02:00:59 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

err

เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ พีรพงษ์ตื่นนอนแต่เช้า หลังจากอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว เขาก็สวมเสื้อยืดกับกางเกงชกมวยแล้วหิ้วโน้ตบุ้คคู่ใจลงมากางเล่นที่โต๊ะในห้องรับแขก โดยหันหน้าเข้าหาทีวีจอใหญ่เพื่อดูข่าวไปด้วย เล่นเน็ทไปด้วย
เขาเสียบแอร์การ์ดเพื่อต่ออินเตอร์เน็ทโดยใช้จีพีอาร์เอสเข้าไปเช็คสภาพการทำงานของเซอร์ฟเวอร์ที่ออฟฟิซเช่นที่เคยทำทุกวัน เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจว่าทุกอย่างเป็นปกติดี เขาก็เข้าไปเช็คเวบบอร์ดต่าง ๆ ที่เขาเป็นสมาชิกอยู่ หูก็ฟังข่าวในทีวีไปด้วย
ตามปกติ อาหารเช้าของเขากับวิลาสินีจะเป็นแซนด์วิชหรือไม่ก็คอร์นเฟลกที่ใช้เวลาเตรียมไม่มากนักโดยใครพร้อมก็กินก่อนเพราะสภาพการทำงานที่ต้องอาศัยความเร่งรีบแบบนี้คงไม่มีเวลาพอจะมาทำอาหารเหมือนเมื่อก่อน ไหนจะต้องเก็บกวาดล้างจานอีก ในบ้านนี้มีเพียงวิลาสินีกับเขาอยู่สองคนเท่านั้น ก่อนที่เขาจะมาอยู่ด้วย วิลาสินีเคยจ้างคนมาเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละสองครั้ง แต่พอพีรพงษ์ย้ายเข้ามา เขาก็อาสาจะทำหน้าที่ดูแลบ้านให้เพื่อตอบแทนที่ได้พักอยู่ด้วย ตอนแรกวิลาสินีไม่ยอม โดยบอกว่าเขาเป็นหลาน ไม่ใช่คนใช้ แต่พีรพงษ์ยังยืนยันความคิดของเขา บอกว่าถ้าอยู่บ้านเฉย ๆ เขาคงไม่สบายใจ ไม่งั้นเขาจะขอออกไปเช่าหอพักอยู่เองดีกว่า วิลาสินีเห็นหลานชายยืนกรานหนักแน่นขนาดนั้นก็เลยต้องยอมตามใจ
พีรพงษ์เล่นอินเตอร์เน็ทอยู่พักใหญ่แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปดูในห้องครัวว่ามีอะไรเหลือบ้าง เขาเปิดตู้เย็นก็เห็นว่ายังมีแซนด์วิชทูน่าเหลืออยู่สองชิ้น เขาจึงหยิบออกมาชิ้นหนึ่งแล้วเดินไปด้วยกินไปด้วยกลับมาที่โน้ตบุ้ค
เขาเหลียวไปมองนาฬิกาที่อยู่ข้างฝาก็เห็นว่าตอนนี้เก้าโมงเช้าแล้ว กำลังคิดอยู่ว่าวันนี้จะออกไปข้างนอกดีหรือเปล่า ก็พอดีวิลาสินีเดินลงมาจากชั้นสอง เธอเดินลงมาในชุดนอน ยกมือปิดปากหาวมาด้วย ท่าทางเหมือนเพิ่งตื่นนอนและยังมึน ๆ จากการดื่มเบียร์เมื่อวานอยู่ พีรพงษ์หันไปมองเธอแล้วลมหายใจแทบหยุดชะงัก เพราะเนื้อผ้าบาง ๆ ของชุดนอนมันแนบเนื้อขณะเธอขยับเคลื่อนไหวจนมองเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันตระการตาได้ไม่ยากโดยเฉพาะส่วนสะโพกที่ผายกว้างออกจนเตะตาเป็นพิเศษ และเต้านมอวบสล้างที่ไม่มีบราเซียร์ห่อหุ้มอยู่ภายใน