จนถึงวันแต่งงานของต้องกับขิม ในช่วงเช้าที่บ้านของต่อ ก่อนขันหมากจะมา พิมที่กำลังตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านอีกครั้งกับแม่บ้าน แล้วมองไปรอบๆบ้านที่ตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงามไปเกือบทุกที่
“ดอกไม้สวยจังเลยน้าขวัญ”
“ใช่คะไม่น่าเชื่อนึกว่าจะแต่งเฉพาะซุ้ม นี่คุณแม่คุณแม็กทำให้เกินคาดจริงๆจัดซะรอบบ้านเลย”
พิมยิ้มแล้วนึกถึงเมื่อคืนวาน ที่แม่ของแม็กมาคุมการแต่งดอกไม้ด้วยตัวเองกว่าจะเสร็จก็ดึก และพอมาตอนเช้าทุกคนถึงกับตะลึงกับความสวยเพราะความมืดของเมื่อคืนทำให้เห็นไม่ชัด แต่มีเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน พิมเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนที่จะร้องเรียกสามี
“ต่อๆๆไปหน้าบ้านเร็ว”
พิมพูดพร้อมวิ่งไปรับแขกที่กำลังเดินผ่านประตูรั้วเข้ามา คือพ่อและแม่ของแม็กกับหญิงชราที่อยู่ในชุดกิโมโน ที่พ่อของแม็กเป็นคนประคองเข้ามา พิมยกมือไหว้พ่อกับแม่ของเพื่อนก่อนเข้าไปกอดหญิงชราพร้อมหอมแก้มทั้ง 2ข้าง
“โอบาซัง(คุณยาย)มาถึงเมื่อไหร่คะ”
ก่อนที่หญิงชราจะตอบคำถามอะไร ต่อก็เข้ามาทำแบบเดียวกับภรรยารวมถึงแตนที่ส่งเสียงดังมาล่วงหน้า กอดรัดหญิงชราไม่ปล่อย
“มาถึงเมื่อวานตอนเช้าจ๊ะ”
เสียงพูดภาษาไทยที่ออกจากปากอย่างชัดเจนพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่นก่อนที่พ่อกับแม่ของต่อพร้อมหลานชายตัวน้อยจะเดินเข้ามารับ พร้อมกันนั้นแม็กที่เอารถไปจอดหน้าบ้านเดินตามเข้ามา
“ไปไหว้คุณทวดก่อนตาล”
ต่อบอกกับลูกชาย เด็กชายเดินแบบกลัวๆกล้าๆเข้าไปหาร่างที่อยู่ในชุดกิโมโน ก่อนยกมือไหว้ หญิงชราก้มลงไปกอดแล้วพูดขึ้นมาว่า
“ไม่เจอเกือบ 2ปีแล้วสินะ โตขึ้นมาก”
ต่อกับแตนช่วยประคองคุณยายของแม็กเข้าไปในบ้านระหว่างที่ผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวต่างทักทายกัน แม็กเหลือบตามองหาใครบางคน แล้วเห็นร่างงามของคนที่มองหายืนอยู่ตรงระเบียงชั้นบนที่มองลงมาเช่นกัน ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน ก่อนที่แม็กจะเดินตามเข้าไป
“คุณแม่ไม่ยอมบอกว่าคุณยายมา”
พิมหันไปต่อว่าแม่ของแม็ก
“อ้าวบอกก็ไม่เซอร์ไพส์สิ จริงๆแล้วแม่ลืม มัวแต่ยุ่งๆกับเรื่องจัดดอกไม้นะ พ่อไปรับคุณยายที่สนามบินเมื่อวานตอนเช้า พอถึงบ้านก็ให้คุณยายพัก แม่ก็วุ่นเรื่องจัดดอกไม้นี่แหละ เลยลืม”
