ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

จิตสัมผัส ตอนที่ 3 พลังที่แปรปรวน กับบทรักที่คาดไม่ถึง //Omega19//

เริ่มโดย Omega19, มกราคม 31, 2016, 12:31:36 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Omega19

จิตสัมผัส //Omega19//
ตอนที่ 3 พลังที่แปรปรวน กับบทรักที่คาดไม่ถึง





          ผมยังยืนอยู่ใต้ต้นโพธิ์อันร่มเย็น สูดกลิ่นที่บริสุทธิ์ของอากาศที่มีไม่ค่อยมากในกลางเมืองกรุงแห่งนี้ ความสงบร่มเย็นเข้ามาในจิตใจ นับเป็นความสุขที่สุดในรอบหลายปีของผมเลยที่เดียว และเริ่มรู้สึกอิ่มเอมเปรมปรีดาอย่างบอกไม่ถูกกับการชี้แนะของลุงสัปเหร่อที่พึ่งจะจุติไปในภพสวรรค์แล้ว ถ้อยคำที่แกสอนสั่งยังอยู่ในสมองของผม ทุกๆคำยังเหมือนกับว่าแกกระซิบอยู่ข้างหูและเหมือนจะดังขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ

          "พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่ม" อ้าว...เฮ้ย เสียงของลุงสัปเหร่อนิ ไหนว่าไปสวรรค์แล้ว
          "ลุง!?..ยังไม่ขึ้นสวรรค์อีกเหรอ หรือว่าที่นั่นไม่ต้อนรับลุง ถ้างั้นภพนรกคงเปิดรับลุงสินะ 555" ผมหันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่เห็นลุงสัปเหร่อเลย แค่ได้ยินแต่เสียง
          "อ้าวไอ้ลูกหมา ลุงขึ้นมาอยู่บนสวรรค์แล้วโว้ย ที่เอ็งได้ยินน่ะเป็นเพราะพลังหูสัมผัสของเอ็งต่างหาก มีอะไรหรือเปล่าล่ะไงถึงได้ส่งจิตสัมผัสมาหาลุง คิดอะไรกับลุงเหรอเปล่าเนี้ย" ลุงตะคอกกลับมา

          "ผมส่งไปตอนไหน ผมยังใช้ไม่เป็นเลยไอ้จิตสัมผัสอะไรน่ะ แล้วหูสัมผัสผมได้ยินถึงสวรรค์เลยเหรอครับเนี้ย" ผมรู้สึกทึ่งจริงๆที่หูของผมสามารถได้ยินไกลถึงสวรรค์เลยทีเดียว
          "ก็ตะกี้ พ่อหนุ่มคิดอะไรอยู่ล่ะ คิดถึงลุงไม่ใช่เหรอ ลุงถึงจับญาณสัมผัสของพ่อหนุ่มได้ ความจริงญาณสัมผัสที่สามารถส่งขึ้นมาถึงสวรรค์ได้ต้องใช้เวลาฝึกฝนจนพลังถึงขั้นสูงสุดแล้วเท่านั้น นี่คงเป็นเพราะพลังที่กำลังแปรปรวนอยู่แน่ๆ" โห ถ้างั้นผมก็คงยินเสียงที่ภพนรกด้วยสิเนี้ย นี่ถ้าผมนึกถึงท่านพญายม ผมจะไม่โดนเรียกตัวไปลงสอบสวนที่นรกหรอกเรอะ คิดแล้วสยอง

          "เออ...พ่อหนุ่ม ลุงลืมบอกไป ถึงผลบุญของพ่อหนุ่มจะมีมากมายมหาศาล แต่จำไว้ว่า อย่าละโมบโลภมาก เพราะมันจะกลายเป็นผลร้ายต่อตัวพ่อหนุ่มเอง" ลุงสัปเหร่อกล่าวเตือน
          "ครับ แล้วผมจะจำเอาไว้" จากนั้นผมเลยพยายามเลิกคิดถึงเรื่องของลุง เพราะเดี๋ยวญาณสัมผัสจะส่งไปหาลุงอีก

          ผมเสร็จธุระที่วัดตอนช่วงเช้า กะว่าตอนบ่ายจะเข้าไปทำงานเสียหน่อย เกรงใจพี่ปุ้ม แต่ก่อนกลับผมจงใจเดินอ้อมเพื่อให้ผ่านศาลาสวดอภิธรรม และแอบหวังนิดๆว่าจะเจอหน้าน้องผิงคนสวย แต่น้องผิงกลับบ้านไปเสียแล้ว

          ผมจึงกลับมาถึงหอพักเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงานในช่วงบ่ายของวันนั้น ผมบอกพี่ปุ้มไปว่าเสร็จธุระเร็วเลยรีบกลับมาทำงาน พี่ปุ้มชมผมใหญ่เลยว่าผมเป็นคนขยันขันแข็งอย่างนู้นอย่างนี้ น่าแปลก...พี่ปุ้มไม่เคยชมใครเลย แต่วันนี้กลับชมผม
ผมรีบเก็บกระเป๋าใส่ล๊อกเกอร์ แล้วเข้าประจำหน้าร้านทันที ผมจัดโน่นจัดนี่อยู่แถวหน้าเค้าเตอร์เพราะว่าตอนนี้ไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย โดยที่พี่ปุ้มก็กำลังเช็คบัญชีของร้านโดยยืนโก่งโค้งหันหลังให้กับผม ก้มหน้าก้มตาเช็คบัญชีไป จนผมอดที่จะแอบมองสะโพกผายของพี่ปุ้มไม่ได้

          "อื้มหืม ตูดเป็นตูดนะพี่ปุ้ม" พี่ปุ้มถึงแม้ว่าอายุจะย่างเข้า 30 แล้ว แต่ก็ยังดูสาวยังสวยอยู่มาก ถ้าไม่ติดที่ปากจัดไปหน่อยป่านนี้คงมีคนจีบเป็นร้อยแน่ๆ แต่ว่าก็น่าแปลกที่ช่วงนี้พี่ปุ้มเปลี่ยนไปมาก ดูเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิง

          ผมให้ความสนใจกับสะโพกผายของพี่ปุ้มครู่หนึ่งก็หันหน้ากลับ สะดุ้งเล็กน้อยเพราะเหลือบไปเห็นลูกค้ามายืนรออยู่

          "สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ" ผมถามลูกค้า เพราะว่าผมไม่เห็นว่าเค้าหยิบอะไรวางบนเคาเตอร์เลย
          "....." ไม่มีเสียงตอบจากชายคนนั้น
          "เออ จะรับอะไรดีครับ" ผมถามอีกครั้ง
          "ผมมาขอส่วนบุญ" ชิบหาย ลูกค้ารายแรกของวันกลายเป็นร่างวิญาณมาขอส่วนบุญเฉย ด้วยจิตสงสารของผม ผมเลยยืนสงบนิ่ง หลับตาลงและเริ่มแผ่เมตตาให้กับวิญญาณดวงนั้น

          หลังจากบทแผ่เมตตาจบลง ผมลืมตาขึ้น ร่างวิญญาณดวงนั้นก็หายไปแล้ว หวังว่าคงจะไม่เจออะไรแบบนี้อีก ไม่งั้นคงมีวิญญาณเข้าคิวมาขอส่วนบุญจนผมแยกผีแยกคนไม่ออกแบบนี้อีกนะ

