ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Chinese Family 1/4

เริ่มโดย apinyaporn, สิงหาคม 16, 2016, 07:54:55 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

apinyaporn

ใจเขากับใจเรา

ผมกับแบมเล่นกันเหมือนเด็กๆจับโน่นล้วงนี่จี๋เอวกันจนหนึ่งในสามสาวนางแบบขยับรู้สึกตัวตื่นเหล่มาทางพวกเราเล็กน้อย แบมนั่งพิงเบาะกอดอกเพราะตอนนี้เสื้อชั้นในมันอยู่ผิดรูปผิดทรงไม่อยู่ในที่ในทางเธอหยิกแขมผมแรงๆเมื่อผมเอียงคอเอาหน้าไปใกล้ๆ

"พอแล้ววว พี่ภพพพพ" แบมหยิกแรงๆเข้ากับจังหวะกระซิบ

หนึ่งในสามสาวนางแบบหันตัวยื่นห่อขนมข้ามเบาะมาให้ผมกับแบมเราขอบคุณแล้วหยิบมาคนละชิ้นตามมารยาท สาวอีกคนเริ่มส่งภาษาอังกฤษสำเนียงแปลกๆ(แต่ถ้าผมพูดของผมน่าจะแปลกกว่า)พอจับใจความได้ว่ากำลังถามว่าเราเพิ่งมาเหรอพักอยู่บ้านตรงไหนแล้วรู้จักกับอาจารย์นาโอะด้วยเหรอ

ผมฟังแบมคุยกับสามสาวที่หันตัวมาคล้ายนั่งล้อมวงคุยกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเราแนะนำตัวกันนิดหน่อยพอจับใจความได้ว่าพวกเธอเป็นสาวฝรั่งเศษหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้วเพราะแบมร่ายฝรั่งเศษแบบลื่นหูจนสามสาวยิ้มประหลาดใจ ผมสังเกตุว่าบางช่วงบางตอนสาวๆหันมาทางผมทำท่าเหมือนสนใจอะไรสักอย่างบางช่วงอาจารย์นาโอะก็ตะโกนเป็นภาษาฝรั่งเศษมาจากหน้ารถด้านข้างคนขับคู่ของเจ้าเด็กหัวหยิกและแฟนมันก็พูดฝรั่งเศษขึ้นมาบ้างแล้วทั้งรถก็หัวเราะกันส่วนแบมทำท่าอายๆงอนนิดๆหยุดคุยพิงเบาะรถ สรุปว่ามีแค่ผมกับคนขับรถตู้ที่ไม่รู้ว่าเขาพูดเรื่องอะไรหัวเราะทำไมกัน(หรือคนขับรถตู้ก็รู้เรื่องหว่า..)

"เค้าคุยอะไรกันเหรอ" ผมอยากรู้
"แบมอวดเค้าว่าพี่ภพเป็นนักเปียโนเก่งมาก แล้วก็เราเพิ่งแต่งงานกัน" ผมรู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้นมาทันที   
"เขาแซวถามว่าเรามาฮันมูนกันเหรอแล้วก็เลยอวยพรอะไรแบบเนี้ย"
"อ้าว.. แล้วหัวเราะกันทำไมล่ะ" ผมกะว่าจะจำมุขฮาฝรั่งๆไปเล่าต่อกับเพื่อนๆคิดว่าน่าจะเจ๋งเพราะเห็นว่าฮากันทั้งรถ

"ก็เค้าเห็นพี่ภพเดินออกมาจากห้องลองชุดผู้หญิงน่ะสิ" (ว่าแล้ว..มุขนี้ต้องเชี่ยจริงๆ)
"แล้วเขารู้ว่าเราทำอะไรกันเหรอ"
"จะเหลือเรอะ!!"
"เค้าถึงอวยพรให้มีลูกกันเร็วๆนี่ไง" แบมคงแกล้งงอนเพราะตอนที่ผมดึงเธอเข้ามากอดเธอก็ไม่ได้ขัดขืน
"ไอ้เด็กหัวหยิกอะไรของพี่ภพอ่ะ มันบอกว่าเดี๋ยวคราวหน้ามันจะลองดูบ้าง"
"แล้วอาจารย์นาโอะว่าไง.."
"เค้าบอกพี่ภพสุดยอด" ถึงตอนนี้ผมอายเหี้ยๆ ยังดีที่ในสายตาของพวกนี้มันมองว่าเป็นเรื่องตื่นเต้นเสียวดี

"แต่ถ้ามีลูกกันเลยก็ดีนะ จริงๆพี่ก็แค่อยากให้เราเซ็ทอัพลงตัวกันก่อน" ผมหมายถึงทั้งเรื่องชีวิตคู่และเรื่องอาชีพใหม่ของเรา
"อื้อ.. แบมรู้" แบมขยับซบหน้าหลับตาอยู่ในอ้อมกอดใต้คางผม

"ทำไมอยู่ดีๆถึงอยากมีลูกอ่ะพี่ภพ" แบมดูอารมณ์ดีขึ้น ผมก็ตอแหลไปงั้นแหละแต่ถ้าลูกจะมาก็มาตั้งใจว่าต่อไปนี้จะไม่ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อคุมกำเนิดแล้วเหมือนกัน
"ถ้ามีลูกก็คงสนุกดี"

"ถ้ามีลูกแบมจะให้เล่นเปียโน ..เพราะดี" เธอคงอยากเอาใจผม
"ถ้ามีลูกพี่จะเอานี่ให้ลูกดูก่อน" ผมแกล้งเปิดภาพวิดีโอในห้องลองชุดภาพอริยาบทตอนที่แบมกำลังลองชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ที่ผมเลือก
"อุ๊ย..!! พี่ภพ เอามานี่เลย!! ลบ.. ลบเลย!!" แบมแย่งโทรศัพท์ไปจากมือผมหาวิธีลบคลิบเพราะเธอไม่ได้ใช้แอนดรอยด์จึงไม่คุ้นเคยกับปุ่มคำสั่ง
"เดี๋ยวดิ..เก็บลงคอมพ์ก่อนเดี๋ยวค่อยลบ" ผมค่อยๆบอกแม้จะเสียดาย
"เดี๋ยวหลุดนะพี่ภพ แบมตายแน่ๆป๊าแบมฟื้นมาลากแบมไปอยู่ด้วยแน่ๆ" แบมบ่นห่วงเพราะมีข่าวคลิปดาราหลุดให้เห็นให้ได้ยินอยู่เนืองๆแต่นิ้วก็ยังเลื่อนคลิบเดินหน้าถอยหลังดูวิดีโอของตัวเองไปด้วยไม่วางตา

"วิดีโอมันขยายไม่ได้อ่ะแบม มันต้องพวกภาพนิ่ง" ผมเห็นเธอพยายามใช้นิ้วแหวกหน้าจออยู่สามสี่ครั้ง
"แล้วมีภาพนิ่งไหมพี่ภพ"
"ลืมน่ะสิ ตอนนั้นฟุ้งซ่านธาตุไฟแตก"
"ดีแล้วล่ะ" แบมพูดไม่มองหน้าผม
"เดี๋ยวถ่ายกับกล้องใหม่เล้ยยย" ผมโยนหินถามทาง
"ลามก.." 

