ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สัพเพเหระหลากหลาย... 1-9

เริ่มโดย bang737, กุมภาพันธ์ 27, 2011, 03:55:19 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

bang737

สัพเพเหระหลากหลาย... 1-9   
13 Aug 2007

สัพเพเหระหลากหลาย... 1
แก้ขัดไปพลางๆก่อน ตราบฯยังอีกนานน่ะ


"หน้าที่!!"

"พวกเราทุกคนต่างมีงานต้องทำทุกคนแล้วนะในงานกีฬาที่จะถึงนี้...ยังเหลือเพียงคนเดียว..."
"หยาดฝน...ยังไม่ได้มีงานรับผิดชอบกับเขาเลย...วันนี้ก็ไม่มาร่วมประชุม..."
"รุ้งช่วยไปตามฝนทีสิ...บางทีอาจอยู่ในห้องคอมฯหรือไม่ก็ร้านค้า..."
...สักพัก...
"พี่สุรีย์พรรณ...ฝนไปไหนล่ะครับ?..."
"ฝนไม่ว่าง...มีอะไรก็บอกมาสิ...พี่จะไปบอกฝนให้เอง"
"แต่ว่า...นี่เป็นงานส่วนรวมนะครับ...ฝนมีธุระอะไรนักหนาทําไมถึงมาไม่ได้?..."
"ก็ฉันมาแทนแล้วนี่ไง...ฝนกำลังเก็บกวาดเศษกระจกเพราะเธอขว้างลูกบอลโดนกระจกห้องพักอาจารย์แตกตอนนี้จึงมาไม่ได้...เป็นหัวหน้าห้องใช่มั้ย?...รู้สึกจะเป็นปัญหาใหญ่โตเหลือเกินกะอีแค่น้องฉันขาดประชุม..."
"ปะ...เปล่าครับ...งะ...งั้นผมขอโทษครับ..."
"ฝนเขามีความรับผิดชอบไม่ลืมหน้าที่หรอก...เธอรู้ดีว่าวันนี้จะต้องเข้าประชุม...พอมาไม่ได้จึงวานให้พี่มาแทน...เธอมีอะไรฝากถึงก็รีบๆบอกมาซะที..."
"โอ้...หัวหน้าห้องใบ้แดกเถียงไม่ออกเลยว่ะ"
"ก็พี่สุรีย์พรรณน่ะธรรมดาซะที่ไหนเล่า...ขนาดพวกปี 4 ยังไม่กล้าหือกับเธอ...ก็วันนั้นไง...พวกพี่ว้ากปี 3 เข้ามาเล่นพวกเราไม่เท่าไหร่โดนพี่เขาสับเละข้อหาลงโทษน้องปี 1 แรงไป...หน้าซีดไปตามๆกันก็คุณเธอเล่นชักดาบจริงออกมาให้ดู...น่ากลัวชิบเป๋ง..."
"งั้นพี่แคทก็ใหญ่สุดในคณะสิวะ..."
...ต่อมา...
"พี่รู้นะว่าฝนจงใจทำ...นิสัยไม่ดีนะเรา...คราวนี้หงุดหงิดอะไรอีกล่ะ?..."
"จงใจขว้างแต่ไม่ได้จงใจให้มันโดนค่ะ...กระจกมันผิดเองที่ดันไปตั้งอยู่ตรงนั้น..."
........................................................................................................................

"แฮ้ป!?..."

"เฮ้อ~~~...เมื่อวันก่อนโดนพี่แคทว่าซะ...แย่จริงๆว่ะ..."
"มึงคงโดนหมายหัวแล้วล่ะมั้ง...ตอนนั้นเธอบอกว่าจะจำหน้าและชื่อ...ตาพี่เขาจ้องมึงเขม็งเชียว"
"อย่าขู่กันสิวะ...แต่ไม่แน่เธออาจจะจำไว้เพราะเกิดสนใจกูก็ได้..."
"ฝันเถอะ...เฮ้ย!!...มึงไปรับข้าวเด้~~...ป่านนี้ป้าน่าจะทำเสร็จแล้ว..."
"อ้าว!!...ป้า...ข้าวที่ผมสั่งไว้ยังไม่ได้อีกเหรอ?...นานแล้วนะเนี่ย..."
"เสร็จตั้งนานแล้ว...ป้าก็วางไว้ตรง...เอ๊ะ?...มันหายไปไหนล่ะ?...เมื่อกี้มันยังอยู่นี่..."
"ผมเพิ่งมาเอาเองนะ...และมันจะหายไปไหนได้ไงเล่าป้า!!..."
(...ตัวการไม่ได้หลบลี้หนีหายไปไหน...นั่งลอยหน้าลอยตาซึ่งๆหน้าอยู่ไม่ห่างนั่นแหละ)
"น้องกินข้าวตั้ง 2 จาน...หมดเหรอ?..."
"ฮี่—ฮี่---ฮี่~~~...จานนี้แบ่งกับพี่คนละครึ่งไง...ป้าเขาใจดีแถมให้เป็นพิเศษจ้า~~..."
............................................................................................................................................

"โทรศัพท์?..."

"ตู้นี้ว่างจ๊ะ...เชิญเลยพี่ชาย..."
"อ้า~~...ขอบใจมากครับน้องสาว..."
(...ใครคนหนึ่งทยอยหยอดเหรียญบาทบ้าง 5 บาทบ้างไปจนถึง 15 บาท...จากนั้นก็คุยจนเสร็จธุระแต่ว่า...)
"อ้าว!!...ไม่มีเสียงเหรียญหล่นคืนมาวะ?...กินไปเลยเหรอเนี่ย...เฮงซวยจริงๆ...อู๊ย~~...น้องสาวรอใครอยู่หรือเปล่าครับ?..."
"รอซื้อน้ำจ๊ะพี่..."
...พอใครคนนั้นหายลับตาไปแล้ว...สาวน้อยลูกเต้าเหล่าใครไม่รู้ก็รีบปฏิบัติงานของเธอทันที...
"ฮิๆๆ...ครั้งนี้จะได้สักกี่บาทน้อ?...อึ๊บๆ...อื้ม!!...ได้มา 6 บาท...เฮ้!!...ครั้งที่ 4 ก็ทะลุเป้า..."
(หล่อนเอาทิชชู่หนาๆยัดไว้ในช่องคืนเหรียญ...เวลาเหรียญตกจึงไม่ได้ยินเสียงกระทบดังแก๊งๆแต่มันดังทึบๆคล้ายว่าเข้าช่องเก็บเหรียญ...ใครคนนั้นผู้ซึ่งเข้าใจผิดก็ดันไม่แหย่นิ้วตรวจดูซะด้วยนะ...พลาด)
"...ถ้าตรวจดูซะแต่แรกพี่ชายก็ไม่หลงกล...ดังนั้นคนเขลาเช่นพี่ชายย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดเช่นฝน...ทีนี้รวมในกระเป๋าอีก 10 บาทก็ซื้อโคคาโคลาดื่มได้ซะที...เหลืออีก 3 บาทก็เอาเก็บไว้โทรหาพี่ซะเล้ย...ฮ่า~ฮ่า~ฮ่า~ฮ่า..."
........................................................................................................................

...ถ้าเป็นคุณ...เมื่อได้พบกับเด็กสาวผู้มีแววตาขี้เล่นซุกซนนิสัยร่าเริงแจ่มใสเป็นครั้งแรก...คุณอาจจะรู้สึกชอบและสนใจเธอขึ้นมาก็ได้...ยิ่งได้เห็นเวลาเธอยิ้มหัวเราะ...คุณจะสามารถมองเห็นเขี้ยวแหลมๆเล็กๆดูน่ารักน่าชังซึ่งมันจะปรากฏออกมาเกือบทุกครั้ง...คุณหนุ่มๆทั้งหลายอาจจะรีบเข้าไปขอทำความรู้จักกับเด็กสาวผู้นี้ให้เร็วก่อนหน้าผู้ใดทีเดียว...นั่นคือพวกคุณ...แต่สำหรับผู้ใกล้ชิดรอบตัวเธอจะไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ๆเพราะมันคือ "ฝันร้าย" ...
..........................................................................................

...นี่เป็นเรื่องราวสั้นๆสนุกสนานเกี่ยวกับชีวิตประจําวันของสาวๆทุกคนที่ส่วนใหญ่จะไม่ได้กล่าวถึงในตราบเท่าที่ยังมีชีวิต...ช่วยอ่านกันหน่อยเถอะนะ...เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องใต้สะดืออย่างเดียว โปรดเข้าใจไว้ด้วยนะครับ...เอ่อ...ถ้าชอบก็บอกนะจะได้เอามาลงแก้ขัดเยอะๆ...รับรองว่าไม่มีใครจะได้รู้มาก่อนยกเว้นท่านที่อ่าน...


สัพเพเหระหลากหลาย... 2
ร่างตอนที่ 17 เสร็จเลยมาโพสฉลอง


หลับหรือตื่น?

...กลางดึกคืนหนึ่ง...
"ฮื่อ~~...ยัยนี่นอนดิ้นจริงๆ...ฝน!!...นอนดีๆสิ..."
"อือ~~~~อะไรกันน๊า~~...สาเนี่ย..."
"ก็เธอนอนดิ้น...กางแขนกางมือปิดหน้าฉันทำไมน่ะ?"
"เออน่า~~..."
...จากนั้นเหตุการณ์ยังเป็นปกติเรื่อยมาจนเกือบค่อนแจ้งก็เกิดเรื่องกับสาวิตรีสาวน้อยผู้โชคร้ายจนได้...
(ตุบๆ...ผัวะ!!!)
"ว้าย~~~~..."
"จั๊บๆ...เอ้ย!!!...ครายเจ๋ง...ก็...เข้า...มา...อืม~~~...ฟรี้~~~~~"
"อูย~~~อูย~~~...ยัยบ้าเอ้ย!!...ถีบมาได้...ฉันตกเตียงนี่เห็นมั้ย!!...แน่ะ!!...ดูไม่ได้เล้ย...เป็นสาวเป็นแส้นอนละเมอน้ำลายไหลยืด...หลับสบายเชียวนะ...โอ่ยๆ~~~...ก้นฉัน...เอวฉันพังหมด...แบบนี้สงสัยนอนด้วยไม่ได้แล้ว..."
...รุ่งเช้า...
"ฮ้าว~~~~...หลับสบายจริงจริ๊ง~~...อ้าว!!...ไหงสาถึงไปนอนตรงนั้นล่ะ?...พื้นมันเย็นนา..."
"ทำไมน่ะรึ?...ก็เธอถีบฉันตกเตียงไงล่ะยะ!!...คนอะไรนอนดิ้นเป็นบ้า...นี่ยังจะมีหน้ามาถามอีกเร๊อะ"
"...!!!..."
(จากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้...ทําให้สาวน้อยสาวิตรีระมัดระวังตัวขึ้นอีกโขทีเดียวถ้าคิดจะเสี่ยงเจ็บตัวนอนเตียงเดียวกับฝน...ดังนั้นในคืนต่อๆมาบางทีเธอก็จะหลบไปห้องนอนแม่...ห้องนอนอ้อย...หรือไม่ก็ห้องนอนของบอล...)
........................................................................................................................

กิน...สวาปาม...รับประทาน...และ...

"บอล!!...แบ่งข้าวโพดต้มให้ฝนบ้างสิ..."
"...อ้า!!...เอาเลย...โห!!...หล่อนเอาไปตั้ง 2 ฝักเชียว?..."
"กินหมดๆ"
(ข้าวโพดต้มฝักใหญ่ 1 และฝักเล็กอีก 1 ...เรียบร้อยโรงเรียนหยาดฝน...)
...อีกราวๆชั่วโมงต่อมา...
"ป้ากวางสั่งพิชซ่ามาถาดเบ้อเริ่มเชียว..."
"ฝนกินซะสิ...เหลือให้คนอื่นด้วยนะจ๊ะ..."
"ขอบคุณค่า~~~..."
(พิชซ่าขนาด 4 คนมันก็มีอยู่ 8 ชิ้น...สาวน้อยจอมแก่นจัดการฟาดไป 2 ...)
...อีกราวๆชั่วโมงต่อจากนั้น...
"หนูอ้อยจะทำสปาเก็ตตี้หรอ?..."
"ค่ะ...พี่ฝนจะกินด้วยมั้ยคะ?..."
"กินจิๆ...ไม่พลาดอยู่แล้ว...งั้นพี่ช่วยทำนะ..."
(สปาเก็ตตี้ 1 จาน...สาวเขี้ยวซัดหมดเกลี้ยงด้วยความดื้อดึง?...)
...และแล้วก็ถึงมื้อกลางวัน...
"เป็นอะไรไป?...ขนมจีนน้ำเงี้ยวของโปรดน้องไม่ใช่หรือ?...กินซะสิพี่ซื้อมาให้ตั้งเยอะแยะ..."
"โอ้ย~~...ม่ายหวายแล้วพี่...ฝนอืดท้องไปหมด...เอิ้ก!!...ถ้ารู้ว่ากลางวันจะมีหนมจีนน้ำเงี้ยว...น้องจะไม่ยอมกินอะไรซะก็ดีไปแล้ว...ฮือ~~~ฮือ~~~"
(เวลานี้ทำมาโอดครวญ...ประเดี๋ยวตีตาย...)
........................................................................................................................


สัพเพเหระหลากหลาย... 3
อ่านเถิดแล้วจะได้รู้จักฝนก่อนใคร


"จ้องตา"

"สา...เรามาแข่งจ้องตากัน...ใครแพ้เลี้ยงโค้ก..."
"เอาอีกแระ?...คราวก่อนเธอก็แพ้ไปหยกๆ..."
"คราวนี้ฝนไม่แพ้หรอกน่า..."
"เอ้า!!...มา..."
...ฝน VS สา...
(เวลาผ่านไปเกือบ 3 นาที)...
"โอ่ย~~~...ปวดตาๆ...สายอมแพ้แล้ว..."
"หึๆๆ...ใช้ได้นี่...ฝนเองก็เกือบแย่...อย่าลืมโค้กนะจ๊ะ"
(ฝนชนะยก 1 อย่างขาวสะอาด)
........................................................................................................................

จ้องตา 2

"หนูอ้อยมาเล่นจ้องตากัน..."
"แต่ว่า..."
"แป๊ปเดียวๆ..."
"...งั้นก็ได้ค่ะ..."
...ฝน VS อ้อย...
( ผ่านไปเกือบ 5 นาที...ยังไม่รู้แพ้รู้ชนะกันอีก...หนูอ้อยสมาธิดีจริงๆ...ถ้าอย่างงั้นเราต้อง...)
"อุ!!...ฮิๆๆ...พี่ฝนทำอะไรเนี่ย?...อย่าสิคะ...ฮะๆๆ"
"ฮะๆๆๆ...พี่ชนะแล้ว...หนูอ้อยหัวเราะก็ถือว่าแพ้..."
"แต่พี่จี๋เอวหนูอ่ะ..."
"อ้าว!!...กฎไม่ได้ห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวร่างกายนี่นาแถมตาพี่ก็ยังจ้องหนูอ้อยอยู่...ไปล่ะเน้อ~~..."
(ฝนชนะยก 2 แต่เล่นลูกไม้กับฝ่ายตรงข้าม)
........................................................................................................................

