ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ตำนานเทพวายุ [ season3 ] ตอนที่ 35 : จูบแรกของสองคน

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มิถุนายน 11, 2020, 12:42:38 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

pankea

ได้ยินและรับรู้ความหลังระหว่างริวกะกับกระแตคงต้องมีการประชุมด่วนของสมาชิกแม่บ้านริวกะเพื่อแสดงความเห็นและลงมติรับหรือไม่รับกระแตให้เข้าสมาคมหรือแน่นอน

Tik K.


ipichai

อย่างนี้ไม่เรียกว่าซ้อมแล้ว
แล้วริวจะได้เมียคนที่ 5 คืนนี้หรือเปล่า
อั้มกับคิราระ พร้อมเปิดใจยอมรับหรือยัง

karn_cab


Man. Number1

แบบนี้ไม่นานกระแตก็ต้องได้เป็นคนที่5แน่ๆเลย แต่ผมชอบการเวลนี้จริงๆศิลปะมวยไทยมันสุดยอดในตัวของมันอยู่แล้ว

Ttum1188

กำลังฟังบาคุเฉลยข้อสงสัยของทุกคนอยู่เลยครับ

tawatsr


taohunter

 ::Oops::อุผฟ แหม่เหอะ
อ้างจาก: Monotone_Memory เมื่อ มิถุนายน 11, 2020, 12:42:38 ก่อนเที่ยง
สวัสดีสำหรับ ครับโผมมมมมม

แหม่ หายไปนานกับซีรีย์นี้ ดีใจที่เข้าสู่ SS3

จริงๆมันก็ยังไม่ครบ 15 หน้าตามที่ตั้งเป้าไว้นะ

แต่เพราะเรื่องคาราโอเกะ ช่วยเติมไฟให้การเขียน มันเลยทำให้ไอ้ริวกะกลับมาไวกว่าปกติ

ยังไงซะก็ขอขอบคุณมิตรรักแฟนงานเขียนของเทพวายุทุกท่านเลยครับ


.................


ตอนนี้มีการซ้อนข้อความเล็กน้อยนะครับ



ขอย้อนความนิดนึง


กระแตได้มาที่บ้านของริวกะ เธอได้ใช้เวลาร่วมกับทั้งอั้ม พลอย และคิราระ

ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าที่นี่อบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับที่นี่

แต่ยังไงซะ ทั้งอั้ม คิราระ และ พลอย ก็ไม่ได้ทำตัวห่างเหินเลย แต่พอยิ่งทำตัวนิทสนม

กระแตก็ยิ่งรู้สึกถึงความต่างชั้นระหว่างเธอและรุ้งพลอยมากๆ เธอจะทำยังไงดีกับหัวใจดวงนี้

จนกระทั่งเวลาผ่านไป ถึงเวลาแยกย้ายกลับ พลอยได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า

ดูแลคุณกระแตดีๆนะคะริว  ตัวริวก็ไม่รู้ความหมายหรอก จนกระทั่งได้ยินเสียงรถพุ่งมาด้วยความเร็วสูง

ริวกะนั้นสามารถหลบได้ง่ายมากๆ แต่กระแตนั้นกลับตกใจจนช็อคเดินต่อไม่ไหว

ริวกะก็ลำบากเลยทีนี้จะหนีก็ไม่ได้ จะหลบก็ไม่ได้ ถ้าหลบล่ะก็ รถต้องไปชนคนแน่ๆ

ตอนนั้นริวกะเลยตัดสินใช้เรียกกัปปะออกมาและใช้วิชา อาภรณ์อสูร



......................


ตำนานเทพวายุ SS3 ตอนที่ 35 :  จูบแรก




[ ริวกะ ]   : กัปปะ มาโทอิ

วิ๊ดดดดดดด เสียงหวีดของสายลมพัดมาราวกับจะกรีดผืนฟ้าได้เลย ทันใดนั้นสิ่งที่ริวกะเรียกหาก็มาถึงกัปปะมาในรูปแบบหมอกสีดำและปกคลุมตัวของริวกะทันที


[ ริวกะ ]  :  โดซึโค่ยยยยย


โคร้มมมม !!!  ริวกะร้องด้วยเสียงราวกับว่ากำลังออกฝ่ามือของพวกซูโม่ ฝ่ามือของเขาอัดเข้ากับหน้ารถบรรทุกจังๆ จนกันชนหน้ายุบเข้าไปเลย


[ ริวกะ ]  :  โคฮาคุ !!!


วุ๊ป !!!  สายลมลูกที่สองพัดมา บุตรคนเล็กแห่งพญาอีกาก็มาตามคำเรียก เขาพุ่งตัวราวกับสายลมเข้าไปคว้าตัวคนขับรถ ที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วเรียบร้อยออกมา  ครืดดดด !!! 


ตัวของริวกะที่อุ้มกระแตไว้และใช้ฝ่ามือซูโม่หยุดรถไว้ไหลครืดไปตามท้องถนน โชคดีที่ตรงนี้เป็นเขตก็สร้างที่ไม่ใช่โครงการใหญ่ ทำให้กล้องวงจรปิดยังไม่ถูกติดตั้ง รอดไปเอ็ง


ปั้ง ปั้ง ปั้ง ริวกะทุบเข้าไปที่หน้ารถอีกครั้งราวกับว่าต้องการทำอะไรบางอย่าง ตอนนี้หน้ารถพังไปเกือบครึ่งไม่เหลือร่องรอยที่เขากังวลแล้ว


[ ริวกะ ]  :  โคฮาคุ นายลากรถบรรทุกไปไว้ตรงเสาไฟ และสร้างหลักฐานว่ารถชนเสาไฟนะ


[ โคฮาคุ ]  :  ขอรับ

โคร้มมม !!!  ทันทีริวกะบัญชาการ โคฮาคุ เทนงูยอดพลัง ก็จับตัวรถที่หนักกว่า 2 ตัวเหวี่ยงเข้าชนกับเสาไฟฟ้าทันที ส่วนคนเจ็บเขาก็แบกไปนอนข้างๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นภายใน 15 วินาทีเท่านั้น



ริวกะที่ได้เห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยจึงได้อุ้มกระแตให้กระชับ และกระโดดถีบตัวซ้ายขวา ซ้ายขวาไปตามซอกตึกๆและกระโดดขึ้นทันที  โดยมีโคฮาคุที่บินตามมา ช้อนแขนของเขาและอุ้มขึ้นไปบนฟ้าทันที



รถชน รถชน รถชน


เสียงไทยมุงที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างแหกปากโวยวายกันทันที ซึ่งแน่นอนว่าคนละแวกนั้นย่อมต้องรีบมาดูแน่ๆ ทันทีที่พวกเขาเห็นรถชนเสาไฟ และมีคนเจ็บพวกเขาก็หยิบมือถือมาถ่ายคลิปกันเลยทีเดียว และก็มีอีกส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปแบกคนเจ็บส่งโรงพยาบาล