"อ้วนอ่ะพี่ภพ" แบมเอามือปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วหันมามองผม
"ก็เดือนนึงมานี่ไม่เห็นแบมเล่นโยะคะเลยนี่"
"พอมาอยู่บ้านนี้แล้วมันยุ่งๆอ่ะพี่ภพ อยู่ที่บ้านมีพี่โบพี่เบียร์ด้วยแหละ" แบมก้มหน้าดูวิดีโอสาธิตวิธีใส่บิกินี่เส่้นสปาเก็ตตี้สีเหลืองมะนาวสุดเซ็กซี่

"อย่าให้หลุดเลยนะพี่ภพ!! ป๊าแบมฟื้นขึ้นมาฆ่าแบมแน่" เธอคืนโทรศัพท์ให้ผม รถตู้แวะส่งเราตรงทางแยกเข้าบ้านส่วนตัวของเจ้าทุยผมเดินเขย่งผ่านพื้นดินแดงแฉะๆไปหน้ารถถามอาจารย์นาโอะว่าพักอยู่บ้านหลังไหนซึ่งอาจารย์ก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะเพิ่งมาถึงยังไม่ได้เข้าพัก

"พรุ่งนี้คุณอยากไปดูผมทำงานไหมล่ะถ้าสนใจเราเจอกัน" อาจารย์หันไปถามคนขับรถ
"สักเจ็ดโมงเช้าตรงนี้แหละ ผมขอเบอร์โทรคุณไว้ก็ได้"
"นี่เบอร์ผม" อาจารย์ยิงมาแลกเบอร์กัน

รถตู้ออกตัวผมจึงกึ่งเดินกึ่งเขย่งกลับมาบนพื้นหญ้าที่แบมยืนรออยู่ดูจากเวลาที่รถตู้นัดเรามาถึงตอนนี้น่าจะราวๆห้าโมงเย็นถึงฝนจะหยุดไปแล้วทิ้งเหลือไว้เพียงความเปียกชื้นแฉะแต่เมฆมืดทะมึนฟ้าแลบแปลบปลาบที่เห็นอยู่กลางทะเลก็ร้องคำรามบอกความพร้อมที่จะคืบคลานเข้ามาถล่มที่นี่ในเวลาอีกไม่ช้านักสังเกตุจากลมแรงๆเย็นๆปะทะผิวกาย

ผมเปิดประตูหน้าบ้านมองทะลุผ่านทางเดินแผ่นไม้ตรงกลางระหว่างห้องซ้ายขวาตรงยาวเลยชายคาออกไปข้ามผ่านหาดหินน้อยใหญ่เห็นแดดส่องลงตรงลงที่ลานพื้นไม้แสงกำลังสวยท่ามกลางบรรยากาศมืดมิดขมุกขมัวของทะเลพายุฝนจึงวางข้าวของที่ซื้อมาแล้วหยิบกล้องตัวใหม่เรียกแบมให้รีบเดินมายืนตรงแสงที่กำลังส่องทะลุเมฆลงมานี้และถอยไปหาจุดมุมองประกอบด้านหลังสวยๆแล้วก็กดชัตเตอร์แบบไม่ต้องยั้งกลัวฟิล์มหมด

"แสงสวยดี" ผมชวนให้แบมดูภาพจากมอนิเตอร์กล้อง
"นางแบบก็สวยนะพี่ภพ" แบมยิ้มคงพอใจกับภาพตัวเองแต่ก็ยังไม่วายลูบพุงตัวเอง

ผมชวนแบมเดินหามุมถ่ายรูปกันต่อจนสุดทางเดินไม้ที่โขดหินใหญ่มีบันได้ไม้เล็กๆสามารถปีนขึ้นไปยืนมองวิวทะเลเห็นภาพรวมของอ่าวเล็กๆรูปพระจันทร์เสี้ยวด้านล่าง ผมได้ภาพสวยๆของแบมประเดิมกล้องดิจิตัลตัวแรกในชีวิตนึกทึ่งในความฉลาดของมันซึ่งถึงแม้จะเป็นแค่กล้องคอมแพ็คเล็งกดถ่ายง่ายๆแต่ภาพที่ได้ก็มีชัดตื้นชัดลึกสีแสงที่ได้ก็กำลังพอดีชอบแบบไม่ต้องปรับให้วุ่นวายเหมือเมื่อก่อน คงอีกไม่นานถ้าหุ่นยนต์เล่นเปียโนได้ไพเราะเหมือนกล้องดิจิตัลนี้ทำได้โลกก็ไม่จำเป็นจะต้องมีผมหรือมีใครๆอีกแล้ว

ตั้งแต่เอริย้ายข้าวของออกจากห้องผมก็ไม่ได้ถ่ายรูปอีกอาจมีที่อยากเก็บภาพเอาไว้บ้างก็ใช้แค่กล้องติดโทรศัพท์ถ่าย

..........................................................

เอริเป็นคนชวนผมไปลงเรียนวิชานอกคณะเพราะรู้ข่าวว่าอาจารย์นาโอะนักถ่ายภาพแฟชั่นชื่อดังมีผลงานมากมายจะมาเป็นอาจารย์พิเศษ วันแรกของการเรียนการสอนที่ผมยังจำภาพเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างชัดเจน นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนวิชาถ่ายภาพบุคคลหลายสิบคนนั่งเรียงรายคล้ายอยู่บนแสตนด์เชียร์กีฬาสีทรงโค้ง อาจารย์นาโอะยืนบนเวทีเล็กๆหน้าจอรับภาพจากเครื่องโปรเจ็คเตอร์กำลังเล่าถึงประสบการณ์สนุกๆในการทำงานของตัวเองได้สักเกือบชั่วโมงนักศึกษาหัวเราะกันครื้นเครง 

"ภาพบุคคลสไตล์ที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ นู้ด.." เสียงนักศึกษาชายหญิงหัวเราะคิกคักซุบซิบกันอื้ออึง
"ผมมักจะมีปัญหากับพวกสไตลิสหรือเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าดังๆอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับงานของผมและผลิตภัณท์ของเขา"
"ผมคิดว่าารตีความให้ได้ว่าเราอยากสื่อความหมายให้เกิดอารมณ์กับผู้ดูอย่างไรนั้นสำคัญกว่า"
"ใช้อารมณ์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้า"
"ก่อนจะลงมือกดชัตเตอร์คุณเคยคิดไหมว่าต้องการภาพออกมายังไง แสงมาจากทิศทางไหน มันจะน่าสนใจอย่างไร"

"เอาสักตัวอย่านึง.. คุณรู้ไหมสิ่งใดที่ทำให้ความอนาจารสามารถถูกเรียกว่าศิลปะได้" เชี่ยและ เสือกชี้เรียกผมตอบ
"เออ.. ความมีชื่อเสียงของช่างภาพครับ" สาบานด้วยระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นเหี้ยๆของผมในตอนนั้นว่าไม่ได้กะจะตอบเพื่อกวนตีนใดๆอาจารย์นาโอะเลย
"สีแสงและเงาค่ะ" เอริยกมือแล้วยืนช่วยผมตอบ
"ใช่ ใช่เลย สีแสงและเงา" อาจารย์นาโอะคงไม่รู้ตัวว่าได้เจอกับแฟนพันธ์ุแท้เข้าให้แล้ว
"ดิฉันจำมาจากบทสัมภาษณ์ของอาจารย์จากนิตยสารค่ะ" เสียงหัวเราะคิกคักของเหล่านักศึกษาดังขึ้นอีกครั้ง

