ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 11

เริ่มโดย twintower, ตุลาคม 05, 2022, 12:26:24 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

จากผู้เขียน
อย่างที่เคยบอกไปว่า ความเป็นมาของอสนี และลินดา เป็นมายังไงให้ไปตามอ่านจะเรื่องที่ผมแต่งไว้ ทุกอย่างมันจะโยงถึงกันหมด มีที่มาไปที่เคยบอกไว้แล้ว แต่ผมยัง งงๆ อยู่กับความเห็นที่บอกว่าเนื้อหาของบท 18+นั้นไม่โยงกับเนื้อเรื่อง ก็สงสัยเหมือนกันนะครับว่าไม่โยงกันตรงไหน เพราะเป็นการดำเนินเรื่องของตัวเอกของเรื่อง หรือจะเป็นการแสดงความเห็นแบบขอไปที?

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
"โว๊ย นี่เราทำอะไรมันไม่ได้เลยหรือไง"

เสียงดังที่ปลายเตียงพร้อมกับเตียงที่ยวบลงทำเอาผมที่กำลังอ่านหนังสือทางการแพทย์นั้นสะดุ้งขึ้นมา

"เฮ้ยอะไรกันคุณ แล้วนี่เข้ามาในห้องนอนผมทำไม"

กิ่งกาญจน์ที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ปลายเตียงผมนั้นตอบมาโดยไม่สนใจคำถามของผม

"มันเซ็ง ไงคุณ นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่เราทำอะไรมันไม่ได้"

เธอตอบผม แต่มีอะไรบางอย่างที่สะกิดใจผม ผมจึงบอกเธอ

"ไหน คุณลองยืนขึ้นแล้วนั่งมาแบบเมื่อกี้อีกทีสิ"

"ทำไมละ"

"ลองนั่งอีกที"

ทั้งๆที่เธอสงสัย แต่ก็ทำตามที่ผมบอก กิ่งกาญจน์ลงมานั่งที่ปลายเตียงผม แต่คราวนี้ไม่เกิดอะไรขึ้น

"ไง ไม่เห็นมีอะไรเลย"

เธอบอกผมด้วยสีหน้าที่ปกติ

"มีสิ  เมื่อกี้ตอนที่คุณนั่งครั้งแรกนะ เตียงมันยวบเลย แสดงว่าตอนนั้นคุณคงโมโหมากจนมีพลังงานขึ้นมา"

"อ้าวเหรอ  ฉันไม่รู้ตัว แสดงว่าฉันฉุนมันมาก เลยมีพลังงานขึ้น งั้นต้องโมโหมันให้มากกว่านี้ จะได้ไปบีบคอมันให้ตายไปเลยไอ้เลวนี่"

เธอพูดด้วยความขุ่นเคืองแสดงว่าเธอคงโมโหอย่างมากวิญญาณเธอเลยมีพลังงานขึ้นมาเป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสได้

"เราทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วคุณ ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจอย่างเดียวแล้ว"

" คดีนี้คนตายเพราะมัน 2 ศพแล้วนะคุณ"

"ก็จริง แต่คุณก็รู้ว่าเราหาอะไรไปเชื่อมโยงมันไม่ได้ มันทำลายหลักฐานไปเกือบหมดแล้ว ตำรวจไปค้นบ้านที่เกิดเหตุก็ไม่เจออะไร แถมพยานที่เหลืออีก 2 คนก็ปิดปากเงียบ"

"ไม่ได้ฉันต้องหาทางเล่นงานมันให้ได้"

เธอพูดด้วยความฉุนเฉียว ผมได้แต่ปลอบเธอ ถึงเธอจะเข้าใจแต่เรื่องที่เกิดมันสร้างความไม่พอใจให้กับเธออย่างมาก

"หงุดหงิดโว้ย คุยกับคุณนี่ก็ไม่ช่วยอะไรไปดีกว่า"

"นี่คุณ ครั้งหน้าก็เคาะประตูก่อนนะ นี่มันห้องนอนผม"

"วุ้ย รู้แล้วนะ"

เธอมองหน้าผมด้วยความไม่พอใจก่อนจะสลายร่างไป

"ยายผีจอมเพี้ยนเอ้ย"

ผมบ่นออกมาก่อนจะหยิบหนังสือมาอ่านต่อ แต่อ่านไปได้ไม่ถึงหน้า ผมหยุดอ่าน มันก็จริงของเธอที่ทำอะไรไม่ได้ ถึงคนพวกนั้นจะเลวเพียงใด แต่หลักฐานหลายอย่างถูกทำลาย แถมมีคนตายเพิ่มอีก 1 คน  แต่ทางตำรวจยังทำอะไรพวกนั้นไม่ได้ ผมหวนไปคิดถึงเรื่องที่เธอเล่าให้ผมฟังในวันนั้น

"ทำไมผมต้องรู้ด้วยว่าเพราะอะไรที่ทำให้คุณฆ่าตัวตาย มันไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะรู้"

ผมย้อนถามเธอหลังจากที่เธอจะบอกให้ผมรู้ถึงสาเหตุที่เธอฆ่าตัวตาย

"คุณหมอต้องรู้แล้วละเพราะมันจะเกี่ยวกับไอ้คนที่ฆ่าเพียงขวัญ"

