ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_saradio

สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 1 (นิยายกำลังภายใน ล้อยุทธภพ เสียวทะลึงปนฮา)

เริ่มโดย saradio, มิถุนายน 14, 2015, 09:16:42 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

saradio

 ก่อนอื่นต้องขออภัยผู้อ่านที่ตามอ่าน reply 2003 เพราะอาจจะต้องขอพักไว้ก่อน เนื่องจากต้องคอดพร็อตเรื่องในช่วงหลัง ที่มีความซับซ้อนทางตัวละครมากขึ้น จนต้องกาจุดลงตัวก่อน และคิดให้ดีก่อน ดังนั้นจึงขอพักไว้คิดพร็อตก่อนนะครับ
ช่วงนี้ก็เลยจะเอานิยายเรื่องอื่นลงให้อ่านกันไปก่อน


------------------------------------------------
          พยัคฆ์ที่ 1 ปัวโก้วเซาะ จอมกระบี่นางฟ้าขาว


          บนสะพาน เมืองกุยจิ่วเป็นสะพานหินสลักข้ามลำห้วยกลางเมืองอันมีชื่อเสียงโด่งดังในยามปกติแล้วจะมีผู้คนผ่านไปมามากมาย มีร้านค้าแผงลอยคับคลั่งแต่วันนี้กลับยังมีที่แปลกประหลาด ผู้คนหลากหลายในตอนนี้ต่างพากันไปออกันสองฝากฝั่งสะพาน ราวกับบนสะพานนั้นกำลังมีสิ่งใดน่าชมดู


หากแหวกฝูงชนเข้าไปดูจะพบว่าที่แท้บนสะพานยามนี้ กำลังจะมีเรื่องวิวาทกันระหว่างชาวยุทธจักรชายยุทธสองคนยืนประจันหน้ากันอยู่สองฝากฝั่งสะพาน


คนทางซ้ายมือเป็นชายฉกรรจ์วัยกลางคน แต่งตัวหยาบกร้าน สวมหมวกเหล่ยบังแดดลม ในมือมันถือโซ่ขอเหล็กเป็นอาวุธ ท่าทีพรักพร้อมลงมือ แต่สีหน้ายังหวาดหวั่นเครียดเคร่งต่อฝ่ายตรงข้าม


คนทางขวากลับยังยืนสงบนิ่งประดุจบรรพตไม่ไหวคลอนทวงท่าทระนงสุขุม กอดกระบี่ไว้กับอกไม่มีทีท่าหวั่นไหวใดๆ รูปลักษณะคนผู้นี้ดูสง่าชุดแต่งกายเริดหรู เป็นชุดบู๊อาภรณ์สีขาวราวหิมะบนศีรษะมีสายคาดมวยผมประดับอัญมณีโดดเด่น ปลายสายคาดโบกไสวไปตามแรงลมทุกอย่างล้วนดูดีมีชาติตระกูล หากแต่ที่ผิดแปลกกลับอยู่ที่หน้าตาด้วยริมฝีปากที่หนา กับโหนกแก้มที่เป็นแหลี่ยมนูน เหมือนบ่าวรับใช้ชนบทหลายคนที่ชดดูล้วนวิจารณ์ว่า แต่งกายไม่ได้สมกับใบหน้าแต่มันก็มิได้นำพาต่อเสียงนกเสียงกา นิ่งสงบราวกับน้ำในบ่อ


ชายชุดหยาบอดรนทนไม่ได้ กล่าวร้องว่า


"ที่แท้ท่านเป็นผู้ใดถึงติดตามเราไม่เลิกรา"


ชายชุดขาวยิ้มขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ตอบคำ กลับถามว่า


"ท่านคือมือขอเหล็ก ทิกวงนั้ง ใช่หรือไม่?"


ชายชุดหยาบยืดอกรับคำ


"ถูกต้องเราคือ ทิกวงนั้ง แล้วท่านเป็นผู้ใด?"


ชายชุดขาวไม่ได้ตอบคำ ถามอีกว่า


"หากท่านคือทิกวงนั้ง เราก็นับว่าตามได้ไม่ผิดตัว สมควรต้องคิดบัญชีสะสางกัน"


ทิกวงนั้งงงงันสองวูบ ถามไปสองครั้งแม่งไม่ตอบชื่อแซ่ ตกลงแม่งเป็นใครกูไม่รู้จักดังนั้นแปรเปลี่ยนถ้อยคำ ถามอีกว่า


"เราไม่ได้รู้จักท่านไม่มีอริบาดหมาง มีบัญชีอันใดต้องสะสาง?"