"เราจะได้ลองถ่ายภาพนู้ดกันโดยที่ผมจะไม่บอกว่าวันไหนหรือเมื่อไหร่" เสียงปรบมือเสียงร้องเชียร์ดังสนั่นจากทั่วทุกทิศทางภายในห้อง
"เพราะฉะนั้นใครที่ไม่เข้าเรียนในวันนั้นจะต้องเสียใจมากๆตอนเพื่อนๆเล่าประสบการณ์ให้ฟัง" อาจารย์นาโอะยิ้ม
"มีใครอยากจะลองเป็นแบบให้ผมและเพื่อนๆได้ทดลองถ่ายบ้างไหม" อาจารย์นาโอะคงลองชวนเล่นๆ
"ดิฉันอยากลองเป็นแบบค่ะ" เอริที่ยังไม่ได้นั่งลงตั้งแต่เมื่อกี๊รีบเอ่ยปากรับหน้าที่หุ่นนิ่งตามที่อาจารย์นาโอะรับสมัคร

ผมโดยสารรถไฟใต้ดินกลับห้องพร้อมเอริแทบทุกวัน เอริเป็นสาวกรุงโซลมาจากเกาหลีใต้เป็นเพื่อนคนแรกที่ผมรู้จักตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเรียนปรับพื้นฐานเราสนิทกันเพราะต้องสอบให้ผ่านเพลงของชั้นปีที่หนึ่งโดยการบรรเลงเปียโนและเชลโลร่วมกันถึงห้าเพลง เอริบอกว่าเธอชอบที่จะเล่นกับผมและชอบเสียงในห้องอพาร์เม้นท์ของผมมาก ถึงผมจะหาทางลดระดับการเล็ดลอดของเสียงด้วยวิธีใดก็ตามแต่ก็ทำได้แค่ปะๆติดๆเพราะเป็นห้องเช่าแต่สิ่งที่ดีเยี่ยมของอพาร์ทเม้นนี้คือถึงจะยังมีเสียงเล็ดลอดออกไปได้แต่ก็ไม่เคยมีผู้เช่าพักคนอื่นไม่พอใจยิ่งตอนที่เอริมาซ้อมด้วยบางคนถึงกับขอเพลงก็มี

"แล้วห้องข้างๆนี้ยังไม่มีคนอยู่อีกเหรอป๊อปซัง" เอริเช็ดเชลโลไปด้วยถามผมตอนเกือบจะสี่ทุ่ม
"ยังเลย แต่ถ้าเมื่อไหร่มีคนมาอยู่เราคงต้องซ้อมเบามือลง"
"เห็นโอซังเจ้าของตึกบอกว่าจะถามเขาก่อนว่าชอบดนตรีหรือเปล่าก่อนจะให้เช่า" ผมเช็ดทำความสะอาดเปียโนหลังซ้อมกับเอริเพิ่งเสร็จ
"อยู่ย่านนี้ค่าเช่าไม่ใช่ถูกๆนะเนี่ยแถมอยู่คนเดียวอีกต่างหาก" ถ้าผมไม่ได้พ่อส่งเงินมาช่วยคงแย่เพราะทุนที่ได้รับเฉพาะค่าเรียนอย่างเดียว
"อยุ่คนเดียวที่ไหน เลิกเรียนก็อยู่กับเธอนี่ไง เกือบทุกวัน" ผมแซวเอริ

"เอาล่ะ งั้นชั้นจะมาช่วยเธอจ่ายค่าเช่าห้องตั้งแต่วันพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะ" ผมตกใจที่เอริขอแชร์ห้องแบบปัจจุบันทันด่วน
"น่าจะเป็นการดีเพราะเราจะยังต้องเล่นคู่กันไปถึงปีสาม"
"แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ"
"ชั้นคิดว่าเธอมองชั้นแบบเพื่อนซะอีกนะป๊อปซัง" เอริหลิ่วตา
"เอ้า.. เรื่องของมึง" ผมสรุปเป็นภาษาไทยที่เอริจำความหมายได้แค่คำว่ามึงคำเดียว
"แล้วซีซีล่ะ เขาไม่มาต่อยผมเหรอแฟนเขาจะย้ายมาอยู่กับผมเนี่ย"
"ซีซีเพิ่งบอกให้ฉันย้ายของออกจากห้องเค้าพรุ่งนี้"
"ผมไม่ใช่เกย์นะบอกไว้ก่อน" ผมกระโดดขึ้นนอนคว่ำหน้าบนเตียงประกาศความเป็นเจ้าของ

เอริหรือเฮริเป็นสาวเกาหลีแบบสาวเกาหลีหุ่นนางแบบบล็อคในฝันของชายหลายๆคน เธอผ่านการปรับแต่งบางส่วนของใบหน้าให้เป็นพิมพ์นิยมด้วยเงินที่ครอบครัวมอบให้หวังจะดันให้เธอก้าวถึงความมีชื่อเสียงระดับโลกทั้งฝีมือเชลโลและรูปลักษณ์ความสวยความงาม เอริอายุมากกว่าผมเกือบสี่ปีเพราะเธอเรียนจบปริญญาตรีจากประเทศบ้านเกิดมาแล้วหนึ่งใบก่อนที่จะมาเดินตามความฝันด้วยการเริ่มเรียนดนตรีอย่างจริงจังเพื่อเสาะหาโอกาส ฝีมือเชลโลของเอรินั้นอยู่ในระดับดีเพราะเธอผ่านการฝึกฝนสะสมมาตั้งแต่เด็กๆคล้ายกันกับผม

"งั้นคืนนี้ชั้นขอค้างที่นี่เลยก็แล้วกันนะพรุ่งนี้ค่อยไปเอากระเป๋า" ปกติไม่ว่าจะซ้อมดึกแค่ไหนซีซีหนุ่มอเมริกันก็จะมาคอยรอรับกลับ
"แล้วทำไมเธอไม่กลับไปก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยขนของมาล่ะ" ผมถามเอริไปอย่างนั้นแหละ
"ขืนกลับไปคืนนี้ชั้นคงต้องโดนฟรีส่งท้ายอีกแน่ๆ ไปเอาของพรุ่งนี้ตอนซีซีไม่อยู่ห้องดีกว่า"

ผมนึกเห็นดีด้วยตามนั้นเดินไปเปิดตู้หยิบที่นอนสำรองสำหรับเวลามีเพื่อนมาค้างซึ่งก็รวมถึงเอริด้วยที่มักจะมาขอค้างอยู่กับผมในช่วงเวลาที่เธอเลิกกับหนุ่มๆไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเดียวกันคนละมหาวิทยาลัยหรือแม้แต่นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่นที่เจอกันตามสถานที่เที่ยว

"แล้ววันนี้ที่เธออาสาเป็นแบบให้อาจารย์นาโอะคืออะไร" ผมถามสิ่งที่คาใจมาตั้งแต่ในคลาสเรียน
"ก็ครั้งหนึ่งในชีวิตชั้นอยากจะเป็นนางแบบมีรูปที่ถ่ายโดยฝีมือของอาจารย์เก็บไว้ก็แค่นั้น"
"แต่อาจารย์เขารับสมัครแบบเปลือยนะ" เอริมองหน้าผมไม่พูดอะไร
"แล้วก็คนในห้องตั้งเกือบห้าสิบคนนะ"
"เธอเคยเปลือยต่อหน้าคนห้าสิบคนไหมล่ะป๊อปซัง" เอริตอบคำถามผมด้วยคำถามกลับ พวกผู้หญิงคงชอบแบบนี้
"เธอก็คงไม่มีวันรู้สึกได้ว่าอารมณ์ตอนนั้นมันเป็นอารมณ์ยังไงแบบไหน เอาไว้หลังจากชั้นเข้าใจด้วยตัวเองแล้วแล้วชั้นจะเล่าให้เธอฟังก็แล้วกันนะ" ผู้หญิงคนนี้แม่งโคตรฮาร์ดคอร์เลยผมคิดในใจแล้วเอริก็หันไปจัดที่นอนให้ตัวเองเพราะอากาศเริ่มส่งสัญญาณว่าคืนนี้คงจะหนาวมาก

