ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

กระบี่เย้ยยุทธจักร

เริ่มโดย k_kk, กันยายน 28, 2010, 01:12:58 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

k_kk

### ตอนที่ 1 ###

กระบี่เย้ยยุทธจักรเป็นหนึ่งในสี่นิยายกำลังภายในที่ กิมย้งนิยมชมชอบที่สุด
ทั้งสี่เรื่องประกอบด้วย มังกรหยกภาค2(เอี้ยก้วยและเสียวเล่งนึ่ง)
ดาบมังกรหยก(เตียบ้อกี้)
จิ้งจอกอหังการ และ
กระบี่เย้ยยุทธจักรซึ่งมีเหล็งฮูชงเป็นตัวเอก
เรื่องนี้มีบางตอนที่ค่อนข้างจะวาบหวิวชวนให้คิดเลยเถิดถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์กับศีลธรรมจรรยา
ดูคล้ายกิมย้งจะอยากแต่งแต่ไม่กล้า จนเราเหลือทนเลยบรรเลงออกมาซะเอง

เหล็งฮู้ชงเป็นตัวเอก เดิมเป็นศิษย์สำนักฮั่วซัวแต่ได้รับการสั่งสอนจากผู้อาวุโสที่เร้นกายจนฝีมื อสูงล้ำกว่างักปุกคุ้งผู้เป็นซือแป๋เจ้าสำนัก ภายหลังได้รับการฝากฝังจากเตี่ยอิดซือไถ่ให้เป็นเจ้าสำนักแม่ชีเห็งซัว
ยิ่มอั้วเกี้ยเป็นก่าจู้นิกายสุริยันจันทราซึ่งชาวยุทธจักรเรียกนิกายอสูรถือว่าเป็นพวกอธรรม
ยิ่มเอี่ยงเอี้ยงเป็นธิดาของยิ่มอั้วเกี้ย เป็นคนรักของเหล็งฮู้ชง กับศัตรูนางจะเป็นคนเด็ดขาดแต่เนื้อแท้เป็นคนใจดี ศิษย์ในนิกายยกให้นางเป็นเสี่ยโกว(อาหญิงศักดิ์สิทธิ์)
งักปุกคุ้งเป็นเจ้าสำนักฮั่วซัวเป็นซือแป๋ของเหล็งฮู้ชง มันมีฉายามือกระบี่วิญญูชนหมายถึงมีคุณธรรม แต่ภายหลังเห็นเหล็งฮู้ชงมีฝีมือกระบี่สูงกว่าก็คิดฆ่าเหล็งฮู้ชง
งักฮูหยินเป็นภรรยางักปุกคุ้งชื่อเดิมว่าเล่งตงเจ่ก ชาวยุทธจักรเรียกเล่งนึ่งเฮียบ(วีรสตรีแซ่เล่ง)เพลงกระบี่ที่สร้างชื่อให้นา งคือบ้อซังบ้อตุ่ย เล่งสีเจ่กเกี่ยม(กระบี่เดียวนางเล่งสี ไร้คู่ไร้เคียง)พิชิตไปโดยไร้ผู้ต่อต้าน นางได้เลี้ยงดูเหล็งฮู้ชงที่เป็นเด็กกำพร้าจนคล้ายเป็นมารดามันมากกว่า นางจะห่วงใยคอยปกป้องเข้าข้างเหล็งฮู้ชงบ่อยๆ เหล็งฮู้ชงเองก็ยิ่งรักและเคารพงักซือบ้อยิ่งกว่าผู้ใด
งักเล้งซังเป็นบุตรีของงักปุกคุ้งและงักฮูหยิน นางเป็นเซี่ยวซือม่วยและเป็นรักแรกของเหล็งฮู้ชงจนวาดหวังว่าจะได้ครองคู่กั น ต่อมานางกลับไปรักลิ้มเพ้งจือศิษย์ผู้น้องและได้แต่งงานกัน ภายหลังนางกลับถูกลิ้มเพ้งจือฆ่าทิ้ง

อยากรู้รายละเอียดก็หาอ่านเอาเองจากเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร ที่ น.นพรัตน์แปล

หลังจากพิธีประลองฝีมือเพื่อชิงตำแหน่ง งักปุกคุ้งที่เป็นเจ้าสำนักกระบี่ฮั่วซัวทิ่มแทงดวงตาจ้อแนเซี้ยงจนบอด จึงได้เป็นเจ้าสำนักกระบี่ห้าบรรพต เหล็งฮู้ชงได้รับบาดเจ็บจากกระบี่ของงักเล้งซังได้เดินทางกลับเห็งซัว
ระหว่างทางพบว่างักเล้งซังถูกลิ้มเพ้งจือฆ่า เหล็งฮู้ชงโศกเศร้าเสียใจจนสลบ เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่ายิ่มเอี่ยงเอี้ยงได้ก่อสุสานให้กับงักเล้งซังแล้ว
ทั้งสองตกลงใจอยู่เฝ้าสุสานสักระยะหนึ่ง ระหว่างนั้นก็อาศัยบทเพลงชำระใจใฝ่บริสุทธ์ของยิ่มเอี่ยงเอี้ยงช่วยกลมเกลาจ ิตใจเพื่อฟื้นฟูกำลังภายในขึ้นมาทีละน้อย


