ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_err

จอมไสยสาว ตอนที่ 9 (นัดกับพี่อาจอง)

เริ่มโดย err, พฤศจิกายน 05, 2010, 09:48:30 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

err

วันเสาร์พี่อาจองมารับดิฉันตั้งแต่เช้า
ใช้เวลาในการเดินประมาณชั่วโมงเศษ ๆ ก็ถึงบ้านลุงมอญ

ครั้งแรกที่ดิฉันเห็นหน้าลุงมอญ ภายในจิตใจเกิดความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนรู้จัก สนิทสนม คุ้นเคย แต่ก็บอกไม่ได้ว่าทำไม
มันเป็นเดจาวูกับสถานที่หรือบุคคลที่เราไปเห็นไปพบครั้งแรก
เช่นเหมือนเคยมา เคยเจอ เคยเห็นของแบบนี้มาก่อนแล้ว
อย่าถามว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน หาคำตอบไม่ได้

ยิ่งน้ำเสียงดิฉันยิ่งรู้สึกคุ้นเคย
ลุงมอญเองก็คงเกิดความรู้สึกคล้าย ๆ ดิฉัน
เพียงแต่ไม่ได้เอ่ยออกจากปากเท่านั้น

ลุงมอญพาดิฉันกับพี่อาจองเดินไปหลังบ้านที่มีเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ อีกหลัง
เราทั้งสองเดินตามขึ้นไปยังชานบ้านแบบเรือนไทย
ลุงมอญจัดการไขกุญแจประตูแล้วค่อย ๆ เปิดประตูออก
ดิฉันสัมผัสกับพลังอะไรบางอย่างขึ้นกลางจิต

ลุงมอญผายมือเชิญให้เราเดินเข้าไปภายใน
บนโต๊ะวางแผ่นไม้คลุมผ้าขาวมีขนาดใหญ่
ดิฉันเกิดความดีใจเหมือน ๆ ได้พบกับของรักของหวงที่หายไปนานแสนนาน
"ทรงกระดาน...."
คำนี้ผุดขึ้นกลางใจดิฉัน ทำให้ดิฉันรีบเดินเข้าไปใกล้ ๆ ทันที
ผ้าคลุมแผ่นไม้เอาไว้น่าจะมีขนาดกว้าง 90 ซม. ยาวเมตรเศษ หนาซัก 5 นิ้วเห็นจะได้
ดิฉันค่อย ๆ เปิดผ้าออกด้วยความเต็มตื้น ในใจร่ำร้องว่า
"ทรงกระดาน ทรงกระดาน......"

พี่อาจองช่วยดึงผ้าที่คลุมออกมาพับ
บนแผ่นไม้สลักเป็นตารางสี่เหลี่ยม กลางช่องสี่เหลี่ยมมีตัวอักษรขอมสลักไว้ช่องละตัว
มีทั้งอักษรและสระครบถ้วนสมบูรณ์ทั้ง 41 ตัว เป็นสระ 8 ตัว พยัญชนะ 33 ตัว
แล้วก็ช่องสุดท้ายเป็นวงกลมเล็ก ๆ บุ่มลงไปอยู่หนึ่งวง
ดิฉันยื่นมือที่สั่นเทาไปลูบไล้ พร้อมกับแววตาเหมือนจะคลอไปด้วยหยาดน้ำตา

"พบแล้ว...ทรงกระดาน"
ดิฉันร่ำร้องในใจ
สภาพภายในห้องเหมือนมีแต่ดิฉันกับกระดานแผ่นใหญ่เท่านั้น
ลุงมอญกับพี่อาจองเหมือนไม่รู้หายไปไหน

ดิฉันยื่นมืออันสั่นเทาไปกดตรงตำแหน่งที่สลักเป็นวงกลมแล้วกดลงไปแรง ๆ
ปรากฎว่ามีเสียงดังกริ๊ก แล้วแผ่นไม้สี่เหลี่ยมดีดตัวเปิดขึ้นทันที
ในช่องมีลูกแก้วใสขนาดเท่าเหรียญสิบอยู่หนึ่งลูก

ดิฉันหยิบลูกแก้วขึ้นมามอง เนื้อลูกแก้วใสเหลือเกิน
ใจดิฉันยิ่งเต็มตื้นขึ้นเรื่อย ๆ จนหยาดน้ำตาหยดลงบนลูกแก้ว
ดิฉันยกลูกแก้วขึ้นส่องกับแสงก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความใสกระจ่าง
แล้วเหมือนจะมีภาพราง ๆ ปรากฎขึ้นในห้วงมโนคำนึง