จ้องตา 3

"บอลว่างป่ะจ๊ะ?..."
"ถ้าบอกไม่ว่างล่ะ?..."
"งั้นก็ว่างน่ะสิ...เรามาเล่นจ้องตากันเถอะ..."
"ไม่เอาน่ะ...ตอนนี้ไม่ค่อยสะดวก..."
"มาๆๆ...หืม~~..."
"อะไรนะคนนี้...เออๆ...อยากแข่งนักก็จัดให้"
...ฝน VS บอล...
(อนิจจา...เวลาผ่านไปแค่ 20 วินาทีเองมั้ง...)
"ว้ายๆ!!...คิดอะไรอยู่อ่ะบอลถึงจ้องฝนแบบเนี้ย~~...เค้าเขินน๊าตัวเอง..."
"เฮ้ย!!...จะบ้าเร๊อะ!!...ก็เธอชวนให้เล่นจ้องตา..."
"ฮ่าๆๆๆ...ตกหลุมพรางจนได้...หลบหน้าหนี...ก็หมายความว่านายแพ้แล้ว..."
"เล่นขี้โกงนี่หว่า..."
"ไม่สนๆ...ชนะ 3 ครั้ง...ต่อไปก็บอสใหญ่ซะที...พี่แคท..."
(ฝนชนะยก 3 นี่ก็ใช้ลูกไม้อีก...แต่จะใช้ได้ถึงครั้งที่ 4 หรือไม่?)
........................................................................................................................

จ้องตา 4

"พี่กำลังอ่านหนังสือนะ..."
"ใช้เวลาไม่นานก็รู้ผลแพ้ชนะแล้วค่ะพี่..."
"ไม่รู้จักจำ...แข่งจ้องตากันกี่ครั้งๆ...ฝนก็แพ้พี่ตลอด..."
"ไม่มีทาง...ฝนจะไม่แพ้พี่ตลอดไปหรอก..."
"ก็...ได้...ต้องนั่งขัดสมาธิตัวตรงห้ามเคลื่อนไหวร่างกายเหมือนทุกครั้ง...อย่ากลัวจนเผ่นหนีซะล่ะ..."
"ฮี่!!...ก็...ก็ยังไหว...คราวนี้ฝนต้องชนะ..."
...ฝน VS แคท...
(ศึก 2 พี่น้องเริ่มต้น...เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน...ฝนกลับเป็นฝ่ายเหงื่อแตกซิกทั่วตัว...คิดจะขยับหรือกระพริบตาหนีก็ไม่ได้เพราะรู้สึกเหมือนถูกสายตาอันแหลมคมปานสายฟ้าของพี่สาวสะกดไว้ทั้งร่าง...ถ้าทำอย่างใจคิดก็หมายถึงแพ้ทันที)
"...................................."
(หูว!!...เอาจริงนี่หว่า...สมาธิแน่วแน่มั่นคงเป็นเลิศจริงๆ...ไม่ขยับเขยื้อนตัวเลยสักแอะ...ขนาดลูกตาก็ยังไม่มีขยับสักนิด...ยิ่งจ้องก็ยิ่งน่ากลัว?...ประกายคมกริบมองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเรางั้นแหละ...ฝนเป็นน้องสาวพี่น๊า~~...ไม่ใช่ศัตรูสักหน่อย...)
...ฝนไม่ยอมแพ้ง่ายๆพยายามจ้องตาตอบโต้ส่วนแคทก็คิดในใจว่าอยากอ่านหนังสือเร็วๆเพราะมีสอบย่อยพรุ่งนี้...เสียเวลากับฝนมากไปซะแล้ว...เอาล่ะ!!...ให้มันรู้ผลกันซะที...
(...ต่อไปนี้ถ้าจะให้เปรียบเทียบ...ฝนก็เหมือนถูกฟ้าผ่าลงที่กลางศรีษะ!!!...ช็อคตาตั้ง...)
"หวา!!!...นี่พี่...นี่พี่คิดจะฆ่าฝนหรอ?...โอ้ย!!!...กลัวแล้วๆๆ...ฝนจะไม่ชวนพี่เล่นจ้องตาอีกแล้ว...สยองขวัญอะไรอย่างนี้...ยัง...ยังจะจ้องอีก...อยู่...อยู่ไม่ได้...ยอมแพ้แล้ว..."
(ตึงตังๆ!!!...)
"อะไรของเธอ?...แหกปากร้องซะลั่นบ้านเชียว..."
"สา!!...พี่แคท...ประกายตาของพี่น่ากลัวน่าสยดสยองจริงๆ...อย่างกับตานังมารหรือไม่ก็ตาผีร้ายแน่ะ...ลุกวาว...จ้องเขม็งเต็มไปด้วยแรงอาฆาต...แผ่รังสีอำมหิต...โอ้ย!!...รุนแรงเหลือเกิน...แค้นเคืองอะไรเรานักหนาเนี่ย?...แค่ชวนเล่นจ้องตาเท่านั้นเอง..."
(เกมส์จ้องตายกที่ 4 นี้ฝนแพ้พี่สาวหมดรูปและเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่แคทชนะ?...)
"ว้าก!!!...มาอีกแล้ว!!...นี่ยังตามออกมานอกห้องด้วยเร๊อะ...ยังไง...ยังไงฝนก็วิ่งเร็วกว่า...พี่แคทตามไม่ทันเด็ดๆ"
"พี่คะ...มันเรื่องอะไรกัน?"
"พี่คงเอาจริงมากไปหน่อยน่ะสา...เด็กนั่นต้องเอาให้เข็ดซะบ้าง...วันๆสรรหาแต่เรื่องไร้สาระ...หนังสือตำราเรียนไม่ค่อยจะยอมอ่าน"
........................................................................................................................

...ฝนจ้องตาสู้พี่แคทไม่ได้เพราะระดับของการฝึกจิตมันต่างกันหรือก็คือไม่ว่าฝนจะเก่งยังไงแต่ก็มีบางเรื่องที่ไม่เคยเอาชนะพี่สาวตัวเองได้เลย...จงพยายามต่อไปเถิด...
........................................................................................................................

รู้มาจากแม่ (เด็กดีอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง??)

"ทำอะไร?..."
"ว้าย!!...พี่!!...ฝน...เปล่าทำ..."
"จะจริงเร้อ~~...ตู้โทรศัพท์ตั้ง 3 ตู้...เก็บได้กี่บาทล่ะน้องรัก?..."
"ได้ไม่...เอ้ย!!...ป่าวนะ...หนูไม่รู้เรื่อง...กึ๋ย!!..."
(กริ๊งๆ~~)...ไม่ต้องสงสัย...มันก็คือเสียงเหรียญหล่นจากมือร่วงตกลงสู่พื้น...
"หนูไม่รู้เรื่อง...แล้วนี่มันอะไรจ๊ะ?...อืม...ช่องคืนเหรียญ...มีทิชชู่อุดทั้ง 3 เครื่อง..."
"แหะๆ...แหะ...พี่จ๋า...อย่ามองหนูอย่างงั้นจิ..."
"...เลิกทีได้มั้ย?...ไอ้นิสัยแบบนี้...เงินพี่ก็ให้น้องใช้ไม่มีขาดมือแล้วยังจะมา...มันไม่ต่างอะไรกับขโมยเลยนะ"
"โฮๆ~~...ถ้าคนโทรรู้จักตรวจตราเขาก็ไม่หลงกลน่ะนิเนอะและใช่ว่าฝนจะเก็บเกี่ยวได้ทุกครั้งสักหน่อย..."
"ยังจะเถียงอีก!!...เรานี่ตอนเด็กก็ทำโตมาก็ไม่ยอมเลิก...พี่จะโทรบอกแม่เดี๋ยวนี้แหละ..."
"ฮึ~ฮึ~...ฝนไม่มีทางโดนดุหรอกเพราะแม่ก็เคยทำแบบนี้ขณะยังสาวและฝนรู้วิธีก็เพราะแม่สอน..."
"...ยังจะเถียงคำไม่ตกฟากอีกเหรอ?...ไม่ต้องเอาคุณแม่มาอ้าง!!...งั้นพี่จะฟ้องคุณพ่อแทนล่ะกัน..."
"ว้าก!!...ยะ...อย่านะ!!...พ่อเคยห้ามหลายครั้งแถมคาดโทษไว้ด้วย...ถ้าพี่บอกฝนได้มีหวังโดนตีตายแน่...ฮื่อ~~...เลิกก็ได้ๆ...แต่เงินนี่...ของฝนน๊ะ!!..."
"...คุณพ่อรู้เข้าคงโมโหน่าดู...เพราะเป็นตำรวจผู้ผดุงความยุติธรรมแต่ดันมีลูกสาวจอมเจ้าเล่ห์ชอบแฮ้ปเงินทอนตู้โทรศัพท์...อย่างตู้ใกล้ๆบ้านโน้น...หลังเลิกเรียนหรือวันหยุดน้องจะต้องหาเวลาคอยซุ่มแอบเฝ้ามองคนมาใช้...ไม่ก็ขึ้นไปหลบดูอยู่บนต้นไม้หน้าบ้าน...จริงมั้ย?"
"...ไม่เถียง...ก็แค่เล่นสนุกๆค่ะ...ตอนนั้นพอได้เงินมาฝนก็เอาไปซื้อขนมเลี้ยงเด็กข้างบ้านเสมอนี่นา...พี่ก็รู้..."
"แต่วิธีนี้มันไม่ถูกต้อง...คุณแม่ตอนยังสาวๆกับเราตอนนี้นี่นิสัยเหมือนกันอย่างกับแกะ...แสบพอกัน"
"หุๆ...นิสัยเถรตรงทื่อๆของพี่ก็เหมือนคุณพ่อแหละน่า...โธ่เอ้ยๆ~~...ก็เพราะคุณแม่ตอนยังสาวๆชอบทำแบบนี้จนวันหนึ่งได้พบรักกับนักเรียนนายร้อยตำรวจหนุ่มหน้าตาหล่อเฟี้ยวเฉี่ยวสลบอย่างคุณพ่อไงเล่าคะ...รักแรกพบอันแสนหวานแหววด้วยล่ะเอ้อ..."
"ยังไงก็ช่าง...พี่ขอสั่งให้เลิกอีแบบนี้เด็ดขาด...นี่ยังอยู่ในมหาวิทยาลัยถ้ามีอาจารย์รู้น้องถูกลงโทษแน่และเวลาอยู่นอกบ้านช่วยลดความก๋ากั๋นให้มันน้อยๆลงหน่อยเถอะ..."
(พี่กับน้องคู่นี้ต่างคนต่างก็รู้นิสัยกันดีอยู่...ถ้าพี่แคทจะขอให้ฝนเลิกเป็นโจรแฮ้ปเงินทอน...สู้ตัวเองหัดทำกับข้าวให้เก่งยังจะง่ายกว่าเยอะ)
..................................................................................................

...แอบฉกอาหารคนอื่น...แฮ้ปเงินทอนตู้โทรศัพท์...นอนดิ้นถีบคนตกเตียง...กินจุแบบไม่กลัวอ้วน...รวมกับตอนนี้จะทราบข้อมูลของฝนเพิ่มเติมอีกข้อคือปีนต้นไม้เก่งอย่างไม่น่าเชื่อ(เพื่อแอบซุ่มสังเกตการณ์?)
........................................................................................................................


สัพเพเหระหลากหลาย... 4
ไม่มีตราบฯแต่ก็ไม่เหงา


ผู้ชนะ?

"พอซะทีเหอะ...รู้ตัวผู้ชนะเลิศแล้ว..."
"ยังพี่...นี่คือรอบรอง...ถ้าผมหรือไอ้นี่ชนะก็จะชิงกับพี่ฝน...ยิง!!...โอ๊~~...บ้าเอ้ย!!...พี่น่ะล้างคอรอไว้ได้...นี่!!!...ผีกูนำมึง 1 – 0 ...ไอ้ต้อย!!...รูนีย์ๆ..."
"จนได้ซีโว้ย!!!...อุตส่าห์เซฟจุดโทษได้แล้วเชียวคาห์นของกู...ใกล้หมดเวลาจะยิงตีคืนได้มั้ยเนี่ย?"
"เฮ้อ~~...เด็กหนอเด็ก...ตั้งแต่แข่งกันมาจนเกือบ 4 ชม.ไม่เคยชนะพี่สักนัด...นาย...นาย...และก็นายด้วย...ฝีมือยังไม่ถึงขั้นสักคน...อย่างเก่งก็ยิงได้แค่ลูกเดียว...อ่อนๆ"
"อย่าเล่นสงครามประสาทดีกว่าน่า...ใช้ไม้นี้ไม่ได้ผลหรอก...พี่เตรียมเอาหงส์แดงมารอเลย"
"แต่พี่อยากกลับบ้านเต็มทีง่ะ!!...นี่มัน 6 โมงกว่าแล้วน๊า~~..."
"...ไม่แข่งก็ได้แต่ถ้าพี่กลับก็จะถือว่าเป็นโมฆะ...ของรางวัลนี่พวกผมจะได้แบ่งกัน...อ้อ!!...จ่ายเงินค่าเล่นเกมส์ก่อนไปด้วยนะพี่..."
"ฝันเฟื่องละเจ้าหนู!!...ทั้งขนม,น้ำอัดลม,มันฝรั่งจะต้องตกเป็นของพี่ทั้งหมด...ส่วนค่าเกมส์น้องๆก็ต้องรวมหัวกันจ่ายเพราะพี่คือผู้ชนะตามที่ตกลงกัน...หึ!!...ไปห้องน้ำดีกว่า..."
(เรื่องอะไรจะอยู่ให้เสียเวลาอีก...เจ้าพวกเด็กน้อยเอ๋ย~~...แพ้ไม่รู้จักแพ้...ไม่รู้จักอะไรเป็นอะไรซะแล้ว...พี่นี่แหละเทพีไร้พ่ายแห่งเกมส์วินนิ่งตัวจริง...กระดูกมันคนล่ะเบอร์เฟ้ยไอ้น้อง!!...ในเมื่อเป็นฉะนี้จงช่วยออกค่าเกมส์ให้พี่...ของรางวัลก็มอบให้แด่ผู้ชนะคนนี้เถอะนะจ๊ะหนูๆ...คิกๆๆๆ...ชิ่งโลด...)
...........................
"...แข่งเสร็จแล้วนะพี่~~...หายไปไหนหว่า?"
"กลับไปแล้วมั้ง..."
"ไม่ได้นะเว้ย!!...ค่าเกมส์ตั้ง 80 บาทใครจะจ่ายล่ะ?...กูซื้อขนมเพื่อใช้เป็นเดิมพันไปหมดแล้ว"
"เฮ้ยไอ้จุก!!...เป้ใส่ของกินหาย!!...พี่ฝน...พี่ฝนเอาไปแน่ๆ..."
"ช่วยกันตามหาเร็วสิวะ!!..."
"ผู้หญิงประสาอะไรเนี่ย!!...แย่งขนมเด็กหนีหายจ้อย"
"ไอ้หนูอย่าเพิ่งไป!!...ค่าเกมส์น่ะ...จ่ายมา..."
"ก็ให้พี่ฝนจ่ายสิครับ...เดี๋ยวพวกผมไปตามกลับมา..."
"งั้นอยู่นี่ซะคนหนึ่ง...จะหนีหายไปหมดไม่ได้...แล้วอย่าช้านะ"
"กุด!!...มึงอยู่นี่ล่ะกัน...หนอย!!...แอบออกทางด้านหลังร้านใกล้ห้องน้ำนี่เอง..."
"เอ็งรู้จักบ้านพี่เขาป่ะ?..."
"ก็พอรู้..."
...2 สหายเด็กน้อยชั้นประถมท้ายซอยรวมพลังไล่ล่าสาวแสบนักศึกษาซึ่งตอนนี้สะพายเป้วิ่งตะบึ่งมุ่งหน้ากลับบ้านในระยะทางเกือบ 300 เมตร...พี่แคทอยู่บริเวณสนามหญ้ากำลังฝึกซ้อมใช้ดาบไม้หวดฟาดลมพอดี...
"แฮ่กๆ...มะ...ไม่ได้ออกกำลังมานาน...ชะ...ชักเหนื่อยแฮะ...พี่ๆ...ถะ...ถ้ามีใครมาถามถึงหนูก็บอกไม่อยู่นะ..."
"เดี๋ยว!!...นี่มันเรื่องอะไร?...เอาเป้ของใครมา?"
"เหวอ!!...วิ่งตามมาลิบๆ...ไม่มีเวลาบอกแหล่ว~~...เด็กพวกนั้นทำไมรู้ตัวเร็วจริงวุ้ย...ชิ!!...พี่ส่งเป้มาให้ฝนเร็ว!!..."
...ฝนไม่มัวมาตอบคำถามพี่แคทเธอรีบปีนขึ้นต้นขนุนหน้าบ้านเพื่อหลบซ่อนตัว...ทิ้งให้พี่สาวเงยหน้ามองตามอย่างงงๆ...แป๊ปเดียวร่างของสาวซนก็ขึ้นเกือบถึงยอด...คล่องแคล่วว่องไวอย่างกับลิงไม่เปลี่ยนแปลง...
(ก่อเรื่องอะไรมาอีกแหงๆ...แล้วไม่ยอมเข้าบ้าน...ปีนไปอยู่บนต้นไม้ทําไม?...)
........................................................................................................................