กระบี่เย้ยยุทธจักร 1

จากตอนหนึ่งของกระบี่เย้ยยุทธจักรของกิมย้งโดยเหลือทน
บทที่ 36 อาลัยล่วงลับ
หลังเที่ยงวันนี้ เหล็งฮู้ชงและเอี่ยงเอี้ยงบรรเลงพิณขลุ่ยร่วมกันครึ่งชั่วยาม รู้สึกกำลังภายในโคจรไม่สะดวก
ยากที่จะสงบจิตใจได้ ถึงกับดีดผิดพลาดไปหลายตอน เอี่ยงเอี้ยงจึงกล่าวว่า
"ท่านเหน็ดเหนื่อยหรือ พักผ่อนสักครู่ก่อน"
"เหน็ดเหนื่อยนั้นไม่เหน็ดเหนื่อย แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด รู้สึกหงุดหงิดใจ เราจะไปปลิดผลท้อมา ค่ำคืนค่อยหัดพิณ"
"ตกลง แต่อย่าได้ไปไกล"
เหล็งฮู้ชงทราบว่าด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหุบเขา มีต้นท้ออยู่มากหลาย ดังนั้นแหวกต้นไม้ใบหญ้า
เดินทางเป็นระยะทางแปดเก้าลี้มาถึงใต้ต้นท้อ กระโดดขึ้นไปปลิดผลท้อมาสองผล เมื่อกระโดดขึ้นคำรบสอง ก็ปลิดมาอีกสามผล....
ในพุ่มไม้ที่ห่างไปบังเกิดเสียงหวั่นไหว เหล็งฮู้ชงรีบหมอบร่างลง ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า
ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น กลับเป็นเสียงเดินเหินของผู้คนสองคน เหล็งฮู้ชงใจหายวาบ ครุ่นคิดขึ้น
"หุบเขาร้างไหนเลยมีคน คาดว่ามาหาเรากับเอี่ยงเอี้ยงแล้ว"
ยามนั้น ได้ยินสุ้มเสียงชราภาพเสียงหนึ่งดังว่า
"ท่านสืบไม่ผิดหรือ งักปุกคุ้งมุ่งมาด้านนี้จริงๆ"
ซุ่มเสียงแผ่วทุ้มอีกเสียงหนึ่งดังว่า
"ซือเฮียงจู้ (หัวหน้ากองแซ่ซือ) ตรวจสอบรอบบริเวณแล้ว บุตรีและบุตรเขยงักปุกคุ้งหายสาบสูญที่ละแวกนี้ ตามตัวเมืองและท่าข้ามต่างๆ ล้วนไม่มีร่องรอยของมันสองสามีภรรยา คาดว่าหลบซ่อนตัวรักษาบาดเจ็บในหุบเขาละแวกนี้ งักปุกคุ้งจะช้าเร็วต้องสืบเสาะมา"
เหล็งฮู้ชงบังเกิดความหดหู่ใจ ครุ่นคิดขึ้น
"ที่แท้พวกมันทราบเซี่ยวซือม่วยรับบาดเจ็บ หาทราบว่านางตายแล้ว โดยเฉพาะซือแป๋ซือบ้อ หากมิใช่หุบเขานี้เปลี่ยวร้าง คงสืบเสาะมาถึงแต่แรกแล้ว "
เหล็งฮู้ชงลอบมองดูเห็นเสื้อผ้าชุดแต่งกายของมันก็ครุ่นคิดว่า
"ที่แท้เป็นคนของนิกายสุริยันจันทรา ซึ่งเป็นบริวารของเอี่ยงเอี้ยง ทางที่ดีให้พวกมันจากไปไกลแสนไกล อย่าได้รบกวนเรากับเอี่ยงเอี้ยง"
พลันได้ยินเสียงปรบมือสามครั้งดังมาแต่ไกล คนแซ่ซิกล่าวว่า
"โต่วเจี้ยงเล่า (ผู้อาวุโสแซ่โต่ว) ก็มาแล้ว"
ผู้อาวุโสกัวะปรบมือตอบสามครา ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น เห็นคนผู้หนึ่งวิ่งปราดมา ในซอกแขนคล้ายอุ้มหนีบเอาสตรีนางหนึ่งไว้ด้วย
ผู้อาวุโสกัวะกล่าวด้วยความยินดีว่า
"น้องแซ่โต่ว จับตัวทารกหญิงตระกูลงักได้หรือ นับว่ามีความดีความชอบไม่น้อย"
ซุ่มเสียงก้องกังวานเสียงหนึ่งดังว่า
"แซ่งักนั้นแซ่งักอยู่ แต่มิใช่ทารกหญิง หากแต่เป็นทารกหญิงใหญ่"
ผู้อาวุโสกัวะอุทานดังเอ๊ะ กล่าวอย่างตื่นเต้นยินดี
"ไฉนจับตัวภรรยาของงักปุกคุ้งได้"
ความแตกตื่นของเหล็งฮู้ชงคราวนี้ใหญ่หลวงนัก คิดโถมออกไปช่วยคน แต่แล้วฉุกคิดว่าตนเองไม่ได้พกพากระบี่
เมื่อไม่มีกระบี่พลังฝีมือยังสู้ยอดฝีมือธรรมดาไม่ได้ ต้องลอบร้อนรุ่มใจ
ผู้อาวุโสโต่วกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
"สตรีโสโครกนี้คล้ายสูญเสียวิญญาณ พอเข้าพักโรงเตี๊ยมก็เทน้ำยาดื่มลงไป ถูกยาสะกดของเรามอมทำร้าย"
เหล็งฮู้ชงทั้งแตกตื่นทั้งร้อนรุ่ม หวนนึกถึงซือบ้อตามหาเซี่ยวซือม่วยหลายสิบวันไม่พบพาน จิตใจไม่อยู่กับตัว
ดังนั้นนางจึงพลาดท่าเสียทีแก่คนนิกายอสูร แต่ยามนี้ไม่เพียงพลังยังไม่ฟื้นตัวยังไร้กระบี่ ยามร้อนรุ่มครุ่นคิดในใจ
"ทำอย่างไรจึงจะช่วงชิงกระบี่มาได้ มาตรว่าไม่มีกระบี่มีดาบยังดี"
ได้ยินผู้อาวุโสกัวะกล่าวว่า
"พวกเราคร่าตัวภรรยาของงักปุกคุ้งได้ก็ประเสริฐ ขอเพียงล่องักปุกคุ้งมา มันคำนึงถึงน้ำใจสามีภรรยา ต้องไม่กล้าต่อสู้ขัดขืน"
ผู้อาวุโสโต่วกล่าวว่า
"กัวะเฮียกล่าวมีเหตุผล กลัวแต่ว่างักปุกคุ้งจิตใจอำมหิต ไม่คำนึงถึงน้ำใจสามีภรรยา เรื่องราวกลับตึงมืออยู่บ้าง"
พลันได้ยินผู้อาวุโสกัวะกล่าวว่า
"งักปุกคุ้งมีอายุไม่น้อย ภรรยาของมันกลับอายุเยาว์สะคราญโฉมเช่นนี้ย่อมรักถนอมนางยิ่งไฉนมันกลับมิยอมอ่อนข้อ"
ผู้อาวุโสโต่วกล่าวว่า
"นางสะคราญโฉมจริง แต่อายุไม่เยาว์ คาดว่ามีอายุสามสิบเศษแล้ว "
ในตงง้วนยุคนั้นสตรีล้วนออกเรือนตั้งแต่อายุยังน้อยบางนางอายุได้เก้าขวบเศษ ก็มีสามีครั้นอายุสิบสองสิบสามก็มีบุตรกันแล้ว ดังนั้นลางทีมารดายังมิถึงสามสิบบุตรก็เติบใหญ่ทันมารดาจนคล้ายเป็นเจ้ม่วยห รือเจ้ตี๋กันย่อมมิใช่เรื่องแปลกอันใด
ผู้อาวุโสกัวะกล่าววาจาพลางเอื้อมมือไปลูบที่ง่ามขางักฮูหยินอย่างลามก
"... สะโพกของนางแบะผายรับกับโคกหีโหนกนูนเต็มมือเช่นนี้คาดว่านางคงชอบเย็ดไม่น้อย... "
ผู้อาวุโสโต่วหัวร่อกล่าววาจา
"ฮาๆ กัวะเฮียหากสนใจ หลังจากคร่ากุมงักปุกคุ้งค่อยเรียนต่อก่าจู้ ขอสตรีโสโครกนี้ไปเป็นอย่างไร?"
ผู้อาวุโสกัวะหัวร่อพลางกล่าวว่า
"สู่ขอสตรีโสโครกนี้กลับมิกล้า แต่นำเป็นเครื่องเล่นกลับมิเลวนัก โต่วเฮียท่านสนใจร่วมสนุกกับนางด้วยหรือไม่"
เหล็งฮู้ชงได้ยินมันหัวร่ออย่างชั่วช้าลามก อดชะโงกศีรษะมองมิได้ ผู้อาวุโสกัวะกลับยืนหันหลังบังตัวงักฮูหยินไว้ เหล็งฮู้ชงจึงมิได้เห็นมันที่ยื่นมือลูบคลำโคกหีงักฮูหยินอย่างลามก มิเช่นนั้นคงโถมออกมาเข่นฆ่าพวกมันอย่างไม่คิดชีวิตแล้ว
คนนิกายอสูรพากันหัวร่อฮาฮา ผู้อาวุโสโต่วกล่าวว่า
"กัวะเฮียถึงกับรุ่มร้อนปานนี้ ท่านกล้าจัดการกับสตรีโสโครกในที่นี้หรือไม่"
เหล็งฮู้ชงเดือดดาลสุดระงับ หากผู้อาวุโสกัวะล่วงเกินซือบ้อจริงๆ ตนเองแม้ไม่มีกระบี่ ก็จะขอเสี่ยงชีวิตกับคนของนิกายอสูรเหล่านี้
ได้ยินผู้อาวุโสกัวะหัวร่ออย่างชั่วช้าลามก กล่าวว่า
"เล่นกับสตรีโสโครก มีอันใดไม่กล้า แต่หากกระทบกระเทือนถึงแผนการใหญ่ของก่าจู้ ผู้แซ่กัวะต่อให้มีร้อยศีรษะ ก็ต้องถูกตัดสิ้น"
คนแซ่ซิพลันกล่าวอย่างประจบว่า
"ผู้เยาว์รู้จักสถานที่นี้ดี ยังมีหุบเขาที่ลับตาผู้คนอยู่ ผู้เยาว์ยินดีพาผู้อาวุโสทั้งสองไปหาที่ร่วมสนุกกับนางก่อน"
ผู้อาวุโสกัวะหัวร่อฮาฮาอย่างสบใจ
"ซิเล่าตี๋นับเป็นผู้รู้ใจ เช่นนี้ต้องให้ท่านได้ร่วมสนุกกับสตรีโสโครกนางนี้ด้วยแล้ว"
ขาดคำคนของนิกายอสูรก็พลันใช้วิชาตัวเบาพุ่งออกไปทันที
เหล็งฮู้ชงใจหายวาบ รีบสาวเท้าตามไปอย่างร้อนใจ
"หากเราไม่รีบตามไป ซือบ้อคงต้องโดนพวกมันหยามย่ำยีแล้ว"
เหล็งฮู้ชงแม้ร้อนใจแต่พลังฝีมือสูญสลายไม่สามารถใช้วิชาตัวเบาไหนเลยจะไล่ต ามคนของนิกายอสูรได้ทัน พวกมันต่างใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าในดงไม้รกครึ้มหายลับตาไปอย่างรวดเร็ว

