ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายค่ะ 5 : april

เริ่มโดย casgig, ตุลาคม 29, 2014, 12:39:36 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

casgig

ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายค่ะ 5

ดิฉันขึ้นลิฟท์ไปที่ห้อง 402  อีราตรีคอยดิฉันอยู่แล้ว
"อื้อ มาตรงเวลาดีนะ" อีราตรีพูด "เธอนี่ท่าทางจะรับผิดชอบดีเหมือนกัน เอ้า..ถอดเสื้อผ้าแล้วไปใส่ชุดทำงานซิ เดี๋ยวจะพาไปคลับ" อีราตรีพูด
"ชุดทำงานอยู่ไหนคะ"
"โน่นไง" มันชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ตรงมุมห้อง

ดิฉันก็ถอดเสื้อผ้าออก ไม่ค่อยจะอายเท่าไหร่หรอกค่ะ อยู่กันสองคนผู้หญิงด้วยกัน ถ้าเทียบกับวันก่อนถือว่าสถานการณ์ดีกว่าเยอะ

อีราตรีมองดิฉันถอดเสื้อผ้าออกหมด มันก็ยิ้ม
"ท่าทางคล่องแคล่วขึ้นนะเนี่ย สงสัยจะถอดบ่อย" มันชม
ดิฉันไม่ว่าอะไร เพราะใจมันเสียว ไม่รู้ว่าชุดทำงานจะเป็นยังไง ...คิดว่าต้องโป๊แน่ ...ทำงานในคลับนี่...แต่จะโป๊แค่ไหนล่ะ ดิฉันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า พอเปิดออกก็งง เพราะในตู้ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
"ไหนคะชุดทำงาน ไม่เห็นมีอะไรเลย" ดิฉันหันไปถาม
"ใครบอกเธอว่าอยู่ในตู้"
"อ้าว ก็คุณชี้มาที่ตู้นี่"
"ชั้นชี้ไปที่ราวต่างหาก...อยู่นั่นไง ชุดแขวนอยู่ที่ราวข้างตู้"
ดิฉันมองไปที่ราวไม่มีชุดอะไรทั้งสิ้น นอกจากสายคล้องบัตรพนักงานแขวนอยู่สิบกว่าอัน พอเห็นเท่านี้ดิฉันก็เข้าใจในความหมายแล้ว หน้าดิฉันร้อนวาบขึ้นมาทันที
"นี่หมายความว่า..."
"ถูกต้องแล้วจ้ะ อันซ้ายสุดนั่นของเธอ เอามาคล้องซะเท่านี้ก็สวยแล้ว"
ป่วยการที่จะโต้เถียงใดๆ เพราะถึงยังไงดิฉันก็ไม่มีทางเลือก สรุปก็คือดิฉันต้องแก้ผ้าทำงาน ดิฉันหยิบสายคล้องบัตรพนักงานอันซ้ายสุดขึ้นมา ด้านหน้าเป็นรูปของดิฉัน ด้านหลังเป็นรูปดิฉันแก้ผ้า ดิฉันหยิบมาคล้องคอ

"ใส่ชุดนี้แล้วสวยมากจ้ะ" อีราตรีพูดหน้าตาเฉย
"คุณราตรีน่าจะใ่ส่ชุดนี้บ้างนะ จะได้สวย" ดิฉันพูด
มันห้วเราะ
"ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคนรู้จักมาเห็น ฉันก็อายเค้าแย่ซิ"
เออ แล้วกรูไม่มีคนรู้จักเลยเหรอ ดิฉันคิดในใจ

"เออ แต่เธอไม่ต้องกลัวอายหรอกนะ"
มันพูดเหมือนได้ยินที่ดิฉันคิด

"ทำไมคะ" ดิฉันถาม
"พอใส่ไปทุกวันเธอก็ชินไปเอง"
"ขอบคุณนะรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย"
มันหัวเราะ
"ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ"