...นั่นน่ะสิ...สงสัยน้องสาวเจ๊คงจะคิดว่าบนต้นไม้มันต้องปลอดภัยกว่าในบ้านมั้ง...
........................................................................................................................

กระดูกแขวนคอ?...

"พี่...เห็นพี่ฝนมั้ยครับ?..."
"พวกเธอเป็นใคร?..."
"...จุก...มึงดูสิ...ที่พี่เขาถือมันใช่ดาบซามูไรป่าววะ?..."
"ดาบไม้ไม่ใช่ของจริง...มีคนสติดีที่ไหนจะเอาดาบจริงมาถือร่อนไปร่อนมาเล่า"
"พี่ถามว่ามีธุระอะไรกับฝน...มองหน้าคนอื่นแล้วซุบซิบกันมันเป็นการเสียมารยาทมากนะ..."
"ขอโทษครับ...มะ...ไม่ต้องดุนักก็ได้ครับพี่...คือพี่ฝนเขา..."
...เด็กชาย 2 คนเล่าให้พี่แคทฟังว่าถูกฝนเชิดของรางวัลจากการเล่นเกมส์แต่ในใจต่างก็ยำเกรงผู้ที่ยืนตะหง่านอยู่ตรงหน้าไม่น้อย...ผู้หญิงคนนี้ทําไมมีแววตาดุดันนัก...คงจะเป็นพี่สาวของพี่ฝนแน่ๆเพราะเค้าหน้าคล้ายๆกันแต่สวยกว่า...รูปร่างสูงกว่า...ทรวดทรงก็ดีกว่าด้วย...เสียอยู่อย่างเดียวคือท่าทางดุมากๆ...
"งั้นเองเหรอ...หลอกได้แม้กระทั่งเด็ก...ฝน!!...ลงมาเดี๋ยวนี้..."
"อยู่แถวนี้เหรอครับ?...ตรงไหน?..."
"นั่นไงไอ้ต้อย!!...บนต้นไม้..."
"พี่!!...บอกเค้าทำม้าย~~...แบบนี้ฝนก็เหนื่อยเปล่าน่ะซี่..."
"...วันๆหาแต่เรื่องชวนปวดหัว...กะจะซ้อมฟาดลมให้สบายใจแค่นี้ก็ไม่ได้...รีบลงมารับผิดชอบไอ้ที่ตัวเองก่อเรื่องไว้ซะดีๆ"
"เสียใจ!!...เพราะฝนกินขนมไปเกือบครึ่งแล้วค่ะ...ย่าห์!!..."
(ตุบ!!...)
"ขึ้นไปได้ยังไงวะเนี่ย?...สูงออกอย่างนั้น..."
"พี่จ่ายแทนฝนล่ะกัน...ฝนไม่มีตังค์ติดตัวค่ะ...เอ้า!!...นี่เป้ส่วนของกินไม่ให้..."
"ไม่มีเงินติดกระเป๋าแล้วยังไปเล่นเกมส์!!...นี่จะให้พี่จ่ายแทนด้วย?...เนื้อไม่ได้กิน...หนังก็ไม่ได้รองนั่ง...ยังจะเอากระดูกมาแขวนคอให้พี่..."
"แหะๆ...นิดหน่อยเองจ้า..."
"พี่ฝนกินขนมของเราไปแล้วงั้นพี่ก็จ่ายเงินมาให้ทดแทนล่ะกัน...ผมจะได้ไปจ่ายค่าเล่นเกมส์ด้วย"
"หุบปาก!!...เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาสั่งผู้ใหญ่!!...ฝน...เดี๋ยวเรามีเรื่องต้องคุยกัน..."
...เด็ก 2 คนแทบหุบปากไม่ทันแถมไม่กล้าสบตาได้แต่ก้มหน้าดูดิน...พี่แคทมีเงินติดกระเป๋าอยู่ 500 บาทและก็ไม่มีแบ็งค์ย่อยอื่น...ไม่มีทางเลือก...เธอจึงยื่นส่งแบ็งค์ 500 นั่นไปอย่างช่วยไม่ได้...เด็กชายทั้ง 2 คนรับก่อนรีบจากไปด้วยความเกรงกลัวแต่ก็มีความสุขแฝงอยู่เพราะนอกจากจะได้คืนค่าของรางวัลในการแข่งขันที่ครึ่งหนึ่งไปอยู่ในท้องสาวแสบก็ยังจ่ายเป็นค่าเล่นเกมส์แถมมีเหลือแบ่งกันได้อีกเยอะ...ได้กำไรเห็นๆแต่คนที่ขาดทุนนี่สิ...พอเหลือกันแค่ 2 คน...ฝนรู้แก่ใจดีว่าจะต้องโดนแน่จึงค่อยๆถอยหลังเตรียมเผ่น...พี่แคทเหวี่ยงดาบไม้ฟาดลมวืดวาดก่อนวางพาดบนไหล่...เธอยิ้มกริ่มให้น้องสาวแต่ไม่ได้อารมณ์ดีสักนิด...
"ฮี่ๆ~~...ยิ้ม...แต่ตาขวางเชียว...พี่ซ้อมดาบต่อเถอะนะ...ฝนไม่รบกวนแล้วล่ะ...ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ..."
"ยังไปไหนไม่ได้!!!...อ๊ะ!!...บอกจะอาบน้ำแต่หนีออกนอกบ้าน...หยุดเดี๋ยวนี้!!..."
"หยุดให้โง่เร๊อะพี่!!..."
"จับได้จะตีให้น่าดู!!...หนีไม่รอดหรอก..."
...พี่กับน้องสวมบทตำรวจกับผู้ร้ายเล่นไล่จับกันส่วนสมาชิกภายในบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด...
"พี่แคทกับฝนเป็นแบบนี้ประจำเลยนะแม่...ทะเลาะกันได้ทุกวี่ทุกวัน..."
"เรื่องปกติ...ครั้งนี้สาก็ถือซะว่าพวกเธอไปออกกำลังกายก่อนอาหารมื้อเย็นล่ะกัน..."
...เรื่องปกติ?...แต่มีบ้านไหนเขาจะทำแบบนี้กันบ้าง...ฝนวิ่งหน้าตั้งหนีไปตามทางออกถนนใหญ่...พี่แคทก็ไม่ยอมแพ้ถือดาบไม้ไล่กวดไม่ลดละ...งานนี้หมายมั่นปั้นมือขอเคาะหัวน้องสาวจอมซนแก้โมโหแต่อาจจับตัวไม่ได้ซึ่งนอกจากว่าฝนจะเหนื่อยหยุดให้จับเอง...สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเธอวิ่งได้เร็วกว่าพี่แคท...นี่คือความสามารถอย่างหนึ่งที่ฝนเหนือกว่าพี่สาวก็เป็นได้นะ...
........................................................................................................................

(ผมคงจะยาวเกินไปมั้งพี่แคท?...ความเร็วจึงได้ไม่เต็มที่)
........................................................................................................................


สัพเพเหระหลากหลาย... 5
รู้ไว้น่ะดีแล้ว


หายเกลี้ยง?...

"อุแหวะ!!...แค่กๆ...วิ่งจากร้าน...ถึงบ้าน...ยัง...ยังโดนพี่ไล่กวด...ออกมาอีก...มะ...ม่ายหวาย...
อุ๊!!...จะอ้วก...นี่วิ่งได้สัก...600 - 700 เมตรล่ะมั้งเนี่ย?"
...พะ...พี่วิ่งเร็วขึ้นนะ...มันไม่เกี่ยวกับเราวิ่งมาก่อนหรอก...เคยซ้อมวิ่ง 400 เมตรหลายรอบก็ยังไม่ค่อยจะรู้สึกเหนื่อย...วันนี้แค่ราว 300 เมตรจากร้านเกมส์ถึงบ้านกลับหอบแฮ่กๆ...แอวะ!!...
คงเพราะร้างสนามไปนานนี่เอง...
"เป็นไง!!...หมด...แรง...แล้วสิ...งั้นก็...ได้เวลาเจ็บ..."
"แว้ก!!!..."
"หยุด!...ตรงนั้นแหละ...อย่าขยับ..."
...ตาย...คราวนี้เราต้องตายแหงๆ...พี่แคทโดดจากรั้ว...หมายความว่าวิ่งลัดเลาะตัดเข้าบ้านคนอื่นเพื่อดักหน้ากันเชียวรึ?...ไม่ยอมหรอกน่ะ...ยังไงก็ต้องหนีให้พ้น...แต่ว่า...แค่สมองสั่งให้ก้าวขาก็มีเสียงห้าม...
"หยุด!!...น้องหยุดได้แล้ว...พี่...พี่...ก็วิ่งไม่ไหว...จะเป็นลม..."
...อ้าว!!...เป็นงั้นไป...พี่สาวคนสวยโดดลงถึงพื้นก็หมดท่าทรุดนั่งแผละทิ้งดาบไม้ลงข้างตัว...ท่าทางจะไม่ล้อเล่นซะด้วยเพราะหน้ามีแต่เหงื่อเม็ดโตๆ...หายใจก็เร็ว...หมดสิ้นซึ่งหญิงสาวมาดนิ่งใจเย็น...หายเกลี้ยงซึ่งความสวยใสเปล่งปลั่ง...
"สวนนี่ไกลจากบ้านมากนะคะ...วิ่งข้ามสะพานมาทั้งคู่...พี่นี่ก็อึดไม่เบา...อยากเขกหัวหนูนักหรอ?"
"...แม้แต่แรงจะยืนยังไม่ค่อยมี...ไม่เขกหัวหรือทำอะไรแล้ว...ขอนอนล่ะกัน..."
"พักด้วยๆ"
...พี่แคทพูดเสียงแหบโหยขาดเป็นช่วงๆอย่างไม่เคยเห็นมานานโข...หายากมากที่เธอจะอยู่ในสภาพนี้...ไม่นั่งเปล่าแต่ล้มตัวนอนหงายเหยียดแบบไม่กลัวเปื้อน...อืม...บ้านฝนเรียกว่าหมดสมรรถภาพ...ช่วยพยุงกันและกันจนถึงริมตลิ่งแม่น้ำก็ถือโอกาสพัก...อากาศช่างเย็นสบาย...ลมพัดเอื่อยๆพาให้ร่างกายผ่อนคลายจิตใจสงบ...ฝนนั่งห้อยขาให้พี่แคทนอนหนุนตัก...มองคนวิ่งออกกำลังกาย...มองรถวิ่งผ่านสะพานสวนไปสวนมาไปตามเรื่องตามราว...
"...ข้าวเย็นพี่ยังไม่ได้กินแถมวิ่งควบปานม้าศึกก็สมควรแก่เหตุล่ะ...อย่างน้อยฝนก็กินขนมรองท้องมาก่อน...งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะค่ะ"
"พี่ขอพักต่ออีกสักหน่อย..."
"อื้อ...เรา 2 คนอยู่ดูพระอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้ากับมองเรือลอยในแม่น้ำก็เข้าท่าดีไม่หยอก...นั่นๆ...กลุ่มเด็กกำลังเล่นน้ำ...ฮะๆ...น่ารักจังเลยพี่..."
"เหมือนกับเราตอนเด็ก...วิ่งโดดลงคลองหลังบ้านเดี๋ยวตูมเดี๋ยวตูม..."
"พี่ก็มักนั่งเงียบๆใต้ต้นไม้ริมตลิ่ง...มีครั้งหนึ่งฝนติดลมเล่นเพลินพี่ก็โดดลงไปลากตัวจนถูกแม่ดุเพราะเปียกน้ำเปียกโคลนกันทั้งคู่"
"ที่พี่อยู่ใกล้ๆก็เพื่อคอยดูแล...เกิดฝนจมน้ำหรือเป็นตะคริวพี่จะได้ช่วยทัน...น้องน่ะเอาแต่เล่นไม่ค่อยจะระมัดระวังตัวเองเลย..."
"ฝนมีความสุขและรู้สึกโชคดีมากที่มีพี่แคทอยู่ใกล้ๆเสมอ...คนอื่นคิดว่าพี่ดุแต่สําหรับฝนมันไม่ใช่เลย...พี่แคทสุดแสนจะใจดีและห่วงใยน้องสาวคนนี้ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดค่ะ...ไม่มีใครจะดีไปกว่าพี่แน่นอน"
"พอน่า...พูดซะทำให้พี่เคลิ้มตัวแทบลอย...เขินนะ...เอาเถอะ...เรื่องเงินพี่ยกให้ฝน...จะไม่ดุไม่ทำอะไรอีกแล้ว..."
........................................................................................................................

...น้อยคนจะรู้...พี่แคทน่ะเธอจะใจดีมากๆกับยอมอ่อนข้อตามใจฝนแค่คนเดียวเท่านั้น...คนอื่นไม่ต้องพูดถึง...หมดสิทธิ์...
........................................................................................................................

