ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_err

โอ้พี่สาวที่รัก ตอนที่ 1

เริ่มโดย err, สิงหาคม 10, 2010, 10:57:36 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

err

ตอนที่ 1 สาวิตรีสอนเสียว
ไกรวิทย์เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว บ้านเขามีพี่สาว 6 คนรวมแม่อีก 1 พ่อของไกรวิทย์ตายจากไปหลังไกรวิทย์คลอดออกมาได้ไม่นาน พวกพี่สาวของไกรวิทย์ก็ไม่ได้แยกบ้านไปไหนด้วยความเป็นห่วงแม่ ทั้งที่แต่ละคนก็โตกันหมดแล้วพี่สาวคนโตอายุมากกว่ากว่าเขา 6 ปีซึ่งพี่สาวคนต่อ ๆ มามีอายุลดหลั่นกันคนละปี โดยเรียงตามลำดับดังนี้สาวิตรี อายุ 24 ปี หล่อนไว้ผมยาวประบ่า หน้าอกหน้าใจอวบอั๋นเต่งตึงแบบที่หญิงสาวทุกคนต้องอิจฉา รูปร่างสูงได้สัดส่วน ขาเรียวยาว สะโพกผายงาม ก้นงอนเช้งเด้งดึ๋งเวลาเยื้องย่างดึงดูดสายตาชายเป็นที่สุด เคล็ดลับการมีรูปร่างที่งดงามของเธอคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เธอเป็นคนร่าเริงเข้าสังคมเก่ง แต่ยังไม่พบคนที่ถูกใจขนาดที่จะตัดสินใจอยู่กินกันเป็นจริงเป็นจังวิภาวรรณ เป็นพี่สาวคนรอง อายุ 23 ปี ไว้ผมยาวประบ่า หน้าอกเล็กกว่าสาวิตรีนิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใหญ่บึ้บบั้บ ชอบออกกำลังกายเหมือนพี่สาวคนโต เธอค่อนข้างขี้อายแต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว
พรรณวดี เป็นคนต่อไป อายุ 22 ปี หน้าอกอาจจะไม่อวบอั๋นเหมือนพี่สาวทั้งสอง แต่ก็มีขาที่เรียวสวยสมส่วนที่สุด เพราะเธอรักการเต้นรำและฝันอยากเป็นนักเต้นอาชีพในอนาคต เธอเป็นคนที่กล้าแสดงออกที่สุดในหมู่พี่สาว ไม่เคยกลัวใครหรืออะไรมาก่อนปรียานุช อายุ 21 ปี ไว้ผมสั้นกว่าพรรณวดีแต่หน้าอกอวบใหญ่เด่นสะดุดตา เล็กกว่าของสาวิตรีเพียงนิดเดียว เธอก็เป็นคนชอบออกกำลังกายเหมือนกัน รูปร่างจึงสมส่วน ด้านบุคลิกภาพก็อยู่กลาง ๆ คือไม่ขี้อายและไม่ถึงกับกล้าแสดงออกจนเกินไป
กุลธิดา อายุ 20 ปี ผมดำสลวยยาวลงมาถึงหลัง หน้าอกใหญ่งอนง้ำขนาดบราทั่วไปในท้องตลาดเอาไม่อยู่ เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกายแต่โชคยังดีที่มีรูปร่างเปอร์เฟคท์สมส่วนเป็นที่สุดโดยธรรมชาติชนิดที่หญิงสาวทุกคนต้องอิจฉาตาร้อน เธอเป็นสาวที่ชอบเที่ยว มักจะออกไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มอยู่เสมอ
ภาวิณีเป็นลูกสาวคนสุดท้อง เพิ่งจะมีอายุ 19 ปีเท่านั้น เธอไว้ผมยาวสยายลงมาถึงกลางหลัง ขนาดหน้าอกเมื่อเทียบกับรูปร่างแล้วต้องถือว่าไม่ใช่น้อย เพราะตัวเธอค่อนข้างเล็ก และเช่นเดียวกับพี่สาวหลาย ๆ คนของเธอ ภาวิณีชอบออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นผลให้เอวเธอคอดกิ่วราวกับนาฬิกาทราย เน้นสะโพกให้ดูเด่นสะดุดตา โดยเฉพาะส่วนก้นนั้นเรียกได้ว่าบั้นท้ายทลายโลกอย่างแท้จริง เพราะมันผายกว้างได้รูป กลมกลึงหนั่นแน่นเด้งดึ๋งดั๋งเวลาเดิน ภาวิณีเป็นคนค่อนข้างขี้อายเหมือนวิภาวรรณ
และท้ายที่สุดคือ ไกรวิทย์ซึ่งเป็นน้องชายคนเดียวของครอบครัว อายุ 18 ปี ไว้ผมสั้นเกรียนตามสมัยนิยม ร่างกายล่ำสันแข็งแรง ไม่ถึงกับล่ำบึ้กเหมือนอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนคเกอร์แต่ก็ไม่ได้อ้วนกลมจนน่าเกลียด พูดง่าย ๆคือ เขาก็เป็นหนุ่มน้อยที่เราพบเห็นกันทุกเมื่อเชื่อวันคนหนึ่งนั่นเอง ในแต่ละวันเขาจะออกวิ่งเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อรักษาโทนของกล้ามเนื้อให้ดีอยู่เสมอ เรื่องเดียวที่ไกรวิทย์ไม่สมหวังก็คือ เขาไม่เคยมีแฟนเลยตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม......