"ชั้นอยากรู้จังว่าเธอนิยามความแตกต่างระหว่างผู้ชายผู้หญิงไว้แบบไหนยังไงจะคร่ำครึเหมือนผู้คนที่บ้านชั้นไหม" เอริชวนทะเลาะเรื่องนามธรรมกับผมเสมอเวลาเธออารมณ์ไม่ดี
"ชั้นชอบเธอเพราะคนไทยใจดีที่สุดเธอเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆนะป๊อปซัง" เปล่าหรอก.. ผมก็แค่ชื่นชมในฝีมือเชลโลของเธอนั่นแหละจนพยายามมองข้ามรสนิยมเปลี่ยนคู่นอนบ่อยเพราะมันก็เรื่องของเธอ
"คนที่มหาวิทยาลัยเค้าพูดกันเรื่องชั้นเธอเคยได้ยินบ้างไหม ..ถ้าเธอจะฟังพวกนั้นเอาไว้บ้างชั้นก็ว่าดีนะ" เอริหยิบผ้าเช็ดตัวของเธอที่ตั้งใจทิ้งเอาไว้ใช้เวลาที่เธอขอพักค้างคืนที่ห้องผมหลังจากซ้อมเสร็จถ้าไม่มีหนุ่มๆคนไหนมารับกลับส่วนผมก็บริการซักพับเก็บให้หอมฟุ้งเรียบร้อย

"ชั้นไม่ล้อคประตูห้องน้ำนะ เผื่อเธอจะอยากเห็นก่อนคนอื่นในชั้น"

.........................................................

"สงสัยพี่ภพรีบตามเข้าไปเลยสิ" แบมถามผม เรานั่งแกว่งขาข้างกันบนพื้นไม้สุดทางเดินดูเมฆพายุฝนดำทะมึนฟ้าแลบแปลบปลาบแทนพระอาทิตย์ตกดิน
"ไม่หรอก พี่ไม่ได้ตามเข้าไป"
"เป็นไปได้ไงหื่นซะขนาดนี้"
"ก็ตอนนั้นพี่คิดว่าที่เอริยังมีที่สุกท้ายให้ได้กลับเพราะเราไม่ได้มีอะไรกัน"
"โห!! แมนมากพี่ภพ" แบมประกบมือกันคล้ายท่าไหว้ที่อก

"แล้วสุดท้ายพี่ภพมีอะไรกับเอริไหม" แบมยังอยากรู้
"มี.."
"อ้าว.. แล้วเอริมาอยู่อีกนานป่ะกว่าจะมีอะไรกัน"
"อีกสองวัน"
"โห.. ทุเรศ พี่ภพเล่าซะอย่างเท่เลย เอาคำชมแบมคืนมาเลย"
"นั่นมันอย่างกับนางแบบเกาหลีเลยนะ" ผมพยามเข้าข้างตัวเอง
"นี่ไงหื่น.." แบมประณามผมอีกที

"เดี๋ยวนะ..หื่นตรงไหน" ผมสะดุดใจกับคำว่าหื่นจนไม่ยอมปล่อยผ่าน
"ก็หื่นทุกตรงเลยอ่ะตั้งแต่ออกจากบ้านมาแล้วเนี่ย" จริงๆผมเริ่มหื่นจนทำอะไรหลายอย่างที่ก่อนหน้านี้แค่ฝันอยากเล่นๆแต่ไม่เคยทำมาตั้งแต่แต่งงานกับแบมนี่ล่ะ
"กับแฟนเก่าก็หื่นพี่ภพเพิ่งเล่าอยู่เนี่ย" ยาวล่ะทีนี้..
"ก็ไม่ใช่แฟน เป็นเพื่อนกัน"
"เป็นเพื่อนกันแล้วมีอะไรกันเหรอ ไม่ได้รักด้วยเหรอ" แบมเริ่มเสียงเปลี่ยนเข้ากันกับบรรยากาศเมฆมืดทะมึน
"เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้รัก มีอะไรกันก็เพราะ.."
"สวย.."
"ใช่"
"อย่างกับแบมแบบเนี้ยเหรอ" ผมรู้ตัวแล้วว่าเพิ่งเอามีดสั้นประจำกายฮาราคีรีตัวเอง

ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าจูงมือเร่งแบมให้เดินออกนอกลู่นอกทางที่เธอเคยเดินมาตลอดชีวิตเร็วไปหน่อยจนเธออาจเริ่มเจ็บข้อมือเหนื่อยเกินไปหรือไม่ค่อยคุ้นหวาดกลัวในเส้นทางที่เธอไม่เคยรู้จัก สังเกตุว่าตอนที่เราอยู่ในรถตู้แถวหลังสุดขากลับพอมือผมเริ่มจะเลยเถิดเปิดเปิงลงล่างแบมก็จะห้ามไว้ลองดูใหม่อีกสองสามครั้งก็ต้องต้องหยุดเพราะแบมเหมือนจะงอนนิดๆให้ผมรู้ตัวว่าเริ่มจะขอจากเธอมากเกินจนล้ำเลยเส้นขอบเขตของความเสียวสนุก

"ไม่ถ่ายแล้วใช่ป่ะพี่ภพ ฝนจะลงแล้ว" ฟ้าแลบฟ้าร้องที่เห็นจากระยะไกลกลางทะเลตอนนี้เกือบจะอยู่กลางหัวเราสองคนแล้ว
"ขออีกรูป" ผมเลือกโหมดเป็นถ่ายบุคคลตอนกลางคืนและดันไอเอสโอสุดไว้แล้ว หวังว่าจะได้ภาพแบมสวยๆแบ็คกราวด์แปลกๆอีกสักรูป
"เอาตรงไหนอ่ะพี่ภพ" ลมแรงจนผมแบมปลิวต้องเอามือจับไว้ตลอด
"แบมถอดเสื้อได้ไหม ใส่แต่ชิ้นบนกับกางเกงขาสั้นนี่แหละ" ผมตัดสินใจวัดดวงพูดสิ่งที่จดๆจ้องกล้าๆกลัวๆอยู่นานเพราะแสงตอนนี้สวยจริงๆและคงจะผ่านไปอาจจะตลอดกาล
"นี่ไง หื่น!!" ผมรอลุ้นและยอมรับทุกคำด่า
"ข้างในมันไม่ใช่บิกินี่นะพี่ภพ มันเป็นบรา" ตอนนี้เราต้องเร่งระดับเสียงคุยกันแข่งกับเสียงลม
"ดีเลย.." ผมจีบนิ้วมือท่าโอเคสนับสนุนแบบตาใสๆรีบถอยไปตั้งท่าเตรียมถ่ายกดดันแบม

ได้ผล.. แบมหันซ้ายหันขวาเห็นว่าที่หาดหินด้านล่างไม่มีใครเลยเพราะคงจะเข้าไปหลบฝนในบ้านกันหมดแล้วเธอถอดเสื้อคอกลมแขนกุดลายขวางที่ใส่มาตั้งแต่ออกมาส่งพี่เบียร์ออกเห็นยกทรงตัวจิ๋วสีขาวลายลูกไม้เรียบๆโอบอุ้มเนื้อนมเนียนสวยสองเต้าไว้ ตอนแรกผมบอกแบมว่าจะถ่ายแค่รูปเดียวแต่กดรัวไปเป็นสิบขอให้มีได้ดีๆแค่สักรูปก็พอ แบมยืนตรงสองขาคู่ทิ้งแขนทั้งสองลงข้างลำตัวผมยาวปลิวไปตามทิศทางแรงลมเหมือนกำลังยืนง่วงรอรถเมล์ตอนเช้า