แบ่งคนล่ะครึ่ง...

"พี่ยังเหนื่อยอยู่ป่าวจ๊ะ?...ฝนช่วยพยุงนะ..."
"ไม่เป็นไร..."
"อย่าดื้อน่า...มาค่ะ..."
...ถึงพี่สาวจะบอกไม่ต้องแต่ฝนก็เข้าจับแขนพาเดินมุ่งหน้าเข้าร้านอาหาร...แต่คงลืมอะไรไปบางอย่าง...
"พี่ไม่มีเงิน...500 นั่นน่ะใบสุดท้ายแล้ว...กระเป๋าเงินก็ไม่ได้เอามา..."
"ฝนน่าจะพอมี...อืม~~...โอ้!!...โชคดีมีอยู่ 20 ...เอ๋?..."
...อย่างที่สาวน้อยคิด...เงินจำนวนนี้แลกซื้อข้าวได้แค่จานเดียวเท่านั้น...
"ฝนกินซะเถอะ..."
"แล้วพี่ล่ะคะ?...ไม่กินอาหารตรงเวลาระวังเป็นโรคกระเพาะ..."
"ไม่เป็นไรจ๊ะ...พี่พอทนได้...น้องทานให้อิ่มล่ะกัน..."
...ฮื่อ~~...บางครั้งพี่แคทก็ดื้อจริง...ไม่มีทางเด็ดขาด...เรื่องอะไรเราจะสบายเพียงคนเดียวปล่อยให้พี่ทนหิวท้องไส้กิ่วได้เล่า...จากตรงนี้ไปถึงบ้านก็เกือบ 1 กิโลเมตรเชียวนะคะ...ไม่กินตอนนี้มีหวังเป็นลมเป็นแล้งกันพอดี...พี่แคทไม่ใช่มนุษย์เหล็กนะ...
"ไม่ต้องเลยๆ...หนูหยิบช้อนมาอีกอันพร้อมแล้ว...เราจะแบ่งข้าวจานนี้กินกันคนล่ะครึ่งล่ะ..."
...ใครจะรู้สึกยังไงไม่รู้แต่ขณะนี้แคทรู้สึกตื้นตันแทบน้ำตาไหล...พ่อแม่สั่งสอนให้ฝนรู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนอื่น...ไม่นึกไม่ฝันว่าวันนี้ก็ได้มีโอกาสรับรู้ถึงความมีน้ำใจของฝนด้วยตัวเธอเองอีก...
"รู้ว่าแค่ครึ่งเดียวมันไม่พอแต่ฝนก็จะแบ่งให้พี่จริงๆหรือ?..."
"พูดเหมือนเป็นคนอื่นไปได้นะคะ...ฝนไม่ใจร้ายปล่อยให้พี่หิวแทบเป็นลมส่วนตัวเองกินอิ่มท้องได้หรอกค่ะ...ถ้าจะอดเราก็อดด้วยกัน...ถ้าจะอิ่มเราก็อิ่มด้วยกัน...เรามีกันแค่ 2 คนพี่น้องเท่านั้นนี่คะ...มาเถอะพี่...เดี๋ยวมันจะชืดไม่อร่อย"
...แคทไม่อาจจะอดกลั้นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติไว้ได้...ดวงตาเธอก่อเกิดหยดน้ำรินไหลพลางพยักหน้าให้น้องสาวสุดที่รัก...ไม่ใช่ใครจะได้เห็นน้ำตาของแคทได้ง่ายๆโดยเฉพาะหยดน้ำตาแห่งความยินดีและผู้ที่ได้เห็นกับตาก็คือฝนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น...แน่นอนว่าข้าวจานนี้มันคงจะอร่อยที่สุดทั้งในอดีต,ปัจจุบันและอาจรวมถึงอนาคตของพวกเธอ...
"พี่ขา...อ้าม~~~"
...ฝนป้อนข้าวให้แคท...แคทก็อ้าปากรับพร้อมกับต้องเช็ดน้ำตา...
"...แค่นี้ยังถือว่าเล็กน้อยมากๆเมื่อเทียบกับอดีต...ไม่ว่าตัวเองจะหิวยังไงแต่พี่ก็จะไม่ใส่ใจและให้ฝนได้กินก่อน...บางทีอยู่ที่โรงเรียน...ฝนทําเงินหายพี่ก็จะแบ่งเงินให้...ฝนยังรู้ด้วยว่าพอให้มาพี่ก็ไม่มีเงินติดตัวเลย"
"...ตอนนั้น...ฐานะทางบ้านเราก็ใช่ว่ามีกินอะไรมากมาย...พ่ออยู่ต่างจังหวัด...แม่ทำงานที่โรงพยาบาล...บางวันอยู่เวรจนไม่ได้กลับบ้าน...ไม่มีใครทำอาหารให้...ซักผ้าหรือรีดผ้าเราก็ต้องช่วยกันทำ"
"ฝนแอบร้องให้บ่อยๆนะคะเมื่อนึกว่าตัวเองได้กินอิ่มส่วนพี่กลับได้กินแค่นิดเดียวแต่ไม่เคยบอกให้รู้กันเลย...ดังนั้นไม่ต้องห่วงฝนอีกแล้ว...บัดนี้ไปขอให้เราได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขพร้อมๆกันเถอะ"
........................................................................................................................

...ยามนี้เรียกว่าแคททานข้าวทั้งน้ำตาก็ว่าได้ซึ่งไม่ใช่น้ำตาแห่งอารมณ์โศกเศร้าอันใดไม่แต่มันคือน้ำตาแห่งความอบอุ่นจากจิตใจและเป็นสุขล้ำทางความรู้สึกต่างหาก...
........................................................................................................................

ยามค่ำโพล้เพล้...

"กลับบ้านแล้วรีบกินข้าวกันต่อทันทีเนอะพี่เนอะ..."
"ก็รีบเดินเข้าสิ...จะได้ถึงบ้านเร็วๆ"
"ไม่ต้องรีบหรอกพี่...มาเดินไปคุยไปกันดีกว่า..."
...ลำดับจากนี้ไปความหลังอันแสนสนุกสนานในวัยเยาว์มันก็ได้ถูกพรั่งพรูออกมาจากความทรงจำของฝนและแคทซึ่งยังบอกไม่ได้ในที่นี่แต่ที่ผ่านมาทั้งหมดถือเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง...กระนั้นทุกคนคงรับรู้ได้ใช่มั้ย?...ความรักและความผูกผันอย่างแนบแน่นระหว่างเธอทั้ง 2 คนที่ไม่มีอะไรจะมาสั่นคลอนให้หวั่นไหวได้...ฝนเข้าใจแคทยิ่งกว่าใครๆ...แคทก็รู้ใจฝนยิ่งกว่าใครๆเช่นกัน...
"อู๊ย~~~..."
"เจ็บขาหรือ?..."
"ค่ะ...ปวดน่องมานานแล้ว...สงสัยวันนี้วิ่งมากไปหน่อย..."
"แล้วทนฝืนอยู่ทำไม?...ถ้าเดินไม่สะดวก...ขี่หลังพี่ก็ได้..."
"เอ...ไม่ต้องหรอกจ๊ะ"
"อย่าดื้อ!!...เป็นมากเป็นน้อยก็อย่าเสี่ยง..."
"...งั้น...ไม่เกรงใจล่ะ...อึ๊บ!!..."
"อุ๊!!...เบาๆซี่...ตัวหนักเหมือนกันนะเรา..."
"ฮี่~~...หนูถือดาบให้...อือ~~...ไม้แข็งนะเนี่ย...เกิดถูกกบาลหนูมีหวังปูดเป็นลูกมะนาวชัวร์ๆ..."
"พี่ไม่คิดจะตีน้องตั้งแต่แรก...อารามฉุนพี่เลยวิ่งไล่ก็เท่านั้นเอง...ยอมรับว่าพอเสียเงินอารมเย็ดจนหนำใจฺสองร้อยหกสิบครั้งณ์มันก็ขึ้นเหมือนกันนะ...ไงๆได้วิ่งตามมาดูแลน้องก็ถือว่าดีมากๆแล้วล่ะ"
"ขอบคุณมากค่ะ...พี่ใจดีกับฝนไม่มีเปลี่ยนแปลง...ตอนเด็กฝนเล่นซนจนเหนื่อยล้าขนาดไหนหรือไม่ว่าหกล้มเจ็บตัวที่ไหนพี่ก็จะให้ขี่หลังแล้วพากลับบ้านเสมอ..."
"นี่โตเป็นสาวอายุ 18 แล้วแต่พี่ก็ยังต้องเป็นม้าให้น้องขี่หลัง...ถามจริง...คิดจะขี่หลังพี่ไปจนถึงอายุเท่าไหร่?..."
"บอกไม่ได้หรอกค่ะแต่ฝนอยากขี่หลังพี่ทุกวันๆอ่ะ...จะได้มั้ยคะ?..."
...แคทไม่ตอบตกลงแต่ก็ไม่ปฏิเสธ...ซอยเล็กๆแยกจากถนนใหญ่ในยามหัวค่ำโพล้เพล้ซึ่งไม่มีใครเดินผ่านไปมาแม้แต่คนเดียว...จะมีเพียงสาวน้อย 2 คนที่คุยรำลึกความหลังครั้งต่างยังเป็นเด็กหญิงซุกซน...หัวเราะเล่นหัวสนุกสนานเริงร่ากันตามประสาพี่น้องอย่างไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้อง...
"พี่เมื่อยมั้ยคะ?...ถ้าเมื่อยก็ให้หนูเดินเถอะ..."
"ไม่หรอก...แต่ถ้าเมื่อยพี่ก็จะไม่บ่นแม้แต่คำเดียว...พี่จะไม่ให้น้องลงเด็ดขาดเพราะขาน้องยังเจ็บอยู่...อีกเดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้วล่ะจ๊ะ"
........................................................................................................................

...ระหว่างทางที่ฝนขี่หลังแคทจนถึงบ้าน...ถ้าเธอจะล้อเล่นด้วยการเอาดาบไม้เคาะหัวพี่สาวมันคงสนุกน่าดูชมไม่น้อยแต่ฝนไม่ทำเพราะชอบที่จะหอมแก้มแคทมากกว่า...(แสดงความรักและอ้อนออเซาะ)
........................................................................................................................


สัพเพเหระหลากหลาย... 6
เพิ่มเติมเมื่อ 21 กย. 49 11.01 น.


ภาพลักษณ์...

เคยสงสัยหรืออยากนึกออกบ้างมั้ยว่าตัวละครแต่ละคนมีภาพลักษณ์และบุคลิคยังไง?...มาอ่านกันแบบย่อๆเป็นข้อมูลเบื้องต้น...รวมทั้งคตินิยามเกี่ยวกับความรักของแต่ละคน...
...

บอล(เอกคเชนทร์)...หนุ่มวัย 19 ผิวสองสีสูง 176 ซม. เรียนชั้นปี 2 ผู้ชายลักษณะแบบนี้หาได้ตามสถาบันอุดมศึกษาทั่วไปแต่หน้าตาออกจะดีกว่าคนอื่นหน่อย (อันนี้กลุ่มเพื่อนๆของเขาไม่เห็นด้วย) เป็นที่สนอกสนใจในกลุ่มผู้หญิงในมหาวิทยาลัยเพราะมีสมญานามว่า"เสือ" แต่ตัวเขากลับไม่รู้เรื่อง...ใครเป็นคนขนานนามให้ยังเป็นปริศนา...บางครั้งก็ทําตัวซื่อบื้อ...แต่งตัวก็ออกจะเชยๆอยู่บ้าง...ไม่รู้ในสิ่งที่ควรรู้จึงมักโดน"หยาดฝน" ลูกพี่ลูกน้องวัยมันส์คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง...มีความรักกับผู้หญิงหลายคนแต่เขารักกุน,สาและอ้อยมากกว่าใครแต่ไม่ค่อยชอบหน้าและพูดคุยกับแคทสักเท่าไหร่เพราะความคิดความอ่านมักจะสวนทางไม่ลงรอยกันส่วนกับฝนก็มักมีเรื่องทะเลาะด้วยเป็นประจํา...

นิยาม..."...ความรักของผมต้องได้มาจากการยินยอมพร้อมใจของทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น...ที่พลาดพลั้งกระทําผิดลงไปเมื่อครั้งอดีตจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก..."


กุน(ศกุนตลา)...สาวทํางานวัย 25 ผมยาวประบ่าผิวขาวปนชมพูเยี่ยงผู้หญิงทั่วๆไปสูงราวๆ 166 ซม. ต้องทํางานด้านการพบปะผู้คนจึงมีบุคลิคคล่องแคล่วมั่นใจในตัวเองแต่ไม่มากเกินไปจนดื้อแพ่ง มอบความรักให้บอลอย่างหมดหัวใจ และบอลก็ยกเธอเป็นหวานใจอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน...รักและเอ็นดูน้องๆทุกคนโดยเฉพาะแคท...กุนรู้เบื้องหลังแทบทุกอย่างเกี่ยวกับสาวน้อยลูกพี่ลูกน้องของหนุ่มคนรักแล้วพยายามตักเตือนให้สติแคทเสมอ...แคทจะโทรคุยปรึกษาเรื่องราวต่างๆกับกุนบ่อยๆ...

นิยาม..."...ความรักของดิฉัน...จริงจังและจริงใจ...มีให้แก่บอลอย่างเต็มเปี่ยมซึ่งมันจะไม่มีที่สิ้นสุด..."

สา(สาวิตรี)...สาวน้อย วัย 19 ผมยาวแต่ชอบรวบมัดทรงหางม้าเหมือนแม่ของเธอ...ผิวคล้ายๆกุนพี่สาว...สูง 164 ซม. เรียนชั้นปี 2 เช่นเดียวกับบอลแต่ต่างมหาวิทยาลัย นิสัยหลายๆอย่างยังคล้ายกุนแต่ก็มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองนิดๆ กล้าพูดกล้าทําไม่หวั่นเกรงใคร ความจริงแอบชอบบอลมานานแต่ไม่ยอมรับแถมมักหาเรื่องพูดจาประชดประชันเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก...พอยอมรับความรู้สึกของตัวเองก็คิดว่าจะต้องเอาใจและปรนนิบัติบอลเพื่อให้รักเธอมากๆเช่นเดียวกับพี่สาว ช่วงปีที่ผ่านมาเธอเติบโตขึ้นทั้งกายใจยอมรับอ้อยเป็นน้องสาวและเป็นคนรักของบอลอีกคนหนึ่ง เข้ากันได้ดีมากๆกับฝน เวลาไปไหนมักจะไปด้วยกันถ้ามีโอกาส เหมือนว่าที่มหาวิทยาลัยก็เป็นคนเด่นคนดังทีเดียว...
นิยาม..."ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร...ขอแค่บอกให้ฉันรู้และถ้าทําได้ก็จะทำอย่างเต็มที่...เพราะฉันถือว่าความรักคือการให้..."