แม็กพูดขึ้นมาทันที
“กลับไปบ้านก็ยังบ่นไม่เลิก ไม่ถูกใจติดตรงนั้นตรงนี้ สงสัยงานนี้มีคนโดนตัดเงินเดือนแน่นอน”
“โธ่คุณแม่สวยจะตาย เมื่อเช้าตื่นมายายแตนกรี๊ดลั่นบ้านนึกไม่ถึงว่าจะสวยขนาดนี้ คว้ากล้องแถมลากพี่ชายมาให้ถ่ายรูปแทบทุกมุม”
“แล้วเจ้าสาวอยู่ข้างบนละซิ”
“คะแม่ ไปนั่งก่อนดีกว่าคะ”
แล้วแม็กถามพิมไปว่าใครกั้นประตูด่านสุดท้ายคำตอบคือ พิมกับแตน ส่วนเพื่อนเจ้าสาวตอนรดน้ำจะเป็นนัน พร้อมทิ้งสายตามาที่เพื่อนแต่แม็กเฉไฉไปถามเรื่องบิงโก พิมบอกว่าอยู่ในกรงหลังบ้านแล้วกำลังเพลินกับตุ๊กตาตัวใหม่ที่แตนซื้อมาให้พร้อมตัวเก่าที่แม็กซื้อมาให้จากญี่ปุ่นแม็กพยักหน้าเพราะรู้ว่าบิงโกกลัวเสียงประทัดกับฟ้าร้อง ต่อเดินมาฝากหลานไว้ที่แม็กเพราะทั้งครอบครัวเตรียมรับขันหมาก ซึ่งไม่มีปัญหา แม็กรับมาด้วยความเต็มใจ หญิงชราหันมาเล่นกับตาลจนทำเด็กชายหายประหม่าและกล้าพูดมากกับคุณยายของแม็กมากขึ้น จนขบวนขันหมากมา แม็กบอกกับหลานชายว่า
“ตาลครับเอามืออุดหู”
เด็กชายทำตามทันที พร้อมกับแม็กเอามือไปปิดที่หูของหลานชายด้วย เนื่องจากเสียงประทัดที่ดัง ช่วงกั้นประตูเงินประตูทอง แม็กไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย มัวแต่ดูแลหลานและเดินไปปลอบบิงโกที่นอนตัวสั่นอยู่ในกรงก่อนที่จะมาคุยกับพ่อแม่ของพิมที่กำลังคุยกับคุณยายของแม็กอยู่ ผ่านมาจนถึงพิธีหมั้นและรดน้ำสังข์ สายตาของแม็กมองไปที่เพื่อนเจ้าสาวที่อยู่ในชุดไทยจิตรลดาสีขาวเกือบตลอดเวลา แล้วแม่กับคุณยายแอบกระซิบถามว่าแม็กว่าเพื่อนเจ้าสาวคือใครสวยมากๆแม็กบอกไปว่า เป็นเพื่อนของต้อง แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประทับใจที่สุดคือตอนที่คุณยายของแม็กเดินเข้าไปรดน้ำต่อเป็นคนพาเดินประคองไป ทำให้แขกหลายๆคนถามว่าผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้นเป็นใคร ผ่านไปถึงช่วงเลี้ยงอาหาร แม็กที่อุ้มตาลอยู่ด้วยเห็นแตนกับพิมคุยกับนันอยู่เหมือนจะรั้งตัวไว้ แต่นันปฏิเสธก่อนที่จะเดินมาทางแม็ก ทั้งสองสบตากัน นันยิ้มให้ก่อนจะบอกว่า
“นันจะไปโรงแรมดูสถานที่ก่อนคะพี่ เลยอยู่กินข้าวด้วยไม่ได้แล้วเย็นนี้เจอกันนะคะ”
แล้วหันมาบอกตาลที่แม็กอุ้มอยู่ว่า
“เย็นนี้แต่งตัวหล่อๆนะครับ”
