ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เหตุการณ์จริง 6 เคดิต คุณ anti

เริ่มโดย 1000sa, พฤศจิกายน 26, 2015, 07:28:48 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

1000sa

     พอทั้งคู่ถึงบ้าน รงก็จูบปากโบว์เป็นการใหญ่
" ไม่เอาแล้วนะรง สัญญาแล้วไงว่าจะพอแค่นี้ " รงก็หยุด
" ผมไม่ไหวแล้วครับ เมื่อกี้คุณโบว์เดินเที่ยวที่ห้างมีแต่ผู้ชายมองกันใหญ่ ผมเห็นแล้วหึงนี่ครับ "
" หึงได้ไงฉันมีสามีแล้ว คนอื่นก็ได้แค่มองแต่ทำอะไรฉันไม่ได้นี่ "
" แต่ผมทำได้นี่ครับ"
" ไม่ เอานะรง " รงไม่ฟังเสียงก็รีบปลดเม็ดกระดุมกางเกงยีนต์โบว์และรูดซิบออก และถอดกางเกงยีนต์โบว์ออกส่วนโบว์ผลักร่างของรงออกแต่สู้แรงรงไม่ไหว

     รงรีบเอาตัวทาบ เอามือรวบแขนโบว์ไว้ และก็ค่อยๆ จ่อควยเข้าอย่างไม่ยากเย็น จนเหมือนการข่มขืนมากกว่า ผมทนดูได้สักพักก็ไม่ไหว ต้องช่วยตัวเองอีกรอบ พอออกมาแอบดูก็เห็นรงเอาควยที่เปื้อนน้ำกามถูบริเวรหน้าโบว์อยู่ ผมเห็นโบว์ร้องให้

" จะร้องให้ไปทำไมครับคุณโบว์ เมื่อคืนคุณไม่ใช่เหรอให้ท่าผม "
" ฉันไม่รู้ แต่ฉันอยากให้เรื่องนี้จบ "
" มัน จบไม่ได้หรอกครับเพราะว่ามันพึ่งเริ่มต้นมากกว่า " และรงก็ขอตัวกลับ ส่วนโบว์คงขึ้นไปอาบน้ำ

     ผมเลยอาศัยจังหวะนี้ รีบออกไป พอมืดๆก็เลยกลับมาที่บ้าน พอผมกลับมาโบว์ไม่มีอาการของคนพึ่งร้องให้ แต่กับยิ้มแย้มเอาอกเอาใจผมเป็นอย่างดี เธอคงไม่อยากให้ผมดูเธอออก ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย หลังจากวันนั้นผมคอยแอบไปดูที่ทำงาน ทางด้านหลังของที่ทำงานโบว์เพื่อที่จะดูแต่ไม่เห็นมีอะไรเลย แต่ผมไม่เชื่อว่าไอ้รงมันจะไม่ทำอีกเพราะดูจากสันดานของมันแล้วคงต้องมีอีกแน่

ผมเลยโทรไปหาแอมว่าผมสงสัยไอ้รง ว่ามันจะมีอะไรกับโบว์ แต่แอมบอกว่าผมคงคิดมากไปเอง ผมบอกว่าไม่คิดมากผมพอจะรู้ แอมถามว่าผมรู้ได้ไง ผมบอกว่า ดูจากท่าทางโบว์เปลี่ยนไป แอมเลยบอกว่า ถ้างั้นแอมจะบอกอะไรให้ ผมฟังแต่ให้ผมสัญญานะว่าจะไม่โกรธ แอมเคยเห็นพี่รงกับคุณโบว์จูบปากกัน ผมถามว่า ที่ไหน ที่ทำงาน ตอนเที่ยงหลังจากที่แอมกลับมาจากทานข้าวนึกว่าไม่มีใครอยู่

แต่คุณโบว์กับพี่ รงดันอยู่ แต่ทั้ง 2 ไม่เห็นแอมนะแต่เท่าที่ดูคุณโบว์ไม่ค่อยเต็มใจนะเพราะมองซ้ายมองขวาตลอดเลย ผมเลยบอกว่า ถ้ามีข่าวคราวอะไรให้บอกผมด้วยแอมจึงรับปากและแอมบอกต่อว่า ตอนนี้เท่าที่ดูก็มีลูกค้ามาติดคุณโบว์อยู่หลายคน พอมาหาที่ไรรงก็ทำท่าซะอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของคุณโบว์ซะเอง