แคท(สุรีย์พรรณ)...วัยซาวเอ็ด (21) สาวชาวเหนือผู้มีนัยน์ตาอันเยือกเย็นและลึกล้ำสุดหยั่งถึงปานผิวแห่งวารีในบึงใหญ่...ไว้ผมยาวปลายเลยกลางแผ่นหลังยาวเกินกว่า 80 ซม. สูง 172 ซม. ผิวพรรณขาวกว่ากุนและสา...ปกติเธอจะสวมแว่นตาเสมอ?...เรียนเก่งอยู่ชั้นปี 3 ในคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกับบอล นิสัยมักอยู่คนเดียวไม่ชอบสุงสิงกับคนเป็นหมู่คณะ เป็นพี่สาวที่แสนดีของฝนแต่จะกลายเป็นศัตรูกับผู้ชายทุกคนที่คิดจะเข้าใกล้ชิดเธอและน้องสาวสุดที่รัก...มองความรักระหว่างชายหญิงเป็นเรื่องไร้สาระไม่มีคุณค่าจะเอามาใส่ใจ...มีฝีมือเคนโด้สูงแต่ก็ไม่ใช่วิชาที่แคทเชี่ยวชาญที่สุด...ทั้งๆที่รูปร่างก็อ้อนแอ้นไม่ต่างจากหญิงสาวคนอื่นแต่ความรุนแรงจากกําปั้นเวลาชกของเธอกลับหนักหน่วงอย่างไม่น่าเชื่อ? โดยเฉพาะหมัดขวา "ยมฑูตขวาเร็ว" ซึ่งได้มาจากการเข้าแข่งแต่ไม่ใช่ในสนามประลอง? จะเป็นพรสวรรค์หรือความผิดปกติตั้งแต่ยังเยาว์ถึงทําให้แคทมีพลังหมัดที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ก็สุดจะคาดเดา...เวลาอยู่บ้านไม่ค่อยระมัดระวังในการแต่งตัวสักเท่าไหร่ บางทีเวลาทําการบ้านหรืออ่านหนังสือก็มักนุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียว (ในห้องนอนส่วนตัว) เวลาอยู่ในคณะหรือเดินไปไหนต่อไหนมักจะสวมเสื้อกาวส์สีขาวคลุมทับชุดนักศึกษาเพราะวันหนึ่งๆต้องเข้าห้องทดลองบ่อยๆแต่ใครๆอาจหารู้ไม่ว่าในเสื้อกาวส์นั่นมีช่องทําไว้เฉพาะสําหรับเก็บดาบ "คงโมเคียวเมะ!!!"

นิยาม..."...ความรัก?...มันไม่ใช่ความรู้สึกที่งดงามและสวยหรูเสมอไปหรอก...สำหรับสุรีย์พรรณคนนี้...ขอมีความรักให้กับคุณแม่และน้องสาว... 2 คนแค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว...ส่วนคุณพ่อน่ะหรือ??...หึ!!..."
...

ต่อ...

...ความแสบสันต์ทั้งหลายแหล่บนโลกนี้ไม่ต้องไปเสาะหาที่ไหนมาพบได้ที่สาวจอมแก่นผู้นี้หมด...ม้าดีดกะโหลกยังต้องชิดซ้าย...ถ้าจะเปรียบให้พี่สาวของเธอเป็นเช่นความมืดมิดของห้วงมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ในยามรัตติกาล...สาวน้อยจอมกลั่นแกล้งมือวางอันดับ 1 ก็เปรียบเช่นท้องฟ้าที่เจิดจ้าสดใสทุกหนแห่งและไร้ซึ่งเมฆหมอกบดบังดวงอาทิตย์...
ฝน(หยาดฝน)...เด็กสาววัย 18 จากเมืองรถม้าผู้มีนัยน์ตาแวววาวกลมโตชวนให้อยากใกล้ชิดเพื่อค้นหาคําตอบที่ซ่อนในตัวสาวผมเปียเจ้าของความสูง 163 ซม.ผิวพรรณก็เหมือนแคทคือขาวปานหยวกกล้วย...การเรียนพอปานกลางเพราะไม่ค่อยสนใจอ่านหนังสือเท่าไหร่...เพิ่งเป็นน้องใหม่ปี 1 ในคณะเดียวกับบอลและแคท...ด้วยความที่เป็นคนร่าเริงมีมนุษยสัมพันธ์ดีจึงเข้ากับคนอื่นได้ง่ายแต่ก็ชอบก่อเรื่องก่อราวให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นประจําไม่เว้นแม้แต่อาจารย์หรือรุ่นพี่...ที่สนิทกันมากอย่างสาวิตรีฝนก็ยังแหย่ได้สบาย...ส่วนกับบอลเธอมีความแค้นส่วนตัว?และระบายออกมาด้วยการกลั่นแกล้งเท่าที่มีโอกาส นอกจากนี้ยังมีนิสัยอยากรู้อยากเห็นมากๆ...ทําอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบแม้จะเป็นการทําให้คนอื่นเดือดร้อนก็ตาม...รักและเทิดทูนพี่สาวถึงขั้นยอมให้แคทเป็นการ์ดคุ้มครองป้องกันหนุ่มๆทั้งหลายตลอดเวลาโดยไม่ปริปากบ่นเพราะเธอยังไม่มีความคิดชอบใคร...เห็นเรื่องการกินและเล่นเกมส์เป็นเรื่องที่ควรจะทําทุกวัน...เธอมีฝีมือการต่อสู้เช่นเดียวกับแคทหรือไม่?...ก็ขอบอกว่ามีแต่เธอจะไม่ยอมใช้นอกจากเพื่อป้องกันตัวเองยามที่พี่สาวไม่อยู่ใกล้แต่จะเป็นวิชาแขนงอะไรนั้นยังเป็นปริศนาที่รอการเฉลย...ตอนนี้พอจะบอกได้แค่ว่าฝนก็มีฝีมือในการต่อสู้ที่เก่งกาจทัดเทียมแคทแถมยังเคยเอาชนะพี่สาวในการประลองกันด้วย!!!...จงอย่าประเมินคุณค่าของสาวน้อยเขี้ยวแหลมคนนี้ต่ำเกินไปเด็ดขาด...

นิยาม..."ฝนถือว่ามีพี่แคทเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่สวยกว่า...อ้าว!!...ตอบไม่ตรงคําถามแฮะ...ความรักๆ...แหม~~...ตัวเองนี่ล่ะถามอะไรก็ไม่รุ!!...เค้ายังเป็นเด็กละอ่อนอยู่นะ...ฮ่าๆๆ...ล้อเล่นๆ...ฝนไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆหรอกจ้า~~...ขอรักคุณพ่อ,คุณแม่และพี่สาวก็พอแย้ว~~"

ต่อๆ...

เก๋(นารีลักษณ์) สาวน้อยวัย 19 ที่มีความสัมพันธ์กับบอลอย่างลึกซึ้งคนหนึ่ง...เรียน ปี 1 ในมหาวิทยาลัยเดียวกับสาวิตรีแต่อยู่ต่างคณะ...นิสัยของเธอเป็นคนปากตรงกับใจคิดยังไงก็จะแสดงออกอย่างนั้น มักพูดจาแบบขวานผ่าซากกับเพื่อนและคนอื่นๆ ไม่ค่อยมีใครรู้นักว่าตัวบอลเองนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุสําคัญทําให้เก๋กับ"โต" แฟนเก่าต้องเลิกคบกันเพราะเพื่อนรักของสาว(พรพรรณ)เปรียบเทียบระหว่างบอลกับโตแล้วพบว่าโตไม่ใช่ผู้ชายที่เธอจะฝากชีวิตไว้ได้เพราะโตมีข้อเสียคือขี้หึงและเป็นคนไม่มีเหตุผลแม้แต่เรื่องเล็กน้อย...เอะอะก็เอาพระเดชเข้าว่า...แม้เก๋จะมีความอดทนสูงแต่นานวันก็ทนไม่ได้จึงขอแยกทางกับโตทั้งที่ในใจก็ยังอาลัยอาวรณ์ไม่น้อย...จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าการที่เธอบอกรักบอลมันจะเป็นการประชดปัญหาชีวิตรักของตัวเองหรือเปล่า? ปกติเธอจะไว้ผมยาวสลวย...ไว้มาตั้งแต่สมัยยังเรียนคณะเดียวกับบอลซึ่งยาวมากพอๆกับของแคทแต่เหมือนกําลังคิดเปลี่ยนทรงให้เหมือนกับสาวเพื่อนรักเพื่อนแท้ของเธอก็ได้มั้งแต่ความเกี่ยวข้องกับบุศซึ่งเธออ้างว่าเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปลายก็ยังดูคลุมเครืออยู่...นอกจากนี้ยังรู้ด้วยว่าบุศกําลังคิดจะทําการอะไรอยู่จึงมีความคิดจะ"ขัดขวาง"และพร้อมช่วยเหลือสาวทุกอย่างให้มีความรักที่หวานชื่นกับบอลต่อไป...

นิยาม..."การมีความรักหลายครั้งไม่ใช่เรื่องที่ดี...มันจะเจ็บปวดเสมอเมื่อต้องถึงคราวเลิกรากัน...ครั้งนี้แม้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่เบอร์ 1 แต่ก็ขอเอาใจช่วยสาวให้เข้าไปอยู่ในใจของบอลให้ยิ่งกว่าตัวฉันเพราะต้องการให้เพื่อนรักคนนี้มีความสุขซะที..."

สาว(พรพรรณ) สาวน้อยวัย 19 เพื่อนรักและเพื่อนร่วมห้องของเก๋ สูงราวๆ 160 ซม. เตี้ยกว่าเก๋ 3 ซม. เป็นที่รู้กันดีว่าตัวเธอมีแววตาอันดูเศร้าสร้อยเป็นเอกลักษณ์แม้ยามหัวเราะร่าเริง...ใครเห็นคงสงสัยอยากเข้าไปถามว่าเธอมีเรื่องกลุ้มอกกลุ้มใจอะไรกันนัก...ซึ่งสาวก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่จริงๆเพราะชายที่เธอรักนั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว...แม้กุนจะเคยขอให้เธอกับเก๋เลิกยุ่งเกี่ยวกับบอลซึ่งลึกๆสาวไม่อยากรับคําแต่รู้สึกละอายใจในความใจกว้างที่ไม่ถือโกรธของกุน...ดังนั้นสาวกับเก๋จึงยอมรับปากแต่ก็ทนห่างจากบอลได้ไม่นานก็ต้องกลับไปหาเขาอีก...เก๋จะพูดปลอบบ่อยๆว่าสาวไม่ได้ทําผิดเพราะรักบอลมาตั้งแต่วันแรกที่พบกันคือวันสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย...บัดนี้สาวก็พยายามทําใจคิดซะว่าไม่ได้อยู่ใกล้ชิดบอลเท่ากับกุนและสาเท่านั้นเอง...เมื่อก่อนเธอไว้ผมยาวเลยบ่าแต่ตัดสั้น...เพราะอกหักหรือเปล่าก็ไม่ทราบ?...นิสัยจะเป็นคนเรียบร้อยสุ้มเสียงอ่อนหวานและพูดอะไรก็จะพูดช้าๆชัดถ้อยชัดคํา...ถึงหน้าตาผิวพรรณจะไม่สวยผุดผาดเท่ากุนหรือแม้แต่เก๋...ไม่เฉียบขาดปราดเปรียวอย่างบุศแต่สาวก็ยังมีเสน่ห์ดึงดูดที่ทําให้บอลต้องคิดถึงและไม่อาจจะลืมเธอจนต้องแอบไปหาอยู่เนืองๆ...ความผูกพันของชายหนุ่มหญิงสาวคู่นี้จึงไม่มีทางตัดขาดกันง่ายๆ...

นิยาม..."...สําหรับบอลแล้ว...ฉันยินดีรักเขาตลอดไปแม้จะแต่งงานมีครอบครัวและไม่กลับมาเหลียวแลฉันอีกก็ตาม...รู้สึกภูมิใจมากจริงๆที่ในใจของตัวเองมีความรักอันมั่นคงต่อคนๆเดียว..."

ต่อ...

บุศ(บุศยา) สาวน้อยวัย 19 เจ้าของเรือนร่างหุ่นนางแบบสูง 165 ซม. ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองว่ามีความงามเป็นเลิศยิ่งกว่าใครเป็นดาวเด่นของคณะการจัดการ เรียนปี 2 เช่นเดียวกับบอล...แรกเริ่มเดิมทีเธอมีแฟนมาก่อนแต่เลิกกันด้วยเหตุผลคล้ายๆกับเก๋จะมีต่างกันตรงที่แฟนเก่าของ
บุศติดการพนันฟุตบอล...เที่ยวเตร่ดื่มของมึนเมาทําตัวเสเพลซึ่งเธอไม่ชอบผู้ชายแบบนี้...แต่บอลก็ไม่ได้เป็นผู้ชายที่วิเศษวิโสอะไรแต่กลับมีบางสิ่งที่ทําให้บุศหลงรักอย่างหัวปักหัวปําและต้องการแย่งชิงผู้ชายคนนี้จากกุนกับสาเอามาเป็นของตัวเองให้ได้...ลําพังตัวเธออาจไม่ไหวจึงขอให้เก๋กับสาวช่วยอีกแรง...ทําสําเร็จเมื่อไหร่ก็จะตัดสินกันเพื่อความเป็น 1 อีกครั้งซึ่งเก๋ก็คิดแบบเดียวกันจึงยอมร่วมมือกับบุศ...ภาพลักษณ์ของบุศยาเป็นผู้หญิงดัดผมหยิกยาวเวลาอยู่นอกบ้านจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับราคาแพง...คล่องแคล่วปราดเปรียวมีหัวคิดทันสมัย...นิสัยทําตัวตามสบายไม่ยึดติดกับกฏระเบียบ...ไม่ชอบการถูกขู่เข็ญบังคับและเธอก็จะไม่บังคับใครเช่นกัน...อาจมีบอลเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยกเว้นคือไม่ว่ายังไงเธอก็จะต้องครอบครองเขาให้ได้...ฐานะทางบ้านจัดอยู่ในขั้นมหาเศรษฐี...พ่อกับแม่ทํางานอยู่เมืองนอกนานๆจะกลับ...ที่บ้านจึงมีเธอ,น้องสาวและคนรับใช้ทั้งชายและหญิงมากมาย...เนื่องจากมีเงินใช้สอยเหลือเฟือนี่เอง...บุศจึงลงทุนจ้างนักสืบเพื่อคอยติดตามเช็คข้อมูลทุกอย่างของผู้ชายที่ตัวเธอรักอย่างหมดใจ...ส่วนในมหาวิทยาลัยเธอก็จะกระจายข่าวว่าบอลเป็นแฟนของเธอจนเรื่องนี้ไปเข้าหูแคท...ซึ่งมันทําให้แคทรู้สึกเกลียดชังญาติผู้น้องอยู่ลึกๆ...ในอนาคต...อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อสาวน้อยผู้คิดว่าตัวเองงดงามเป็นเลิศกว่าใครอย่างบุศยาได้เผชิญหน้ากับสุรีย์พรรณ?...