ดิฉันกดแผ่นไม้ที่เปิดเข้าที่เดิม
วางลูกแก้วลงตรงกลางวงกลมที่บุ่มลง
ครู่เดียวลูกแก้วกลับหมุนติ๋ว ๆ วิ่งไปที่ตัวอักษรตัวแรกแล้วหยุดนิดหนึ่ง วิ่งต่อไปที่สระตัวแล้วตัวเล่า
ดิฉันค่อย ๆ สะกดตามในใจจนได้ใจความว่า

"มนตรา นาคา" กับ "ปะวรรค นาคา"

ดิฉันสะดุ้งสุดตัว เหมือนตื่นจากฝันอันรางเลือน
พี่อาจองจับแขนดิฉันเขย่า ๆ
"วิสาระ ๆ"
"ขา..."
ดิฉันขานรับ

"หนู..หนูรู้ได้ยังไง...เค้า..เค้า...เป็น..ของ...หนู..ใช่ไหม..."
ลุงมอญมองดิฉันแล้วพูดตะกุกตะกัก
ดิฉันก็ไม่รู้จะตอบลุงมอญได้ไง เพียงแต่พยักหน้ารับ
ความรู้สึกมันบอกแบบนั้นจริง ๆ
เค้าเป็นของดิฉัน...ที่หายไปนานนักหนาแล้ว

"กระดานอะไรเหรอหนู...."
ดิฉันเงยหน้าขึ้นมองลุงมอญแล้วตอบว่า
"แผ่นทรงกระดาน..."
แววตาลุงมอญแสดงความงงงวย
"แผ่นทรงกระดาน.....!!!!!!!!!!"
พี่อาจองถามขึ้นอีกคน

"คือ..กระดานสำหรับ... เหมือนเล่นผีถ้วยแก้วนะ..."
"ผีถ้วยแก้วเหรอ..."
ดิฉันพยักหน้า
"แล้วตะกี้หนูทำอะไร..."
"ก็ไม่รู้เหมือนกัน...มันเป็นความรู้สึกความคุ้นเคยว่าทำยังไงนั่นแหละ...เลยทดลองดู"
"เหรอ..หนู..ตัวหนังสือขอมใช่หรือปล่าว"
ลุงมอญชี้มือไปที่กระดาน
ดิฉันพยักหน้า

"แล้วเมื่อกี้..เค้าตอบว่าอะไร..."
ความรู้สึกที่ผุดขึ้นมากลางใจดิฉันห้ามไม่ให้ดิฉันบอก
"หนู..คิดว่า..เป็นคำทักทายนะลุง"
ลุงมอญพยักหน้าแล้วก้มลงมองแผ่นกระดานอย่างพิศวง

"เค้ามาเข้าฝันให้ลุงตามหาเจ้าของเค้า...เมื่อคืนก็มาอีกเค้าดีใจมาก เค้าบอกลุงว่าเจ้าของจะมารับเค้าแล้ว"
ดิฉันได้ฟังที่ลุงมอญเล่าก็ตัวชาไปเหมือนกัน
กระดานแผ่นนี้เป็นของดิฉัน..เป็นของรักของหวงของดิฉัน

"ลุงจะเอาใส่รถปิคอัพไปส่งให้ที่บ้านหนูนะ..."
ดิฉันยกมือไหว้กล่าวขอบคุณ
"ลุงจะได้หมดหน้าที่เสียที...มีคนเค้าจะมาขอซื้อมั่ง มาอ้างว่าเป็นเจ้าของมั่ง แต่ไม่เคยสำเร็จ"
"มีคนต้องการเหรอ..."
ลุงมอญพยักหน้า
"พอเวลายกเอาไปใส่รถ จะใช้คนสักกี่คนแผ่นกระดานก็ไม่ขยับเขยื้อน จนต้องเลิกรากันไปเอง"
"เหรอ...ลูง..."
ลุงมอญพยักหน้า

"บ้านหลังนี้ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอกหนู มักจะมีคนเค้าเห็นงูตัวใหญ่สีเขียวปีกแมลงทับมาพันอยู่ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง บ่อย ๆ"
ดิฉันนึกถึงคำว่า "มนตรา นาคา" กับ "ปะวรรค นาคา"
คำว่านาคา ก็คือ นาค หรือพญานาคนั่นเอง

