ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

โจ หมัดสั่ง ตอนที่ 2 (อัตชีวประวัติ)

เริ่มโดย footswitch, มีนาคม 06, 2019, 03:35:37 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

footswitch

ผมนั่งรถทัวร์มาลงสุราษฎร์เพื่อเจอกับ พี่ถาวร สามีของน้าต้อยที่รับราชการอยู่ที่นั่น นอนค้างบ้านแกคืนนึงแล้วพี่ถาวรพาก็นั่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตมากรุงเทพ จากดอนเมืองขึ้นลงรถเมล์อีกสองต่อด้วยเหตุผลที่ว่าพี่ถาวรแกอยากให้ผมลองนั่งรถเมล์กรุงเทพดู วันแรกที่ได้เหยียบย่างเข้ามาในเมืองหลวงเลยเมาควันไอเสียเล่นเอาแทบอ้วกกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางบ้านย่านฝั่งธน

มอร์เตอไซค์รับจ้างสองคันค่อยๆลดความเร็วจนจอดสนิทหน้าบ้านพันตรีขุนเกียรติ อภิบาลเขต ผมอ่านแผ่นป้ายพลาสติกพื้นสีน้ำเงินตัวอักษรสีขาวแล้วนึกไปว่าคงจะใช้ขู่ขโมยขโจรแถวๆนี้ได้พอสมควร พี่ถาวรล้วงหากุญแจจากกระเป๋าสัมภาระไขประตูรั้วบ้าน ผมกระชับเป้หลังแล้วเดินลอดซุ้มประตูดอกเล็บมือนางออกดอกสีชมพูสลับขาวสะพรั่งเต็มต้น

เดินตามพี่ถาวรไปบนทางปูนขนาบด้วยสนามหญ้า บ้านของพี่ต่ายเป็นบ้านสองชั้นไม้ผสมปูนมีเนื้อที่บริเวณกว้างขวาง สนามหญ้าเล็มปลายเรียบร้อยกอดอกไม้นานาพันธุ์จัดวางตำแหน่งอย่างเป็นระเบียบ ล้อมโอบครึ้มด้วยต้นก้ามปูใหญ่ ต้นสะตอ ชมพู่สาแหรก และไม้ยืนต้นอีกหลายชนิดที่ล้วนผ่านเวลานับสิบปีกว่าจะแผ่กิ่งก้านกว้างขวางสูงใหญ่ขนาดนี้

สังเกตุจากลักษณะทางสถาปัตยกรรมแล้วบ้านนี้น่าจะก่อสร้างขึ้นในยุคสมัยเดียวกันกับบ้านของแม่ใหญ่ที่ภูเก็ตหรือไม่ก็อาจเก่ากว่า หลังคาทรงปั้นหยามุงกระเบื้องสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดสีดำคล้ำบ่งบอกถึงระยะเวลายาวนานที่มันทำหน้าที่คุ้มแดดคุมฝน เชิงชายเจาะลายนกกินปลีสะท้อนสุนทรียภาพของนายช่างผู้ออกแบบที่กำลังนำเสนอศิลปะโพลินีเซียนในถิ่นเมืองกรุงแม้เพียงจุดเล็กน้อย นึกเลยไปถึงฉากหลังเวทีคาเฟ่ที่แม่ร้องเพลง ต้นไม้ น้ำตก หรือแม้แต่นกเกาะกิ่งไม้ล้วนถูกวาดแค่หยาบๆบนแผ่นไม้อัดแบบขอไปที สถานที่อโคจรแบบนั้นคงไม่มีใครสนใจความสวยงามสมจริงของฉากหลังอยู่แล้ว เพราะสายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่น้องนวลนางนุ่งน้อยห่มน้อยที่กำลังถือไมค์ขับขานเจื้อแจ้วสว่างอยู่กลางไฟหน้าเวที

          "เฮ้ย!! ไม่มีใครอยู่บ้านเลยเว้ยยย.." พี่ถาวรไขกุญแจประตูบ้าน ภายในปิดหน้าต่างทุกบานจนมืดสลัว "บ่ายกว่าแล้วจะนอนกินบ้านกินเมืองเลยรึไง"
         
          "ป๊าาา!!" เสียงเรียกดังมาจากหลังบ้านก่อนเห็นตัว "ป๊าาา!!.."