แม็กไม่ตอบอะไรแต่พยักหน้ารับรู้ เพราะรู้สึกว่าจะมีสายตาหลายคู่จับจ้องอยู่ นันเดินออกไปแม็กไม่กล้ามองตามก่อนมองไปที่เพื่อนและน้องสาวเพื่อนที่มองมาตลอด แม็กเลยเดินไปอีกทางเพราะไม่อยากให้มีพิรุธมากนัก แน่ละทั้งพิมกับแตนที่มองมานั้นมันคนละความรู้สึก คนหนึ่งจะดูว่าเพื่อนจะมีอาการอย่างไร อีกคนมองด้วยความรู้สึกปวดใจ แม็กเดินไปที่โต๊ะอาหารที่จัดเตรียมไว้บริเวณลานบ้าน พ่อของต่อกวักมือเรียกแม็กนั่งลงข้างๆคุณยายที่โต๊ะมีพ่อกับแม่ของแม็กนั่งอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะพูดะไร เจ้าสาวได้พาเจ้าบ่าวมาที่โต๊ะก่อนที่จะก้มลงไปกราบที่ตักของคุณยายแล้วกอดพร้อมเรียกเจ้าบ่าวให้มากราบด้วย แล้วแนะนำให้รู้จักกับขิม
“คุณยายมาไม่บอกล่วงหน้าเลยคะ”
หญิงชรายิ้มแทนคำตอบซึ่งพ่อของแม็กตอบแทนมาว่า
“พ่อกับแม่รู้ก่อนคุณยายจะบิน 6ช.ม.เอง แถมมาคนเดียวซะด้วย”
คุณยายบอกมาว่า พอรู้ว่าต้องจะแต่งานก็ตั้งใจจะมา แต่อยากมาคนเดียวไม่ต้องการให้เป็นภาระใคร แล้วรู้ว่าตัวเองแข็งแรงดีก็ซื้อตั๋วเครื่องบินมา เจ้าสาวไม่ตอบอะไร ได้แต่กอดหญิงชราไว้แน่นด้วยความซาบซึ้ง เพราะรู้ว่าคุณยายให้เกียรติเธอมากที่แต่งชุดกิโมโนมาในงานนี้ จนแตนเดินมาที่โต๊ะแล้วถามว่าคุณยายจะไปร่วมงานคืนนี้หรือ หญิงชราปฏิเสธเพราะกลัวร่างกายไม่ไหว คุณแม่ของแม็กบอกว่าเมื่อเช้าคุณยายตื่นมาตั้งแต่ตี 3 เพื่อเตรียมแต่งชุดกิโมโนโดยเฉพาะ จนเด็กชายที่ตอนนี้ย้ายมานั่งตักของคุณแม่แม็กแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า
“ชุดของคุณทวดสวยจังครับ”
ทำให้ทุกคนในโต๊ะมีรอยยิ้มขึ้นมา ส่วนแตนเดินไปที่โต๊ะที่เพื่อนของต้องที่มีเพื่อนผู้หญิงนั่งอยู่หลายคน
“พี่แตนคนนั้นใครนะ”
“อ๋อ คุณยายของเพื่อนพี่ต่อนะ”
“ไม่ใช่ ผู้ชายที่สูงๆขาวๆปากแดงๆนะ”
“เพื่อนพี่ต่อ”
“หล่ออะ มีแฟนหรือยัง”
แม้เป็นคำพูดเล่นๆแต่ก็ไปสะกิดโดนกลางหัวใจของแตน แต่เธอก็แกล้งทำเป็นหัวเราะก่อนบอกว่า
“ไปถามเอาเอง”
“ไม่กล้านะพี่ หน้าดุมากเลย เมื่อกี้อุ้มหลานพี่เดินผ่าน พวกหนูทำท่าจะแซว แค่มองมาด้วยหางตา พวกหนูไม่กล้าเลย”
แตนยิ้มแล้วนึกได้ว่า เจอกำแพงของพี่แม็กเข้าไปแล้วสินะถ้าแม็กไม่สนก็ไม่สนจริงๆต่อให้สวยขนาดไหน ดีที่เธอเป็นน้องของเพื่อนรัก แม็กเลยไม่ทำแบบนี้กับเธอหรือเพราะเจ้าตัวไม่เคยรู้ว่าแตนนั้นมีใจให้ พอทานอาหารเสร็จ แม็กที่กำลังเดินไปที่รถเพื่อมารับผู้ใหญ่ ต่อเดินตามด้วยพร้อมบอกว่าอยากให้มางานช่วงเย็นเร็วๆจะได้มาช่วยตรวจความเรียบร้อย แม็กพยักหน้าก่อนเดินไปที่รถ จนถึงช่วงเย็นระหว่างที่เจ้าสาวยังแต่งตัวอยู่นั้น ต่อกับแม็กช่วยกันเดินดูความเรียบร้อยของห้องจัดเลี้ยง นันที่กำลังดูการเทสเครื่องเสียงอยู่ได้เดินเข้ามาหาทั้งคู่