กิ่งกาญจน์เล่าให้ผมฟังว่า เธอรู้จักกับคนที่ฆ่าเพียงขวัญเพราะเป็นแฟนเก่าของเธอ

"มันชื่อปรเมศ ฉากหน้ามันคือคนดีมีฐานะ แต่เบื้องหลังมันคือจิ้งจอกที่ชอบหลอกลวงคน ตอนแรกๆที่มันเข้ามาจีบฉัน มันดูดีไปทุกอย่าง ซื้อของดีๆให้ พาไปทานอาหารหรูๆ จนฉันตายใจ มันก็เริ่มหลอกเอาเงินฉัน ข้ออ้างของมันคือการเอาเงินไปลงทุนกับธุรกิจของมัน ฉันเองที่ผ่านมาก็ระวังตัวในเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่ก็ดันไปหลงเชื่อมันจนได้ จนฉันรู้ความจริงว่ามันหลอกฉัน มันไม่ได้เอาเงินไปลงทุนอะไรหรอก มันอาไปปรนเปรอผู้หญิงคนอื่น แต่มันไม่ทำให้ฉันเสียใจมากเท่าไหร่ แต่ที่มันทำให้ฉันต้องฆ่าตัวตายเพราะฉันเสียใจเรื่องนี้เพราะฉันไปรู้มาว่า เงินที่มันเอามาซื้อของให้ฉันมันก็หลอกเอามาจากผู้หญิงคนอื่น จนบางครอบครัวต้องล้มละลาย ไม่ก็ฆ่าตัวตายเพราะความอับอาย เรื่องนี้ฉันสะเทือนใจมากที่เป็นเพราะฉันที่เป็นสาเหตุต้องมาทำให้ครอบครัวคนอื่นเดือดร้อน ผู้หญิงบางคนที่หลงมันจนไม่รู้ผิดชอบก็มาสาปแช่งฉันว่าฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาหมดตัว ทำให้ฉันทนไม่ได้ต้องมากินยาฆ่าตัวตาย "

ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจในสาเหตุที่เธอเล่า มันไม่ต้องอธิบายอะไรไปมากกว่า เรื่องนี้มันคงไปกระทบจิตใจของเธออย่างมากจนทำให้เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย

"ฉันนึกว่ามันจะเลิกสันดานชั่วๆอีก แต่ครั้งนี้มันถึงกับฆ่าคนตาย ฉันไม่อยากให้มันรอดกฎหมายไปได้"

น้ำเสียงของเธอนั้นบอกได้ว่าเธอสะเทือนใจอย่างมาก ทำให้ผมต้องมานั่งตรวจดูอีกครั้งว่าผมมีตกหล่นไปตรงไหนบ้าง ผมเอารายงานการชันสูตรที่ผมเขียนไว้มาดูอีกที แต่ผมทำทุกอย่างครบถ้วนแต่ไม่เจออะไร ซอกเล็บของเพียงขวัญไม่เจอเนื้อเยื่อใดๆ ติดอยู่รวมถึงบนเสื้อผ้าของเธอก็ไม่พบความผิดปกติ ที่จะบ่งชี้ไปถึงตัวฆาตกรได้ ส่วนผลตรวจแอลกอฮอล์ที่พบในกระเพราะอาหารนั้น พบเจอสารแปลกปลอมปนเปื้อน มันเป็นสารที่ประเภทที่ทำให้เกิดอาการมึนเมาและประสาทหลอนได้ ส่วนกระเป๋าของเพียงขวัญที่ถูกโยนทิ้งไม่ห่างออกไป นั้นตรวจไม่พบร่อยรอยใดๆ แม้กระทั่งรอยนิ้วมือหรือ DNA ของเจ้าของ แสดงว่าพวกคนร้ายนั้นได้ลบร่อยรอยไปหมดเกลี้ยงแต่ทำให้ทางตำรวจรู้ว่าคนตายชื่ออะไร หลังจากที่ผมส่งผลตรวจให้ทางตำรวจ เท่ากับหน้าที่ของผมได้จบลงแล้ว เรื่องนี้ผมไม่สามารถที่จะช่วยอะไรไปมากกว่านี้ได้ ทั้งๆที่ วิญญาณเพียงขวัญได้มาบอกข้อมูลกับผมเพิ่มเติม แต่ทางตำรวจเองก็สืบได้ข้อมูลมาพอสมควร ตำรวจตรวจดูจากการใช้โทรศัพท์ของเธอ ทำให้รู้ว่าเธออยู่บริเวณไหนก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์จะหายไป และข้อมูลที่ได้มาทำให้รู้ว่าคืนนั้นเธอไปเพื่อนของเธอคนไหนบ้าง