นิยาม..."...คารมเป็นต่อ...รูปหล่อเป็นรอง?...ไม่ใช่บุศหรอกนะ...สําหรับบุศ...ความพอใจต้องสําคัญเป็นอันดับแรก...ลงว่าถ้าไม่ถูกอัธยาศัยต่อให้ลงทุนมอบดอกไม้ทําด้วยแบ็งค์ช่อใหญ่หรือซื้อแหวนเพชรราคาแพงๆมาให้ก็จะไม่มีทางแลมองอย่างเด็ดขาด...รู้ไว้ซะนะคะ...คุณผู้ชายทั้งหลาย..."

จี (กัลยา) สาวทอมผมสั้นรองทรงสูง 161 ซม. หญิงสาวผู้มีชื่อความหมายเป็นสตรีเต็มขั้นแต่อุปนิสัยใจคอกลับเยี่ยงบุรุษ...เหตุผลที่ประพฤติตัวตรงกันข้ามกับชื่อนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด...เรื่องราวส่วนตัวเกี่ยวกับเธอหลายๆอย่างยังถูกเก็บเป็นความลับ...หลายคนจึงรู้แค่ว่าเธอเรียนชั้นปี 1 ห้องเดียวกับสาวจอมแก่นคนดัง "หยาดฝน" ...อีกทั้งต้องยอมเป็นน้องรหัสของบอลอย่างเสียไม่ได้...นิสัยปกติเป็นคนจริงจังทั้งการกระทำและวาจาจึงไม่ชอบเอ่ยอะไรเลื่อนลอยจับต้องไม่ได้หรือพูดเรื่องเดียวกันซ้ำๆซากๆ...ใครจะสนทนากับเธอคนนี้ต้องเตรียมใจกันสักนิดว่าอาจถูกตอกกลับแบบแสบๆได้ทุกเมื่อถ้าพูดจาคลุมเครืออ้อมค้อมอ้ำๆอึ้งๆเหมือนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง...จียังเกลียดคนที่พูดอย่างขอไปทีขายผ้าเอาหน้ารอดมากที่สุดด้วย...บอลรู้ถึงจุดนี้ก็แกล้งแหย่น้องรหัสทอมบอยไม่กลัวโดนเตะตอกกบาลโดยแม้จะรู้ดีว่าจีเป็นนักเทควันโด้ก็ตาม...เข้าเรียนแบบไม่ต้องสอบเพราะโควตารับตรงของมหาวิทยาลัย...จีฝึกฝนวิชาการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กจากคุณแม่อดีตนักเทควันโด้ทีมชาติซึ่งปัจจุบันได้เปิดโรงฝึกสอนคนภายนอกด้วย...จุดมุ่งหมายที่จีเฝ้าฝึกเทควันโด้อย่างตั้งอกตั้งใจแทบไม่เว้นวันหยุดนี้ก็เพราะต้องการต่อสู้เอาชนะแม่ของเธอให้จงได้ (????) ...แม้มีฝีมือเก่งกาจแต่ก็ไม่รุกรานข่มเหงใครก่อนนอกจากถูกยุแหย่อย่างที่เชนเคยโดนมาแล้ว...เบื้องหลังของเธอคนนี้ยังมีอีกมากมายแต่ไม่มีใครทราบมากนักเพราะจีไม่ชอบทำตัวโดดเด่นเฮฮากับเพื่อนฝูงและมีคนรู้ใจใกล้ชิดมากสุดๆคือ "กุ๊ก" แฟนของเธอเท่านั้น?...การถูกคาดหวังไว้สูงจากผู้คนรอบข้างเพื่อให้ก้าวสู่ทำเนียบนักกีฬาดาวรุ่งพุ่งแรงเป็นสิ่งที่จีกำลังเผชิญอยู่ทุกวัน...

นิยาม... "ความรักมีหลายรูปแบบ...รักพ่อรักแม่...รักญาติผู้ใหญ่...รักเพื่อนฝูง...รักพี่รักน้อง...รักแฟน...รักลูกน้อง...ความรักไม่จำกัดว่าต้องเป็นคนต่างเพศเสมอและเราจะรักคนที่เข้าใจในตัวเราเท่านั้น...คนที่ผีเจาะปากเสือกยุ่งเรื่องคนอื่นควรย้อนกลับคิดทบทวนให้ดีก่อนว่ามีใครรักตัวเองบ้างหรือยัง?...ซึ่งถ้ามีความรักเขาก็คงเข้าใจอะไรๆมากขึ้นจนหุบปากไปเอง..."

SP. จีรู้จักกับบุศมาตั้งแต่เด็กและบ้านยังอยู่ใกล้กันด้วย...ครอบครัวทั้ง 2 สนิทกันเป็นอย่างดี...

อ้อย (วรรณลักษณ์) ชื่อนี้คงไม่ต้องบรรยายให้เปลืองเนื้อที่ว่าเธอเป็นใครและเกี่ยวข้องอะไรกับบอล...เด็กหญิงวัย 14 ผิวดำแดงสูงราวๆ 154 ซม. เรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 ในรร.หญิงล้วนไว้ผมแบบนร.ม.ต้นทั่วๆไป...อ้อยไม่ได้เป็นคนสวยโดดเด่นเท่ากับขวัญเพื่อนรักคนหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม "นางฟ้าคอซอง" แต่ก็เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆและสมาชิกในบ้านทุกคนเพราะนิสัยที่สงบเสงี่ยมเจียมตนไม่เคยทำตัวดื้อหรือไม่เชื่อฟังใคร...ตรงกันข้าม...อ้อยมีกิริยามารยาทเรียบร้อยพูดจาไพเราะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้หลักผู้ใหญ่...เรื่องงานบ้านงานเรือนเธอก็ทําไม่มีขาดตกบกพร่องไม่ต้องรอให้ใครมาสั่งเพราะได้รับการอบรมสั่งสอนจากแม่ศรีวิกาอยู่เสมอ...ทุกๆเช้าอ้อยจะตื่นนอนก่อนใครๆเพื่อเข้าครัวทำอาหารจากนั้นจึงค่อยไปเรียนโดยมีสาหรือกวางฤทัยไปส่ง...บางครั้งบอลก็จะไปส่งเองเท่าที่มีโอกาส...ตอนเย็นก็จะรีบกลับมาทำงานบ้านต่างๆจนเสร็จสิ้นช่วยแบ่งเบาภาระของกวางฤทัยไปได้มาก...ขณะอยู่ในโรงเรียนอ้อยก็คอยช่วยเหลือดูแลเพื่อนๆทุกคนอย่างไม่เคยเกี่ยงงอนจนได้รับความไว้วางใจจากอาจารย์มอบหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าห้องซึ่งก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดี...อ้อยจะเป็นคนที่คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอและจะรู้สึกปลาบปลื้มยินดีเมื่อเห็นคนที่เธอรักมีความสุข...ซึ่งพูดๆไปเป็นสาวิตรีนั่นแหละที่จะออกอาการหวง "น้องสาว" คนนี้มากกว่าใครๆจนต้องคอยตามรับตามส่ง...ไม่ว่าอ้อยอยากไปไหนเธอจะขันอาสาพาไปเองทั้งนี้เพราะความรักห่วงใยเข้าอกเข้าใจในหัวอกลูกผู้หญิงเหมือนกันนั่นเอง...

นิยาม... "อ้อยไม่ได้เกิดมาอย่างเพียบพร้อมทุกอย่าง...ที่ผ่านมา...ความรักก็ได้จากคุณแม่เพียงผู้เดียวเท่านั้นแต่ปัจจุบันและอนาคตนับจากนี้ไป...หนูหวังอย่างแรงกล้าว่าคงจะได้รับความรักอย่างอบอุ่นจากคนที่หนูรักทุกๆคน...พี่บอล...พี่กุน...พี่สา...พี่แคท...พี่ฝน...คุณลุงเอก...คุณป้ากวาง...คุณแม่...เพื่อนๆทุกคน...อ้อยขอให้มีความสุขมากๆนะคะ"

ขวัญ (ดวงขวัญ) หัวโจกแห่งกลุ่ม "นางฟ้าคอซอง" สาวน้อยวัย 14 ปีสูง 160 ซม. ผิวขาวผ่องตามแบบ
หมวยเล็กคนนี้จัดเป็นผู้นำในบรรดา 4 สาวก็ว่าได้เพราะบุคลิคที่กล้าคิดกล้าทำบวกกับความมั่นใจในตัวเองที่เปี่ยมล้น...อะไรไม่ถูกต้องเธอจะทวงสิทธิ์จนได้รับความเป็นธรรม...ผมเปียพวงสั้นๆใบหน้าสวยอิ่มเอิบไร้สิวฝ้าหรือแววตาอันซุกซนไม่ว่าอย่างไหนก็สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามให้เข้ามาจับตามองอย่างไม่ยากเย็น...ในโรงเรียนอาจไม่เท่าไหร่นอกจากเคยท้าดวลวัดรอยกับรุ่นพี่?...ส่วนนอกบ้านเวลาขวัญแต่งตัวก็จะดูเหมือนสาวมัธยมปลายได้สบายๆ...แม้คบผู้ชายมากหน้าหลายตาแต่เธอก็ไม่ใจง่ายหลงเล่ห์...บางทีขวัญก็ออกเที่ยวนอกบ้านคนเดียวเพราะรู้สึกเบื่อที่เธออยู่บ้านกับแม่เพียง 2 คนเท่านั้น...ถึงกระนั้นขวัญก็รู้จักหน้าที่ว่าเป็นนักเรียนต้องศึกษาหาความรู้...เวลาสอบเธอจะได้คะแนนเป็นอันดับต้นๆของห้องประจำส่วนความใฝ่ฝันในอนาคตคือ "นางแบบ" เมื่อบอกให้เชนกับบอลฟัง 2 หนุ่มนี้ก็บอกแทบเป็นเสียงเดียวกันว่ามีความเป็นไปได้แน่นอนที่ฝันนี้จะเป็นจริงเพราะขวัญมีความน่ารักและมั่นอกมั่นใจในตัวเองสูงอยู่แล้ว...ขอเอาใจช่วย...

นิยาม... " ชีวิตเหมือนจิ๊กซอว์...ความรักก็คือแผ่นจิ๊กซอว์ประกอบแผ่นหนึ่ง...ขาดมันชีวิตก็พออยู่ได้แต่ไม่สมบูรณ์...สำหรับฉัน...ถ้าจิ๊กซอว์แผ่นนี้มันเข้ากับส่วนใหญ่ไม่ได้ก็เพียงแค่ดึงมันออกและเสาะหาแผ่นใหม่ใส่เข้าไปแทน...เท่านั้นเอง...เท่านั้น..."

ต่อ...

จอย (ไอริณ) หากอยากรู้รายละเอียดของเด็กหญิงคนนี้ก็ลองหลับตาแล้วนึกถึงมาดเด็กหญิงผิวออกขาวสูงราวๆ 152 ซม. แต่งชุดมัธยมต้นคอซองกระโปรงจีบถุงเท้าขาวรองเท้าดำผมสั้นๆเปิดหน้าผากเฉียงสวมแว่นตาหนาเตอะแทบไม่เห็นลูกกะตาสะพายเป้ใส่หนังสือพะรุงพะรัง...นั่นแหละคือ
อิมเมจคร่าวๆของเด็กหญิงไอริณหรือจอยอายุ 14 ปี อย่างที่กล่าวไว้จอยเป็นคนที่รักการเรียนหนังสือมากดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรถ้าเธอจะเก่งสอบได้คะแนนท๊อปของระดับชั้น...ใครๆต่างคิดว่าเธอเป็นคนบ้าเรียนขนาดหนักไม่ค่อยสรวลเสสนุกเฮไหนเฮกันกับเพื่อนๆซึ่งมันก็จริงเพราะมีเวลาว่างหรือพักกลางวันจะสามารถเห็นน้องหนูผู้นี้นั่งอ่านตำราเรียนใต้ต้นไม้เป็นประจำ...ถึงไม่ค่อยมีเพื่อนมากแต่กระนั้นจอยก็ยังมีเพื่อนสนิท 3 คนสนิทกันจนถึงขนาด...(ลองกลับไปอ่านตอนเก่าๆ) เพราะขวัญกับโบว์เป็นเพื่อนร่วมชั้นของจอยมาตั้งแต่สมัยประถม...แรกอ้อยเข้ามาใหม่ทั้ง 3 คนดูจะไม่ค่อยชอบอัธยาศัยเพราะอ้อยเป็นคนเงียบๆไร้มนุษยสัมพันธ์ไปนิด...ขวัญ,จอย,โบว์ต่างเฝ้าดูอ้อยมาโดยตลอดเมื่อเห็นว่านิสัยของนร.ใหม่เข้ากับพวกตนได้...ผลสรุปในปัจจุบันจึงเป็นอย่างที่เห็น...จอยเป็นคนที่อยากรู้อะไรแล้วต้องรู้ให้ถึงที่สุดไม่เว้นเฉพาะการเรียน...น่าชื่นชมจริงๆ...

นิยาม... "แม่ค่อนข้างจะฟรีนะถ้าจอยคบกับผู้ชาย...ไม่รู้หรอกว่าแม่ล้อเล่นหรือเปล่าแต่ก็บอกเสมอๆ...ถ้าเกิดชอบพอใครก็ให้พาเขาไปเที่ยวบ้านด้วย...จะพาไปเที่ยวได้ยังไงล่ะก็พี่ชายดุออกขนาดนั้น?...ขืนพาไปเขามีหวังแย่แน่ๆเลย...เอาเป็นว่ารอก่อนนะคะคุณแม่...จอยน่ะอายุยังน้อย...ความรักอะไรเนี่ยยังไม่ขอพูดถึงมากดีกว่า"

โบว์ (บุศลาวัลย์) เด็กน้อยตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม "นางฟ้าคอซอง" สูงแค่ 147 ซม. ร่างกายของเธอยังดูเหมือนๆเด็กผู้ชายถ้าสวมกางเกงขายาวๆเสื้อตัวใหญ่ๆใส่หมวกทับทรงผมเพราะหน้าอกหน้าใจยังไม่ค่อยมี...สัดส่วนต่างๆก็ยังไม่เติบโตเท่าๆเพื่อนอีก 3 คนยิ่งกับขวัญด้วยแล้วไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบเลย...ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปคุณค่าของสาวน้อย(มากๆ)แต่ใจใหญ่เกินตัวคนนี้...ความขี้อายและพยายามเชิดหน้าเข้าสู้ปัญหานี่แหละคือเสน่ห์ที่สำคัญของโบว์เขาล่ะ...ด้วยความที่มีนิสัยขี้อายต่อเพศตรงข้ามเมื่อได้พบกับบอลครั้งแรกก็ทำให้เธอใจเต้นตึกตักและแอบชอบพี่ชายของอ้อยอยู่เงียบๆตั้งแต่นั้น...ครั้นขวัญชวนเธอให้ไปเที่ยวสนุกกับบอลตอนปิดเทอมหน้าร้อน...พอโบว์รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของเพื่อนก็ใช้เวลาคิดไม่นานก็ตอบตกลงอย่างเขินอายสุดๆ...ถึงโบว์จะมีความสัมพันธ์กับเชนแต่เธอไม่เสียใจเลยเพราะได้มอบสิ่งสำคัญที่เฝ้าสงวนรักษาอย่างหวงแหนให้กับชายที่ตนรักไปก่อนแล้ว...ยังไงซะอุปสรรคในความรักของโบว์ก็มีมากมายเหลือเกิน...เธอจะฟันฝ่าไปได้หรือเปล่าจึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่ง...