ขณะรอคอยเหล็งฮู้ชงอยู่เอี่ยงเอี้ยงพลันได้ยินเสียงผู้คนขบวนหนึ่งมุ่งมา นางมิคิดตอแยผู้คนให้วุ่นวายจึงขยับกายขึ้นไปซุ่มซ่อนบนคบไม้ลอบดู
พอเห็นเครื่องแต่งกายเอี่ยงเอี้ยงก็จำได้ว่าพวกมันคือสาวกนิกายสุริยันจันทร า พวกมันคร่ากุมสตรีนางหนึ่งตรงมาในที่ลับตาอย่างรุกรี้รุกลน
มิคาดคนแซ่ซิกลับพาผู้อาวุโสของนิกายอสูรทั้งสองมุ่งไปเป็นที่เดียวกับที่ยิ่มเอี่ยงเอี้ยงรอคอยเหล็งฮู้ชงอยู่
ผู้คนขบวนนั้นหยุดวางสตรีนางนั้นลงใต้ต้นไม้แล้วต่างพากันถอดกางเกงออกอย่างลนลาน
นางอดขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคืองมิได้ นางเติบโตมาในนิกายสุริยันจันทราตั้งแต่เล็กย่อมได้ยินเรื่องสาวกของนิกายฉุ ดคร่าสตรีมาข่มขืนย่ำยีจนผู้คนประณามว่าเป็นนิกายอสูร
แต่เอี่ยงเอี้ยงก็อดมิได้ที่จะเหลือบสายตากลับมาดูการกระทำของพวกมัน
นางหน้าแดงฉานเมื่อเห็นสัญลักษณ์บุรุษของมันพากันผงาดด้วยความกระหาย
คิดมิถึงว่าเหล่าบุรุษยามแข็งตัวแล้วจะมีขนาดใหญ่เช่นนี้ ควยแต่ละดุ้นล้วนล่ำอ้วนและยาวขนาดไม่น้อยกว่าศอกโดยเฉพาะคนหน้ายาวดุจม้าคว ยมันยิ่งยาวกว่าผู้อื่น ทั้งดำเป็นปุ่มปมยาวจนปลายห้อยนั้นดูคล้ายควยม้าที่นางเคยเห็นยามมันกำลังคึ กตัวเมียมิผิด เอี่ยงเอี้ยงอดนึกสยองใจแทนสตรีนั้นมิได้
ถึงเอี่ยงเอี้ยงจะมิพอใจอยู่บ้างแต่ยามนี้นางกำลังรอเหล็งฮู้ชงกลับมา นางไม่ต้องให้สาวกในนิกายมารบกวนวันคืนอันสงบสุขจึงมิคิดยุ่งเกี่ยว ได้แต่ภาวนาให้พวกมันสำเร็จกิจแล้วจากไปโดยเร็ว