     และตอนนี้ เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี งานที่บริษัทก็ไม่ค่อยมีคนมาติดต่อ จนโบว์เปรยว่าอยากจะปิดกิจการลง ผมว่า ก็ตามใจเพราะช่วงนี้เธอติดผมเหลือเกิน ถ้าผมว่างเป็นให้ไปรับไปส่ง ตอนเที่ยงยังให้ผมมารับเลย และเวลาผ่านไปสักเดือน แต่เท่าที่ผมสังเกตดูผมก็ไม่เห็นโบว์จะทำผิดสังเกต เพราะแอมดูให้ที่ทำงาน

ที่บ้าน พอผมทำการบ้านกับเธอ ก็ไม่ผิดปกติเพราะว่าของเธอไมมีทีท่าว่าจะหลวมเลย เพราะถ้าเธอมีอะไรกับเจ้ารงคงต้องหลวมแน่เพราะว่าของมันใหญ่มาก ผมเลยเดาว่าเธอคงไม่มีอะไรกับไอ้รงแน่ จนวันหนึ่งโบว์ บอกกับผมว่า มีข้าราชการเปิดสอบที่กรุงเทพ เธออยากไปสอบเพราะว่า เธอให้เหตุผลว่า เข้าราชการตอนแรกเงินเดือนอาจจะน้อยไปนิด แต่อยู่ไปเงินเดือนจะมากขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งตอนปลดเกษียณ ถ้าเป็นสมัยนี้จะได้รับบำนาญไปจนกว่าจะเสียชีวิต ผมเลยแปลกใจมากเพราะว่าเมื่อก่อน ผมเคยชวนเธอไปสอบเธอปฏิเสธตลอด แต่ตอนนี้เธอกลับชวน ให้ผมไปสอบด้วยที่กระทรวงหนึ่งเพราะรับทั้งนิติกร 4 รับคนจบโทกฎหมาย หรือเทียบเท่า ( ผมจบเน แต่สอบอัยการกับผู้พิพากษา มา 2 ปีแล้วแต่ไม่ติดสักที ) เพราะผมคงเป็นคนวิตถารมั้งเลยไม่มีบุญญาธิการเหมือนคนอื่นเค้า

     ส่วนเธอ ตอนเรียนโท เธอเปลี่ยนสายเป็นบริหาร เธอจะสอบในระดับ 4 ผมก็คงไม่ไปเพราะรอสอบอัยการ กับผู้พิพากษา ซึ่งชาตินี้ก็คงไม่ติดแต่ก็จะสอบต่อเรื่อยๆ ขออธิบายระดับ 1 คือผู้จบไม่ต่ำกว่า ปวช.ระดับ 2 จบไม่ต่ำกว่า ปวส.ระดับ 3 จบไม่ต่ำกว่า ป.ตรี แต่ ผมก็คิดว่าเธอคงอยากจะไปให้พ้นพวกรงมากกว่า

ผมเลยแนะนำเธอว่าตำรวจสัญญาบัตร จะเปิดรับปี 47 ให้เธอไปสอบ ถ้าติดก็ไปฝึกแค่ 6 เดือนเอง ที่โรงเรียนนายร้อย และถ้าบรรจะจะได้บรรจุเป็นยศ ร้อยตำรวจตรีแต่เธออาจ จะปรับวุฒิเป็นร้อยตำรวจโทได้เพราะว่าเธอจบ ป.โท ก็เทียบเท่าระดับ 4 แต่งานตำรวจหญิงดูมีหน้ามีตาในสังคมกว่า

พอถึงเวลา ประมาณปลายปี 47 เธอก็ไปสอบ ตำรวจสายธุรการ และเธอก็สอบติดจริงๆจากผู้สอบกว่าแสนคน แต่ขึ้นบัญชีไว้ไม่ถึง 2 พัน ที่น่าดีใจเธอได้บรรจุในรอบแรกเพราะวjาคะแนนเธอดีมาก พอถึงกำหนดเธอก็บอกพนักงานในบริษัทว่าอีกประมาณเดือนเธอก็ประกาศที่จะปิด บริษัท เธอก็เรียกพนักงาน มารับเงินเดือนเดือนสุดท้าย และให้เงินเดือนๆ สุดท้ายไปคนละ 3 เดือนเพื่อไปหา งานใหม่ทำ