[ คนๆหนึ่ง ]  :  อย่าครับๆ อย่าพึ่งเคลื่อนย้ายคนเจ็บครับรอหมอก่อน


[ คนอีกคนหนึ่ง ]  :   รีบๆพาไปส่งสิ่ เดี๋ยวก็ได้ตายหรอก


สารพัดคนสารพัดความคิดบ่างก็ว่าให้พาไปส่ฃง บ้างก็ว่าให้รอเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญมาเคลื่อนย้าย ทันใดพวกเข้าก็ได้ยินเสียงโอย โอย โอย  คนขับรถได้สติแล้ว


บางคนก็รีบถ่ายคลิป บางคนที่มีสติก็ตะโกนบอก ให้โทรตามรถพยาบาล บางคนที่พอมีความรู้ ก็บอกให้กระจายวงอออก เพื่อให้คนเจ็บหายใจสะดวก

[ คนขับรถ ]  :  ผม ผม ผมขับรถชนคน ฮือออ ผมไม่ได้ตั้งใจ รถเบรกแตก ฮือออ ผมขับรถชนคน


คนขับรถที่หมดสติไปก่อนหน้านั้น พอตื่นมาก็ร้องไห้เสียใจ เพราะเขาคิดว่าตัวเองนั้นได้ขับรถชนคนตาย โดยที่หารู้ไม่ว่าไอ้ 2 คนที่เขาคิดว่าตาย มันกำลังลอยอยู่ข้างบน


[ ประชาชน ]  :  ไม่ครับ คุณไม่ได้ครับรถชนใคร คุณแค่ขับชนเสาไฟ คุณใจเย็นๆนะ


[ คนขับรถ ]  :  ไม่ !!!  ผมเห็นกับตาว่าผมขับชนคน


[ ไทยมุง ]  :  ไม่มีใครจริงๆ เลือดไม่มีสักหยดลองดูดีๆสิ่ คุณขับรถชนเสาไฟครับ


คนขับรถผู้โชคร้ายที่กำลังร้องไห้เพราะคิดว่าฆ่าคนตาย ถึงกับนอนอย่างโล่งอก เพราะเขาไม่เห็นเลือดและร่างของผู้บาดเจ็บจริงๆ ไม่นานนักรถพยาบาลก็มา ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะจบลงที่คำให้การของทุกๆคนว่ามันคือ อุบัติเหตุ




ณ บนท้องฟ้า


ซู่ววว เส้นผมสีขาวเงิน ของริวกะค่อยๆกลับกลายเป็นสีดำสนิทดังเดิม พร้อมกับกัปปะที่แยกออกมาจากร่างของเขา อาภรณ์อสูรมันเป็นวิชาแบบไหนกันแน่นะ ทำไมริวกะถึงมีท่าที่แปลกไป พอเอ่ยชื่อกัปปะ


[ กัปปะ ]  :  นายน้อยบาดเจ็บหรือเปล่าขอรับ เป็นความผิดของข้าที่มาช้าขอรับ


[ ริวกะ ]  :  ไม่เป็นไรๆ กระดูกร้าวนิดเดียวเอง อ่ะหายละ


[ โคฮาค ]   :   เดี๋ยวสิ่ขอรับนายน้อย ทำไมบาดแผลของท่านหายได้ล่ะขอรับ ไม่น่าเป็นไปได้


[ ริวกะ ]  :  นายลืมแล้วเหรอพี่ชาย ว่าในตัวขั้นมีคำสาบไม่ให้ตายอยู่ ชั้นจงใจไม่หลบรถคันนั้นมันก็เหมือนการฆ่าตัวตายนั่นแหละ


ริวกะอธิบายให้โคฮาคุฟัง ว่าเหตุที่เรียกกัปปะมาเพราะตัวเขา ไม่ได้มีแรงขนาดที่จะสามารถหยุดรถบรรทุกได้ และอีกอย่างเขาต้องปกป้องกระแตด้วย เพราะถ้าเขากระโดดไปด้วยความเร็วเสี้ยววินาที ร่างกายกระแตอาจจะรับไม่ไหวและได้รับบาดเจ็บก็เป็นได้



[ โคฮาคุ ]  :  เข้าใจแล้วขอรับ


[ กัปปะ ]  :  ท่านจะปกป้องเมียคนที่5 งั้นสิ่นะขอรับ


[ ริวกะ ]  :  เฮ้ย !!! กัปปะคุณกระแตกับชั้นเป็นแค่เพื่อนร่วมงานเฟ้ย  โคฮาคุเดี๋ยวพาชั้นบินกลับไปที่บ้านหน่อย ต้องให้พี่อั้มดูอาการของคุณกระแตด้วย


[ โคฮาคุ ]  :  ขอรับ


หลังจากที่ทุกอย่างคลี่คลายโคฮาคุก็รับคำสั่งและพานายเหนือหัวบินกลับไปยังบ้านทันที ไม่ถึง 30 วินาที ทั้ง 2 คนและ 2 ตนก็มาถึงคอนโด ริวกะให้โคฮาคุอุ้มกระแตและบินไว้แบบนั้น เขาไม่อยากให้ร่างกายของเธอกระทบกระเทือน เพราะยังไม่รู้ว่ามีส่วนไหนแตกหักรึเปล่า


[ ริวกะ ]  :  พี่อั้ม ดูอาการคุณกระแตให้หน่อย


[ อั้ม ]  :  ฮ๊ะ !!! อะไรนายริว


ริวกะพุ่งเข้าไปในห้องผ่านกระจกหน้าต่างบานใหญ่และพุ่งไปหาอั้มทันที เมียหมอคนสวยที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น เพราะคุณกระแตถูกอุ้มด้วยพี่ชายต่างสายพันธุ์ของเธอ


[ อั้ม ]  :  นายริวเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่โคฮาคุกับกัปปะ มาที่นี่ได้ล่ะ


[ โคฮาคุ ]  :  ไว้ข้าจะเล่าให้ฟังนะ ยังไงก็ปฐมพยาบาลนางก่อนเถอะ


[ คิราระ ]  :  อะเร๊ะ พี่โคฮาคุมาได้ไงคะ คิดถึงจังเลย


[ โคฮาคุ ]  :  คิราระเจ้ามาช่วยอั้มตรวจร่างกายนางคนนี้หน่อย


[ คิราระ ]  :  ค่ะๆๆๆ


อั้มรีบเดินนำไปที่ห้องพยายาลทันที ( บ้านมีทุกอย่างจริงๆ ) โดนมีคิราระตามเข้าไปช่วย ซึ่งหลังจากที่เทนงูหนุ่มได้อธิบายเรื่องทุกอย่าง ก็ได้ออกมาข้างนอกซึ่งกัปปะและริวกะได้รออยู่แล้ว


[ ริวกะ ]  :  เป็นไงบ้างโคฮาคุ


[ โคฮาคุ ]  :  อั้มตรวจให้อยู่ขอรับ


[ กัปปะ ]  :  เป็นห่วงเมียใหม่เหรอขอรับนายน้อย งั่ม !!!