หัวนมทั้งสองข้างมองเห็นได้ลับล่อรำไร นี่เป็นครั้งแรกที่พีรพงษ์ได้เห็นวิลาสินีในชุดนอนแบบนี้ ตามปกติป้าของเขาเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัวตามประเพณี ชุดที่สวมใส่ก็จะปกปิดเรือนร่างอย่างมิดชิด แม้แต่ในวันหยุดอยู่กับบ้าน เธอก็จะสวมเสื้อกับกางเกงขายาว แต่วันนี้ดูแปลกกว่าทุกวัน หรือเป็นเพราะเธอยังเมาค้างอยู่หว่า พีรพงษ์คิดในใจขณะที่ยังจับจ้องมองส่วนสัดของสาวใหญ่เบื้องหน้าอย่างไม่วางตา ควยเขาเริ่มเต้นกระดุ๊กกระดิ๊กในกางเกงชกมวย จนพีรพงษ์ต้องยกหมอนขึ้นมาปิดไว้
วิลาสินีเดินเข้ามาในห้องรับแขกแล้วทักทายพีรพงษ์ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็นสำรวจอาหารเช้า พีรพงษ์ทักตอบแล้วมองตามวิลาสินีเข้าไปในห้องครัว วิลาสินีก้มตัวลงมองดูข้าวของในตู้เย็นทำให้พีรพงษ์ได้เห็นบั้นท้ายอันกลมกลึงของเธอได้อย่างแจ่มชัด เพราะตอนที่เธอโก้งโค้ง เนื้อผ้ายิ่งถูกรั้งให้แนบกับลอนสะโพกมากขึ้นจนเขาเห็นความกลมกลึงของแก้มก้นทั้งสองข้างได้ชัดเจนว่าสัณฐานของมันกว้างใหญ่เพียงใด มันเบียดชิดกันจนเห็นร่องก้นเป็นเส้นและต่ำลงไปถึงโนมเนื้ออวบพูที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงใน พีรพงษ์ถอนหายใจที่กลั้นไว้เฮือกใหญ่ หัวใจเขาเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ควยเขาแข็งจนปวดหนึบ เขานึกในใจว่าทำไมเขาไม่เคยมองป้าของเขาในมุมมองแบบนี้มาก่อนเลยนะ อาจเป็นเพราะตามปกติเธอวางตัวเป็นผู้ใหญ่ทั้งการพูดการจาและการแต่งตัวทำให้เขากล้าคิดกับเธอในแบบหญิงสาวคนหนึ่งมาก่อน
วิลาสินีเดินกลับเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับแซนด์วิชในมือ เธอเดินมาทรุดนั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ พีรพงษ์แล้วกินแซนด์วิชพร้อมกับดูทีวีไปด้วย กลิ่นกายสาวใหญ่โชยมากระทบนาสิก ยิ่งทำให้พีรพงษ์ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ยากขึ้นไปอีก พอหันไปมองข้าง ๆ ก็เห็นเต้านมอวบใหญ่ที่ดันชุดนอนออกมา คะเนด้วยสายตาคงไม่ต่ำกว่า 36 นิ้ว พีรพงษ์รีบเบือนสายตากลับมาที่โน้ตบุ้คเบื้องหน้า แต่มือไม้เขาสั่นเทาไปหมดจนกดแป้นคีย์บอร์ดไม่ได้ แถมยังหายใจหอบแรงจนวิลาสินีสังเกตได้ เธอหันมามองเขา แล้วถามด้วยความเป็นห่วงว่า "อ้าว พงษ์ เป็นอะไรรึเปล่านี่ หน้าเราแดงเชียว ตัวร้อนรึเปล่า"