"เราท่องโดดเดี่ยวพันลี้ถือกระบี่ในมือสีขาว แต่งชุดก็สีขาว ผู้คนจึงขนานนามว่า กระบี่นางฟ้าขาวปัวโกวเซาะ"


ทิกวงนั้งดาลเดือดครุ่นคิด'ไอ้เชี้ยนี่..กวนตีนได้ใจถามอย่าง เสือกตอบอีกอย่างมาโดยตลอด'แต่ฟังว่ามันคือปัวโกวเซาะ ยังอดตระหนกมิได้ ฟังว่าปัวโกวเซาะผู้นี้เป็นหนึ่งในสองพยัคฆ์หมู่ตึกทรงธรรมบู๊ลิ้ม วันนี้สืบเสาะหาเรา ย่อมต้องมีสาเหตุ ดังนั้นกล่าวว่า


"ที่แท้ก็คือกระบี่ขาวปัวโกวเซาะ..."


                กล่าวได้เพียงเท่านี้ปัวโกวเซาะพลันชิงจุ๊ปากส่ายปลายนิ้วชี้ เสมือนว่าไม่ถูกต้อง สอดแทรกว่า


            "กระบี่นางฟ้าขาว ปัวโกวเซาะ ท่านตกคำว่านางฟ้าไป เนื่องเพราะท่วงท่าเพลงกระบี่เราสวยงามราวกับนางฟ้าร่ายรำผู้คนจึงให้สมญากระบี่นางฟ้าด้วย"


                ทิกวงนั้งเดือดดาลรำคาญใจ จนหน้าแดงฉาดดูใบหน้ากับฉายามันมิได้เข้าอารมณ์ กล่าวว่า


          "เอาเถอะ.. กระบี่นางฟ้าขาวปัวโกวเซาะ ตกลงข้าพเจ้ามีหนี้แค้นอันใดกับท่านขอคำชี้แจ้งให้กระจ่างชัด"


                 ครั้งนี้ปัวโกวเซาะค่อยตอบเป็นผู้คน กล่าวว่า


          "หนี้แค้นสำหรับเรานั้นคงไม่มีแต่หนี้แค้นของสตรีผู้หนึ่งนับว่าสาหัสนัก เมื่อหกเดือนก่อน ท่านไปยังหอฮวยชุนฮัวเรียกอีตัวมาดื่มกิน หนี้สินยังไม่ได้ชำระล้าง ไฉนจึงจากมา"


                ทิกวงนั้งสีหน้าแปรเปลี่ยน อุทานดัง อ้า


            "ที่แท้หอฮวยชุนฮัวส่งท่านมาราวีเรา"


          "มิได้ หออวยชุนฮัวไม่ได้ส่งเรามา เพียงแต่ว่าเรากลับขึ้นห้องสตรีนางเดียวกับท่าน สตรีนางนั้นเสียดายค่าตัวที่ถูกท่านชักดาบจึงอ้อนวอนขอร้องเราให้ติดตามมาทวงหนี้ ตกลงท่านยินยอมจ่ายหรือไม่..."


                ยามนั้นบังเกิดเสียงถ่มถุยน้ำลายจากชาวบ้านกล่าวดังว่า


            "ถุย ที่แท้ทำเพื่อกะหรี่ นึกว่าเรื่องอันใด"


                ปัวโกวเซาะปลายสายตาเย็นเหยียบมองดูชาวบ้านผู้กล่าว กล่าวเสียงเย็นชาว่า


            "อีตัวก็มีหัวใจ เที่ยวได้แต่ต้องจ่ายเงิน ไฉนจึงดูแคลนกันเช่นนี้"


                กระบี่สะท้อนออกจากฝักส่องประกายสีเงินแวบเพียงผ่านตา กางเกงชาวบ้านผู้นั้นพลันถูกกรีดขาดหลุดร่วงลงผู้คนต่างส่งเสียง อ้าฮา อู้ฮู  ดังสะท้าน