“อ้าวยังไม่เปลี่ยนชุด”
แม็กถามเพราะเห็นหญิงสาวอยู๋ในชุดกางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ต
“แป็บนึงคะพี่ นันตรวจงานอีกนิดนึงจวนจะเสร็จแล้ว”
ก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า
“พี่แม็ก เมื่อเช้าดอกไม้สวยมากเลยเกินความคาดหมาย บ้านพี่ต่อหอมฟุ้งไปทั่ว และที่สำคัญคุณยายพี่แม็กน่ารักมากเลยคะ เพื่อนของนันชมกันเป็นแถว”
“ก็ออกมาก่อนนี่เลยไม่ได้แนะนำให้รู้จัก”
ต่อปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันส่วนตัวเองเดินไปดูทางอื่นก่อนที่แม็กจะเดินไปเป็นเพื่อนหญิงสาวที่รถเพื่อจะไปเอาชุดมาเปลี่ยน แต่หารู้ไม่ว่า ลูกน้องของนันที่มาทำงานต่างซุบซิบกันถึงหน้าตาของแม็กและที่เจ้านายตัวเองดูเหมือนจะให้ความสนิทเป็นพิเศษ แม็กเดินพาหญิงสาวมาส่งที่ลิฟท์ก่อนที่เธอจะขึ้นไปชั้นบนของโรงแรม แม็กส่งยิ้มให้ก่อนที่ลิฟท์จะปิด นันเผลอตัวทำจมูกย่นให้แม็ก พอรู้ตัวหญิงนั้นรู้สึกอายกว่าทุกครั้งพร้อมกับความคิด
“บ้าเราทำอะไรลงไปนี่”
ซึ่งตรงข้ามกับคนที่ถูกย่นหน้าใส่ที่ยิ้มออกมาด้วยความพอใจในสิ่งที่หญิงสาวเผลอตัวทำออกมาให้เห็นงานฉลองงานแต่งผ่านไปด้วยดีและแม็กตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายๆคนจนพิมที่เดินผ่านเพื่อนกลุ่มสนิทของแตนที่ไม่ได้มางานตอนเช้าได้ทักพิมว่า
“พี่พิมขาพวกหนูขอลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยพี่แล้วนะคะ”
“อ้าวทำไมละ”
พิมรับมุขเพราะเพื่อนของแตนกลุ่มนี้เคยแหย่ว่าจะมาเป็นผู้ช่วยภรรยาให้กับพิม
“พี่ยังต้องการคนช่วยเลี้ยงน้องตาลอยู่นะ พี่เลี้ยงแทบไม่ไหวแล้วซนขึ้นทุกวัน”
“จริงๆ พี่ต่อก็หล่อนนะคะ แต่หนุ่มคนนั้นที่ผิวขาวที่เป็นเพื่อนพี่กับพี่ต่อนะคะ ทำเอาพวกหนูใจระทวยกันไปหมดแล้ว”
“คิวยาวนะ ไหนๆจะสาวๆในกองทัพบก ไม่รวมหมอสาวๆและพยาบาลที่โรงพยาบาลพี่อีก ไหวหรือ”
“พวกหนูยอมคะพี่”
และก็ตามด้วยเสียงหัวเราะชอบใจก่อนที่พิมจะเดินออกมา ส่วนนันนั้นหลังจากที่เธอเปลี่ยนชุดเสร็จเธอปล่อยให้การควบคุมงานทั้งหมดให้ผู้ช่วยของเธอเป็นคนดูแล จนเธอเดินมาถามกับผู้ช่วยที่เป็นหญิงในร่างของผู้ชาย