พูดจบเธอก็ยื่นมือมาอังหน้าผากหลานชาย พีรพงษ์พยายามจะเบือนหน้าหลบแต่ก็ไม่ทัน มือนุ่ม ๆ ของป้ายังสาวแตะสัมผัสกับผิวหน้าที่ร้อนผ่าวของหลานชาย พีรพงษ์หันไปจะบอกเธอว่าไม่เป็นไร แต่สายตาดันกลับไปจ๊ะเอ๋กับอกเสื้อที่ห้อยลงมาจนเห็นฐานเต้าอวบขาวโดยไม่ได้ตั้งใจ คำพูดที่จะเปล่งออกมาเลยติดตันอยู่ที่ลำคอ ลมหายใจเขาจากที่หอบกระเส่าก็กลับหยุดชะงักลง
วิลาสินีพอมองเห็นว่าสายตาของหลานชายมองไปที่ไหน ก็สะดุ้งรู้ตัวขึ้นมา รีบชักมือออกจากหน้าผากเขาแล้วเอามือไปกุมอกเสื้อโดยสัญชาติญาณ ใบหน้าเธอแดงเข้มด้วยความเขินอาย แล้วรีบลุกขึ้นเดินกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง
พีรพงษ์มองตามหลังวิลาสินีที่จ้ำอ้าวกลับไปที่ห้อง ทั้ง ๆ ที่ใจยังกลัวว่าป้าจะโกรธที่เขาจ้วงจาบเธอด้วยสายตาเมื่อกี๊ แต่สายตาเขายังจับจ้องมองบั้นท้ายทลายโลกที่ส่ายไหวไปมาขณะเจ้าของเดินกลับขึ้นห้องนอนโดยไม่ลดละ พอเรือนร่างวิลาสินีลับสายตาไป เขาก็หันกลับมามองโน้ตบุ้คแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอาล่ะสิกู สันดานดิบผู้ชายดันมาแสดงออกกับป้าแท้ ๆ ได้ยังไงวะ สงสัยเที่ยวนี้จะโดนเฉดหัวออกจากบ้านแหง ๆ เขาคิดในใจแล้วพยายามสงบสติอารมณ์แล้วดุเจ้าน้องชายที่ยังแข็งขันอยู่ในกางเกงให้รู้จักสงบเสงี่ยมเจียมตัวเสียบ้าง

วิลาสินีจ้ำอ้าวขึ้นบันไดแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนตัวเอง หน้าเธอยังแดงเข้ม หัวใจยังเต้นถี่เร็วด้วยความอาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นผู้ชายแสดงความสนใจในเรือนร่างของเธออย่างเปิดเผย แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็นหลานชายแท้ ๆ ของเธอด้วย โดยปกติแล้ว ผู้ชายทุกคนที่เธอรู้จักจะไม่กล้าทำกับเธอเช่นนี้เพราะเธอมีดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์และเป็นถึงผู้จัดการบริษัท แค่จะหาคนมาจีบยังไม่มีเพราะผู้ชายมักไม่ชอบผู้หญิงที่เหนือกว่าตัวเองโดยเฉพาะผู้หญิงที่เฉลียวฉลาดและมีความทะเยอทะยานสูงอย่างเธอ ส่วนเธอเองก็เอาแต่มุ่งมั่นกับการเรียนและการทำงานเสียจนไม่มีเวลาสนใจกับเรื่องระหว่างหนุ่มสาว จนบัดนี้เวลาล่วงเลยมาจนเธอจะอายุ 40 แล้ว เธอก็เริ่มทำใจได้ว่าเธอคงต้องย้ายเข้าไปอยู่หมู่บ้านคานทองนิเวศน์เป็นที่แน่นอนก็เลยยิ่งมุ่งมั่นกับการทำงาน การแต่งเนื้อแต่งตัวก็เป็นในลักษณะอนุรักษ์นิยมเพื่อให้ลูกน้องยำเกรง แต่ในใจลึก ๆ ของเธอยังคงโหยหาความอบอุ่นที่เธอไม่เคยได้รับอยู่ตลอดเวลา