เอี่ยงเอี้ยงพลันหวนคิด...มิทราบควยเหล็งฮู้ชงจะใหญ่เหมือนพวกมันหรือไม่..คิดแล้วตอนนี้เอี่ยงเอี้ยงก็วาบหวิวระทึกใจจนบอกมิถูก

ถึงตอนนี้ชายกระโปรงของสตรีนั้นถูกชายชราหน้าม้าตลบขึ้นอย่างร้อนรน
ยามลมพัดใบไม้ไหวบดบังสับสนเอี่ยงเอี้ยงกลับมิทันเห็นใบหน้าว่าสตรีนางนั้นเป็นผู้ใด
เห็นแต่ชายกระโปรงของสตรีนั้นถูกถกขึ้นไปกองบนท้องน้อยจนเผยให้เห็นท่อนล่าง ของนางเปลือยเปล่า เรียวขาของสตรีนางนั้นอวบอิ่มเรียวได้รูป ผิวของนางขาวผ่องสะอาดตาคงเป็นโกวเนี้ยหรือฮูหยินตระกูลใหญ่แล้ว แม้ไม่เห็นใบหน้าแต่เอี่ยงเอี้ยงก็คาดว่าสตรีนั้นคงโฉมงามยิ่ง

สตรีนางนั้นพยายามดิ้นรน แต่ไฉนเลยจะสู้กับแรงบุรุษที่รุมจับแขนจับขาไว้ได้

ยิ่งหนีบขาเพื่อซ่อนเร้นกลับยิ่งทำให้โคกแคมของสงวนของนางโดนเบียดจนอูมนูนเป็นโหนกประชันกับหน้าท้องที่อวบอิ่ม
บุรุษที่ช่วยจับแขนสตรีข้างหนึ่งกดถึงกับครางออกมาเสียงกระเส่า
"อา...รูปโฉมภายนอกนางช่างสะคราญชวนให้เย็ด คาดมิถึงว่ายามแก้ผ้าจนเห็นหีเรายิ่งอดใจไม่ไหวแล้ว"
มันกล่าววาจากับบุรุษหน้ายาวดุจม้าที่จับขาสตรีนั้นว่า
"กัวะเฮียเป็นผู้อาวุโสเชิญเปิดท่านประเดิมรูหีนางก่อนเป็นไร.."
"ฮาๆ โต่วเฮียนับเป็นผู้รู้ใจ นับแต่นี้เราต้องส่งเสริมท่านให้มากแล้ว.."
ที่แท้เป็นโต่วเจี้ยงเล่ากับกัวะเจี้ยงเล่าและสาวกแซ่ซิ แห่งนิกายอสูร
สตรีนางนี้ย่อมเป็นงักฮูหยินถูกพวกมันคร่ากุมมาแล้ว
งักฮูหยินที่ถูกจี้จุดใบ้ได้แต่จ้องตาพวกมันอย่างเคียดแค้น
โต่วเจี้ยงเล่าล้วงมือเข้าในอกเสื้องักฮูหยินพลางลูบคลำนมนางอย่างลามก
งักฮูหยินสยิวกายงอตัวหนี
โต่วเจี้ยงเล่าหัวร่อกล่าววาจา
"ฮาๆ นางโสโครกกลับนมยังแข็งสู้มือมิหย่อนยาน คาดว่ารูหีของนางคงยังแน่นกระชับควยแน่นอน กัวะเฮียรีบเย็ดเถิด ผู้น้องก็อยากแทบทนไม่ไหวแล้ว ฮาๆ"
ผู้อาวุโสกัวะหัวร่อพลางกล่าวว่า