“ดีดี้เป็นยังไงมั่ง”
“เรียบร้อยฮะบอส ไม่มีผิดแผน แต่เอ บอสผู้ชายคนที่ใส่สูทสีเข้มนะใคร ทั้งหล่อทั้งขาวเป็กดีดี้เลยฮะ ต๊าย เดินมาพอดี”
“งั้นเดี๋ยวแนะนำให้รู้จักนะ”
นันบอกลูกน้อง แต่พอแนะนำให้รู้จัก แม็กแค่ผงกหัวเล็กน้อยรับ และดีดี้รู้ทันทีว่าไม่ใช่คนที่จะมาพูดเล่นด้วยเพราะสายตาที่เฉียบขาดดุดันมองมา สายตาแบบนี้ทำให้หญิงสาวหลายๆคนไม่กล้าที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับแม็ก ก่อนที่แม็กจะขอตัวเดินไปหาพ่อกับแม่ของพิม นันได้เห็นสายตาแบบนั้นแล้วย้อนนึกไปถึงคำพูดของต่อที่ว่าแม็กมีกำแพงกั้นไว้หลายชั้น มันคือแบบนี่นี้เองและแม็กไม่เคยใช้สายตาแบบนี้กับเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ทำเอาเธอรู้สึกปลื้มใจ ทั้งคู่เดินมาเจอกันอีก คราวนี้นันถามถึงเรื่องการจัดดอกไม้อีกครั้ง เพราะว่าเธอเห็นฝีมือในการจัดเธออยากจะขอไปคุยกับคุณแม่ของแม็ก นันจะได้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการนำเสนอลูกค้าถ้าคุณแม่ของแม็กสนใจจะร่วมด้วย ก่อนที่เธอจะบอกว่า
“นัน อยากจะรบกวนขอเบอร์คุณแม่พี่หน่อยนะคะ นันจะได้คุยกับท่านโดยตรง และอยากให้พี่ช่วยเกริ่นนำให้ก่อน”
“ขอทำไม ไปคุยกันเลยดีกว่าแต่อยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้ “
“ไว้หลังงานเลิกก่อนก็ได้คะพี่ นันไม่อยากรบกวน
“งั้นก็ได้ แต่ห้ามถามเรื่องดอกไม้เมื่อเช้าว่าเท่าไหร่นะ บ้านต่อพยายามถามแม่พี่ก็ไม่บอกและกำชับมาที่พี่ด้วย เพราะทำให้เป็นของขวัญวันแต่งาน"
“นันก็ไม่กล้าถามคะ แต่เห็นฝีมือแล้วยอมรับว่าสุดยอด”
“งั้นพี่จัดการให้ หรือวันหน้าไปกินข้าวที่บ้านพี่ก็ได้จะได้รู้จักคุณยายด้วย คุณยายอยู่อีกหลายวัน เมื่อเช้าทั้งแม่ทั้งคุณยายก็ชมนันให้พี่ฟัง”
เจอแบบนี้เข้าไปหญิงสาวได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร ที่นึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะชวนเธอไปที่บ้านแบบตรงๆไม่อ้อมค้อมแถมแม็กยังพูดอีกว่า
“ไม่อยากรู้หรือว่าบอกว่าอะไร”
นันทำอะไรไม่ถูกก่อนที่จะบอกไปว่า
“นันขอตัวก่อนนะคะ จะไปหาเพื่อนๆก่อน”