มนตรา...ในนิมิตที่แสดงให้ดิฉันเห็นตอนส่งตัวเข้าหอ
บุคคลผู้นั้น..บุคลลที่ดิฉันไม่เห็นหน้า..เค้าเรียกดิฉันว่า "มนตรา"

แต่จะเกี่ยวพันกับปะวรรคนาคา หรืออะไรอย่างไรก็เกินที่จะตอบได้
ลุงมอญสบตาดิฉันนิ่งและนาน
"ลุงเหมือนจะเคยรู้จักหนูนะ..."
"หนูก็เหมือนกัน..เห็นลุงครั้งแรกก็รู้คุ้นอย่างประหลาด"

ในแว๊บหนึ่งที่ดิฉันหันไปมองพี่อาจอง
ลึกลงไปแววตานั้นเหมือนจะซ่อนอะไร ๆ ที่เป็นสีเขียวปีกแมลงทับ
จนดิฉันต้องหลับตาแล้วลืมตาใหม่เพื่อขับไล่แสงสีเขียวแวววาวในดวงตาพี่อาจอง

"เอ่อ..หนูลุงได้มาพร้อมกับกระดานแผ่นนี้อีกอย่างหนึ่งเดี่ยวไปเอามาให้ดู"
ลุงมอญเดินไปที่ตู้ตรงมุมห้องแล้วไขกุญแจเปิดและหยิบของชิ้นหนึ่งออกมา
ไม่รู้เป็นอะไร..หัวใจดิฉันสั่นริก ๆ อย่างไม่อาจที่จะข่มกลั้นเอาไว้ได้

"นี่ไงหนู..ปิ่นปักผม"
ดิฉันตัวชา ขนลุกชันไปทั่วตัว...
ปิ่นชักผมอันนี้...ก็คือปิ่นที่ปักผมที่ดิฉันเสียบตอนส่งตัวเจ้าหอ
ลุงมอญจ้องหน้าดิฉันนิ่งแล้วพูดว่า
"ลุงให้ปิ่นนี้กับหนูเหมือนกัน จะได้รักษาเอาไว้ด้วยกัน"

ดิฉันยื่นมือสั่น ๆ ไปรับปิ่นแล้วกำแน่นจนเจ็บมือ
"ลุง...ลุง...เจอยังไงนี่..."
"ขุดได้ในหลุมหลังบ้านวางอยู่บนแผ่นไม้กระดานนี่แหละ..."
แม้จะรู้สึกเจ็บมือแต่ก็ยังกำเอาไว้แน่น...กลัว..กลัวว่าจะหล่นหายไปอีก

"เราไปเรือนใหญ่กันเถอะ..."
ลุงมอญบอก
"ลุงไปกับพี่อาจองก่อนเถอะคะ..หนูอยากยืนดูกระดานแผ่นนี้อีกหน่อย..."
ลุงมอญหันมาพยักเพยิดกับพี่อาจองแล้วก็เดินลงเรือนไป

ดิฉันเอาปิ่นปักผมใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วหันมาวางมือลงบนกระดาน
ลูกแก้วที่อยู่ในช่องตัวหนังสือตัวสุดท้ายกลิ้งลิ่วมาที่มือดิฉันทันที
ดิฉันหยิบลูกแล้วเอามาวางตรงตำแหน่งวงกลมที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่
"ปะวรรค นาคา" เป็นใครกันนะ ดิฉันนึกถามในใจ

ลูกแก้ววิ่งปรู๊ดปร๊าดไปตามตัวอักษรและสระตัวแล้วตัวเล่า
ดิฉันอ่านไปเรื่อยจนถึงตัวสุดท้ายแล้วลูกแก้วก็หยุดนิ่ง
"ปะวรรค นาคา" คือ เจ้าชายของนาคตระกูลสีเขียวองค์หนึ่ง

ดิฉันหยิบลูกแก้วมาวางที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
"มนตรา นาคา" ละ..คืออะไร
ลูกแก้ววิ่งบนกระดานให้คำตอบแก่ดิฉันว่า
"มนตรา นาคา" คือ เจ้าหญิงนาคอีกตระกูลหนึ่งที่มาเข้าพิธีสยุมพรกับ "ปะวรรค นาคา"

ดิฉันถึงกับสดุ้งเข้าพิธีสยุมพร

"มนตรา นาคา" คือ ใคร
กระดานตอบมาว่า
"มนตรา นาคา" คือ วิสาระ

"ปะวรรค นาคา" คือ ใคร
ลูกแก้วกลับหยุดนิ่งอยู่กับจุดเริ่มต้นไม่ไหวติง
ทำไมต้องเป็นความลับที่ไม่อาจรู้ เห็นแต่ด้านหลัง
เมื่อ "มนตรา นาคา" คือ ตัวดิฉันเอง งั้น "ปะวรรค นาคา" คือใครกันแน่หนอ...
ความลับ..ของสวรรค์หรือไงกัน

ดิฉันหยิบลูกแก้วขึ้นแล้วกดตรงกลางวงกลมเปิดกลไก
หย่อนลูกแก้วลงเก็บไว้ในช่องลับตามเดิม

...............