"ซิเล่าตี๋ช่วยจับแขนนางไว้..ขออภัยโต่วเฮียเราขอล่วงหน้าท่านไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว"

งักฮูหยินที่ถูกเปลื้องผ้าจนท่อนล่างเปลือยเปล่าตกใจแทบสิ้นสติ เรียวขาขาวผ่องของงักฮูหยินถูกผู้อาวุโสกัวะจับแยกจนอ้า งักฮูหยินใจหายวาบเมื่อเห็นมันขยับเข้ามานั่งยองๆแล้วช้อนก้นขาวอวบของนางขึ ้นจนได้สัมผัสสิ่งเหนอะหนะดุนดันในร่องแคม แม้ยังมิเห็นกับตางักฮูหยินก็ทราบว่าเป็นดุ้นควยเข้ามาป้วนเปี้ยนตรงโคกหีแล ้ว
งักฮูหยินอ้าปากร้องแต่นางถูกจี้จุดไว้ไหนเลยมีเสียงเล็ดรอดออกมาได้
โต่วเจี้ยงเล่าหัวร่อกล่าววาจา
"ฮาๆนางงามของเราคงอยากครวญครางสร้างอารมณ์สุนทรีย์ให้กัวะเฮียแล้วฮาๆ.."มันพลิกฝ่ามือปาดวูบหนึ่งถึงกับคลายจุดใบ้ของงักฮูหยินออก
"อย่า...... ช่วยด้วย...ที่นี้มีโจรราคะ...."เสียงกรีดร้องของนางกลับคล้ายคุ้นหูจนเอี่ยงเอี้ยงอดคลางแคลงใจมิได้
"ฮาๆ..โต่วเฮียกลับรู้ใจเรา....เสียงคร่ำครวญของนางสร้างอารมณ์ให้เรายิ่งแล้ว...."
"อย่า...อย่านะ...อย่า.....ว้าย....."ร่างงามสะดุ้งเฮือกร้องออกมาลั่นด้วยค วามรวดร้าวในช่องสวาท เรียวขาอวบที่ถูกจับอ้าแข็งเกร็งปลายนิ้วเท้าทั้งหมดหงิกเกร็งเห็นได้ชัด
งักฮูหยินผงกศีรษะขึ้นมาเห็นขนาดของควยที่กำลังมุดเข้ามาในตัวก็ตาค้าง หากมิใช่กัวะเจี้ยงเล่าที่กำลังเครียดเขม็งดันให้เห็นงักฮูหยินต้องคิดว่านา งกำลังถูกพวกมันจับให้ม้าตัวผู้เย็ดแล้ว
ที่แท้ดุ้นควยที่กำลังเสียบคับคารูใหญ่ดำล่ำสันกว่าข้อมือของนางอีก เงี่ยงหยักที่บานใหญ่ขนาดหัวแมวกำลังแหกกาบหีขาวอวบอิ่มทั้งสองข้างจนอ้า ทั้งแน่นทั้งตึง กลีบเนื้อขอบปากรูหีที่รัดรอบลำควยใหญ่จนกลีบตึงแทบปริฉีก งักฮูหยินเกร็งขมิบรูหีเพื่อรีดเร้นให้ควยหลุดอย่างสุดชีวิต
ผู้อาวุโสกัวะแอ่นเอวกระแทก เสียงดังกึกในขณะหัวถอกผลุบหายเข้าในรูคับ
"โอย...เจ็บ...ซี้ด...อย่า...ซี้ด....."งักฮูหยินตาเหลือกพยายามเสือกตัวหนี ดุ้นควยมหึมากลับตามยัดจนลึกเข้ามาในรูหีอีก
งักฮูหยินหลั่งน้ำตาอ้อนวอนแต่พวกมันหัวร่อฮาฮาอย่างสบใจ
นางยิ่งดิ้นรนร้องก็ยิ่งยั่วให้พวกมันหื่นกระหาย พวงนมขาวผ่องทั้งสองเต้าถูกสองบุรุษที่จับกดแขนนางกำขยำกันอย่างมันมือ
ผู้อาวุโสกัวะขยับตามยึดท่อนขาอวบพลางคำรามออกมาอย่างสบใจ
"อา....โต่วเฮียนับเป็นผู้ชำนาญเพียงจับนมก็รู้ว่ารูหีของนางเป็นอย่างไร... มิคาดว่าเอียเท้าโสโครกนี้มีอายุแล้วรูหีกลับยังแน่นกระชับยิ่งกว่าโกวเนี้ย น้อยๆอีก...."
มันแอ่นเอวกระทุ้งอีกพรวดหนึ่งหนักๆจนร่างงามสะท้าน ลำควยขนาดใหญ่ถูกยัดเข้าในรูสวาทจนมิด