[ ริวกะ ]  :  เฮ้ย !!!


กัปปะพูดไปก็เคี้ยวแตงกวาแสนอร่อยไปด้วยซึ่งเขาพึ่งเดินไปหยิบจากตู้เย็นมานั่นเอง  ซึ่งระหว่างนั้นเองอั้มและคิราระเองก็ออกมาพอดี พวกเธอจึงได้เข้ามาหา พวกริวกะและเริ่มพูดคุยกัน


[ โคฮาคุ ]  :  ว่าแต่ทำไมบุตรีท่านเวตาล ถึงได้เป็นแบบนั้นล่ะขอรับ


[ ริวกะ ]  :  ชั้นจะรู้ไหมล่ะ อยู่ดีๆก็ช็อตไปเฉยๆเลย


[ กัปปะ ]  :  ไม่ใช่ว่าท่านจะรับนางมาเป็นเมียอีกคนเหรอขอรับนายน้อย


[ ริวกะ ]  :  เฮ้ย !!!


ริวกะนั้นสะดุ้งเฮือกเลยตอนนี้ ต่อให้เขาต้องเจอกับไอ้ชิโตะอีก 10 รอบ เขาก็ไม่กลัว แต่ตอนนี้ไอ้เจ้ากัปปะมันดันพูดแบบนี้ต่อหน้า ศรีภรรเมียอย่างอั้มและคิราระ พูดได้เลยครับว่าตอนนี้ริวกะเองก็เหวอเช่นกัน


แน่นอนว่าพอได้ยินแบบนั้นคิราระและอั้มก็หันมองควั่บเลยล่ะ โคฮาคุเองก็เฮือกเช่นกัน เขาคงสัมผัสได้ว่า น้องสาวทั้งสองคน น่าจะติดเชื้อฮิคาริเป็นเต็มๆ เพราะรังสีอำมหิตเข้มข้นมาก


[ ริวกะ ]  :  กัปปะ นายพูดไรเนี่ย !!!

[ กัปปะ ]  :  เอ้า ท่านจำนางไม่ได้จริงๆเหรอขอรับ ตอนที่ท่านอายุได้ 10 ขวบปี ท่านช่วยชีวิตนางไว้นะขอรับนายน้อย

[ โคฮาคุ ]  :  เดี๋ยวนะกัปปะ เจ้าพูดว่าสิบปีที่แล้ว หรือว่านางจะเป็นเด็กที่ตรอกเยาวราช ตอนนั้น

ดูเหมือนว่าโคฮาคุจะจำได้เหมือนกันทันที เพราะกัปปะพูดขึ้นมา และพอโคฮาคุผู้สุขุมเยือกเย็นพูดออกมาแบบนี้ ทำให้ทั้งคิราระและอั้มต้องตั้งใจฟังมากๆ ส่วนไอ้มังกรของเราก็ยังเอ๋อแดรกเช่นเดิม

[ โคฮาคุ ]  :  10 ปีก่อน ตอนที่นายน้อยมาตามหารุ้งพลอย ซึ่งตอนนั้นพวกข้าทั้ง 4 ก็อาศัยพลังของนายท่านริน ติดตามนายน้อยมาที่ไทยด้วย


[ อั้ม ]  :  พี่โคฮาคุ ทำไมต้องอาศัยพลังของคุณพ่อล่ะคะ

[ กัปปะ ]  :  ตอนนั้นพลังของนายน้อยยังอ่อนแอเกินไป ทำให้ไม่สามารถเรียกตัวพวกข้าได้ อักทั้งสภาพจิตใจของนายน้อยก็ไม่คงที่ ทำให้พลังที่มีแทบจะเป็นศูนย์


[ โคฮาคุ ]  :  อื้ม ตามที่กัปปะพูดนั่นแหละ อย่าว่าแต่ตอน 10 ขวบเลย ขนาดตอนอายุ 16 ที่นายน้อยมาช่วยเจ้า ท่านก็เรียกตัวพวกข้ามาไม่ได้เช่นกัน จำได้ไหมอั้ม


[ อั้ม ]  :  เอ่ออ ค่ะ โดนลุมยำเละเลย


อั้มนึกถึงเรื่องนั้นทันที วันที่ริวกะมาช่วยเธอ วันนั้นริวกะโดนรุมเละเลยแหละ ต้องสู้กับคนเป็น 100 เขาไม่สามารถเรียกเหล่าภูติออกมาได้ ทำให้เกือบจมกองตรีน เลยล่ะ แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดมาได้ ด้วยการปลดปล่อยขีดจำกัดพลังสายฟ้าในตัว และเข้าถึงขั้นจักรพรรดิอัสนี


[ กัปปะ ]  :  นั่นแหละถึงเป็นเหตุผลที่ข้าต้องติดตามพลังของนายท่านแทน แต่ว่าวันนั้นนายน้อยเกิดอยากออกตามหารุ้งะพลอยด้วยตัวเอง จึงได้ให้พวกข้าสี่คนพาบินตามหาจากท้องฟ้า เฮ้อ คิดได้ยังไงมืดก็มืด


[ ริวกะ ]  :  พอเลยกัปปะ ตอนนั้นชั้น 10 ขวบเฟ้ยยย


[ คิราระ ]  :  แป่ว ทำไมริวกะบ๊องจังอ่ะ


[ ริวกะ ]  :  ยัยตัวแสบ หยุดเลยน๊าาาาาา

[ อั้ม ]  :  แล้วเรื่องเป็นยังไงต่อคะ


[ โคฮาคุ ]  :  พอมาถึงย่านเยาวราช ฝนก็เหมือนว่าจะตกพวกข้าจึงตั้งใจว่าจะกลับกันก่อน แต่ระหว่างนั้น นายน้อยก็บอกว่าได้ยินเสียงคนร้องขอให้ช่วย ท่านจึงกระโดดลงไปเลย พวกข้าเองก็ตกใจ บินตามไปรับแทบไม่ทัน


[ กัปปะ ]  :  เกือบได้แซะร่างนายน้อยออกจากผืนดินแล้ว สูงขนาดนั้นแถมยังควบคุมพลังก็ไม่ได้ด้วยยังไงก็เละ ดีที่ฮิคาริบินไปอุ้มไว้ได้ทัน


[ ริวกะ ]  :   โอยยย พอเถอะกัปปะ นายอย่าเอาเรื่องแบบนั้นมาเล่าให้พี่อั้มกับคิราระฟังเลย ชั้นอายจะตายอยู่แล้ว