เสียงลงส้นเท้าดังตึงตังบนพื้นไม้จากทางหลังบ้าน พี่นัดก้าวยาวเกือบจะกระโดดกอดพี่ถาวรอย่างคนที่ไม่ได้เจอกันนาน ดีใจจนลืมมองว่ามีคนแปลกหน้าที่กำลังยืนอึ้งตะลึงงันหายจากอาการคลื่นเหียนมวนท้องเป็นปลิดทิ้ง

ผมเผลอผงะกับสะโพกกลมกลึงสองแก้มก้นเบียดแน่นในกางเกงกีฬาขาสั้นจุ๊ดแบบที่สาวสก๊อยแถวบ้านชอบใส่ ขากางเกงที่ทั้งสั้นทั้งบานเกือบจะถึงง่ามก้น เสื้อยืดแฟชั่นคอย้วยเนื้อผ้าบางเบาเผยเนินอกเนียนขาวออร่าตัดฉับด้วยยกทรงลายลูกไม้สีดำสนิท

          "มัวทำอะไรอยู่ ฮึ!! แล้วนี่ทำไมถึงได้แต่งตัวทุเรศทุรังแบบนี้"
          "ก็แค่อยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนจะให้แต่งอะไรนักหนาล่ะป๊า" พี่นัดตอบโต้ "นัดสอนพิเศษนักเรียนอยู่ที่สวนหลังบ้านนี่เอง"
          "สอนพิเศษบ้าอะไรของแก แต่งตัวอย่างกับผู้หญิงหากิน"
          "เฮ้อ.. แหม่ สมัยนี้ครับเค้าก็แต่งกันแบบนี้ทั้งบ้านทั้งเมือง ก็มันร้อนซะขนาดนี้อ่ะ ป๊าซื้อแอร์ให้นัดทีสิจะได้เปิดให้หนาวทั้งบ้านใส่เสื้อทับกันสามชั้นรูดซิปปิดให้ถึงคอหอยเลย" พี่นัดถอนหายใจทำหน้าเบื่อพ่อ

          "ว่าไงจ้ะ.. โจ นั่งเครื่องบินสนุกมั้ย" หลานสาวนักศึกษาปีสามหันมาทักทายน้องชายแม่
          "สวัสดีครับพี่นัด" ผมยกมือไหว้สวัสดี พลางแอบมองลอดใต้แขนเสื้อดูยกทรงของพี่นัดไปด้วย
         
          "เรียกน้าโจสิ ตามศักดิ์นี่น้องชายแม่แกนะ" พี่ถาวรเตือนลูกสาว
          "สวัสดีค่ะน้าโจ" พี่นัดมองค้อนพ่อ "..งั้นนัดไปสอนเด็กต่อนะป๊าอีกสองคิวก็เสร็จแล้ว" พี่นัดทำท่าจะเดินกลับไปทางหลังบ้าน

          "แล้วนี่คนอื่นๆไปไหนกันหมดล่ะ วันเสาร์แท้ๆเป็นสาวเป็นแส้เอาแต่เที่ยวไม่รู้จักอยู่บ้านอยู่ช่องกันฮึ!!" พี่ถาวรถามลูกสาวคนเล็ก
         
          "ไปสถานีตำรวจกันตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วยังไม่กลับมากันเลย" พี่นัดตอบ
          "อ้าว ไปทำไม ใครเป็นอะไรล่ะ!!"
         
          "ลูกชายร้านโจ๊กที่เช่าตึกเราอยู่เพิ่งโดนจับไปเมื่อคืน มันขโมยชุดชั้นในเค้าทั่วไปหมดบ้านไหนมีผู้หญิงมันก็ปีนรั้วเข้าไปขโมย ตอนเช้าตำรวจเค้าโทรมาบอกน้าต่ายให้ไปดูของกลาง"
          "แล้วทำไมแกไม่ไปดูกับเค้าอ่ะ อยู่บ้านคนเดียวทำไมเนี่ย" พี่ถาวรถาม
          "นัดไปได้ที่ไหนล่ะป๊า วันเสาร์มีสอนพิเศษเด็กเกือบทั้งวัน"

ไม่เจอกันก็คิดถึง แต่แค่อยู่ใกล้กันไม่ถึงสิบนาทีพ่อลูกคู่นี้ก็ทำท่าเหนื่อยหน่ายกันซะแล้ว ผมเดินดูโน่นนี่ภายในห้องรับแขกสะดุดตาที่รูปขาวดำของผู้ชายสามรูปที่แขวนเรียงกันบนผนัง รูปพันตรีขุนเกียรติ อภิบาลเขต คงจะเป็นรูปต้นฉบับฟิล์มเดียวกันกับที่ผนังบ้านแม่ใหญ่

