ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_err

จอมไสยสาว ตอนที่  1

เริ่มโดย err, พฤศจิกายน 04, 2010, 10:49:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

err

จอมไสยสาว ตอนที่ 1 (วิสาระ..ฝึกไสย)  โดย kankan
---------------------

เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งของท่าน kankan ตอนนี้เห็นไปลงที่บอร์ดเรื่่องเสียวแห่งหนึ่งจึงขอคัดลอกมา

ขอบคุณท่าน Kankan ที่เอื้อเฟื้อ
---------------------------------


ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวเองก่อน ดิฉันชื่อ "วิสาระ"
อายุ 25 หุ่นก็ไม่อายนางแบบหรอกคะ
ความสวยก็ไปไหนมาไหนตอนกลางวันได้สบาย ๆ

ดิฉันอยู่คนเดียว แม่ตายไปตั้งแต่ยังเล็ก
พ่อดิฉันเป็นหมอไสยศาตร์ชื่อดัง
บอกชื่อออกไปเป็นต้องร้องอ๋อตาม ๆ กัน
ก็พวกนักการเมือง นายทหาร เมียนายทหาร ข้าราชการผู้ใหญ่
ไฮโซ เศรษฐี และคนมีกะตางค์ทั้งหลายต่างมาใช้บริการ
เท่านั้นยังไม่พอ แขกตะวันออกกลาง จีน และที่ไม่น่าเชื่อฝรั่งก็มี
มาทำให้ทำของ แก้ของ ทำเสน่ห์ให้ผัวรักผัวหลง ทำผัวให้เลิกกับเมียน้อย
และอีกสารพัดสารเพ

วิชาไสยศาสตร์ ทั้งไสยขาวและไสยดำของพ่อดิฉันเป็นของจริง
ช่วยคนและทำลายคนมามากมาย
ของจริง ทำจริง ก็เลยได้ค่าจ้างแพงจริง
บางคนที่พ่อช่วยเค้าสำเร็จ ให้ค่าตอบแทนนับล้านบาทก็มี
ตอนพ่อตายจึงทิ้งมรดกไม่มากไม่มายเกือบสามร้อยล้าน
พร้อมบ้านอีก 3 หลัง แต่ละหลังมูลค่ากว่าสิบล้านบาท

หลังแม่ตายพ่อมีกิ๊กอีกนับไม่ถ้วน
พ่อประกาศกับทุกคนว่าถ้าใครมีลูกจะยกให้เป็นใหญ่
แต่ปรากฎว่าไม่มีใครซักคนที่มีลูกกับพ่ออีก

พ่อเคยคุยกับดิฉันเรื่องหาลูกศิษย์มารับหน้าที่แทน
ซึ่งพ่อบอกว่า
"สา..เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าใครก็จะเป็นทายาทแทนกันได้นะ..."
"งั้นวิชาของพ่อก็ต้องสูญนะซิ..."
พ่อพยักหน้าแล้วมองหน้าดิฉัน
"แต่มี 3 วิชาที่พ่อถ่ายทอดให้ลูกได้..เอาไว้กับตัวนะ..."

ดังนั้น..ตั้งแต่เรียนชั้น ป.6 ดิฉันก็ต้องเรียนวิชาไสยของพ่อด้วย
คาถา อาคม การทำสมาธิ การปลุกเสก พ่อกำกับให้ดิฉันฝึกแทบทุกวัน
ในแต่ละวันฝึกไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง

การฝึกไสยทุกวันนอกจากจะทำให้ดิฉันแกร่งทั้งกายและใจแล้ว
ยังทำให้ดิฉันเรียนหนังสือเก่งขึ้นด้วย
เมื่อก่อนอาจจะได้ที่ 1 บ้าง 2 บ้าง
หลังจากฝึกหนักก็ไม่มีใครมาแย่งตำแหน่งที่ 1 จากดิฉันได้อีกเลย
แม้เรียนมหาลัย ดิฉันก็เอาเกียรติยมอันดับหนึ่งมาครองอย่างง่าย