เสียง อ้าฮา นั้นย่อมยกย่องความรวดเร็วของกระบี่นับว่าหาดูได้ยากยิ่ง  ส่วนเสียง อู้ฮู นั้นกลับยกย่องของที่โพล่พ้นกางเกงของชาวบ้านผู้นั้นจนชาวบ้านผู้นั้นต้องวิ่งหนีไปด้วยความอับอาย


                 ทิกวงนั้งแหงนหน้าหัวร่อเรียกร้องสายตาของผู้คนให้หันมาอย่าได้สนใจกับสิ่งเซ็นเซอร์ กล่าวอย่างห้าวหาญว่า


            "เหอะ เหอะ ที่แท้ก็คือเรื่องราวนี้...เมื่อหกเดือนก่อนที่หอฮวยชุนฮัว เราไปเที่ยวก็จริง แต่เมื่อถึงยามขึ้นห้อง มังกรน้อยยังไมได้มุดถ้ำก็ถลำพ้นพิษเสียแล้วเมื่อเป็นดังนี้ เรายังต้องจ่ายอันใด"


          ปัวโก้วเซาะพอฟังก็แหงนหน้าหัวร่อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วกล่าวว่า


            "นั้นถือว่าท่านอ่อนด้อย เกี่ยวอันใดกับค่าตัวสตรีนางนั้น จะมุดถ้ำหรือไม่ได้มุดถ้ำก็ล้วนต้องจ่าย หาไม่แล้ว หากชาวยุทธคิดกันเยี่ยงนี้ พากันแตกนอกเสียหมดสตรีที่หอฮวยชุนฮัว คงหมดหนทางหาเงินรับประทาน"


            ทิกวงนั้ง อับจนถอยคำดังนั้นยอมถอยหนึ่งก้าว กล่าวว่า


           "ตกลง !เราเป็นหนี้ หกสิบตำลึง แต่ตอนนี้มีเพียงสามตำลึงสี่อีแปะ อีกสองเดือนให้หลังจะนำเงินไปชดใช้เรื่องเพียงเท่านี้คงจบสิ้นแล้วกระมัง"


                ปัวโกวเซาะ ยิ้มเยือกเย็น


            "ท่านว่าจบสิ้นก็จบสิ้นระยะเวลาสองเดือนผู้ใดทนรอได้ หากเราไม่ได้เงินวันนี้ ท่านก็อย่าได้หมายจากไป"


                ทิกวงนั้งถึงกับนิ่งอึ้ง ลังเลไม่ได้ตัดสินใจชาวบ้านพลันโห่ร้องว่า


            "ลูกผู้ชายฆ่าได้หยาบไม่ได้ตามทวงเงินค่าเที่ยวซ่องให้ได้รับความอับอายเช่นนี้ สมควรราวีให้รู้แล้วรู้รอด"


                อีกผู้หนึ่งร้องว่า


            "ใช่แล้วลูกผู้ชายเที่ยวซ่องไม่จ่ายเงินถือว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง"


                เสียงยั่วยุยิ่งมายิ่งมาก  ชาวบ้านพวกนี้ยืนมุงดูอยู่ครึ่งค่อนวันไหนเลยยินยอมให้เลิกรากันง่ายดาย


            ทิกวงนั้งเหงื่อกายแตกพลั่กนับว่าถูกบีบครั้นจนไม่อาจยินยอม หากวันนี้ยอมจำนนจ่ายหนี้สินชาวบ้านพวกนี้คงนำไปล่ำลือเสียหายถึงตอนนั้นก็อย่าหมายมีหน้าคลุกคลีอยู่ในยุทธภพอีกที่สำคัญในตัวมันกลับมีไม่ถึงหกสิบตำลึง พลันคำรามว่า


            "วันนี้ ถือว่าผู้แซ่ทิถูกบีบครั้นจนไม่มีทางหลีกเลี่ยง ได้แต่ขอเสี่ยงชีวิตสักครา"


                กระชับขอเหล็กในมือมั่น สะบัดพุ่งจู่โจมออก


ปัวโกวเซาะนัยน์ตาเปล่งประกายสะบัดกระบี่ออกจากฝัก แปรเปลี่ยนทวงท่าใช้เพลงกระบี่ รับการลงมือ


เพียงกระบี่ออกจากฝักทวงท่าพลันอ่อนช้อย ปลายเท้าก้าวย่างดุจหงส์สากรีดมือวาดกระบี่ราวกับหญิงสาวบุคลากรจีนเต้นบัลเล่ย์  ทั้งยังมีชะมดชม้ายขยับสีหน้า ขยิบตาวาบหวานแต่ปราณกระบี่กลับแฝงความรวดเร็ว