          "นั่นรูปคุณพ่อ รูปพี่นทีแฟนพี่ต่ายเสียไปตั้งแต่ยัยจิ๊กยังเด็กๆ ส่วนรูปผู้ชายหนุ่มๆนั่น พี่ตุ๋ย พี่ชายคนโตของพี่ต่ายเค้า ..หล่อเนอะ สมัยก่อนนั้นถือว่าเฟี้ยวเลยล่ะ" พี่ถาวรเดินไปหยิบไม้ขนไก่ปัดขี้ฝุ่นหยากไย่ใยแมงมุมที่รูป
         
          "แล้วป๊าจะค้างกรุงเทพกี่คืนอ่ะนัดจะได้ปูที่นอนให้"
          "ไม่ต้องปู" พี่ถาวรส่ายหน้า "มาส่งไอ้เจ้าโจมันเฉยๆ เดี๋ยวก็ไปแล้ว"
          "จะไปบ้านโน้นอีกล่ะสิ" พี่นัดเบะปาก น้ำเสียงประชด
          "ไม่ใช่ธุระของเด็ก แกอย่ายุ่งดีกว่า"
          "เดี๋ยวนัดจะฟ้องแม่"
          "นัด.. ป๊ากับแม่แกแยกกันอยู่เป็นปีๆแล้วนะ ตัวแกเองก็ร่ำเรียนถึงมหาลัยควรจะหัดมองโลกแบบผู้ใหญ่ได้แล้ว" ผู้เป็นพ่อถอนหายใจ

          "เฮ้ย โจ!! กลัวผีรึเปล่าวะ" พี่ถาวรเปลี่ยนเรื่อง หันมายิ้มถามผม
         
          "ห่ะ.. อะไรนะครับ"
          "พี่ถามว่าเอ็งกลัวผีรึเปล่า"
          "เอ่อ.. เปล่าครับ"
          "เคยเจอมั้ย ผีน่ะ" พี่ถาวรถามย้ำ
          "ยังไม่เคยเจอครับ"

          "เออ ถ้าไม่เคยเจอก็แสดงว่าไม่มี ถ้าผีมันมีจริงก็ต้องเห็นตัวหรือพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ได้ไปแล้ว จริงมั้ย ไม่ใช่มาลับๆล่อๆ"
          "ครับ"
          "ยิ่งพูดแบบนั้นน้าโจจะยิ่งกลัวมั้ยล่ะป๊า" พี่นัดอมยิ้ม
          "ลูกผู้ชายกลัวทำไมวะผี พี่มาบ้านนี้ทีไรก็นอนห้องนั้นตลอดไม่เห็นเคยเจออะไร"
          "เอ่อ.. คิดมากอะไรยังไงครับ" ผมชักหวาดๆผสมความสงสัย
          "55 เอาเถอะ.. " พี่ถาวรลูบหัวผมเบาๆ เขาคงอยากมีลูกชายสักคน

          "เออ ป๊าไปก่อน.. ตั้งใจเรียนนะลูก" พี่ถาวรดึงพี่นัดเข้ามากอด จูบลูกสาวสุดที่รักที่หน้าผาก "เรื่องป๊ากับแม่น่ะอย่าไปสนใจเลย ยังไงเราทั้งคู่ก็ยังรักลูกไม่เปลี่ยนแปลง
          "ไม่นอนค้างก็กินข้าวเย็นซักหน่อยก็ยังดี เดี๋ยวพี่นิ้งกับน้าต่ายก็กลับมาแล้วป๊า" พี่นัดพยายมยื้อต่อ
          "ยัยนิ้งน่ะเหรอ นิ้งมันคงไม่อยากเจอป๊าหรอก.." พี่ถาวรสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด

          "เมื่อกี๊ป๊าโทรไปบอกน้าสินเค้าแล้วว่าจะเข้าไปหา ไปล่ะเดี๋ยวเค้าจะรอนาน ยังไงฝากดูแลโจด้วยนะลูก" พี่ถาวรดึงลูกสาวเข้ามากอดอีกครั้ง วัฒนธรรมแห่งความมากผัวมากเมียยังคงสร้างปัญหาส่งผลต่อสมาชิกในครอบครัวไม่หยุดหย่อน เคราะห์กรรมคำสาปนี้คงจะไม่มีวันหลุดพ้นไปจากสังคมมนุษย์ไปได้

....................