          "พลทำอะไรอยู่น่ะ ยืนบ่นอะไรคนเดียว" เสียงพี่ปุ้มถาม เพราะคงได้ยินที่ผมคุยกับผีอยู่
          "อ๋อ เปล่าครับ ผมแค่แผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวรอยู่ครับ" ผมยังคงชะเง้อมองไปรอบๆเผื่อว่าจะไม่มีผีตนไหนอีก
          "ธรรมะธรรมโมจริงนะพลเนี้ย บวชเมื่อไหร่บอกนะจ๊ะ พี่จะไปถือหมอนให้ อิอิ" แหม พี่ปุ้มนี่เล่นมุขแรงใช้ได้เลยนะ
          "ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ" ผมพูดกับพี่ปุ้มไปชะโงกหน้าดูที่หน้าร้านไป และเมื่อแน่ใจว่าไม่มีผีตนไหนอีกก็หันมาคุยกับพี่ปุ้มต่อ พอเห็นพี่ปุ้มเท่านั้นแหละเลือดกำเดาผมแทบพุ่งออกมา

          พี่ปุ้มยืนหันหน้ามาทางผม มือกอดอกส่งยิ้มหวานมาให้ แต่เสื้อผ้านี้สิหายไปไหนหมด ร่างกายขาวโพลนโชว์เรือนร่างที่สมส่วนเหลือเพียงยกทรงกับจีสติงสีดำติดตัวอยู่แค่ 2 ชิ้น ถึงแม้ว่าหุ่นของพี่ปุ้มจะเทียบไม่ได้กับผีสาวที่ผมเจอเมื่อวานแต่ก็ถือว่าหุ่นดีทีเดียว

          มันเป็นไปได้ยังไงที่พี่ปุ้มกล้ายืนเกือบเปลือยอยู่ในร้านสะดวกซื้อแบบนี้ หรือว่านี่เป็นอีกความสามารถหนึ่งของ "ตาสัมผัส" ผมพยายามขยี้ตาเพื่อความแน่ใจแต่ก็ยังเห็นพี่ปุ้มยืนเกือบโป้อยู่เช่นเดิม

          "เป็นอะไรไปพล ฝุ่นเข้าตาเหรอ" พี่ปุ้มถาม
          "ครับๆ เดี๋ยวก็หาย" ไม่ได้ละถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่มีสมาธิทำงานแน่ๆ ผมเลยหลับตาแล้วเริ่มตั้งสมาธิครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆลืมตา

          เวรกรรมหนักกว่าเก่าอีก ตอนนี้พี่ปุ้มตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ผมตาโตเบิกกว้างตัวเริ่มสั่น เพราะนี่เป็นร่างเปลือยร่างที่สองแล้วที่ผมได้เห็น หน้าอกหน้าใจของพี่ปุ้มตั้งเป็นเต้าสวยมาก หัวนมเป็นสีน้ำตาอ่อนๆน่าดูดดีจริงๆ ผมเดาว่าหน้าอกน่าจะขนาด 36 นิ้ว เอวกิ่วขอดแบนเรียบไร้ไขมัน สะโพกผายตูดงอนงาม แต่ที่น่าดูก็คือจุดสามเหลี่ยมตรงระหว่างขา มีขนขึ้นเรียวงามเพียงเล็กน้อยไม่รกมาก ผมจ่องมองร่างเปลือยของพี่ปุ้มตั้งแต่หัวจรดเท้า น้องหนูของผมเริ่มพองตัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

          "เป็นอะไรน่ะพล จ้องพี่อยู่ได้" พี่ปุ้มเริ่มหน้าแดงเพราะผมเอาแต่มองพี่ปุ้มท่าเดียว
          "ม..มองคนสวยครับ" ตายล่ะ ปากมันไปเอง
          "พลบ้า พูดอะไรไม่รุ๊ พี่อายนะ ไม่เอาละ พี่ทำงานต่อดีกว่า" พี่ปุ้มหน้าแดงกว่าเก่าเพราะคำชมของผม รีบหันหลังให้แล้วก้มหน้าก้มตาทำบัญชีต่อ และนี่ยิ่งทำให้ใจผมเต้นรัวมากขึ้นกว่าเก่าอีก เพราะพี่ปุ้มยืนโก่งโค้งโชว์รูตูดและร่องสาวที่ปิดสนิทโดยที่มีขนเพียงรำไรรอบๆร่องสาวนั่น

          "โอ้ว หีแรกในชีวิต มันเป็นแบบนี้เหรอเนี้ย" ท่อนเอ็นของผมตอนนี้เริ่มคับเป้ากางเกงจนน่าอึดอัด

          ผมจ้องมองสองกลีบอย่างสนอกสนใจจนพี่ปุ้มตรวจบัญชีเสร็จก็ปิดสมุดแล้วหันหน้ามาทางผมอีกครั้ง

          "แน๊... ยังจะมองอีก พลเนี๊ยไม่เอาละ พี่ไปเช็คของดีกว่า" ผมสังเกตว่าตอนที่พี่ปุ้มกำลังเดินผ่าน พี่ปุ้มแอบชำเรืองส่งสายตามาหาผมนิดหนึ่ง ก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินผ่านหน้าผมไป กลิ่นหอมของน้ำหอมที่โชยมาจากตัวพี่ปุ้มมันช่างหอมเย้ายวนเสียจริง ทำเอาใจผมเต้นรัวตุบๆ เหงื่อเริ่มผุดออกมาตามรูขุมขน แล้วร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนก็ค่อยๆเดินผ่านผมไป

          พี่ปุ้มเดินเช็คของในร้านไปเรื่อยๆ ทำเอาผมไม่มีสมาธิทำงานเลย เพราะดูเหมือนกับว่าพี่ปุ้มกำลังเป็นพวกที่เต้นโป้เปลือยตามผับบาร์แถวพัฒพงษ์ยังไงยังงั้น แต่นี่อยู่ในร้านสะดวกซื้อที่ผนังเป็นกระจกทั้งร้าน ไอ้ตอนยืนเช็คของชั้นบนไม่เท่าไหร่ แต่พอนั่งยองๆเหมือนกับตอนนั่งฉี่เพื่อเช็คของชั้นล่างนี่สิ ผมเห็นหีอวบๆอูมๆลอยเด่นมาแต่ไกล ติ่งแตดโผล่ท้าทายน่างับเสียจริงๆ

          ผมมัวแต่มองพี่ปุ้มเช็คนู่นเช็คนี่ไปเรื่อยๆจนลืมไปว่าตอนนี้มีใครบางคนยืนอยู่ตรงข้างหน้าเคาเตอร์นานแล้ว

          "อะแฮ่มๆ" เสียงใสๆของผู้หญิงดังมาจากหน้าเคาเตอร์ทำเอาผมตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดแบบที่เคยพูดอยู่ประจำอย่างเคยชิน

          "สวัสดีครับ รับอะไรครับ" พอผมหันมาเห็นหน้าเจ้าของเสียง ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
          "อ้าวน้องผิง มาได้ไงครับ" ถึงว่าเสียงคุ้นๆ เธอยืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับยื่นขวดน้ำดื่มสองขวดมาให้ผม
          "ผิงมากับคุณแม่ค่ะ วันนี้ผิงมาลงทะเบียนเรียนค่ะ" เออใช่นิวันนี้เป็นวันลงทะเบียนเรียนของนักศึกษาปีหนึ่งที่เข้ามาใหม่

          น้องผิงตอนนี้ใส่ชุดนักศึกษาแล้ว ช่างเหมาะกับเธอจริงๆ ไม่ฟิตไม่รัดมากเหมือนกับนักศึกษาหญิงที่ฮิตใส่กัน กระโปรงจีบยาวถึงตาตุ่ม ดูแล้วก็สดใสน่ารักไปอีกแบบ แต่ผมแปลกใจ ทำไมผมถึงไม่เห็นน้องผิงโป้เปลือยแบบเดียวกับที่ผมเห็นพี่ปุ้มนะ ทั้งๆที่ผมก็อยากเห็นอะไรๆภายในชุดนักศึกษานั้นเหมือนกัน