นิยาม "พี่สาวคือผู้ที่โบว์เคารพรักที่สุด...เธอเป็นแนวทางที่โบว์จะต้องเดินตามทุกอย่าง...ความรัก
เหรอ?...แบบไหนล่ะคะ?...ถ้าจะให้เลือกระหว่างความรักระหว่างชายกับหญิงและความรักของพี่น้อง...โบว์ขอเลือกอย่างหลัง...ขอเลือกพี่สาวเพียงคนเดียวเท่านั้นค่ะ"


--------------------


สัพเพเหระหลากหลาย... 7
ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย...


ว่าด้วยเรื่องของส่วนตัว...ของผู้หญิง...

1. ของดี(หรือเปล่า?)

นศ.ก "มึงมีอะไรจะให้กูดูเหรอวะ?..."
นศ.ข "กูไม่มีแต่คนอื่นมี...ดูตรงนั่นสิ"
นศ.ก "นั่น...พี่สุรีย์...พี่แคทนี่...ทําไมนั่งหลับอยู่ตรงนั้นล่ะ...ห้องสมุดเขาห้ามนักศึกษามานอนไม่ใช่หรือ?
นศ.ข "ประเด็นนี้ไม่สําคัญ...มึงลองไปดูใกล้ๆพี่เขาสิแล้วจะเห็นของดี"
...นศ.ก เข้าไปใกล้ๆสุรีย์พรรณหญิงสาวรุ่นพี่ผู้โด่งดังทั่วมหาวิทยาลัยเคียงคู่หยาดฝน...สักพักก็กลับมาบอกด้วยความซื่อเพราะไม่รู้จุดประสงค์แท้จริงของเพื่อน...
นศ.ก "...หน้าตาตอนหลับก็ดูสวยไปอีกแบบนะแต่แค่นี่น่ะเหรอที่มึงจะให้กูดู?..."
นศ.ข "ไอ้เซ่อเอ้ย!!!...มึงเข้าไปดูอีกทีแล้วลองก้มต่ำๆ...รับรองแจ่มแจ๋ว...นี่กูยังลุกไม่หายเลยว่ะ..."
...แค่นั่นแหละ~~~...นศ.ก ก็รู้อะไรเป็นอะไรรีบย่อตัวต่ำค่อยสืบเท้าเบาเข้าใกล้และมองดู...ต่อจากนั้นคงเรียกได้ว่าเขาตกอยู่ในโลกส่วนตัวจนลืมแม้ทุกสิ่งกระทั่งคําเตือนของเพื่อนที่จะบอกว่าความซวยมันย่างก้าวเข้ามาถึงตัวแล้ว...สาวสวยสุรีย์พรรณผู้ล้าจากการสอบปลายภาคจึงมานั่งพักที่ชั้นบนสุดของห้องสมุด...พอเจอแอร์เย็นๆก็เลยหลับไปโดยไม่ระวังตัวเองว่าสวมกระโปรงสั้นแถมเผลอนั่งแยกขาอีกหรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า "หวอออก"...
??? "เห็นชัดมั้ยล่ะ?..."
นศ. ก "เออสิ...กางเกงในพี่แคท...เห็นชัดมาก...สีฟ้าอ่อน...อุ๊บ!!!"
??? "มองเพลินเลยสินะนาย...แอบดูใต้กระโปรงพี่ฉันเร๊อะ?...และเจ้านั่นจะไปไหน!!!...ถ้าหนีเจอโทษเพิ่มนะเฟ้ย!!!..."
แคท "อือ~~...อะไร?...เอะอะอะไรนักหนาหือฝน?...พี่ปวดหัวจะของีบสักหน่อย..."
ฝน "ก็พี่แคทนั่งหลับแถมหวอออก...ไอ้ 2 คนนี่มันเลยถ้ำมองส่องกางเกงในพี่แน่ะ...จัดการซิค่ะ..."
"..........................................."
...เพราะความง่วงเข้าเกาะกินไปทุกส่วนของร่างกายสาวนักคาราเต้(เคนโด้)ทําให้นศ.ชาย 2 คนไม่ถูกเชือดแต่ก็ก้มหน้างุดไม่กล้าเงยสบตาสาวรุ่นพี่แต่แคทก็ไม่สบด้วยเช่นกันเนื่องจากดวงตาเธอปรือใกล้จะปิดสนิทแล้ว...ได้แต่บอกน้องสาวเสียงงึมงําๆแบบเงี่ยหูฟังยังแทบจะไม่ได้ยิน...
"...ช่าง...เถอะ~~...พี่อยากพักผ่อน...อย่ารบกวน...ถึงเวลาใกล้สอบ...บ่าย..."
...สาวแคทพูดจบก็ถอดเสื้อกาวส์เอามาห่มตัวแล้วล้มนอนบนโซฟาผล็อยหลับเต็มรูปแบบ...ปล่อยให้สาวฝนยืนงงอยู่ครู่หนึ่ง...
...

2. แกล้งเด็ก...

"พี่ฉันเพลียหลับเลยไม่อยากเอาโทษพวกนายแต่ฉันจะลงโทษแทนตามคําสั่งของพี่..."
"สั่งตอนไหนเนี่ย?..."
"ไม่รู้ว่ะ"
"กระซิบกระซาบอะไรกัน!!!...พวกนายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?"
"เอ่อ...หยาดฝนนักศึกษาสาวจอมซ่ามือวางอันดับ 1 ...จอมกลั่นแกล้ง...จอมป่วนประสาท..."
"พอ...แค่นี้ก็พอแล้ว...แทนที่เวลาพักจะอ่านหนังสือสอบทบทวนกลับมาทําเรื่องลามกจกเปรต...อยากดูมากนักใช่มั้ย?...กางเกงในผู้หญิงน่ะ"
...โดนถามแบบนี้ใครจะมันกล้าตอบถ้าไม่สนิทกันยิ่งคนถามเป็นสาวน้อยคนเด่นคนดังอีกด้วย...
"ไม่ตอบก็แสดงว่าอยากดู...ได้...ฉันจะเลิกกระโปรงให้แล้วก็ดูให้เต็มๆตาล่ะ..."
"หะ!!...ให้เราดูจริงๆหรือ?..."
"เออ~~...รีบๆดูซะเพราะฉันก็เขินเหมือนกันนะ..."
...รายการลุ้นว่าสาวน้อยผู้น้องจะสวมแพนดี้สีอะไรและเซ็กส์ซี่แค่ไหนก็ได้เริ่มต้น...ทันทีที่กระโปรงจีบถูกดึงขึ้น...หนุ่ม 2 คนนี้ต่างจ้องตาเป็นมันด้วยความระทึกใจแล้วก็ได้เห็น...เห็น...และเห็น...
"อ้าว!?...ใส่กางเกงขาสั้นไว้นี่นา..."
"แล้วจะทําไมยะ?...ก็มันสะดวกดีจะตาย...แล้วนี่คือรางวัลพิเศษ...นี่แน่ะ!!..."
"โอ้ววววว!!!..."
"โอ้ยย!!!..."
...ร้องเสียงหลงกันทั้งคู่...คู่หูหนุ่มน้อยผู้โชคร้ายตกสวรรค์ต่างถูกสาวแก่นแยกเขี้ยวเอานิ้วจิ้มตาจนโอดครวญน้ำตาไหล...
"ถ้าคราวหน้าทําวิตถารอะไรแบบนี้อีก...ฉันจะจิ้มให้ลูกกะตาสําส่อนนั่นกระเด็นจากเบ้าทีเดียว...ไป๊!!!..."
(เคร้ง!!!...)
"...เสียงไรหว่า??...."

หมายเหตุ...ท่าจิ้มตา=เคล็ดวิชาลับก้นกุฏิของหนูฝนมีไว้สําหรับแกล้งเด็ก?...
...

3. จิตวิญญาณของพวกเรา...

"พี่ตื่นแระ...เมื่อกี้เสียงดาบหล่นเหรอคะ?"
"อือ...ดาบหล่นลงพื้นก็เปรียบเหมือนวิญญาณหลุดจากร่าง...ต้องรีบเก็บ"
"พูดอะไรไม่ค่อยเข้าใจ...แต่หายปวดหัวยัง?..."
"นิดหน่อย...แล้ว?..."
"แค่หนูไปห้องน้ำเดี๋ยวเดียวกลับมาเจอเจ้าลามก 2 ตัวกะลังมองในหว่างขาพี่ตาเยิ้มเชียว...ทีหลังนั่งก็ระมัดระวังหน่อยจิค๊ะ...ว้าย!!!..."
...ฝนร้องด้วยความตกใจเพราะอยู่ๆแคทก็ชักดาบออกจากฝักแบบไม่บอกกล่าวกันก่อน...แสงอาทิตย์ยามบ่ายส่องผ่านหน้าต่างสะท้อนเข้าสู่ตัวดาบฉายจับเป็นประกายรุ้งแวววาวจับตางดงามยิ่ง...
"หึๆ...ถ้าแค่เห็นก็ช่างมันเถอะ...เพราะมันเอาไปไม่ได้หรอก...อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ตั้งใจให้ใครดูด้วย..."
"ถือคติดูแต่ตา...มืออย่าต้อง...เลือดจะออกว่างั้นเถอะแต่ยังไงคนอื่นเขาก็ไม่คิดแบบนี้เหมือนพี่..."
"...ได้เวลา...ไปสอบวิชาสุดท้าย...แล้วเราจะได้กลับบ้านกันซะที..."
"บ้านไหนคะ?...ที่นี่หรือที่โน่น..."
...แคทมุ่งปลายดาบที่แหลมคมชี้ไปทิศเหนือบ่งบอกความหมายเพียงหนึ่งเดียวของเธอให้น้องสาวรู้...จากนั้นเก็บเข้าฝักซ่อนในเสื้อคลุมเช่นเดิม...(เวลาสอบก็ยังพกอาวุธ??)
"ที่โน่น...บ้านเกิดของเรา 2 พี่น้อง...จิตวิญญาณของพวกเราอยู่ที่นั่นไงล่ะจ๊ะ...น้องรักของพี่..."
"เฮ้~~~...ไชโยๆ...ไปกันเร็วๆ..."
...แคทกับฝนต่างส่งรอยยิ้มอันแสนจะอบอุ่นให้กันและกันพลางกอดแขนจับมือพาเดินสู่จุดหมายในภายภาคหน้า...ต้นเดือนตุลา `48 คือเวลาแห่งความสุขของพวกเธอที่จะได้กลับถิ่นฐานเดิมที่จากมา...กลับสู่อ้อมอกพ่อแม่ผู้ให้กําเนิดอีกครั้งหนึ่ง...สุรีย์พรรณและหยาดฝนต่างมีความปลาบปลื้มยินดี...แล้วพวกคุณล่ะ?...คิดอยากจะกลับสู่จุดเริ่มต้นที่ตัวของคุณได้เติบโตมาตั้งแต่เล็กบ้างหรือไม่?...
...

...สุรีย์พรรณและหยาดฝน...2 สาวพี่น้องผู้มีนิสัยแตกต่างกันได้ร่ำลากับทุกๆคนอย่างไม่เป็นทางการแล้ว...พวกเธอจะกล่าวคําอาลาอีกครั้งในบทส่งท้ายหลังตอนที่ 17 ...พร้อมๆกับ...ศกุนตลา...สาวิตรี...วรรณลักษณ์และเอกคเชนทร์...

ฝากอีกนิด...สัพเพเหระหลากหลาย 6 ยังกล่าวถึงตัวละครไม่ครบดังนั้นก็หาเวลามาเปิดดูบ้างเพราะจะมีข้อมูลใหม่ๆมาอัพเดตเพิ่มด้วยครับ...
...

สัพเพเหระหลากหลาย 8
7 Jul 2010

พวกเธอและเขาจะมาเมาส์(นินทา)เรื่องสนุกๆให้รู้
เริ่มจาก หยาดฝน เทวะกรนันท์(18)และเหยื่อรายแรกก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่สาวตัวเอง
เรื่องราวของสุรีย์พรรณ เทวะกรนันท์(22)

"หึๆ...เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักเจ๊แว่นของหนูเป็นอย่างดีแล้วจึงไม่ขออธิบายมากล่ะกาน--"

เรื่องที่อยากเมาส์(นินทา) 7 อันดับยอดเยี่ยม
1. นอน...ไม่ว่าอากาศร้อนหรือหนาวเวลาพี่แคทนอนก็จะนุ่งกางเกงในตัวเดียวเท่านั้น(มันสะดวกในการลุกไปทำธุระ)
2. อาหาร...พี่แคทจะไม่ค่อยทานเนื้อไก่เพราะกลัวเป็นโรคเก๊าต์(ก๊ากๆๆ...กังวลเกินเหตุ!!)
3. ว่ายน้ำ...พี่แคทเคยห้าวจัดท้าพี่อ๋อมว่ายน้ำแข่งกันข้ามแม่น้ำน่านที่อุตรดิตถ์...ผลปรากฏว่านางแมวว่ายน้ำสู้นางเสือไม่ได้จึงแพ้ราบคาบ(แล้วจะไปท้าดวลกับเค้าทำม้าย~~)
4. รูปร่าง...สมัยม.1 พี่แคทเคยถูกพวกเด็กผู้ชายล้อว่าเป็นยัยลูกหมูเพราะน้ำหนักตัวขึ้นไปถึง 62 กิโลกรัมในขณะที่สูงเพียง 150 ซม.ซึ่งทำให้เธอเจ็บใจมากและตั้งหน้าตั้งตาลดความอ้วนเป็นการใหญ่(จริงๆแล้วเจ้าหล่อนไม่ได้สวยเด่นมาตั้งแต่เด็กหรอกแต่เพิ่งมาดูดีตอนขึ้นชั้นม.ปลาย)
5. วันนั้นของเดือน...ตอน 7 ขวบทั้งที่ตัวเองยังไม่มีเมนส์แท้ๆแต่พี่แคทกลับแอบหยิบผ้าอนามัยของแม่มาใส่(แล้วมันจะใส่ได้ยังไงเล่าขนาดก็ต่างกันน่ะ?)
6. งานวัด...พี่แคทตอนเด็กโปรดปรานงานวัดมากเหลือเกิน...ถ้าตัวเองไปได้ล่ะก็ไม่มีทางพลาดเด็ดขาด(แต่ไม่ได้ทำบุญอะไรทุกครั้งนะ...เธอจะไปเล่นชิงช้าสวรรค์กับม้าหมุน!?)
7. หลงทาง...ราวๆ 8 ปีก่อนพี่แคทเคยหลงทางในเยาวราชขณะจะไปหัวลำโพงเพราะเกิดความงกไม่ยอมเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้าง(สรุปคือยังไปขึ้นรถไฟกลับลำปางทันแต่ต้องเดินขาแทบลาก...เคอะๆ)
...