บรรยากาศในสถานีตำรวจใกล้บ้านเนืองแน่นไปด้วยบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่หลายสิบชีวิตที่กำลังรอลงลายมือชื่อแสดงตัวเป็นเจ้าทุกข์ ถ้านับคนที่เซ็นต์ชื่อแล้วกลับไปแล้วด้วยแล้วงานนี้คงมีเจ้าทุกข์ร่วมร้อยคน ลูกชายร้านโจ๊กเอาแต่นั่งก้มหน้าไม่สบตาใครอยู่ที่มุมห้องขัง ชุดชั้นในในถุงขยะสีดำหลายใบถูกนำมาเทกองรวมกันบนพื้นเพื่อให้ผู้เสียหายและผู้ที่สงสัยว่าเคยถูกขโมยลองมาดูว่ามีทรัพย์สินของตัวเองอยู่บ้างหรือไม่

          "มีมั้ยครับ.." นายตำรวจหนุ่มเงยหน้าถาม
          "มีค่ะ" พี่ต่ายตอบ
          "ถ้างั้นก็เซ็นต์ชื่อเป็นเจ้าทุกข์ แล้วเดี๋ยวยังไงทางตำรวจจะโทรไปเรียกมาสอบปากคำ จะแยกเรียกเจ้าทุกข์มาเป็นรายๆไปนะครับ"
          "เมื่อกี๊ก็สอบไปแล้วนี่ค่ะ" พี่จอยถาม ดูเหมือนผู้หมวดจะชอบสบตากับเธอเป็นพิเศษเวลาเขาพูด
          "ต้องเชิญทุกคนมาสอบอย่างละเอียดอีกทีเพื่อทำสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาครับ เมื่อกี๊แค่สอบลงบันทึกประจำวันเฉยๆ" นายตำรวจหนุ่มอธิบาย
          "แล้วถ้าพวกเราไม่ฟ้องล่ะคะ" พี่ต่ายถาม
          "คดีนี้เจ้าทุกข์ร่วมร้อยคนครับ ถึงพวกคุณจะไม่เอาผิดก็คงไม่มีผลอะไรกับผู้ต้องหามากนัก"
         
          "อืม.. งั้นไม่เสียเวลาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเด็กๆก็ใกล้จะสอบกันแล้วด้วย"
          "งั้นก็ตามสะดวกนะครับ จะแค่ลงบันทึกไว้ก็ได้" ผู้หมวดยิ้มสบตากับจอย เบางานทำสำนวนไปอีกห้าเจ้าทุกข์

          "เฮ้ย!! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย จ่า!! หมวด!!" เสียงโวยวายลอดเข้ามาในห้องร้อยเวรจนนายตำรวจหนุ่มต้องลุกออกไปดู

          "เดี๋ยวอีกไม่ถึงชั่วโมงท่านผู้กำกับก็จะมาถึงแล้ว นี่มันห่าอะไรกันวะเนี่ยเต็มพื้นไปหมดเลย!!" นายตำรวจยศใหญ่ที่เพิ่งมาถึงก่นด่าเสียงดัง
         
          "ของกลางครับ" จ่าขยับเข้าไปกระซิบ
          "แล้วผู้ต้องหาล่ะ"
          "คุมขังแล้วครับ"
          "แล้วของกลางนี่ถ่ายรูปหมดรึยัง!!"
          "ถ่ายรูปจัดทำหมายเลขหมดแล้วครับ"
          "งั้นก็รีบเก็บซะสิ!!"
          "เอาไปเก็บในห้องเก็บของกลางเหรอครับ" จ่าคนเดิมมองกองชุดชั้นในสูงเท่าเอว

          "จะบ้าเหรอ!! จะเอาไปทิ้งที่ไหนก็เอาไป!! คุณเอายกทรงเกงในมาเทบนสน.แบบนี้ก็บรรลัยสิ!! พระเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์ผมโดดหนีหมด ห่า..แม่ง ควายเอ๊ย!!"