เป็นอีกครั้งที่ดิฉันต้องแก้ผ้าล่อนจ้อนเดินตามอีราตรีไปที่ลิฟท์
ถึงจะเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ดิฉันก็ยังอายสุดๆเหมือนเดิมค่ะ แต่ดิฉันก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ เดินแ้ก้ผ้าไปอย่างสง่าผ่าเผยเหมือนกับสวมเสื้อผ้าราคาแพงอย่างงั้นแหละ ...มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเป็นระยะ บางคนยิ้มให้ดิฉันดิฉันก็ยิ้มตอบเขา สักพักลิฟท์ก็มาถึง ดิฉันรีบตามอีราตรีเข้าไปข้างใน มีชายหนุ่มยืนอยู่ข้างในอยู่แล้ว เขาหล่อมากเลยค่ะ หน้าตาเกลี้ยงเกลา สวมชุดสูท มาดดีมาก
"ชั้นไหนครับ" เขาถามเมื่อเราเดินเข้าไปข้างใน สายตามองดิฉันตลอด
"14 ค่ะ" อีราตรีตอบ ทั้งๆที่เขาไม่ได้มองมันเลย

หนุ่มหล่อหันมายิ้มให้อีราตรี แล้วช่วยกดชั้น 14 ให้ แล้วหันมามองดิฉัน ตอนแรกเขามองหน้าก่อน ดิฉันก็มองตอบ ส่งยิ้มให้ด้วย เค้าเปลี่ยนไปมองที่นม แล้วก็จิ๋ม ดิฉันปล่อยให้เค้ามองเต็มที่ไม่เอามือปิดบังอะไร แต่รู้สึกร้อนวาบไปตามสายตาที่มองส่วนต่างๆของดิฉัน ตอนนี้ดิฉันทำใจไว้หมดแล้ว ยังมีคนอีกมากที่จะต้องเห็นดิฉันแก้ผ้าอย่างนี้ ปล่อยให้เค้ามองเพิ่มอีกซักคนจะเป็นไรไป ดิฉันปลอบใจตัวเองแม้จะอายแสนอายแต่ก็ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเริ่มงานจริง ผู้ชายสุดเท่ห์คนนี้มองจิ๋มดิฉันสักพัก แล้วก็มองกลับมาที่หน้าดิฉันใหม่ ดิฉันก็ยิ้มให้เหมือนเดิม
"ทำงานวันแรกหรือครับ"
"ค่ะ" ดิฉันตอบ
เขามองนมดิฉันใหม่ แล้วหันมามองหน้าดิฉันอีก คราวนี้ดิฉันหน้าแดงซ่าน เล่นจ้องเอาจ้องเอาอย่างนี้จะทนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้ไงคะ ดีที่เขาสุภาพรูปหล่อ ดิฉันเลยไม่นึกโกรธอะไรเขา แถมยังแอบปิ๊งเขาด้วยค่ะ
...เสียดายที่เราเจอกันในสภาพนี้

"ชื่ออะไรครับ"
"ชนันภรณ์ค่ะ"
"เสียดายนะครับที่วันนี้ผมงานยุ่ง ไม่งั้นต้องไปจองคุณชนันภรณ์เป็นคนแรกแน่"

เอ้อ จองอะไรไม่ทราบคะ ...
ดิฉันคิดในใจแต่ปากตอบไปตามมารยาทว่า

"ไม่เป็นไรค่ะ โอกาสหน้ายังมี ถ้าว่างก็เชิญนะคะ"
"เอ๊ะ มีแววดีนี่" อีราตรีเอ่ยขึ้นมาโดยไม่มีใครถาม "มนุษย์สัมพันธ์เป็นเลิศ ยังไม่ทันเริ่มงานก็รู้จักเชิญแขกแล้ว อย่างนี้ต้องรุ่งแน่ๆ"
"แต่ดิฉันว่่า ถ้าคุณราตรีได้ทำงานนี้น่าจะรุ่งกว่าดิฉันอีก เพราะชั่วโมงบินสูง" ดิฉันสวนทันควัน