ตำรวจเรียกเพื่อนของเธออีก 3 คนมาสอบปากคำทั้ง 3 คน ทุกคนให้การเหมือนกันว่า หลังจากปาร์ตี้จบเพียงขวัญมีคนมารับไป และพวกเธอก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก่อนที่ทางตำรวจจะเชิญตัวปรเมศที่เป็นเจ้าของบ้านพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คนมาสอบปากคำ ซึ่งปรเมศรับว่าจัดงานปาร์ตี้ขึ้นและจ้างพวกเพียงขวัญกับเพื่อนมางานปาร์ตี้ และไม่มีอะไรผิดปกติและพึ่งมารู้ว่าหลังงานเลิกมีคนมารับเพียงขวัญ พวกตนเองไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้ ซึ่งทางตำรวจเองก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าจริงขนาดไหน เพราะบ้านหลังนั้นและบริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนเรื่องโทรศัพท์ของเพียงขวัญที่จู่ๆสัญญาณขาดหายไป เพื่อนเพียงขวัญคนหนึ่งบอกว่า เห็นเพียงขวัญบอกว่าแบตโทรศัพท์หมดแต่ไม่รู้ว่าตัวเพียงขวัญนั้นชาร์ทแบตโทรศัพท์ก่อนจะกลับด้วยหรือไม่

แต่จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของเพียงขวัญที่พบในกระเป๋านั้น โทรศัพท์ถูกปิดพอตำรวจเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา โทรศัพท์ยังมีแบตเหลืออยู่ แต่ข้อมูลในโทรศัพท์นั้นถูกลบไปหมด แต่พอตรวจสอบไปทางค่ายโทรศัพท์ก็พบการโทรเข้าออกตามปกติโทรศัพท์ถูกโทรออก ในช่วงเย็นวันนั้นและเบอร์ที่โทรไปเป็นเบอร์ของพี่สาวเพียงขวัญ ส่วนที่ตัวเครื่องนั้นตำรวจตรวจไม่พบร่องรอยอะไรเพราะถูกเช็ดทำความสะอาดจนไม่เหลือร่องรอย ส่วนบ้านของปรเมศนั้นถูกตำรวจตรวจค้นอย่างละเอียดแต่ไม่พบหลักฐานหรือร่องรอยที่จะบอกว่าเพียงขวัญถูกฆ่าตายในบ้านหลังนี้ ทำให้ตำรวจนั้นมืดแปดด้าน เพราะไม่รู้ว่าเพียงขวัญถูกใครฆ่า จะเป็นพวกปรเมศก็ไม่พบหลักฐานใดๆที่จะบ่งชี้ หรือคนที่มารับเพียงขวัญเป็นคนฆ่า ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร รวมทั้งร่องรอยของรถที่มาทิ้ง ตำรวจพยายามไล่ตรวจดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่พบศพก็ไม่พบว่ามีรถคันไหนที่ผิดสังเกต


ส่วนผมนั้นรู้จากที่เพียงขวัญมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติม ว่าปรเมศกับพวกให้เงินเพิ่มกับเพื่อนของเธอพร้อมกับการข่มขู่เรื่องการให้ปากคำ ส่วนหลักฐานที่เกี่ยวข้องนั้นถูกทำลายไปหมดแล้ว หมอนที่ปรเมศเอาอุดหน้าเธอนั้น ปรเมศสั่งให้คนเอาไปเผาทิ้งที่ต่างจังหวัด เหมือนกับกระเป๋าและโทรศัพท์นั้นถูกทำเช็ดทำความสะอาดเหมือนกับร่างกายบนตัวเธอที่พวกปรเมศสัมผัส ส่วนเรื่องรถที่เอาศพมาทิ้งนั้น พวกมันใช้รถ 2 คัน คันหนึ่งขนศพเธอออกจากบ้านและมาเปลี่ยนรถก่อนจะถึงที่ทิ้งศพเธออีกคัน ทุกอย่างปรเมศกับพวกทำอย่างระมัดระวัง และก่อนที่ครอบครัวของเพียงขวัญจะมารับศพเธอ ได้มีการขอให้ชันสูตรศพเธออีกรอบ ซึ่งพี่สาวของเพียงขวัญบอกกับผมว่า

"คุณหมออินทรายุทธ ทางเรากราบขอร้องละคะ ช่วยตรวจศพน้องสาวเราอีกครั้งเพื่อความมั่นใจของครอบครัวเราคะ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจหรือไม่เชื่อในฝีมือคุณหมอนะคะ เรื่องนี้ทางเรามั่นใจอยู่แล้วคะ แต่เราอยากให้มีการตรวจอีกครั้งคะ คณหมอก็คงทราบดีว่าตอนนี้อีกฝ่ายนั้นเป็นยังไงบ้าง เราหาอะไรเอาผิดเขาไม่ได้เลย"