          "เก็บให้หมดเลยนะ หรือจะเอาไปครอบหัวก็เอาไป!! แต่อย่าให้ผมเห็นมันยังอยู่ที่นี่อีก เข้าใจมั้ย!! กาลกิณีชิ้บหาย"
          "ครับผม!" นายตำรวจชั้นผู้น้อยทำความเคารพพลางตอบรับพร้อมกัน

จิ๊กซอว์มองดูเหตุการณ์รอจนนายตำรวจหัวร้อนเดินเข้าห้อง ทุกคนแยกย้ายกันไปเหลือเพียงจ่าคนเดิมยืนเกาหัวไม่รู้จะเอาอย่างไรดี

          "น้าคะ น้า.." จิ๊กซอว์ขยับไปยืนข้างๆจ่า
          "ครับ คุณหนูมีอะไรครับ"
          "ชุดชั้นในพวกนี้ไม่เอาแล้วใช่มั้ยคะ"
          "ถึงจะเป็นของกลาง แต่เยอะขนาดนี้คงจะนำขึ้นแสดงต่อศาลไม่ได้ ถ่ายภาพเอาไว้แล้วทั้งหมดแล้วครับ"
          "ไม่เอาแล้วใช่มั้ยคะ พอดีที่โรงเรียนเค้ากำลังมีรับบริจาคของส่งไปซับน้ำตาพี่น้องชาวใต้น่ะค่ะ หนูเลยว่าจะขอไปบริจาค"
          "งั้นดีเลยครับ นี่ก็ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหนอยู่เหมือนกัน ถุงดำกองอยู่หน้าห้องขังเดี๋ยวผมไปหยิบมาให้"
          "เดี๋ยวหนูไปหยิบเองก็ได้ค่ะ"

จิ๊กซอว์หมายตากองถุงดำที่กองแอบหลบมุมอยู่ใกล้ห้องขัง เหลือบไปมองลูกชายร้านโจ๊กที่นั่งกอดเขาคอตกอยู่ท่าเดิม จริงๆเธอรู้จักเขาดีด้วยซ้ำเพราะไปนั่งกินโจ๊กเป็นลูกค้าประจำกันอยู่ สงสัยว่าเขาจะขโมยชุดชั้นในผู้หญิงไปมากมายแบบนี้ทำไม เมื่อกี้ที่ค้นๆดูบางชิ้นก็เก่าเน่าขาดวิ่นเสียจนไม่น่าจะมีราคาค่างวด ของแบบนี้จะไปขายต่อใครได้ ที่ผ่านมาก็จ่ายค่าเช่าตึกตรงทุกเดือนไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการเงิน

          "จิ๊ก..!!" สาวน้อยตกใจจนสะดุ้งตัวโยน ลูกชายร้านโจ๊กกำลังเรียกเธอ

          "จิ๊ก จิ๊กใช่มั้ย"
          "พี่เอ.." จิ๊กซอว์ทำใจดีสู้เสือเดินเข้าไปใกล้ลูกกรงที่ทำหน้าที่กักขังเขาอยู่

          "จิ๊กมาแจ้งความจับพี่ใช่มั้ย พี่ขอโทษ" เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น คุกเข่ากราบลงกับพื้น "พี่กราบขอโทษ จิ๊กอย่าถือโทษโกรธพี่เลยนะ"
          "อ๋อ.. เปล่าค่ะ น้าต่ายไม่ได้แจ้งความ บ้านจิ๊กไม่ได้เอาความอะไรพี่เอเลย" จิ๊กซอว์ออกตัว
          "ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก" เขากราบลงกับพื้นอีกครั้งจนจิ๊กซอว์รู้สึกเขิน "พี่สงสารแม่ ต้องมาเสียใจเสียชื่อเสียง พี่ไม่น่าทำเลย .. ไม่น่าเลย" พี่เอเอาแต่ส่ายหน้าพูดวนไปมา
         
          "งั้นหนูขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย พี่เอขโมยชุดชั้นในพวกนั้นไปทำไมตั้งเยอะแยะอ่ะ เอาไปขายมือสองเหรอ" เธอขมวดคิ้วสงสัย

(ขอซ่อนข้อความนิดนึงนะครับ)
         
          

....................