วิชาที่พ่อสอนที่ดิฉันพ่อเรียกว่า "วิชาแก่นรัก"
ก่อนอื่นพ่อสอนให้ท่องอาคมเป็นภาษาขอมโบราณ 16 ตัว
ขั้นแรกต้องท่องทีละตัว ตอนท่องต้องเห็นภาพตัวหนังสือตัวในจิตอย่างชัดเจน
ซึ่งยากมาก ๆ กว่าจะได้ทีละตัว ๆ ก็ใช้เวลานับเดือน
ทั้ง 16 ตัวดิฉีนใช้เวลากว่า 1 ปีพ่อถึงบอกว่าดิฉันท่องเป็นแล้ว
จากท่องเป็นพ่อให้ดิฉันเลิกท่อง
พ่อให้ดิฉันรำลึกถึงภาพตัวหนังสือทั้ง 16 ตัว
แล้วท่องตัวหนังสืออีกตัวหนึ่งพร้อมกับอธิาฐานจิตให้ตัวหนังสือทั้ง 16 ตัว
เอาจิตน้อมให้หลอมรวมกับตัวใหม่เป็นตัวเดียวกัน

ตอนพ่อบอกตอนแรกคิดว่าทำยาก
แต่พอฝึกจริง ๆ ไม่กี่วันดิฉันก็สามารถทำได้อย่างสบาย
พ่อให้ฝึกจนกระทั้งแค่นึกถึงตัวอักษรตัวหนึ่งอีก 16 ตัวน้อมเข้ามา
กลายเป็นตัวเดียวกันในรูปแบบเป็นยันต์ทันที

จากขั้นที่สองพ่อให้ดิฉันฝึกต่อไปอีกขั้นหนึ่งเรียกว่าเป็นขั้นของเป็น
จากตัวหนังสือที่หลอมรวมกันเป็นแบบยันต์แล้วต้องเอาสมาธิจิตไปจ่อแน่วกับยันต์
จนกระทั้งยันต์ดังกล่าวกลายเป็นกระจกเงาต้องแสงอาทิตย์
ตอนแรก ๆ พ่อให้ดิฉันฝึกตอนกลางคืนเวลาดึก
ดิฉันต้องใช้เวลาเกือบสองทิตย์จึงจะพอใช้ได้

จากนั้นพ่อฝึกให้ดิฉันเอาจิตใจจ่อกับยันต์แล้วแพ่งจิตใส่เลย
ต้องใช้เวลาเกือบ 3 เดือนจึงจะสำเร็จ

วันที่ดิฉันทำสำเร็จ
พ่อพาดิฉันเข้าไปยังห้องอาคมของพ่อที่ของสารพัดสิ่งมากมายจนอธิบายไม่ถูก
พ่อให้ดิฉันกราบรูปปั้นดินรูปหนึ่งแล้วอธิบายว่า
ท่านพ่อฤาษีใจเพชรเป็นเจ้าของวิชานี้
"กราบเสียซิลูก...ลูกคือลูกศิษย์ของท่าน.."

ดิฉันกราบท่านพ่อฤาษีใจเพชร พอเงยหน้าขึ้นทำเอาดิฉันขนลุกซู่
ตาดิฉันไม่ฝาดแน่นอน
โดยเฉพาะใจดิฉันยิ่งไม่เลอะเลือน
เพราะสติกับสัมปชัญญะบริบูรณ์และเรียกว่าดิฉันทรงอยู่ในฌานต้น ๆ แทบจะทั้งวันด้วยซ้ำ

ดิฉันเห็นท่านกรอกตาแล้วก็ยิ้ม ดิฉันจึงก้มลงกราบท่านอีกครั้ง
"ท่านตอบรับลูกเป็นศิษย์แล้วละ..."
แอ๊ะ..พ่อรู้นี่..แสดงว่าตะกี้ที่เห็นจะเป็นของจริง
จากนั้นพ่ออธิบายถึงวิชา "แก่นรัก"

"การใช้วิชาแก่นรัก ขั้นแรกให้เราหักเอากิ่งไม้ที่มีแก่นมาขนาดข้อนิ้วเดียวก็พอ
จากนั้นก็เข้าวิชาแล้วบี้กิ่งไม้ พอเปลือกไม้แหลกคนที่เราหมายปอง
จะเดินกลับมาหาเราทันที"
"โห..."
ดิฉันร้องแล้วทำตาโต ขณะนั้นดิฉันอยู่ ม.1 อายุก็ประมาณ 15 ปีเท่านั้นเอง
"แต่ลูกจะใช้วิชานี้ได้ต้องบรรลุนิติภาวะก่อนนะ... ลูกอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์เมื่อไหร่
ลูกจะรู้เองว่ายันต์จะเปลี่ยนไป ลูกต้องฝึกยันต์ไปเรื่อย ๆ ทำทุกวันให้คล่อง"
ดิฉันพยักหน้า