          "น้องผิงมารอนานแล้วเหรอครับ" ผมถามแก้เขิน เพราะเธอเอาแต่จ้องหน้าส่งยิ้มหวานมาหาผม
          "ก็ครู่หนึ่งแล้วค่ะ แล้วพี่พลมัวแต่มองอะไรคะ ถึงให้ลูกค้าต้องคอยเก้อ" ว่าแล้วเธอก็มองไปที่พี่ปุ้มกำลังเช็คของอยู่ แล้วทำหน้างอนนิดๆ
          "อ๋อ มองแฟนนี่เอง แฟนพี่พลก็สวยดีนะคะ ถึงว่าไม่สนใจดูลูกค้าเลย" ตายล่ะน้องผิงเข้าใจผิดจนได้ผมเลยรีบแก้ตัว
          "เปล่าๆครับ ไม่ใช่แฟน พี่ปุ้มไม่ใช่แฟนพี่ คือพี่ยังไม่มีแฟนครับ" ผมรีบตอบอย่างร้อนรน
          "จริงหรือเปล่าน๊อ...คนหน้าตาหล่อๆอย่างพี่พลจะไม่มีแฟน" ผมถูกน้องผิงชมก็รู้สึกเขินเข้าไปอีก
          "จริงๆครับ พี่ยังไม่มีแฟนจริงๆ ก็พี่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย พี่ไม่มีเวลาจีบใครหรอกครับ" คำตอบของผมดูเหมือนกับทำให้น้องผิงยิ่งฉีกยิ้มเขาไปใหญ่
          "จริงเหรอค่ะ ถ้างั้นผิงก็มีหวังสินะ นึกว่าจะผิงจะอกหักซะละ อุตสาห์แอบชอบพี่พลอยู่นะเนี้ย" แหมน้องผิงนี้ก็พูดเล่นซะจนผมเขินไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก
          "แหม น้องผิงอย่าล้อพี่เล่นแบบนี้สิ พี่เขินเป็นนะครับ" ผมหยิบขวดน้ำเข้าเครื่องอ่านบาร์โค๊ด แต่สแกนเท่าไหร่ก็ไม่ติดซะทีเสียที อ๋อ...ผมสแกนผิดเครื่อง
          "อิอิ" น้องผิงแอบขำที่ผมทำอะไรเปิ่นๆ ต่อหน้าเธอ ช่างน่าอายเสียจริงๆ
          "เสร็จละยังลูก" เสียงของสาวใหญ่ดูไฮโซคนหนึ่งดังมาจากข้างหลังของน้องผิง
          "ยังค่ะคุณแม่ กำลังคิดเงินอยู่" อ๋อที่แท้ก็เป็นแม่น้องหญิงนี่เอง
          "อ้อ พี่พลคะ นี่คุณแม่ของผิงเองค่ะ" น้องผิงแนะนำคุณแม่ให้ผมรู้จัก
          "คุณแม่คะ คนนี้พี่พล รุ่นพี่ที่ผิงเล่าให้ฟังไงคะ" น้องผิงหันไปบอกคุณแม่พร้อมกับชี้มาทางผม ผมเลยรีบยกมือไหว้ทันที ซึ่งทางคุณแม่ของห้องผิงเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจรับไหว้เท่าไหร่ แถมยังมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

          "คนนี้น่ะเหรอรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย ดูจ๊นจน มีปัญญาเรียนที่มหาวิทยาลัยแพงๆแบบนี้ด้วยเหรอ" เอาแล้วไงความจนของผมไม่เป็นที่ประทับใจของคุณแม่น้องผิงแล้ว
          "คุณแม่..." เสียงของน้องผิงเหมือนจะตกใจเหมือนกันที่แม่ของเธอพูดแบบนี้
          "ผมก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยครับ ก็พอถูๆไถๆไปได้" ผมตอบแบบจ๋อยๆ
          "เอานี้เงิน ไม่ต้องทอน" แล้วคุณแม่ของน้องผิงหยิบเงินมาหนึ่งร้อยบาทวางไว้บนเคาเตอร์ แล้วดึงแขนน้องผิงกึ่งดึงกึ่งลากออกจากร้าน โดยที่น้องผิงยังหันมามองผมจนกระทั่งประตูร้านเลื่อนปิด

          นั่นสินะ ผมมันก็แค่คนจนๆ ไม่คู่ควรกับดอกฟ้าอย่างน้องผิงหรอก ความเศร้าเริ่มมาเยือนในใจของผมอย่างบอกไม่ถูก หันไปมองพี่ปุ้มตอนนี้มีเสื้อผ้าครบเหมือนเดิมแล้วและยังคงก้มหน้าก้มตาเช็คของอยู่เช่นเดิม

          "ปู๊ด~" เสียงตด ผมไม่ได้ตดนี่หน่า แล้วใครหว่ามีกันแค่ 2 คน งั้นก็เป็นพี่ปุ้มเหรอ อยู่ออกจะไกล อ๋อ หูสัมผัสของผมนั่นเอง แม่งเสือกทำงานไม่ถูกเวลา แต่ว่า...กลิ่น ชิบหายกลิ่นตดโชยมาแต่ไกล และกลิ่นตดก็แรงขึ้นๆ และแรงขึ้น จมูกสัมผัสที่แรงกว่าสุนัขกว่าล้านเท่าทำงาน กลิ่นตดมันกระทุ้งจมูกผมอย่างแรง มันเหม็นยิ่งกว่าตกส้วมล้านเท่า คนสวยอะไรเนี้ยตดเหม็นชิบหาย

          "อ๊วกกกกกกกกกกก" อาเจียนผมพุ่งออกมาแรงมากจนเลอะพื้นไปหมด เนื่องจากทนกลิ่นอันสะอิดสะเอียนของกลิ่นตดล้านเท่าของพี่ปุ้มไม่ไหว

          "ตายแล้วพล เป็นอะไร" พี่ปุ้มรีบวิ่งมาดูผมที่ตอนนี้ก้มหน้าอ้วกอยู่ พี่ปุ้มเลยรีบมาลูบหลังผม
          "ไม่สบายเหรอพล พี่ว่าพลกลับไปพักที่ห้องดีกว่านะ เดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง" พี่ปุ้มช่วยพยุงผมลุก

          ใจผมอยากจะบอกพี่ปุ้มว่าผมไม่เป็นไร แค่เหม็นตดล้านเท่าของพี่ปุ้มเท่านั้นเอง แต่ผมก็กลัวว่าพี่ปุ้มจะอายเอา ผมเลยเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำออกมาก็เห็นพี่ปุ้มเอาไม้ถูพื้นเช็ดอ๊วกที่เลอะพื้นอยู่ ผมเลยยกมือไหว้ขอโทษพี่ปุ้ม

          "พี่ปุ้มครับ ผมขอโทษครับที่อ๊วกรดพื้นของร้านครับ" ผมกะว่าจะเปลี่ยนพี่ปุ้มเป็นคนถูพื้นเอง แต่พี่ปุ้มไม่ยอม
          "พล กลับบ้านเถอะ กลับไปพักผ่อนซะ หายดีแล้วค่อยมาทำงาน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นตอนเย็นพี่จะไปเยี่ยมนะ" พี่ปุ้มดูเป็นห่วงผมจริงๆ
          "ครับ ของคุณครับ" ผมเลยไหว้ขอบคุณพี่ปุ้มอีกครั้ง ก่อนจะไปเก็บข้าวของเพื่อกลับหอพัก