พี่สาวของเพียงขวัญหมายถึงเรื่องที่สื่อมวลชนต่างพากันประโคมข่าวในคดีนี้อย่างมากแต่ทางปรเมศนั้นยืนยันว่าพวกตนไม่ได้เป็นคนฆ่าเพียงขวัญ แต่ถูกกระแสสังคมลงโทษไปเรียบร้อยว่าเป็นฆาตกร ซึ่งทางครอบครัวของเพียงขวัญต่างพากันเชื่อว่าพวกปรเมศเป็นคนฆ่าแต่หาหลักฐานไม่ได้ จึงมาขอร้องทางตำรวจกับผมให้ชันสูตรศพเธออีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ถึงผมจะยืนยันไปแล้วว่าผมตรวจอย่างละเอียดแต่ไม่มีสิ่งใดที่จะบ่งชี้ว่าใครฆาตกรรมเธอ แต่ทางครอบครัวได้ยืนยันและขอร้องให้ผมผ่าศพเพียงขวัญอีกครั้ง รวมถึงวิญญาณของเธอก็มาขอร้องผมอีกด้วย แต่พอมีข่าวว่าจะมีการตรวจรอบสอง ทางปรเมศซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการให้ทางทีมทนายความปล่อยข่าวกับทางสื่อมวลชนเพื่อตั้งข้อสังเกตุและข้อสงสัยในการทำงานของผมซึ่งมีประชาชนบางส่วนเชื่อ แต่ปรเมศได้แอบส่งทนายความมาติดต่อกับผมถึงที่บ้าน พอรู้ว่าใครที่เป็นคนมาติดต่อ  ผมอุทานออกมาทันที

"ไอ้ทนายเวรนี่อีกแล้ว"

"มีอะไรหรือคุณ "

วิญญาณของกิ่งกาญจน์ถามผม

"ไอ้ทนายคนนี้มันชื่อยุทธนา เป็นทนายความตัวแสบคนหนึ่งเลย มันเคยปะทะคารมกับผมในศาลมาแล้ว ผมเป็นพยานในคดีฆาตกรรม คดีนั้นลูกความมันติดคุกเพราะหลักฐานที่ผมตรวจเจอมัดมันแน่นจนดิ้นไม่หลุด"

ผมเล่าให้เธอฟังถึงคดีฆาตกรรมอำพรางคดีหนึ่ง ตอนสืบพยานในศาลผมได้เข้าไปให้การในฐานะหมอที่ชันสูตรศพคนตายและตรวจพบร่องรอยที่แสดงให้เห็นถึงคนตายนั้นถูกฆ่า ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย

"ตอนนั้นมันพยามแหย่ให้ผมโกรธ ทำเป็นไม่เชื่อ ผลการชันสูตรของผมที่ตรวจเจอรอยนิ้วมือ และDNA ของคนฆ่า แต่ผมรู้ทันเพราะเจอแบบนี้มาเยอะ แถมยังแหย่มันกลับเล่นเอามันเสียกระบวนไปเหมือนกัน"

"ยังไงหรือหมอ"

"มันบอกผม ดูไม่ค่อยจะมีความน่าเชื่อถือเพราะใช้คำว่าประสบกาณ์มาอ้างในการตรวจศพ ผมเลยย้อนถามมันไปว่า มันจำกฎหมายมาตรต่างๆโดยไม่ต้องเปิดตำราได้หรือเปล่า มันหลงกลตอบว่าได้ ผมก็ตอบผมก็เหมือนเพราะผมเรียนมาทางนี้เหมือนมันเรียกฎหมาย  ผมผ่าศพมาไม่รู้เท่าไหร่เหมือนกับมันที่หากินด้วยการว่าความ ทุกอย่างมันจะสะสมในความทรงจำจนเป็นประสบการณ์ขึ้นมา มันเลยเงียบเปลี่ยนเรื่องไปเรื่องอื่น คือมันพยามยามไม่ให้ผมดูไม่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก มันโยงไปแม้กระทั่งเรื่องที่ผมมีหุ้นในธุรกิจอื่นๆ มันจะส่อว่าผมทำงานไม่เต็มที่ ผมเลยย้อนมันอีกครั้ง ธุรกิจนี้ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นตาทวดผม ตอนนี้ผมไม่ได้เข้าไปบริหารอะไรและหุ้นนั้นเป็นมรดกตกทอด ถ้ามันจะขอหลักฐานผมก็เอามาให้ดูได้ เหมือนกับมันที่ไม่ได้ทำอาชีพทนายอย่างเดียว มันก็ไปมีหุ้นที่ผับแห่งหนึ่งและก็พึ่งโดนจับเพราะเปิดเกินเวลาด้วย ไอ้ยุทธนามันก็หน้าหงายไปอีกดอก คดีนั้นมันแพ้จำเลยติดคุกตลอดชีวิต ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่มันว่าความแพ้ด้วย"

"แต่มันยังกล้ามหาคุณอีกนะ ทั้งๆที่โดนขนาดนี้"

"คงเป็นเพราะเงินนะคุณไอ้นี่มันโลภมาก มาดูกันว่ามันจะมาติดต่อเรื่องอะไร"

และเป็นไปตามที่ผมคาด ยุทธนามันมาหว่านล้อมผมไม่ให้เป็นคนผ่าศพเพียงขวัญรอบที่ 2 มันพยายามพูดว่าถ้าทำแบบนี้จะไม่มีคนเชื่อฝีมือผมเพราะผ่าถึง 2 รอบ ครั้งแรกผมตรวจไม่เจออะไร แล้วจะผ่าอีกแสดงว่าผมทำงานไม่รอบคอบ ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปตามข่าวที่พวกมันปล่อยออกไป แต่ผมไม่ตอบรับอะไรปล่อยให้มันพูดจนวิญญาณของกิ่งกาญจน์บ่นออกมาว่า มันพูดมากไม่มีสาระอะไร จนมันกลับไป กิ่งกาญจน์บอกกับผมว่า