เหยื่อรายที่สอง เรื่องราวของ ศรเพทาย ราศีกาญจนา(26)

"พี่เซคที่ใจดีมีเมตตาแต่เวลายัเย็ดจนหนำใจฺสองร้อยหกสิบครั้งวะล่ะเอาเรื่องน่าดูเชียวนะทางด้านนิสัยก็ออกจะพิลึกๆนิดหน่อย(มากต่างหาก)"

เรื่องที่อยากเมาส์(นินทา) 5 อันดับยอดเยี่ยม
1. งก...จะว่าเป็นคนงกหรือสมถะดีล่ะ?...พี่เซคจะขับรถดัทสันเก่าบุโรทั่งสีน้ำตาลไปทำงานโดยไม่ยอมซื้อรถรุ่นใหม่ใช้ซึ่งมันก็มักเสียอยู่บ่อยๆ(สู้เอาเงินค่าซ่อมไปออกรถโก้ๆขับไม่ดีกว่าเหรอ?)
2. ตื่นสาย...จริงๆแล้วพี่เซคไม่ชอบการตื่นนอนตอนเช้าเลยสักนิดพูดได้ว่าเข้าขั้นเกลียดแต่เพราะต้องทำงานจึงไม่มีทางเลือก(ถ้าวันไหนหยุดงานเธอจะตื่นอีกทีก็เลยเที่ยงวันไปแล้วนั่นแหละ!?)
3. อาหารโปรด...อาหารที่พี่เซคชอบมีแค่ไม่กี่อย่างซึ่งหนึ่งในนั้นคือปลาส้มฟักแต่จะต้องเป็นของอำเภอบ้านหมี่จังหวัดลพบุรีเท่านั้นยี่ห้ออื่นไม่สนใจไม่แยแสไม่ชายตามอง...เวลาเธอกลับโยนกบูรพาก็จะเหมาซื้อไปกินทีละมากๆ(ชื่อไม่บอกเดี๋ยวโดนฟ้อง!!!...เอาเป็นว่ามันห่อใบตองและหาซื้อได้ทั่วไปใกล้ๆบ้านคุณ)
4. เสริมสวย...พี่เซคไม่เข้าร้านซาลอนเสริมสวยเพราะมีช่างส่วนตัว(ก็ยัยศินั่นแหละ)และมีอยู่ครั้งหนึ่งขณะเป็นหมอเวรตรวจคนไข้นอกก็เคยไล่ตะเพิดพนักงานขายเครื่องสำอางเพราะรำคาญที่ถูกตามตื๊อขายของแถมบอกว่า "ไม่ต้องใช้ไอ้ที่บรรยายสรรพคุณมาฉันก็สวย Elegant กว่าใครๆอยู่แล้ว!!!" (เอ่อ--...อันนี้ต้องขอเคลียร์ซะหน่อยแล้วม้าง~~)
5. ห้องนอน...ความลับในห้องนอนของพี่เซคก็คือจะติดรูปของสาวๆไว้ที่ผนังมากมายและมีรูปโปสเตอร์ขยายใหญ่เป็นพิเศษขนาด 40 นิ้วก็คือรูปของพวกเราทุกคนตอนสวมชุดว่ายน้ำวาบหวิวเมื่อครั้งไปเที่ยวพัทยา 2 ปีก่อน(นี่มันหมายความว่ายังไงก๊าน!!!!)
...

...ส่วนเนื้อเรื่องหลักรอกันอีกสักนิดนะ...ชอบไม่ชอบยังไงก็บอกครับ 

สัพเพเหระหลากหลาย 9, โดนเมาส์(นินทา)กันทั่วหน้าเลย   
7 Jul 2010

เหยื่อรายที่สาม ศรมุกดา ราศีกาญจนา(21)

"หนึ่งในบุคคลที่ฝนให้ความนับถือต้องมีพี่ม่อนอย่างไม่ต้องสงสัย...เธอเหนือกว่าฝนแทบทุกอย่างเลยนะ"

เรื่องที่อยากเมาส์(นินทา) 6 อันดับยอดเยี่ยม
1. ชื่อ...ชื่อเล่นของเธอไม่ได้มีที่มาจาก "ม่อน" ในภาษาเหนือที่แปลว่าเนินเขาแต่มาจาก "Moonstone" หรือ "มุกดาหาร" (ทว่า...พี่ม่อนเกิดในกระท่อมไม้ไผ่เชิงเขามิหวนกลับก็น่าจะได้ชื่อม่อนอยู่หรอกนะ)
2. ดวงตา...ความจริงพี่ม่อนมีปัญหาในการมองเห็นมาแต่เด็ก...ถ้าศัพท์ทางแพทย์ก็คือดวงตาเป็นต้อน่ะแหละแต่ระวัง!!!...อย่านึกว่าจะรังแกเธอได้นะขอเตือนไว้เพราะพี่ม่อนจะรู้ตัวได้ด้วยจิตสัมผัสว่าผู้ที่เข้ามาใกล้มีจุดประสงค์ดีหรือร้ายอีกทั้งประสาทการได้ยินยังดีเยี่ยมด้วย(ขอถามหน่อย...ท่านเชื่อว่ามนุษย์ผู้ใช้พลังจิตมีจริงมั้ยล่ะเคอะ?...เหอๆๆ)
3. การพูด...ปกติพี่ม่อนเป็นคนพูดน้อยมาก(ถึงที่สุด)แต่หากเปิดปากเมื่อไหร่พวกเราทุกคนจะต้องเงี่ยหูฟังเพราะนั่นอาจหมายถึงว่ากำลังมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นก็ได้...โฮ่ๆๆ...แต่มีปัญหาอยู่ใช่มั้ย?...นั้นคือสำเนียงที่ออกจะฟังยากสักนิดคือพี่ม่อนเคยไปอยู่กับคุณน้าอรศินีย์แล้วจดจำลักษณะการพูดแบบยุคโบราณมา(พี่เอ้ก็เป็นไปด้วยแต่ฝนขอบาย...เคยลองหัดแต่ทนไม่ไหว)
4. โดราเอม่อน...พี่ม่อนจัดเป็นสาวกการ์ตูนโดราเอม่อนตัวยงและมีของสะสมเกี่ยวกับแมวอ้วนกลมสีฟ้าเต็มห้องนอนของเธอไปหมด(แม้แต่หมอนข้างไว้กอดยังเป็นรูปเจ้าแมวหลงทางแล้วอย่างนี้จะไม่ถูกพี่เซคล้อได้ยังไงจ๊ะ?)
5. เงิน...พี่ม่อนไม่ใช่คนรู้จักคุณค่าของเงิน(กรุณาอย่าเอาอย่าง)ถ้าเธออยากได้อะไรก็จะใช้วิธีฟาดหัวเอามาซึ่งต่างจากพี่เซคราวฟ้ากับดินทีเดียว "มีผู้กล่าวว่าหากมีเงินเสียแล้วจะจ้างผีโม่แป้งก็ย่อมกระทำได้มิใช่หรือ?" หล่อนเคยบอกฝนไว้อย่างนี้(ลูกเศรษฐีก็งี้แหละน๊า~~...น่าอิจฉาจัง)
6. ยามวิกาล...ในยามวิกาลที่ผู้คนต่างพากันหลับใหลแต่กลับมีมนุษย์ประหลาดออกเที่ยวเตร็ดเตร่ซึ่งนั่นคือพี่ม่อน...เธอจะไปตามสถานที่ต่างๆแล้วแต่ใจต้องการและวันเวลาก็ไม่แน่นอนด้วย...แม้กระทั่งป่าช้าศพไร้ญาติก็ยังเคยไปนั่งกินลมเล่นหน้าตาเฉยจนมีคนเข้าใจผิดว่าเป็นผีและเจ้าหล่อนก็จัดการตอกย้ำความเชื่อใช้พลังจิตสร้างภาพลวงตาหลอกซะเลย(นิสัยไม่น่าคบเหมือนกันนะ?...เกิดเขาจับไข้หัวโกร๋นขึ้นมาจะว่าไงขอรับ?)
...

เหยื่อรายที่สี่ ศรบุษราคัม วิษณุมนตรี(20)

"ฉันได้เจอพี่อ๋อมทีไรก็ถูกตีหน้าบึ้งใส่ตลอด...มีความสามารถในการโกรธเคืองคนอื่นได้ตลอดเวลาจริงๆ"

เรื่องที่อยากเมาส์(นินทา) 5 อันดับยอดเยี่ยม
1. ชื่อ...ทั้งที่แม่(ป้าเอ็ม)อุตส่าห์ตั้งชื่อให้อย่างเพราะพริ้ง "ศรบุษราคัม" แต่เจ้าตัวดันยินดีกับชื่อ "ศรรัตน์" ซะงั้น...คือศรรัตน์เนี่ยมีที่มาจาก "ศรเพชรรัตน์" ทวดของพวกเราผู้วางรากฐานแห่งความมั่งคั่งให้แก่ตระกูลวิษณุมนตรี(ก็เข้าใจนะคะว่ามีความเคารพศรัทธาแต่พอถูกเรียกชื่อจริงทีไรก็โมโหใส่ทุกที...แบบนี้มันก็เกินไปแฮะ)
2. ดาบแห่งจิต...คนอะไร้เก่งกาจขนาดใช้มือเท้ายังกะใช้มีดดาบ?...วิชาดาบแห่งจิตมีต้นกำเนิดมาจากจีนแต่พี่อ๋อมไม่ได้ไปร่ำเรียนถึงแดนมังกรหรอก...เธอลักฝึกจากบันทึกของน้าอรศินีย์นี่เองแหละ(ก็เย็ดจนหนำใจฺสองร้อยหกสิบครั้งถูกห้ามนี่นาเลยแอบอ่านแล้วฝึกฝนเอาเองซะเลย)ซึ่งวิชานี้จัดว่าอันตรายทีเดียวถ้าฝึกถึงขั้นสูงเพราะแค่เอามือจับคนอื่นก็สามารถบาดเข้าเนื้อได้แล้ว(ยิ่งหากเผลอใช้ขณะไม่ยั้งคิดล่ะก็...เสียวเว้ย!!!)
3. เสือ...สมญานาม "นางพญาเสือ" ไม่ใช่ได้มาเล่นๆ!!!...ในอดีตตอนพี่อ๋อมยังเป็นทารกป้าเอ็มเกิดมีน้ำนมไม่พอจึงกระทำในสิ่งที่ไม่มีใครหาญกล้านั่นคือเอาลูกสาวไปให้แม่เสือที่เลี้ยงไว้ในโยนกทักษิณช่วยให้น้ำนม!!!!(ขอซูฮกป้าเต็มสี่ห้องหัวใจเลยจ้า~~...ว่าแต่นมเสือจะมีรสชาติเป็นยังไงบ้างหนอ?)
4. เหล้า...นี่มันยิ่งกว่าคอทองแดงซะอีกฉะนั้นต้องเรียกว่าคอกระทะทองแดงจากนรก!!!!...พี่อ๋อมดื่มเหล้าเก่งสุดยอดอย่างที่ไม่มีใครในโยกจัตุรัสจะเทียบได้แม้แต่พี่เซคกับป้าเอ็มยังร่วงต่อหน้าเธอมาแล้ว(แม่กับลูกสาวตั้งวงดวลเหล้าวุ้ย!?...ยังไงก็ระวังโรคตับแข็งกันด้วยนะจ๊ะเดี๋ยวจะหาว่าสุดสวยไม่เตือน)
5. ยามวิกาล...ในยามวิกาลที่ผู้คนต่างพากันหลับใหลแต่กลับมีมนุษย์ประหลาดออกเที่ยวเตร็ดเตร่ซึ่งนั่นคือพี่อ๋อม(ลอกมาทั้งบรรทัดนี่หว่า?)เธอจะเดินไปรอบๆหมู่บ้านโยนกทักษิณอย่างเงียบเชียบบางทีก็ขึ้นไปค้างคืนบนยอดเขามิหวนกลับนอนชมฝนดาวตกพลางจิบเหล้าป่าแกล้มด้วยเนื้อย่างสุดแสนสบายอกสบายใจ(ช่างมีความสุขเสียจริงเลยนะเพ่!!!...เราสิต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งอ่านหนังสือเตรียมสอบ...เคอะๆๆ)
...

เหยื่อรายที่ห้า ศรโกเมน วิษณุมนตรี(14)

"ก๊ากฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...ยัยตัวเล็กเร๊อะ?...ก็ยอมรับนะว่าเก่งไม่เบาแต่คิดจะเทียบฉันยังเร็วไปล้านปีจ้า!!!"

เรื่องที่อยากเมาส์(นินทา) 4 อันดับยอดเยี่ยม
1. ชื่อ...เหตุที่ยัยตัวเล็กมีชื่อเล่นว่า "ป้อม" เพราะตอนแรกเกิดน่ะเวลาอยู่ในห่อผ้าดูตัวป้อมๆกลมๆน่ารักน่าชังแต่พอโตมาก็ไม่เห็นจะสักเท่าไหร่เลย(คึๆๆ)ตัวก็เตี้ยหน้าอกก็แทบไม่มีมองเผินๆอย่างกะเด็กผู้ชาย(โตไวๆเน้อยัยหนู!!)
2. ร่อน...ยัยตัวจิ๋วเนี่ยแก่แดดแก่ลมไม่เบานะออกท่องเที่ยวคนเดียวตั้งแต่อายุ 10 ขวบ(ไม่ชวนเราไปด้วย)มันร่อนไปโน่นมานี่แบบไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยหน่ายและไม่เคยกลัวอันตรายด้วย(เป้าหมายของแกคือจะเที่ยวให้ครบ 76 จังหวัดใช่มั้ยยะ?)
3. กิน...ยัยตัวกะเปี๊ยกนี่กินเก่งเจริญอาหาร(แต่ไม่ยักโตสักที)ของกินแทบทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเป็นต้องผ่านลงคอแม่หนูนี่ทว่ามีอย่างเดียวเท่านั้นที่ต่อให้ขู่ว่าจะจับถ่วงน้ำก็ไม่ยอมแดร๊กเด็ดขาดนั่นคือชุมเห็ด(เด็กโง่~~...นี่คือสมุนไพรแก้ท้องผูกอย่างดีเลยนะจ๊ะ)
4. วิ่ง...แม่หนูศรโกเมนคนนี้ฝึกวิ่งขึ้นลงภูเขาจนว่องไวเป็นกรดเชียวล่ะ(แต่ยังไม่เท่าฝนร้อก!!)ซึ่งสาเหตุหลักน่าจะมาจากความแบนราบเหมือนฝากระดาน(โฮ่ๆๆ)โดยเฉพาะเวลาจะหนีใครเนี่ยแม่คุณโกยอ้าวไม่คิดชีวิตเลยนะ(เด็กหญิงเน็กลมๆก็งี้แหละ...พยายามต่อไปล่ะกันนะน้องรัก!!!)
...

...เอามาเพิ่มให้อีกสามสาวครับ