วิลาสินีก้าวไปยืนตรงหน้ากระจกบานใหญ่ชนิดเต็มตัว เธอมองดูภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกแล้วหมุนตัวไปทางซ้ายทีขวาที จากนั้นเธอก็ปลดมวยผมที่เกล้าอยู่ออก ปล่อยให้ผมสยายลงมา เธอโพสท่าให้เหมือนพวกนางแบบที่เดินแฟชั่นทำกันแล้วก็อดหน้าแดงกับภาพที่เห็นในกระจกไม่ได้ รูปร่างของเธอยังเช้งกระเด๊ะอยู่ เผลอ ๆ จะดีเสียยิ่งกว่าตอนที่เธอแรกสาวเสียอีกเพราะในขณะนี้ส่วนสัดทั่วทั้งร่างได้เติบโตเต็มศักยภาพของมันแล้ว เธอนึกสนุกถอดชุดนอนออกจนเหลือเพียงกางเกงในสีขาวเรียบ ๆ ตัวเดียว แล้วสำรวจตัวเองในกระจกอีกครั้ง พอเธอปล่อยผม ถอดแว่นออก (ซึ่งจริง ๆ แล้วสายตาเธอไม่ได้สั้นหรอก แต่ใส่ไว้ให้ดูเคร่งขรึมเท่านั้นเองเพราะธรรมดาเธอจะดูเด็กมาก) หน้าตาเธอก็ดูอ่อนวัยลงไปเป็นสิบปี ต่ำจากคอที่งามระหงลงมาถึงหน้าอกหน้าใจที่อวบอัด แล้วคอดลงมาที่เอว จากนั้นก็ผายออกที่สะโพก สุดท้ายก็เรียวเล็กลงไปที่เท้า ผิวกายเธอขาวผุดผ่องเป็นยองใย ส่วนเว้าส่วนโค้งดูงามตาเป็นที่สุด ไม่มีส่วนใดที่หย่อนยานไปตามวัยเลย
วิลาสินีนึกถึงสายตาของพีรพงษ์ที่จ้องมองหน้าอกเธอขณะที่เธอยื่นมือไปอังหน้าผากเขาแล้วก็รู้สึกร้อนวูบไปทั่วตัว นี่พ่อหลานชายตัวดีหัดแอบมองป้าคนนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฮึ เธอคิดในใจ แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าเรือนกายเธอมีพลังดึงดูดใจชายได้ถึงขนาดนี้ แต่ เอ ที่เราเห็นแค่แว่บเดียวนั่นมันใช่จริง ๆ รึเปล่านะ เดี๋ยวลองพิสูจน์ดูอีกทีดีกว่า เธอคิด
พอตกลงใจได้แล้ว วิลาสินีก็เดินไปรื้อค้นในตู้เสื้อผ้าคว้าเอาชุดเต้นแอโรบิคออกมา ชุดนี้เป็นชุดแนบเนื้อเว้าสูงสุด ๆ ชนิดที่ว่ามองเห็นไปถึงแก้มก้นเลย เธอถอดกางเกงในออกแล้วสวมกางเกงขายาวผ้ายืดแล้วสวมชุดแอโรบิคทับเข้าไปอีกที พอหมุนตัวมองในกระจกจนเห็นว่าใช้ได้แล้ว เธอก็ผลักประตูเดินลงไปชั้นล่างด้วยหัวใจที่เต้นรัว

ที่ชั้นล่าง พีรพงษ์สงบจิตสงบใจที่หวั่นไหวลงไปได้แล้ว เขากำลังง่วนอยู่กับการเขียนโปรแกรมโดยไม่ได้สนใจทีวีจอใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า เขาได้ยินเสียงวิลาสินีเดินลงบันไดมา จึงหันไปแล้วเตรียมลุกขึ้นขอโทษที่เมื้อกี้เขาบังอาจล่วงเกินญาติผู้ใหญ่ แต่แล้วเขาก็ต้องรีบนั่งลงอีกครั้งเพราะภาพที่เห็นคือ วิลาสินีในชุดแอโรบิคแนบเนื้อสีแดงสลับดำกำลังก้าวลงมาตามขั้นบันได จากมุมที่อยู่ต่ำกว่า ทำให้พีรพงษ์มองเห็นความตะหง่านง้ำของสองเต้าอวบนั้นได้เต็มตา มันพุ่งผงาดออกมาจนเขาหวาดเสียวว่าเนื้อผ้ายืดของชุดแอโรบิคจะเอาไว้ไม่อยู่ ต่ำลงมาเป็นหน้าท้องที่แบนราบอย่างเหลือเชื่อ แสดงว่าวิลาสินีรักษารูปร่างของตัวเองและระวังเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี และที่ทำให้เขาถึงกับตาลุกโพลงก็คือเนินโหนกที่อยู่ตรงหน้าขาเธอ มันโอ่โถงและนูนขึ้นมาเป็นรูปโค้งราวกับเอากะลามาครอบไว้ตรงนั้น ยิ่งตอนที่เธอก้าวขาลงบันไดมาด้วยแล้ว มันยิ่งนูนขึ้นมาจนเห็นรอยแยกของเนินเนื้อได้รำไร ควยที่เขาใช้เวลากำราบจนอ่อนกำลังลงแล้วกลับอหังการ์ชูคอขึ้นเรียกร้องหาอิสรภาพอีกครั้ง พีรพงษ์ต้องรีบควานหาหมอนมาปิดหน้าตักแล้วใช้ข้อศอกกดเอาไว้ เขาไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าป้าเขาจะเป็นคนซ่อนรูปขนาดนี้
เมื่อวิลาสินีลงมาถึงชั้นล่าง พีรพงษ์ก็เอ่ยปากเตรียมจะขอโทษเรื่องเมื่อครู่ แต่ก็ถูกวิลาสินีชิงพูดก่อน
"พงษ์จ๊ะ เธอคงไม่ได้ดูทีวีแล้วใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวป้าขอใช้เปิดวีซีดีเต้นแอโรบิคหน่อยนะ พักนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย เนื้อตัวมันเมื่อยขบไปหมด"
พีรพงษ์ที่อ้าปากค้างก็รีบหุบปากลงแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่ได้ใช้ทีวีแล้ว วิลาสินียิ้มอย่างพอใจแล้วเดินไปตรงทีวี หยิบวีซีดีขึ้นมาโหลดใส่เครื่องเล่น พอเสียงเพลงดังขึ้น เธอก็ออกท่าเต้นที่หน้าทีวีนั้นเลย
ในห้องรับแขกขณะนี้ พีรพงษ์นั่งอยู่บนโซฟามีหมอนวางอยู่บนตัก สายตากำลังจ้องมองไปข้างหน้า เปล่า ไม่ใช่มองที่หน้าจอของโน้ตบุ้คหรอก แต่มองไปที่เรือนกายอวบอัดเต็มสาวของป้าแท้ ๆ ที่กำลังเต้นยักย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะดนตรีที่ดังมาจากทีวีจอใหญ่ ในแง่มุมนี้ เขามองเห็นด้านหลังของวิลาสินีเต็ม ๆ บั้นท้ายที่ทำให้พนักงานในบริษัทต่างต้องมองตามน้ำลายไหลยืดด้วยความอยากนั้น บัดนี้ได้มาเต้นระริกอยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว มีแต่เพียงเนื้อผ้ายืดของชุดแอโรบิคขวางกั้นเนื้อแท้ ๆ เท่านั้น ซึ่งเนื้อผ้านั้นก็แทบไม่ได้ปกปิดอะไรได้เพราะมันบางและแนบเนื้อจนเหมือนเห็นวิลาสินีแก้ผ้าเต้นระบำอยู่เบื้องหน้า เขาไม่นึกเลยว่าป้าวิผู้เคร่งขรึมคงแก่เรียนคนนั้นจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ มันยิ่งทำให้อารมณ์เขาแตกเพริดยิ่งขึ้น