[ คิราระ + อั้ม ]  :  5555555555555555555


รู้สึกว่าไอ้พระเอกของเรา มันก็ติ๊งต๊องตามภาษาเด็กอะนะ ทำอะไรก็อาจจะไม่ยั้งคิดบ้าง นี่ถ้าไม่มีคำสาบที่ไม่สามารถตายด้วยมือของตัวเองได้ ป่านนี้มันคงไปนอนคุยกับรากมะม่วงแล้วล่ะ


คิราระกับอั้มก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ดเลย กัปปะนี่มันตัวตบมุขแห่งอิซานางิจริงๆนั่นแหละนะ แต่มันก็ดีอย่างนึง เพราะตอนนี้ดูเหมือนอั้มกับคิราระจะผ่านคลายจากอาการตึงๆในตอนแรกได้แล้วล่ะ


[ โคฮาคุ ]  :  อื้ม จากนั้นพอลงพื้นได้ นายน้อยก็ฟังเสียงจากผืนดินแล้วก็วิ่งไปในซอยเล็กทันที พวกเขาเองก็ตามไปจนได้เห็นภาพเด็กคนนึงที่เนื้อตัวมีแต่บาดแผลฟกช้ำ


.... ย้อนกลับไปวันนั้นหลังจากลงมายังพื้น ....


ริวกะในวัย 10 ขวบได้ก้มลงเอาหูแนบพื้นและฟังเสียงจากรอบๆหาย เขาพยายามตั้งสมาธิแยกเสียงการเดิน เสียงสิ่งของ เสียงคน และเสียงธรรมชาติ จนผ่านไปราวๆ 10 วินาทีเขาจึงออกวิ่งทันใด


[ ริวกะ 10 ขวบ ]  :  ฮิคาริ ติดต่อไปที่โรงพยาบาลเลยเร็วๆ บอกมีผู้ป่วยวิกฤต พวกนาย 3 คนมาช่วยหน่อย

ริวกะวิ่งตั้กๆๆๆ ไปตามทางที่เขาวาดแผนทีไว้ในหัวทัน ยามิ โคฮาคุ กัปปะ จึงรีบวิ่งตามไปทันที แต่เชื่อไหมว่าพวกเขาทั้ง 3 วิ่งตามริวกะไม่ทัน จนกระทั้งราวๆ 20 วินาทีผ่านไป พวกเขาก็จับสัมผัสพลังงานอ่อนๆจากตัวริวกะและตามจนทัน


ภาพที่ภูติทั้ง 3 คือ ริวกะกำลังวิ่งไปและสไลด์ตัวรับร่างของเด็กผู้หญิงคนนึงได้ทัน ก่อนที่เธอจะหัวฟาดพื้น ริวกะวางเธอไว้กับพื้นอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะจับชีพจรที่ข้อมือ แต่ว่า..... เธอไม่หายใจแล้ว


... ปัจจุบัน ...


[ ริวกะ ]  :  หือ นี่ชั้นวิ่งเร็วกว่าพวกนายอีกเหรอ จำได้ว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยวิ่งชนะพวกนายเลยนี่หว่า


[ กัปปะ ]  :  ตอนนั้นท่านวิ่งไวยิ่งกว่าพายุอีกขอรับ


[ โคฮาคุ ]   :  ตอนที่พวกข้าตามไปถึงท่านก็วิ่งไปรับตัวเด็กคนนั้นไว้ได้ทันขอรับ แต่ว่านางไม่หายใจแล้ว ท่านเลยได้ CPR ช่วยชีวิตนางไว้


[ กัปปะ ]  :  แล้วยังเม๊าทูเม๊าด้วยขอรับ ดูดดื่มเลยล่ะ


[ ริวกะ ]  :   กัปป๊าาาาาาาาาา


เอาอีกแล้วเจ้ากัปปะเอาอีกแล้ว เขาพูดได้หน้าตาเฉยเลย แต่ริวกะนี่ดิ่หัวใจตกลงปลายตีนแล้วก็ว่าได้ โคฮาคุเล่าต่อว่าหลังจากที่ทำการผายปอดและ CPR จนกระแตกลับมาหายใจอีกครั้ง หน่วยเคลื่อนที่เร็วของโรงพยาบาลในเครือของอิซานางิ ก็มารับไปทันที


หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่รู้อะไรอีกเลย เพราะภูติทั้ง 4 ต้องกลับไปยังบ้านใหญ่กะทันหัน ส่วนริวกะเองก็จำอะไรไม่ค่อยได้ เพราะอย่างที่บอกว่าตอนนั้นความทรงจำและสติของเขา มันไม่คงที่ อาจจะเพราะเริ่มมีภาวะของโรคซึมเศร้าและความเสียใจเรื่องรุ้งพลอยอยู่


[ คิราระ ]  :  โฮ่ สเน่ห์แรงจริงๆนะคะ ริวกะ

[ ริวกะ]  :  กึ๋ย !!!

[ อั้ม ]  :  อื้มม เนอะคิราระ แย่จัง สงสัยตกกระป๋องแน่ๆเลยเรา

[ ริวกะ ]  :  ไม่เลยก๊าบตกกระป๋องไรก๊าบบ ริวรักสองคนม๊ากมากก รักพี่มิไรม๊ากมาก รักพลอยม๊ากกกก รักทั้ง 4คนเลยก๊าบ


ไปแล้วพี่มังกรกู ไปไม่เป็นแล้วแบบนี้ แต่ว่าทันใดนั้น พรึ่บ !!!  เวตาลก็พุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ มาปรากฏตัวต่อหน้าริวกะ ด้วยท่าทีที่ร้อนใจ แน่นอนคนเป็นพ่อเขาก็ต้องห่วงลูกสาวเป็นธรรมดานั่นแหละ

[ เวตาล ]  :  กระแต กระแตเป็นยังไงบ้างครับท่านริวกะ

[ อั้ม + คิราระ ]  :  สวัสดีค่ะ คุณเวโรจน์

[ โคฮาคุ + กัปปะ ]  :   ยินดีที่ได้พบท่านอีกครั้ง ท่านพญาค้างคาว


ทั้งหมดทักทายกันตามมารยาม ส่วนเวตาลแม้จะร้อนใจเพียงใดแต่ก็ยังตอบรับคำทักทายอย่างมีมารยาท อั้มจึงได้บอกว่า กระแตไม่เป็นอะไร อาจจะเพราะตกใจจึงทำให้หมดสติ


[ อั้ม ]  :  คุณเวโรจน์คะ ตอนนี้ร่างกายของคุณกระแต ต้องพักผ่อนนะคะ ตอนนี้ร่างกายเธออ่อนเพลียมาก นะคะ


[ เวตาล ]  :  คงเพราะช่วง 2-3 อาทิตย์นี้กระแต วุ่นอยู่กับการปรับปรุงคาเสะมารุหมายเลข 2 น่ะครับ เลยทำให้พักผ่อนน้อย เพราะตัวกระแตเองด็ดูเหมือนจะมีไฟในการทำโปรเจคนี้มาก