"ไง นายวิทย์ วันนี้มีแผนอะไรรึเปล่าจ๊ะ?" เสียงของสาวิตรีแว่วมาเข้าหูไกรวิทย์ในขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น โดยวันนี้สาวิตรีสวมเสื้อยืดสีขาวรัดรูปกับกางเกงวอร์ม"เปล่านี่ครับ แล้วพี่สาล่ะ?" ไกรวิทย์ถามกลับ
"ก็เหมือน ๆ เดิมนั่นแหละ กะว่าจะออกกำลังกายเอาเหงื่อสักพักแล้วค่อยกลับมาดูทีวี"
ไกรวิทย์หันไปมองนาฬิกาแขวนที่ผนังซึ่งบอกเวลา 9 โมงเช้า โอ้โห นี่จะไปออกกำลังกายกันแต่เช้ายังงี้เลยเนี่ยนะ "พี่สารู้มั้ยว่าพี่นี่ชักจะใกล้โรงพยาบาลบ้าเข้าไปทุกทีแล้วนะ" ไกรวิทย์กระเซ้ายิ้ม ๆ ในขณะที่พี่สาวคนโตยัดข้าวของลงในกระเป๋ากีฬาแบบสะพาย"แน้ มาหาว่าพี่บ้า แบบนี้เขาเรียกว่ามีความตั้งใจเต็มร้อยตะหากล่ะจ๊ะ" สาวิตรียิ้มให้กับน้องชายตัวดีที่นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟา แล้วมองไปนอกบ้าน แดดกำลังจ้า ท้องฟ้าสดใส
"อ้าว ไม่เรียกว่าบ้าแล้วเรียกว่าอะไรล่ะครับพี่สา ใครเขาไปฟิตเนสกันตั้งแต่ 9 โมงเช้ากันล่ะ ขนาดผมวิ่งตอน 11 โมงกับ 4 โมงเย็นแค่ชั่วโมงเดียวยังเหนื่อยแทบขาดใจแล้ว" ไกรวิทย์พูดไปก็ส่ายหน้าไปด้วย
"นี่ พ่อน้องชายคนดี" สาวิตรีเดินไปข้างหลังไกรวิทย์ "ถ้าเธอไปฟิตเนสกับพี่ ก็คงไม่อ้วนนนนนน กลมมมม แบบนี้หรอกนะจ๊ะ" สาวิตรีก้มตัวลงไปใกล้ใบหูเขาแล้วกระเซ้าเย้าแหย่น้องชาย
"ผมเปล่าอ้วนนะ" ไกรวิทย์แกล้งทำเป็นฉุนใส่สาวิตรีในขณะที่สาวิตรียิ้มแล้วพยักหน้าหงึก ๆ ถี่เร็วก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วตรงไปที่ประตู"พี่จะออกไปสัก 2 ชั่วโมง เธออย่าส่งเสียงเอะอะละกันเพราะแม่กับคนอื่น ๆ ยังหลับอยู่ แล้วเจอกันจ้ะ"
"รับทราบครับผม!" ไกรวิทย์รับคำ เขามองตามก้นงอนงามเย้ายวนของพี่สาวไปจนถึงประตูก่อนจะหันความสนใจกลับมาที่ทีวีผ่านไปหนึ่งชั่วโมง กุลธิดาโผล่มาเป็นคนต่อไป
"อรุณสวัสดิ์ครับ พี่ดา" ไกรวิทย์ทักเมื่อเห็นกุลธิดาเดินเข้ามาในห้อง
"อรุณสวัสดิ์จ้ะ พี่สาออกไปข้างนอกแล้วเหรอ"
ไกรวิทย์พยักหน้าแทนคำตอบ"ไม่รู้จะไปฟิตเนสกันทำไมนักหนา"
"ผมก็ไม่รู้" ไกรวิทย์ตอบ แต่ตายังจ้องอยู่ที่ทีวี
"ดูพี่เป็นตัวอย่างสิ ขนาดไม่เคยไปฟิตเนสหุ่นยังดีอยู่เลย" กุลธิดาพูดต่อ
"จริงด้วยครับ" ไกรวิทย์เห็นด้วย สายตาโลมไล้ไปทั่วเรือนร่างอันงดงามของกุลธิดาในขณะที่เธอหมุนตัวข้างหน้าเขา"ไงจ๊ะสองคน" วิภาวรรณเดินเฉียดผ่านกุลธิดาไปนั่งบนโซฟาข้างไกรวิทย์แล้วแย่งรีโมททีวีมาถือไว้
"หวัดดีครับ/ค่ะ" ทั้งไกรวิทย์และกุลธิดาทักตอบพร้อมกัน
ถัดจากนั้นเพียงครู่เดียว พวกสาว ๆ ที่เหลือก็ตื่นนอนและบ้านก็คึกคักพลุกพล่านขึ้นทันตาเห็น วิภาวรรณ ปรียานุชและภาวิณีพอกินข้าวเช้าเสร็จก็รีบไปฟิตเนสทันที ทิ้งให้ไกรวิทย์ พรรณวดี กุลธิดาและลลิตาผู้เป็นแม่อยู่เฝ้าบ้าน วันนั้นเป็นวันเสาร์ ทั้ง 8 คนก็เลยอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เดินกันขวักไขว่ชวนให้ตาลายเป็นที่สุด
ในตอนเย็น ทุกคนก็กลับมากินข้าวที่บ้านโดยล้อมวงอยู่หน้าทีวี ไกรวิทย์ สาวิตรีและแม่นั่งอยู่บนโซฟา พรรณวดีนั่งเก้าอี้ถัดไป กุลธิดา วิภาวรรณและภาวิณีนั่งบนพื้นซึ่งเป็นที่โปรดเวลากินข้าวหรือดูทีวี
เมื่อกินกันเสร็จเรียบร้อย สาวิตรีและไกรวิทย์เป็นคนลุกขึ้นเก็บจานชามของทุกคนไปรวมไว้ในซิงค์น้ำในครัวแล้วกลับมานั่งที่เดิม
"ฝีมือแม่ยังเยี่ยมเหมือนเดิมนะคะ" ภาวิณีชมเปาะ ซึ่งลูก ๆ ทุกคนก็พากันเห็นด้วย
"ขอบใจจ้ะ แม่ก็แค่พยายามทำสุดฝีมือเท่านั้นแหละ" ลลิตาพูด ซึ่งก็เป็นความจริงอย่างที่ภาวิณีชม ผีมือทำอาหารของลลิตาเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดลูก ๆ ทั้งหมดให้มารวมกันอยู่ที่บ้านนี้
บ้านที่พวกเขาอยู่มีขนาดกำลังเหมาะ มีห้องนอนขนาดใหญ่ 3 ห้อง มีห้องใต้หลังคาที่ดัดแปลงเป็นห้องนอนหนึ่งห้อง มีครัวที่สะดวกกว้างขวาง มีห้องนั่งเล่นที่โอ่โถงและมีพื้นที่ปลูกต้นไม้รอบบ้าน ห้องนอนใหญ่แบ่งให้ภาวิณี สาวิตรีและวิภาวรรณอยู่รวมกันห้องนึง ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็นของกุลธิดา พรรณวดีและปรียานุช ห้องสุดท้ายเป็นของลลิตา ส่วนไกรวิทย์ยึดห้องใต้หลังคาคนเดียว
"อร่อยมากลยครับแม่ แต่ผมต้องขอตัวไปทำธุระส่วนตัวก่อนแล้วล่ะ" ไกรวิทย์ลุกขึ้นเดินไปที่บันได
สาวิตรีมองตามร่างของไกรวิทย์ที่เดินขึ้นบันไดไป เธอรอจนเขาขึ้นไปถึงชั้นบนแล้วค่อยเดินตามไป
พอไกรวิทย์ออกจากห้องน้ำ ก็ปะทะเข้ากับพี่สาวคนโตอย่างจัง
"อุ๊บ ขอโทษครับ ผมไม่ทันเห็นพี่" ไกรวิทย์เอ่ยคำขอโทษในขณะที่เดินเลียบผ่านสาวิตรี แต่เนื่องจากความคับแคบของหัวบันไดทำให้ไกรวิทย์ต้องเบียดตัวเข้ากับเรือนร่างของสาวิตรีอย่างเลี่ยงไม่ได้ซึ่งสาวิตรีเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะขยับหลบให้ ยังผลให้หน้าอกอันมโหฬารของสาวิตรีเบียดบดกับตัวของไกรวิทย์แบบเต็ม ๆ
"ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะจ๊ะ" สาวิตรียิ้มแล้วเบียดตัวเข้าหาน้องชายมากยิ่งขึ้นไปอีก