     ส่วนบริษัท เธอก็จะปล่อยเซ้งทั้งหมดเธอมีกำหนด เลี้ยงส่งและถือเป็นการเลี้ยงฉลอง ที่สอบตำรวจได้ ที่ร้านอาหาร มีพนักงานมาในคืนนั้นทั้งหมด คือรง สร และแอม ผมไปกับโบว์ทั้งหมด 5 คน พอทานอาหารเสร็จสัก 3 ทุ่มผมก็ชวนไปเที่ยวผับ ซึ่งโบว์ไม่ค่อยชอบเพราะ เธอบอกว่ามันดูเหมือนแหล่งมั่วสุมอย่างไงไม่รู้ แต่คืนนั้นเธอก็ไป

พอถึงผับ คืนนั้นผมแกล้งสั่งเหล้ามา มอมทุกคนและแอมก็เป็นคนแรกที่กลับไปก่อนพราะแฟนโทรตาม และผมก็เดินไปส่งเธอที่จอดรถและบอกว่า ผมจะต้องไปอยู่ที่กรุงเทพ ส่วนโบว์จะไปอบรมต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจที่ อ.สามพราน ถ้ามีโอกาสผมจะไปหาแอม แอมก็ตกลงพร้อมอวยพรให้ผม ผมเลยขอให้แอมอีกครึ่งชั่วโมงแกล้งโทรศัพท์ตู้สาธารณะมาที่เครื่องผมหน่อย

แอมก็ตกลงและเรา ทั้ง 4 ก็นั่งดื่มต่อ แต่โบว์ไม่ค่อยดื่มเลยไม่เมา จนผมคยั้นคยอให้เธอดื่มเธอดื่มไปสัก แก้วกว่าๆก็เริ่มโงนเงนแล้ว และเธอก็ไม่ยอมดื่มต่อ แต่ผมดูแล้วเธอยังไม่เมาแน่ และสักพักแอมก็โทรมาหาผม ผมก็แกล้งรับโทรศัพท์ และแกล้งว่ามีงานที่บริษัทมาเคลียร์ ผมต้องออกไปก่อน แต่โบว์ขอไปด้วย ผมเลยบอกว่าไปเรื่องงาน จะพาไปด้วยได้ไง คนอื่นเค้าจะเกรงใจ ไม่กล้าให้เราช่วย

     พอได้ฟังอย่างนั้นดูเธอจะเข้าใจ เธอถามว่า ผมจะไปนานไหม ผมบอกว่า ไม่เกิน 2 ชั่วโมง สักเที่ยงคืนน่าจะกลับมาถึง พอผมออกไปสักพัก ผมเลยแกล้งกลับเข้ามาที่เทคบอกรงว่า รถผมออกไม่ได้ยืมรถรงได้ไหม รงก็ให้กุญแจรถผมมาและผมก็ยืมโทรศัพท์โบว์มาและโทรเข้าไปเบอร์ผม แต่ให้เปิดเป็นสายรับโทรศัพท์ โดยที่โบว์ไม่รู้ตัว เพราะผมจะได้ฟัง การสนทนาทั้ง 3 คนได้

และสมมุติถ้าเธอรู้ตัวว่าโทรออกก็จะได้ทำให้เธอคิดว่าเธอลืมล็อคเครื่องและเผลอโทรออกไปเอง และผมก็ออกไปจอดรถไว้ที่ระแวกใกล้ๆคอยฟัง ออกไปไม่ถึง 5 นาที ก็ได้เรื่องบทสนทนา

" คุณโบว์มาเต้น กันเถอะครับ " เหมือนจะเป็นเสียงไอ้สร
" โบว์เต้นไม่ไหว โบว์ตาลายๆอย่างไรชอบกล " การ สนทนาก็ไม่ค่อยชัดเพราะในผับเสียงเพลงค่อนข้างจะดัง ผมฟังไม่รู้เรื่องเลย