ทำไมว๊า ทำไมหวยถึงมาลงที่ริวกะตลอดเลยล่ะ ถ้าตามที่เวตาลพูดมาแบบนั้นก็แสดงว่า ที่กระแตร่างกายอ่อนแอแบบนี้ ก็เพราะมัวแต่ประกอบมอเตอร์ไซค์ให้ริวกะสินะ


2 เมียมองริวกะตาขวางเลยทีนี้ครับ ริวกะเองก็ทำอะไรไมได้นอกจากถอนหายใจดังเฮ้ออ หลังจากผ่านไปเกือบๆ 30 นาที กระแตก็ยังไม่ฟื้นอั้มจึงได้ ขออนุญาตเวตาล ให้กระแตนอนพักทีนี่


แน่นอนว่าคุณพ่อผู้หวงลูกสาวก็อึกๆอักๆแน่นอน แต่พอมองไปที่หน้าต่างก็พบกับเจ้านางการะเกดที่ยืนมองหน้าตึงๆอยู่ เวตาลจึงได้ยอมและฝากให้อั้มช่วยดูแลกระแตที


[ อั้ม ]  :  ได้เลยค่ะคุณเวโรจน์


เวตาลก็หายออกไปทันทีที่อั้มพูดแบบนั้น คิราระเองก็แยกตัวออกไปดูกระแต และก็ได้ตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจว่าช่วยด้วยค่ะ คุณกระแตตัวสั่นไปหมดเลย

ทั้งพี่อั้ม ทั้งริวกะ กัปปะ และโคฮาคุ ก็รีบวิ่งไปตามเสียงเรียก ภาพที่เขาเห็นคือ กระแตกำลังละเมอร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ว่าช่วยด้วย หนูกลัวแล้ว ช่วยด้วย หนูไม่ได้ขโมยของไป

อั้มก็ตกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ริวกะก็บอกให้อั้มลองปลอบเหมือนที่เคยทำให้ตน แต่ไม่ว่าจะทำยังไงกระแตก็ยังทุรนทุราย ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น

[ โคฮาคุ ]  :  ตอนที่นายน้อยพานางส่งโรงพยาบาล ก็มีอาการแบบนี้แหละ คงโดนใครทำร้ายมาในอดีตแน่ๆ


[ ริวกะ ]  :  หรือว่า ไอ้พวกนั้น เวนเอ๊ย รู้งี้น่าจะอัดพวกมันหนักๆหน่อย   บาคุออกมาหน่อย

ริวกะพูดเหมือนว่านึกอะไรออก ทันใดนั้นเขาก็เรียกบางอย่างออกมา เขาเรียกมันว่า " บาคุ "  ทันทีที่เรียก ก็ได้มีบางอย่าง ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาทุกคน

สิ่งนั้นมีรูปร่างเป็นหมา หมาชิบะอินุสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ ทันทีที่ปรากฏตัวออกมา กัปปะและโคฮาคุก็เรียก ท่านบาคุ ท่านบาคุ ราวกับรู้จักกันเป็นอย่างดี


[ ริวกะ ]  :  บาคุ นายจำเด็กคนนี้ได้มั้ย


[ บาคุ ]  :  ได้สิ่ขอรับ ท่านจูบนางด้วยนี่ขอรับ

[ กัปปะ ]  :  โอ้นายน้อย ท่านดิ้นไม่หลุดแล้วขอรับ ขนาดบาคุยังเห็นเลย


ผ่านพาม ริวกะไม่น่าจะรอดมือเมียนะ แต่ว่าก่อนจะแย่ไปมากกว่านี้ ริวกะบอกว่าให้บาคุช่วยที บาคุก้มหน้ารับฟังคำสั่งและเดินไปหากระแตที่กำลังนอนทุรนทุรายอยู่


เพียงแค่บาคุในร่างหมาชิบะ ยกขาหน้าไปสัมผัสที่กระหม่อมของกระแต อาการตัวสั่นของเธอก็ดีขึ้นราวกับโกหก ทันใดนั้นก็มีกลุ่มไอสีดำหลุดออกมาจากตัวกระแต บาคุอ้าปากและกลืนกินมันทันที


ตอนนี้อาการของกระแตดีขึ้นแล้ว ทุกคนถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอกเลยทีเดียว


[ คิราระ ]  :  เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ริวกะ

[ ริวกะ ]  :  เอ่อ ว่าไงดีล่ะ จำไม่ได้อ่ะ บาคุนายจำได้มั้ย

[ บาคุ ]  :  ขอรับ เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนที่นางคนนี้กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาล นางเกิดอาการแบบนี้ ข้าที่ติดตามนายน้อยมาที่ไทย สัมผัสได้ถึงความกลัว ความเจ็บปวด จึงได้ช่วยขจัดมันออกไป


บาคุ ปีศาจกินฝันร้ายได้เล่าให้ทุกๆคน ทุกๆตนได้ฟังถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แน่นอนว่าริวกะจำไม่ได้ 100 % แต่บาคุจำได้ไม่ลืม ยิ่งเล่าไป อั้มกับคิราระก็ยิ่งสงสารกระแต


แต่แล้วอั้มก็สงสัยอะไรบางอย่างขึ้นมา ที่บาคุบอกว่าติดตามนายน้อยมา ทำไมบาคุติดตามริวกะได้ล่ะ


[ อั้ม ]  :  ทำไมทีพวก พี่ยามิยังติดตามริวกะในตอนนั้นไม่ได้เลยล่ะ แล้วทำไมบาคุถึงทำได้ล่ะ


[ บาคุ ]  :  ก็เพราะเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับนายน้อย  ทำให้นายน้อยตกอยู่กับช่วงที่เลวร้าย ตัวข้าจึงได้รับมอบหมายให้เป็นข้ารับใช้ประจำตัวของนายน้อย


บาคุยังเล่าต่อไปว่า ในตัวเขามีพันธะสัญญาเลือดของนายน้อยด้วย เท่ากับว่าบาคุเป็นทั้งสัตว์เลี้ยง เป็นทั้งภูติประจำตัวของริวกะที่แท้จริง ไม่ใช่ทั้งเหล่าเทนงู และ คาไมทาจิ


[ อั้ม ]  :  อ้าว แล้วงั้น คาไมทาจิล่ะ อย่าบอกนะว่า !!!