          ผมเข้าห้องน้ำอาบน้ำอาบท่าชำระล้างอ๊วกที่เลอะตัวผม พอแต่งเนื้อแต่งตัวเสร็จก็ล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลีย ผมพักสายตาได้ครู่เดียวเท่านั้นก็ได้ยินเสียงแปลกอีกจนได้

          "อู้ยย ซี๊สสส สวยจริงๆ อู้ยย" เป็นเสียงเหมือนชายคนหนึ่งดังแววๆผม ผมเลยลืมตาขึ้นก็ตกใจ เพราะผมเห็นไอ้อ้วนคนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ รู้สึกว่ากำลังเล่นโปรแกรม "ส่องกบ" อยู่มือก็สาวลำควยของมันอย่างน่าเกลียด ผมจำมันได้แม่น มันเป็นไอ้อ้วนที่เคยเช่าห้องอยู่ก่อนหน้าผม ที่ผมจำมันได้แม่นเพราะวันที่ผมเข้ามาใหม่ๆ ไอ้อ้วนนี่แหละเคาะห้องผม มันบอกว่ามันลืมหนังสือโป้ไว้ใต้เตียง มันเลยมาเอาคืน

          "ไอ้เชี่ยเอ้ยยย นี่กูต้องมานั่งดูมึงชักว่าวอีกหรือเนี้ย" ตาสัมผัส สัมผัสเห็นอดีตที่เคยเกิดขึ้น นี่ผมจะไม่ต้องมาทนดูมันชักว่าวตลอดสามวันเพื่อให้พลังจิตสัมผัสคงที่หรือไงเนี้ย แต่ผมก็นึกถึงคำของลุงสัปเหร่อได้ว่าการทำสมาธิจะช่วยควบคุมได้ ผมเลยนั่งสมาธิอีกครั้ง แต่ก็นึกถึงไอ้อ้วนนั่นอยู่ดี เพราะภาพมันติดตามาก

          ผมนั่งได้ครู่หนึ่งจนเสียงไอ้อ้วนที่ร้องครางหายไป เออได้ผลจริงด้วย แต่พอผมลืมตาเท่านั้นแหละ ผมดันเห็นทะลุไปอีกห้องหนึ่งเห็นไอ้อ้วนตัวเปลือยเปล่ากำลังนอนคร่อมบนตัวของเด็กสาวคนหนึ่งที่ร่างเปลือยเหมือนกันอยู่ห้องข้างๆ ไอ้อ้วนกระเด้าเอวช้าๆ ท่อนเอ็นของมันผลุบเข้าผลุบออกอยู่ในร่องสาวของเด็กสาวนั่น โดยเด็กสาวนั้นหลับตาปี๋ร้องครวญคราง กอดไอ้อ้วนแน่น เพราะความเสียว

          ผมคุ้นๆหน้าเด็กสาวคนนี้มาก เออใช่แล้ว นี่คือน้องเฟิร์นเด็กที่อยู่ที่ร้านปะยางคนนั้นนิ โหยมานอนให้ไอ้อ้วนพุงโลเย็ดแล้ว ยังไม่อิ่มไปให้พี่โหดกระแทกอีก แต่นี่ยังไม่หมดนะ มีชายอีกคนเปิดประตูเข้ามาร่วมอีกคนอีก โหร่านจริงๆ สาวน้อยร้อนสวาท ดูไปดูมาผมก็ชักเกิดอารมณ์แล้วสิ ก็เห็นของดีของพี่ปุ้มยังไม่พอ นี่มาเห็นฉากเร้าร้อนของไอ้อ้วนกับสาวน้อยคนนี้อีก ท่อนเอ็นก็แข็งตัวคับเป้าทันที

          ผมกะจะสาวน้องชายผมแล้วเชียวแต่ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องเสียก่อน

          ก๊อก ๆ ๆ "พล พล อยู่มั๊ย" เสียงผู้หญิงอยู่ข้างนอกเคาะห้องผม มันเป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยดีเพราะเห็นหน้าพูดคุยกันอยู่ทุกวัน ผมเลยรีบลุกขึ้นไปเปิดประตู

          "จ่ายค่าห้องด้วยจ๊ะ" เสียงป้าเจ้าของหอนั่นเอง ผมเลยควักเงินในกระเป๋าจ่ายแก พร้อมกับรับใบเสร็จก็ปิดประตูนอนต่อ

          ผมเห็นหน้าของป้าเจ้าของหอที่แก่ๆเหี่ยวๆทำเอาผมหมดอารมณ์หำหดเลย กะว่าจะมาดูฉากรักของไอ้อ้วนต่อเพื่อบิ้วอารมณ์อีกครั้ง แต่...,มันกลายเป็นผนังห้องตามเดิม ไม่มีไอ้อ้วนกับสาวน้อยคนนั้นอีกแล้ว โอ้ยยย ไอ้อ้วนมึงทำกูอารมณ์ค้าง ผมเลยนอนหมดอารมณ์อยู่บนเตียงนอน

          แต่จู่ๆก็นึกถึงหน้าของน้องผิงขึ้นมาก็ทำให้ผมใจเต้นสั่นขึ้นมา ใบหน้าหวานๆและการที่ได้คุยหยอกล้อกันเมื่อตอนกลางวันทำให้ผมมีความสุขมาก ผมนอนอมยิ้มอยู่คนเดียวบนเตียงนอน ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย นี่เราเป็นอะไรไปนะ แม้ว่าผมจะเจอหน้าเธอแค่ 2 ครั้ง ได้คุยกันไม่กี่ประโยค เธอคนนี้ช่างมีอิทธิพลกับผมเสียจริง หรือผมกำลังหลงรักผู้หญิงคนนี้อยู่

          ความเหนื่อยกายในวันนี้ทำให้ผมเผลอหลับไป และในฝัน ผมฝันถึงผมกับน้องผิงกำลังอยู่ในงานวิวาห์ โดยที่มีผมเป็นเจ้าบ่าว และน้องผิงเป็นเจ้าสาว และฉากต่อมา เรามีลูกเล็กๆน่ารักๆด้วยกันหนึ่งคน เธอคนนี้ช่างสดใสสวยงามเหมือนแม่ของเธอเสียจริง เป็นจุดศูนย์รวมใจของครอบครัว

          เฮ้ย ความสุขในฝัน ในเมื่อเราฝันได้ก็ต้องตื่นได้ และนี้ก็คือเหตุการณ์ที่เปรียบเหมือนกับฟ้ามาผ่ากลางใจของผมให้ต้องชอกชำทรวงจนได้เมื่อผมได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา

          "กรี๊งงงงงงงงงงงงงง" ผมตื่นขึ้นอย่างงงงวย ฝันไปหรอกเหรอเนี้ย
          "โหล~" เสียงผมลากยาวเพราะพึ่งตื่นนอน
          "ไอ้พล มึงลืมแล้วเหรอว่าวันนี้มีประชุมเรื่องรับน้อง มึงรีบมาที่คณะเลยนะ พวกกูรอมึงคนเดียวเลยนะ" พูดจบมันก็วางสายไป อะไรวะกูยังไม่ได้พูดอะไรเลยซักคำ

          นับวันไอ้อาร์ตมันจะเอาใหญ่ละทำอย่างกับว่ามันเป็นคนมีอำนาจ เหมือนกับพ่อของมันที่เป็นนักการเมือง ดีแต่ขู่ ดีแต่สั่ง ผมเริ่มชักจะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของมันจริงๆ

          ขณะที่ผมกำลังจะลุกไปล้างหน้าล้างตา ผมก็รู้สึกแปลกๆ ผมรู้สึกเหมือนกับตัวเบาหวิว และจู่ๆร่างกายผมพุ่งทะยานขึ้นไปบนอวกาศ ดวงดาวต่างๆผ่านเคลื่อนตัวผมไปอย่างรวดเร็ว พุ่งไปหาดาวดวงหนึ่งที่ส่องแสงสีเหลืองนวลอยู่ข้างหน้าผม ดาวดวงนั้นเริ่มใหญ่ขึ้นๆเรื่อยๆพร้อมกับแสงที่เจิดจ้าขึ้นจนผมต้องเอามือปิดตาทั้งสองข้างไว้เนื่องจากแสงที่สองมามันแรงเกินไปที่ดวงตาของผมจะรับได้

          พอแสงนั้นค่อยๆจางหายไปอย่างช้าๆผมจึงค่อยๆหรี่ตาดู เอ๋ตรงนี้มันเป็นที่ไหนกัน เห็นมีป้ายอะไรเชียนอยู่นะ
          "HISO Hotel" อ้าวนี่ผมมาอยู่ที่ไหนเนี้ย แล้วภาพก็ค่อยๆเปลี่ยนไป อยู่ตรงหน้าห้องๆหนึ่งภายในโรงแรมแห่งนั้น
          "1790" คือเบอร์ของห้องและภาพก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเป็นภาพภายในห้อง ผมรู้สึกงง นี่เกิดอะไรกับผมอีกละ หรือว่านี่จะเป็นญาณสัมผัส แต่นี้รู้สึกว่ามันชัดเจนกว่าทุกครั้ง มันเหมือนกับว่านี่คือเหตุการณ์จริงๆเสียอีก

          เมื่อเข้ามาอยู่ข้างในห้องผมเห็นภาพของนักศึกษาชายหญิงคู่หนึ่งนอนอยู่บนเตียงในห้องนั้น

          "น้องผิงกับไอ้อาร์ต!?" ผมตกใจมากทำอะไรไม่ถูกขาสั่นไปหมด แทบไม่มีเรียวแรงที่จะยืน

          สิ่งที่ผมเห็นคือน้องผิงในชุดนักศึกษานอนอยู่บนเตียง โดยมีไอ้อาร์ตนอนคร่อมตัวอยู่บนตัวเธอ ทั้งคู่ประกบจูบกันอย่างดูดดื่มโดยที่น้องผิงเองไม่มีท่าทีว่าจะขัดขืนเลย กลับกันเธอเอามือโอบคอไอ้อาร์ตไว้แน่น ใช่แล้วเธอเต็มใจที่จะจูบกับมัน

          น่าแปลกใจผมรู้สึกว่าริมฝีปากของผมเหมือนกับว่ามีอะไรนิ่มๆอุ่นๆประกบอยู่ เมื่อมือไอ้อาร์ตลูบไล้ไปตามหน้าขาของน้องผิง มือของผมก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่าเหมือนกับกำลังลูบบางอย่างอยู่ มันช่างเนียรนิ่มเสียจริง หรือว่าตอนนี้ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของไอ้อาร์ตเพื่อนเลวของผมที่กำลังลวนลามคนที่ผมรักอยู่

          ผมอยากจะเข้าไปแยกคนทั้งคู่ออกจากกันเหลือเกิน แต่ผมทำไม่ได้ ขาของผมตอนนี้เหมือนกับจะตรึงอยู่กับที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย ครั้นจะหันหน้าหนีคอก็ไม่ขยับเลย นี่ผมทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ต้องมาทนเห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ ผมจึงหลับตาลง แต่ผมยังคงมองเห็นทั้งคู่อยู่ดี ทำไมถึงเห็น...เพราะผมมองเห็นทะลุเปลือกตา?

          ไอ้อาร์ตประกบจูบน้องผิงอย่างดูดดื่ม ทั้งคู่แลกลิ้นกันไปมากันจนเสียงดังจ๊วบจ๊าบ เมื่อไอ้อาร์ตจูบน้องผิงจนพอใจแล้ว มันก็หอมแก้มของน้องผิงทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆเลื่อนปากของมันมาไซ้ที่ซอกคอขาวผอง น้องผิงเงยหน้าขึ้นเพื่อให้ไอ้อาร์ตได้ซุกปากซุกหน้าของมันได้ถนัด มือของมันที่ตะกี้ลูบไล้หน้าขาของน้องผิงอยู่ค่อยๆเลื่อนไปบีบเค้นหน้าอกตูมของน้องผิง มันช่างนุ่มมือเสียงจริงๆ เพราะผมก็รู้สึกเหมือนกัน

          "อื้ม ซี๊สส พี่อาร์ต" น้องผิงเริ่มครางออกมาเพราะความเสียวสยิวที่ซอกคอและหน้าอก

          ไอ้อาร์ตทั้งบีบทั้งเค้นอกอวบอยู่นอกเสื้อนักศึกษาที่รัดติ้วอย่างมันมือ ก่อนจะค่อยๆแกะกระดุมนักศึกษาออกทีละเม็ดๆจนหมด จากนั้นก็ค่อยๆเปิดสาบเสื้อออกทีละข้าง เผยให้เห็นสองเต้าขาวเนียนเบียดเสียดกันอยู่ในบราสีดำ ไอ้อาร์ตละปากออกจากซอกคอ จ้องมองร่องอกสาวอย่างพอใจ

          มือทั้งสองข้างของสอดเข้าไปในบราเพื่อสัมผัสกับเนื้อแท้ของน้องผิง มันช่างอบอุ่นสู้มือดีจริงๆ ตอนนี้มันอยากจะเห็นสองเต้าของน้องผิงอย่างชัดๆ จึงถลกบราขึ้นไปกองอยู่บนยอดอก

          "อื้มหือ นมสวยจริงๆน้องผิง" ตอนนี้สองเต้าขาวเนียนไร้สิ่งปกปิดอยู่ตรงหน้าของไอ้อาร์ต หัวนมสีชมพูอ่อนตอนนี้ชูชันขึ้นเหมือนกับกำลังท้าทายไอ้อาร์ตอยู่ มีรึที่ไอ้อาร์ตจะทนไหว มันจึงก้มลงดูดงับหัวนมสลับซ้ายขวา

          "โอ้วว ซี๊สสส พี่อาร์ต ซี๊สสส ผิงเสียว อู้ยย" น้องผิงหลับตาปี๋แอ่นอกรับกับการดูดของไอ้อาร์ต สองมือจิกไปที่ผ้าปูเตียงแน่น บิดตัวไปมา

          ไอ้อาร์ตดูดสองเต้าอวบอย่างมันปาก มือก็ถลกกระโปรงนักศึกษาสั้นที่นิยมใส่กันของเธอไปกองอยู่ที่เอว โชว์ขาอ่อนเรียวงาม จากนั้นก็เลื่อนมือไปเกาะกุมอยู่ที่ระหว่างขานอกกางเกงในสีดำลายลูกไม้ที่น้องผิงชอบใส่ นิ้วมือเริ่มเขี่ยไปมาตรงจุดที่มันคิดว่าเป็นร่องสาว สองขาของน้องผิงจึงค่อยๆถ่างออก

          มือข้างหนึ่งของน้องผิงเกาะกุมอยู่บนหลังมือของไอ้อาร์ต ใบหน้าเอนเอียงจนแก้มแนบชิดติดกับหมอน นอนกระดกเอวรับกับนิ้วมือที่ถูไถที่ปากร่องสาวที่มีเพียงกางเกงในบางๆกั้นอยู่เท่านั้น