"แบมถอดกางเกงได้ไหม"
"ถอดไม่ได้พี่ภพ" ผมวัดดวงแบบได้คืบจะเอาศอกเลยได้ศอกสมดังหวัง

สิ้นเสียงแบมสายฝนก็กระหน่ำลงมาทันทีเป็นเม็ดแรงๆหนาๆจนรู้สึกเจ็บนิดๆเหมือนกันเพราะโดนแบบต่อเนื่องชุดใหญ่ ผมเก็บกล้องไว้ในเสื้อจูงมือแบมวิ่งเท้าเปล่าโป๊ท่อนบนวิ่งกลับมาตามทางเดินหลายสิบเมตรกว่าจะเข้าชายคาบ้านได้ก็เปียกปอนกันพอสมควรแต่ก็ยังดีที่กล้องดูจะไม่เปียกอะไรเท่าไหร่เพราะฝนตกเฉียงไล่หลังเรามา

ข้าวของที่ผมกับแบมวางไว้ที่พื้นก่อนเดินไปถ่้ายรูปเล่นกันถูกเก็บขึ้นมาวางบนชุดเก้าอี้รับแขกไม้เรียบร้อย ผมกับแบมยืนเปียกมะล่อกมะแล่กกันสักพักเมียของเจ้าทุยก็เอาผ้าขนหนูมาให้เราคนละผืนแบมรีบใส่เสื้อ

"ขอบคุณมากครับ ผมยังไม่ทราบชื่อเลย" ผมรูสึกเกรงใจเมียเจ้าทุยมากที่ต้องมาเก็บข้าวของให้พ้นฝน
"ชื่อลาวัลย์ค่ะ"
"ขอบคุณมากค่ะพี่หนูเกรงใจมากเลย" เสื้อแบมมีรอยยับไปทั้งตัว

ผมสังเกตุเห็นว่าตั้งแต่ใต้คางหูจนลงมาถึงคอของเมียเจ้าทุยเหมือนรอยโดนไฟไหม้เห็นเป็นพังผืดแบมก็คงเห็นแล้วเหมือนกันแต่ดูเธอก็ยังเฉยๆไม่มีปฏิกริยาหรือรู้สึกแปลกแตกต่างอะไรจึงถือโอกาสขนย้ายข้าวของที่ซื้อมาหลายถุงเพราะไม่ได้เตรียมอะไรติดตัวกันมาเลย

"น้องจำพี่ไม่ได้จริงๆเหรอ" เมียเจ้าทุยถามแบมตอนอยู่กันเพียงลำพัง
"เอ่อ.. คิดว่าจำไม่ได้ค่ะ ขนาดบางคนเจอกันทุกวันหนูยังจำไม่ค่อยจะได้เลย" แบมตอบแก้เก้อ เธอกำลังใช้สมองอย่างหนักเพื่อค้นรื้อลิ้นชักค้นหาว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร
"ก็เรานี่แหละเจอกันทุกวัน แต่หลายปีแล้วนะ" พี่ลาวัลย์ยิ้ม
"ลงลิฟท์ด้วยกันทุกวัน" แบมยิ้ม.. ลิฟท์ที่ไหนวะ!!

"แต่จำไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอกตอนนี้พี่หน้าเหมือนผีขนาดนี้"
"พี่แอน!!" แบมนึกอยากจะเอามือขึ้นมาบังหน้าให้เหลือด้านที่ยังดีไว้เพื่อนึกแต่ก็ยังดีที่ไม่ต้องทำขนาดนั้น

พี่แอนสถาปนิกสาวอยู่ห้องตรงข้ามอพาร์ทเม้นท์ที่แบมเช่่าอยู่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยแถวท่าพระจันทร์ แบมเจอกับพี่แอนแทบจะทุกวันเพราะออกจากห้องในเวลาเดียวกัน จากรู้จักแต่หน้าก็เริ่มทักทายเมื่อเจอกันในเวลาและสถานที่อื่นๆ แบมจำได้ว่าพี่แอนสวยรูปร่างดีและแต่งตัวดูดีเหมือนพวกครีเอทีฟหรืออะไรแบบนั้น บางทีก็เจอกันที่สระว่ายน้ำหรือฟิตเนสต์บ้างแบมยังเคยแอบมองรูปร่างแบบนมเป็นนมตูดเป็นตูดของพี่แอนเลย แล้วก็เหมือนจะไม่ได้เจอกันอีกป้าแม่บ้านเล่าให้ฟังว่าพี่แอนโดนสาดน้ำกรดเพราะเรื่องผู้ชายที่มาติดพันหลายคนจนย้ายหายหน้าไป

"ไม่ได้เจอพี่แอนนานหลายปีเลยค่ะ"
"ใช่.. พี่ย้ายกลับมาอยู่บ้านไม่ได้บอกลา ..แต่ก็ดีนะเพราะได้มาเจอกันอีก"
"แบมก็เพิ่งมาอยู่กรุงเทพอีกทีไม่รู้จะยังไงเหมือนกันค่ะ"

ใจผมตอนนี้อยากจะรีบชวนแบมเข้าห้องเพราะสะสมความวอนท์มาทั้งวัน(หมูไม่กลัวน้ำร้อนลวก) คิดถึงช่วงวันแรกๆหลังแต่งงานที่ต้องมาคุมช่างบูรณะบ้านที่กรุงเทะด้วยกันบางวันผมมีอะไรกับแบมถึงสามรอบแต่ทุกครั้งเราก็จะไปมีอะไรในห้องบนเตียงของเรานอนตัวตรงๆมีเสียงแบมครางบ้างเล็กน้อยนานๆที ทุกครั้งเหมือนแบมเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ผมจะเสร็จผมนึกอยากสอดใส่เมื่อไหร่ก็ใส่ถุงยางแบมอ้าขาออกแล้วก็ซอยกระยึกกระยักนกกระจอกไม่ทันกินน้ำจบข่าวแทบทุกครั้งยังดีที่ไม่ถึงกับล่มปากอ่าว

ในเมื่อผมได้ครอบครองนางฟ้าแล้วมันควรจะต้องมีอะไรที่มันดีกว่านี้สิ พิจารณาจากตัวเองผมก็เคยมีแฟนมาแล้วหลายคนหลายชาติภาษาอาการหลั่งเร็วนี้ติดตราตัวเป็นปมด้อยมาตลอดของผมมาตลอดไม่ว่าจะฝึกซ้อมตามข้อมูลในเน็ตแต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้น จนวันที่ผมปล่อยให้น้องเจ้านายแทะกัดกินร่างของแบมจนผมเข้ามารับไม้ต่อเป็นครั้งแรกที่แบมเสร็จก่อนที่ผมจะทำน้ำหกใส่ลูกค้าแบบนั้นสิที่ผมฝัน.. อะไรที่เป็นตัวแปร