"อะไรหรือครับที่ว่าไม่น่าเป็นไปได้น่ะ" ไกรวิทย์ถามขณะที่เบียดตัวผ่านพี่สาวร่างอวบไปจนได้ แล้วหันไปมองสาวิตรีเพื่อรอคำตอบ
"ก็ที่ว่ามองไม่เห็นพี่น่ะสิจ๊ะ" สาวิตรียิ้ม แลบลิ้นเลียริมฝีปากอวบอิ่มอย่างหิวกระหายเหมือนนางเสือที่กำลังจะขย้ำเหยื่อไกรวิทย์ยิ้มแห้ง ๆ แล้วส่ายหน้าขณะเดินลงบันได พี่สาวเรานี่ทำอะไรแปลก ๆ แฮะ เขาคิดในใจ เมื่อถึงชั้นล่าง เขาก็เปิดประตูเข้าไปในครัว ที่หัวบันได สาวิตรีเอนตัวพิงประตูห้องนอนของเธอขณะคิดถึงเรื่องน้องชายคนดี เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพักหลังนี้เขาถึงได้มีความสำคัญในใจเธอมากขนาดนี้ มันเป็นความสำคัญที่มากไปกว่าความรักฉันพี่น้อง
ไม่นานนัก สาว ๆ ก็สลายตัว กุลธิดาและปรียานุชเก็บตัวอยู่ในห้องนอน พรรณวดีกับภาวิณีก็เช่นกัน วิภาวรรณไปฟิตเนส ส่วนไกรวิทย์กำลังนอนฟังเพลงจากเครื่องเล่นซีดีอยู่ในห้องใต้หลังคาตอนที่สาวิตรีเดินเข้าไปในห้องไกรวิทย์ไม่ได้ยินเสียงพี่สาวเข้ามาในห้องเพราะกำลังสวมหูฟังและเปิดเพลงเสียงดัง สาวิตรียิ้มอย่างนึกสนุกขณะที่เดินไปด้านหลังไกรวิทย์แล้วคุกเข่าลงจนหน้าอกอวบอั๋นห่างจากศีรษะเขาเพียงนิ้วเดียว เธอมองดูน้องชายสุดที่รักโยกศีรษะไปมาตามจังหวะดนตรีที่ดังกรอกหูด้วยความเอ็นดู สาวิตรีแตะไหล่เขาเบา ๆ ทำเอาไกรวิทย์สะดุ้งตกใจหันขวับไปข้างหลังโดยไม่รู้ว่าเต้านมอวบอิ่มของสาวิตรีรอท่าอยู่แล้ว ใบหน้าของเขาจึงอัดเข้าไปในเต้านมอวบหยุ่นของพี่สาวเต็มรัก
"อูยยย์ย์ย์" สาวิตรีสูดปากครางออกมาเมื่อใบหน้าของไกรวิทย์ซุกเข้าไประหว่างเต้าอวบของเธอ ไกรวิทย์รีบสะบัดหน้าหนีแล้วผงะถอยหลัง"โอ๊ย ขอโทษจริงๆครับ พี่สา ผมไม่รู้ว่าพี่อยู่ข้างหลังผม" ไกรวิทย์รีบขอโทษขอโพยพี่สาวเป็นการใหญ่"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พี่ผิดเองแหละที่มายืนอยู่ชิดเธอไปหน่อย" สาวิตรีขยับเต้านมอวบอิ่มภายใต้เสื้อให้เข้าที่เข้าทางเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าไกรวิทย์กำลังจ้องมองเธออยู่โดยที่เขาไม่รู้ว่าสาวิตรีเห็นการกระทำของเขา ไกรวิทย์จ้องเขม็งที่หน้าอกพี่สาวจนสาวิตรีส่งเสียงเรียกออกมาเบา ๆ นั่นแหละเขารู้ตัวและอายจนหน้าแดงที่ถูกจับได้ไกรวิทย์ค่อนข้างจะสนิทสนมกับสาวิตรีมากกว่าพี่สาวคนอื่น ๆ เพราะเขาเป็นน้องคนสุดท้อง และพ่อก็มาตายหลังเขาเกิดได้ไม่นาน ทำให้ไกรวิทย์ไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนบทบาทของลูกผู้ชายจากพ่อเลย ก็มีสาวิตรีนี่แหละที่ทำหน้าที่ดูแลเขาแทนพ่อตั้งแต่เธออายุได้ 14 ปี