ทุกสายตาพอแลเห็นต้องตื่นตะลึงอุทานแทบพร้อมเพรียง


"เพลงกระบี่กะเทยควาย"


มีบ้างทนดูไม่ได้ถึงกับอ้วกแตกอ้วกแตนทิกวงนั้งเพียงชะงักงันคลื่นไส้ ขอเหล็กสะดุดหยุดยั้ง กลับถูกทวงท่าเพลงกระบี่นางฟ้าแทงผ่านช่วงท้องตกตายอย่างโง่งม


ปัวโกวเซาะเค้นเสียงกล่าวประกาศว่า


"เพลงกระบี่นางฟ้าหาใช้เพลงกระบี่กะเทยควายไม่"


สุ่มเสียงได้ยินเด่นชัดเจตนาไม่ให้ชาวบ้านเรียกขานผิดเพี้ยน พลันชักกระบี่กลับคืนฝักปล่อยร่างทิกวงนั้งทรุดกองลงกับพื้น ชาวบ้านต่างเงียบสนิท เพียงกระบวนท่ากระบี่เดียวสามารถลงมือได้หมดจรดนัก "โอ๊ะ.. แหวะ" มีเสียงคลื่นไส้ ติดพันตามมาเล็กน้อย


ปัวโกวเซาะพลันกล่าวตบท้าย


"เป็นหนี้ผู้อื่นไม่ยินยอมใช้กลับคิดใช้กำลังเบี้ยวหนี้ ผลสุดท้ายย่อมลงเอยเช่นนี้"


พลางก้มลงค้นของมีค่าในตัวมันควานหาได้ สามตำลึงสี่อีแปะ ต้องมีสีหน้าผิดหวัง ครุ่นคิด


'มันไม่ได้โป้ปดจริงๆเงินเพียงสามตำลึงไหนเลยเพียงพอใช้หนี้ หากสตรีที่หอฮวยชุนฮัวทราบว่า เราทวงหนี้ไม่สำเร็จเกรงว่าครั้งหน้าขึ้นห้องคงไม่ให้เราเบิ้ลแล้ว"


พลางถอนหายใจอย่างหดหูก้าวเดินจากไป



ติดตามผลงานได้ที่นี้ ไล่ตามที่ลงจากล่างขึ้นบนนะ...


Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่12http://xonly69.com/read-xonly-tid-149575.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่11http://xonly69.com/read-xonly-tid-149506.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่10http://xonly69.com/read-xonly-tid-149476.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 9http://xonly69.com/read-xonly-tid-149408.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 8http://xonly69.com/read-xonly-tid-149308.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 7http://xonly69.com/read-xonly-tid-149271.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 6http://xonly69.com/read-xonly-tid-149241.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 5http://xonly69.com/read-xonly-tid-149152.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 4http://xonly69.com/read-xonly-tid-149128.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 3http://xonly69.com/read-xonly-tid-149079.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 2http://xonly69.com/read-xonly-tid-149053.html
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 1http://xonly69.com/read-xonly-tid-149006.html
ลูกพี่ลูกน้อง 2http://xonly69.com/read-xonly-tid-148976.html
Reply 1994 ย้อนเล่าประสบการณ์ sex 8 บทส่งท้ายhttp://xonly69.com/read-xonly-tid-148900.html
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex7http://xonly69.com/read-xonly-tid-148880.html
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex6http://xonly69.com/read-xonly-tid-148853.html
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex5http://xonly69.com/read-xonly-tid-148793.html
ลูกพี่ลูกน้อง 1http://xonly69.com/read-xonly-tid-148754.html
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex4http://xonly69.com/read-xonly-tid-148753.html
ลูกกระหรี่http://xonly69.com/read-xonly-tid-148669.html
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex3http://xonly69.com/read-xonly-tid-148667.html
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex2http://xonly69.com/read-xonly-tid-148640.html
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex1http://xonly69.com/read-xonly-tid-148553.html
สวัสดีครับคุณครู แอม ฟราย แต็งค์กิ้ว ฟักยู http://xonly69.com/read-xonly-tid-148543.html
[/size]



suriyamahajit