"มันพูดมากจริงๆ อย่างนี้หรือเปล่าที่เขาพูดกันว่าพูดจนลิงหลับ ฉันฟังแล้วปวดหัวแทนคุณจริงๆ"

ผมได้แต่หัวเราะ และหลังจากวันนั้นผมทำการผ่าพิสูจน์อีกรอบโดยมีนายแพทย์ของทางตำรวจเข้ามาช่วยดูด้วย ซึ่งทุกอย่างเหมือนที่ผมตรวจครั้งแรก เราหาร่องรอยอะไรไม่ได้ ทางนักข่าวได้พยายามสัมภาษณ์ผม ซึ่งผมก็ยืนยันไปตามเดิมว่าเพียงขวัญถูกฆาตกรรมอย่างแน่นอน แต่ในตัวเธอไม่ตรวจพบหลักฐานใดๆที่สืบได้ถึงคนฆ่า แสดงว่าคนฆ่านั้นคงมีความรู้ในเรื่องนี้พอสมควรเพราะทำลายหลักฐานที่จะโยงมาถึงตัว  ส่วนใครเป็นคนฆ่านั้นต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจ

ถึงจะไม่มีความคืบหน้า แต่ครอบครัวของเพียงขวัญก็พอใจกับผลที่ได้จึงนำศพเธอไปทำพิธี ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ทางตำรวจได้มาคุยกับผมและเชื่อว่าพวกปรเมศต้องเป็นคนฆ่าเธอ แต่หลักฐานที่มีไม่สามารถขอศาลออกหมายจับได้ ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรไปได้มากกว่านี้ และจู่ๆวิญญาณของเพียงขวัญก็หายไป ผมเดาว่ามันคงถึงเวลาที่เธอต้องไปตามทางของเธอแล้ว  แต่ผ่านไป 1เดือนเพื่อนของเพียงขวัญอีกคนชื่ออนงนาฎที่ไปร่วมงานปาร์ตี้นั้นถูกฆ่าตายไปอีกคน ตอนแรกดูจะเป็นการฆ่าตัวตายโดยการกระโดดตึก แต่พอทางตำรวจส่งศพมาให้ผมผ่าพิสูจน์ ผมตรวจดูพบว่าตรงคอนั้นมีรอยเขียวช้ำและลูกกระเดือกนั้นแตก แสดงว่าเธอถูกบีบคอจนตายก่อนจะนำร่างมาโยนลงจากตึก แต่ไม่ตรวจพบรอยนิ้วมือแสดงว่าฆาตกรนั้นสวมถุงมือ ทางตำรวจเองก็มืดแปดด้านอีกครั้ง เพราะหาหลักฐารอื่นไม่ได้เลย และทางผมหรือกิ่งกาญจน์เองก็ไม่พบกับวิญญาณของอนงนาฎ จึงได้แต่สันนิษฐาน กันว่าเธอถูกฆ่าปิดปากอีกราย  เรื่องนี้ทำให้วิญญาณของกิ่งกาญจน์นั้นแค้นอย่างมากเพราะไม่สามารถนำแฟนเก่าเธอมาลงโทษได้ จนตอนนี้หลังจากเพียงขวัญตายผ่านมา 3 เดือนแล้ว แต่ทุกอย่างนั้นไม่มีความคืบหน้าเรื่องดูจะเงียบไป ผมเองถึงจะเชื่อกับสิ่งที่เพียงขวัญบอก แต่ก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้

แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ณ บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสระบุรี บ้านหลังนั้นอยู่อยู่ในสวนแห่งหนึ่งห่างไกลจากชุมชนมีรั้วรอบขอบชิด ในห้องบนชั้น 2ของบ้าน ชายวัยกลางคนรูปร่างล่ำสันไว้หนวด กำลังนั่งสมาธิอยู่หน้าแท่นบูชาที่มีแต่สิ่งที่ดูแล้วไม่เจริญตา ทั้งรูปเทพเจ้ากาลีปางต่างๆ หัวกะโหลกมนุษย์อีกทั้งมีดหมอที่มีอยู่หลายเล่ม ขวดน้ำมันพรายและขวดแก้วเล็กๆจำนวนมาก รวมถึงผนังที่อยู่ด้านหลังของแท่นบูชา เป็นภาพวาดของยักษ์ตนหนึ่ง จนชายคนดังกล่าวได้ลืมตาขึ้นพร้อมพูดออกมาดังๆ

"ออกมาได้แล้วอีทาสของข้า"

พอพูดจบ วิญญาณผู้หญิง 2 ดวงที่ดูจะสวมชุดนอนสีขาวแบบซีทรู 2 ดวงได้ปรากกฎกายหมอบกราบบนพรมผืนใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าของชายผู้นั้น