ทั้งอีราตรีกับหนุ่มหล่อหัวเราะพร้อมกัน

"พูดเก่งนะครับเนี่ย น่ารักจัง" ชายหนุ่มพูด "เสียดายติดงานจริงๆ ไม่งั้นผมจะไปด้วยเลย นี่คุณราตรีพาไปส่งเองเลยหรือครับ"
"ค่ะ คนนี้ดิฉันชอบค่ะ พูดเก่งอย่างที่คุณบอก กล้าต่อปากต่อคำกับดิฉัน ไม่เหมือนคนอื่น ทำงานวันแรกเลยต้องพาไปส่งหน่อย" อีราตรีตอบ

เอ๊ะ มันพูดดีก็เป็นเหมือนกันนะเนี่ย ดิฉันชักรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยนึง

พอดีลิฟท์ถึง ชั้น 14 เราเลยออกมาจากลิฟท์กันก่อน ส่วนชายหนุ่มหน้าตาดีนั้นยังขึ้นต่อไป

"เสน่ห์แรงจริงนะเธอ เค้ามองเธอตาเป็นมันเลย"
"ผู้ชายที่ไหนจะไม่มองล่ะ แก้ผ้าล่อนจ้อนอย่างนี้น่ะ" ดิฉันพูดอย่างโมโห "อยากเสน่ห์แรงก็แก้ดูบ้างดิ"
"รู้สึกอยากให้ฉันแก้ผ้าเหลือเกินนะ แต่จะบอกอะไรใรให้นะ คนนี้น่ะไม่เหมือนคนอื่นหรอก"
"ไม่เหมือนยังไง...เค้าเป็นใคร" ดิฉันชักสนใจ
"ไม่บอก" อีราตรีพูดแล้วก็หัวเราะ นังนี่ชอบพูดให้ดิฉันสนใจ พอสนจริงๆเข้ามันก็ไม่บอกซะงั้น จัดเป็นคนประเภทยั่วโทสะได้เป็นธรรมชาติมาก


อีราตรีพาดิฉันไปที่รถเบ็นซ์ของมันซึ่งติดฟิล์มทึบ คนภายนอกมองเข้ามาไม่ได้ ทำให้ดิฉันสบายใจขึ้นมาหน่อย นังราตรีคุยแนะนำเรื่องคลับและงานที่ดิฉันต้องทำ ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์เข้ามา คู่ปรับตัวแสบของดิฉันก็คุยไปหัวเราะไป พอวางสายเสร็จก็หันมาบอกดิฉันว่า
"ฉันว่าแล้วมั๊ยล่ะ"
"ว่าอะไรคะ"
"ก็หนุ่มหล่อคนเมื่อกี๊น่ะ เค้าโทรมาคุยเรื่องเธอ"
"เค้าคุยอะไร"
"เค้าสั่งฉันว่าห้ามให้เธอออกไปกับแขกคนไหนทั้งนั้น แล้วฝากบอกเธอว่าอย่่าไปอึ๊บกับใครในคลับเด็ดขาด"
"เอ๊ะ เข้าใจผิดอะไรรึเปล่าคะ ฉันไม่ได้มีความคิดจะอึ๊บกับใครแม้แต่น้อย"
อีราตรีหัวเราะ
"เธอไม่รู้อะไร พนักงานทุกคนต้องอึ๊บกับแขกในคืนแรกกันทั้งนั้นแหละ ถ้าเขาไม่สั่งไว้ เธอก็ต้องอึ๊บ"
"เค้าใหญ่มากนักหรือไง" ดิฉันถามอย่างสนใจ
"ไม่บอก"
"ฉันก็ถามไปงั้นแหละ ไม่ได้อยากรู้หรอก"

ราตรีพาดิฉันไปส่งในคลับที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหราสมกับเป็นคลับไฮโซ  มันกลับไปก่อนทิ้งให้ดิฉันเผชิญชะตากรรมตามลำพัง
"เอ้า มาพอดีเลย เด็กกำลังไม่พอ วันนี้ลูกคัาเยอะจริงๆ ดาวพาเด็กใหม่ไปหาลูกค้าหน่อยซิ"
"ค่าาา"
ดิฉันเริ่มสำรวจเพื่อนใหม่ของดิฉันทันที สาวน้อยชื่อดาว สวยน่ารัก ดูหน้าตาแล้วน่าจะเป็นเด็กนักศึกษา สงสัยทำงานใช้หนี้เหมือนดิฉัน เพราะเธอก็เปลือยกายล่อนจ้อน ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่สายคล้องบัตรพนักงานเส้นเดียวเท่านั้น ดิฉันสำรวจไปรอบๆก็เห็นพนักงานผู้หญิงทุกคนเปลือยกายกันหมด ใช่แล้วล่ะ เครื่องแบบพนักงานของคลับเป็นอย่างนี้จริงๆ