     เปลี่ยนแผนใหม่ ผมจึงขับรถของรงไปเก็บไว้ที่แถวๆหมู่บ้านผมซึ่งไม่ไกลประมาณ 5 นาทีก็ถึงและก็หลบอยู่แถวหลังบ้าน และโทรตู้สาธารณะไปหารง รงบอกว่าคุณโบว์เมาแล้วจะให้ทำอย่างไง ผมบอกว่า กุญแจรถผมอยู่ที่โบว์ขับรถผมมาไว้ที่บ้านผม แล้วค่อยเปลี่ยนรถกันที่บ้านผม และผมก็คอยฟังสัญณานโทรศัพท์ โบว์ยังไม่ตัดแสดงว่าเธอยังไม่รู้ตัว เรื่องที่ผมเปิดโทรศัพท์เธอไว้

สักพัก จากเสียงดัง อื้ออึงก็เงียบสนิทจนผมไม่ได้ยินเสียงอะไร จนเห็นรถมันมาจอดที่บ้าน รงเอารถผมเข้ามาจอดในบ้าน ผมเลยวางโทรศัพท์ และปรับเป็นระบบสั่นแทน ผมอยู่บริเวณบ้านทางด้านหลังพุ่มไม้ ที่ผมปลูกเอาไว้และเผื่ออย่างไรก็ปีนขึ้นระเบียงใกล้ๆได้ ผมเห็นได้ชัดว่าโบว์ยังไม่เมา เพราะถ้าเธอเมาเธอจะไม่รู้สึกตัวต้องพยุงปีกกันก็ว่าได้

และโบว์ก็โทรหาผม ว่าเมื่อไหร่จะกลับ นี่ก็จะเที่ยงคืนแล้ว ผมเลยบอกว่าสักตี 2 น่าจะถึงบ้าน และก็วางหู ผมเห็นเธอบอกอะไรกับรงไม่รู้มือไม้ก็คอยปัด ส่วนไอ้สรก็ทำท่าไม่สนและไอ้สรก็โทรหาผม ถามว่าอีกนานไหมว่าผมจะกลับ ผมเดาว่ามันคงโทรมาหยั่งเชิงว่าผมจะกลับกี่โมง ผมบอกว่าอย่างเร็วก็ตี 2 มันรีบวางหูและเดินไปกระซิบไอ้รง

     ผมเลยเดินมาแอบใกล้ๆพุ่มไม้ ม้าหินอ่อนที่รงกับโบว์และสรนั่งอยู่เพื่อจะได้ฟัง ( คนเราถ้าเห็นเมียมีอะไร ก็ควยแข็งแทบจะทั้งวันทั้งคืน แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ การแอบฟังการสนทนามันกว่าอีก 100 เท่า )

" เราเข้าไปนั่งข้างในกันไหมครับคุณโบว์ "
" นั่งนี่ก็ได้ อากาศดีออก " และไอ้สรก็ขอตัวไปเดินเล่นนอกบ้าน เพราะรอบๆบ้านผมจะไม่มีเพื่อนบ้านมีแต่ต้นไม้
" คุณโบว์แน่ใจนะว่าจะนั่งที่นี่ "
" ทำไม เหรอ " รงตอบแล้วทำหน้าเฉย ระยะห่างจากพุ่มไม้ไปม้าหินอ่อนประมาณ 4-5 เมตรเอง

     ผมเลยตัดสินใจปิดมือถือดีกว่าเผื่อเธอโทรมามันจะไม่สะดวก สักพัก รงก็เอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อในโบว์ออก โบว์ตกใจรีบดึงขึ้น แต่รงดึงมือเธอออกเอื้อมมือกระชากให้ออกทางแขน แต่ติดกับแขนเสื้อยืด

" รงอย่านะเดี๋ยวสรเห็น "
" ก็ถอดซิครับ "
" ไม่เอา อย่านะฉันขอร้อง " รงเหมือนจะไม่ฟัง รูดสายเสื้อใน ออกจากแขนโบว์มาได้ข้างหนึ่ง
"คุณโบว์จะปล่อยให้มันคา ไว้อย่างนี้ก็ตามใจนะครับ " โบว์เห็นสรมาเลยรีบถอดเสื้อในอีข้าง โยนไว้ข้างๆป่า

     รงหัวเราะใหญ่ ส่วนโบว์ทำหน้าเฉยกลบเกลื่อน โบว์นั่งกอดอกแน่น
" คุณโบว์คงหนาวแล้วมั้งครับ เข้าไปในบ้านดีกว่า ครับ " โบว์ไม่ตอบ