"มีอะไรให้พวกเรารับใช้หรือคะอาจารย์"

เสียงจากดวงวิญญาณทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน

"อีเพียงขวัญกับอีอนงนาฏพวกมึงทั้ง 2ทำเมถุนสังเวยเดี๋ยวนี้เพื่อบูชาให้กับอาจารย์ของกู"

"ได้คะอาจารย์"

เสียงของวิญญาณทั้งสองตอบพร้อมกัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ชุดที่คลุมอยู่นั้นหายไปวิญญาณของทั้งคู่นั้นต่างเปลือยกายทั้งคู่ อนงนาฎขยับตัวเข้ามาหาเพียงขวัญ ทั้งคู่ต่างโอบกอดกัน มือของเพียงขวัญโน้มคอเพื่อนสาวให้เข้ามาชิดหน้าเธอ ปากของทั้งสองสาวต่างทาบกันสนิท ต่างฝ่ายต่างแลกจูบกันอย่างเผ็ดร้อน จนอนงนาฏดันร่างของเพียงขวัญให้นอนราบลงไปบนพรมผืนใหญ่ ใบหน้าของเธอเลื่อนลงมาที่ทรวงอกอันแบนราบของเพียงขวัญ หัวนมสีน้ำตาลเข้มนั้นชูชันตัดกับผิวที่ขาวของเธอ สัดส่วนของทั้งสองสาวนั้นต่างกันพอสมควร เพียงขวัญนั้นเป็นคนที่รูปร่างสันทัด หน้าอกนั้นไม่ค่อยมีแต่สะโพกใหญ่ อนงนาฏนั้นสูงกว่าเพียงขวัญแต่หุ่นจัดอยู่ในประเภทเนื้อ นม ไข่ วิญญาณเพียงขวัญแอ่นกายให้เพื่อนดูดดื่มเต้านมทั้งสองเต้าของเธอสลับไปมา พร้อมกับเสียงครางที่ชายคนนั้นได้ยินเพียงคนเดียว  จนเพียงขวัญดันหัวเพื่อนให้ลงไปเบื้องล่าง หีของเธอนั้นสมตัวแต่หมอยนั้นดกดำ อนงนาฏนั้นฝังหน้าลงไปที่โคกหีเพื่อนสาวก่อนจะลงลิ้น

"ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด"

เสียงครางดังจากปากเพียงขวัญพร้อมกับการแอ่นตัวรับลิ้นจากเพื่อนสาว มือทั้งสองข้างจับที่หัวของอนงนาฏแน่น เธอปล่อยให้วิญญาณเพื่อนสาวเล่นลิ้นกับหีเธออยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะดึงอนงนาฏขึ้นมาด้านบน อนงนาฏซุกหน้าไปที่เต้านมของเพื่อนอีกครั้งเธอดูดดื่มบนเต้านมทั้งสองเต้าอยู่ครู่หนึ่งแล้วถึงเลื่อนหน้าขึ้นมาตรงหน้าของเพื่อน เพียงขวัญดึงหน้าของเพื่อนเข้ามาหาผีสาวทั้งสองแลกลิ้นกันอีกครั้ง ก่อนที่เพียงขวัญจะพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบน   เธอเริ่มซุกไซร้ไปที่แก้ม ใบหูและลำคอ ก่อนจะเลื่อนหน้าลงมาตรงเต้าที่อวบใหญ่  เธอฟอนเฟ้นไปที่นมทั้งสองเต้า หัวนมที่ค่อนข้างคล้ำของอนงนาฏถูกเพียงขวัญดูดสลับไปมาพร้อมใช้มือบีบเคล้นลงไปบนข้างที่ไม่ถูกปากสัมผัส

เพียงขวัญพลิกร่างของเพื่อนให้นอนคว่ำ แล้วก้มหน้าลงไปบนแผ่นหลัง ลิ้นของเธอไล้ไปทั่วแผ่นหลังของอนงนาฏ  ไล่ลงมาถึงก้นที่งอน เธอกัดไปเบาบนเนื้อที่แน่น ทำเอาอนงนาฏร้องออกมาด้วยความเสียว แล้วเพียงขวัญพลิกร่างเพื่อนให้นอนหงาย เธอจูบไปเบาตรงหน้าท้องแล้วใช้ลิ้นไล้มาตามขนอ่อน แต่เลื่อนผ่านโคกหีที่ใหญ่แต่ขนหมอยนั้นไม่ดกเหมือนเธอ เธอไล่จูบลงมาที่โคนขา ตามลงมาที่หัวเข่าแล้วไล่ลงไปจนถึงเท้า ลิ้นเธอไล้ไปตามนิ้วเท้าของเพื่อนซึ่งมันกระตุ้นอารมณ์ของ อนงนาฏเต็มที่รวมทั้งคนที่สั่งที่นั่งมองอย่างหื่นกระหาย