แล้วเดินหนีออกมาด้วยความเขินอายโดยมีสายตาของนายทหารหนุ่มมองตาม แต่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่ามีสายตาอีกคู่หนึ่งที่แอบมองมาด้วยความรู้ที่สูญสิ้นไปหมดแล้วทุกอย่างของเจ้าของสายตา แตนได้แต่ทำหน้าชื่นอกตรม เธอมั่นใจแล้วว่าแม็กนั้น ชอบนันจริงๆ ดูได้จากการแสดงออกหลายๆอย่างในวันนี้ เพื่อนของเธอกับของต้องหลายคน รู้สึกกลัวแม็กขึ้นมาผิดกับนันที่เข้าถึงตัวแม็กได้ง่ายโดยที่แม็กเป็นคนเปิดประตูให้เข้ามาในกำแพงเอง แม็กมองตามร่างงานนั้นเดินหายไปในกลุ่มเพื่อน ก่อนที่พิมที่เดินมาอีกทางหนึ่งถามว่า
“แม็กเห็นตาลหรือเปล่า เมื่อกี้ฉันเห็นวิ่งเล่นอยู่หน้าเวที”
“เจอเพื่อนเยอะมั้ง ไม่ต้องห่วงชั้นเห็นคุณยายอุ้มหลานไปอวดกับเพื่อนๆแล้ว”
“อยู่กับแม่ชั้นตรงไหนละ”
แม็กชี้ไปก่อนที่พิมจะหันมาบ่นกับแม็กแล้วเดินไปตามที่ชี้บอก
“ไม่ดูหลานเลย มัวแต่เดินโปรยเสน่ห์ไปทั่ว ระวังเหอะอีกคนก็มีผู้ชายจ้องตาเป็นมันหลายคนแล้วนะ ถ้าไม่ดูแลดีๆหลุดมือไปชั้นไม่รู้ด้วยนะ”
“อะไรของมันวะ แทนที่จะไปบ่นไอ้ต่อเรื่องลูกดันมาบ่นเรา กรรม”
แม็กบ่นพึมพำตามหลังเพื่อนที่เดินไปตามหาลูกชายจนงานเลิก หลังจากแขกที่ทยอยกลับจวนจะหมดแล้ว แม็กที่อุ้มหลานชายที่หลับไปด้วยความอ่อนเพลียไปส่งให้กับผู้เป็นแม่หลังจากช่วยส่งแขก แล้วมองไปรอบๆเพื่อหาใครบางคนและพบว่ากำลังยืนคุยกับทีมงานที่มา ก่อนที่นันจะเดินมาพอเห็นสายตาของชายหนุ่มที่มองเธอเลยเดินเข้าไปหา
“เหนื่อยไหม”
“ไม่คะพี่ งานนี้นันให้น้องๆเป็นคนลงมือ คะ แล้วพ่อกับแม่พี่ละคะ”
“กลับไปเมื่อกี้ เรื่องที่บอกไว้คุยคราวหน้านะ”
“ไม่รีบคะพี่ นันรอได้”
“จะกลับหรือยัง พี่จะเดินไปส่งที่รถ”
หญิงสาวพยักหน้ารับ ทั้งคู่เดินไปลาญาติผู้ใหญ่พร้อมคู่บ่าวสาว ต้องหอมแก้มเพื่อนทั้งสองข้างพร้อมขอบคุณที่จัดงานแต่งของเธอออกมาได้ดี ก่อนจะเข้าไปกราบที่อกของแม็กและกอดพร้อมขอบคุณเรื่องดอกไม้งานตอนเช้าและของขวัญวันแต่งงานที่ครอบครัวแม็กมอบให้ ก่อนกระซิบข้างหูแม็กว่า ให้ดูแลเพื่อนเธอดีๆ แม็กยิ้มรับก่อนหันไปมองหน้าพิมกับต่อที่ยิ้มมาให้แต่แล้วต่อเมือจะนึกอะไรได้เลยหันไปคว้ากล้องที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วบอกมาว่า
“นี่ 2 คนนี้วันนี้ยังไม่ได้ถ่ายรูปคู่กันเลยมาถ่ายให้”
แล้วพิมกับต้องก็ช่วยเข้าไปจัดท่าทางต่อบันทึกภาพจนพอใจก่อนที่แม็กจะพาหญิงสาวเดินไปทั้งหมดมองตามทั้งคู่ที่เดินจากไป โดยไม่มีใครสังเกตว่าลูกสาวคนกลางของครอบครัวมองตามไปด้วยสายตาที่ขมขื่นรันทด