ดิฉันกับพี่อาจองนั่งคุยกับลุงมอญอยู่นานเกือบสองชั่วโมง
ยิ่งคุยดิฉันก็ยิ่งสนิทสนมรักใคร่ลูกมอญ
สีหน้า แววตา น้ำเสียง กริยาอาการช่างคุ้ยเคยเหลือเกิน

พอดีพี่อาจองมีธุระช่วงบ่ายจึงต้องขอตัวกลับก่อน
โดยดิฉันเขียนแผนที่บ้านไว้ให้ลุงมอญที่จะเอาแผ่นทรงกระดานไปให้ที่บ้านดิฉัน
ดิฉันกล่าวขอบคุณและยกมือไหวลากลับ

ปริศนาอันหนึ่งถูกเปิดเผยแล้วว่า
ที่ดิฉันเห็นนั่นคืองานแต่งงานของตัวดิฉันเอง
แต่อย่างอื่นก็ยังมืดมนอลกาลอยู่ดี

...............

ขณะที่พี่อาจองขับรถมาเรื่อย ๆ
เค้าสอบถามดิฉันหลาย ๆ อย่าง
เริ่มด้วยการเรียน แปลกนะทำไมถามอยู่เรื่อยเรื่องเรียนนี่
หรืออาจเป็นวิธีการจีบผู้หญิงอย่างหนึ่งของเค้า

คุยสะเปะสะปะจนเกือบจะค่อนทางในที่สุดพี่อาจองก็ตัดสินยิงตรง ๆ ทันที
"วิสาระ...มีแฟนหรือยัง..."
ดิฉันหันไปมอง...เอ่อ..มุมด้านข้างนี่ก็ดูหล่อดีเหมือนกันนะ

"เกือบ..มี..."
ดิฉันแกล้งตอบกวน ๆ ไปงั้นแหละ...
"หมายความว่าไงเกือบมีนะ..."
"ก็..ก็..มีคนมาชอบเยอะ..แต่ไม่เลือกใครเป็นแฟน...มีแต่เพื่อน..."

พี่อาจองเงียบไปครู่ใหญ่ แล้วแกล้งเป็นหันมองซ้ายมองขวา
ดิฉันจึงถามรุกเข้าไปว่า
"แล้วพี่อาจองละ..เนื้อหอมในหมู่สาว ๆ นี่คะ.."
"ไม่หรอก..วิสาระ...มันไม่ใช่สักคน..."
"พี่อาจองเจอคนที่ใช่แล้วเหรอ..."
พี่อาจหันมามองดิฉันแล้วตอบว่า

"อื้อ...แต่ไม่รู้พี่ใช่สำหรับเค้าหรือเปล่า..."
"อ้าว..พี่รู้สึกยังไงกับเค้าละ..."
"ไม่รู้ทำไมหลังนี่..พี่คิดถึงเค้าเหลือเกิน..ว่างไม่ได้เลย..อยากเห็นหน้าเค้าตลอด"

"ใครเหรอ..โชคดีจัง..."
"เฮ่อ..."
พี่อาจองถอนหายใจยาวเหมือนแบกของหนักจนรู้สึกสงสาร
วิชาแก่นรักของพ่อนี่จูงใจพี่อาจองถึงขนาดนี้เชียวเหรอ
ใจก็ไม่อยากจะหลอกลวงใจเค้าหรอก

ดิฉันว่าคืนนี้เห็นทีจะต้องถอนแก่นรักจากอกพี่อาจองแล้วละ
แม้จะนึกชอบ ๆ เค้ามากกว่าคนอื่นก็ตาม
แต่ถ้าไม่ได้ใจเค้าจริง ๆ ก็ช่างมันเถอะนะวิสาระ
----------------------------------------------------------------

ด้วยความขอบคุณ
kankan

manunited68