[ บาคุ ]  :   ใช่ คาไมทาจิ เป็นภูติประจำตัวของรุ้งพลอย


เอ่าแล้ว !!! มันยังไงกันเนี่ย อย่าว่าแต่อั้มหรือคิราระเลยที่งงเป็นไก่ตาแตก แม้แต่ริวกะเองก็ยังไม่เชื่อเหมือนกัน จริงอยู่ว่าเขารู้ว่าคาไมทาจิ รักรุ้งพลอยมากๆ แต่ก็ไม่นึกว่าจะถึงขั้นนี้


[ ริวกะ ]  :  เดี๋ยวดิ่ บาคุ ทำไมเป็นงั้นล่ะ

[ กัปปะ ]  :  ก็พลังของนางตื่นขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อนไงขอรับ


[ ริวกะ]  :  หะ หา !!!  ว่าไงนะ นายเล่ามาให้หมดเลยนะ กัปปะ ไม่งั้นชั้นไม่ให้นายกินแตงกวาแน่


[ กัปปะ ]  :  โอยย อย่าทำแบบนั้นเลยขอรับนายน้อย ข้าได้ขาดใจตายแน่ๆ


[ คิราระ ]  :  เดี๋ยวก่อนเลย ทุกคน มันหมายความว่ายังไงคะ ที่บอกว่าคาไมทาจิ เป็นภูติประจำตัวของพลอย


คิราระคงเป็นคนเดียวจริงๆ ที่ไม่รู้เรื่องนี้ อั้มจึงได้เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับตัวพลอยให้ฟัง พอคิราระได้ฟังก็ตกใจเลยล่ะ เพราะเธอเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าพลอยมีพลังคนทรง


เพราะตัวเธอเองก็มีพันธะสัญญาเลือดของอีกาเช่นกัน หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่าคิราระสามารถควบคุมนกอีกาทุกตัวในเกาะญี่ปุ่นได้ อ่ะกลับมาต่อหลังจากที่รู้เรื่องหมดแล้ว โคฮาคุจึงได้เล่าเรื่องรุ้งพลอยและคาไมทาจิให้ทุกคนฟัง



[ โคฮาคุ ]  :  ก็ในวันที่ท่านคุ้มคลั่งจนควบคุมสติไม่ได้ และคาไมทาจิก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยนั่นแหละขอรับ รุ้งพลอยพยายามตะเกียกตะกายบอกให้ท่านหยุด นางบอกว่าไม่อยากให้ท่านทำร้ายใครอีกแล้ว


โคฮาคุเล่าต่อว่า คาไมทาจิที่กำลังคุ้มคลั่งกลับได้ยินเสียงของรุ้งพลอย และเสียงนั้นทำให้พวกมันสงบลง พวกมันทั้งสามสัมผัสได้ถึงสายใยบางอย่างของรุ้งพลอยที่เชื่อมโยงระหว่างตัวของพวกมันทั้ง 3 และริวกะ


พวกมันจึงได้ทำการเชื่อมต่อจิตใจของรุ้งพลอยเข้ากับตัวของพวกมันทั้งสาม ( เหตุการณ์นี้อยู่ใน Side Story ของพลอยตอนที่ 1 )  ซึ่งผลจากการเชื่อมต่อจิตใจนี้ทำให้พลอยได้ยินเสียงของริวชัดเจน ทำให้รุ้งพลอยได้รู้ว่าริวเจ็บปวดแค่ไหน


และไม่เพียงเท่านั้น มันยังทำให้คาไมทาจิทั้ง 3 รับรู้ถึงจิตใจของพลอยอีกด้วย พวกมันเห็นแล้วว่าพลอยมีความสำคัญกับริว และในอนาคตพลอยจะต้องช่วยปลดปล่อยริวจากความผิดบาปได้

อิทาจิจึงเฉือนเข้าที่แขนของพลอยจนเลือดออกและรับเลือดนั้นมาดื่ม จนครบ 3 ตนและปิดปากแผลให้พลอยทันที แต่ด้วยพลังของแฝงของพลอยจึงทำให้ทั้งสามนั้นเชื่อมต่อกับวิญญาณของพลอยโดยสมบูรณ์


ถึงแม้จะไม่ได้ทำพันธะสัญญาอย่างเป็นทางการ แต่ครึ่งหนึ่งของพวกมันก็ได้กลายเป็นภูติประจำตัวของรุ้งพลอยเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าอีกครึ่งก็เป็นของริวกะเช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมริวยังสามารถเรียกคาไมทาจิได้


ทั้งๆที่โคฮาคุบอกว่าคาไมทาจิเป็นภูติประจำตัวของพลอย


[ ริวกะ ]  :  อื้อหือ แล้วแบบนี้จะเป็นยังไงต่อไปล่ะ บาคุ


[ บาคุ ]  :  ก็ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้นขอรับ จริงอยู่ว่าคาไมทาจิเป็นภูติประจำตัวของรุ้งพลอย แต่ก็ไม่สามารถอยู่กับรุ้งพลอยได้ตลอดเวลา คาไมทาจิถูกลงทัณฑ์จากบาปแห่งการพรากชีวิตด้วยการลดทอนอายุไข จำกัดพลัง และ กักบริเวณ ไม่สามารถออกจากแผ่นดินแห่งอิซานางิได้เกิน 24 ชั่วโมง


บาคุเล่าทุกอย่างให้ทุกๆคนฟังอีกครั้ง ริวกะเองก็ถอนหายใจดังเฮ้ออออ ก่อนที่จะเดินออกมานอกห้อง ตกลงสรุปว่าคืนนั้นอั้มและคิราระ จะช่วยกันดูแลกระแตที่ยังหลับอยู่


ส่วนพวกริวกะก็พากันเดินออกมาข้างนอก เพื่อคุยกันต่อว่าจะเอาไงต่อไป


[ ริวกะ ]  :  เอ้อ โคฮาคุ นายจะไปดู คาเสะมารุหมายเลข 2 มั้ยล่ะ


[ โคฮาคุ ]  :  หะ หา !!!  หมายเลข2 เหรอขอรับ


[ ริวกะ ]  :  ใช่ คุณกระแตเขาประกอบขึ้นมาใหม่เลย ชั้นอยากให้นายเห็นระบบภายในมาก โคตรเจ๋งเลย


[ โคฮาคุ ]  :  ไปขอรับๆๆๆๆๆ


1 คนและ 3 ตน พากันเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าและโดดลงมาจากตึก 10 ชั้นทันที เพราะถ้าลงไปตอนนี้ คงวุ่นวายทั้งคอนโด เพราะว่าริวกะไม่ได้แจ้งว่าจะมีคนมาหา ถ้าลงมาแล้วพนักงานเห็นว่ากัปปะและโคฮาคุลงมาด้วย คงจะวุ่นวายเลยล่ะ


หลังจากลงมาแล้วทั้งหมดก็พากันเดินไปที่โรงจอดรถทันที แน่นอนว่ากัปปะไม่ได้สนใจอะไรนัก เขากระโดดลงบ่อน้ำข้างๆแทน บาคุเองก็เช่นกัน เขาก็ไปนอนเล่นใกล้ๆน้ำตกข้างๆบ่อน้ำเหมือนกัน