งักฮูหยินสะดุ้งเฮือกครางโอยออกมาอย่างสุดกลั้น ปลายควยกระแทกยันปากมดลูกจนเจ็บภายในลึกๆร่างงามคล้ายถูกลงทัณฑ์ด้วยการเสีย บตรึงจนแทบขยับตัวมิได้
ที่แท้หลังจากงักปุกคุ้งเพื่อฝึกเพลงกระบี่พิชิตมารถึงกับยอมสะบั้นควยทิ้งก ็ย่อมไม่มีกระบี่มาเย็ดหีงักฮูหยินมาร่วมปีแล้ว เมื่อว่างเว้นการทะลุทะลวงก็ย่อมทำให้รูหีนางฟิตแน่นกระชับขึ้นมิน้อย
งักฮูหยินขยับกางขาขาวอวบให้อ้าเพื่อคลายความอึดอัดในรูสวาท ยิ่งอ้ากว้างดุ้นเนื้อก็ถูกอัดตามเข้ามาอีก หน้าท้องนูนตึงบวมเป่งด้วยความใหญ่ของลำเนื้อที่เข้าไปจุกแน่นเต็มท้องน้อย
"โอย...เอาออกไปให้เรา....เรา...แทบทนไม่ไหวแล้ว...โอย..."

งักฮูหยินพยายามแหกขากางออกจนสุดเพื่อลดความตึงในช่องคลอด นางขมิบรูหีพลางหายใจหอบๆ กล้ามเนื้อรูหีที่ยืดหยุ่นก็เริ่มคลายตัวคลายความแน่นตึงกลางง่ามขาของนางลง เล็กน้อย

ผู้อาวุโสโต่วที่จับแขนเห็นงักฮูหยินดิ้นหนีก็แหวกอกเสื้อของนางออกจนเห็นตัวเอี๊ยมสีเขียวด้านใน
แค่กระชากจนเชือกที่ผูกรั้งก็หลุดเผยให้เห็นเต้านมขาวผ่อง
มันเอื้อมมือไปขยำพลางหัวร่อเสียงแหบเครืออย่างลามก
"ฮาๆ..กัวะเฮียดู...หัวนมนางแข็งเด่แล้ว...ฮาๆดูท่าทางเอียเท้าโสโครกก็คงเริ่มสนุกกับควยกัวะเฮียยิ่งแล้ว..."
ผู้อาวุโสกัวะกล่าวว่า
"ฮาๆ โต่วเฮียเชี่ยวชาญสตรีมิน้อย ท่านถึงกลับดูออกว่านางกำลังขมิบรูหีตอดควยเราอย่างสนุกฮาๆ..."

เอี่ยงเอี้ยงที่ซุ่มอยู่บนคบไม้ถึงกับแข้งขาสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น นางแม้มิเคยได้เห็นผู้คนเสพสังวาสกันต่อหน้าต่อตาเยี่ยงนี้ แต่นางเคยเห็นม้าตัวเมียที่นางขี่ถูกม้าหนุ่มตัวหนึ่งแหกคอกออกมาผสมพันธ์ ควยม้าหนุ่มทั้งใหญ่ทั้งยาวจนน่ากลัวแต่นางม้าตัวเมียของเอี่ยงเอี้ยงกลับรั บควยมันเข้าไปอย่างชอบอกชอบใจจนมิด สายตาเอี่ยงเอี้ยงจับจ้องหน้าบั้นเอวกัวะเจี้ยงเล่าที่กำลังเมามันกับการกระ เด้าควยขยับเข้าออกในรูหีจนเห็นได้ถนัด ควยมันขนาดพอๆกันกับควยม้าตัวนั้นไม่มีผิด นางแทบมิเชื่อว่าสตรีนั้นจะรับควยม้าเข้าในรูหีได้จนหมด
ร่างงามสะท้านตามแรงกระแทกและเสียงพั่บๆที่โหนกเนื้อกระทบกันหนักหน่วง ถึงกระนั้นสตรีงามนั้นก็พยายามบิดกายเสือกตัวหนีให้ควยหลุด ทั้งส่ายเอวหลบไปด้านข้างทั้งเกร็งงอตัวขึ้นจนหน้าท้องเกร็งเป็นลอน แต่ลำควยยาวเกือบศอกนั้นยากที่พาตัวหลุดออกไปได้ ดูคล้ายเป็นนางส่ายเอวให้ลำควยนั้นคว้านจนทั่วรูหีตนเองเสียอีก
เอี่ยงเอี้ยงมิรู้ตัวแม้แต่น้อยว่าสตรีที่แคมหีปลิ้นเข้าปลิ้นออกตามท่อนลำที่มุดเข้าออกนั้นคืองักแป๊ะบ้อที่สวยสง่า

เพียงไม่นานเอี่ยงเอี้ยงก็เห็นสตรีที่แข็งขืนนั้นก็หยุดดิ้นรน คงเหลือเพียงเสียงวอนว่าปล่อยเราๆโอยแผ่วสลับเสียงร่ำไห้กระซิกเบาๆ คาดว่านางงามนั้นคงยอมรับชะตากรรมแล้ว
กัวะเจี้ยงเล่าเริ่มออกลายลากควยของมันเข้าออกจนถึงเงี่ยง ร่างงามนั้นสั่นระริกมันกดควยเข้ารูหีช้าๆ ร่างงามนั้นเริ่มเกร็ง จนควยเข้ารูหีมิดร่างงามก็อ่อนระทวย เห็นนางไม่ดิ้นรนแล้วกัวะเจี้ยงเล่าก็ขยับตัวเป็นนั่งยองๆสองมือสกปรกช้อนเข ้าไปใต้ก้นอวบอัดยกขึ้น เนินหีอวบอูมลอยแอ่น มันโก่งตูดลากควยออกจนเกือบหลุดแล้วกระเด้าพรวด ร่างงามนั้นสะท้านเฮือกๆ ลำควยยาวใหญ่มุดเข้าในรูหีจนหมด เห็นแต่เส้นหมอยหยาบใหญ่พันหมอยเส้นเล็กละเอียดดำเงางามบนโคกหีขาวสะอาด เสียงกระแทกพั่บหนักๆ ขณะมันกระทุ้งควยเข้าออกรูหีของนางอย่างหื่นกระหายเป็นจังหวะ เสียงร่ำไห้กระซิกๆเริ่มขาดระยะจนกระทั่งเงียบกริบ