"ตามหนูมาเลยค่ะพี่" ดาวพูดแล้วก็มาพาดิฉันเดินไปตามทางที่ค่ือนข้างมืด มีแสงไฟดาวไลท์สีเหลืองนวลส่องเป็นระยะ มีเสียงเพลงโรแมนติคดังเบาๆประสานกับเสียงอะไรไม่รู้ดัง พั่บ พั่บ เช๊าะแชะ เช๊าะแชะ
เสียงพวกนั้นทำให้ดิฉันอดไม่ได้ต้องสำรวจไปยังที่มา แล้วดิฉันก็ต้องตกใจ เพราะตลอดทางที่วกวน มีโซฟาสูงใหญ่จัดวางเป็นระยะ  ผู้ชายผู้หญิงล้วงควักกันอย่างเมามัน หลายคู่ เอากันโต้งๆ ร้องกันซี๊ดซ๊าดแบบไม่อายอะไรกันเลย แถมบนโซฟาบางตัวเล่นกันเป็นหมู่นัวเนียไม่รู้ขาใครเป็นขาใครอีกด้วย

ดิฉันฉุดมือดาวไว้

"ดาว นี่มันอะไรกันเนี่ย งานของเรามันเป็นไง" ดิฉันถาม
"อ้าว พี่ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ ไม่มีใครบอกพี่เลยรึไง"
"คุณราตรีบอกบ้างเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนแบบนี้" ดิฉันชี้ไปที่โชฟาตัวนึงที่มีผู้ชายสามผู้หญิงหนึ่งนัวเนียกันอยู่ ฝ่ายหญิงกำลังนั่งควบผู้ชายอย่างเมามัน "นั่นพนักงานเราเหรอ" ดิฉันถาม
"ค่ะ นั้นเปิ้ล" ดาวพูดแล้วดึงดิฉันไปที่ซอกด้านหนึ่ง
"ไม่มีใครแนะนำพี่ไม่เป็นไร เดี๋ยวดาวบอกให้ มันไม่ยากหรอกพี่ แค่พยายามให้เค้าดื่มเยอะๆ กินเยอะๆ ส่วนเค้าอยากทำอะไรเราก็ปล่อยเค้าทำไป"
"ปล่อยให้เค้าทำได้ทุกอย่างเลยเหรอ" ดิฉันตกใจ
"แหม ก็อย่างที่พี่เห็นน่ะแหละ"
"แต่พี่ไม่ยอมให้ใครทำแบบเปิ้ลนั่นหรอกนะ พี่จะเก็บให้แฟนพี่"
"พูดเป็นเล่นน่ะพี่ มาถึงนี่แล้วไม่มีใครเก็บไว้ได้หรอก" ดาวพูดแล้วดึงดิฉันออกมา "บริษัทให้พี่ทำงานใช้หนี้ใช่มั้ยล่ะ อยากให้หนี้หมดเร็วๆพี่ก็ต้องให้แขกอึ๊บเยอะๆ เงินดีนะพี่ ที่นี่เค้าแย่งเสี่ยกันทั้งนั้นแหละ เจอตัวใหญ่ๆรีบคว้าไว้เลย"
"อีกอย่างนะี่พี่ พี่อย่าทำให้ลูกค้าโกรธนะ"
"ทำไม"
"พี่เห็นไอ้คนตัวใหญ่ๆพวกนั้นมั้ยล่ะ ถ้าลูกค้าโกรธละก็ พี่มีเจ็บตัวแน่ หนูอธิบายสั้นๆละกันไม่มีเวลา ถึงแล้วพี่ โต๊ะนั้นน่ะ ของพี่...ไปกันเถอะ หนูจะพาพี่ไปแนะนำักับลูกค้าให้"
"เฮ้ย เดี๋ยวววววววววว" ดิฉันร้องจ๊าก รีบฉุดดาวไว้
"มีอะไรคะพี่ ร้องซะตกอกตกใจ"