ลลิตามีสาวิตรีตอนเธออายุ 18 และตอนนี้เธอก็มีลูกที่ต้องดูแลถึง 7 คนซึ่งเป็นภาระที่หนักมาก สาวิตรีจึงรับหน้าที่ดูแลน้อง ๆ แทนแม่ที่ต้องไปทำงาน
แม้ในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนเพราะสาวิตรีก็ไม่ได้มีงานทำ จึงอยู่ดูแลบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ วิภาวรรณเป็นช่างแต่งผม พรรณวดีเป็นสาวเสริฟ ปรียานุชช่วยงานร้านขายของ ส่วนกุลธิดากับภาวิณียังเรียนมหา'ลัยอยู่ ไกรวิทย์ไม่ได้เรียนต่อและก็ไม่ได้หางานทำด้วย ซึ่งทั้งพวกพี่สาวและแม่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เป็นไร เพราะรายได้ของพวกเธอมากพอจะเลี้ยงทั้งเขาและสาวิตรีได้อย่างสบาย โดยให้ทั้งคู่รับผิดชอบดูแลบ้านแทน ซึ่งทั้งสาวิตรีและไกรวิทย์ก็ตอบตกลง
"กำลังฟังเพลงอะไรอยู่รึพ่อหนุ่มน้อย" สาวิตรีถามน้องชายที่กำลังประหม่าและพยายามใช้มือปิดควยที่กำลังลุกเด่"ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่สาจะให้ผมช่วยอะไรรึเปล่า?" เขาถามกลับ ในใจนึกอยากให้สาวิตรีตอบว่าเปล่าและออกไปจากห้องเขา แต่โชคไม่ดีเอาเสียเลยที่สาวิตรีไม่ได้ตอบเช่นนั้น "มีซิจ๊ะ ไปช่วยพี่ล้างจานหน่อย อย่าลืมซิว่ามันเป็นหน้าที่เรานะ" สาวิตรีเตือนความจำพร้อมกับวางมือแหมะลงบนมือไกรวิทย์ข้างที่ยังกุมเป้าอยู่
"ได้สิครับ ขอเวลาผมแป๊บเดียว" ไกรวิทย์รีบตอบ พยายามปัดมือเธอให้พ้นจากหว่างขาเขา
"ไม่ได้ แม่บอกว่าต้องล้างตอนนี้" สาวิตรีโกหก ความจริงก็คือแม่บอกให้ล้างจานให้เสร็จก่อนเข้านอน ที่สาวิตรีพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้ไกรวิทย์ลุกขึ้นยืน เธอจะได้ชื่นชมควยเขาตอนที่ยังแข็งอยู่
"ก็ได้ครับ" ไกรวิทย์ตอบพี่สาวคนสวย โชคยังเข้าข้างเขาอยู่เพราะถ่วงเวลาได้นานพอจะทำให้ควยเขาสงบลง ไกรวิทย์ลุกขึ้นปิดเครื่องเล่นซีดีแล้วหันไปหาพี่สาวซึ่งแทบซ่อนอาการผิดหวังไว้ไม่อยู่ ที่เห็นควยเขาอ่อนยวบลงไปแล้ว "ไปกันรึยังล่ะครับ" ไกรวิทย์ถามแล้วเดินผ่านพี่สาวร่างอวบซึ่งลุกขึ้นเดินตามไปติด ๆ