แต่โคฮาคุนี่สิ่ พอได้เห็นรถแล้วก็ตาโต ตื่นเต้นไปหมดเลย

[ โคฮาคุ ]  :   สุ สุ สุดยอดเลยขอรับนายน้อย คุณกระแตทำเองหมดเลยเหรอครับ


[ ริวกะ ]  :  ชั้นว่าพวกระบบซอฟแวร์ ECU ระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ คุณกระแตพัฒนาต่อยอดด้วยตัวเองนะ นายดูนี่ดิ่

[ โคฮาคุ ]  :  นี่มันระบบ โมโตจีพี นี่ขอรับ

ริวกะชีให้ดูที่หน้าตัวหน้าเรือนไมล์ ตรงแฮนด์  มันมีปุ่มหลากสีเลย ซึ่งโคฮาคุรู้ดีว่ามันคืออะไร มีทั้งปุ่ม พิทเลน ระบบจอดรถอัตโนมัติ ไหนจะเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนอีก เรียกได้ว่าโคฮาคุผู้ที่ประกอบ คาเสะมารุออริจินอล ถึงกับตะลึงเลย



[ โคฮาคุ ]  :  โห นี่นาง ทำแฟริ่งใหม่เลยเหรอขอรับนายน้อย


[ ริวกะ ]  :  ใช่ คุณกระแตเขาบอกว่า เมืองไทยรถมันติดดว่าที่บ้านเรา เขาเลยออกแบบแฟริ่งให้เพรียวหน่อย แต่ก็ไม่กระทบกับหลักพลศาสตร์น่ะนะ นายดูนี่ดิ่ ระบบ AI ตัวใหม่


ทันใดนั้นริวกะก็พูดขึ้นว่า คาเสะมารุ ซิสเตมุออน ซึ่งทับศัพท์ตรงๆคือ คาเสะมารุ ซิสเต็มออน มันเป็นคำสั่งดั้งเดิมเพื่อเปิดใช้ GPS ดาวเทียมของอิซานางิ กรุ๊ป

ทันทีที่ภาพโฮโลแกรม 3 มิติ ปรากฏขึ้นมา โคฮาคุนี่ตะลึงเลย เพราะมันทั้งชัด ทั้งละเอียดมากๆ โคฮาคุชมกระแตไม่หยุดปากเลยว่าฝีมือสุดยอดดดด

และไม่เพียงเท่านั้นโคฮาคุก็ยังได้ลองยกตัวรถขึ้นอีก เขาบอกว่าทำไมทั้งๆที่ติดอุปกรณ์มากขนาดนี้ น้ำหนักถึงไม่ได้ดูมากกว่าคาเสะมารุออริจินอลเลย


[ ริวกะ ]  :  แต่ชั้นว่ามันคล่องตัวมากเลยนะ บิด 180 ก็ยังไม่สั่นเลย เบรคก็นิ่ม


[ โคฮาคุ ]  :  โห !!! นายน้อยขอรับ นี่ใช้ คาลิเปอร์เบรค Brembo T rex เลยเหรอขอรับ ตีเป็นเงินบาท ก็คู่ละ 5 แสนบาทเลยนะขอรับ


[ ริวกะ ]  :  อือ เสียดายตังวุ๊ยยย แล้วพวกดิสเบรคก็หลอมใหม่หมด

โคฮาคุรีบก้มดูที่ตัวดิสเบรคทันที พร้อมกับเคาะก๊อกๆๆๆ จากนั้นเขาก็ตาโตขึ้นมา ราวกับว่าได้เจอกับของดี


[ โคฮาคุ ]  :  ใช้คาร์บอนหลอมนี่ขอรับ หน้ากว้าง 340 มม. ด้วย


โคฮาคุเดินดูรถรอบๆๆๆด้วยความสนใจ นั่นเพราะตัวเขาเองเป็นคนที่ชอบพวกเครื่องยนต์มากๆ ยามิชอบเทคโนโลยีสื่อสาร และอุปกรณ์อิเลคทรอนิค  ฮิคาริชอบเรียนหนังสือใฝ่รู้และเก่งวิชาแพทย์


ส่วนโคฮาคุนี่ชอบพวกรถยนต์ และเครื่องยนต์ทุกชนิดบนโลก ทำให้ทุกครั้งที่ริวกะอัญเชิญโนบุนากะออกมา เขามักจะนั่งเสวนาถึงการพัฒนาของยานยนต์ในแต่ละยุคเสมอๆๆ

หลังจากที่ดูทั้งหมดจนหนำใจแล้ว ทั้งคู่ก็พากันเดินออกมาจากโรงเก็บรถ และแน่นอนว่าริวกะก็ไม่ลืมที่จะเปิดตู้เย็นหยิบแตงกวาที่แช่ไว้ออกมาด้วย ( โรงรถมีทุกอย่าง )


[ ริวกะ ]  :  เอ้า !!!  กัปปะ บาคุ รับนะ

ริวกะพูดและโยนให้ทั้งสองคนทันที ไม่ใช่เพียงกัปปะเท่านั้นที่ชื่นชอบแตงกวา แต่บาคุเองก็เช่นกัน แต่บาคุนั้นกินได้ทุกอย่างนะถ้าพูดกันจริงๆ ทั้ง 2 กระโดดคว้าได้อย่างแม่นยำ

ทั้งคู่พากันกินผักกรอบๆๆอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนริวกะนั้นก็ยังคงยืนคุยกับโคฮาคุอยู่เช่นเดิม




[ ริวกะ ]  :  เฮ้อออ วันนี้ยังไม่ได้วิ่งออกกำลังกายเลย แฮะ มีแต่เรื่องทั้งวัน อื๊ดดดดด


[ โคฮาคุ ]  :  ท่านคงไม่ได้หยุด การฝึกซ้อมตามตารางที่ข้าให้ไว้นะขอรับนายน้อย


[ ริวกะ ]  :  โห้ !!!  ไว้ใจได้เลย ชั้นไม่ขาดการซ้อมแน่ๆ จะลองไหมล่ะ


[ โคฮาคุ ]  :  ว่าไปแล้ว พวกเราก็ไม่ได้ปะมือกันมานานแล้วนะขอรับนายน้อย


[ ริวกะ ]  :  จัดมาดิ่พี่ชายยย ก่อนไปภูเขาวาตะ มาซัดกันก่อนมา


เอ๊า !!!  อยู่ดีๆก็จะซัดกันซะแล้วไอ้พี่น้องคู่นี้ ทันทีที่ทั้งคู่บอกว่าจะซัดกัน บาคุก็ปลดปล่อยพลังบางอย่างออกมา มันเป็นเหมือนหมอกจางๆปกคลุมไปทั่วบริเวณ