"วิชาต่อไปที่ลูกจะเรียนได้ก็คือ "ฝังรูปฝังรอย" เป็นวิชาที่จะต้อง
ปั้นหุ่นทั้งหมด 3 คู่ 6 ตัว คู่ที่ 1 เรียกว่าหุ่นเรียกจิต คู่ที่ 2 กำกับจิต
ส่วนคู่ที่ 3 เรียกว่าฝังจิต สิ่งที่ใช้ปั้นหุ่นใช้ได้ 2 อย่าง อย่างแรก
ใช้ขี้ผึ้งแท้ ๆ ต้องของแท้เท่านั้น หรืออย่างที่สองเป็นดินที่กรอง
เอาของสกปรกออกจนหมด เอามานวดแล้วก็ปั้น"

พ่อหยุดนิดนึงแล้วอธิบายต่อว่า

"วิธีปั้นพรุ่งนี้พ่อจะสอนให้ ตอนนี้ให้ลูกจำอาคมภาษาเขมร 32 ตัวให้ขึ้นใจ"

พูดจบพ่อให้ดิฉันท่องอาคมกำกับทั้ง 32 ตัว โดยพ่อพูดช้า ๆ ให้ดิฉันท่อง
เรื่องท่องนี่ถนัด พ่อทวนให้ดิฉันฟังเพียง 2 เที่ยว ดิฉันก็สามารถจำได้
ไปฝึกท่องให้คล่องเองได้

ก็ตามที่บอกแล้วดิฉันว่าจิตดิฉันได้รับการฝึกฝนจากพ่อมาตั้งแต่เด็ก
ดิฉันใช้เวลาไม่นานอาคมกำกับทั้ง 32 ตัวดิฉันก็ท่องได้ขึ้นใจ แทบจะ
เรียกได้ว่าแค่นึกก็เป็นอาคมกับจิตเสียแล้ว

ดิฉันมาท่องให้พ่อดู การดูของพ่อไม่ใช่ดูด้วยสายตา แต่พ่อเข้าสมาธิ
พ่อใช้จิตพ่อเข้าตรวจมาตรวจจิตของดิฉัน แล้วบอกว่าดิฉันทำได้หรือเปล่า

"สาระ..ลูกมีของเก่านะ ลูกทำอะไรก็ง่ายไปหมด..ดีแล้ว..ถูกต้องแล้ว...
แต่ท่องไปเรื่อย ๆ แล้วอย่าลืมทวนวิชาแก่นรักละ.."
ดิฉันพยักหน้า

"วันแรม 14 ค่ำเดือนนี้ ก็อีก 2 วัน ลูกมาฝึกการปั้นหุ่นกับพ่อให้ห้องนี่นะ.."
"คะ...พ่อ..."

วิชาปั้นหุ่นคู่เป็นเรื่องยากที่สุดที่ดิฉันเรียนมาเลย
ปั้นเป็นรูปคนนะไม่ยาก แค่มีหัว มีตัว มีแขน มีขาเท่านั้นก็พอ
แต่นี้ต้องกำกับวิญญาณให้หุ่นด้วย
เราต้องกำกับด้วยอาคมจนหุ่นสามารถนั่ง นอน ยืน เดิน
พ่อบอกว่าเวลาทำจริง ๆ เวลาเจ้าของวิญญาณสมสู่กัน
หุ่นของเค้าจะทำแบบนั้นด้วย
ตอนนั้นดิฉันไม่เข้าใจนัก แต่ก็รับรู้เอาไว้

ดิฉันฝึกวิชาปั้นหุ่นจากพ่อนานกว่า 5 ปี แค่ปั้นอย่างเดียวนะค่ะ
พ่อบอกว่าพอใช้ได้ ใช้เวลากว่า 5 ปี พ่อบอกว่าพอใช้ได้เท่านั้นเอง
ตอนนั้น..ดิฉันกำลังจะเอ็นทรานซ์เข้ามหาลัย

ช่วงเข้ามหาลัยชีวิตดิฉันสนุกมาก ๆ แม้จะเรียนหนัก บวกกับฝึกหนัก
ก่อนจบปี 1 พ่อบอกว่าดิฉันจบวิชาปั้นหุ่นแล้ว ใช้ได้แล้ว
----------------------------------------------------------------

manunited68

เนื่อเรื่องแปลกใหม่ น่าติดตาม