"เดี๋ยวทานข้าวด้วยกันนะครับผมซื้อมาเผื่อคุณลาวัลย์ด้วย" ผมเดินเข้ามาสมทบ
"อ๋อ.. แอนวิทยุไปบอกให้พนักงานเค้าตั้งโต้ะทุ่มนึงแล้วค่ะ"
"ฝนตกขนาดนี้อย่าลำบากเลยครับเราตั้งวงทานอะไรง่ายๆด้วยกัน ผมมีไวน์มาขวดนึงด้วย"
"ถ้างั้นคุณแบมกับคุณภพอาบน้ำอาบท่าแล้วเรามาเจอกันหนึ่งทุ่มครึ่งดีไหมคะ เดี๋ยวแอนจัดโต้ะไว้ให้"

ผมเข้ามาในห้องกับแบมดูเวลาแล้วยังพอเหลือให้นอนเล่นกันก่อนได้นิดหน่อย ภายในห้องเป็นพื้นและผนังไม้เหมือนบ้านเก่าในต่างจังหวัดเพราะเจ้าทุยมันรื้อไม้จากบ้านเก่าของพ่อตามาประกอบสร้างใหม่ เราเสียบชาร์ตโทรศัพท์กับที่ชาร์ตที่เพิ่งซื้อมาใหม่ลองเอาไดร์เป่าผมที่ขอยืมเมียเจ้าทุยมาเป่ากล้องถ่ายรูปให้แห้งสนิทแล้วจึงเปิดกล้องดูก็โล่งใจว่าปกติดีลองคอนเน็คกับไอแพดของแบมเพื่อดูภาพ

"สวยดีอ่ะกล้องเนี้ย" แบมชอบรูปที่ถ่ายวันนี้มาก(หายโกรธแล้วมั้ง)
"โหย.. โป๊อ่ะพี่ภพ" สิบรูปสุดท้ายเป็นรูปที่ผมขอให้แบมถอดเสื้อ

แบมใช้สองนิ้วแหวกดูรูปเซ็กซี่เล็กๆของตัวเองขยายเข้าออกเลื่อนดูตรงโน้นตรงนี้ไปเรื่อยคงจะไม่เคยถายรูปวาบหวิวแบบนี้มาก่อน

"ระวังหลุดนะพี่ภพ"
"พี่ว่าคอนเน็กดูภาพอย่างเดียวไม่เซฟลงไปไม่ผ่านไวไฟสาธารณะน่าจะโอเคนะ" 


"เอ่อ.. แล้วแบมรู้จักเมียเพื่อนพี่ด้วยเหรอ" แบมเงยหน้าขึ้นมาจากไอแพดกำลังแต่งรูปที่ไม่โป๊ของตัวเองให้ฟรุ้งฟริ้ง
"ใช่..พี่ภพ พี่เค้าอยู่ห้องตรงข้ามกันกับแบมตอนแบมยังเรียนมหาลัย"
"แต่ก่อนเค้าสวยเลยนะพี่ภพ แล้วอยู่ดีๆพี่เค้าก็หายไปเลยแม่บ้านที่หอเค้าบอกว่าโดนน้ำกรดสาด"
"อืม..เรื่องของเขา"
"บางเรื่องเราก็เป็นเพื่อนรับฟังให้เขาได้แค่นั้น มันคนละกรรมกัน" เหมือนแบมจะสลดนิดๆ

"มาเรื่องของเราดีกว่า พี่ถอดให้" ผมเห็นแบมกำลังหยิบผาเช็ดตัวผืนใหม่ที่เมียเจ้าทุยเตรียมไว้
"ไปเปลี่ยนในห้องน้ำดีกว่าพี่ภพ" หน้าต่างสองบานยังเปิดอยู่โล่งโจ้งมีไอละอองฝนเย็นๆลอยเข้ามา

ผมเดินไปปิดหน้าต่าง ถึงแม้จะมีชายคาฝนไม่สาดแต่คิดว่าเปิดเครื่องปรับอากาศน่าจะดีกว่าปล่อยให้ละอองฝนชื้นๆปลิวเข้ามาแบบนี้แล้วกลับมานั่งบนเตียงทำท่าจะถอดให้เหมือนเดิมแบมเดินเข้ามายืนตรงหน้าเพราะปิดหน้าต่างแล้วก็ไม่มีข้ออ้างแล้ว เริ่มจากเสื้อยืดยับๆของเธอก่อนซึ่งแบมก็ชูสองแขนขึ้นอย่างเป็นใจผมเลยแกล้งดึงเสื้อยืดของเธอขึ้นคลุมหัวแบมไว้สองแขนกอดล็อคตัวเธอจัดการกับตะขอเสื้อชั้นในแล้วซุกหน้าลงจัดการกับสองเต้าขาวเนียนแบบไม่ให้แบมได้ทันตั้งตัวแบมดิ้นหนีได้สักพักผมจึงถอดเสื้อให้เธอจริงๆ

แบมรวบเส้นผมสีดำยาวสลวยของเธอไปด้านหลังให้ผมมองท่อนบนเปลือยเปล่าผิวขาวเนียน หน้าอกขาวของแบมไม่ได้ใหญ่แต่ก็ไม่ใช่เล็กอะไรนักยังมีเนินเนื้อให้ได้บีบเล่นเพลินๆออกไปในทางเหมือนของพวกเด็กมัธยมมากกว่า ผมทั้งดูดทั้งดุนหัวนมแบนบุ๋มจมแข็งสีแดงระเรื่อขยายเท่าปลายนิ้วก้อยจนแบมต้องห่อตัวถอยหนีคล้ายจะเลยจุดของความเสียวไปเพราะโดนสัมผัสรุกเร้ามาตั้งแต่ในห้องลองเสื้อไหนจะบนรถตู้อีก

"ใส่เลยพี่ภพ" แบมบอกผมเหมือนกับที่เคยบอกทุกครั้งแล้วก็ล้มตัวลงไปนอนหงายฆ่าผมด้วยท่าไม้ตาย ผมเองก็จิตหงุดเงี้ยวเขื่อนจะแตกอยู่แล้วขืนใส่ตามคำขอแบบทุกคืนก็เกมส์จบตั้งแต่ยังไม่สองนาทีแรกแน่นนอน แบมหัวเราะนิดหน่อยตอนที่ผมค่อยๆบรรจงถอดกางเกงผ้าสีขาวที่ยังเปียกชื้นจากวิ่งตากฝนกันมา พอรูดซิปกางเกงลงแบมก็เซอไพรส์ผมเพราะไม่ได้ใส่กางเกงชั้นใน

"อ้าว.. แบมไม่ได้ใส่กางเกงในเหรอ" แบมไม่ตอบได้แต่เอาสองมือปิดหน้าหัวเราะคิกคัก
"ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ" ผมถามเสียงสั่น
"ก็ตั้งแต่ที่ร้านในเมืองแล้วพี่ภพ" แบมสารภาพว่าโนแพนท์มาตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน
"พี่ก็นึกว่ามีแต่ไอ้เด็กหัวหยิกกับแฟนมันที่ไม่ใส่ แบมก็ไม่ใส่เหมือนกันเหรอ" ผมวางกางเกงขาสั้นของแบมลงข้างตัวเธอ
"ไม่ใช่แล้วพี่ภพที่แบมไม่ใส่ก็เพราะตอนอยู่ในห้องลองอ่ะแบมกะว่าจะเปลี่ยนใส่ตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาแต่พี่ภพถือถุงแบมออกไปหมดเลยอ่ะ"
"ทีนี้จะเอาตัวเดิมมาใส่อีกก็นะ..ใส่มาทั้งวันทั้งคืนแล้วอ่ะ" แบมอธิบายว่าเธอไม่ได้ฟีลอิสระเสรีชนแบบฝรั่งคู่วัยรุ่นนั้น
"แล้วแบมรู้สึกเป็นไงบ้างอ่ะ" ผมจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองแล้วขึ้นคร่อมสี่ขาอยู่บนตัวนางฟ้าแบม