เธอใช้ปากกับขาอีกข้างไล่ขึ้นมาข้างบนจนถึงโคกหี เพียงขวัญใช้ลิ้นเลียไปทั่วแคม ก่อนจะกว้านไปในรูหีของเพื่อน อนงนาฏแอ่นกายรับทันที ยิ่งเพียงขวัญเอานิ้วไปบี้ตรงหัวนมของเพื่อนสาว ผีสาวนั้นถึงกับส่ายตัวไปมาด้วยความเสียว บทสวาทของผีสาวทั้ง 2 นั้นปลุกอารมณ์ราคะของชายที่นั่งดูจนลุกโชน ทั้งๆที่มันเห็นมาหลายครั้ง แต่มันยังไม่เข้าไปร่วม มันปล่อยให้ผีสาวทั้ง 2 บรรเลงรักกันได้อย่างเต็ม จนตอนนี้ทั้งสองสาวนั้นนอนตะแคงในท่า 69 ต่างใช้ทั้งนิ้วทั้งลิ้นบรรเลงความเสียวให้กับอีกฝ่าย จนทั้งคู่ไปถึงจุดหมาย



ชายที่นั่งดูนั้นจัดการถอดเสื้อผ้าจนร่างเปลือย แต่มันนั่งบริกรรมอยู่ครู่หนึ่งแล้วลุกเดินไปที่พรมแล้วลงไปนอนหงาย ควยของมันดำทะมึนและแข็งตัวเต็มที่ ผีสาวทั้งสองต่างมองไปที่ควยของมันอย่างหื่นกระหาย จนมันสั่ง

"มึงทั้งสองช่วยกันอมควยกูที"

พอสิ้นเสียง ผีสาวทั้งสองต่างก้มลงไปที่ควยต่างใช้ลิ้นเลียและผลัดกันอม

"อูยยย ซี๊ดดแบบนั้นละ ดีมาก อูยยย"

มันร้องครางออกมาและปล่อยให้ผีสาวทั้งสองนั้นใช้ปากกับควยของมันพักใหญ่ ก่อนที่มันจะสั่งต่อไป

"อีอนงนาฏเอาหีมึงมาให้กูเลีย ส่วนอีเพียงขวัญขึ้นมานั่งบนตัวกูไม่ต้องบอกนะว่ามึงต้องทำอะไรต่อ"

วิญญาณทั้งสองต่างทำตามคำสั่งของชายคนดังกล่าว เพียงแต่อนงนาฏนั้นขึ้นไปคร่อมตรงหน้าก็จริงแต่หันหน้าไปทางปลายเท้า ส่วนเพียงขวัญหลังจากจับควยของชายคนนั้นจ่อที่รูหีแล้วค่อยๆขย่มตัวลงไปจนหีเธออมควยของชายคนนั้นมิดก่อนจะโยกตัวไปมาช้าๆ แล้วดึงหน้าอนงนาฏที่กำลังถูกเลียหีจากชายที่เธอนั่งคร่อม เข้ามาหาผีสาวทั้งสองต่างแลกจูบกันอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือของทั้งคู่ต่างลูบไล้ขยำไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย  ต่างฝ่ายต่างส่งเสียงออกมาไม่หยุดจากความเสียวที่ได้รับ เวลาผ่านไปพอสมควรชายผู้นั้นไปถึงจุดหมาย ผีสาวทั้ง 2 ต่างลงจากตัวของมันตามคำสั่ง

"มึงทั้ง 2 ตีฉิ่งให้กูดูอีกรอบ"

หลังจากที่ทั้ง 2 ผละจากตัวมัน ชายคนดังกล่าวนอนพักอยู่ครู่หนึ่งแล้วลุกขึ้นมานั่งก่อนจะสั่งไปยังวิญญาณสาวทั้งสองที่นั่งอยู่ไม่ห่าง  ทั้งคู่ทำตามคำสั่งทันที อนงนาฏดึงหน้าของเพื่อนให้มาซบที่หน้าอกของเธอ เพียงขวัญซุกหน้าไปที่เต้าอันอวบใหญ่ของเพื่อน  แล้วดันร่างของอนงนาฏให้นอนราบลงไปบนพรมอีกครั้ง เธอฟอนเฟ้นเต้านมของเพื่อนทั้งสองเต้าสลับไปมา จนอนงนาฏดันหัวเธอลงไปที่โคกหี เพียงขวัญจูบไปแรงๆบนโคกหี แล้วเอาลิ้นเลีย

"ซี๊ดดด"

เสียงครางของอนงนาฏดังขึ้นพร้อมแอ่นก้นรับลิ้นของเพื่อน  เพียงขวัญใช้ทั้งลิ้นทั้งนิ้วจัดการกับโคกหีของเพื่อน ด้วยเสียงครางและภาพหนังสดของผีสาวทั้งคู่ ปลุกอารมณ์ของชายนั้นขึ้นมา มันเลื่อนตัวเข้ามาใกล้แล้วใช้มือขยำลงไปที่ทรวงอกของอนงนาฏแรงๆทั้งสองเต้าก่อนจะก้มหน้าลงไปดูดดื่มเต้านมของผีสาว มันดูดสลับไปมาบางครั้งมันใช้มือรวบให้สองเต้ามาเบียดชิดกันแล้วดูดหัวนมสลับไปมาพร้อมกัดไปแรงๆ แต่อนงนาฏเอามือไปจับควยที่เริ่มจะแข็งตัวของผู้ชายที่ดูดนมเธอ จนควยของมันแข็งตัวเต็มที่อีกครั้ง มันจึงเลื่อนตัวเอาควยไปจ่อที่ปากอนงนาฏ ซึ่งผีสาวนั้นรีบอมควยของมันอย่างกระหาย  ทำให้มันครางออกมาไม่หยุด  มันปล่อยให้อนงนาฏใช้ปากกับควยของมันอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่มันจะดึงควยออกจากปากผีสาวแล้วขยับตัวไปด้านหลังของเพียงขวัญที่ก้นนั้นยกสูงขึ้น มันเอามือจับที่เอวของเพียงขวัญ แล้วดันควยที่ดำทะมึนขนาดใหญ่เข้าไปที่รูตูดของผีสาว