          "อู้ยย พี่อาร์ต ซี๊สส อุ๊บๆ" ไอ้อาร์ตประกบจูบน้องผิงอีกครั้ง และมือทั้งสองข้างของมันยังคงทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ

          ไอ้อาร์ตเขี่ยไปมาจนกางเกงในของน้องผิงเปียกไปหมดเพราะน้ำรักที่ไหลรินออกมาจากร่องสาว มันจึงเลื่อนมือขึ้นเล็กน้อยจนมาอยู่ที่ขอบกางเกงใน สอดนิ้วมือเข้าไปผ่านขนอ่อนบางๆจนมันสัมผัสได้ถึงปากร่องสาว นิ้วมือของมันปิดปากร่องสาวจนมิดมันสัมผัสได้ถึงปากร่องที่ปิดสนิทอยู่ มันลูบไล้แผ่วเบาและเริ่มใช้นิ้วกลางเขี่ยลากขึ้นลงไปตามรอยแตกจนน้ำรักของน้องผิงเปียกชโลมไปทั้งนิ้ว

          "อื้มมมม อื้มม" น้องผิงครางอยู่ในลำคอเพราะไอ้อาร์ตยังคงดูดปากเธออยู่ สะโพกของน้องผิงเริ่มส่ายไปมาบางทีก็กระดกรับนิ้วไอ้อาร์ต

          นิ้วไอ้อาร์ตตอนนี้ชุ่มพอแล้ว มันจึงค่อยๆกดนิ้วเข้าไปร่องสาวอันบริสุทธิ์ ร่องเสียวที่ไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้าไปมาก่อนแม้แต่นิ้วของตัวเอง กำลังถูกชำแรกด้วยนิ้วของไอ้อาร์ต มันกดเข้าชักออกทีละนิดๆ สร้างความเสียวสยิวให้กับน้องผิงจนต้องดูดปากของไอ้อาร์ตแรงขึ้น เมื่อน้ำรักของน้องผิงหลั่งชโลมออกมาเรื่อยๆทำให้ได้อาร์ตสามารถส่งนิ้วมือของมันเข้าไปจนสุด ร่องสาวเริ่มบีบรัดกับสิ่งแปลกปลอมที่พึ่งเข้ามาจนไอ้อาร์ตรู้สึกได้ มันพึงพอใจในร่องนี้เป็นอย่างมาก

          มันชักเข้าชักออกนิ้วอย่างแผ่วเบา แต่ก็ทำให้น้องผิงผู้ที่ไม่มีประสบการณ์กามมาก่อนต้องแอ่นสะโพกส่ายไปมาอย่างเร้าใจมัน แต่จู่ๆมันก็ชักนิ้วออกจนสุดก่อนจะค่อยๆถอนมือออกจากระหว่างขาของน้องผิง ยันกายลุกขึ้นถอนปากและมือออกจากตัวน้องผิง

          ไอ้อาร์ตมองน้องผิงนอนหลับตาปี๋หอบเหนื่อยด้วยความสะใจ มันอดใจไม่ไหวอีกแล้ว มันจึ่งเริ่มถอดเสื้อนักศึกษาของน้องผิงออกอย่างง่ายดาย ตามด้วยสอดมือไปข้างหลังปลดตะขอยกทรงออกแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี สองมือเกี่ยวไปที่ขอบกระโปรงนักศึกษาที่ร่นขึ้นมากองอยู่ที่เอวของน้องผิง ออกไปทางปลายเท้าพร้อมๆกับกางเกงใน น้องผิงกระดกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยให้ไอ้อาร์ตถอดออกได้ง่ายขึ้น

          บัดนี้ร่างกายเปลือยเปล่าขาวโพลนปรากฏอยู่ตรงหน้าของไอ้อาร์ต มันช่างเป็นที่สมบรูณ์แบบที่สุดเท่าที่มันเคยเห็นมา สองเต้าอวบอั๋นกลมกลึง เอวกิ่วขอดไร้ไขมัน ระหว่างขามีขนขึ้นรำไรพองาม ร่องสาวขาวเนียนปิดสนิทได้มลทิน มันไม่รอช้ารีบจับน้องผิงแยกขาออกก้มลงชิมน้ำรักที่ปากร่องสาว

          "โอ้ววว ซี๊สสสส พี่อาร์ต ผิงเสียว" น้องผิงร้องครางออกมาทันทีที่ปากของไอ้อาร์ตสัมผัสกับปากร่องสาว มือทั้งสองข้างกดไปที่หัวของไอ้อาร์ตแน่น กดให้ปากของมันแนบชิดติดปากร่องสาวแน่นขึ้นไปอีก จนไอ้อาร์ตแทบหายใจไม่ออก น้ำรักที่หอมหวานของน้องผิงไหล่หลั่งออกมาอย่างไม่หยุด ซึ่งก็ทำให้ไอ้อาร์ตดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย มันดูดเลียที่ปากร่องสาวจนน้ำลายน้ำรักเปียกชุ่มปนเปกันไปทั่วทั้งร่อง

          "อ๊ายยย ซี๊สสส พี่อาร์ต อูยยย เสียวว โอ้วววว" น้องผิงร้องครวญครางอย่างเร้าใจไอ้อาร์ต มันจึงตอบแทนเธอด้วยการฉกลิ้นสากๆเลียวนไปมาที่ติ่งเสียว ทำเอาน้องผิงก้นไม่ติดพื้นส่ายสะโพกไปมา

          เมื่อเห็นว่าน้องผิงพร้อมที่จะเริ่มขั้นตอนต่อไปแล้ว มันจึงถอดลุกขึ้น ถอดเสื้อผ้าของมันออกจนหมด เมื่อมันถอดกางเกงในชิ้นสุดท้ายออก ท่อนเอ็นที่แข็งเต็มที่ขนาดมาตรฐานก็ดีดผึงออกมา น้องผิงจ้องมองไปที่ท่อนเอ็นของไอ้อาร์ต ถึงแม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์แต่เธอก็รู้โดยสัญชาตญาณว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ

          ไอ้อาร์ตค่อยๆจับขาของน้องผิงกางออกและตั้งชันขึ้น ทำให้ร่องสาวลอยเด่นขึ้นมา แล้วคุกเข่าแทรกตัวเข้าไปที่หว่างขา มันส่งยิ้มจ้องหน้าน้องผิงที่ตอนนี้หน้าแดงฉานไปหมด

          "ยังไม่เคยใช่ปะครับน้องผิง" ไอ้อาร์ตถาม
          "...." น้องผิงไม่ตอบแต่เอียงหน้าหลบสายตาไอ้อาร์ตด้วยความอายแล้วพยักหน้า ไอ้อาร์ตยิ้มอย่างพอใจที่อีกเดี๋ยวจะได้ลิ้มรสความสาวของน้องผิงแล้ว

          ไอ้อาร์ตไม่รอช้าอีกต่อไป จับท่อนเอ็นที่มากประสบการณ์ของมันถูขึ้นลงตามร่องสาว ชโลมน้ำรักที่ไหลออกมาจากร่องสาวจนมันเปียกชุ่มไปทั้งหัวบาน ก่อนจะค่อยๆแบะสองกลีบปากร่องเสียวแล้วจ่อหัวบานอุดปากรูอันบริสุทธิ์ของน้องผิง

          "พี่จะเริ่มละนะครับ" น้องผิงเอียงหน้าหลับตาปี๋ พยักหน้าเพื่อบอกว่าตนเองพร้อมแล้ว ไอ้อาร์ตจึงค่อยๆออกแรงกดท่อนเอ็นเข้าไปช้าๆ