วิลาสินีเองนั้นก็ตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าพีรพงษ์ หัวใจเธอเต้นถี่เร็ว หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายปนอยากรู้ เธอแอบหันไปมองดูพีรพงษ์ที่นั่งอยู่ด้านหลังเธอบนโซฟา เห็นเขาจ้องมองส่วนสัดต่าง ๆ ในร่างเธออย่างสนใจ สายตาเขาโลมเลียไปทั่วตัวเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนบั้นท้ายที่ผายกว้างเต่งตึง เมื่อเห็นเขาสนใจถึงขนาดนั้น เธอก็ยิ่งออกท่าออกทางเต้นในท่าที่ยั่วยวนกวนราคะยิ่งขึ้นไปอีก บางครั้งก็แยกขากว้างออกบางครั้งก็เด้งสะโพกไปมา จนโนมเนื้อเต้าอวบสล้างเต้นดึ๋งดั๋งราวกับมีชีวิต ส่วนก้นเธอนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นส่วนที่ต้องขยับมากเป็นพิเศษ มันสั่นพลิ้วจนตาพีรพงษ์แทบตามไม่ทัน
พีรพงษ์จ้องมองวิลาสินีเต้นยั่วอารมณ์กันถึงขนาดนั้นก็แทบหมดความยับยั้งชั่งใจ สติสัมปชัญญะที่ยังเหลืออยู่คอยเตือนว่านั่นป้าแท้ ๆ นะ อย่าคิดอัปรีย์ไป แต่ความคิดใฝ่ต่ำก็แย้งว่า ป้าก็ป้าวะ ผู้หญิงสวย ๆ มาเต้นจ้ำบ๊ะยั่วอารมณ์แบบนี้ปล่อยไปก็เสียเชิงชายหมด ความคิดเขาวนไปเวียนมา แต่ตานั้นจ้องแน่วนิ่วไปที่ภาพอันบาดอารมณ์เบื้องหน้าอยู่ตลอด และแล้วการตัดสินใจก็ลงตัว วิลาสินีกำลังหันหลังเต้น เธอคงไม่เห็นว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ด้านหลัง ยิ่งมีหมอนมาปิดหน้าตักอยู่ด้วยแล้ว คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มือเขาจึงเลื่อนต่ำลงไปและสอดผ่านขอบยางยืดของกางเกงชกมวยลงไปลูบคลำลำควยที่แข็งปานจะระเบิด เขาเริ่มขยับมือกระทอกท่อนเอ็นตามแรงตัณหา ส่วนตาก็โลมเลียส่วนสัดอันตระการตาของวิลาสินีที่เต้นอย่างสุดฝีมือไปด้วย ยิ่งเธอออกท่าออกทางจนเต้ากระเพื่อมก้นเด้งดึ๋งดั๋ง เขาก็ยิ่งเร่งจังหวะการสาวควยมากขึ้นจนหมอนที่ปิดอยู่ที่หน้าตักกระเพื่อมตามจังหวะการกระทอก ลมหายใจเขาหอบถี่เหมือนกำลังเหนื่อยจากการออกวิ่ง
วิลาสินีนั้นแม้ว่าจะหันหลังเต้น แต่ก็มีบางท่าที่มีการบิดตัวไปด้านข้าง ซึ่งเธอก็ใช้จังหวะนั้นในการเหลือบมองการกระทำของหลานชายที่ดูเธออยู่ข้างหลัง เธอเห็นเขาจ้องมองเธอด้วยประกายตาลุกวาวเหมือนเสือจะขย้ำเหยื่อ มันทำให้เธอยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้นเป็นทวีคูณ เธอเพิ่งตระหนักเดี๋ยวนี้เองว่า แท้ที่จริงแล้วเธอเป็นพวกชอบโชว์ที่มีความสุขจากการที่ได้เปิดเผยส่วนสัดในเรือนกายให้เพศตรงข้ามได้ชื่นชม ยิ่งฝ่ายตรงข้ามแสดงความสนใจส่วนสัดของเธอมากขึ้นเท่าไหร่ เธอยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น การที่เธอพยายามแต่งตัวให้มิดชิดตลอดมานั้น มันเป็นกระบวนการป้องกันตัวเองจากจิตใต้สำนึกของเธอนั่นเอง