"ไม่ได้แล้วล่ะน้องดาว ต้องขอเปลี่ยนโต๊ะโดยด่วน"
"ทำไมคะ"
"ไอ้พวกที่นั่งโต๊ะนั้นน่ะ พนักงานบริษัทพี่ทั้งโต๊ะเลย โห...ผู้จัดการทั้งนั้นเลยนะเนี่ย แล้วไอ้ตัวนั้นมันเด็กเมซเซ็นเจอร์ มาได้ไงเนี่ย คลับหรูขนาดนี้ไม่คัดคนเลยเหรอ" ดิฉันโวยวายแต่เสียงเบา เพราะกลัวคนอื่นได้ยิน
"ปกติก็ให้เข้าเฉพาะไฮโซนะพี่ แต่เดือนนี้ครบรอบเจ็ดปีของบริษัท เลยให้แขกจากคลับอื่นเข้ามาได้ คนถึงเยอะจนเด็กเราไม่พอไง อย่างเปิลนั่นยังต้องรับหนึ่งต่อสาม"
"พี่ขอแลกโต๊ะนะ"
"ไม่ได้แล้วพี่ ทุกโต๊ะเค้านัวเนียกันอยู่จะมาแลกกับพี่ได้ไง ช่างมันเถอะพี่ ทำๆไปเหอะ"
"เฮ้ย ไม่ได้ แล้วพี่จะกลับไปทำงานได้ไง อายเค้าแย่ซิ พวกนี้มันจะได้ไปเม้าให้คนอื่นฟัง พี่ทำไม่ได้จริงๆนะดาว"  ดิฉันพูดอย่างร้อนใจ
"งั้นเอางี๊ละกัน หนูนึกออกแล้ว พี่นี่ยุ่งจริง" ดาวพูดไปหัวเราะไป ลากดิฉันเข้าไปในห้องนึง "โชคดีนะที่พี่มาเจอคนฉลาดอย่างหนู ไม่งั้นไม่มีใครช่วยพี่ได้หรอก"
"หาโต๊ะให้พี่เปลี่ยนได้เหรอ" ดิฉันถาม
"เปล่า แต่หาวิธีไม่ให้พี่อายได้" ดาวพูดพร้อมกับเปิดตู้
"ทำไง"
"นี่ไง" ดาวบอกพร้อมกับดึงหน้ากากขนนกสีดำอันใหญ่ออกมาจากตู้ "ใส่หน้ากากนี่เค้าก็จำพี่ไม่ได้แล้ว" ดาวพูดพร้อมกับยิ้ม "เป็นไงพี่ ไอเดียหนูจ๊าบมั้ย พี่ใส่นี่อย่างสวยเลย"
"โห ก็ไม่ได้หรอกนะดาว เค้าก็จำพี่ได้อยู่ีดีแหละ คนทำงานด้วยกันทุกวันมันจำกันได้นะ เสียงพี่อีกล่ะ"
"พี่ก็ดัดเสียงซิ หน้ากากนี่มันอันใหญ่เค้าจำไม่ได้หรอก แล้วคนหน้าตาคล้ายกันก็มีถมเถ เห็นบางส่วนจะจำได้ไง ปฎิเสธลูกเดียวซิพี่"
"หน้ากากใหญ่กว่านี้ไม่มีเหรอ เอาแบบปิดได้หมด อย่างหน้ากากไอรอนแมนอะไรพวกนั้นก็ได้"
ดาวหัวเราะ
"ไม่มีหรอกพี่หน้ากากแบบนั้น ใส่แล้วหมดอารมณ์กันพอดี ต้องหน้ากากแบบนี้ มันน่ารักเซ็กซี่ื...พี่ลองใส่ดูซิ สวยนะ"
ไม่มีทางเลือก ดิฉันลองใส่ดู แล้วดูที่หน้ากระจก เออมันสวยจริงๆด้วยแฮะ แล้วดูไปดูมาก็ไม่น่าจะจำได้นะ เพราะหน้ากากขนนกมันใหญ่จริงๆ สวยมากๆด้วย หน้ากากสีดำตัดกับผิวขาวๆของดิฉันดีจังเลย
"สวยใช่มั้ยล่ะ"
"จ้ะ"
"งั้นลุยเลย"