"โอ๊ย เบาๆหน่อยสิคะอาจารย์กริช ขา"

เสียงผีสาวร้องออกมาก่อนจะฝังหน้าไปที่โคกหีของเพื่อนต่อ

"อูยย ตูดมึงนี่เนื้อแน่นดีจริงๆ เสียดายมาเจอมึงตอนเป็นผี ถ้าเป็นคนคงเย็ดมันกว่านี้"

มันตอบพร้อมกระเด้าอย่างไม่ยั้ง เพียงขวัญยกก้นให้สูงขึ้นแต่ปากยังลงลิ้นกับโคกหีเพื่อนอย่างต่อเนื่องตามคำสั่งที่ได้รับ แถมคนที่เย็ดตูดเธอตอนนี้นั้นอึดอย่างมาก ตอนเป็นคนทั้งอนงนาฏกับเพียงขวัญไม่เคยเจอกับผู้ชายที่อึดขนาดนี้แถมยังเย็ดได้ติดๆกันหลายครั้งโดยไม่มีพัก ทั้งสองผีสาวนั้นต้องมาเล่นดนตรีไทยและถูกเซ็กหมู่แบบนี้ทุกคืนตั้งแต่ถูกจับตัวมา เพื่อสังเวยกามให้กับหมอผีคนนี้เพื่อทำพิธีเมถุนสังเวยให้มารที่มันนับถือเป็นอาจารย์  เพียงขวัญนั้นรับบทหนักต้องใช้ปากสร้างความเสียวให้กับเพื่อนและเด้งรับการถูกเย็ดตูด คืนนั้นทั้งสองผีสาวถูกจับระเริงกามจนชายเจ้าของบ้านพอใจ มันสั่งให้วิญญาณทั้งสองกลับไปสู่ขวดแก้วที่มันกำกับไว้ด้วยอาคม ส่วนมันที่ยังเปลือยกายอยู่นั้นนั่งสมาธิพร้อมบริกรรมคาถาเพื่อกำกับควบคุมวิญญาณของผีสาวทั้งสองตัวอีกครั้ง จนเรียบร้อยมันลืมตาขึ้นพร้อมพูดกับรูปวาดของยักษ์ 

"อาจารย์รออีกนิดแล้วข้าจะเอาวิญญาณอีผีไฮโซกิ่งกาญจน์มาสังเวยอาจารย์เหมือนกับอีก 2ตัวนี้ มันไม่รอดมือข้าแน่"

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

jaja


birdramon2

ค่อยๆ เฉลยตัวละคร ที่มีความเกี่ยวข้องกันมากขึ้นเรื่อยๆ

krissyou

เลี้ยงผีไว้ระบายความใคร่ ไม่ต้องเสี่ยงท้องด้วยเนอะ

แล้วกิ่งกาญจน์จะโดนจับมาร่วมวงด้วยไหมเนี้ย

ryg123456

เมื่อไหร่จะได้คลายเครียดกับผีกิ่งกาญจน์นะครับ

keng7799

หมอเรา เจอคู่ปรับน่ากลัวแล้ว หมอผีคนนี้ น่าจะมีฤทธิ์เดชไม่น้อยเลย

kodzilla


หวานเย็น


ผู้เฒ่าเซราะกราว

อืมมมเพียงขวัญกับอนงนาฎโดนหมอผีจับวิญญาณไปบำเรอกามให้กับยักษ์ แล้วยังมุ่งร้ายต่อวิญญาณของกิ่งกาญจน์ แล้วแบบนี้แสดงว่าปรเมศน์ต้องมีส่วนร่วมด้วยแน่ๆ
หมออินทรายุธคงจะต้องเหนื่อยหน่อยนะ

pond06931


Nong5670


fufu22

แฟนเก่าดิ่งกาญจน์ นี่เลวได้ใจแถมยังมีหมอผีช่วยอีก จะจัดการมันยังไง

po3026

มีความสามารถก็มาเอาไปได้เลยกลัวแต่จะเอาไปไม่ได้

chatjane4234

มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว แถมยังคิดจะลองของกับหมออีกคน

ชายชรา

กิ่งกาญจน์จะโดนจับมาทำพิธีหรือป่าวหมอปัจจุบันเจอหมอผีรอลุ้นครับว่าจะเป็นยังไง