          ความแน่นความเจ็บของน้องผิงเริ่มปรากฏ เธอหน้านิ้วคิ้วขมวด มือจิกไปที่ผ้าปูที่นอน กัดที่ริมฝีปากแน่น ไอ้อาร์ตกระดกเอวส่งท่อนเอ็นเข้าออกร่องสาวที่ละนิดๆจนในที่สุดหัวบานก็ผลุบเข้าไปในเรียบร้อยแล้ว

          "พี่อาร์ต...ผิงเจ็บ" ร่องสาวของน้องผิงทั้งตอดทั้งรัดหัวบานของไอ้อาร์ตแน่น ซึ่งสร้างความเสียวที่ปลายหัวบานของมันไม่น้อย

          ไอ้อาร์ตปล่อยให้น้องผิงพักเพื่อคลายเจ็บครู่หนึ่งจึงจะเริ่มต่อ
          "พี่ต่อนะ ทนอีกนิดหนึ่งนะน้องผิง เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้ว" น้องผิงพยักหน้า
          "เบาๆนะคะ" ไอ้อาร์ตจึงก้มตัวลงประกบจูบแลกลิ้นกับน้องผิง มือทั้งสองข้างบีบเค้นไปที่สองเต้าอวบเพื่อเพิ่มความเสียวให้กับน้องผิง จนน้องผิงเผลอโอบคอมันแน่น มันจึงเริ่มกระเด้าเอวช้าๆสั้นๆแต่ก็เพิ่มความลึกที่ละนิดๆ

          น้องผิงถูกไอ้อาร์ตกระเด้าท่อนเอ็นใส่ร่องสาวเธอครั้งแล้วครั้งเล่า การกดเข้าออกแต่ละทีล้วนแต่สร้างทั้งความเจ็บและความเสียวปนเปกันไป ปากก็ดูดลิ้นของไอ้อาร์ตอย่างแรง มือก็โอบรัดคอของมันแน่น สะโพกส่ายไปมาบางทีก็กระดกรับการกดของท่อนเอ็น มันช่างคับแน่นเสียจริงๆ

          เมื่อไอ้อาร์ตส่งท่อนเอ็นของมันเข้ามาได้เกือบครึ่งลำ มันรู้สึกเหมือนว่ามีบางอย่างกั้นปากทางเข้าอยู่ นั่นคือเยื่อพรมจรรย์นั่นเอง มาถึงจุดนี้ไอ้อาร์ตละปากออกแล้วเลื่อนมาไซ้ที่ซอกคอของน้องผิงแทน แล้วซอยเอวถี่ๆอาศัยจังหวะที่น้องผิงเผลอกระดกก้นขึ้นมา มันจึงออกแรงที่มีทั้งหมดกดท่อนเอ็นทะลวงเยื่อพรมจรรย์ของน้องผิงขาดกระจุยอัดเข้าไปจนสุดลำ

          "โอ้ยยยย" น้องผิงร้องเพราะความเจ็บครั้งแรกและครั้งเดียวของผู้หญิง หน้าท้องของทั้งคู่แนบสนิทจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน จนขนหยิกหย่อยของไอ้อาร์ตรอบโคนเนื้อพันยุ่งอยู่กับขนอ่อนรำไรของน้องผิง ไอ้อาร์ตซึมซับความแน่นความกระชับของร่องสาวบริสุทธิ์ที่ตอดรัดไปทั่วทั้งลำเนื้อของมัน ก่อนกระซิบที่ข้างหูของน้องผิงเพื่อเป็นการตอกย้ำว่า

          "น้องผิงเป็นของพี่แล้วนะ" น้องผิงได้ยินคำนั้นก็ยิ่งกอดไอ้อาร์ตแน่น เพราะชายที่อยู่บนร่างของเธอตอนนี้ได้ความสาวของเธอเรียบร้อยแล้ว ไอ้อาร์ตยังคาท่อนเอ็นของมันไว้ครู่หนึ่งจนร่องสาวเริ่มคลายอาการเกร็งแล้วจึงจะเริ่มกระเด้าสุดลำเสียที

          "หายเจ็บแล้วหรือยังครับน้องผิง" น้องผิงพยักหน้า
          "แต่เบาๆก่อนนะคะ"ไอ้อาร์ตได้ยินแบบนี้ก็ค่อยๆถอนลำเนื้อออกช้าๆด้วยความยากลำบากนั่นเป็นเพราะความคับแน่นของร่องสาวที่ใหม่เอี่ยมอ่อง น้องผิงรู้สึกเสียวว๊าบที่ไอ้อาร์ตกำลังจะถอนท่อนเอ็นออกจึงกระดกก้นตาม ในจังหวะนั้นเองไอ้อาร์ตก็สวนลำเนื้อเข้ามาทีเดียวสุดลำ

          "ซี๊สสส พี่อาร์ต" ไอ้อาร์ตกระเดาแบบสุดลำช้าๆอยู่สามสี่ครั้งมันจึงเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงเนื้อดังกระทบกันดังคละเค้าปนเปไปกับเสียงร้องครางของคนทั้งคู่

          ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ "โอ้ย พี่อาร์ต ซี๊สสส ผิงเสียววว โอยยย" น้องผิงร้องครวญครางทุกทั้งที่ปลายท่อนเอ็นของไอ้อาร์ตกระทุ้งไปชนที่มดลูกของเธอ
          "อู้ยย ฟิตดีจริงๆ เย็ดมันมาก อูยย พี่ไม่เคยเย็ดใครมันเท่าน้องผิงมาก่อนเลย ซี๊สสส" ไอ้อาร์ตทั้งงัดซ้ายงัดขวา แทงสั้นสลับยาว ทำเอาน้องผิงที่ไม่เคยรับรู้รสเสียวแบบนี้มาก่อนแทบจะสำลักความเสียว
ไอ้อาร์ตกระเด้าท่านี้ได้ซักพักก็จับขาของน้องผิงพาดบ่าแล้วซอยเอวยิกๆ ทำเอาน้องผิงอ้าปากค้างเพราะทำให้ท่อนเอ็นของไอ้อาร์ตเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิมอีก

          ตับ ตับ ตับ ตับ "พี่อาร์ต อู้ยยย ผิง ผิง ซี๊สส ผิงจะไม่ไหวแล้วว พี่อาร์ต" น้องผิงร้องครวญครางดังขึ้นเพราะตอนนี้เธอใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้ว ซึ่งไอ้อาร์ตก็รู้เช่นกันเพราะการตอดรัดของร่องสาวเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันก็อยากจะเสร็จพร้อมเดียวกับเธอ มันจึงปล่อยขาที่พาดบ่าลงแล้วเร่งโหมกระเด้าอย่างต่อเนื่อง

          "อ๊ายยย ซี๊สสส ผิงไม่ไหวแล้วพี่อาร์ต โอยยย ผิงเสียว โอ้ย เสียววว" ไอ้อาร์ตก็ใกล้เสร็จเหมือนกันจึงตั้งหน้าตั้งตามีแรงเท่าไหร่ใส่มาจนหมด

          "ซี๊สสส มันจริงๆ จะแตกแล้วว พี่จะแตกแล้ววว อ๊าาา" ไอ้อาร์ตกระแทกท่อนเอ็นเข้าไปจนสุดเท่าที่มันจะทำได้ น้ำกามจำนวนมากพุ่งออกมาจากปลายลำเนื้อไปกระทบกับมดลูก