อา..นี่ทำงานวันแรกดิฉันต้องแก้ผ้าล่ิอนจ้อนให้คนในบริษัทดูเลยหรือนี่ หมดกัน ไม่เหลืออะไรแล้ว ดิฉันอยากจะร้องไห้....

ดิฉันสำรวจที่โต๊ะว่ามีใครมาบ้าง...

คุณเอกวิทย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
คุณชำนาญ ผู้จัดการฝ่ายขาย
พี่วิทยา ผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุง
คุณธรรมรักษ์ โอ้...คนนี้เซอไพรซ์มาก เพราะเป็นคนธรรมมะธรรมโม ชอบมาคุยกับดิฉัน เขาเป็นถึงรองผู้จัดการใหญ่ มากับเขาด้วยเหรอเนี่ย ตายแล้ว เสือซุ่มจริงๆ นี่แหละ รู้จักคน รู้จักหน้าไม่รู้จักใจ

...แต่ที่เซอไพรซ์ที่สุดคือ ไอ้ปื๊ดนี่แหละ มันเป็นแมสเซ็นเจอร์ของบริษัท มีตังมาเที่ยวได้ไง สงสัยมีใครออกทุนให้แหง

ตอนดิฉันเดินเข้าไปทั้งสี่ผู้จัดการมีสาวนั่งคลอเคลียกันอยู่แล้ว ยกเว้นไอ้เด็กเมซเซนเจอร์คนเดียว พอดิฉันเข้าไปมันก็ยิ้มร่า ออกอาการตื่นเต้นดีใจสุดขีด
"ฮ่า ฮ่า ในที่สุดเมียผมก็มาแล้ว หู..สวย.....ใหญ่เต็มตา ถูกใจปื๊ดจริงๆ...คุ้มค่าการรอคอย" ไอ้เด็กเปรตร้องเสียงดัง ทำเอาดิฉันหน้าร้อนผ่าว ทั้งอายทั้งโมโห ที่ได้เด็กเปรตมาประกาศสรรพคุณดิฉัน
"เฮ้ยๆๆ เปลี่ยนโว๊ย ปื๊ด แลกเด็กกัน" คุณธรรมรักษ์จอมธรรมมะธรรมโม โวยเป็นคนแรก
"เอ๊ะ ได้ไง ของใครของมันซิครับ คุณธรรมรักษ์ก็มีน้องเค้กอยู่แล้วนะ ผมรอเมียผมตั้งนาน อยู่ๆจะมาแลกกันดื้อๆ" ไอ้เต็กเปรตโวย
"นั่นซิคะ ป๋า แหม พูดอย่างนี้ เค้กเสียใจนะ"
"แหม ป๋าล้อเล่นน่ะ น้องเค้กของป๋าน่ะใครมาแลกก็ไม่ยอม" ป๋าธรรมรักษ์ตอบหน้าเจื่อน แต่สายตาเขามองนมดิฉันตาไม่กระพริบ ท่าทางเหมือนอยากฟัดเต็มที่ แหม..นี่นะคนธรรมมะธรรมโม คบกันมาตั้งนาน เพิ่งจะรู้จักตัวจริง
"มานี่ หนู มานั่งตักพี่มะ" ไอ้เด็กเปรตเรียกตัวเองว่าพี่ แล้วเรียกดิฉันว่าหนู
"เอ้อ หนูนั่งข้างๆพี่ดีกว่านะ" ดิฉันตอบแล้วนั่งลงข้างๆมัน เรื่องอะไรจะไปนั่งตักไอ้เด็กเปรต
"เฮ้ย ไม่ได้นะ น้องเบ็นซ์ น้องเบ็นซ์ต้องนั่งตักพี่" มันบอกแล้วดึงดิฉันเข้าไปนั่งบนตัก ดิฉันไม่รู้ทำไงเลยจำใจต้องนั่งตักมัน