สักพักเอี่ยงเอี้ยงก็เริ่มได้ยินเสียงสตรีกัดฟันกรอดๆอย่างสะกดกลั้นแต่ไม่วายมีเสียงซี้ดอย่างเสียวซ่านออกมาเล็กๆ
เอี่ยงเอี้ยงมือไม้สั่นแทบทรงตัวบนคบไม้ไม่อยู่ ทราบว่าสตรีนางนั้นเริ่มมีอารมณ์หฤหรรษ์คล้ายกับนางม้าของเอี่ยงเอี้ยงตอนถู กเย็ดอย่างหนักแล้ว นางย่อมทราบความรู้สึกของสตรีด้วยกันดี แม้มิมีใจแต่เม็ดแตดและรูหีที่โดนดุ้นควยครูดขนาดนี้ต่อให้เป็นเนี่ยเนี้ยศั กดิ์สิทธิ์ยังต้องเสียวซ่านอย่างมิอาจห้ามใจได้
...หากเป็นนางโดนเย็ดด้วยควยขนาดนี้เล่า...เอี่ยงเอี้ยงเอื้อมมือลงไปลูบเนิ นเนื้อของนางอย่างลืมตัว แม้ลูบคลำอยู่ภายนอกแต่เอี่ยงเอี้ยงก็รู้สึกได้ถึงการเต้นตุบๆของเนินหนั่นใ ต้เนื้อผ้ากระโปรงยาว มิแน่ใจว่าหีของนางกำลังเต้นด้วยความอยากลองหรือความหวาดหวั่นระทึกใจกันแน่
"อา..ชงกอ.....ท่านอยู่ที่ใดกัน..เรา...เราอยากท่าน...ซี้ด....อา...ชงกอ..."
เอี่ยงเอี้ยงถกกระโปรงขึ้นแล้วล้วงมือเข้าไปลูบคลำเนื้อแท้ของโคกหีกลางง่ามขาของตนเอง
นางกรีดปลายนิ้วลงจนร่องแคมแนบชิดแยกออก น้ำเหนียวลื่นไหลถะถั่งย้อยลงตามโคนขา
"ซี้ด...เสียว...อูยเราเสียวแล้วชงกอ..."
ยิ่มเอี่ยงเอี้ยงแยงปลายนิ้วเรียวเข้าในรูตีบแล้วก็สะดุ้งแอ่นเอวเข้าหาจนปลายนิ้วดิ่งด่ำลึกเข้าภายใน
"ซี้ด...ชงกอ..อูยดี...อูยเสียวดีจังเลยชงกอ...ซี้ด....."
เอี่ยงเอี้ยงที่ตาหรี่ปรือด้วยความเสียวซ่านแอ่นหีกระเด้านิ้วตัวเองหงึกๆ
ถึงตอนนี้กัวะเจี้ยงเล่าที่ยกสะโพกสตรีนั้นขึ้นมารับการกระเด้าของมันกลับมิ ต้องใช้กำลังสักเท่าใดแล้ว ที่จริงดูคล้ายสตรีนั้นแอ่นสะโพกขึ้นรับการกระเด้าของผู้อาวุโสกัวะอย่างเป็ นจังหวะเองมากกว่า
กัวะเจี้ยงเล่าเอื้อมมือไปขยำเต้าขาวอวบเต่งจนหัวนมแดงปลิ้นไปปลิ้นมา ส่วนหัวนมแดงอีกข้างกลับถูกเม้มบี้ด้วยริมฝีปากหนาสลับกับอมเข้าไว้ในปากแล้ วดูดแรงๆจนหัวนมแทบหลุด
เสียงกัดฟันอย่างสะกดกลั้นของนางกลับเป็นเสียงอึ้มอั้มคล้ายอมสิ่งใดไว้เต็มปาก
เอี่ยงเอี้ยงมิเห็นว่านางกำลังทำสิ่งใด เพียงเห็นแต่ข้อมือทั้งสองข้างถูกบุรุษแซ่ซิรวบดึงขึ้นไปเหนือศีรษะเห็นรักแ ร้ทั้งสองข้างตึงขาวสะอาดตา เรียวแขนทั้งสองข้างเหยียดตึงจนอกแอ่น
ส่วนโต่วเจี้ยงเล่ากลับขึ้นไปคุกเข่าข้างศีรษะสตรีนั้น มือมันช่วยประคองศีรษะนางไว้ เอี่ยงเอี้ยงเห็นนางเอียงหน้าเข้าหาพลางผงกหัวเป็นจังหวะตรงใต้เอวมัน เสียงอือมๆคล้ายกำลังเอร็ดอร่อยกับควยที่คับเต็มปาก
เอี่ยงเอี้ยงวาบหวิวจนหน้ามืด รสชาติของการถูกควยยัดเข้ามาพร้อมกันทั้งสองทางจะเป็นเยี่ยงไรกัน
นางกดนิ้วที่แยงหีตนเองเข้าไปจนมิด มือข้างที่จับกิ่งไม้ก็เป็นโอบอ้อมส่งปลายนิ้วเข้าในปากแล้วดูด....
"อื๊อม....."
เอี่ยงเอี้ยงแอ่นหีไปข้างหน้าสุดๆตัวสั่นระริกเหมือนแทบลอยขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นจริงๆ

"ซี้ด.....อา.....มันเหลือเกินโต่วเฮีย...อา....รูหีของฮูหยินผู้แซ่งักตอดค วยเราแล้ว...อา..ดีเหลือเกิน...อา..เจ้าเด็กบัดซบแซ่งักได้ภรรยาที่รูหีทั้ง ดูดทั้งตอดจนแน่นกระชับควยเยี่ยงนี้นับว่ามีวาสนามิน้อย..."