          "น้าโจ!! น้าโจ!!" พี่นัดเขย่าตัวผม ลืมตาขึ้นมาเจ้ายกทรงลูกไม้สีดำตัวนั้นก็เลือนลางอยู่ตรงหน้า "ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ"
          "อ๋อ.. ครับ" ผมขยับกระเป๋าเป้ที่ใช้หนุนต่างหมอน กะว่าจะนอนเล่นแต่หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

          "ขึ้นไปนอนบนห้องพี่ก่อนก็ได้นะ สงสัยจะเหนื่อยละสิท่า"
          "ไม่เป็นไรครับ"
          "ไปเถอะ ห้องน้าโจตอนนี้ยังนอนไม่ได้หรอกต้องปัดกวาดก่อน นักเรียนคิวสุดท้ายเค้าลาพอดี เดี๋ยวสอนเสร็จแล้วพี่นัดจัดการให้"
          "ผมทำเองก็ได้ครับพี่นัด"
          "น้าโจขึ้นไปนอนที่ห้องพี่ก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกน้าต่ายกลับมาแล้วพี่นัดจะขึ้นไปปลุก" พี่นัดถือวิสาสะดึงแขนผมให้ยืนขึ้น "ไปเถอะ ขึ้นบันไดไปห้องประตูมุ้งลวดม่านสีฟ้านะ

ผมสะพายเป้หลังเดินขึ้นมาชั้นบนตามคำคะยั้นคะยอของหลานสาวสุดเอ็กซ์ ภาพร่องอกคู่ขาวตัดกับแลซบราสีดำยังติดตา กะว่าจะขอเข้าห้องน้ำแวะผ่อนคลายอารมณ์สักหน่อยแต่ก็พบว่าชั้นบนของบ้านมีเพียงสามห้อง และไม่มีห้องน้ำ

ประตูไม้ถูกเปิดอ้าไปจนสุดกั้นไว้ด้วยชั้นวางรองเท้าเล็กๆ แสดงว่าประตูมุ้งลวดม่านสีฟ้านี้ไม่ล็อคตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงมานาน ประตูที่เลยไปก็เปิดไว้ในทำนองเดียวกัน ผมวางเป้หลังลงที่หน้าห้องบ่ายหน้าเดินออกไปที่ระเบียงก่อน เปิดประตูออกไปสูดอากาศรู้สึกผ่อนคลายกับแนวต้นไม้ใหญ่รกครึ้ม นึกคิดถึงแม่ใหญ่เหมือนกันเพราะก่อนออกมาอาการท่านไม่สู้จะดี นึกถึงคำพูดของญาติบางคนบอกให้ผมอยู่รับใช้จนท่านหมดลมเสียก่อนค่อยมากรุงเทพ แต่กำหนดการเทอมการศึกษาใหม่ก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

เดินออกมาเท้าแขนที่รั้วระเบียงมองลงไปเห็นพี่นัดกำลังสอนพิเศษเด็กชายวัยรุ่นราวคราวเดียวกันกับผม มองจากมุมชั้นบนลงไปเห็นร่องอกขาวของพี่นัดแบบเต็มๆ ที่สำคัญคือเธอไม่รู้ว่าผมกำลังส่องอยู่นี่ถ้ามีกล้องส่องม้าเล็กๆสักอันก็คงจะดี ที่สำคัญคือเจ้าเด็กนักเรียนนั่นมันก็คงคิดแบบเดียวกัน สายตาของมันไม่ได้มองที่หนังสือ แต่จ้องไปที่ร่องอกนั่นทำหน้าเครียดอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ต่างกับพี่นัดที่ดูจะมีความสุขสนุกกับการสอนน่าดู เธอคงมีอุปนิสัยเป็นคนเปิดเผย

ผมเดินกลับมาที่ห้องเปิดประตูมุ้งลวดม่านสีฟ้า กลิ่นหอมจากอะไรสักอย่างลอยมาเตะจมูก ดูจากรูปที่ตั้งบนโต้ะห้องนี้พี่นัดกับพี่นิ้งคงจะแชร์ห้องด้วยกันสองคน อารมณ์ของผมในตอนนี้คุกรุ่นมากปวดเกร็งในท้องอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนต้องนั่งลงบนเตียงเพราะยืนไม่ไหว ผมกำลังต้องการการผ่อนคลาย ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่มีห้องน้ำก็จัดการมันในห้องของพี่นัดนี่ล่ะ

เป้าหมายแรกคือตู้เสื้อผ้าสองตู้ลองเปิดดูก็พบว่ามันไม่ได้ล็อค ตู้ที่มีชุดนักศึกษาน่าจะเป็นของพี่นัดผมเลยจัดการตู้นี้ก่อน กลิ่นหอมติดจมูกนั้นโชยมาจากลิ้นชักใส่ชุดชั้นในนี่เอง ผมสูดลมหายใจผ่านผิวเนื้อผ้ากางเกงในสีหวาน ตอนที่พี่นิ้งปลุกผมจากเก้าอี้ไม้เมื่อกี้ก็ได้กลิ่นแบบนี้เหมือนกัน มองไปเห็นกล่องกระดาษทิชชู่ก็เลยขยับไปเด็ดมาเตรียมพร้อม ตอนแรกก็หวั่นๆเรื่องที่ประตูล็อคไม่ได้แต่ถ้ามีใครเดินขึ้นบันไดมาผมน่าจะได้ยินก่อน

(ขอซ่อนข้อความนะครับ)

 

..........