สายลมก็พัดเร็วขึ้นแรงขึ้น นั่นเพราะทั้งริวกะและโคฮาคุ กำลังใช้จิตข่มกันอยู่นั่นเอง นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้นจริงเหรอ พายุมันก็พัดโหมแรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น จนกระทั่ง ฟุ่บ ฟุ้บบบบ



ทั้งคู่แดชเข้าหากันอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง !!!  ริวกะหมุนตัวเตะด้วยความเร็งสูงด้วย Spinning Back Kick



แต่โคฮาคุก็หลบได้อย่างง่ายดาย และเตะสวนกลับด้วย Spinning Back Kick เข้ากกหูริวกะเต็มๆ



ปั้ก !!!  ริวกะยังโชคดีที่ยกมือขึ้นมากันไว้ได้ เขาจึงยังไม่ร่วงทันที ริวกะคิดในใจว่า ถ้าเอาคาราเต้มาสู้ สงสัยจะไม่ไหว ริวกะจึงตั้งท่ามาเป็นมวยไทยแทน


[ โคฮาคุ ]  :  แน่ใจเหรอขอรับนายน้อย คาราเต้ที่ท่านชำนาญ ยังทำอะไรข้าไม่ได้ นี่ท่านจะใช้มวยไทย ที่ท่านรู้ไม่ถึงครึ่งมาสู้กับข้าเหรอขอรับ


[ ริวกะ ]  :  ไม่ลองไม่รู้


วื๊ดดดด ริวกะพุ่งใส่โคฮาคุและกระโดดเข่าลอยใส่อย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นความเร็วปกติโคฮาคุคงหลบได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป ริวกะเหมือนจะเร็วขึ้นกว่าเดิม เปรี้ยง !!!  เขาลอยพุ่งโดนโคฮาคุเต็มๆ ถึงจะบล็อกเอาไว้ได้ แต่ก็ถึงขั้นกระเด็น


[ โคฮาคุ ]  :  แค่กๆๆ ทำไมเร็วขึ้นกว่าเดิมกัน


วื๊ดดด ผัวะ ๆ ๆ ๆ ริวกะไม่รอจังหวะตั้งการ์ดย่างเข้าใส่โคฮาคุ เตะซ้าย เตะขวา โคฮาคุรับไว้ได้หมด เขาเตะก้านคอสวนใส่ แต่ริวกะก็เอี้ยวตัวหลบได้ และนี่แหละจังหวะที่รอค่อย ริวกะ สาวหมัดความเร็วสูงเข้าหน้า 1 ลำตัว 1  และเตะตัดขาไปอีกที



ปั้ก ปั้ก เปรี้ยง !!! โคฮาคุก็โดนบ้างแล้วตอนนี้ เขาถึงกับเซตามแรงต่อยเลย พี่น้องคู่นี้แม่งเล่นกันหนักจริงๆครับ ริวกะพุ่งตามไปเตะซ้ำ ด้วยจระเข้ฟาดหาง แต่โคฮาคุกลับเตะกลับหลังสวน ด้วยท่า อุระ มาวาชิ เกริ



แน่นอนครับ จังหวะของโคฮาคุดีกว่า ริวกะโดนเต็มตีนเลย เปรี้ยง !!!  ริวกะหมุนตัวตามแรงเตะทันที ไม่งั้นล่ะก็สลบแน่ๆ ตึ้ง !!!  ร่างของริวกะร่วงลงพื้นอย่างสวยงาม หลังกระแทกพื้นดังอั้ก

[ ริวกะ ]  :  โอยยย เท้านายไวเกินไปนะโคฮาคุ

[ โคฮาคุ ]  :  ท่านช้าเองขอรับ

ฟู่วว !!!  โคฮาคุเป็นฝ่ายบุกเองบ้าง เขาพุ่งเข้าหาต่อย ซ้ายขวา ซ้ายขวา ราวกับพายุ ริวกะก็หลบไปหน้าเสียไป เพราะแต่ละหมัดนี่ ถ้าโดนไปล่ะก็หลับแน่นอน ปึ้ก ปึ้ก ปึ้ก ริวกะบล็อคหมัดของโคฮาคุอย่างรวดเร็ว


จังหวะนั้นเอง หมัดตรงเซเคน ซึกิ ถูกต่อยออกมา ริวกะก็จ้องจับจังหวะ ปัดออกจนโคฮาคุเปิดช่องว่างเต็มๆ เปรี้ยง !!!  ริวกะฟาดศอกกดลงเต็มๆ มันคือแม่ไม้มวยบไทยที่ชื่อสักพวกมาลัย




ริวกะไม่รอช้าพุ่งเข้าใส่โคฮาคุทันที เปรี้ยง !!!  เขาซัดหมัด2 ข้างพร้อมกันเข้าใส่โคฮาคุ หมัดขวาเข้าท้อง หมัดซ้ายเขาปลายคาง ถ้าเป็นคาราเต้ มันจะถูกเรียกว่า ยามะ ซึกิ แต่ถ้าเป็นท่วงท่าของมวยไทยแล้ว ชื่อที่ถูกบัญญัติให้ท่านี้คือ


[ ริวกะ ]  :  นาคาพ่นไฟ



ริวกะใช้แม่ไม้สักพวกมาลัย และต่อด้วยนาคาพ่นไฟ จนเทนงูหนุ่มถึงกับเซไปเลย แต่แค่นั้นก็ทำอะไรโคฮาคุไม่ได้จริงๆ  ดูเหมือนว่าการวอร์มอัพจะจบลงแล้ว


โคฮาคุยืนตระหง่านขึ้นมาต่อหน้าของริวกะ สายลมรอบๆตัวเขานั้นพัดไปมาอย่างผิดปกติ มันดูมันเหมือนลมพายุทั่วไป และพอมองไปตรงหน้า โคฮาคุก็ยิ้มทันที เพราะตอนนี้รอบๆร่างกายของริวกะ


กำลังลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงสีส้ม แบบนี้นี่เอง ทำไมเข่าลอยเมื่อกี้ถึงได้เร็วกว่าปกติ เพราะริวกะใช้ไฟในการช่วยส่งตัวนั่นเอง โคฮาคุตั้งท่าต่อสู้เต็มรูปแบบอีกครั้ง ถ้าคราวนี้เขาไม่เอาจริงล่ะก็


อาจจะได้แผลไฟไหม้กลับไปอวดท่านแม่ที่หุบเขาวาตะก็เป็นได้ ส่วนริวกะก็เตรียมตัวบวกเช่นกัน เขารู้ดีว่า ถ้าไม่เอาจริง เขาคงยืนสู้กับโคฮาคุไม่ถึง 5 นาทีแน่ๆ ริวกะสะบัดมือไปรอบตัวอีกครั้งและเตรียมพุ่งเข้าโจมตีด้วยเปลวเพลิงของเขา



[ ริวกะ ] :  เอ็นไค -  บัญญัติเปลวอัคคี




lnw007


El cazador


Nekken13



Thekid34



wangdora29