เอี่ยงเอี้ยงที่แอ่นหีเย็ดกับนิ้วตัวเองใจหายวูบ ฮูหยินของผู้แซ่งักที่กัวะเจี้ยงเล่าเอ่ยถึงหรือนางเป็นงักฮูหยินของงักปุกค ุ้งแห่งสำนักกระบี่ฮั่วซัว
เอี่ยงเอี้ยงแหวกใบไม้ออกเพื่อดูหน้าสตรีที่กำลังรองรับการสังวาสแล้วก็ต้องอุทานอย่างตระหนก
"นั่นมิใช่งักซือบ้อของชงกอหรือ...."
.ใบหน้างดงามที่กำลังหลับตาพริ้มดูดควยอย่างดูดดื่มนั้นคืองักฮูหยินแน่นอน
โต่วเจี้ยงเล่าได้ยินเสียงผิดปกติก่อนรีบผลุดลุกขึ้นตวาด
"ผู้ใดไม่รีบไสหัวออกมารับฝ่ามือบิดาสักฉาด.."

"ตัวบัดซบชั่วช้ารีบปล่อยนาง...." เสียงตวาดเจื้อยแจ้วพร้อมกับสีชมพูกลุ่มใหญ่แฝงประกายกระบี่พุ่งลงมาจากบนต้นไม้อย่างเร่งร้อน
โต่วเจี้ยงเล่ากับคนแซ่ซิถึงกับแตกกระจายออก
ผู้อาวุโสกัวะที่กำลังกระเด้าอย่างเมามันรีบชักดุ้นออกถีบเท้ากระโดดถอยปราดอย่างว่องไว
"เอ๊ะ..."
ผู้อาวุโสโต่วที่โถมเข้ามาหมายฟาดผู้มาขัดจังหวะพลันอุทานแล้วรีบชะงักเท้าทิ้งตัวลงพื้นอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสกัวะและบุรุษแซ่ซิต่างก็พากันคุกเข่าอย่างตระหนก
"ตั่วเสียวเจี้ยะ... เสี่ยโกว(อาหญิงศักดิ์สิทธิ์)"

ที่แท้เป็นยิ่มเอี่ยงเอี้ยงชักกระบี่โถมฟันลงมาจากต้นไม้

เห็นพวกมันพากันคุกเข่าคารวะด้วยสุ้มเสียงสั่นสะท้านเอี่ยงเอี้ยงก็มิแยแสพว กมันอีก นางปราดเข้าไปคุกเข่าลงประคองงักฮูหยินอย่างห่วงใย
"งักซือบ้อท่านมิเป็นไร...ผู้เยาว์มาช่วยท่านแล้ว..."
งักฮูหยินที่นอนแผ่ถ่างขาอ้ากว้างถึงกับน้ำตาหลั่งทะลักด้วยความอับอาย
"ที่แท้ยิ่มโกวเนี้ย....พวกมันย่ำยีเรา...เรามิอาจมีหน้าไปพบผู้ใดอีกแล้ว"
งักฮูหยินที่ไร้เรี่ยวแรงน้ำตาเอ่อนองด้วยความอาดูร
"ซือบ้อมิต้องกังวล....เราจะฆ่าพวกมันมิให้แพร่งพรายเรื่องท่านถูกย่ำยีออกไป...."
เอี่ยงเอี้ยงยืดกายหันกลับมา
ดวงตางามกลมโตของนางฉายแววกราดเกรี้ยวจนเหล่าสาวกนิกายสุริยันจันทราสะท้านใจ
"ยังมิรีบจัดการตัวเองอีก หรือพวกเจ้ายังต้องให้เราลงมือ.."
ผู้แซ่ซิสาวกนิกายอสูรพลันคุกเข่าลงอย่างตระหนก
"ศิษย์ทำตามคำสั่งผู้อาวุโสทั้งสอง ศิษย์ผิดไปแล้ว เสี่ยโกวโปรดประทานไว้ชีวิต..."

ผู้อาวุโสกัวะขบคิดในใจ
"พวกเราฉุดคร่าข่มขืนงักฮูหยิน นางเป็นซือบ้อของเหล็งฮู้ชงที่เป็นคนรักของเสี่ยโกวเยี่ยงนี้ เห็นทีเสี่ยโกวยากจะปล่อยพวกเรารอดชีวิตไปได้...."
มันกวาดสายตาไปยังยิ่มเอี่ยงเอี้ยงที่กำลังจี้กระบี่ก้าวเข้าหาผู้อาวุโสโต่วอย่างอำมหิต
"วันนี้ยากจะรอดพ้นความตายได้ มิสู้ชิงลงมือสยบนางก่อน"
ผู้อาวุโสกัวะที่ชั่วช้าลามกพลันโถมปราดเข้าหาเอี่ยงเอี้ยงที่กำลังหันหลังให้ดุจสายฟ้า
งักฮูหยินพลันอุทานอย่างตระหนก
"ยิ่มตั่วเสียวเจี้ยะระวัง..."

suriyamahajit

นางจะรอดพ้นพวกเหล่ามารรึเปล่านะ