ค่ำนั้นหลังจากมื้ออาหาร ผมเดินเล่นไปที่หน้าบ้านเพื่อคลายความว้าวุ่นในใจ มาถึงวันแรกไม่ทันไรก็เกือบจะก่อเรื่องใหญ่เสียแล้ว พี่แจงก็ดูเงียบไปไม่ร่าเริงจนพี่ต่ายถามว่าที่ไม่สบายจนต้องนอนซมอยู่บ้านวันนี้นั้นดีขึ้นบ้างหรือยัง

          "น้าโจ.. " เสียงผู้หญิงดังมาจากข้างหลัง
          "พี่แจง.." สาวน้อยผมยาวประบ่าอายุมากกว่าผมเพียงสองปียืนอยู่ในความมืด ลูกสาวคนเล็กของพี่ติ๋มผู้มีพระคุณช่วยสอนจนผมสามารถสอบเทียบวัดระดับมัธยมต้นได้

          "เมื่อกี๊ตอนเย็นน้าโจขึ้นไปนอนบนห้องพี่นัดเหรอ" พี่แจงถามเสียงเบา
          "ครับ.." ผมสัมผัสได้ถึงความอึดอัด พี่แจงคงไปถามอะไรจากพี่นัดมา

          "แล้วเห็นมั้ย" พี่แจงถามไปด้วยพลางไอค้อกแค้กไปด้วย
          "เห็นอะไรเหรอ ไม่เห็นครับ"
          "ไม่เห็นจริงเหรอ" เธอขมวดคิ้ว
          "โจหลับครับ ไม่เห็นอะไร"
          "แล้วที่เราเขย่าขาน้าโจอ่ะ รู้สึกมั้ย" พี่แจงกระแซะถาม
          "ไม่รู้ครับ หลับ"
         
          "ไม่เห็นจริงนะ"
          "ครับ"

สองเต้าเป็นกะเปาะชูชันแต่งแต้มปลายยอดด้วยลูกเกดสีชมพูระเรื่อยังติดหูติดตา นี่ถ้าพี่แจงเปิดผ้าห่มออกแล้วเจอผมเปลือยท่อนล่างกระเจี๊ยวแข็งอยู่อย่างนั้นคงจะดูไม่จืด

....................
         

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Just Chillin

#1
อ่านแล้วงงๆครับ ทำไมดูไม่ค่อยต่อกับตอนแรก




ขอฝากคำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry:: ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา ::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1ปี. .

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .
................................................................................................................

neung_cm

ชีวิตท่านช่างน่าอิจฉาอยู่ท่ามกลางหญิงมากมาย

ethanol


numvego


ชาญวุฒิ เนระภูสี

ชีวิตท่านน่าอิจฉามากอยู่กับญาติๆสวยๆตลอดเวลา

Sharif Luecha


bunchucherd


Debaker Singlek

บ้านนี้มีแต่สาวๆๆ แต่งตัวเปรี้ยวๆๆ อีกไม่นานนายโจคงได้กินของเปรี้ยวๆๆแน่ๆๆๆแต่จะได้กินของเปรี้ยวจากใครก่อนนะ

pizzahutcha


pd19811983

สาวๆเยอะนะครับ ทั้งนัด ทั้งต่าย
ทั้งจิ๊กซอ นายโจของเราอยู่ท่ามกลางดอกไม้จะอดใจไหวมั้ยนี่ ลุ้นนายโจต่อครับ

Nong5670

มีแต่ผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมดเลยระโจ

sucnil


noonut

สงสัยน้าโจ กวาดเรียบทั้งบ้านแน่ แต่บ้านนี้มีผีด้วยเหรอ

สุภาภรณ์

อ่านแล้วกำลังปะติดปะต่อเรื่องราวครับ เริ่มจะงงงง