เมื่อลงไปถึงชั้นล่าง ทั้งคู่ก็เริ่มลงมือล้างจานทันทีโดยสาวิตรีรับหน้าที่ล้างส่วนไกรวิทย์ทำหน้าที่เช็ดแห้ง สาวิตรีเหลือบเห็นน้องชายตัวดีแอบมองเต้านมที่อวบอิ่มของเธออยู่บ่อยครั้ง จนเธอเองเริ่มมีอารมณ์ร่วมและดันหน้าอกตัวเองให้พุ่งโชนขึ้นอีก ไกรวิทย์แกล้งทำเป็นไอและเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่งแต่สายตาเขาก็หวนกลับมาที่เธออีกจนได้ ถึงตอนนี้สาวิตรีเงี่ยนง่านเป็นที่สุด กางเกงในรัดรูปที่เธอสวมอยู่เริ่มเปียกชื้นในขณะที่เธอกำลังยั่วน้องชายคนเล็ก จนในที่สุดสาวิตรีก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะให้เขาได้เห็นอะไรดี ๆ ที่จะไม่มีวันลืมตลอดชีวิตเธอแกล้งทำส้อมหล่นลงไปหลังซิงค์น้ำแล้วเธอก็โน้มตัวไปเหนือซิงค์เพื่อหยิบมันขึ้นมา แต่เนื่องจากตัวเธอไม่ได้สูงมากมายอะไรนักแถมหน้าอกเธอยังใหญ่ล้นเหลือ เต้านมเธอจึงจมลงไปในซิงค์น้ำไปเกือบถึงฐานเต้า เสื้อยืดสีขาวที่เธอสวมอยู่เมื่อเปียกน้ำก็ใสจนมองผ่านได้เหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย สาวิตรีแอบหันกลับไปมองไกรวิทย์ซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับการมองก้นที่กลมกลึงของเธอ สาวิตรีซ่อนยิ้มพร้อมกับส่ายก้นกระดุ๊กกระดิ๊กทำให้ไกรวิทย์รู้สึกตัว ในตอนนั้นควยเขาแข็งโด่ขึ้นมาแล้ว เขาจึงแกล้งทำเป็นเมื่อยแล้วรีบนั่งลงบนเก้าอี้ก้มหน้าก้มตาเช็ดจานต่อไป แต่สาวิตรีรู้ดีว่าทำไมเขาจึงนั่งลง เธอดันตัวเองขึ้นจากซิงค์น้ำแล้วยืดตัวตรง"อุ๊ย" เธออุทานเสียงดัง ทำให้ไกรวิทย์เงยหน้าขึ้นมองเธอทันที ภาพที่ปรากฏต่อสายตาเขาคือฐานนมอันล้นหลามของพี่สาวที่มองเห็นได้ผ่านเสื้อยืดที่เปียกชุ่ม น้ำหยดติ๋ง ๆ จากยอดถันที่ชูชัน
"มีอะไรเหรอครับพี่สา" ไกรวิทย์กลั้นหัวเราะถาม สาวิตรียืนเท้าสะเอวข้างหน้าเขา
"หน้าอกพี่คงเปียกน้ำตอนที่ก้มไปเก็บส้อม ดูซิ" สาวิตรีพูดกระเง้ากระงอดพร้อมกับเอาสองมือช้อนเต้าอล่องฉ่องของเธอแล้วดันมันเข้าหากันให้ไกรวิทย์ดู
"โอ๋ยโหย๋ พี่สาน่าจะไปเปลี่ยนเสื้อนะ ผมจะเช็ดจานต่อให้เสร็จเอง ไปเถอะ" ไกรวิทย์ให้ความเห็น สายตาก็กวาดโลมเลียเรือนร่างอันเต่งตึงงดงามของพี่สาวไปด้วย
สาวิตรีพยักหน้าเห็นด้วยแต่กลับไม่ขยับจากที่ เธอค่อย ๆ บีบนวดเต้าตัวเองและคอยสังเกตปฏิกิริยาของท่อนควยเขาไปด้วย สาวิตรีเห็นมันสั่นกระตุกใต้กางเกงขาสั้น ไกรวิทย์รีบไขว่ห้างปิดบังส่วนนั้นเมื่อรู้ว่าพี่สาวกำลังจ้องเขาอยู่ ใบหน้าเขาแดงซ่านไปด้วยความประหม่าอีกครั้ง
สาวิตรียิ้มอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินขึ้นบันไดไปห้องนอนของเธอ ไกรวิทย์มองตามก้นกลมกลึงของพี่สาวไปจนลับตาแล้วพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนเช็ดจานต่อจนเสร็จ