"ก็ไม่รู้สึกยังไงหรอกพี่ภพแต่ตอนยืนรอรถตู้มันโดนฝนสาดไงแล้วกางเกงมันสีขาวอ่ะ เครียดเลยทีนี้"
"มิน่า.."
"มิน่าอะไรพี่ภพ!!"
"ก็พี่เห็นพวกนางแบบมันมองก้นแบมแล้วซุบซิบกัน" ผมมั่วแกล้งอำแบมเล่น
"มันชี้ด้วย"
"จริงเหรอพี่ภพ!!" 55

ผมมุดลงล่างลิ้มรสคราบความหอมหวานที่คงจะเปียกแฉะมาตลอดทั้งวันแทนคำตอบ ปกติแบมจะห้ามไม่ค่อยอยากให้เลื้อยลงมาชิมรสน้ำหวานจากกลีบเกษรบวมเป่งสีชมพูระเรื่อของเธอในระยะประชิดหน้าแบบนี้เพราะแบมกลัวผมจะเห็นริดสีดวงที่เป็นปัญหาเรื่อรังติดตัวของผู้หญิงหนึ่งในสาม แต่ตอนนี้นอกจากแบมจะไม่ห้ามทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำคล้ายฉลองศรัทธาทั้งรูปรสกลิ่นสีและเสียงให้ผมเธอยังแอ่นเอวขึ้นรับจังหวะเกร็งตวัดลิ้นแต่คงไม่โดนใจแบมคงส่งกระแสจิตให้ผมรู้ว่าวินาทีนี้แค่เกร็งหน้าเกร็งคอเอาไว้นิ่งๆปล่อยให้เธอเคลื่อนไหวส่ายสะโพกซ้ายขวาเอาเองว่าอยากให้ส่วนใดของร่องธารน้ำได้สัมผัสกับวิชาลิ้นหลักศิลาของที่ผมศึกษาฝึกฝนมาจากอินเทอร์เนต

ปกติตอนอยู่ที่บ้านกว่าจะเห็นหน้าอกหน้าใจเห็นน้องสาวสวยไร้ขนของแบมได้ก็ต้องปิดไฟมืดเหลือแต่แสงจากโทรทัศน์ให้เพ่งเอาเองแต่ตอนนี้แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์คู่สองแผงไฟทำให้ในห้องสว่างอย่างกับโต้ะสนุ้ก ผมมองเนินสงวนขาวเนียนโล่งแจ้งเพิ่งสังเกตุเห็นว่าเต่านินจาน้อยๆตอนขยายตัวก็พอจะมีขนบางๆปกคลุมกับเขาบ้างอยู่บ้างเหมือนกันส่วนสองกลีบเนื้ออูมแน่นบดเบียดรอยแยกที่ยังปิดสนิทเพราะที่ผ่านมาผมใช้งาน"น้องอุย"(ผมตั้งชื่อให้..เก๋ดี)แบบซื้อรถพันสองร้อยซีๆคันละล้านกว่ามาวิ่งวินรับจ้างส่งคนในซอย

"พี่ภพปิดไฟก่อน อืมม ซี้ด...อาา ซี้ด " สองนี้แหวกรอยแยกแบมส่ายสะโพกจังหวะสอดคล้องรับกับสัมผัสจากปลายลิ้นที่ตวัดดุนติ่งเนื้อชุ่มฉ่ำด้วยความเร็วระดับเทอร์โบ
"อื้ย.. โอ้ย..โอย ซี้ด.... ตรงนั้นเลยพี่ภพ" แบมสั่งเสียงดังแข่งกับเสียงฝนกระทบหลังคาอยากให้ผมเน้นหน่อย
"ซี๊ด อื้มมมม โอย.. แบมจะเสร็จ พี่ภพใส่เถอะแบมอยากเสร็จกับไอ้นั่น"
"พี่ภพใส่เลย โอย.. ซี็ด ซี้ดดด.. แบมเสียว"

ผมขึ้นไปนอนคร่อมบนตัวแบมเธอจับท่อนเนื้อแข็งพร้อมระเบิดได้ทุกวินาทีจ่อให้ถึงปากถ้ำผมจึงทำหน้าที่ของมนุษย์ชาติดันเข้าไปในตัวของนางฟ้าแบมแล้วซอยถี่ๆตามสัญชาติญาณการแพร่เผ่าพันธุ์

"อู้ยยย อึ้มมม..อือ อื้อ...พี่ภพ อะ อะ อาาาา.. ซี้ดดด.." แบมหยีตาเผยอริมฝีปากอวบอิ่มเหมือนกินของเปรี้ยวสุดๆผมมองเนื้อนมคู่กระเด้งกระดอนไปตามจังหวะความเร็วระดับอัลเลโกร (Allegro)
"โอ้ยยย..พี่ภพ อื้ย.. แบมใกล้แล้ว อีกนิดนะ โอ้ยยย.. ขอแรงๆนะพี่ภพ นะ!! แรงๆ กระแทกเลยพี่ภพ!! แรง!! "

ผมรั้งเอวคอดของแบมไว้ให้มั่นแล้วใส่หมดทุกก๊อกท่องสูตรคูรแม่สิบเจ็ดไปด้วยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองลดระดับความเตลิดเปิดเปิงไปตามสถานการณ์ให้ได้ นางฟ้าแบมให้รางวัลคนขยันด้วยเสียงร้องครวญครางรับคลอเป็นลูกคู่ล้อกันไปแบบไม่ยอมให้หลุดสักประโยค

"โอ้ยย.. อึมมม อึ้มม..อึ้ยย พี่ภพ!!" แบมเรียกชื่อผมเสียงสูงกัดริมฝีปากบนเกร็งตัวเหมือนกำลังแข่งยกน้ำหนักกีฬาโอลิมปิกหลับตาปี๋หน้าตาเหยเกแอ่นสะโพกกระตุกตอดบีบกอดรัดทูตสัมพันธไมตรีตัวน้อยของผมแบบแนบแน่นจนรู้สึกได้ว่าไม่เคยรู้สึกอยากแช่อุ่นๆคานิ่งๆเอาไว้ในตัวของแบมอย่างนี้มาก่อน เมื่อปฏิบัติหน้าที่ส่งแบมให้เสร็จสมอารมณ์หมายแล้วผมจึงอิสระกามิกาเซ่แบบลืมตายได้สักสิบสโตรก(นิวเมติก)ก็พร้อมจะฉีดเชื้อลูกๆเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่อันอบอุ่นในตัวแบม

"พี่ภพ ทิชชู่ๆ!!" แบมเหมือนจะนึกอะไรได้

ผมกับแบมตัวติดกันหลักฐานยังคาที่จอดคลานคู่กระดึบๆค่อยๆขยับเคลื่อนตัวเข้าไปให้ใกล้ม้วนกระดาษทิชชู่จนสามารถเอื้อมมือถึงได้แล้วยังต้องแกะห่อพลาสติกอีก  เราหัวเราะกันเพราะผมยังชักปืนออกมาเก็บไม่ได้จนกว่าแบมจะได้ทิชชู่ไปอุดรูกันไม่ให้น้ำขาวข้นไหลย้อนออกมาตามสเต็ปธรรมเนียมวัตรปฏิบัติดังเช่นทุกครั้งของการประกอบกามกิจก่อนหน้านี้มา(สงสัยจังใครสอน)