"น้องชื่ออะไรครับ แหม...ลึกลับไม่ใช่เล่น ใส่หน้ากากซะด้วย แหมเหมือนจะรู้ใจพี่ปื๊ดนะครับ เพราะพี่ปื๊ดชอบความลึกลับ"
ดิฉันแกะเอามือมันออกจากนมก่อนตอบ
"หนูชื่อเบ๊นซ์ค่ะ" ดิฉันตอบมั่วๆ "พี่ทำงานอะไรคะ"
"อ๋อ พี่เหรอ พี่ชื่อปื๊ดเป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผนและกลยุทธครับ" ไอ้เด็กเปรตโกหกหน้าตาเฉย ดิฉันมองหน้าคนอื่นก็เห็นยิ้มๆำกัน ไม่มีใครเปิดโปงมันเลย
"คุณปื๊ดนี่เก่งมากนะครับน้องเบ็นซ์" คุณเอกวิทย์เอ่ย "้ถ้าไม่มีพีีปื๊ดช่วยวางกลยุทธละบริษัทพี่ไม่ใหญ่โตขนาดนี้หรอก" ผู้จัดการฝ่ายการตลาดโปรโมทไอ้เด็กเปรตเต็มที่ หารู้ไม่ว่าดิฉันน่ะรู้จักมันดี
"จริงหรือคะคุณ..."
"เอกวิทย์ครับ"
"ค่ะคุณเอก แหมไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่ปื๊ดจะเป็นผู้จัดการ ถามลุงคนนี้ดีกว่า ท่าทางธรรมะธรรมโม.."
"เอ้อ เรียกป๋าดีกว่าครับ อย่าเรียกลุงเลย" คุณธรรมรักษ์พูด "ป๋าชื่อธรรมรักษ์นะจ๊ะหนูเบ็นซ์ หนูเบ็นซ์จะถามอะไรป๋าจ๊ะ"
"ก็พี่คนเนี้ย เค้าเป็นผู้จัดการจริงหรือคะ"
"อ้าว แล้วทำไมหนูเบ็นซ์ถึงสงสัยล่ะจ๊ะ" คุณธรรมรักษ์ถาม
"เพราะท่าทางเค้าไม่เหมือนผู้จัดการเลย"
"อ้าว แล้วพี่เหมือนอะไรล่ะครับ" ไอ้เด็กเปรตตอบพร้อมกับหอมแก้มดิฉันดังฟอด พร้อมกับขยำเต้าอวบของดิฉันอย่างมันมือ
ดิฉันแกะมือมันออกจากนมอีกครั้งก่อนตอบ
"พี่เหมือนแมซเซ็นเจอร์มากเลยค่ะ"
คราวนี้ทุกคนหัวเราะกันทั้งโต๊ะ สาวๆในโต๊ะเฮกันลั่น คงไม่นึกว่าดิฉันจะกล้าพูดกับแขกอย่างนี้
ไอ้เด็กเปรตหน้าเจื่อนที่ถูกเปิดโปง
"แหม น้องเบ็นซ์นี่ล้อพี่แรงนะครับ เอ๊..พี่ว่าน้องเบ็นซ์นี่คุ้นๆอยู่น๊า"
"นั่นซิ ป๋าก็ว่าหนูเบ็นซ์นี่คุ้นๆเหมือนใครคนหนึ่ง" คุณธรรมรักษ์เอ่ยบ้าง "หนูเบ็นซ์เปิดหน้ากากออกได้มั้ยจ๊ะ"
"ใช่ ถอดเหอะ ใส่ทำไมเนี่ย" ไอ้เด็กเปรตพูดแล้วคว้าหมับที่หน้ากากดิฉัน แต่อีกมือมันไม่ยอมปล่อยจากนมดิฉันเลย ดิฉันใจหายวาบ