          ทางน้องผิงเมื่อโดนน้ำกามแรกฉีดเข้าใส่มดลูกก็ผวาตัวเกร็ง สั่นกระตุก ในหัวขาวโพรง ถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรกในชีวิต จนต้องร้องครางอย่างสุดเสียง

          "โอ้ยย พี่อาร์ต โอ้ยยยยยยย" ทั้งคู่นอนกอดกันแน่นมันเนิ่นนานกว่าจะเริ่มผ่อนคลาย น้ำกามขาวข้นของไอ้อาร์ตถูกมดลูกของน้องผิงดูดซับไปจนเกือบหมด แต่ก็มีน้ำกามบางส่วนไหลออกทางปากทางเข้าผสมปนเปไปกับน้ำหล่อลื่นและเลือดบริสุทธิ์ของน้องผิง

เมื่อความเสียวสุดยอดเริ่มจางหาย ไอ้อาร์ตก้มลงไปมองผลงานของตัวเอง เห็นเลือดแดงฉานเลอะเต็มผ้าปูที่นอน นั้นแสดงว่าน้องผิงได้มอบบริสุทธิ์ของเธอให้กับมันเรียบร้อยแล้ว มันรู้สึกภูมิใจมากที่สามารถพิชิตความสาวของน้องผิงโดนสมบูรณ์

          ทั้งคู่ต่างก็จ้องมองกันด้วยสายตาหวานฉ่ำและประจบจูบกันเนินนาน นานจนกระทั้งภาพเหล่านี้จางหายไป

          ผมหายจากการตัวค้างแข็งแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมต้องเห็นภาพบ้าๆแบบนี้ด้วยนะ ถึงแม้ว่าผมจะมีความรู้สึกเดียวกับที่ไอ้อาร์ตรู้สึก แต่ผมไม่รู้สึกปลื้มเลยที่คนๆนั้นคือไอ้อาร์ต พอพูดถึงการถ่ายทอดความรู้สึกของไอ้อาร์ตมายังผม งั้นแสดงว่า.... "ฝันเปียก" จนมันเหนอะหนะเต็มเป้ากางเกงไปเรียบร้อยแล้ว

          ผมเลยรีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำอาบท่า แล้วกลับมานั่งคิดว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นมาเหรอ หรือว่าเป็นญาณอะไรทำไมมันถึงได้ดูสมจริงเสียเหลือเกิน ผมเลยนึกได้ว่ามีลุงสัปเหร่ออยู่นี่หน่า ผมพยายามนึกถึงลุงสัปเหร่อละตะโกนหาแก

          "ลุงๆได้ยินผมไหมครับ" ผมพยายามเรียกไปและเอาหูเงี่ยงฟังไป
          "มีอะไรอีกล่ะพ่อหนุ่ม" เออได้ผลแฮะยังคุยกันได้อยู่
          "ผมมีเรื่องอยากปรึกษาลุงหน่อยน่ะ ครับเรื่องด่วนจริงๆ" ความจริงผมก็เกรงใจลุงแกอยู่เหมือนกันแต่นี่เรื่องเกียวกับน้องผิง เพราะฉะนั้นผมต้องรู้ให้ได้
          "ปรึกษาเรื่องอะไรล่ะพ่อหนุ่ม รีบๆหน่อยนะลุงมีนัดตีกอล์ฟกับเพื่อนเก่าอยู่" หือ~ ลุงสัปเหร่อตีกอล์ฟเป็นด้วย แถมที่สวรรค์ก็ยังมีสนามกอล์ฟด้วยเหรอเนี้ย
          "คือตะกี้ผมเห็นภาพอะไรไม่รู้แปลกๆครับ มันเหมือนกับเรื่องจริงมากเลยครับลุง ลุงพอจะรู้มั้ยครับว่ามันคืออะไร' ผมถามเพราะอยากรู้สาเหตุ
          "เรื่องเป็นยังไงเหรอ ลองเล่าให้ลุงฟังหน่อย" ลุงถามแต่ผมไม่กล้าที่จะเล่าให้ลุงฟัง
          "..."
          "ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร แต่ลุงพอจะรู้ว่ามันคืออะไร" ว่าแล้วลุงต้องรู้แน่ๆผมเลยตั้งใจฟังต่อ
          "ลุงว่านั้นต้องเป็นพลังที่แปรปรวนของจิตสัมผัสทั้ง 5 ประการ เลยทำให้พ่อหนุ่มเห็นภาพนั้นไง และภาพที่พ่อหนุ่มเห็นน่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องอดีตก็ต้องเป็นเรื่องปัจจุบัน หรือไม่ก็อนาคตของบุคคลที่พ่อหนุ่มคิดถึงอยู่ ถ้าคิดถึงตัวเองก็ได้เห็นนิมิตของตัวเอง ถ้าคิดถึงคนอื่นก็จะเป็นเรื่องของคนคนนั้น แล้วพ่อหนุ่มคิดถึงใครล่ะก่อนที่จะเห็นภาพนิมิตนั้น"
          น้องผิงเหรอ เรื่องของน้องผิงเหรอ ไม่จริงน่า ไม่จริง

          "สงสัยจะเป็นของแฟนแน่ๆถึงได้เงียบไป" ลุงสัปเหร่อเดาเกือบถูก
          "มันจะเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์นั้นไม่ได้เลยใช่ไหมครับลุง" ผมถามลุงเพราะผมจำได้ลุงเคยบอกว่าถ้าได้เห็นนิมิตในอนาคตเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย ไม่ว่าเราจะทำยังไงก็ตาม

          "ใช่ มันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน" ลุงย้ำ คำยืนยันของลุงทำเอาผมเศร้าไปเลย นี่ผมจะต้องอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้จีบเลยเหรอเนี้ย และลุงคงเห็นผมเงียบไปคงเข้าใจว่าเรื่องที่ผมเห็นนั้นมันต้องร้ายแรงพอสมควร

          "พ่อหนุ่มเอ๋ย อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด ทำใจเสียเถอะ ถึงพ่อหนุ่มจะมีจิตสัมผัสอันแรงกล้าเพียงใด พลังเหล่านั้นไม่สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงดวงชะตาที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วได้ เราต้องยอมรับมันและกล้าเผชิญหน้ากับมัน ตัวอย่างก็เหมือนกับเราทำกรรมอะไรเอาไว้ซักอย่างหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่ต้องชดใช้กรรม เราเลยรีบไปหาหมอสะเดาะเคราะห์เพื่อจะให้ผลกรรมนั้นหายไป ลุงขอถามพ่อหนุ่มหน่อยเถอะ การสะเดาะเคราะห์คือการชดใช้กรรมแล้วหรือ ฉะนั้นการที่พ่อหนุ่มเห็นดวงชะตาของคนอื่นแล้ว ถึงยังไงพ่อหนุ่มก็ไม่สามารถหยุดดวงชะตาของคนคนนั้นได้ เพราะมันเป็นผลมาจากกรรมเก่าที่เค้าคนนั้นทำมา" ผมได้ยินลุงสัปเหร่อสอนธรรมะแบบนี้อีกแล้วแต่มันก็จริงของลุงเราไม่สามารถแก้ไขผลกรรมของใครได้นอกนอกจากตัวของเค้าเองที่ต้องชดใช้เอง

          และมันคงดีเหมือนกันที่น้องผิงจะได้คนรวยๆอย่างไอ้อาร์ตเป็นแฟน เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก และผมก็หวังว่าไอ้อาร์ตจะรักน้องผิงคนเดียวไม่ทอดทิ้งน้องผิงของผมให้ต้องช้ำใจ ถ้าเป็นไปตามที่ผมภาวนา มันก็น่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีของน้องผิงนั่นเอง

yak7384