"พี่ภพไปอาบน้ำก่อนได้เลยแบมต้องนอนนิ่งๆสิบห้านาที" แบมหันมาบอกผมแล้วหันไปคว้าไอแพดมาเล่นทั้งที่ยังเปลือยเปล่าขาววิ้งท้าแสงนีออนสว่างอย่างกับเซเว่นต้นขาก็หนีบก้อนทิชชู่คาไว้ ผมเลยเดินไปอาบน้ำก่อนเงียบๆ(ตอนแรกอ่านในเน็ตมาเขาว่าเสร็จแล้วให้นอนกอดกัน)

ผมอาบน้ำไปก็มองดูนับถือสไตล์การแต่งห้องน้ำของเจ้าทุยไปจดจำไว้กะว่าจะไปทำที่บ้านบ้างเพราะสีสันการแบ่งพื้นที่ด้วยลวดลายและโทนสีของกระเบื้องมันให้ความรู้สึกลงตัวผ่อนคลายแถมยังมีกระจกบานใหญ่ที่มีม่านบังตาแต่ก็พร้อมจะเปิดออกถ้าอยากจะอาบน้ำไปชมวิวทะเลไป

ออกจากห้องน้ำก็รีบไล่แบมเข้าไปอาบต่อเพราะนึกอยากจะลองดูกล้องวงจรปิดที่บ้านว่าตอนนี้เจ้านุ้ยมันทำอะไรอยู่หรือไม่ขโมยก็ยกเปียโนผมไปแล้ว ลองดูกล้องตามจุดต่างๆภายนอกบ้านก็ปกติดีแต่ว่าอยู่ในบรรยากาศมืดไม่ได้เปิดไฟลองดูกล้องภายในตัวบ้านก็มืดคล้ายไม่มีคนอยู่หรือมันอาจออกไปหาอะไรกินแถวๆนั้น ลองเปิดกล้องที่แอบไว้ในห้องนอนรับแขกเปิดไฟสว่างไว้แต่ไม่มีใครมีแต่กระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กสีสดวางอยู่

ลองดูกล้องที่แอบแล้วลืมไว้ในห้องน้ำก็บิงโกพอดีมีภาพสาวน้อยผอมบางกำลังยืนอาบน้ำพอดีมุมกับที่หันกล้องไว้ ผมดูเธออาบน้ำไปหยิบดูหยิบใช้พวกของของแบมในห้องน้ำแต่ก็ไม่ได้รู้สึกถือโทษโกรธอะไรหายกันไปแล้วกันนะนี่ถ้าไม่ใช่เพิ่งกระหน่ำกับแบมไปผมคงชักว่าวไปด้วยแน่นอนเพราะเธอที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนคนนี้ก็น่ารักรูปร่างดีนมใหญ่

แบมอาบน้ำเสร็จเร็วกว่าที่ผมคิดเปิดประตูออกมาผมปิดโทรศัพท์แทบไม่ทัน

"ทำไมต้องตกใจด้วยอ่ะพี่ภพ" แบมพันผ้าเช็ดตัวสีขาวออกมาเลือกชุดชั้นในจากถุงของห้างสรรพสินค้า
"แอบดูหนังโป๊ชัวร์" แบมดักคอผม
"รู้ได้ไงแบมยังไม่เห็นโทรศัพท์พี่เลย"
"ก็พี่ภพมีพิรุธ" แบมหรี่ตาข้างนึงเหมือนพวกนักสอบสวนจนผมอยากจะดึงผ้าขนหนูให้หายซ่า
"แบมเคยเห็นนะดึกๆอะ ตื่นมาห็นพี่ภพนั่งหน้าคอมดูหนังโป๊" ผมไม่รู้จะแก้ตัวท่าไหน
"แบมก็ไม่ได้ว่านะพี่ภพอยากจะดูก็ดูได้" แบมถือชุดชั้นในเดินเข้าห้องน้ำไป แบมทำให้ผมชักเริ่มงงกับสถานการณ์อีกครั้ง

"แล้วพี่ภพมีอะไรกับแบมแล้วยังดูหนังโป๊ไหวอีกเหรอ" แบมพันผ้าเช็ดตัวออกจากห้องน้ำเห็นสายยกทรงสีดำ
"ไม่ได้ดูทุกวัน บางทีเพื่อนมันส่งมาให้ก็ดู" ผมเด้งเชือกฉากหนีไปเรื่อยๆก่อน
"แบมไม่น่ารักเหมือนพวกสาวญี่ปุ่นแบมก็รู้เนอะ"
"เพราะพี่ภพไม่ได้รักแบมด้วยแหละ" เอาล่ะ.. ไปกันใหญ่แน่นอน ผมข่มอารมณ์ตามสันดานชายเดี่ยวขี้รำคาญเอาไว้ไม่ตอบโต้

"แล้วให้แบมใส่ชุดไหนอ่ะ" เธอถามถึงเซอไพรส์ของผมที่บอกเมื่อกลางวันที่แผนกชุดลำลองสตรีคงไม่อยากต่อความยาวเรื่องรักไม่รักกันอีก
"ชุดนอนเอาถุงนี้" แบมรับไปเอาออกมาดูเป็นชุดนอนแบบเสื้อยืดลายแมวคิตตี้กับกางเกงผ้ายืด(สั้นที่สุดในร้านของกางเกงผ้ายืด)
"โล่งใจ แต่กางเกงแอบสั้น..ทีแรกแบมนึกว่าจะแรงกว่านี้นะเซอไพรส์ของเสี่ยภพเนี่ย" แบมหัวเราะเปลี่ยนให้ดูต่อหน้าผมด้วยทักษะเทพไม่ต้องปลดผ้าเช็ดตัว
"แต่ตอนนอนต้องถอดชุดชั้นในด้วยนะ" ผมกลิ้งไปบนเตียงเล่นยืดเส้นเพราะปวดหลังนิดหน่อย


"โต้ะอาหารตั้งเสร็จแล้วนะคะคุณภพน้องแบม" เมียเจ้าทุยมาร้องเรียกอยู่ที่ทางเดินหน้าห้อง
     

sthanya


xonly-1092

กำลังติดตาม ขอบคุณครับ .............. ::KO::

peddo

ต้องบอกว่าโคตรชอบเลยครับเรื่องนี้ ดูจริงใจดี (หรือเปล่า) น่ารักทุกตัวละคร แม้แต่ไอ้เด็กแสบ ขอบคุณมากครับ

sunnie06

สนุกมาก อ่านเพลินเลย

mongk

อุตส่าห์หนีมาซะไกลบ้าน กลับมาเจอคนรู้จักกันอีก
โลกมันกลมจริงๆ

sixdevil7

งานนี้มาไกลจัดตลอดทางขอบใจมากครับ

sofee

ขอบคุณครับ สนุกมากครับ

finex


err

นารักน่าลุ้นชอบแบมมากเลย

swss2511

อาจได้สองสาวสมใจพี่ภพ

kabyala

ยังอ่านไม่จบตอนครับพอดีมางานต้องปิดเครื่องขออภัยนะครับ เดียวกลับมาอ่านต่อแล้วจะรีพรายใหม่ ขอบคุณมากครับ

thep59

ต้องบอกว่าสนุกมาก ขอบคุณมากครับที่นำมาแบ่งปัน

vihok

แต่งได้น่าอ่านมาก ขอบใจครับ

review1972

อ่านซะเพลินไปเลย ขอบคุณจริงๆครับ